แชร์

ตอนที่ 6 ตัวแสดงแทน

ผู้เขียน: dexnarak
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-09 22:24:07

วันต่อมาฉัตรนลินทร์ก็ปรากฏตัวที่มหาวิทยาลัย ทำให้หลาย ๆ คนที่รู้ว่าเธอแต่งงานเมื่อคืนต่างพากันตกใจว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ทั้ง ๆ ที่เวลานี้เธอควรจะพักผ่อน หรือไม่ก็กำลังเก็บเสื้อผ้าไปฮันนีมูน

เมื่อคืนหลังออกจากโรงแรมเธอก็ขับรถกลับกรุงเทพโดยไม่ได้บอกใคร ในเมื่อศิวัฒน์มองว่าการแต่งงานมันไม่ได้สำคัญและเขาพร้อมที่จะหักหน้าเธอ ฉะนั้นเธอก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไว้หน้าเขา และเธอก็รู้ดีว่าหลังจากนี้ เขาก็จะตามมาต่อว่าเธอ

และเป็นอย่างที่เธอคิด เพราะหลังจากงานแต่งผ่านไปสองวันเขาก็ตามมาหาเธอถึงมหาวิทยาลัย

“ออกจากโรงแรมทำไมถึงไม่รอฉัน” เขาบีบต้นแขนของเธอด้วยความโกรธ “ฉันโดนแม่ด่ามาสารพัดเพราะเธอคนเดียว”

“คุณเองยังไม่อยากอยู่ห้องนั้นเลย แล้วคนอื่นเขาจะไม่อยากอยู่เหมือนคุณไม่ได้หรือไง”

“เธอมัน...”

“ทำไมคะ คุณอยากทำอะไรก็ทำไปสิ ฉันไม่ห้ามหรอก” เธอเผชิญหน้ากับเขา “แล้วคุณก็ห้ามยุ่งกับชีวิตของฉันด้วย”

“เธอแน่ใจเหรอว่าเธอจะไม่ห้าม”

“ค่ะ”

เธอไม่ได้สนใจคนข้าง ๆ มากนัก เพราะตอนนี้โทรศัพท์ของเธอกำลังมีสายเข้า

“ฮัลโหลค่ะ พี่กันต์เหรอ อยู่ที่ห้องแล็บใช่มั้ยคะ โอเคฉัตรกำลังไปค่ะ” เธอรับสายจากใครคนหนึ่งแล้วเดินออกไปโดยไม่สนใจศิวัฒน์

เพราะคำพูดในวันนั้นหลังพวกเขาเข้ามาอยู่ในบ้านที่ศศิณีซื้อให้ ประมาณเดือนกว่า ๆ แล้วที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกัน ในบ้านหลังใหญ่ ชั้นบนมีสองห้องเธอกับศิวัฒน์จึงแยกห้องกันนอน ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีคืนไหนที่ศิวัฒน์จะกลับมาบ้าน พวกเขาไม่เคยนั่งโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมกันเลยสักครั้ง ซึ่งฉัตรนลินทร์เองก็ไม่ได้สนใจ

“คุณฉัตรคะ คืนนี้จะกลับหรือเปล่า”

แม่บ้านที่ศศิณีจ้างไว้ให้ดูแลบ้านชื่อกิ่งกาญจน์ อายุห้าสิบปี เธอวิ่งมาถามฉัตรนลินทร์ เพราะหลายครั้งแล้วที่เธอต้องเทอาหารทิ้ง ในวันที่ฉัตรนลินทร์และศิวัฒน์ไม่กลับบ้าน

“กลับค่ะป้ากิ่ง”

เธอหันไปตอบ ก่อนจะขับรถเพื่อไปมหาวิทยาลัย แต่ไม่ทันที่รถของเธอจะพ้นรั้วบ้าน เธอก็เห็นศิวัฒน์ขับรถเข้ามา แต่ไม่ได้ลดกระจกลงไปทักทาย เขาก็เช่นกัน ทั้งคู่ขับสวนไปเหมือนไม่ได้รู้จักกันด้วยซ้ำ

18.00 น

ฉัตรนลินทร์ก็กลับมาจากมหาวิทยาลัย เธอหอบเอกสารที่เอากลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้วเดินเข้าบ้าน

“พี่ไตรอ่ะ”

เสียงของใครบางคนทำให้ฉัตรนลินทร์หยุดแล้วหันไปมอง เป็นจังหวะเดียวกันที่ศิวัฒน์หันมาเห็นเธอเช่นกัน

“นี่มันอะไรกันคะ” ฉัตรนลินทร์ต้องการคำตอบจากใครสักคน เขาคิดอะไรอยู่ถึงได้พากันมาพลอดรักถึงในบ้าน

“ก็อย่างที่เห็น” ศิวัฒน์ยืนขึ้น “มาก็ดีแล้วรับรู้ไว้ซะว่าหลังจากวันนี้ เกลจะมาอยู่กับฉันที่นี่”

“แบบนี้มันเกินไปหรือเปล่า?”

“เกินไปยังไงเหรอ? คนรักกันเขาก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ”

“คุณไม่อายบ้างเหรอ”

“อายทำไม ในเมื่อฉันมันเป็นตัวจริง ไม่ใช่ตัวแสดงแทนแบบเธอ” เกวลินพูดแทรกขึ้น

“ก่อนจะพูดฉันอยากให้คุณคิดก่อนนะ หากคนที่มีทะเบียนสมรสเรียกว่าตัวแสดงแทน แสดงว่าคนที่ไม่มีอะไรเลยแล้วปล่อยให้ผู้ชายหิ้วไปนั่นที หิ้วไปนี่ทีเขาเรียกว่าอะไร”

“หยุดนะ!! เธอไม่มีสิทธิ์มาว่าเกล” เขาตวาดใส่เธอ

“คุณก็ไม่มีสิทธิ์พาเธอเข้ามาในบ้านหลังนี้เหมือนกันค่ะ” ฉัตรนลินทร์เถียงกลับ

“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ในเมื่อเกลเป็นเมียของฉัน” ฉัตรลินทร์รู้สึกหน้าชากับคำพูดของผู้ชายคนนี้ เขาไม่ได้มองว่าเธอคือภรรยายังไม่พอ เขายังไม่ไว้หน้าเธออีก

“แล้วคุณจะให้อยู่กันแบบนี้เหรอ ทุเรศสิ้นดี” เธอส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อคิดตามที่พูด

“ทุเรศยังไง เธอก็อยู่ในห้องของเธอ ฉันกับเกลก็อยู่ในห้องของฉัน”

เกวลินเบะปากใส่ฉัตรนลินทร์ไปหลายครั้ง เมื่อเธอรู้สึกว่าเธอคือผู้ชนะ แต่ฉัตรนลินทร์ก็ไม่ได้สนใจท่าทางต่ำ ๆ นั้น เธอไม่ได้โทษเกวลินแต่เธอกลับโทษศิวัฒน์ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี

“นั่นแหละค่ะที่เรียกว่าทุเรศ บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของเรา คุณแม่ของคุณซื้อให้เราสองคนแต่คุณกลับพาชู้มาอยู่ ไม่เกรงใจฉันก็เกรงใจแม่คุณบ้างนะ”

“นี่เธอ!!” เกวลินโกรธที่โดนฉัตรนลินทร์ด่าทางอ้อม

“ทำไมคะ” เธอตวัดสายตามองเกวลิน “ฉันแค่อยากบอกคุณแค่นั้นว่าคนที่ยุ่งกับคนที่มีทะเบียนสมรสเขาเรียกว่าชู้ เผื่อคุณยังเรียนไม่ถึงกฎหมายข้อนี้”

“หยุดนะ!!” ศิวัฒน์เข้าไปกระชากแขนของฉัตรนลินทร์ด้วยความโกรธ “เธอพูดเองว่าฉันจะทำอะไรก็ได้”

ใช่ เธอพูดแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำถึงขนาดนี้

“...” แม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่แสดงออกให้เขาเห็น

“ถ้าไม่อยากอยู่ในสภาพนี้ก็หย่าให้ฉัน แล้วออกจากชีวิตฉันไป”

“ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่ในชีวิตของคุณนักหรอก”

“ก็หย่าซะ” เขาผลักเธอจนเซไปด้านหลังสองก้าว เอกสารที่อยู่ในมือหล่นกระจัดกระจายบนพื้น จนเธอต้องก้มลงไปเก็บ

เกวลินได้แต่ยิ้มสะใจ เธอชื่นชมแฟนหนุ่มที่ทำให้เธอเห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเลย

“เอาเถอะ ในเมื่อพวกคุณทั้งสองยังไม่อาย แล้วฉันจะอายทำไม เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” เธอลุกขึ้นมายืนเต็มความสูงหลังจากเก็บเอกสารเสร็จเธอยิ้มอ่อน ๆ ให้คนทั้งสอง “ส่วนเรื่องหย่าต้องรอนานหน่อยนะคะ ตอนนี้ฉันยังชอบมันอยู่”

“อีหน้าด้าน ไม่มียางอาย อีชอบแย่ง อีต่ำ สถุน”

“จุ๊ ๆ ฉันเพิ่งรู้นะคะ” เธอทำตาใสใส่เกวลิน “ว่าคุณเป็นพวกที่ชอบด่าตัวเอง”

กรี๊ด!!

เธอกรี๊ดลั่น พยายามจะเข้าไปคว้าตัวฉัตรนลินทร์ที่กำลังเดินขึ้นห้องไป แต่เกวลินก็โดนศิวัฒน์คว้าตัวไว้

“ปล่อยเกลนะ เกลจะเอาเลือดหัวมันออกมันว่าเกลกับพี่ พี่ไม่ได้ยินหรือไง” เธอดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของศิวัฒน์

“พอเถอะ” ศิวัฒน์เอ่ยห้ามเสียงเรียบ

ศิวัฒน์มองหญิงสาวเดินขึ้นบันไดไป จนเธอหายเข้าไปในห้อง เขาได้แต่คิดว่าเขาประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไปจริง ๆ เธอเก็บอารมณ์ได้ดี และมีความอดทนมากกว่าที่เขาคิดซะอีก

19.10 น.

ฉัตรนลินทร์เดินลงมารับประทานอาหารที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้ก็เห็นศิวัฒน์กับเกวลินนั่งทานอยู่ก่อนแล้ว แม้จะไม่ค่อยชอบใจแต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจ เดินเข้าไปนั่งลงเก้าอี้ตัวที่ห่างจากคนทั้งสอง

“คุณฉัตรคะ”

“คะป้ากิ่ง” เธอหันไปมอง

“นี่ของโปรดคุณฉัตรค่ะ ป้าทำไว้ให้”

“ว้าวกำลังอยากกินอยู่พอดี ขอบคุณมากนะคะ” เธอยกมือไหว้พลางรับจานที่มีปลาราดพริกมาจากแม่บ้าน

แต่กลับมีหญิงสาวที่เธอกำลังรู้สึกอิจฉาตาร้อนอยากจะแย่งขึ้นมา เพราะกับข้าวที่เธอทานไม่มีเมนูปลาราดพริก

“พี่ไตรคะ เกลอยากทานปลาราดพริกค่ะ”

“ได้สิ” ศิวัฒน์ขานรับพลางหันมามองฉัตรนลินทร์ “ส่งมาสิ”

“ไม่ค่ะ นี่ของฉัน” เธอขยับจานปลาราดพริกเข้าหาตัว

“เอ๊ะ!! เธอนี่มันยังไง ของแค่นี้ทำมาขี้เหนียว”

“คุณก็บอกคนของคุณสิว่าของแค่นี้ อย่ามาทำเป็นอยากกิน” ฉัตรนลินทร์ย้อน เธอเบะปากใส่ศิวัฒน์ไปหนึ่งที

“เธอนี่ยังไง หาเรื่องจะทะเลาะกับฉันให้ได้ใช่มั้ย”

“ใครกันคะที่หาเรื่อง” เธอเถียงตาใส

ท่าทางรั้น ๆ นั้นทำศิวัฒน์รู้สึกหมั่นไส้เธอยังไงไม่รู้ เขาทำได้แค่กัดปากตัวเองเพื่อระงับอารมณ์

“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาไปทานตัวใหญ่กว่านี้ วันนี้อย่าไปอยากทานเลยนะ”

“แต่เกลอยากทานวันนี้นี่คะ พาไปตอนนี้ได้มั้ย”

“ก็ได้ครับ” เขาเอื้อมมือไปลูบแก้มเกวลินที่กำลังทำหน้าอ้อนใส่เขา “ป้ากิ่งครับเก็บเลย ผมจะไปทานต่อข้างนอกครับ”

หลังทั้งสองลุกออกไปฉัตรนลินทร์ก็ได้แต่ทำท่าเลียนแบบศิวัฒน์ จนกิ่งกาญจน์ที่ยืนมองอยู่ยิ่งรู้สึกเอ็นดูเธอเข้าไปอีก

“คุณฉัตรโอเคใช่มั้ยคะ” เธอถามด้วยความเป็นห่วง

“เรื่องอะไรคะ”

“ก็เรื่องที่คุณไตร...” เธอไม่รู้ว่าสมควรพูดหรือเปล่า

“ทำไงได้ล่ะคะ เขารักกันปานจะฉีกวานดมขนาดนั้น” เธอเปรียบเปรยจนคนฟังเผลอยิ้มออกมา

“ฮ่า ๆ คุณฉัตรนี่เป็นคนอารมณ์ขันเหมือนกันนะคะ”

“ไม่รู้จะเครียดไปทำไมค่ะ” เธอหัวเราะออกมาเบา ๆ “หนูขออะไรป้ากิ่งสักเรื่องได้มั้ยคะ”

“เรื่องอะไรคะ”

“อย่าบอกคุณแม่ก่อนได้มั้ยคะ”

“ทำไมล่ะคะ”

“ฉัตรขอจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองก่อน”

“ถ้าเป็นแบบนั้นคุณฉัตรก็ต้องทะเลากกับคุณไตรอีกนะคะ” เมื่อตอนเย็นที่ทั้งสองคนเถียงกันกิ่งกาญจน์ได้ยินชัดเจน เพราะเธอกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว

“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ป้ากิ่งก็เห็นนี่คะ”       ตั้งแต่ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ทุกครั้งที่ทั้งคู่เจอกันก็มีเรื่องให้เถียงกันตลอด เพราะไม่มีใครยอมใคร จนป้าแม่บ้านมองเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

“ก็ได้ค่ะ” เธอจำใจรับปาก ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็รู้สึกสงสารฉัตรนลินทร์อยู่ไม่น้อย

“ขอบคุณมากนะคะ”

แม้จะพูดออกไปแบบนั้นแต่ฉัตรนลินทร์ก็ยังคิดไม่ออกว่าเธอจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   ตอนที่ 6 ตัวแสดงแทน

    วันต่อมาฉัตรนลินทร์ก็ปรากฏตัวที่มหาวิทยาลัย ทำให้หลาย ๆ คนที่รู้ว่าเธอแต่งงานเมื่อคืนต่างพากันตกใจว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ทั้ง ๆ ที่เวลานี้เธอควรจะพักผ่อน หรือไม่ก็กำลังเก็บเสื้อผ้าไปฮันนีมูนเมื่อคืนหลังออกจากโรงแรมเธอก็ขับรถกลับกรุงเทพโดยไม่ได้บอกใคร ในเมื่อศิวัฒน์มองว่าการแต่งงานมันไม่ได้สำคัญและเขาพร้อมที่จะหักหน้าเธอ ฉะนั้นเธอก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไว้หน้าเขา และเธอก็รู้ดีว่าหลังจากนี้ เขาก็จะตามมาต่อว่าเธอและเป็นอย่างที่เธอคิด เพราะหลังจากงานแต่งผ่านไปสองวันเขาก็ตามมาหาเธอถึงมหาวิทยาลัย“ออกจากโรงแรมทำไมถึงไม่รอฉัน” เขาบีบต้นแขนของเธอด้วยความโกรธ “ฉันโดนแม่ด่ามาสารพัดเพราะเธอคนเดียว”“คุณเองยังไม่อยากอยู่ห้องนั้นเลย แล้วคนอื่นเขาจะไม่อยากอยู่เหมือนคุณไม่ได้หรือไง”“เธอมัน...”“ทำไมคะ คุณอยากทำอะไรก็ทำไปสิ ฉันไม่ห้ามหรอก” เธอเผชิญหน้ากับเขา “แล้วคุณก็ห้ามยุ่งกับชีวิตของฉันด้วย”“เธอแน่ใจเหรอว่าเธอจะไม่ห้าม”“ค่ะ”เธอไม่ได้สนใจคนข้าง ๆ มากนัก เพราะตอนนี้โทรศัพท์ของเธอกำลังมีสายเข้า“ฮัลโหลค่ะ พี่กันต์เหรอ อยู่ที่ห้องแล็บใช่มั้ยคะ โอเคฉัตรกำลังไปค่ะ” เธอรับสายจากใครคนหนึ่งแล้

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   ตอนที่ 5 งานแต่ง

    วันแต่งงานเป็นอีกวันที่ฉัตรนลินทร์รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าวันสำคัญที่ผ่าน ๆ มาของเธอ แม้จะไม่ใช่การแต่งงานที่เต็มใจกันทั้งสองฝ่ายก็ตามช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นและรดน้ำสังฆ์ หญิงสาวที่อยู่ในชุดไทยช่างสวยสง่าจนแขกที่มาร่วมงานต่างก็พากันชื่นชมไม่ขาดปาก ซึ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมากเมื่อถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องจดทะเบียนสมรสกันต่อหน้าแขกที่มาร่วมงาน ทุกคนต่างพากันชื่นชมและยินดีให้กับคู่บ่าวสาว แต่ไม่รวมไปถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอนั่งมองพลางกำหมัดแน่น น้ำตาที่มันคลอหน่วยทำให้เธอต้องกักเก็บมันไว้ เธอจะปล่อยให้มันไหลออกมาตอนนี้ไม่ได้“ตาไตร” ศศิณีก้มลงไปเรียกชื่อลูกชายเบา ๆ “รีบ ๆ เซ็นเข้า”“ทำไมต้องจดทะเบียนด้วยครับ” ศิวัฒน์หันไปกระซิบ “เดี๋ยวก็ต้องหย่า”“นี่ปากแกเหรอ” ศศิณีกัดฟันพูด “เซ็นซะ อย่าให้ฉันต้องใช้ไม้ตาย”ศิวัฒน์จำใจจรดปลายปากกาลงไปเพื่อเซ็นชื่อในใบสำคัญสมรสนั้น ขณะที่เขาวางปากกาลงสายตาของเขาก็มองไปยังคนรักที่นั่งปาดน้ำตาอยู่ เขาห้ามเธอแล้วว่าอย่ามาแต่เธอก็ไม่เชื่อฟัง ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็เขารู้สึกสงสารเธอจับใจ แต่เพราะเงื่อนไขบ้า ๆ นี้ เขาเลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ หวังว

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   ตอนที่ 4 ไม่มียางอาย

    ก่อนงานแต่งหนึ่งสัปดาห์ ศศิณีบังคับให้ลูกชายไปรับฉัตรนลินทร์มาทานข้าวที่บ้าน เพราะเธอรู้มาว่าทุกครั้งที่ให้ลูกชายตัวดีพาว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ศิวัฒน์ไม่เคยพาฉัตรนลินทร์ไปถึงร้านอาหารเลยสักครั้ง“มาแล้วเหรอลูก” ทันทีที่เห็นหน้าว่าที่ลูกสะใภ้เธอก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันตา จนคนที่เดินตามหลังมาต้องขมวดคิ้วแม่ของเขานับวันหายใจเข้าหายใจออกก็เป็นฉัตรนลินทร์เข้าไปทุกที“สวัสดีค่ะคุณป้า”“ป้าอะไรกันล่ะอีกอาทิตย์เดียวก็แต่งเข้าบ้านนี้แล้ว เรียกแม่สิ”“เอ่อ”“อย่ามาทำเป็นอาย ทั้ง ๆ ที่เธอไม่มียางอาย”เพี๊ยะ!!“ตาไตร ทำไมว่าน้องแบบนั้น” เพราะอยู่ใกล้ ๆ มือ เธอเลยฟาดไปที่ต้นแขนของลูกชายหนึ่งที“ก็จริงนิแม่ แม่ไม่รู้เหรอขนาดผมบอกว่ามีแฟนแล้ว เธอยังยืนยันจะแต่งกับผม”“ทำดีมากลูก” เธอหันมาชมว่าที่ลูกสะใภ้“แม่ ผมเป็นลูกแม่นะ”“หึ อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกพูดไม่ให้เกียรติหนูฉัตรต่อหน้าคนอื่น ฉันก็จะไม่ไว้หน้าแกเหมือนกัน” เธอยื่นคำขาดกับลูกชาย “ไปเถอะลูกวันนี้แม่เข้าครัวเองเลยนะ”“นี่ขนาดยังไม่ทันแต่งนะ เธอมันร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดมากเลยฉัตรนลินทร์” เขาบ่นคนเดียวเบา ๆ ก่อนจะเดินตามทั้ง

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   ตอนที่ 3 พรีเวดดิ้ง

    ถึงวันที่ทั้งคู่ต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้ง เพราะงานแต่งใกล้เข้ามาทุกทีงานทุกอย่างเลยดูเร่งรีบไปหมดจนฉัตรนลินทร์เองมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก เพราะเธอต้องขับรถไปกลับกรุงเทพกับบ้านเกิดสัปดห์ละหลาย ๆ รอบ ร่างกายเลยอ่อนเพลีย เช้านี้เธอเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว“ฉัตรไหวมั้ยลูก” ผู้เป็นแม่ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเขามาเห็นลูกสาวกำลังนอนซม“ไหวค่ะแม่”“เลื่อนไปก่อนดีมั้ย”“ไม่เป็นไรค่ะ ถ่ายให้มันเสร็จ ๆ ไป หนูจะได้กลับไปทำงานอีก”“ให้พี่ขับรถไปส่งนะ”“ไม่เป็นไรค่ะ วันหยุดทั้งทีให้พี่พักเถอะ หนูขับไหว”ฉัตรนลินทร์เธอมีพี่ชายหนึ่งคน ทั้งคู่ห่างกันสามปี ซึ่งตอนนี้พี่ชายของเธอก็แต่งงานมีครอบครัวแล้ว แถมยังมีเจ้าตัวน้อยวัยสามขวบหนึ่งคนปี๊น!เสียงแตรรถที่ดังอยู่หลายครั้งทำให้คนในบ้านแปลกใจว่าใครกันนะทำไมถึงไม่มีมารยาทแบบนี้ แต่กลับมีคนหนึ่งที่รู้ดีว่าคนที่ทำพฤติกรรมแย่ ๆ นี้เป็นใคร“หนูออกไปดูเองค่ะ”พูดจบฉัตรนลินทร์ก็ลุกแล้วเดินออกไป และก็ไม่ผิดหวังกับความคิดของตัวเอง เพราะเขาใช่คนที่เธอคิดจริง ๆ“คุณมีธุระอะไรคะ”“วันนี้มีถ่ายพรีเวดดิ้งเธอลืมไปแล้วหรือยังไง”“ไม่ลืมค่ะ”“เห็นเธอยังไม่แต่งตัว”“ฉันไม่รีบนี่คะ”

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   ตอนที่ 2 คนไหนเจ้าสาว

    ณ.ร้านพรีเวดดิ้ง วันนี้ศศิณีให้ศิวัฒน์ไปรับฉัตรนลินทร์เพื่อไปลองชุดแต่งงานที่เธอเคยแวะไปวัดตัวทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ แต่ฉัตรนลินทร์กลับปฏิเสธโดยอ้างว่าเธอมีธุระต่อหลังจากลองชุด เธอจึงขอเอารถไปเองสาเหตุจริง ๆ ที่ฉัตรนลินทร์ปฏิเสธเพราะเธอโดนเขาทิ้งไว้กลางทางสองครั้งแล้ว แต่เธอไม่เคยบอกให้ศศิณีรู้ ซึ่งครั้งล่าสุดคือวันที่เธอมาวัดตัวนี่แหละ เธอจึงเข็ดหลาบไม่กล้าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับผู้ชายคนนี้อีก“เชิญค่ะ” พนักงานสาวเดินเข้ามาต้อนรับเธอทันทีที่ย่างเท้าเข้าไปในร้าน “มาลองชุดใช่มั้ยคะ”“ใช่ค่ะ”“นั่งรอสักครู่นะคะ แล้วเอ่อ...” พนักงานชะเง้อคอมองออกไปนอกร้าน “เจ้าบ่าวล่ะคะ”“อ๋อ กำลังตามมาค่ะ พอดีมากันคนละคัน”“โห...พี่ไตร”หญิงสาวคนหนึ่งอุทานด้วยความตื่นตาตื่นใจ แต่ชื่อที่เธอเรียกทำให้ฉัตรนลินทร์เงยหน้าขึ้นจากนิตยสารในมือ บุคคลที่เห็นทำเธอต้องขมวดคิ้ว ผู้ชายคนนี้ไม่คิดที่จะไว้หน้าของเธอเลยจริง ๆ แต่เธอก็เข้าใจอะไรได้ไม่ยากเพราะแน่นอนว่าเขาคงจะเกลียดเธอ คิดได้ดังนั้นฉัตรนลินทร์ก็ก้มลงไปดูนิตยสารในมือต่อ“ขอเกลลองได้มั้ยคะ”“ได้สิ”“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าสนใจเป็นเซ็ตไหนคะ” พนักงานสาวอีกคนเข้าไปต้อนรั

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   ตอนที่ 1 ทิ้งไว้กลางทาง

    เช้าวันเสาร์เดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว แปลกที่ปกติหญิงสาวมักจะรอวันหยุด เพราะเธอจะได้พักผ่อน แต่นี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอไม่อยากให้วันหยุดมาถึงรถคันงามมาจอดหน้าบ้านของฉัตรนลินทร์ เขาบีบแตรเรียกอยู่หลายครั้ง ส่วนคนด้านในก็รีบวิ่งออกมา เธอใส่รองเท้าที่เตรียมเอาไว้แล้วเดินมาหยุดยืนตรงฝั่งคนขับ เพียงไม่นานกระจกรถก็ถูกลดลง พร้อมกับหน้าตาของคนขับ หากไม่นับที่เขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่เธอ เธอคงจะได้ชื่นชมความหล่อของเขา แต่จะว่าไปถึงแม้เขาจะทำหน้าแบบนั้นก็ไม่ได้บดบังความหล่อของเขาไปได้เลยสักนิด‘คนนี้เหรอคุณไตรลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณศศิณี’ไตร หรือศิวัฒน์ หนุ่มหล่อใบหน้าคมคาย คิ้วหนาเข้มนัยน์ตาสีนิล เจ้าของความสูง 185 เซนติเมตร วัย 33 ปี เขาเป็นลูกคนเดียวของศศิณี ด้วยความเสเพลย์ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม ซึ่งศศิณีมองว่าคงจะถ่ายทอดกันทางสายเลือด แม้ว่าพ่อของเขาจะเสียไปแล้วแต่กลับทิ้งความเสเพลย์ไว้ให้ลูกชายตัวดี ทำให้ศศิณีเริ่มเอือมระอากับพฤติกรรมของลูกชาย จึงอยากให้มีครอบครัวจะได้มีความรับผิดชอบมากขึ้น แต่บังเอิญคนที่ศิวัฒน์เลือกกลับไม่ถูกใจศศิณี...“ยืนทำบื้ออะไรอยู่”ประโยคแรกที่เขาพูดออกมา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status