Share

เขยอีสาน จาติรัช
เขยอีสาน จาติรัช
Author: plernwalee

บทที่ 1 คุณลุง

Author: plernwalee
last update Last Updated: 2025-11-15 20:36:56

“โอ๊ย! เรียกรถผ่านแอปนี่ทำไมมันรอนานขนาดนี้วะ นัดสัมภาษณ์ 10 โมงมันจะทันมั้ยเนี่ย” เสียงเล็ก ๆ โวยวายตามองถนนพลางยกข้อมือดูนาฬิกาอย่างหัวเสีย

วันนี้เป็นวันนัดสัมภาษณ์งานของสาวสวยผู้ว่างงานอยู่เหย้าเฝ้าหอเป็นแม่ถูเรือนให้เพื่อนมาปีกว่า เลยพากันตื่นเต้นกันเป็นพิเศษทั้งตัวเธอและเพื่อนร่วมห้อง ขนาดที่ว่านัดสัมภาษณ์ล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เธอถึงกับลงทุนซื้อรองเท้าส้นสูงมาใส่เดินในห้องให้ชินเวลาเดินจะได้สง่าผ่าเผย ให้สมกับตำแหน่งที่จะเข้าสัมภาษณ์ เพราะงานนี้เธอจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ด้วยประกาศิตของคุณนายแม่สั่งมาว่า **ถ้าไม่ได้ทำงานก็กลับบ้านไปเลี้ยงควายช่วยพ่อซะ ทีแม่ไม่เชื่อแล้วว่าเธอมีแฟนอยู่ที่นี่จริง** และวันนี้เธอก็ตื่นตั้งแต่ตี 5 อาบน้ำแต่งหน้าทำผมซ้อมตอบสัมภาษณ์ทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษกว่า 2 ชั่วโมงโดยมีเพื่อนคอยคอมเพลนเพื่อป้องกันการผิดพลาดและยังฝึกยิ้มมารยาทหน้ากระจกจนหมดน้ำไปหลายแก้ว ก่อนจะลงมารอรถที่เรียกซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ารถที่เรียกจะมาถึงแต่อย่างใด

“มึงเรียกรถอะไรเนี่ยหมี่ ครีมกูก็ไม่ได้ทา หน้าก็ไม่ได้ล้างผู้ชายเดินผ่านราคาตกหมดแล้วเนี่ย” เพื่อนสาวร้องถามพลางชะโงกมองที่ถนนใหญ่หน้าหอพักจนคอยืดยาวพอกัน ซึ่งจริง ๆ เธอจะไม่ลงมาส่งเพื่อนก็ได้แต่นานแล้วที่เพื่อนไม่ได้ไปไหนคนเดียวเธอเลยอดห่วงไม่ได้

“เรียกรถเก๋งน่ะสิ ใส่กระโปรงงามขนาดนี้เซ็ตผมก็ปานนี้กูจะไปมอเตอร์ไซค์ได้ยังไง” หญิงสาวตอบเพื่อนพลางมองรถเก๋งสีขาวที่วิ่งเข้ามาจอดฝั่งตรงข้าม มองเลขทะเบียนรถแล้วทำท่าจะวิ่งข้ามถนน แต่คนขับกลับเปิดประตูลงมาเดินเข้าร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ ๆ “มึง...นั่นรถมาแล้ว แต่คนขับเสือกลงมาเข้าร้านค้า ต่อนยอนเกิ๊นพ่อใหญ่ กูไปนะ” หญิงสาวหันไปพูดกับเพื่อนพลางชี้ไปที่รถที่จอดอยู่ฝั่งข้ามพร้อมกับโบกมือให้เพื่อนแล้ววิ่งข้ามถนนไปรอที่ข้างรถ

ทางฝั่งคนขับรถมานั้น

“แม่ง! คันละเป็น 10 ล้าน จอดแค่เดือนเดียวเสือกสตาร์ทไม่ติด ต้องเรียกรถสไลด์ ดีนะที่ศูนย์มีรถให้ยืมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าออฟฟิศ อากูนี่ก็ยังไงรับสมัครผู้ช่วยเลขาแต่จะให้รองประธานฝ่ายบริหารไปสัมภาษณ์ โวะ! สำคัญอะไรนักวะ แล้วฟันนี่ก็เป็นเวรอะไรทุกวันไม่ปวดเสือกมาปวดเอาวันจะต้องพูด” หนุ่มหล่อร่างสูงโปร่งเดินบ่นลงจากรถเข้าร้านสะดวกซื้อ หยิบแผงยาแก้ปวดมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์และกลับมาที่รถ

กรึ่บ! ปึก! “เฮ้ย!” “ไปเลยลุง รอซะนานเลยหนูจะไม่ทันแล้วเนี่ย” สาวสวยที่เปิดประตูเข้ามานั่งหลังรถออกคำสั่งสวนคำอุทานของคนขับพลางก้มลงเปิดกระเป๋าหาอะไรบางอย่าง

“ไป? ไปไหน” ชายหนุ่มถามงง ๆ *อะไรวะฟันก็ปวดแล้วกูต้องไปไหนอีกเนี่ย...* ชายหนุ่มคิดในใจ

“เอ๊า! ก็โรงทอไทยวรวัฒน์ไงคะ หนูก็ปักหมุดให้แล้วนี่ หรือจะเนียนไม่ไปส่ง อย่านะ อย่านะ หักเงินจากแอปไปแล้วนะ” หญิงสาวว่าขึ้นพร้อมกับมองด้านหลังของคนขับ เขาใส่เสื้อแขนยาวสีเข้มพับถึงข้อศอก ใส่แว่นดำอันใหญ่ จากด้านหลังเห็นผมหงอกโผล่มา 1 เส้นก็น่าจะเพียงพอเรียกว่าลุงได้ แต่ไปสะดุดตาที่นาฬิกาหน้าปัดฝังเพชรบนข้อมือซ้าย ซึ่งน่าจะแพงพอสมควรถ้าเป็นของจริงตามยี่ห้อที่ปรากฎ แต่ถ้าซื้อตามตลาดนัดก็น่าจะไม่กี่ร้อยซึ่งก็เหมือนจนคนดูไม่เป็นแยกไม่ออก “ออกรถสิลุง หนูมีนัดสัมภาษณ์งาน 10 โมงนะ รอลุงก็ครึ่งชั่วโมงไปแล้วเนี่ย ไปเลย เดี๋ยวไม่ทัน” หญิงสาวเร่งพลางกดมือถือหาเพื่อน “ขึ้นรถแล้วนะ ....อะเครจ้า สาธุค่ะสาธุ ถ้าได้เดี๋ยวเลี้ยงบุฟเฟต์” เสียงพูดคุยกับเพื่อนอย่างร่าเริงด้านหลัง ทำให้คนขับรถถอนหายใจแรง ๆ ออกรถไปส่งคนที่ขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ เพราะเธอบอกว่ามีนัดสัมภาษณ์งานที่นั่นและเหลือเวลาอีกไม่มาก และจากหน้าตาเธอน่าจะเป็นเด็กจบใหม่เพิ่งหางานเลยดูตื่นเต้นเป็นพิเศษและเขาก็ไม่อยากให้เธอเสียโอกาสนี้ไป

“ตื่นเต้นแค่ไหนก็ไม่ควรมองกูเป็นลุงมั้ยวะ กูแค่ 32 เอง เอ้อ...” ชายหนุ่มพึมพำส่ายหน้ากับสรรพนามใหม่ที่เพิ่งรับมาหมาด ๆ ในวัยหลัก 3 ต้น ๆ ของตัวเอง

“อะไรนะลุง!”

“ปะ เปล่า กำลังคุยกับตัวเองอยู่ ไม่เกี่ยวกับใครหรอก” คำตอบของเขาทำให้คนนั่งข้างหลังขมวดคิ้วอย่างหวาดระแวงทันที “แล้วจะเข้าประตูไหน มันมี 2 ประตู จะไปโรงทอหรือจะเข้าออฟฟิศ”

“เข้าออฟฟิศค่ะลุง หนูมีนัดสัมภาษณ์งานที่นั่น” หญิงสาวตอบกลับสุภาพขึ้นเมื่อวางสายจากเพื่อนและรีบกดโทรออกหาอีกเบอร์กลบเกลื่อนอาการหวาดระแวงของตัวเอง

“เฮ้อ...คำก็ลุง 2 คำก็ลุง” ชายหนุ่มถอนหายใจพึมพำ

“ว่าอะไรนะคะ?”

“ไม่มีอะไร” *หูดีไปอีกแม่ง...*

“ฮัลโหลแม่ หมี่ไม่ได้กลับบ้านแล้วนะ เออ...ได้งานแล้วจ้า ไม่ต้องมารับหรอก... พูดจริง เนี่ยกำลังจะไปบริษัทเลยเดี๋ยวลงรถปุ๊บ จะแชะส่งแม่ปั๊บเลย” เสียงหวาน ๆ พูดกับปลายสายอย่างน่ารักน่าเอ็นดูจนคนขับแอบยิ้มกับภาษาที่เธอใช้ “จริง...ไม่เชื่อแม่โทรถามอิฝนเลย หมี่ได้งานแล้วจริง จ้า...คิดถึงเหมือนกัน จ้า สวัสดีค่ะ” กดวางสายแล้วถอนหายใจเบา ๆ เบือนหน้ามองข้างกระจกรถเซ็ง ๆ

“จะสัมภาษณ์ตำแหน่งอะไรล่ะ เพิ่งจบใหม่เหรอ” ชายหนุ่มชวนคุยพลางแอบพิจารณาใบหน้าสวยหวานผ่านกระจกมองหลัง สีหน้าแววตาของเธอวิตกกังวลจนเขาจับสังเกตได้

“ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ แต่ไม่ได้จบใหม่หรอกจบมาเป็นปีแล้วล่ะ” เสียงตอบกลับเศร้าแปลก ๆ จนชายหนุ่มสะดุดหู

“แล้วที่ผ่านมาทำงานที่ไหนมาล่ะ”

“ก็! ยังหรอก นอนทำใจอยู่” คำตอบง่าย ๆ ทำเอาคนฟังถึงกับขำ

“ทำใจเป็นปีเลย?”

“อือ...สิ นี่ถ้าไม่ได้รับประกาศิตว่าถ้าไม่ได้ทำงานก็ให้กลับบ้านไปเลี้ยงควายนะ ไม่หางานทำหรอก นอนอยู่ห้องเหมือนเดิมนั่นแหละ” หญิงสาวว่าพลางถอนหายใจ

“เอ้อ...แล้วนอนอยู่ห้องจะเอาอะไรกินหรือมีแฟนเลี้ยงเลยสบายแบบนี้” ชายหนุ่มแกล้งถอนหายใจถามแอบมองตาเศร้า ๆ คู่นั้น

“แฟนไม่มีหรอกลุง หนูเกาะเพื่อนกินน่ะ แต่บอกที่บ้านว่าอยู่กับแฟน ตอนนี้โสดอยู่ในโหมดเอ๋อแดกน่ะลุง เรียนจบกลับบ้านไปเจอเซอร์ไพรส์ คนคบกันมาตั้งแต่ ม.3 เสือกมาได้เมียคุ้มบ้านเดียวกัน เฮ้อ...” หญิงสาวเล่าพลางถอนหายใจแรง ๆ มองนาฬิกาที่ข้อมือแต่ไม่ได้มองว่าตอนนี้รถกำลังจะจอดหน้าบริษัทแล้ว

“กลัวกลับไปทำใจไม่ได้หรือไง”

“เปล่า กลัวอดเตะปากมันไม่ได้ แม่ง! มันบอกว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะหนูผิด หนูเยอะเกินคบมา 8 ปีขอหอมซักทีทำหวงยังกับจะมีตราประทับบนหน้าผาก หวงมากก็อยู่ให้โสดแห้งตายคาคาน ไอ้สันดาน กูเพิ่ง 23 มั้ย คน 40 เขายังลงจากคานได้เลย แล้วเมียมันก็เป็นรุ่นน้องหนูที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ไงประเด็นแล้วตอนนั้นน้องมันกำลังท้องด้วยหนูเลยยังไม่อยากกลับไปกลัวน้องมันคิดมาก” หญิงสาวร่ายยาวถึงปัญหาชีวิตที่ไม่อยากกลับบ้านให้คนไม่รู้จักฟังเพราะคิดว่าแค่ระบายแล้วก็จะจำทะเบียนไว้ไม่ขึ้นอีกแล้ว

“ถึงแล้วครับ” ชายหนุ่มพูดขึ้นแต่ไม่ได้เปิดประตูลงจากรถ  

“ขอบคุณมากนะคะลุง” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพลางขยับตัวเปิดประตูลงจากรถ ก้าวฉับ ๆ เข้าไปหา รปภ. หน้าบริษัทอย่างมั่นใจ ชายหนุ่มได้แต่มองตามแล้วยกยิ้มที่มุมปากขำ ๆ

“คำก็ลุง 2 คำก็ลุง เฮ้อ...กูแก่ขนาดนั้นจริง ๆ หรือวะ” ชายหนุ่มส่ายหน้าขำ ๆ เอามือลูบคางสาก ๆ เขียวครึ้มของตัวเอง ขับรถกลับไปทางเดิมอีกรอบ พร้อมกับกดโทรศัพท์โทรหาเลขาส่วนตัว

‘สวัสดีครับบอส ถึงไหนแล้วครับ วันนี้มีนัดสัมภาษณ์ผู้ช่วยเลขาตอน 10 โมงตามคำสั่งของท่านประธานนะครับ’ เลขากดรับสายพร้อมรายงานและถามในประโยคเดียวกัน

“คุณสุรชาติครับ สัมภาษณ์ผู้ช่วยเลขาครับ ไม่ใช่ผู้ช่วยรองประธาน” ชายหนุ่มตอบกลับพลางมองบนกับความวุ่นวายเล็ก ๆ นี้

‘แต่บอสครับ คนเซ็นรับตามคำสั่งท่านคือบอสนะครับ จัดการให้เรียบร้อยเถอะครับก่อนที่ระเบิดจะลงออฟฟิศ อย่าเบี้ยวเลยนะครับทูนหัวคนดีเหนือปฐพีของบ่าว พลีส...’ เลขาร่ายยาวทั้งขอร้องในตอนท้ายอย่างน่าสงสารกับคำสั่งของท่านดอกเตอร์รวัช ประธานฝ่ายบริหาร คุณอาของชายหนุ่มที่สั่งให้หลานชายมาสัมภาษณ์ผู้ช่วยเลขาด้วยตัวเองให้แล้วเสร็จก่อนที่ท่านจะกลับมาจากต่างประเทศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

“กูไม่ได้เบี้ยว แต่รถสตาร์ทไม่ติดครับ ...

เจอหน้าก็โบ๊ะบ๊ะกันเลยทีเดียว เอ็นดูผมหงอกลุงด้วยหนู...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 25 ขอดื่มนิดเดียว

    “เพิ่งรู้นะคะว่าคุณจาทานอาหารอีสานรสจัดพวกนี้ได้” หญิงสาวว่าขึ้นพลางมองชายหนุ่มที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารอีสานรสจัดที่บางอย่างเธอกับเพื่อนก็ไม่สามารถทานได้แต่ดูง่ายมากสำหรับจาติรัช *นักเรียนนอกนี่มันนอกตรงไหนวะ นอกเทศบาลละมั้งกูว่าซดปลาร้าคล่องมากพ่อ...* หญิงสาวแอบคิดในใจ“คุณยายผม (หมายถึงแม่ยายคุณอา) เป็นคนอีสาน ผมไปหาบ่อย ๆ” คนพูดสั้นเริ่มพูดยาวขึ้น“ทำงานที่เดียวกับน้องสาวผมหรือครับ” หมอกพยายามผูกมิตรพลางแอบมองหน้าน้องสาวแล้วชำเลืองคนนั่งข้าง ๆ อย่างมีเลศนัย“ครับ ที่เดียวกัน”“ผมทำงานอยู่อีกฝั่งนาน ๆ ถึงจะมีเวลามาหาน้อง ๆ” รองสารวัตรหนุ่มพูดยิ้ม ๆ“บ้านคุณย่าผมก็อยู่อีกฝั่งเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่” ว่าพลางรับแก้วน้ำที่หญิงสาวรินส่งให้มาดื่มจนหมดแก้ว“แล้วนี่คุณจาพักอยู่ไกลมั้ยครับ ผมว่าเราปล่อยสาว ๆ ขายของเราไปดื่มกันต่อดีกว่ามั้ย” คำชวนของพี่ชายที่ชวนรองประธานไปดื่มทำเอาน้องสาวถลึงตาใส่ทันที แต่ที่หมอกชวนดื่มเพราะสังเกตการณ์พูดแบบสั้น ๆ ถามคำตอ

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 24 กินข้าวด้วยกันมื้อแรก

    ตลาดเย็นเป็นสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผู้คนพลุกพล่านตั้งแต่ตลาดเริ่มตั้ง เพราะวันนี้นอกจากจะมีตลาดนัดแล้วยังมีมีดนตรีสดของนักเรียนนักศึกษาให้รับฟังกันฟรี ๆ ในสัปดาห์ต้นเดือนแบบนี้ ทำให้ตลาดมีความครึกครื้นขึ้นมาก 2 สาวเพื่อนรักรีบช่วยกันจัดร้านเสร็จตั้งแต่ก่อนบ่ายให้พร้อมขายก่อนจะพากันนั่งทานมื้อเที่ยงพร้อมกับมองลูกค้าเผื่อมาซื้อน้ำไปด้วย“เออ...หมี่ บิ๊กไบก์โรงทอคันนั้นไม่เห็นหลายวันแล้วนะ แม่บ้านบอกว่าเหมือนเขาไม่กลับมาเลย เข้าไปแอร์ไม่ฉ่ำ” น้ำฝนว่าพลางตักข้าวเข้าปาก“ไปต่างประเทศมั้งออฟฟิศก็ไม่เห็นตั้งแต่วันอังคารที่แล้วแล้วนี่” หญิงสาวตอบพลางตักกับข้าวใส่จานตัวเองไปด้วย“มึงรู้จักเขาแล้วดิ ใครวะ” น้ำฝนถามขึ้นไม่จริงจังนัก“ก็... เชี้ย!” หญิงสาวกำลังจะตอบแต่ต้องเปลี่ยนเป็นอุทานอย่างตกใจ เมื่อคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงมายืนอยู่หน้าร้าน ถึงเขาจะใส่หน้ากากอนามัยปิดหน้ากับหมวกแก๊ป แต่ผิวขาวใสที่พ้นเสื้อยืดกับรูปร่างสูงโปร่งนั้นเธอจำได้ดี และเพิ่งนึกได้ว่าผู้ชายคนนี้คือลูกค้าประจำน้ำเปล่าของร้านเธอก่อนหน้าจะ

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 23 น้องสอนพี่

    Jaguar partหลังจากที่คุณย่ามาที่โรงทอ ตลอดทั้งสัปดาห์รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่เคยจอดอยู่ในที่จอดส่วนบุคคลหายไป มีรถของริชชี่เข้ามาจอดแทนที่โดยที่เธอจะเข้ามาเช้ากว่าปกติแต่ก็หลังจากที่ออฟฟิศเข้ามางานแล้วแทบทุกวัน ซึ่งทำให้ทั้งออฟฟิศต่างมั่นใจกับข่าวลือที่ว่าริชชี่คือว่าที่คู่หมั้นตัวจริงของรองประธานจาติรัช เพราะวันนั้นเธอออกไปทานข้าวพร้อมกับครอบครัวคุณย่า คุณพ่อและคุณอาของชายหนุ่มชายหนุ่มนั่งถอนหายใจอยู่บนห้างส่องสัตว์ในขณะที่น้องชายกำลังนอนอ่านการ์ตูนในแท็ปเล็ตของพี่ชายอย่างสบายใจ“ไหนมึงบอกว่าหยุด 3 วันไงเจ” เสียงทุ้มเอ่ยถามน้องชายที่นอนยกขาขึ้นไขว่ห้างหนุนกระเป๋าของตัวเองอยู่ *แล้วดูแม่งอ่าน นี่มันเป็นหมอหรือเป็นคนไข้กันแน่วะ...* ชายหนุ่มคิดในใจมองน้องชายที่ยังไม่รู้จักโตของตัวเองขำ ๆ“ลาต่อไง ทำงานวันจันทร์” น้องชายตอบแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการมานอนป่าเข้าคืนที่ 3 ของคนทั้งคู่ที่ตรงนี้ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก และจาติรัชก็มาหลายรอบเพราะชอบเป็นการส่วนตัวจนสนิทกับเจ้าหน้าที่อุทยานและพรานนำทางเป็นอย่างดี“กูมีงานต้องทำนะเ

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 22 บอสมาทุกวัน

    ‘ผมหยุด 3 วัน พาผมเข้าป่าหน่อยนะเฮียนะ ให้ไปไหนก็ไปทั้งนั้นแหละยกเว้นค่ายมวยพ่อใหญ่อัฐ ผมไม่อยากเข้าออฟฟิศ’ น้องชายรีบอ้อนทันที เขาเป็นหมอเพิ่งกลับมาจากเรียนต่อปริญญาโทเข้ามาทำงานได้ไม่ถึง 3 เดือนและนาน ๆ จะมีวันหยุดยาวซักครั้ง แต่คุณพ่ออยากให้เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัท เลยเกิดอาการงอแงอยากพัก จึงมาอ้อนให้พี่ชายพาหนีเข้าป่า“อยากเข้าป่า?” พี่ชายถามน้องชายขำ ๆ แล้วหันหลังเดินลงบันไดเพื่อกลับไปที่รถอีกครั้ง‘อือ...บอกทางมาสิครับผมติดไฟแดงอยู่เนี่ยจะให้เลี้ยวซ้ายหรือขวา’“เฮ้อ... กลับบ้านกูเลยเดี๋ยวกูกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน ไปเอารถใหญ่ออก” ว่าจบกดวางสายสวมหมวกกันน็อกอีกรอบเพื่อจะกลับบ้านพลางมองสาวตัวเล็กที่เธอเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดคอกลมตัวใหญ่เดินลงมาจากบนตึก“หมี่!” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกในขณะที่ขายาวก้าวคร่อมมอเตอร์ไซค์สตาร์ทเครื่องเสียงดังกระหึ่ม“คะ?” ขานรับพลางเดินเข้าไปหา *เรียกคล่องจนจะหลอนแล้วนะคะบอส...เอ้อ*“ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่ง” ชายหนุ่มว่

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 21 ชวนเธอกลับบ้าน

    “อย่าบอกใครว่าผมอยู่ในห้องนี้และอย่าบอกใครว่าผมเป็นใคร”“ทำไม?”“การเป็นผมมันไม่สนุก” ชายหนุ่มว่าพลางถอนหายใจ“ถ้าจะอธิบายยาว ๆ พูดภาษาที่ท่านรองถนัดหมี่ก็พอฟังได้นะคะ แต่ขอแบบช้า ๆ หน่อย” หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ ซึ่งจากน้ำเสียงเธอก็พอเข้าใจถึงสิ่งชายหนุ่มบอกและพอจะเดาออกว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขาจากเหตุการณ์วันนี้“คุณย่าผมท่านอยากให้ผมแต่งงานเลยพยายามหาคู่มาให้ ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่เคยเห็นหน้า คนพวกนั้นเอาลูกหลานมาเสนอท่านเพราะหวังหุ้นของที่นี่และริชชี่ก็ไม่ใช่ว่าที่คู่หมั้นผมหรอกนะ” เมื่อรู้ว่าหญิงสาวฟังออกคำพูดก็ยืดยาวจนแทบฟังไม่ทันขึ้นมาทันที“เข้าใจแล้วค่ะ เรื่องที่ท่านรองอยู่ที่นี่หมี่จะไม่บอกใครค่ะ” ว่าจบทำท่าจะเดินออกจากห้องอีกรอบ“หมี่” “คะ?”“ผมชื่อจากัวร์ คนที่นี่เรียกผมว่าบอส แต่ถ้าเจอข้างนอกเรียกผมว่าจา” คำสั่งของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วคิดตามทันทีแล้วต้องตาโตเมื่อนึกอะไรออกมาได้“จากัวร์? คุณคือคนที่เดิ

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 20 เจอกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

    “เมื่อไหร่พี่จาจะกลับมา” คำถามเศร้า ๆ ทำเอาหลานชายที่นั่งฟังอยู่ในห้องอยากออกมากอดคุณย่าของเขาใจแทบขาด แต่ก็ต้องทำใจแข็งเพราะถ้าออกมาตอนนี้คนที่นี่ต้องรู้ว่าเขาอยู่ที่ไทยและจะวุ่นวายไม่จบสิ้น“คุณแม่ลืมหรือครับว่าจามันมีบริษัทของตัวเองต้องดูแล ตอนนี้โรมก็มาทำงานได้มันก็ต้องไปดูแลบริษัทมันสิครับ มันแค่มาช่วยเราเฉย ๆ นะ” คุณสรัญพูดกับคุณแม่ยิ้ม ๆ พลางยกข้อมือดูนาฬิกา “ตอนนี้ 11 โมงกว่าแล้วเดี๋ยวเราออกไปทานข้าวกันเลยดีกว่า ผมจะพาคุณแม่ไปหาหมอเองนะครับ”“ก็ได้ งั้นหนูริชชี่ไปทานข้าวกับคุณย่านะคะลูก” ตอบรับลูกชายแล้วหันไปมาชวนคนที่อยากได้เป็นหลานสะใภ้ยิ้ม ๆ“แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลยนะคะคุณย่า ริชว่า...”“ไม่เป็นไรหรอกหนู ยังไงวันนี้หนูก็มาสายอยู่แล้วนี่ ตอนนี้หนูก็ยังไม่เริ่มทำงานเลย ฉันจะถือว่าเธอลางานช่วงเช้าก็แล้วกัน เอาเป็นว่าไปกินข้าวด้วยกันหมดนี่แหละ ไปชาติลุก” ท่านประธานตัดบทเพราะไม่อยากขัดใจคุณแม่ หันไปชวนเลขาหลานชายและเลยไปเรียกสาวสวยตัวเล็กที่นั่งหน้าประตูไปด้วย “หนูก็ด้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status