เมื่อเช้าหลังจากส่งเธอเสร็จ ผมก็รีบเข้าไปเคลียร์งานที่บริษัทเพื่อจะได้ทันเวลาพามามี๊ออกมาเปิดหูเปิดตาทานมื้อกลางวันข้างนอกทำหน้าที่แทนป๊าที่ติดประชุมสำคัญของบริษัทไอ้เลนส์ และถือโอกาสกลับไปเปลี่ยนรถด้วย โดยเลือกเป็นรถสปอร์ตสีดำราคารองจากรุ่นนี้ลงมา เพราะไม่อยากให้วาดฝันกลายเป็นจุดสนใจเวลาที่ลงจากรถของผม
แค่ตอนที่ทุกอย่างระหว่างเรายังคงเป็นความลับไม่มีใครรู้เท่านั้น แต่ผมก็ไม่ได้อยากจะปิดอะไรขนาดนั้น "ถ่ายเสร็จกี่โมง" "อืม...สองทุ่ม ถ้าไม่ต้องซ่อมนะ" เธอเช็คตารางงานดูให้แน่ใจอีกครั้ง "ฉันรอตรงนี้" ผมปรับเบาะหนังให้เลื่อนไปด้านหลังเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบไอแพดมารอประชุมออนไลน์ "กลับเลยได้นะ" "ขัดใจจังวะ" "งั้นก็แล้วแต่" "เดี๋ยว" ผมเรียกเธอไว้เพื่อจะหยิบเสื้อคลุมหลังเบาะให้ เผื่อข้างในห้องถ่ายเปิดแอร์เย็นเกินไป "จะทวงค่ารถอีกรึไง" "มีสักสองร้อยปะ หึ" แต่พอเห็นเธอมองตาเขียวใส่ก็อดอยากจะแกล้งสักหน่อยไม่ได้ "วันหลังไม่ต้องมาส่งเลยนะ" ท่าทางไม่ยอมกันพองขนเหมือนเม่นแคระอย่างกับแกะ ทำผมต้องยื่นนิ้วไปเคาะหลังจมูกเบาเบาอย่างมันเขี้ยว เพราะถ้าเกิดทำให้เธอมีรอยตอนนี้ คงได้โดนบีบคอแน่ "เอาเสื้อไปคลุมด้วย" "อ่อ โอเค" "ขอบคุณก่อน" "โอ๊ยลุง เรื่องเยอะจังนะ" มองบนรอบที่สิบของวัน เวลาอยู่กับคนอื่นเธอทำท่าทางแบบนี้บ้างมั้ยนะ ฟอด แต่แล้ว...เธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่ได้คาดหวังแค่อยากให้เธอพูดจาน่ารักๆ อ้อนกันนิดนิดหน่อยหน่อยก็พอ เวลาที่จมูกสวยๆ กดลงบนแก้มหอมๆ ของผม ถึงจะดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่นั่นก็สามารถทำให้หัวใจแกร่งสั่นไหวได้อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก๊อก ก๊อก ก๊อก เกือบสามชั่วโมงที่ผมนั่งประชุมและทำงานรอเธออยู่ในรถ จนกระทั่งเสียงเคาะกระจกฝั่งข้างคนขับดังขึ้นเรียกความสนใจให้ผมละสายตาจากจอสี่เหลี่ยมหันไปมองและกดปลดล็อคประตูให้คนที่รอรีบขึ้นมานั่งข้างกัน "เดี๋ยวนะ ทำไมใส่ชุดนี้" เป็นชุดออกกำลังกายแบบรัดรูปที่มีเพียงสปอร์ตบราโชว์หน้าท้องและขาสั้นสีชมพูอ่อน ยังดีที่รู้จักใส่เสื้อคลุมที่ผมหยิบให้เดินออกมา "ชุดที่ถ่ายงานชุดสุดท้าย ขี้เกียจเปลี่ยนอะ" "มาถ่ายงานอะไรนะ" ถึงกับต้องถามย้ำอีกครั้ง "โฆษณาไง ฉันบอกแล้วนี่" "โฆษณาอะไรวะ ต้องใส่ขนาดนี้" ที่ผมเคยดูในทีวีไม่เห็นมีใครใส่ชุดแบบนี้ "นี่ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลย เกิดลูกค้าผ่านมาได้ยิน ฉันโดนเลิกจ้างแน่" มือเล็กยื่นมาตีปากผมอย่างไม่แรงมากและปิดเอาไว้ไม่ให้พูดต่อ มือเล็กแค่นี้จะทำอะไรผมได้ คนโตกว่าจับมือนุ่มนิ่มออกจากปากมาวางไว้บนหน้าตัก มองเธออย่างคาดโทษจนน่าขนลุก ก่อนจะถอยรถพาเธอกลับคอนโดทั้งที่อารมณ์ยังขุ่นมัวอยู่อย่างนั้น จนเธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับได้แต่ลูบขาของเขาเล่นเบาเบา จุ๊บ "โกรธอะไรฝันหรอ" ทันทีที่ประตูปิดลงคนตัวเล็กก็โผลเข้าไปกอดเอวสอบอย่างออดอ้อนเขย่งปลายเท้าเล็กน้อยยื่นปากไปกดจูบปลายคางของเขาอย่างซุกซน เธอจะรู้ตัวบ้างมั้ยว่าสิ่งที่เธอทำกำลังทำให้อารมณ์ของเขาที่ถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่อยู่ในรถพร้อมระเบิดออกมาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า "สรุปถ่ายโฆษณาอะไร" ก่อนจะจับเธอฟาดก้นสักที ขอถามให้หายข้องใจสักหน่อย "สปอร์ตบรา" คำตอบของเธออาจะฟังดูธรรมดา เพราะนั้นคืองาน แต่สำหรับผมคือ 'ไม่' เหมือนเธอจะคิดว่าตอบในสิ่งที่ผมพอใจแล้วถึงได้หันหลังกลับเตรียมจะเดินไปห้องครัว แต่ยังช้ากว่ามือปลาหมึกของผมที่คว้าเอวบางเข้ามาจนก้นกลมงอนแนบชิดอะไรต่อมิอะไรที่ตื่นจากการหลับใหล "เธอปลุกมันเอง" เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูหอมกล่าวโทษคนซุกซนให้รับผิดชอบต่อเขา "ยะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ" "เธอทำ" ผมยอมรับว่าเวลานี้ผมเอาแต่ใจตัวเองมาก มากที่สุด "อ๊ะ" มือเธอซุกซนกับเขาก่อน เพราะงั้นตอนนี้มือหนาของเขาก็ขอซุกซนเอาคืนเธอบ้าง เพราะสปอร์ตบราที่เธอใส่ตัวเล็กนิดเดียว ทำให้มีพื้นที่พอสำหรับให้มือร้ายๆ ลูบไล้หน้าท้องแบนราบไปมา ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนขึ้นไปสัมผัสความนุ่มนิ่มที่มันเอ่อล้นออกมาจากคอเสื้อ ก่อนจะขยำเข้าไปเต็มแรงราวกับเป็นการทำโทษที่กล้าใส่ชุดขัดใจเขา ริมฝีปากร้อนก็ไม่กลัวน้อยหน้ามือทั้งสองข้าง เพราะกำลังพรมจูบไปทั่วลำคอระหงส์สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากคนน้องที่ชวนหลงใหล ก่อนจะขบเม้มเบาๆ จนเป็นรอยอย่างตั้งใจตรงด้านหลังคอขาว ใช่ เขาไม่หยุดแค่นี้แน่! มือร้ายค่อยๆ เลื่อนจากหน้าท้องอย่างแผ่วเบาลงไปทางขอบกางเกงสปอร์ตอย่างยากลำบาก แต่ไม่ยากเกินไปสำหรับเขา จนได้สัมผัสผิวเนียนนุ่มยิ่งทำให้อารมณ์ของเขาคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งทำคิ้วเข้มขมวดเป็นปมยุ่ง "มีถ่ายงานอีกทีวันไหน" "สะ สองสัปดาห์ อ๊ะ" คำตอบของเธอเปิดโอกาสให้เขาทำโทษได้ง่ายขึ้น ในแบบที่เขาอยากจะทำ ปากร้อนที่คอยพรมจูบชวนให้วาบหวิวเปลี่ยนเป็นขบเม้มจนขึ้นสีกุหลาบไปทั่ว บ้างก็เป็นรอยฟันจางๆ ให้ได้เห็น นิ้วเรียวยาวเลื่อนลงไปแหวกกลีบดอกไม้เล่นไปเรื่อยจนถึงแอ่งน้ำที่ชวนให้ลงไปแหวกว่าย เวลานี้ ขาสวยอ่อนแรงจนแทบล้มลง จนขายาวต้องอ้อมมาเกี่ยวรั้งเอาไว้ เหมือนจะช่วยพยุงเธอขึ้นมาแต่กลับเกี่ยวให้กว้างออกมากขึ้นพอให้สองนิ้วร้ายๆ ลงไปเล่นในแอ่งน้ำตามที่ใจเขาต้องการ #บอกแล้วว่า พี่ฟิล์มคนแซ่บ🔥❤️🔥 #อ่านเพลินๆ ฟินๆ สบายๆ กันเหมือนเดิมนะคะ"มามี๊เสร็จยังครับ" ตั้งแต่ที่เขารู้ว่ามีเบบี๋น้อยมานอนขดตัวอยู่ในท้องของฉันตั้งแต่วันนั้น เขามักจะทำเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วก็มีหางเสียงเสมอ ไม่เว้นแม้แต่เวลาที่อยากกวนประสาทฉันด้วย เพราะเขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเบบี๋ตัวน้อยจะเป็นผู้หญิง แต่ที่จริงถ้าเป็นผู้ชายเขาก็ไม่ติดหรอก เขาบอกว่าจะได้มีเพื่อนไปเตะฟุตบอลตอนเย็น กลัวจะพากันไปเที่ยวซะมากกว่า ฉันว่าต้องเป็นแบบที่ฉันคิดแน่ๆ"เสร็จแล้วค่ะปะป๊า""ทำไมใส่ชุดนี้คะ" ฉันก้มมองดูชุดตัวเองตามสายตาที่เขาไล่มอง ปกตินะ...เสื้อยืดสีขาวเอวลอยกับกางเกงผ้าขายาว สบายๆ ต้องใส่ตอนนี้แหละ ถ้าท้องโตกว่านี้คงใส่ไม่ค่อยสวยและไม่สบายเท่าไหร่"ไปกินอาหารญี่ปุ่นร้านพี่ไอไม่ใช่หรอ""กะ ก็ใช่ แต่ปะป๊าอยากให้มามี๊ใส่เดรสสวยๆ มากกว่า" แปลกอยู่นะ ปกติถ้าไปร้านใกล้ๆ แถวนี้หรือร้านพี่ไอ ฉันก็ใส่แบบนี้ได้นี่นา หรือว่าแพ้ท้องอีกแล้ว ถึงได้งอแงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้มือหนาของเขาดันแผ่นหลังเล็กเบาเบาให้เดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง ก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกเดรสยาวสีขาวแขนตุ๊กตาที่เขาชอบให้เธอเปลี่ยน คนตัวเล็กก็รับไปเปลี่ยนอย่างตามใจ เห็นแก่ที่เขาแพ้ท้องแทนเธอมาหลา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เดี๋ยวฝันไปเปิดเอง" คนตัวเล็กชะโงกหน้าขาวใสมาจากตู้เย็นอาสาเป็นคนไปเปิดประตูรับแขก เพราะผมนอนดมยาดมหมดแรงอยู่บนโซฟาหลังจากวิ่งเข้าวิ่งออกไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำมาสามรอบได้"สวัสดีค่ะพี่เลนส์" "ค่ะ"ปึก! "ไม่ต้องมาคะขากับเมียกู!" หมอนอิงลอยไปกลางอากาศพร้อมกับสายตาอาฆาตและเสียงเข้มๆ จากผม น่าเสียดายดันลอยไปตกใส่มือไอ้แฝดเสียได้ ถ้าไม่ติดว่ากำลังเวียนหัวอยู่คงได้วิ่งไปกระโดดถีบสักทีสองที"ไงมึง ถึงกับไปทำงานไม่ไหว?" ยังจะเดินยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาใกล้เหมือนชอบอกชอบใจที่เห็นผมอยู่ในสภาพไม่มีแรงแบบนี้"เออ กูขอพักสักสองสามวัน" "มึงประชุมแทนกูไปก่อน" ช่วงนี้งานสายการบินค่อยข้างลงตัวไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะงั้นพี่ชายของผมคนนี้สามารถปลีกตัวมาประชุมโครงการต่างๆ แทนผมได้ สบายมาก"ค่าโอทีกู?" ซีอีโอสายการบินยักษ์ใหญ่เรียกร้องขอค่าโอที เหลือจะเชื่อ! "ไอ้พี่เวร กูเป็นน้องมึงนะ" "สองนาทีกูไม่นับ" ปึก! เวลานี้เราสองคนก็ไม่ต่างจากเด็กน้อย ปาหมอนใส่กันไปกันมาอย่างไม่มีใครยอมกัน จนเมียผมถึงกับนั่งกุมขมับปวดหัวกับความไม่โตของเราสองคน สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ยกธงขาวเพราะอาการเว
ไม่น่าเชื่อว่าฉันกับเขาจะสามารถเป็นแฟนกันได้นานขนาดนี้ นานจนจากที่ฉันเรียนอยู่ปีสอง มาตอนนี้ฉันกำลังจะจบการศึกษาในเดือนหน้านี้แล้ว เราสองคนอยู่ด้วยกันทุกวันนอนพร้อมกันตื่นพร้อมกันกินข้าวพร้อมกัน จนบางทีฉันก็แอบคิดว่าจริงๆ แล้วฝาแฝดของเขาคือฉันนี่แหละ ใครจะไปรู้ว่าหนุ่มฮอตที่มีแต่สาวๆ หมายปองจะมาเป็นตาลุงขี้หวงของฉัน เพราะตอนนี้ฉันแทบไม่ได้รับงานเลย เขาสั่งให้พี่แพทรับเฉพาะงานเสื้อผ้าแฟชั่นตามฤดูกาลที่ออกคอลเลคชั่นใหม่ และพวกครีมบำรุงผิวหน้าอะไรแบบนี้เท่านั้น พวกชุดว่ายน้ำหรือครีมอาบน้ำที่เคยมีโดนกากบาทตัดทิ้งออกจากลิสต์ทั้งหมดดีนะที่ตอนนั้นฉันโกยงานโกยเงินตุนเข้ากระเป๋าไว้เยอะ ไม่อย่างนั้นคงเสียดายโอกาสดีดีแน่"ลุง ยังไม่ตื่นหรอ" เกือบสิบโมงแล้วนะ ปกติถึงจะเป็นวันหยุดเขาก็ต้องตื่นขึ้นมาชงกาแฟและออกกำลังกายแต่เช้า ต่างจากวันนี้นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มไม่ยอมลุกสักที"ไม่สบายรึเปล่าคะ" "...""ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา" ฉันเดินไปนั่งข้างเตียงยื่นมือเล็กไปแตะหน้าผากกว้างเพื่อวัดอุณหภูมิบนตัวเขา"พี่เวียนหัว" คนตัวโตดึงมือเล็กไปแนบแก้มกอดแขนฉันไว้ไม่ปล่อย"หรอ งั้นนอนพักหน่อย เดี๋ยวฝันไปทำข้าวต้มใ
"ฝัน พรุ่งนี้ไปกินข้าวบ้านพี่นะ" เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของมามี๊ ท่านขอแค่ได้ทุกคนอยู่พร้อมหน้าทานข้าวด้วยกันพูดคุยอัพเดตเรื่องราวต่างๆ เพราะหลายปีมานี้โอกาสที่ทุกคนจะได้อยู่พร้อมหน้ามีน้อยมาก ผมเลยอยากถือโอกาสนี้พาเธอไปแนะนำให้ป๊ากับมามี๊ได้รู้จัก"อารมณ์ไหนอีกเนี่ย" "อารมณ์อยากเปิดตัวเมียครับ" "ไม่เร็วไปหรอ" ผลัดมาหนึ่งปีแล้ว เอาอะไรมาเร็ว"ช้าไปด้วยซ้ำ"เด็กดื้อไม่พูดอะไรต่อไม่หยิบยกข้ออ้างขึ้นมาต่อรองเหมือนทุกทีที่ผมชวนเธอไปบ้าน พาตัวเองวิ่งเข้าไปในห้องนอนหายไปนานจนผมรู้สึกสงสัยเลยแอบตามเข้าไปดูสักหน่อย บานเลื่อนตู้เสื้อผ้าถูกเปิดกว้างมีเธอยืนยุ่งอยู่กับการหาเสื้อผ้าจนไม่ทันสังเกตว่ามีผมเดินเข้ามานั่งข้างกองชุดเดรสสี่ห้าชุดที่ถูกวางไว้บนที่นอน ผมเลยหยิบขึ้นมาดูชุดสองชุดเป็นแบบที่ผมไม่เคยเห็นเธอใส่แนวนี้มาก่อน น่ารักเรียบร้อยซะจนผมเองก็คิดภาพไม่ออกว่าถ้าอยู่บนตัวเธอแล้วจะสวยมากขนาดไหน"อ้าว ลุงเข้ามาเงียบเชียว" "งั้นมาช่วยฝันเลือกหน่อยสิ" ผมคว้าเอวบางเข้ามานั่งบนตักแกร่งใช้นิ้วเคาะปลายจมูกเชิดรั้นเบาเบาด้วยความมันเขี้ยว เข้ามานั่งนานแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับพึ่งสนใจกัน ก่อนจะช่วย
"ฝันหิวอาหารทะเลมากเลย" ระหว่างนั่งรถไปรีสอร์ทที่เขาจองไว้ ฉันก็รู้สึกหิวอยากจะกินอาหารทะเลอร่อยๆ มาก มาทะเลทั้งทีนี่นะ เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง"เดี๋ยวพี่สั่งพนักงาน" "หรือจะไปกินที่ร้านดี ชวนพี่แพทไปด้วย" "ได้" ตามใจเก่งก็คุณลุงของวาดฝันคนนี้นี่แหละ"ลุงร้านนี้ดีมั้ย" ฉันรับหน้าที่เสิร์ชหาร้านซีฟู้ดใกล้ฉัน และดูคะแนนรีวิวว่าร้านไหนน่าไปที่สุด เลือกมาสองสามร้านถามความเห็นเขาสักหน่อย"หืม ร้านนี้รอนานนะ รอไหว?" ฉันเปิดรูปร้านที่ได้คะแนนรีวิวเยอะที่สุดให้เขาดู"หรอ แล้วร้านนี้ละ" กลัวรอนานจนโมโหหิวแล้วพาลกินไม่อร่อยนี่แหละ"พี่ไม่ไปเคย แต่ลองได้" ยังไงดีละทีนี้ การเลือกร้านอาหารเป็นอะไรที่ยากมากสำหรับฉัน กลัวพาทุกคนไปเจอร้านไม่อร่อยจัง"เป็นอะไร ทำหน้ายุ่ง""ฝันเลือกไม่ถูก" "หึ" สุดท้ายฉันตัดสินใจเลือกตามที่เขาบอกตั้งแต่แรก สั่งอาหารของทางรีสอร์ทนี่แหละ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อร่อย เขาก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขับรถไปขับรถกลับด้วย รถสปอร์ตหรู ถอยหลังจอดเข้าที่พร้อมกับรถของพี่แพท เพราะเขาจองห้องพักเผื่อผู้จัดการส่วนตัวของฉันด้วย แถมยังเป็นห้องสวีทเห็นวิวทะเลสวยมาก สวยพอพอกับห้องฉันเลย ทำฉั
"ลุง" คนน้องวิ่งมากอดคอเขาจากด้านหลังยื่นแก้มนุ่มๆ มาแนบแก้มสากอย่างออดอ้อน"หืม" ผมตอบรับในลำคอรอฟังเสียงหวานๆ ของเด็กแสบ ดูซิ จะมีเรื่องอะไรมาเล่าให้ผมฟังอีกตั้งแต่เป็นแฟนกันแบบจริงจัง ไม่ได้อยู่ในสถานะคู่นอนเหมือนตอนแรก ผมก็ได้เข้าไปอยู่ในชีวิตเธอมากขึ้น ไม่ว่าเธอจะไปไหนทำอะไรอยู่ที่ไหนก็มักจะกลับมาเล่าให้ผมฟังจนรู้สึกเหมือนได้ไปด้วยกันในทุกๆ ที่ ซึ่งผมชอบนะ ชอบมาก และผมก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน"วันหยุดนี้ว่างมั้ย" "ทำไม" ระหว่างรอเธอตอบ ผมก็เปิดตารางงานเช็คดูให้มั่นใจ แต่ถึงไม่ว่างผมก็เลื่อนได้"ฝันมีถ่ายงานที่ต่างจังหวัด ไปด้วยกันมั้ย" "พี่ไปได้?" จริงอยู่ที่เกือบสามเดือนมานี้ ผมมักจะไปรอรับเธอทั้งกองถ่ายโฆษณาหรือเวลาที่เธอไปเดินแบบอยู่ตลอด จนผมกับทีมงานเริ่มคุ้นชินกันบ้าง ถึงขนาดที่ทุกคนสามารถเก็บเรื่องของผมกับเธอไว้เป็นความลับได้ มีค่าปิดปากเป็นชานมไข่มุกและขนมอร่อยๆ จากร้านของมินินที่ผมซื้อติดมือไปทุกครั้งตามคำแนะนำของคุณแพทผู้จัดการส่วนตัวของเธอ"อ่าฮะ" "ไม่กลัวเป็นข่าว?" ครั้งนี้เป็นงานต่างจังหวัด และคงต้องค้างคืน ซึ่งผมไม่มีทางนอนคนละห้องเด็ดขาด"ลุงกลัวหรอ" "ไม่เคยกลัวค