ตอนที่ 71 ฉลองความสำเร็จและรักที่เบ่งบาน

ตอนที่ 71 ฉลองความสำเร็จและรักที่เบ่งบาน

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากคืนอันแสนหวานที่คอนโด อลิสาและคีรินทร์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นและมีพลังเต็มเปี่ยม เมฆหมอกแห่งความกังวลและความตึงเครียดที่เคยปกคลุมชีวิตพวกเขามานานได้จางหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่สาดส่องเข้ามาในห้อง นำพาความอบอุ่นและประกายแห่งความหวังมาสู่เช้าวันใหม่

วันนี้คือวันสำคัญอีกวันหนึ่ง เป็นวันเฉลิมฉลองความสำเร็จของโปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการ งานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ ณ ห้องบอลรูมของโรงแรมหรูใจกลางเมือง

จุดประสงค์หลักคือเพื่อประกาศความสำเร็จและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่เคยได้รับผลกระทบจากข่าวลือและความวุ่นวายที่ผ่านมา

คีรินทร์สวมชุดสูทสีเข้มที่ตัดเย็บอย่างประณีต ทำให้เขายิ่งดูสง่างามและภูมิฐาน ส่วนอลิสาในชุดราตรีสีงาช้างที่ออกแบบมาอย่างเรียบหรู แต่ขับเน้นความงามสง่าและอ่อนโยนของเธอได้อย่างลงตัว ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นเผยให้เห็นลำคอระหง และใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มที่สดใสที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เมื่ออลิสาและคีรินทร์ปรากฏตัวขึ้นในงาน เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้อง ผู้คนมากมายต่างจับจ้องมาที่พวกเขาด้วยสายตาชื่นชมและให้เกียรติ ทุกคนต่างรู้ดีว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ ทั้งคู่ต้องผ่านอะไรมาบ้าง พวกเขาเดินเคียงข้างกันขึ้นไปยังเวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม

“สวัสดีครับท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน” คีรินทร์เริ่มต้นกล่าวเปิดงานด้วยน้ำเสียงกังวานและเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

“วันนี้เป็นวันที่พวกเราทุกคนภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้ประกาศความสำเร็จของโปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของเรา”

เขาหยุดชั่วครู่ แล้วหันไปมองอลิสาที่ยืนอยู่ข้างๆ รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 “โปรเจกต์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างอาคาร แต่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น ความสามารถ และความซื่อสัตย์” เขาเน้นย้ำคำว่าความซื่อสัตย์เป็นพิเศษ

 “และบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดนี้ ก็คือคุณอลิสา หัวหน้าสถาปนิกผู้ดูแลโปรเจกต์นี้อย่างใกล้ชิดครับ”

อลิสาได้รับคำชื่นชมและเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่มอีกครั้ง ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเล็กน้อยด้วยความเขินอายแต่ก็เต็มไปด้วยความสุขและภาคภูมิใจ คีรินทร์โอบเอวเธออย่างเป็นธรรมชาติและมั่นคง สายตาที่เขามองเธอนั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวเธอ และความรักอันล้นปรี่ที่ไม่อาจปกปิดได้ มันเป็นสายตาที่บ่งบอกว่าเขาภูมิใจในตัวเธอมากแค่ไหน และรักเธอมากเพียงใด

อลิสารับไมโครโฟนจากคีรินทร์ด้วยรอยยิ้ม “ดิฉันขอขอบคุณคุณคีรินทร์ ผู้บริหารทุกท่าน ทีมงานทุกคน และที่สำคัญคือลูกค้าที่ไว้วางใจให้พวกเราได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกนี้ขึ้นมาค่ะ” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจและนอบน้อม “โปรเจกต์นี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ก็เพราะความร่วมมือร่วมใจของทุกคนค่ะ”

การกล่าวสุนทรพจน์ดำเนินไปอย่างราบรื่น อลิสาและคีรินทร์นำเสนอภาพการทำงานตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่โปรเจกต์สำเร็จ พร้อมกับชี้แจงถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้นและวิธีที่พวกเขาแก้ไขมันอย่างโปร่งใส ทำให้ผู้ถือหุ้นและลูกค้าต่างรู้สึกเชื่อมั่นและวางใจในบริษัทมากยิ่งขึ้น

ในระหว่างที่ผู้คนกำลังเดินพูดคุยกันอย่างมีความสุขในงานเฉลิมฉลอง คีรินทร์ดึงอลิสาเข้ามาใกล้ตัวเล็กน้อย เขาโน้มตัวลงกระซิบข้างหูเธอเบาๆ “วันนี้ลิซสวยที่สุดเลยนะครับ”

อลิสายิ้มหวาน เธอยื่นมือไปบีบมือเขาเบาๆ “พี่คีก็หล่อมากเหมือนกันค่ะ”

“พี่รักลิซนะ” คีรินทร์กระซิบอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง “รักมากจริงๆ”

อลิสาเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยประกายแห่งความรักและความสุข “ลิซก็รักพี่คีค่ะ รักมากที่สุด”

โมเมนต์เล็กๆ เหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางสายตาผู้คนนับร้อย แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษสำหรับพวกเขาเพียงสองคน คีรินทร์ยังคงโอบเอวอลิสาไว้แน่น แสดงให้เห็นถึงการเป็นกำลังใจที่ไม่มีวันห่างหายและเป็นเจ้าของที่ชัดเจน อลิสาเองก็ซบศีรษะกับไหล่เขาเบาๆ อย่างออดอ้อน ทำให้ทุกคนที่เห็นต่างก็รู้สึกยินดีและชื่นชมในความรักที่แข็งแกร่งของพวกเขา

มิ้นท์และปกรณ์เดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง

“สุดยอดไปเลยนะ” มิ้นท์พูดพลางตบบ่าอลิสาเบาๆ “สมกับที่เหนื่อยมาตั้งนาน”

“ใช่เลยครับลิซ คีรินทร์” ปกรณ์เสริม “พวกคุณทั้งสองคนพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าความสามารถที่แท้จริงเป็นยังไง”

อลิสาและคีรินทร์ยิ้มตอบกลับให้เพื่อนทั้งสอง พวกเขารู้สึกขอบคุณที่มีเพื่อนที่ดีคอยอยู่เคียงข้างเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในยามสุขหรือยามทุกข์

ชีวิตของทั้งคู่กลับมาสงบสุขและเต็มไปด้วยความสุข ความรักที่ผ่านพ้นวิกฤตอันโหดร้ายมาด้วยกันยิ่งเบ่งบานและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทุกความกังวลและความเครียดที่เคยมีได้มลายหายไปสิ้น แทนที่ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ในงานเฉลิมฉลองนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของโปรเจกต์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะแห่งความรักและความซื่อสัตย์ ที่สามารถก้าวข้ามผ่านทุกอุปสรรคและแผนการร้ายใดๆ ได้ แสงไฟที่ส่องสว่างไสวในงาน เฉกเช่นเดียวกับความรักของอลิสาและคีรินทร์ที่เปล่งประกายเจิดจ้า และพร้อมจะส่องนำทางพวกเขาไปสู่อนาคตที่สดใสร่วมกัน