"ลุง อ้อมไปด้านหลังนะ"
"เปลืองน้ำมัน" ขับรถหรูบอกเปลืองน้ำมันเนี่ยนะ ให้ตายเถอะ "งั้นจอดข้างหน้า ตรงนั้น" ฉันชี้ข้างทางก่อนถึงประตูมหาวิทยาลัย พอจะมีต้นไม้บังไม่ให้ใครสังเกตเห็น ถ้าเป็นข่าวตอนนี้ พี่แพทได้บ่นหูชาแน่ "จอดตรงนี้ๆ" "..." ฉันละอยากจะบีบคอเขาสักทีจริงๆ คนอะไรกวนประสาทชะมัด เพราะสุดท้ายเขาก็ยอมขับรถเข้าประตูหลังวนมาจอดหลังอาคารเรียนของฉันพอดิบพอดีราวกับรู้ทุกซอกทุกมุมเหมือนเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยอย่างไงอย่างงั้น "เดี๋ยว" "อะไรอีก" "ค่ารถ" คนแก่กวนประสาทแบมือมาตรงหน้า "สองร้อยพอนะ ไม่มีแบงค์ย่อยหน่ะ" และแน่นอนว่า ฉันรีบเปิดกระเป๋าสตางค์หาเงินจ่ายค่ารถให้เขาอย่างไม่อิดออด ขับรถมาเองแต่แรกก็ดีหรอก "..." ฟอด จุ๊บ มือหนากำมือจับทั้งแบงค์สีแดงที่เธอยื่นให้พร้อมกับมือเล็กไม่ยอมปล่อย ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกดจมูกลงแก้มนุ่มฟอดใหญ่และเลื่อนมากดริมฝีปากลงปากสีแดงเบาเบาหนึ่งทีเป็นค่ารถที่เขาอยากได้ เก่งนักนะ ทำให้หัวใจดวงนี้เต้นโครมครามอยู่เรื่อย "เรียนเสร็จ รอตรงนี้ เดี๋ยวมารับ" "ไม่ต้อง ฉันมีงานต่อ" "เคยบอกยังว่า อย่าขัดใจ" เป็นคนแก่ที่เอาแต่ใจไม่เกินจริง ได้แต่แอบบ่นในใจคนเดียวนี่แหละ ขืนต่อล้อต่อเถียงคงไม่ได้ขึ้นไปเรียนแน่ "ฝัน ทางนี้" แองจี้เพื่อนสนิทคนเดียวของฉันโบกไม้โบกมือเรียกให้ไปนั่งข้างๆ ฉันกับแองจี้รู้จักวันรับน้องคณะเพราะได้จับคู่ทำกิจกรรมด้วยกันทำให้เราสองคนสนิทกันตั้งแต่วันนั้น จนมีข่าวคู่จิ้นขึ้นหน้าเพจซุบซิบของมหาวิทยาลัยอยู่เป็นสัปดาห์ ทำเราสองคนขำหนักมาก เพราะที่จริงแล้วแองจี้คือนามสมมุติ'อัษฎา' ต่างหากชื่อจริงของนางที่ทุกคนรู้จัก จะว่าไปตอนนั้นฉันก็เกือบเคลิ้มไปกับความหล่อขาวใสของนางนะ "ฝัน มีคนมาติดต่อฉันไปแคสบทซีรีย์ด้วยละ" พอนั่งลงปุ๊บ นางก็ดึงฉันไปกระซิบเม้าท์มอยปั๊บ "แล้วแกสนใจมั้ย" "ก็อยากลองดูนะ แกไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ" ฉันตอบตกลงเพื่อนทันที เพราะอย่างน้อยฉันก็พอมีประสบการณ์อยู่บ้างจะได้ช่วยนางสกรีนงานอีกทีด้วย เผื่อดูไม่น่าไว้ใจจะได้บอกให้นางค่อยๆ ตัดสินใจเลือกรับงาน วงการนี้หน่ะ...หน้าตาดีอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องฉลาดและทันคนด้วย "กินข้าวกันก่อนมั้ยฝัน หรือแยกย้าย" "แยกย้าย ฉันมีถ่ายงานต่อหน่ะ" "เค๊ ฉันเดินไปส่งที่รถ" "มะ ไม่ต้องๆ ฉันไปเอง" ฉันดูมีพิรุธเกินไปรึป่าวนะ ทันทีที่ฉันปฏิเสธความหวังดีจากเพื่อนไป แองจี้ก็ยืนกอดอกส่งสายตาจ้องจับผิดแบบไม่กระพริบตาแม้แต่นิดเดียว เพราะปกตินางจะต้องเป็นคนเดินไปส่งฉันที่รถทุกครั้งด้วยห่วงความปลอดภัยกลัวว่าฉันจะไปทำร้ายคนอื่น "กะ ก็พี่แพทกำลังมารับฉัน" "พี่แพทหรือผู้ เอาดีดี" มีใครเคยบอกนางมั้ยว่านางเหมาะกับบทตำรวจมาก สืบสวนสอบสวนเก่ง "ผู้ เอ้ย พี่แพท สิ" ฉันว่าฉันควรไปเรียนการแสดงเพิ่ม ก่อนที่ฉันจะโดนจับโป๊ะไปมากกว่านี้ เลยอาศัยจังหวะที่เพื่อนรักกำลังรับโทรศัพท์เดินหนีมาทางลานจอดรถอาจารย์หลังอาคารเรียน รอตาลุงมารับ จะมารับกันจริงหรือพูดแกล้งก็ไม่รู้ รอสักสิบนาทีละกัน ถ้าไม่มาค่อยกดเรียกรถก็ได้ ยังพอมีเวลา "ฮัลโหล" นึกถึงปุ๊บก็โทรมาปั๊บ "ยืนหลับ?" หืม มาถึงละหรอ ร่างบางยืนหันซ้ายมองขวา ก่อนสายตาจะไปสะดุดที่รถคันหรูสีดำติดฟิล์มมืดสนิท คนละคันกับเมื่อเช้านี่ รวยจริงๆ พ่อคุณ "อยู่ไหนละ" "ทะเบียน 909" "อืม" รู้สึกเหมือนตัวเองหนีเรียนแล้วกลัวผู้ปกครองจับได้เลย เพราะพอเข้ามาในรถที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ สายตาคมก็ไล่มองสำรวจความเรียบร้อยของฉัน นี่ถ้าเกิดเสื้อฉันยับแม้แต่นิดเดียวคงได้หาเรื่องกวนประสาทใส่ฉันเป็นแน่ เพราะงั้นรีบชิงหาเรื่องเขาก่อนจะได้ไม่เสียเปรียบ แต่เอ๊ะ! ทำไมถึงมีลิปสติกผู้หญิงด้วยละ "นี่ลุง วันหลังจะเปลี่ยนรถมารับผู้หญิง ก็ช่วยเคลียร์ความเรียบร้อยในรถด้วยนะ" แค่คิด ก็น่าหงุดหงิดชะมัด "ไม่มีอะไรต้องเคลียร์" "จ๊ะ ลิปสติกสีชมพูวางหราเลยจ๊ะ" "หึ" เขาเหลือบมองแท่งสีชมพูตรงเกียร์ตามสายตาคนข้างๆ สงสัยมามี๊ทำหล่นไว้เมื่อกลางวัน "หึงพี่หรอครับน้องฝัน" "ไม่หงไม่หึงอะไรทั้งนั้นแหละ" คนตัวเล็กหยิบแอร์พอดในกระเป๋าสะพายมาเปิดเพลงสบายๆ ฟังคนเดียวหวังช่วยลดอารมณ์ขุ่นมัวในใจที่เป็นอยู่ตอนนี้ ปิดเปลือกตาลงหนีสายตาเจ้าเล่ห์ที่ลอบมองมา เธอควรตัดเรื่องที่กำลังรบกวนจิตใจและทำสมาธิเตรียมตัวถ่ายงานในหนึ่งชั่วโมงข้างหน้ามากกว่า แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ใจก็ยิ่งฟุ้งซ่านอยากให้เขาหาเหตุผลมาอธิบายกัน ถึงจะรู้ว่าไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นก็ตาม "ของมามี๊" "เมื่อกลางวันพามามี๊ไปทานข้าวมา" ทำไมผมต้องมาอธิบายอะไรแบบนี้ให้เธอฟังเพียงเพราะกลัวเธอจะโกรธกันด้วยนะ มันดูไม่ใช่ผมเลยสักนิด แค่เห็นสีหน้าเรียบเฉยทำเงียบใส่ ไม่เอะอะโวยวายเหมือนเคย ใจผมก็รู้สึกร้อนรนจนนั่งแทบไม่ติด แต่พอได้พูดออกไปจนเห็นเธอแอบอมยิ้มผ่านกระจก ใจก็กลับรู้สึกโล่งอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก #เอ็นดูความให้ค่ารถพี่สองร้อย 🥰 #อ่านเพลินๆ สบายๆ กันเหมือนเดิมนะคะ"มามี๊เสร็จยังครับ" ตั้งแต่ที่เขารู้ว่ามีเบบี๋น้อยมานอนขดตัวอยู่ในท้องของฉันตั้งแต่วันนั้น เขามักจะทำเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วก็มีหางเสียงเสมอ ไม่เว้นแม้แต่เวลาที่อยากกวนประสาทฉันด้วย เพราะเขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเบบี๋ตัวน้อยจะเป็นผู้หญิง แต่ที่จริงถ้าเป็นผู้ชายเขาก็ไม่ติดหรอก เขาบอกว่าจะได้มีเพื่อนไปเตะฟุตบอลตอนเย็น กลัวจะพากันไปเที่ยวซะมากกว่า ฉันว่าต้องเป็นแบบที่ฉันคิดแน่ๆ"เสร็จแล้วค่ะปะป๊า""ทำไมใส่ชุดนี้คะ" ฉันก้มมองดูชุดตัวเองตามสายตาที่เขาไล่มอง ปกตินะ...เสื้อยืดสีขาวเอวลอยกับกางเกงผ้าขายาว สบายๆ ต้องใส่ตอนนี้แหละ ถ้าท้องโตกว่านี้คงใส่ไม่ค่อยสวยและไม่สบายเท่าไหร่"ไปกินอาหารญี่ปุ่นร้านพี่ไอไม่ใช่หรอ""กะ ก็ใช่ แต่ปะป๊าอยากให้มามี๊ใส่เดรสสวยๆ มากกว่า" แปลกอยู่นะ ปกติถ้าไปร้านใกล้ๆ แถวนี้หรือร้านพี่ไอ ฉันก็ใส่แบบนี้ได้นี่นา หรือว่าแพ้ท้องอีกแล้ว ถึงได้งอแงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้มือหนาของเขาดันแผ่นหลังเล็กเบาเบาให้เดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง ก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกเดรสยาวสีขาวแขนตุ๊กตาที่เขาชอบให้เธอเปลี่ยน คนตัวเล็กก็รับไปเปลี่ยนอย่างตามใจ เห็นแก่ที่เขาแพ้ท้องแทนเธอมาหลา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เดี๋ยวฝันไปเปิดเอง" คนตัวเล็กชะโงกหน้าขาวใสมาจากตู้เย็นอาสาเป็นคนไปเปิดประตูรับแขก เพราะผมนอนดมยาดมหมดแรงอยู่บนโซฟาหลังจากวิ่งเข้าวิ่งออกไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำมาสามรอบได้"สวัสดีค่ะพี่เลนส์" "ค่ะ"ปึก! "ไม่ต้องมาคะขากับเมียกู!" หมอนอิงลอยไปกลางอากาศพร้อมกับสายตาอาฆาตและเสียงเข้มๆ จากผม น่าเสียดายดันลอยไปตกใส่มือไอ้แฝดเสียได้ ถ้าไม่ติดว่ากำลังเวียนหัวอยู่คงได้วิ่งไปกระโดดถีบสักทีสองที"ไงมึง ถึงกับไปทำงานไม่ไหว?" ยังจะเดินยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาใกล้เหมือนชอบอกชอบใจที่เห็นผมอยู่ในสภาพไม่มีแรงแบบนี้"เออ กูขอพักสักสองสามวัน" "มึงประชุมแทนกูไปก่อน" ช่วงนี้งานสายการบินค่อยข้างลงตัวไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะงั้นพี่ชายของผมคนนี้สามารถปลีกตัวมาประชุมโครงการต่างๆ แทนผมได้ สบายมาก"ค่าโอทีกู?" ซีอีโอสายการบินยักษ์ใหญ่เรียกร้องขอค่าโอที เหลือจะเชื่อ! "ไอ้พี่เวร กูเป็นน้องมึงนะ" "สองนาทีกูไม่นับ" ปึก! เวลานี้เราสองคนก็ไม่ต่างจากเด็กน้อย ปาหมอนใส่กันไปกันมาอย่างไม่มีใครยอมกัน จนเมียผมถึงกับนั่งกุมขมับปวดหัวกับความไม่โตของเราสองคน สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ยกธงขาวเพราะอาการเว
ไม่น่าเชื่อว่าฉันกับเขาจะสามารถเป็นแฟนกันได้นานขนาดนี้ นานจนจากที่ฉันเรียนอยู่ปีสอง มาตอนนี้ฉันกำลังจะจบการศึกษาในเดือนหน้านี้แล้ว เราสองคนอยู่ด้วยกันทุกวันนอนพร้อมกันตื่นพร้อมกันกินข้าวพร้อมกัน จนบางทีฉันก็แอบคิดว่าจริงๆ แล้วฝาแฝดของเขาคือฉันนี่แหละ ใครจะไปรู้ว่าหนุ่มฮอตที่มีแต่สาวๆ หมายปองจะมาเป็นตาลุงขี้หวงของฉัน เพราะตอนนี้ฉันแทบไม่ได้รับงานเลย เขาสั่งให้พี่แพทรับเฉพาะงานเสื้อผ้าแฟชั่นตามฤดูกาลที่ออกคอลเลคชั่นใหม่ และพวกครีมบำรุงผิวหน้าอะไรแบบนี้เท่านั้น พวกชุดว่ายน้ำหรือครีมอาบน้ำที่เคยมีโดนกากบาทตัดทิ้งออกจากลิสต์ทั้งหมดดีนะที่ตอนนั้นฉันโกยงานโกยเงินตุนเข้ากระเป๋าไว้เยอะ ไม่อย่างนั้นคงเสียดายโอกาสดีดีแน่"ลุง ยังไม่ตื่นหรอ" เกือบสิบโมงแล้วนะ ปกติถึงจะเป็นวันหยุดเขาก็ต้องตื่นขึ้นมาชงกาแฟและออกกำลังกายแต่เช้า ต่างจากวันนี้นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มไม่ยอมลุกสักที"ไม่สบายรึเปล่าคะ" "...""ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา" ฉันเดินไปนั่งข้างเตียงยื่นมือเล็กไปแตะหน้าผากกว้างเพื่อวัดอุณหภูมิบนตัวเขา"พี่เวียนหัว" คนตัวโตดึงมือเล็กไปแนบแก้มกอดแขนฉันไว้ไม่ปล่อย"หรอ งั้นนอนพักหน่อย เดี๋ยวฝันไปทำข้าวต้มใ
"ฝัน พรุ่งนี้ไปกินข้าวบ้านพี่นะ" เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของมามี๊ ท่านขอแค่ได้ทุกคนอยู่พร้อมหน้าทานข้าวด้วยกันพูดคุยอัพเดตเรื่องราวต่างๆ เพราะหลายปีมานี้โอกาสที่ทุกคนจะได้อยู่พร้อมหน้ามีน้อยมาก ผมเลยอยากถือโอกาสนี้พาเธอไปแนะนำให้ป๊ากับมามี๊ได้รู้จัก"อารมณ์ไหนอีกเนี่ย" "อารมณ์อยากเปิดตัวเมียครับ" "ไม่เร็วไปหรอ" ผลัดมาหนึ่งปีแล้ว เอาอะไรมาเร็ว"ช้าไปด้วยซ้ำ"เด็กดื้อไม่พูดอะไรต่อไม่หยิบยกข้ออ้างขึ้นมาต่อรองเหมือนทุกทีที่ผมชวนเธอไปบ้าน พาตัวเองวิ่งเข้าไปในห้องนอนหายไปนานจนผมรู้สึกสงสัยเลยแอบตามเข้าไปดูสักหน่อย บานเลื่อนตู้เสื้อผ้าถูกเปิดกว้างมีเธอยืนยุ่งอยู่กับการหาเสื้อผ้าจนไม่ทันสังเกตว่ามีผมเดินเข้ามานั่งข้างกองชุดเดรสสี่ห้าชุดที่ถูกวางไว้บนที่นอน ผมเลยหยิบขึ้นมาดูชุดสองชุดเป็นแบบที่ผมไม่เคยเห็นเธอใส่แนวนี้มาก่อน น่ารักเรียบร้อยซะจนผมเองก็คิดภาพไม่ออกว่าถ้าอยู่บนตัวเธอแล้วจะสวยมากขนาดไหน"อ้าว ลุงเข้ามาเงียบเชียว" "งั้นมาช่วยฝันเลือกหน่อยสิ" ผมคว้าเอวบางเข้ามานั่งบนตักแกร่งใช้นิ้วเคาะปลายจมูกเชิดรั้นเบาเบาด้วยความมันเขี้ยว เข้ามานั่งนานแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับพึ่งสนใจกัน ก่อนจะช่วย
"ฝันหิวอาหารทะเลมากเลย" ระหว่างนั่งรถไปรีสอร์ทที่เขาจองไว้ ฉันก็รู้สึกหิวอยากจะกินอาหารทะเลอร่อยๆ มาก มาทะเลทั้งทีนี่นะ เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง"เดี๋ยวพี่สั่งพนักงาน" "หรือจะไปกินที่ร้านดี ชวนพี่แพทไปด้วย" "ได้" ตามใจเก่งก็คุณลุงของวาดฝันคนนี้นี่แหละ"ลุงร้านนี้ดีมั้ย" ฉันรับหน้าที่เสิร์ชหาร้านซีฟู้ดใกล้ฉัน และดูคะแนนรีวิวว่าร้านไหนน่าไปที่สุด เลือกมาสองสามร้านถามความเห็นเขาสักหน่อย"หืม ร้านนี้รอนานนะ รอไหว?" ฉันเปิดรูปร้านที่ได้คะแนนรีวิวเยอะที่สุดให้เขาดู"หรอ แล้วร้านนี้ละ" กลัวรอนานจนโมโหหิวแล้วพาลกินไม่อร่อยนี่แหละ"พี่ไม่ไปเคย แต่ลองได้" ยังไงดีละทีนี้ การเลือกร้านอาหารเป็นอะไรที่ยากมากสำหรับฉัน กลัวพาทุกคนไปเจอร้านไม่อร่อยจัง"เป็นอะไร ทำหน้ายุ่ง""ฝันเลือกไม่ถูก" "หึ" สุดท้ายฉันตัดสินใจเลือกตามที่เขาบอกตั้งแต่แรก สั่งอาหารของทางรีสอร์ทนี่แหละ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อร่อย เขาก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขับรถไปขับรถกลับด้วย รถสปอร์ตหรู ถอยหลังจอดเข้าที่พร้อมกับรถของพี่แพท เพราะเขาจองห้องพักเผื่อผู้จัดการส่วนตัวของฉันด้วย แถมยังเป็นห้องสวีทเห็นวิวทะเลสวยมาก สวยพอพอกับห้องฉันเลย ทำฉั
"ลุง" คนน้องวิ่งมากอดคอเขาจากด้านหลังยื่นแก้มนุ่มๆ มาแนบแก้มสากอย่างออดอ้อน"หืม" ผมตอบรับในลำคอรอฟังเสียงหวานๆ ของเด็กแสบ ดูซิ จะมีเรื่องอะไรมาเล่าให้ผมฟังอีกตั้งแต่เป็นแฟนกันแบบจริงจัง ไม่ได้อยู่ในสถานะคู่นอนเหมือนตอนแรก ผมก็ได้เข้าไปอยู่ในชีวิตเธอมากขึ้น ไม่ว่าเธอจะไปไหนทำอะไรอยู่ที่ไหนก็มักจะกลับมาเล่าให้ผมฟังจนรู้สึกเหมือนได้ไปด้วยกันในทุกๆ ที่ ซึ่งผมชอบนะ ชอบมาก และผมก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน"วันหยุดนี้ว่างมั้ย" "ทำไม" ระหว่างรอเธอตอบ ผมก็เปิดตารางงานเช็คดูให้มั่นใจ แต่ถึงไม่ว่างผมก็เลื่อนได้"ฝันมีถ่ายงานที่ต่างจังหวัด ไปด้วยกันมั้ย" "พี่ไปได้?" จริงอยู่ที่เกือบสามเดือนมานี้ ผมมักจะไปรอรับเธอทั้งกองถ่ายโฆษณาหรือเวลาที่เธอไปเดินแบบอยู่ตลอด จนผมกับทีมงานเริ่มคุ้นชินกันบ้าง ถึงขนาดที่ทุกคนสามารถเก็บเรื่องของผมกับเธอไว้เป็นความลับได้ มีค่าปิดปากเป็นชานมไข่มุกและขนมอร่อยๆ จากร้านของมินินที่ผมซื้อติดมือไปทุกครั้งตามคำแนะนำของคุณแพทผู้จัดการส่วนตัวของเธอ"อ่าฮะ" "ไม่กลัวเป็นข่าว?" ครั้งนี้เป็นงานต่างจังหวัด และคงต้องค้างคืน ซึ่งผมไม่มีทางนอนคนละห้องเด็ดขาด"ลุงกลัวหรอ" "ไม่เคยกลัวค