แชร์

บทที่ 0129

ผู้เขียน: อี้เสี่ยวเหวิน
หลังจากหลินจืออี้หนีไปแล้ว ก็ไม่กล้าพักที่โรงแรมใกล้โรงเรียน ตั้งใจจะไปโรงแรมที่ใกล้กับสตูดิโอโดยตรง

ก่อนขึ้นรถ เธอหันไปมองที่สี่แยก

รถหรูคันหนึ่งหยุดลง กงเฉินสวมชุดสีดําเดินออกมาจากสี่แยกและขึ้นรถ

ทันใดนั้น หน้าต่างรถก็เผยให้เห็นร่องเล็กๆ ดวงตาสีดําคู่หนึ่งมองหลินจืออี้ ในความมืดมิด

ยามค่ำคืน แววอันตรายฉายคมในดวงตา

เหมือนจะบอกว่าเธอหนีไม่รอดหรอก

หลินจืออี้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ขึ้นรถจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมา

อีกด้านหนึ่ง

เฉินจิ่นก็ขึ้นรถไปด้วย

“คุณชายสาม คุณหนูหลินได้แจ้งความว่าคนเหล่านั้นเมาแล้วขับ และยังแจ้งชื่อเสิ่นเยียนด้วยครับ”

กงเฉินนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ค่อยๆ หมุนแหวนและเลิกคิ้วขึ้น

“ตอนนี้ฉลาดแล้วนี่ ถ้านิสัยเดิมล่ะก็ ใครๆ ก็เหยียบเธอได้”

“เธอคนนี้... เหมาะจะนําไปซุกซ่อนไว้”

เฉินจิ่นขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “คุณชายสาม คุณหนูหลินนั่นใช่...”

“หืม?” กงเฉินตัดบทอย่างเยือกเย็น

เฉินจิ่นรู้ตัวว่าตัวเองพูดมากเกินไปแล้ว จึงก้มหน้าเปลี่ยนเรื่องคุย “ประธานอวี๋นัดคุณไปพบที่รีสอร์ทฉาฮัวพรุ่งนี้”

“รุ้แล้ว”

……

หลินจืออี้ตื่นแต่เช้ามาถึงสตูดิโอ เธอไม่อยากพลาดเรื่องสนุก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0130

    ในเวลานี้ซ่งหว่านชิวมาแล้ว พอถามถึงสิ่งที่ผ่านมา เธอก็ขมวดคิ้ว กวาดตามองเสิ่นเยียนด้วยสีหน้าไม่พอใจไอ้โง่ เรื่องแค่นี้ก็ทำให้บานปลายขึ้นมาได้หลินจืออี้เห็นว่าคนมากันครบแล้ว ก็ควรจบได้แล้วเธอเลียนแบบน้ำเสียงของเสิ่นเยียน พูดด้วยน้ำเสียงหวังดี “เสิ่นเยียน เธอรีบขอโทษเถอะ ก่อเรื่องใหญ่แบบนี้มันแย่ต่อเธอและสตูดิโอด้วยนะ ถึงยังไงเธอก็ไปกินข้าวและดื่มเหล้ากับคนอื่นจริงๆ คุณว่าถูกไหมคะ คุณซ่ง?”หลินจืออี้โยนคําถามให้ซ่งหว่านชิวโดยตรงในชาติที่แล้ว พวกเธอสองคนได้ใส่ร้ายหลินจืออี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งครั้งนี้ก็ให้พวกเธอได้ชิมรสชาตินี้ด้วยตัวเองทุกคนมองไปที่ซ่งหว่านชิว เธอเป็นคู่หมั้นของกงเฉิน คําพูดย่อมมีน้ำหนักซ่งหว่านชิวกลัวจะโดนลากลงน้าไปด้วย จึงไม่กล้าช่วยเสิ่นเยียนพูดเลยสักคําเธอยิ้มอย่างอ่อนโยน “เสิ่นเยียน ยังไม่รีบขอโทษอีก ในฐานะผู้หญิง ต่อไปอย่าทําตัวตามง่ายๆ แบบนี้อีกนะ”เสิ่นเยียนฟังแล้วก็มองซ่งหว่านชิวอย่างไม่อยากเชื่อ ใบหน้าแดงก่ำด้วยบาดแผล ยิ่งดูยิ่งดุร้ายซ่งหว่านชิวกวาดตามองเธอเหมือนตักเตือนเสิ่นเยียนได้แต่กําหมัดอย่างอัปยศ ก้มศีรษะให้หญิงสาว “ขอโทษค่ะ ค

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0131

    เพียะ เพียะเสียงตบดังกังวาน ทําให้มุมปากของเสิ่นเยียนมีเลือดซึมออกมาทันทีซ่งหว่านชิวบีบคอเธอแล้วพูดว่า "เรื่องแค่นี้ก็ทําไม่ได้ ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้ สิ่งที่ฉันให้แกไปมันล้วนให้แกฟรีแล้ว! ถ้าไม่มีฉัน แกจะมาเหยียบตึกนี้ได้หรือไง?""เสิ่นเยียน ในเมื่อเลือกที่จะเป็นหมาแล้ว ก็ตั้งใจทำหน้าที่ของแกให้ดีซะ"พูดจบ ซ่งหว่านชิวก็เขวี้ยงร่างของเสิ่นเยียนไปอีกด้านราวกับจะระบายอารมณ์เสิ่นเยียนเพิ่งถูกผู้หญิงคนนั้นสั่งสอนมา เดิมก็รู้สึกหมดแรงอยู่แล้ว พอโดนชนกําแพงก็ทรุดลงไปกองกับพื้นทันทีซ่งหว่านชิวเดินมาตรงหน้าเธอ แล้วยกปลายรองเท้ารองเท้าส้นสูงที่ทําจากหนังแกะที่แหลมเล็กกดลงบนใบหน้าของเธอ"บ่ายนี้เราจะไปพบประธานอวี๋ที่รีสอร์ทฉาฮัว ฉันจะหาข้ออ้างพาแกไปด้วย แกไปหาวิธีที่จะทําให้ประธานอวี๋เกลียดมัน เข้าใจไหม?""เข้าใจแล้ว"เสิ่นเยียนกัดฟันพยักหน้าซ่งหว่านชิวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโอนเงินสองแสนห้าให้เสิ่นเยียน"เดี๋ยวจะหาว่าฉันไม่ดีกับแก เอาเงินไปรักษาหน้าแกซะ ดูน่าขยะแขยงจริงๆ"หลังจากดูถูกดูแคลนอีกฝ่าย เธอก็หันหลังเดินออกไปเสิ่นเยียนเกาะกําแพงค่อยๆ ลุกขึ้น เมื่อมองดูรายการโอน

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0132

    โดยเฉพาะคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามหลินจืออี้ก็คือกงเฉินขาทั้งสองข้างของเขาไขว้กัน นิ้วชี้เรียวยาววางอยู่บนหน้าผาก จ้องเธอด้วยความสนใจหลินจืออี้รีบก้มหน้าไปหาปุ่มบนที่นั่งทันที อยากจะหันเก้าอี้ไปยังที่นั่งคนขับสุดท้ายกลับถูกกดให้นวด เสียงหึ่งๆ ดังเต็มตู้รถ จนเธออายมากในขณะที่เธอกําลังมองหาปุ่มกดอย่างตื่นตระหนก มือคู่หนึ่งก็วางอยู่บนราวจับของที่นั่งเธออย่างสบายๆ และร่างกายก็เอนเอียงไปทางเธอเล็กน้อยลมหายใจที่เย็นสบายรดลงมา เธอถอยกลับทันที หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ของผู้ชายแต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะสบตาเขาได้สายตาของทั้งสองประสานกัน เธอรีบถอนสายตาออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนเขาเพียงหลุบตาลงเล็กน้อย ก่อนจะกดปุ่มบนราวจับเก้าอี้สุดท้าย..."เสียแล้ว" กงเฉินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ"..."หลินจืออี้เงยหน้าขึ้น แพขนตายาวของเธอเลิกขึ้นเล็กน้อย มองเขาอย่างงุนงง แม้แต่สายตาโกหกยังคร้านที่จะปิดบังแต่เมื่อเธอมองไปที่หน้าจอสีดํา เธอก็ทําได้แค่กําหมัดและหันหน้าไปกงเฉินกลับไปนั่งที่เดิม ไม่ได้มองเธอแล้ว เขาหันหน้ามองทิวทัศน์นอกรถ ตาเป็นประกายเล็กน้อยในขณะที่หลินจืออี้กําลังจนใจ ซ่งหว่านชิวที่อ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0133

    เมื่อเท้าถูกสัมผัส หลินจืออี้ที่ยกถ้วยน้ำชาก็ชะงักไปเล็กน้อยพอก้มลงมองก็เห็นรองเท้าหนังผู้ชายที่ติดกับรองเท้าส้นสูงของเธอ เท้าของเธอเป็นไซส์มาตรฐานทั่วๆ ไป ขนาดเบอร์ 37 ไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่ในเวลานี้พอมีตัวเปรียบเทียบ รองเท้าหนังแมตต์ขนาดเล็กที่เท้าของเธอมันดูเหมือนของเล่นเมื่ออยู่ข้างเท้าผู้ชายมองขึ้นตามรองเท้าหนังผู้ชาย ก็พบขาเรียวยาวถูกห่อด้วยกางเกงสีดําสนิท ตามรอยพับที่ประณีต เผยให้เห็นความเย้ายวนบางอย่างหลินจืออี้ไม่ได้มองมาก เดาว่าอาจจะบังเอิญไปโดนเข้าเท่านั้น จึงขยับเท้าโดยอัตโนมัติใครจะรู้ว่า คนขับรถเบรกกะทันหัน ร่างกายของเธอจึงขยับ เท้าก็ขยับตามไปด้วยรอจนเธอนั่งนิ่งได้อีกครั้ง ถึงพบว่าเท้าของตัวเองถูกับน่องของกงเฉินหลายครั้งแล้ว ทิ้งรอยรองเท้าที่น่าสงสัยไว้ แม้กระทั่งถลกขากางเกงของเขาขึ้นไปหน่อยสีหน้าของหลินจืออี้พลันชะงักลง สายตาที่ทอดมองมาจากฝั่งตรงข้ามดูลึกล้ำและอันตราย เธอหดเท้าลงทันที แต่ก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งขาทั้งสองข้างของกงเฉินหนีบขาของเธอไว้หลินจืออี้เม้มปาก ออกแรงดึงเท้า แต่ก็ไม่กล้าทําให้ทั้งสองคนที่อยู่อีกฝั่งตกใจตรงข้ามกัน ซ่งหว่านชิวเอียงตัว จับกงเ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0134

    เขากลับไม่ขยับหลินจืออี้ถึงขั้นเกิดภาพลวงตา มองเห็นรอยยิ้มบางๆ ของเขา ในความมืดมนก่อนที่แสงจะขยายใหญ่ขึ้น ไหล่ของเธอก็ถูกบีบแน่น เธอเพิ่งพบว่าเธอลืมคาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อขับออกจากอุโมงค์ รถด้านในก็สว่างขึ้นกงเฉินนั่งตัวตรงอยู่ฝั่งตรงข้าม ขายาวซ้อนกัน ทุกอย่างเป็นปกติ ราวกับว่าลมหายใจที่ข้างหูของหลินจืออี้เมื่อกี้เป็นของปลอมเธอยกมือขึ้นและรู้สึกว่าตัวเองต้องการดื่มชาเพื่อระงับความตกใจเมื่อยกชาขึ้นมาจึงพบว่า ถ้วยชาที่หกไปเมื่อกี้เต็มแล้วเต็มเมื่อไหร่กัน?หลินจืออี้นึกอะไรบางอย่างออก จึงเงยหน้าขึ้นมองฝั่งตรงข้ามทันทีกงเฉินยกถ้วยชาขึ้นดื่มอย่างเกียจคร้าน ปากถ้วยมีรอยลิปสติกจางๆ เขา...สมองของหลินจืออี้อื้ออึงไปชั่วขณะ ริมฝีปากรู้สึกชาไปหมดซ่งหว่านชิวที่อยู่เยื้องๆ กันเห็นรอบข้างสว่างแล้ว ก็มองไปทางหลินจืออี้และกงเฉินทันที แล้วก็เห็นทั้งสองไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งนั้นโชคดีที่นังสารเลวหลินจืออี้ไม่ได้อ่อยกงเฉินเธอกําลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็เห็นรอยแดงบนถ้วยที่กงเฉินถืออยู่ในมือเธอก็เป็นผู้หญิง ย่อมรู้ว่าคืออะไรซ่งหว่านชิวกําหมัดแน่น เท้าเตะไปที่หัวเข่าของ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0135

    เมื่อเห็นร่างที่ยืนอยู่ข้างพุ่มไม้ ประธานอวี๋ก็เลิกคิ้วและเข้าใจขณะที่กําลังจะเอ่ยปาก ซ่งหว่านชิวก็เดินตรงไปตรงหน้าประธานอวี๋และยื่นมือออกมา"ผู้จัดการอวี๋ สวัสดีค่ะ ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณชายสาม ซ่งหว่านชิว"ประธานอวี๋มองซ่งหว่านชิว แล้วมองมือที่ยื่นออกมาของเธอ ยิ้มเบาๆ "ขอโทษนะ คุณซ่ง ฉันเพิ่งตัดกิ่งดอกไม้ มือสกปรกเกินไป"มือของซ่งหว่านชิวแข็งไปพักหนึ่ง แล้ววางลงอย่างกระอักกระอ่วนทางนี้เธอเพิ่งปล่อยมือ ทางนั้นประธานอวี๋ก็หยิบผ้าขนหนูจากมือคนรับใช้มาเช็ดมือ แล้วเดินเข้าไปใกล้กงเฉินก่อนเห็นซ่งหว่านชิวเป็นคู่หมั้นของเขาเป็นอากาศธาตุโดยตรงไปเลยประธานอวี๋นั่งลงข้างกงเฉิน รินชาให้เขาพลางกวาดสายตาไปหาคนอื่น "พวกเธอก็นั่งลงด้วย เซวียมั่นให้ข้อมูลของพวกเธอแก่ฉันแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาแนะนําตัวเอง ฉันเป็นคนสบายๆ "คําพูดนี้มีความหมายชัดเจนซ่งหว่านชิวบีบกระเป๋าแน่น ความชั่วร้ายในดวงตาหายไปอย่างรวดเร็วหญิงแก่คนนี้เสแสร้งอะไรถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าเธอยังมีประโยชน์อยู่ ไหนเลยจะได้เธอมาอวดเบ่งแต่บนผิวเผิน ภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามของซ่งหว่านชิวยังคงรักษาไว้ไม่รั่วไหลเมื่อนั่งลง

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0136

    หลังจากฟังจบ ประธานอวี๋ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นเฉินฮวนกําลังจะลุกขึ้น แต่หลินจืออี้ยื่นมือมาขวางไว้ เป็นการบอกให้เธออย่ารีบพูดมากเกินไปแต่เฉินฮวนหลีกเลี่ยงมือของเธอ ลุกขึ้นยืนและไม่ยอมอ่อนข้อให้ "ฉันก็คิดว่าดอกชาเหมาะสําหรับประธานอวี๋มากกว่า ที่นี่เรียกว่ารีสอร์ทฉาฮัว เห็นได้ว่าประธานอวี๋เป็นคนที่รักดอกไม้และหวงแหนดอกไม้"ประธานอวี๋ยิ้มพลางหมุนแหวน ความคิดของเธอไม่ชัดเจนตอนนั้นเอง เสิ่นเยียนก็ลุกขึ้นเธอพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน "ประธานอวี๋คะ แม้ว่าความสามารถของฉันจะไม่ดีเท่าพวกเธอ แต่ฉันคิดว่าปาปาราชาเหมาะกับประธานอวี๋มากกว่า ผู้หญิงที่แข็งแกร่งอย่างคุณ เจิดจ้าและมั่นใจ ย่อมต้องการแสงที่สะดุดตามากขึ้น"ประธานอวี๋หันหน้าไปจ้องหน้าเสิ่นเยียน ยกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า "เธอนี่น่าสนใจจริงๆ มีความคิดมาก""ไม่กล้าค่ะ ฉันก็แค่พูดความจริงเท่านั้น" เสิ่นเยียนก้มศีรษะลงด้วยความระมัดระวังแฝงไว้ด้วยความภาคภูมิใจทุกคนต่างก็คิดว่าแหวนดอกชานั้นดี แต่เธอยืนกรานที่จะทําตรงกันข้าม ไม่ทําให้คนรู้สึกน่าสนใจและมีความคิดเห็นทันใดนั้น ประธานอวี๋ก็มองไปที่หลินจืออี้ที่ไม่พูดอะไรเลย"คุณหลิน ทุกคนก็พูดแล้

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0137

    หลินจืออี้มองรอยยิ้มที่ไร้พิษภัยของเสิ่นเยียน ก็รู้ว่าเสิ่นเยียนกับซ่งหว่านชิวนั่งไม่ติดที่แล้วสองคนนี้จะให้เธอแสดงออกต่อหน้าประธานอวี๋ได้ยังไง?แทนที่จะให้พวกเธอลงมือในที่ลับยากที่จะป้องกัน ไม่สู้ให้โอกาสพวกเธอสองคนลงมือ จะได้พลิกแพลงตามสถานการณ์ระหว่างทางไปห้องน้ำ เสิ่นเยียนก็แอบมองหลินจืออี้เป็นพักๆ พอเอ่ยปาก ก็แฝงไปด้วยความคาดเดา "จืออี้ เมื่อกี้ฉันพูด ทําไมเธอถึงไม่ห้ามฉัน?"หลินจืออี้รู้แต่แรกว่าเสิ่นเยียนจะมาถาม เหตุผลก็เตรียมไว้แล้วเธอดึงมือของเสิ่นเยียนมาด้วยสีหน้าจนใจ "เสิ่นเยียน ฉันนึกว่าเธอแค่มอบของขวัญเท่านั้น จะรู้ได้ยังไงว่าเธอกล้าแย่งซีนด้วย เธอก็ไม่ได้บอกฉันนี่ ฉันจะห้ามเธอได้ยังไง?""ฉันไม่ได้แย่งซีน ฉันแค่รู้สึกว่าแหวนวงนั้นสวยเท่านั้นเอง" เสิ่นเยียนรีบอธิบาย กลัวว่าหลินจืออี้จะสงสัย"ฉันเชื่อเธอแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าประธานอวี๋จะรู้สึกว่าเธอคิดว่าตัวเองฉลาดหรือเปล่า"หลินจืออี้จงใจถอนหายใจ แล้วเดินไปข้างหน้าต่อทันใดนั้น แผ่นหลังก็ถูกสายตาเคียดแค้นของเสิ่นเยียนแทงทะลุเกลียดเธอ แต่กําจัดเธอไม่ได้ ยังต้องทนกับเธอ ความรู้สึกนี้ทุกข์ทรมานใช่ไหมล่ะ?แต่นี่ไม

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0196

    ในเมื่อซ่งหว่านชิวซ่อนตัวอยู่ในบ้านและแท้งลูก งั้นเธอก็สามารถวางแผนอื่นๆ ของเธอได้ต่อไปแล้วหลินจืออี้ถือโอกาสที่เข้าห้องน้ำโทรหาหลิ่วเหอ“แม่ วันนี้คุณอาอยู่ที่บริษัทหรือเปล่า?”“อยู่ มีอะไรเหรอ?”“ฉันอยากไปหาเขากินฉันข้าวมื้อน่ะ”ขณะที่พูด หลินจืออี้ก็ก้มลงมองถุงที่อยู่ข้างเท้า ในนั้นมีเสื้อนอกของกงเฉินวางอยู่เธอกลัวว่าถ้าตัวเองไปหากงเฉินโดยตรง เขาจะเห็นอะไรบางอย่างแต่ถ้าเขากินข้าวกับกงสือเหยียน เธอก็สามารถหาข้ออ้างคืนเสื้อผ้าของกงเฉินได้หลิ่วเหอคิดไปคิดมา กลับพูดว่า “ช่างมันเถอะ วันนี้อาของเธอยุ่งมากแน่ๆ”หลินจืออี้พูดอย่างประหลาดใจว่า “คุณอามีออเดอร์ใหญ่เหรอ?”“ไม่ใช่” หลิ่วเหออยากจะพูดแต่ก็หยุด สุดท้ายก็ถอนหายใจ “อาของเธอบอกว่าเจ้าสามป่วยน่ะ ก่อนหน้านี้กระโดดลงทะเลสาบไปช่วยเธอ ทั้งตัวเปียกปอนพาเธอไปโรงพยาบาล เมื่อคืนกงเยี่ยนเกิดอุบัติเหตุ เขาไม่ได้นอนทั้งคืนเพื่อจัดการงานที่เหลือของกงเยี่ยน ตอนเช้าก็ไปบริษัทอีก เขาก็เป็นคนเหมือนกัน จะไม่ป่วยได้ยังไง?”"ป่วย...ป่วยเหรอ?” หลินจืออี้สะดุ้งโหยงในใจนึกถึงอุณหภูมิร่างกายที่ผิดปกติของกงเฉินเมื่อคืนอย่างอธิบายไม่ได้ เธอยัง

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0195

    หลินจืออี้ไม่เคยคิดว่ากงเฉินจะบ้าขนาดนี้แม้ว่าจะดึกมากแล้ว แต่รอบๆ โรงพยาบาลก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อย แต่เขากลับยัดมือของเธอไว้ใต้เสื้อสเวตเตอร์มือที่เย็นเฉียบของเธอสัมผัสเอวที่ร้อนผ่าวของชายหนุ่ม ทำเอาเธอร้องเสียงต่ำออกมาอย่างควบคุมไม่ได้คนที่ได้ยินเสียงของเธอต่างหันมามอง เธอก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว พยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่มือกลับถูกเขากดแน่นอยู่บนขอบเอวหลินจืออี้ขดนิ้วมือ กล้ามเนื้อแน่นๆ รีดฝ่ามือของเธอ หนียังไงก็หนีไม่พ้นเพียงแค่คนรอบข้างก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวก็จะเห็นมือของเธอสอดเข้าไปในเสื้อสเวตเตอร์ของเขาไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า อุณหภูมิบนฝ่ามือของเธอสูงจนน่าตกใจเธอเตือนอย่างลุกลี้ลุกลนว่า “อาเล็ก อาบ้าไปแล้ว ถ้ามีคนถ่ายรูปได้จะทํายังไง?”กงเฉินจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “แต่งตัวแบบนี้มาหากงเยี่ยนตอนดึกดื่นไม่กลัว แต่อยู่ด้วยกันกับฉันกลับกลัวงั้นเหรอ? แล้วทําไมตอนนั้นถึงเข้ามาในห้องฉันล่ะ?”หลินจืออี้อึ้งไปเล็กน้อย ไม่กล้าสบตาเขา เพราะในอดีตเธอเคยรักผู้ชายคนนี้อย่างเร่าร้อนจริงๆแต่ตอนนี้...เธอก้มหน้าลง "ฉันเสียใจแล้วได้ไหม? ถ้าสามารถเริ่มต

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0194

    หลังจากกงสือเหยียนตอบรับ เขาก็เดินตามหลินจืออี้ไปเมื่อกงเฉินหันกลับมา กงเยี่ยนก็มองเขายิ้มบางๆ“อาเล็ก ขอบคุณที่มาเยี่ยมผมนะครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเต็มไปด้วยพลัง”กงเฉินมองไปที่กงเยี่ยน ในดวงตามีประกายแหลมคมแวบผ่าน “อ้อ? งั้นนายก็เก็บไว้ใช้บ้างนะ”รอยยิ้มของกงเยี่ยนจางลง จ้องมองทิศทางที่กงเฉินหายไป สีหน้าคลุมเครือไม่ชัดเจน……หลินจืออี้ตามกงสือเหยียนลงไปชั้นล่าง เขารับโทรศัพท์และส่งเสียงอืมสองสามครั้งทันใดนั้น เขามองหลินจืออี้อย่างลําบากใจ “จืออี้ อาให้คนขับรถส่งเธอกลับไปนะ พอดีอาต้องไปเอาเอกสารที่บริษัท”“คุณอา ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันใช้แอพเรียกรถมารับแล้ว”หลินจืออี้คิดว่าหลิ่วเหอยังรอเขาอยู่ที่บ้าน เรียกแท็กซี่แถวนี้ก็ต้องรออีกตั้งนาน จึงปฏิเสธความหวังดีของเขา“เด็กคนนี้นี่ มักกลัวจะรบกวนคนอื่นตลอดเลย”“คุณอาคะ คนขับรถมาแล้ว คุณอารีบขึ้นรถเถอะ แม่ฉันยังบ่นว่าช่วงนี้คุณอากลับดึกตลอด” หลินจืออี้ผลักเขาขึ้นรถ“เดี๋ยวอาเอาอาหารว่างยามดึกไปให้แม่เธอ เขาก็ดีใจแล้ว” กงสือเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม“ค่ะๆ คุณอาสองคนรักกันไปเถอะค่ะ”หลินจืออี้ปิดประตูรถแล้วโบกมือลาหลังจากส่งกงสือเหยียนออกไ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0193

    หลินจืออี้ยืนพิงกําแพง ใบหน้าขาวซีด ในสมองมีแต่ตอนจบของกงเยี่ยนในชาติก่อนและตอนนี้ กงเฉินก็ต้องการทําลายกงเยี่ยนอีกครั้ง!ทําลายคนเดียวในตระกูลกงที่ทําดีกับเธอ!เธอหายใจติดขัด ปลายนิ้วข่วนกําแพงจนรู้สึกเจ็บไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็หันหลังและจากไปอย่างเงียบๆหลินจืออี้กลับไปที่วอร์ดผู้ป่วยอีกครั้งในเวลานี้ กงเยี่ยนเจ็บแผลถลอกจนพลิกตัวยาก แต่เมื่อเห็นหลินจืออี้ก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาทันที“จืออี้ ฉันคิดว่าเธอจะไม่กลับมาแล้ว”“ไม่หรอก” หลินจืออี้เดินไปนั่งที่ข้างเตียง ถามเสียงเบาว่า “พี่ใหญ่ เมื่อกี้ฉันลืมถามไป ทําไมพี่ถึงเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ล่ะ?”“เมืองไห่มีขนมอบพิเศษ ฉันอยากจะเอากลับมาให้เธอลองชิม แค่รีบร้อนเท่านั้น” กงเยี่ยนพูดจบก็ไม่อธิบายให้มากความหลินจืออี้สังเกตเห็นช่องโหว่ในคําพูดของเขา “พี่ใหญ่ คนขับรถเป็นคนขับ ไม่ว่าพี่จะรีบแค่ไหน คนขับรถก็ไม่สามารถเอาชีวิตของพี่มาล้อเล่นได้...”ดวงตาของกงเยี่ยนหมองคล้ำ พูดตัดบทว่า “จืออี้ ไม่ต้องถามแล้ว เรื่องบางเรื่องก็ให้จบลงเท่านี้เถอะ”“พี่ใหญ่ อุบัติเหตุทางรถยนต์ต้องมีปัญหาแน่ๆ ใช่ไหม? พี่บอกฉันได้ไหม?”หลินจืออี้แค่อ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0192

    หลินจืออี้รีบก้าวไปข้างหน้าและยื่นมือออกมา แต่ก็ไม่กล้าแตะต้องเขา กลัวว่าจะทําให้เขาเจ็บ“พี่ใหญ่...”หลินจืออี้รู้สึกแสบจมูก ความรู้สึกผิดในใจก่อตัวมากขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะเธอ กงเยี่ยนก็คงไม่ทําแบบนี้กงเยี่ยนมองเธอ ยื่นมือดึงเธอมานั่งที่ข้างเตียง ยกมือขึ้นเช็ดหางตาของเธอกลางคืนในปลายฤดูใบไม้ร่วงอุณหภูมิต่ำมาก หลินจืออี้แต่งตัวไม่เยอะ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อยจากการเดินทาง ขนตายาวหลายเส้นที่แขวนอยู่บนขนตาที่เปียกชื้นเล็กน้อย ขับให้ดวงตาแดงก่ำชุ่มชื้นคู่นั้นยิ่งดึงดูดเขามือของเขาหยุดที่แก้มของเธออย่างไม่เต็มใจและยิ้มเบาๆ เพื่อปลอบโยน "ไม่เป็นไรจริงๆ หรือจะให้ฉันลงมาเดินสักรอบสองรอบ?"หลินจืออี้รีบเอื้อมมือไปจับมือเขา เอ่ยห้ามว่า “พี่อย่าขยับไปไหนนะ โตป่านนี้แล้วยังล้อเล่นอีก?”เขาจ้องมองหลินจืออี้แล้วยิ้มโดยไม่พูดอะไร แต่ชั่วพริบตาก็กวาดสายตามองไปทางด้านหลังของเธอหลินจืออี้สังเกตเห็น พอกําลังจะหันตัวกลับ กงเยี่ยนกลับล้มตัวลงไปหาเธอราวกับไม่มีแรงเธอยื่นมือไปกอดกงเยี่ยนตามสัญชาตญาณกงเยี่ยนถือโอกาสโอบเธอไว้ ตบหลังเธอเบาๆ พูดเสียงเบาว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่เป็นไร”หลินจืออี

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0191

    หลังจากได้ยินคําพูดของหลิ่วเหอ สมองของหลินจืออี้ก็สับสนวุ่นวายไปหมดเธอคิดไม่ออกจริงๆ ว่าชื่อย่อของใครคือ LHคิดไปคิดมา เธอได้แต่พูดว่า “แม่ ช่วยฉันจับตาดูหน่อยได้ไหม? คราวหน้าที่พวกเขานัดพบกันต้องบอกฉันนะ”หลิ่วเหอไม่ได้รับปากทันที น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกระสับกระส่าย “จืออี้ แกคิดจะทําอะไรกันแน่? แกอยากอยู่ให้ห่างจากพวกซ่งหว่านชิวมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”หลินจืออี้เม้มปาก ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง มองดูดวงดาวบนท้องฟ้าเมื่อก่อนเธอคิดแบบนี้จริงๆเพราะเธอสัญญากับซิงซิงว่าจะเป็นนักออกแบบเครื่องประดับที่มีความสุข ยิ่งเดินยิ่งไกล ต้องชดเชยความเสียใจในอดีตให้ได้ดังนั้นความคิดเดียวของเธอคือการเปลี่ยนชะตากรรมเดิมของเธอเติมเต็มความปรารถนาของเธอและซิงซิงแต่ตอนที่เธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้และฟังกงเฉินขู่เธอว่าจะเข้าข้างซ่งหว่านชิว เลือดก็แพร่กระจายจากร่างกายส่วนล่างของเธอ ราวกับได้สัมผัสกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียดวงดาวอีกครั้งถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้กินยาคุมกําเนิด วันนี้ซิงซิงของเธอก็คงกลายเป็นก้อนเลือดไปแล้วเธอไม่สามารถระงับเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังได้อีกต่อไป เธอไม่สามารถลืมใบหน้าที

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0190

    ตอนนี้ซ่งหว่านชิวเป็นนักออกแบบเครื่องประดับชื่อดัง มีสตูดิโอและแบรนด์เป็นของตัวเองเธอยังคลอดลูกชายคนโตให้กงเฉินอีกด้วย กำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรืองสุดขีด แม้แต่เส้นผมก็เหมือนเปล่งประกาย ดวงตาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสเสิ่นเยียนที่อยู่ข้างเธอก็พลอยสบายไปด้วย แต่งตัวหรูหราถือกระเป๋าโซ่ใบเล็กๆที่ราคาสูงถึงหลายแสนเด็กสาวคนนั้นที่ตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยพร้อมกับหลินจืออี้และเคยพูดว่าจะขยันทำงานเพื่ออนาคต ตอนนี้ก็ถูกความมืดกลืนกินไปแล้วเสิ่นเยียนเล่นกระเป๋าในมืออย่างไม่ใส่ใจพลางพูดว่า “หลินจืออี้กับลูกสาวแทบไม่ออกจากบ้านเลย แม้แต่คุณท่านก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันกับตระกูลหลิวช่วย คุณจะมีหลักฐานว่าหลินจืออี้ใส่ร้ายพวกคุณแม่ลูกได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้น ตระกูลหลิวยังช่วยหา ตัวอย่างเข้าคู่ให้พวกคุณด้วย ถ้าเธอรู้ว่าคุณโกหกและใช้ประโยชน์จากเธอมาตลอด…”“หุบปาก! นี่เธอกำลังขู่ฉันเหรอ?” ซ่งหว่านชิวเปลี่ยนสีหน้าและท่าทางที่ทั้งโหดและดุร้าย“คุณหนูซ่ง อย่าว่าฉันพูดมากเลยนะคะ ตระกูลหลิวนี่บอกจะล่มก็ล่ม คุณหนูตระกูลหลิวคนนั้นมาขู่คุณและคนที่จะช่วยคุณได้ก็มีแค่ฉันเท่านั้น ฉันก็แค่เอาสิ่งที่ฉันควรได้ เ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0189

    “มีเรื่องงั้นเหรอ? หึๆ ผมกำลังพักผ่อนอยู่เลยนะ อยู่ดีๆก็โดนล็อกคอลากเข้าไปที่ห้องฉุกเฉิน หมอสูติฯ สามคนยืนอยู่ข้างๆ ผมมองหน้ากันงงไปหมด รู้ไหมพวกเขาถามผมว่าอะไร?”หลี่ฮวนแสดงท่าทางประกอบอย่างเว่อร์วังราวกับกำลังเล่นละครฉากใหญ่หลินจืออี้ถามอย่างงุนงง “ถามว่าอะไรเหรอคะ?”หลี่ฮวนเลียนเสียงหมอผู้หญิงพูดเสียงแหลมว่า “คุณหมอหลี่คะ จะรักษาอะไรเหรอคะจะรักษาการตั้งครรภ์หรือรักษาประจำเดือนดีคะ?”“ทีนี้รู้หรือยังว่าแผลพวกนี้ฉันได้มายังไง? คราวหน้ารบกวนช่วยเตือนเขาด้วยว่า ถึงจะรีบก็อย่าล็อกคอผมอีก”หลินจืออี้พอได้ยินมาถึงตรงนี้ก็เริ่มเข้าใจว่าหลี่ฮวนพูดถึงเรื่องอะไรแต่สีหน้าของเธอกลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆเพียงแค่ก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไรหลี่ฮวนไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอ เขามองไปรอบๆแล้วถามขึ้น“คุณชายสามล่ะ? ไม่ใช่ว่าเขาเฝ้าคุณตลอดหรือไง?”“กลับไปแล้วค่ะ” หลินจืออี้ตอบเสียงเย็นชาที่กงเฉินเฝ้าเธอก็แค่เพราะต้องการแน่ใจว่าจะได้เตือนเธอทันทีที่ตื่นขึ้นว่า "อย่าพูดอะไรที่ไม่ควรพูด"ตอนนั้นเอง หลี่ฮวนก็เริ่มสังเกตได้ว่าบรรยากาศแปลกไปเขานิ่งไปชั่วครู่ ไม่รู้ควรพูดอย่างไร จึงรีบเปลี่ยนห

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0188

    หลิ่วเหอหลังจากคลอดหลินจืออี้ออกมาร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถมีลูกได้อีกบ้านใหญ่จึงมีหลานชายเพียงคนเดียวคือกงเยี่ยน ส่วยบ้านรองก็ไม่มีลูกเช่นกัน หากบ้านสามอย่างกงเฉินแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลูกไม่ได้อีกคน คุณท่านกงจะยอมได้ยังไง?เมื่อสังเกตเห็นสายตาของหลินจืออี้ ซ่งหว่านชิวก็ยกมือขึ้นปิดท้องโดยไม่รู้ตัวท่าทางนี้ทำให้หลินจืออี้รู้สึกแปลกใจชาติที่แล้วเพราะเธอแต่งงานกับกงเฉินก่อน ซ่งหว่านชิวจึงหนีตามไปพร้อมลูกในท้องแต่ตอนนี้ในเมื่อไม่มีสิ่งใดขัดขวางระหว่างซ่งหว่านชิวกับกงเฉิน หากเธอประกาศว่าท้องการแต่งงานระหว่างสองคนก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่ทำไมซ่งหว่านชิวถึงไม่เพียงแค่ไม่ยอมรับลูกในท้อง ยังถึงขั้นไม่กล้าเปิดเผยเลยแม้แต่นิด?“หลินจืออี้ ฉันรู้ว่าเธอกำลังเจ็บปวดใจ ไม่เป็นไรนะ เพราะความเจ็บปวดยิ่งกว่านี้กำลังจะมา คุณชายสามบอกว่าพอเซ็นสัญญาร่วมมือเสร็จเขาจะแต่งงานกับฉัน”“เห็นมั้ย? ฉันเคยบอกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะเลือกฉัน ส่วนเธอน่ะ ก็แค่ของเล่นที่ไม่ต้องเสียเงิน”ซ่งหว่านชิวหัวเราะออกมาเบาๆอย่างเยาะเย้ย จากนั้นก็หมุนตัวออกจากห้องผู้ป่วยร่างกายของหลินจืออี้ที่ฝืนทนจนถ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status