การกลับมาเรียนในวัย 24 ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่มีอายุมากที่สุดในรุ่น ยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 4 อายุของเขาก็เกือบ 30 เพื่อนร่วมคณะหลายคนจึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เขามีโลกของตัวเองและมีงานที่ต้องรับผิดชอบ จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในคณะจางลงตามเวลา แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพบรัก เพราะสิ่งที่ทำให้เขาตั้งใจไปมหาวิทยาลัยทุกวัน ไม่ใช่เพื่อนในรุ่น แต่เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้เลยว่ากำลังถูกเฝ้ามองอยู่
เขาเห็นกนกเติบโตขึ้นทุกวัน จากเด็กชายตัวน้อยที่เคยซ่อนตัวอยู่ในโลกของตัวเอง กลายเป็นนักศึกษาที่เริ่มเปิดรับโลกภายนอก แม้จะยังคงมีความเงียบขรึม มีพื้นที่ของตัวเองที่ไม่มีใครล่วงล้ำเข้าไปได้ แต่ทุกครั้งที่เห็นกนกมีรอยยิ้ม เล่นสนุกกับเพื่อนสนิทอีกสองคน พบรักกลับรู้สึกอุ่นใจ เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ไม่รีบร้อน ไม่ต้องการรบกวนชีวิตของอีกฝ่ายมากเกินไป แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ ในใจของเขา
กนกไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ยิ่งเติบโต ความอ่อนโยนและเสน่ห์บางอย่างของเด็กหนุ่มก็ฉายชัดขึ้น จนทำให้พบรักเผลอหลงใหลโดยไม่รู้ตัว เขาตามน้องไปเกือบทุกที่ เฝ้ามองโดยไม่ให้เจ้าตัวรู้ตัว หอพักในที่กนกอาศัยอยู่ถูกจดจำจนขึ้นใจ เพื่อนสนิทสองคนของกนกที่มักอยู่เคียงข้างเป็นคนที่พบรักเห็นบ่อยที่สุด พวกเขาหัวเราะกันเสมอ เล่นกันสนุกสนานในแบบที่เด็กวัยมหาวิทยาลัยควรเป็น
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย…
กนกยังคงพกนิยายเล่มโปรดไปไหนมาไหนเสมอ
ภาพของเด็กหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อน กลายเป็นภาพที่พบรักคุ้นเคยและโอบกอดไว้ในความทรงจำของเขาโดยไม่รู้ตัว
คืนวันนั้น อากาศเย็นลงเล็กน้อย แสงไฟจากเสาไฟริมทางส่องลอดผ่านม่านบางในห้องพักของกนก ทุกอย่างเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง
ภพรักยืนอยู่หน้าประตูห้องของกนก มือของเขาถือกุญแจดอกเล็กที่ได้รับมาจากน้าเพชร เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่คืนนี้... เขาคิดถึงกนกมากกว่าปกติ
เขาไม่ควรจะมาที่นี่
เขาไม่ควรจะไขกุญแจห้องนี้
แต่ความรู้สึกบางอย่างผลักดันให้เขาทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ...
เสียง "คลิก" เบา ๆ ดังขึ้น เมื่อประตูถูกปลดล็อก ภพรักก้าวเข้าไปอย่างระมัดระวัง ห้องของกนกยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอ่อน ๆ ของสบู่และกระดาษหนังสือ กลิ่นที่เขาคุ้นเคยและเฝ้ามองมานาน
กนกลืมตามองตงมาที่เขาดวงตาสีเข้มสะท้อนแสงวาววับ ริมฝีปากเล็กเผยอออกด้วยความสงสัย ภพรักชะงัก หัวใจเต้นกระหน่ำ สมองว่างเปล่าราวไม่มีคำอธิบายใด ๆ ที่จะเหมาะสมกับสถานการณ์นี้และเพราะคิดอะไรไม่ออกเขาจึงโน้มตัวลงไป
จูบกนก...
ริมฝีปากของเขากดลงไปแผ่วเบา แนบสนิทลงบนความนุ่มหยุ่นของริมฝีปากเล็ก ความอบอุ่นที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนทำให้สติของเขาพร่าเลือน เพียงแค่จะแก้สถานการณ์... เพียงแค่เบี่ยงเบนความสนใจ แต่เมื่อริมฝีปากสัมผัสกัน ความหวานละมุนที่ได้รับกลับทำให้เขาถลำลึกลงไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อถอนจูบออกมาเพียงเสี้ยววินาที แต่แล้ว... เขากลับกดจูบลงไปอีกครั้งคราวนี้ลึกซึ้งขึ้น
เขาไม่ควรทำแบบนี้
แต่สัมผัสของกนก... ทำให้เขาหลงใหล
ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนแก้มใส ไล้เบา ๆ อย่างทะนุถนอม ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ถอนจูบออก หอบหายใจเล็กน้อย ก้มลงมองเด็กหนุ่มที่ยังคงนิ่งค้างไปจากสัมผัสเมื่อครู่
ภพรักยกมือขึ้นลูบศีรษะของกนกแผ่วเบา ก่อนจะค่อย ๆ จัดผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วพาน้องกลับไปนอนอย่างอ่อนโยน
ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืน... ริมฝีปากของเขากดลงบนหน้าผากของกนกอย่างแผ่วเบา
"ฝันดีนะ... เด็กน้อยของพี่"
แล้วเขาก็จากไป ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกบางอย่างที่ยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ และเด็กหนุ่มที่นอนนิ่ง โดยที่หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ...
และหลังจากนั้นเขาก็ห้ามตัวเองให้แอบเข้าไปหาน้องไม่ได้อีกเลย
ความสัมพันธ์ระหว่างพบรักกับกนกค่อย ๆ พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น มันเป็นความสบายใจที่ทั้งสองฝ่ายค่อย ๆ มอบให้กันโดยไม่รู้ตัว กนกเริ่มใกล้ชิดและไว้ใจเขามากขึ้น มีบางวันที่พวกเขานั่งอยู่ในห้องเดียวกันโดยไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงแค่แบ่งปันช่วงเวลาเงียบสงบร่วมกันบางครั้ง พบรักแค่นั่งมองเด็กน้อยของเขาก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ โดยที่กนกเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องไล่เขาออกไปจากห้อง มันเป็นความคุ้นเคยที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเขาชอบเวลาที่กนกตั้งใจอ่านหนังสือ สายตาที่แน่วแน่ และคิ้วที่ขมวดมุ่นเล็กน้อยเวลาต้องทำความเข้าใจกับเนื้อหา ทุกครั้งที่เผลอมองน้องนานเกินไป หัวใจของเขามักเต้นแรงขึ้นเสมอ"พิภพอ่านหนังสือสอบแล้วยังครับ?"เสียงใส ๆ ดังขึ้นทำให้พบรักละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊ก หันไปมองเด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน"เห็นมานอนกลิ้งอยู่อย่างเดียวเลย"พบรักยกคิ้วขึ้นทันที "นี่เราว่าพี่มานอนกลิ้งเหรอ?"กนกรีบส่ายหน้าเล็ก ๆ ก่อนตอบเสียงเบา "ไม่ได้ว่าสักหน่อย กนกแค่ถามเฉย ๆ"ริมฝีปากของพบรักยกขึ้นเป็นรอยยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้ผมน้องเบา ๆ แล้ว
การกลับมาเรียนในวัย 24 ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่มีอายุมากที่สุดในรุ่น ยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 4 อายุของเขาก็เกือบ 30 เพื่อนร่วมคณะหลายคนจึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เขามีโลกของตัวเองและมีงานที่ต้องรับผิดชอบ จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในคณะจางลงตามเวลา แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพบรัก เพราะสิ่งที่ทำให้เขาตั้งใจไปมหาวิทยาลัยทุกวัน ไม่ใช่เพื่อนในรุ่น แต่เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้เลยว่ากำลังถูกเฝ้ามองอยู่เขาเห็นกนกเติบโตขึ้นทุกวัน จากเด็กชายตัวน้อยที่เคยซ่อนตัวอยู่ในโลกของตัวเอง กลายเป็นนักศึกษาที่เริ่มเปิดรับโลกภายนอก แม้จะยังคงมีความเงียบขรึม มีพื้นที่ของตัวเองที่ไม่มีใครล่วงล้ำเข้าไปได้ แต่ทุกครั้งที่เห็นกนกมีรอยยิ้ม เล่นสนุกกับเพื่อนสนิทอีกสองคน พบรักกลับรู้สึกอุ่นใจ เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ไม่รีบร้อน ไม่ต้องการรบกวนชีวิตของอีกฝ่ายมากเกินไป แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ ในใจของเขากนกไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ยิ่งเติบโต ความอ่อนโยนและเสน่ห์บางอย่างของเด็กหนุ่มก็ฉายชัดขึ้น จนทำให้พบรักเผลอหลงใหลโดยไม่รู้ต
"น้า… น้าไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไง" น้ำเสียงของเธอสั่นไหว "ความทรงจำในอดีต… มันทำร้ายกนก"เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความรู้สึก "น้ากับสามีพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาเป็นปกติ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีวันเหมือนเดิม… น้าไม่อยากให้กนกต้องเจอกับสิ่งที่อาจกระตุ้นความทรงจำเหล่านั้นอีก"ภพรักกำมือแน่น เขารู้ว่าเธอไม่เชื่อใจเขา… และเขาก็เข้าใจ"แต่ผมอยากสัญญาด้วยความบริสุทธิ์ใจ" เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาฉายแววแน่วแน่ "ขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์… ผมจะไม่ทำให้น้องเจ็บปวด"เพชรมองเด็กหนุ่มตรงหน้า เด็กชายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนเล่นของกนก… ตอนนี้เขาเติบโตขึ้นมากแล้ว แล้วแววตาคู่นั้นก็สะท้อนถึงความชัดเจบางอย่าง แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจ เธอไม่ได้ตอบรับทันที แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ดวงตาของเธอสะท้อนถึงความลังเลและความรักที่มีต่อลูก"น้าไม่อยากให้กนกต้องเจ็บปวดอีก…" เสียงของเธอเบาหวิว "น้าไม่อยากให้ลูกของน้าต้องรับภาระอะไรไปมากกว่านี้ ให้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาเอง"ภพรักพยักหน้าช้า ๆ เขาเข้าใจความกังวลของคุณเพชรดี"แ
ลมยามเช้าพัดผ่านใบมะพร้าว แสงแดดสีอ่อนตกกระทบผิวของภพขณะที่เขายืนมองสวนกว้างเบื้องหน้า ต้นมะพร้าวเหล่านี้… ยังคงยืนต้นแข็งแรงเหมือนเมื่อสิบปีก่อน แต่เจ้าของสวนกลับไม่ใช่เด็กชายวัยสิบสามอีกต่อไป เขากลายเป็นชายหนุ่มที่เติบโตจากบาดแผลในอดีตแป้นเฝ้ามองลูกชายเธอเงียบๆ ตั้งแต่เขากลับมา เขาเปลี่ยนไปมาก ภพไม่ได้เป็นเด็กที่พูดเก่งเหมือนเมื่อก่อน เขาเงียบขึ้น ละเมียดละไมกับความคิดของตัวเอง และเลือกที่จะไตร่ตรองทุกอย่างก่อนพูด เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคอมพิวเตอร์ นั่งทำงานแบบ Work from Home หรือบางวันก็มาช่วยแม่ดูแลสวน แต่แป้นรู้… ว่าในดวงตาของลูกชาย ยังมีบางอย่างที่ค้างคาใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง…"ผมคิดว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยที่ไทยครับแม่"แป้นเงยหน้าขึ้นจากตะกร้ามะพร้าวที่กำลังคัดแยก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางมือลง"ลูกจะไหวเหรอ ทั้งเรียนแล้วก็ทำงาน?"ภพนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆ"ผมอยากเรียนเพิ่มเติมครับ และเก็บเงินไปด้วย" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง "แม่จะได้เหนื่อยน้อยลง ถ้าผมมีงานเพิ่มข
ในวัย 13 ปี… เขากลายเป็นคนที่แตกสลายโดยสมบูรณ์ภาพในความทรงจำตีกลับมาอีกครั้ง...เสียงของพ่อตวาดดังลั่นเป็นสิ่งที่เด็ก 13 ปีไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต...เสียงของแม่กรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาณ...เลือดไหลเป็นสายลงบนพื้นไม้...และร่างของเขาถูกเหวี่ยงกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง เสียงนั้นดังสะท้อนในหัวของเขาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องภพสะดุ้งเฮือก ลืมตาโพลง หัวใจเต้นระรัวจนเหมือนจะระเบิดออกมา"ไม่ ไม่เอาแล้ว... พอเถอะ..."เขาอยากกรีดร้องออกมาดิ้นพราดอยู่บนเตียง ร่างกายสั่นเทาเหมือนคนกำลังจะจมน้ำป้าได้ยินเสียงผิดปกติ เธอรีบเข้ามาดูเขา และพบว่าเขากำลังกระตุกอยู่บนเตียง"ภพ! ใจเย็นๆ นะลูก ป้าอยู่ตรงนี้!"มือของป้ากอบกุมมือของเขาไว้แน่น น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างเงียบงัน เขาต้องฝืนใจมีชีวิตอยู่ ทั้งที่หัวใจของเขาแทบจะตายไปแล้วแม้จะเจ็บปวดแค่ไหน แม้จะร้องไห้ในใจมากเท่าไร แต่ไม่มีวันไหนที่ภพมีน้ำตา เขากัดฟันเผชิญหน้ากับทุกความเจ็บปวด... เพราะเขาไม่อยากให้แม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว แม่คือคนเดียวที่เหล
แป้นกลับมาหาหมอเพชรอีกครั้งในวันถัดมา สีหน้าของเธอดูจริงจังกว่าครั้งก่อน ราวกับต้องการบอกอะไรบางอย่างที่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าควรพูดหรือไม่"คุณเพชรคะ ฉันอยากขอคุยด้วยอีกหน่อย" หมอเพชรเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงลังเลและความหนักใจเธอพยักหน้าให้แป้นนั่งลง รอให้เธอพูดในเวลาที่พร้อมสีหน้าของแป้นฉายความกังวลจนเด่นชัดแต่ก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา"พอดีว่าที่ฉันมาหาคุณเพชรครั้งนี้... ก็เพราะภพนั่นแหละค่ะ"หมอเพชรชะงัก มือที่วางอยู่บนโต๊ะกำแน่นโดยไม่รู้ตัว"ภพเหรอ?" เธอถามกลับด้วยสีหน้าเริ่มตึงเครียด"ค่ะ ตอนนี้ภพกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยแล้ว เขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่นี่""ภพเรียนจบเร็วมากค่ะ""ช่วงสามปีที่รักษาตัว เขาใช้เวลาทุกวันดูแลตัวเองให้หายดี และหลังจากนั้น... เขาก็เข้าเรียน High School ที่สหรัฐฯ และจบเร็วกว่ากำหนด" หมอเพชรพยักหน้าเบาๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเด็กชายคนนั้นจะเติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็งได้ขนาดนี้"แล้วเขาไม่เรียนต่อมหาวิท