ホーム / อื่น ๆ / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / ธงที่ไม่มีเจ้าของ – เมื่อตระกูลต้องเลือกระหว่างศรัทธาเก่า หรือเสียงใหม่

共有

ธงที่ไม่มีเจ้าของ – เมื่อตระกูลต้องเลือกระหว่างศรัทธาเก่า หรือเสียงใหม่

作者: mafath9
last update 最終更新日: 2025-06-30 02:05:33

ธงที่ไม่มีเจ้าของ – เมื่อตระกูลต้องเลือกระหว่างศรัทธาเก่า หรือเสียงใหม่

ธงผืนหนึ่งปลิวบนหลังคาศาลาร้างกลางทุ่งหญ้า

สีขาวหม่น ไร้สัญลักษณ์

ไร้ชื่อ

ไร้เจ้าของ

แต่ผู้คนกลับเริ่มมาหยุดยืนที่นั่น

เพื่อเขียนชื่อคนที่ไม่มีใครกล้าสวดให้

และขยับริมฝีปากเบา ๆ

โดยไม่ต้องมีใครนำ

ข่าว “ธงที่ไม่มีเจ้าของ” ลอยไปไกลกว่าลมพัด

จนถึงห้องประชุมของตระกูลใหญ่อีกครั้ง

ในห้องที่แสงไฟสั่นไหว

เสียงแตกของใจเริ่มดังขึ้นทีละคำ

❖ ตระกูลทาเคดะ

เซนจิ ผู้นำหน่วยรบสายดาบ พูดในที่ประชุมอย่างราบเรียบ

“ข้าไม่ศรัทธาเสียง… แต่ข้ากลัว ‘ความเงียบ’ มากกว่า”

“ข้าฝึกทหารมาเพื่อฟังคำสั่ง

แต่ตอนนี้... เด็กเริ่มทำให้ข้าฟังเสียงอื่นที่ไม่ใช่เสียงตนเอง”

ทาเคดะจึงประกาศ “ไม่ต่อต้าน” การจดชื่อในวัดร้าง

และสั่งกองร้อยที่ 5 — กองร้อยที่ไม่มีอาวุธ — อารักขาศาลาเงาอย่างเงียบงัน

❖ ตระกูลยามาโนะอุจิ

โมโรยะหัวเราะอย่างเหยียด

“ข้าไม่เคยสวด... แต่ใช้คำสวดฆ่าคนได้มาทั้งชีวิต”

เขาไม่เลือกฝั่ง

แต่สั่งลับให้ “ผลิตธงขาวที่ไม่มีตรา”

แล้วส่งไปตามหมู่บ้านที่ตกอยู่ใต้การคุกคามของศาสนจักร

“ถ้าข้าครองธงไม่ได้ ข้าจะทำให้ทุกธงกลายเป็นของไม่มีใคร”

❖ ตระกูลฟุยุงิ

นักกลอนเงาผู้นำเงียบ

ออกบทกลอนใต้ธงขาวผืนแรก

“ไม่มีสัญลักษณ์ แต่มีเสียง

ไม่มีแผ่นดิน แต่มีคนยืน

ไม่มีใครสั่ง แต่มีคนกล้าพูด”

มีรายงานว่า ธงผืนนี้ถูกนำไปกางหน้าอารามที่ห้ามพูดชื่อผู้ตาย

และเช้าวันถัดมา ชื่อของคนตาย 308 คนปรากฏบนพื้นหน้าธง

ด้วยชอล์ก… ไม่ใช่เลือด

❖ ตระกูลคุเสะ

เคียวยะเริ่มสั่ง “สงครามกวาดธง”

เขาให้เหตุผลในที่ประชุมสภาว่า

“ธงที่ไม่มีเจ้าของ ยิ่งอันตรายกว่าธงศัตรู”

เขายื่นข้อเสนอให้ตระกูลอื่นร่วมกันประณามธงนี้

และให้เรียกศาลาเงาว่า “ศาลาแห่งปีศาจเสียง”

แต่ไม่มีใครกล้าพูดตาม

เพราะทหารของตนเริ่มไปยืนเงียบใต้ธงนั้นในตอนกลางคืน...

ในอีกฝั่งหนึ่งของภูเขา

เด็กกลุ่มหนึ่งในหมู่บ้านฮิโนเอะ เริ่มฝึกเขียนธงผืนเล็กด้วยตนเอง

ไม่ใช่ผืนผ้า

แต่เป็นเศษกระดาษ

พวกเขาเขียนชื่อของผู้ตาย แล้วผูกไว้กับกิ่งไม้

ลมพัด... กระดาษเหล่านั้นกระพือ

เหมือนเสียงกระซิบของผู้ที่ไม่มีใครยอมจำ

ซาโยะเก็บเศษกระดาษหนึ่งขึ้นจากพื้น

เธออ่านข้อความนั้นช้า ๆ

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคือใคร

แต่ถ้าเจ้าคิดถึงใครบางคนอยู่เหมือนข้า

เราก็เหมือนกัน... ถึงแม้จะไม่เคยเจอกันเลย”

ฮากุโร่ยืนข้างเธอ

เขากล่าวเบา ๆ ว่า

“ไม่ต้องการธง...

เพราะตอนนี้ ทุกใจคือธงที่มีเสียงของตนเอง”

ค่ำวันนั้น

เมื่อดวงจันทร์ลอยเหนือหมู่บ้าน 3 แห่งที่เพิ่งถูกศาสนจักรบุก

ไม่มีเสียงกรีดร้อง

ไม่มีเสียงสวด

แต่มีเสียงเด็กพูดชื่อของแม่

แล้วอีกเสียงพูดชื่อพ่อ

จากนั้นอีกสิบเสียงพูดชื่อคนที่ตนรัก

เงาคนยืนรวมกัน

เงาเหล่านั้นไม่มีเจ้าของ

แต่กลายเป็น “ธง”

และบนแผนที่ของฮากุโร่

เขาไม่ได้ขีดวงกลมหรือกากบาทอีกต่อไป

เขาแค่ทำเครื่องหมายรูป เงาเล็ก ๆ ใต้จันทร์เสี้ยว

เพราะในที่สุด

เสียงที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ

กลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของผู้ที่เคยคิดว่าควบคุมได้ทุกบทสวด

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   การตอบสนองของศาสนจักรส่วนกลาง – พิธีล้างเงา

    การตอบสนองของศาสนจักรส่วนกลาง – พิธีล้างเงาภายใน โคโตคุอิน — หอพิธีศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของศาสนจักรกลางเสียงฆ้องทองสามชั้นดังก้องสะท้อนกำแพงหินพระอาวุโส 9 รูป รวมตัวในพิธีที่ไม่ได้จัดมานานกว่า 37 ปีบนแท่นสูงกลางหอ — สมุดที่ไม่มีชื่อผู้เขียนถูกวางไว้จดหมายของเด็กจากหมู่บ้านชายแดนบทสวดที่ผิดจากตำราและเศษกระดาษเปื้อนหมึกดินถูกเรียงรายพระเร็นชิน ผู้นำสายเคร่งที่สุด กล่าวนำอย่างหนักแน่น“สิ่งใดที่เติบโตจากรากผิด ย่อมกลายเป็นวัชพืชและแม้เงาจะไร้รูปร่าง — มันก็มีพิษเมื่อเกาะอยู่บนหัวใจผู้คน”เขาเสนอให้ประกาศ "พิธีล้างเงา"เป็นพิธีกรรมใหญ่ประจำฤดูใบไม้ร่วงทำในวัดทุกแห่งที่ได้รับ “ข่าวลือศรัทธานอกบท”พิธีล้างเงา คืออะไร?พระอาวุโสจะเดินทางไปยังวัดที่ต้องสงสัยจะเผา "สมุดที่ไม่มีตรา"จะให้ผู้คนกล่าว "บทสาบานสัจจะ" ต่อหน้าพระใหญ่และทุกชื่อที่ถูกจารโดยไม่ได้รับอนุญาต… จะถูกลบด้วยหมึกดำแห่งการปฏิเสธแม้ภายนอกจะดูเป็นพิธีปลอบขวัญแต่เนื้อแท้คือการลบความทรงจำอย่างเป็นทางการกลุ่มพระสายสายลมเงาถูกขึ้นบัญชีลับวัดชายแดนหลายแห่งถูกสั่งย้ายผู้อาวุโสบางคนหายตัวในคืนก่อนพิธีเสียงสะท้อนเริ่มดังจา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   การประชุมศรัทธา – เมื่อ 12 ตระกูลเริ่มเรียกศาสนจักรมาชี้แจง

    การประชุมศรัทธา – เมื่อ 12 ตระกูลเริ่มเรียกศาสนจักรมาชี้แจงศาลาเซย์โรกุ บนยอดเนินฮานะงิคือที่ประชุมใหญ่แห่งตระกูลผู้นำทั่ว 9 แคว้นไม่มีพิธี ไม่มีการบรรเลงขลุ่ยรับแขกมีเพียงเสียงกระดิ่งทองคำเรียกผู้แทนทั้ง 12 ตระกูล ให้ปรากฏตัวในวันเดียวกันเก้าอี้ตรงกลางว่างเปล่า — นั่นคือที่ของศาสนจักรผู้แทนจากวัดหลวงใหญ่ 5 สายถูกเชิญ ไม่ใช่ในฐานะผู้สั่งแต่ในฐานะผู้ตอบไดเมียวอินาริแห่งตระกูลฮานะโมโตะเป็นผู้นั่งหัวโต๊ะแม้ปกติไม่ยุ่งกับพิธีกรรมแต่เมื่อเสียง “เด็กผู้ไม่รู้จักบทสวด” ดังไปถึงประตูปราสาทเขากล่าวเพียงว่า:“เมื่อประชาชนไม่เข้าใจศาสนา — นั่นคือปัญหาของผู้นำแต่เมื่อศาสนาไม่ฟังประชาชน — นั่นคือภัยของแผ่นดิน”ตัวแทนศาสนจักรใหญ่ พระโชอุนก้าวเข้าสู่ศาลาพร้อมคัมภีร์หนาแน่นเขาเริ่มกล่าวด้วยภาษาทางการ:“บทสวดคือรากของความสงบการเบี่ยงจากบท หมายถึงความวุ่นวาย”แต่ยังไม่ทันจบ —ท่านหญิงริวโนะ แห่งตระกูลโคมะอินุวางสมุดเปื้อนหมึกลงบนโต๊ะกลาง“แล้วชื่อของลูกข้าที่ไม่มีบทสวดท่านเรียกว่าความวุ่นวายหรือ?”เสียงฮือทั่วศาลาขุนศึกคิริโนะแห่งตระกูลคุเสะผู้ไม่เคยเข้าร่วมพิธีใดกล่าวเรียบ ๆ โดยไม

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   หอคอยที่เริ่มฟังลม – เมื่อศาสนจักรเริ่มเงี่ยหูฟังจากขอบแผ่นดิน

    หอคอยที่เริ่มฟังลม – เมื่อศาสนจักรเริ่มเงี่ยหูฟังจากขอบแผ่นดินศูนย์กลางศาสนจักรอยู่ที่ โซเรียวเท็นหอคอยสีขาวสูง 7 ชั้น เปรียบดั่ง “หูของเทพเจ้า”สร้างขึ้นเพื่อมองลงมาเหนือแผ่นดินทั้งหมดไม่มีเสียงใดเล็ดลอดเข้าถึงได้ เว้นแต่ผ่านกระบวนการรับรองแต่ในปีนี้...ลมเหนือจากชายแดน ยามากาตะพัดพาเสียงที่ไม่มีตราประทับเข้ามาไม่ใช่รายงานทางการไม่ใช่จดหมายทางศาสนาแต่เป็น สมุดเปื้อนหมึกเด็กที่บันทึก “ชื่อของคนที่ไม่มีบทสวด”พระอาวุโส ชูเคน ผู้ขึ้นนั่งกรรมการศรัทธาอาวุโสอ่านหน้ากระดาษอย่างช้า ๆไม่มีบทสวด ไม่มีตราแต่มีบรรทัดหนึ่งที่ทำให้เขาเงียบงัน“แม่ข้าไม่มีชื่อในวัดแต่ข้ายังพูดชื่อแม่อยู่ทุกคืนถ้านี่คือบาป… บาปนี้ข้ายินดีแบกตลอดชีวิต”ที่ประชุมกรรมการเริ่มมีการพูดถึง “ศรัทธาเงา”บางคนกล่าวว่า“นี่คือภัยร้ายของศาสนาใหม่ที่ไร้แบบแผน”แต่บางคนเงียบ—เงียบเพราะเคยได้ยินเสียงเดียวกันจากหน้าประตูวัดของตนเสียงของหญิงชราเสียงของเด็กที่ไม่ยอมลืมชื่อพ่อเสียงที่ไม่เคยเข้าพิธี แต่ไม่เคยหายไปชูเคนเสนออย่างระมัดระวัง“บางที... หอคอยอาจต้องเปิดหน้าต่างบางบานเพื่อฟังว่า ข้างล่างกำลังพูดอะไรกันแน่

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   กำแพงวัดที่เริ่มสะท้อนเสียงกลับ – เมื่อบทสวดกลายเป็นการตั้งคำถาม

    กำแพงวัดที่เริ่มสะท้อนเสียงกลับ – เมื่อบทสวดกลายเป็นการตั้งคำถามภายในวัดเอย์จินหนึ่งในวัดที่ขึ้นชื่อว่า “มั่นคงต่อศาสนจักร”พระหนุ่มชื่อ มิโดริน เริ่มสวดผิดเพียงหนึ่งคำในพิธีศักดิ์สิทธิ์เดือนที่แล้ว เขาอ่านว่า“ขอจงปลดปล่อยผู้จากไป ด้วยการเรียกชื่อแท้ของเขา…”แทนที่จะกล่าวว่า“ขอจงลบชื่อของผู้พลาด เพื่อไม่ให้ศรัทธาสั่นคลอน”ผิดเพียงคำเดียวแต่มันดังก้องในหูของเด็กสามคนที่กำลังฟังอยู่และเงียบเกินไปสำหรับหูของพระอาวุโสที่ไม่เคยคิดจะตั้งคำถามหลังพิธีมิโดรินถูกเรียกเข้าห้องสอบสวนแต่เมื่อถูกถามว่า“เจ้าต้องการเปลี่ยนบทสวดหรือ?”เขาตอบเพียงว่า“เปล่า ข้าเพียงอยากรู้ว่า…ใครเขียนบทสวดนี้?”คำถามนั้น ไม่ใช่การต่อต้านแต่สำหรับศาสนจักร… มันคือระเบิดเสียงกระซิบเริ่มก้องในวัดอีกหลายแห่งเด็กที่เคยท่องตามพระเริ่มถามว่า“ทำไมแม่ของข้าจึงไม่มีชื่อในคำสวด?”“ทำไมพี่ชายที่ตายสงครามจึงถูกเรียกว่า ‘ไร้ศรัทธา’?”พระบางรูปตอบไม่ได้พระบางรูปเริ่มหลบสายตาพระบางรูป… กลับเอาบทสวดฉบับเก่าออกมาอ่านลับ ๆ ใต้แสงเทียนวัดทาโฮะพระหญิงนามว่า เรย์ชินขึ้นเทศน์หน้าคนเกือบร้อยแต่แทนที่จะกล่าวตามตำรานางเอ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ศาสนจักรที่เริ่มแตกร้าว – เมื่อพระต้องเลือกระหว่างตำรา กับชื่อที่เคยรู้จัก

    ศาสนจักรที่เริ่มแตกร้าว – เมื่อพระต้องเลือกระหว่างตำรา กับชื่อที่เคยรู้จักณ วัดฮงเซนซังศูนย์กลางอำนาจทางจิตวิญญาณของศาสนจักรแห่งรัฐมีพระกว่า 300 รูปประจำการบทสวดถูกบรรจงเขียนใหม่ทุกปีตามนโยบาย "การควบคุมคำ"แม้เพียงคำหนึ่งผิด… ก็นับว่าเป็นความผิดทางศาสนาแต่ในปีที่เสียงเงาเริ่มสะท้อนกลับมีบางบท… ที่พระไม่กล้าอ่านเพราะมีบางชื่อ… ที่แม้แต่พระก็ไม่กล้าลืมพระชราองค์หนึ่ง ชื่อ "อุนเกียว"เคยเป็นครูใหญ่ในวัดแห่งนี้กว่า 40 ปีท่องบทสวดจนจำได้แม้ในความฝันแต่เมื่อมีคำสั่งลบชื่อ “อาคาเนะ” ออกจากบันทึกพิธีมือของเขากลับสั่นเกินกว่าจะหยิบพู่กัน“ข้าเป็นคนให้ชื่อเด็กคนนั้น”“วันนี้ข้าจะเป็นคนลบมันออกงั้นหรือ?”ในค่ำคืนนั้นเขาไม่สวดบทที่ถูกสั่งให้สวดแต่สวดชื่อของศิษย์ผู้จากไป ด้วยเสียงเบาที่สุดให้ได้ยินเพียงตนเองทว่าเสียงนั้นกลับดังกว่ากลองยามเช้าในใจเขาพระรุ่นใหม่บางกลุ่ม เริ่มแอบเก็บ “สมุดชื่อ”ซ่อนไว้ใต้ฐานพระบางเล่มเขียนด้วยน้ำหมึกบางเล่มเขียนด้วยเลือดจากนิ้วตนไม่มีใครกล้าพูดในที่แจ้งแต่ในลานวัดยามไร้ผู้คนมีเสียงกระซิบชื่อเหล่านั้นเหมือนบทสวดลับในที่ประชุมระดับสูงของศาสนจักร

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทสนธิสัญญาเงา – เมื่อเงาเริ่มเป็นพันธมิตร

    บทสนธิสัญญาเงา – เมื่อเงาเริ่มเป็นพันธมิตรคืนเดือนดับใต้สะพานไม้เก่าที่เชื่อมเขตชายแดนสามแคว้นเงาของคนสิบกว่าคนประชุมโดยไม่มีโคมไฟมีเพียงเสียงลมหายใจ และกระดาษในมือผู้แทนจากตระกูลยามากาตะ, คุเสะ, ชิราโนะ, โทคิโนะ และมินาเสะรวมตัวกันในสิ่งที่ไม่ได้เรียกว่ากองทัพไม่ได้เรียกว่าสภาแต่พวกเขาเรียกว่า“วงแห่งการจดจำ”ไม่มีตราประทับไม่มีชื่อเจ้าภาพมีเพียงสิ่งเดียวที่ร่วมกัน — รายชื่อผู้ถูกห้ามพูดถึงจากศาสนจักรซาโยะนั่งเงียบในเงาข้างกายฮากุโร่ซึ่งยังคงปิดหน้าเธอพูดขึ้นเพียงประโยคเดียวเสียงนั้นเยือกเย็นแต่ชัดเจน“เราจะไม่สู้ด้วยดาบเราจะสู้ด้วยสิทธิในการเรียกชื่อผู้ตายว่า ‘มนุษย์’”ชายจากตระกูลโทคิโนะถาม“หากศาสนจักรตอบโต้มาด้วยไฟลุก… เราจะมีอะไรป้องกัน?”ฮากุโร่ยื่นผืนผ้าขาวให้บนผืนผ้านั้น มีชื่อหลายร้อยชื่อปักด้วยด้ายดำเขาพูดว่า“เราจะไม่ป้องกันแต่จะสะท้อนให้ทุกคนเห็นว่าไฟนั้นเผาอะไรอยู่จริง ๆ”บทสนธิสัญญาเงาถูกเขียนด้วยหมึกสีน้ำตาลแดงจากเปลือกไม้ไม่มีลายเซ็นไม่มีวันเวลาแต่ทุกคนในวงรู้ว่าคืนนี้... พวกเขาไม่ได้มาคุยแต่กำลังลงมือร่วมสร้างเงาให้มีร่างหนึ่งในนั้นเสนอ“เราจ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status