LOGINตำหนักใหญ่ โถงรับรอง
สตรีนางหนึ่งมองกาน้ำชาและขนมในจานที่ตั้งบนโต๊ะด้านหน้าตนหลายครั้ง “ข้ากินจนอิ่มแล้วอิ่มอีก ท่านเทพหย่วนเฉินไปไหนหรือ”
“เทพธิดาอย่าร้อนใจไป ท่านเทพแค่เอ่อ อยู่กับสตรีของตนเท่านั้น” ชิงสวินตอบน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อครู่เขาเดินผ่านหน้าห้องสรงน้ำ ได้ยินเสียงร้องครางของบุรุษสตรีสลับไปมา
ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของผู้ใด
“สตรีอย่างนั้นหรือ ไหนว่าท่านเทพยังไม่มีคู่บำเพ็ญเพียร” สตรีเอ่ยถามด้วยใบหน้าตกใจ
“ตอนนี้ยังไม่มีสถานะ แต่อีกไม่นานคงมี” มู่จวินเดินเข้ามาพอดีจึงตอบคำถามนี้
“ข้ารักของข้ามานาน เป็นแบบนี้ได้อย่างไร” สตรีบ่นพึมพำเสียงเบาจนไม่มีผู้ใดได้ยิน สายตามองไปยังประตูทางเข้าด้วยความหวัง
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม หย่วนเฉินก็เดินเข้ามาพร้อมกับเทพเต๋ออันและนางเซียนซิงเหวิน
“ข้าเห็นความสัมพันธ์ของเจ้ากับแม่นางตู้ก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ข้าเองอายุก็ไม่น้อยแล้ว ควรมีคู่บำเพ็ญเพียรบ้าง เลยตกลงกับซิงเหวินไว้ว่าจะอยู่ร่วมกัน” เต๋ออันพูดกับหย่วนเฉินสีหน้าสดใส
ทว่าซิงเหวินกลับสีหน้าเรียบเฉย นางมองเต๋ออันแล้วพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย “เจ้าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว มีอายุหลายพันปี ยังจะทำตัวดั่งมนุษย์หนุ่มอยู่อีก”
“ก็ข้าคิดดูแล้วว่าการทำเช่นนี้ส่งผลให้จิตใจผ่องแผ้วสดใส” เต๋ออันแย้งพร้อมกับยิ้มกว้าง จากนั้นก็หุบยิ้มทันทีเมื่อเห็นสตรีที่นั่งจ้องมองพวกเขาอยู่
“นางคือผู้ใดหรือ” เขาเอ่ยถามหย่วนเฉิน
“ตงฟางอันนั่ว ธิดาของเจ้าทะเลตงไห่” หย่วนเฉินเอ่ยปากแนะนำ “เพิ่งกลับมาจากการฝ่าด่านเคราะห์บนโลกมนุษย์จึงอยากอยู่บนสวรรค์สักพัก”
“เทพธิดาตงฟางอันนั่ว” เต๋ออันกล่าวทักทายเมื่อทราบชื่อสตรี ทว่ายังไม่ทันจะกล่าวสิ่งใดเพิ่ม ซิงเหวินก็รีบพูดแทรกแล้วดึงแขนเขาจากไปอย่างรวดเร็ว
“หย่วนเฉินก็เพิ่งกลับมาจากโลกมนุษย์ไม่นาน เทพธิดาตงฟางคงอยากหาคนคุยด้วย แต่แม่นางตู้ก็มาจากโลกมนุษย์เช่นเดียวกัน คงมีเรื่องพูดคุยอยู่มาก เต๋ออัน พวกเราไปกันเถอะ ปล่อยให้เขาสามคนมีเวลาพูดคุยกัน”
...
“เจ้าดึงข้าออกมาเช่นนี้ มีอะไรอย่างนั้นหรือ” เต๋ออันถามซิงเหวินหลังจากออกมานอกกำแพงตำหนักหย่วนเฉิน
“เทพธิดาผู้นั้นก็เพิ่งกลับมาจากโลกมนุษย์ ทั้งสายตาของนางที่มองหย่วนเฉินก็เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ ข้าว่านางคงมีความสัมพันธ์กับหย่วนเฉินตอนอยู่บนโลกมนุษย์ ได้ยินมาว่ามนุษย์เพศชายมีสามภรรยาสี่อนุ หย่วนเฉินก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น” ซิงเหวินวิเคราะห์ให้เต๋ออันฟัง
“บุรุษมากสตรีมักจะหาความสงบสุขไม่เจอ ขนาดตายจนกลับสวรรค์ก็ยังมีปัญหา พวกเรารอฟังสถานการณ์ข้างนอกดีกว่า” เต๋ออันถอนหายใจ มือหนาจับมือเรียวของซิงเหวิน
“ไปนั่งเล่นที่ตำหนักข้ากันเถอะ อยู่ถัดไปเอง”
...
“ท่านเทพ ท่านจะพาข้าไปเดินชมส่วนอื่นของสวรรค์หน่อยได้หรือไม่” ตงฟางอันนั่วพูดเสียงหวานกับหย่วนเฉิน
“ขออภัย สวรรค์ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว เจ้าอยู่แค่ภายในตำหนักนี้เถอะ” หย่วนเฉินกล่าวปฏิเสธท่าทางเย็นชา “เจ้าพาเทพธิดาตงฟางไปที่พักได้แล้ว” เขาสั่งมู่จวินก่อนหายวับไป
“ขอรับ” มู่จวินรับคำ จากนั้นก็ผายมือเชิญตงฟางอันนั่วอย่างนอบน้อม
เมื่อเดินมาถึงสวนหย่อมกลางตำหนัก ตงฟางอันนั่วก็หยุดฝีเท้า “ช้าก่อน” นางส่งเสียงบอกมู่จวินก่อนหันมองข้างสระน้ำที่มีภูเขาจำลอง
“ตู้ชิงชิง” ตงฟางอันนั่วเผลอพูดชื่อของสตรีที่ยืนอยู่ข้างสระน้ำไกลๆ ออกมา
“ท่านเทพพานางผีสาวกลับมาด้วยอย่างนั้นหรือ ผีที่ฆ่าคนตั้งมากมายเนี่ยนะจะมาเป็นคู่บำเพ็ญเพียร ข้าไม่ยอม” ตงฟางอันนั่วกล่าวพึมพำหลังจากนั้น
“ท่านว่าอะไรนะ” มู่จวินที่เดินนำหลายก้าวหยุดเท้าแล้วหันกลับมาถามนางด้วยสีหน้างุนงง
“ไม่มีอะไร” ตงฟางอันนั่วตอบ นางหลุบตามองลงพื้นแล้วเดินตามมู่จวินต่อไม่ให้เขาสงสัย
........
กลางดึกคืนนั้น ขณะที่ตู้ชิงชิงกำลังหลับลึก จู่ๆ อาภรณ์ที่สวมปกคลุมร่างกายก็อันตรทานหายไป ขาเรียวขาวทั้งสองข้างถูกจับกางออกกว้าง จากนั้นไม่นานก็มีแก่นกายยาวใหญ่ถูกสอดเข้าไปในร่องรักด้วยความรวดเร็ว
“อื้อ” ตู้ชิงชิงส่งเสียงแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมา นางกำลังฝันถึงครั้งยังอยู่ที่โลกมนุษย์ ถูกจางอวิ๋นอวี้ซึ่งก็คือหย่วนเฉินจับขย่มจนเสียวซ่านไปทั้งตัว
“คับแน่นเหมือนเดิม” บุรุษกล่าวเสียงเบา พูดจบก็ไม่รอช้า ค่อยๆ ขยับเอวสอบกระแทกโพรงเนื้อจนเกิดเสียงน่าอาย
ปัก ปัก ปัก ปัก
“ได้ทั้งไอสวรรค์พิสุทธิ์และน้ำอมฤตแล้ว ทั้งยังไปรับน้ำรักของข้าทุกวัน ไม่เกินอาทิตย์นี้ร่างกายของนางก็ไม่ต่างกับเทพเซียนแล้ว” บุรุษที่พูดก็คือหย่วนเฉิน เขาเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ ทำภารกิจที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง
“ขนาดหลับยังตอดดีเช่นนี้ เหมาะสมกับเป็นสตรีของข้าหย่วนเฉิน” เขากล่าวชมทั้งที่รู้ว่าสตรียังคงนอนหลับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เสียงท่อนเอ็นตอกร่องคับแน่นเข้าออกเป็นจังหวะจนเกิดเสียงดังทั่วห้อง มีเสียงครางหวานเคล้าคลอเบาๆ ทำให้ในตำหนักเกิดบรรยากาศบางอย่าง
ชิงสวินกับมู่จวินนั่งหลับตาทำสมาธิ ปกติแล้วหย่วนเฉินจะเสกม่านกันเสียง เสียงภายในห้องจะไม่ดังมากนัก แต่วันนี้นางเซียนซิงเหวินไม่อยู่แล้ว หย่วนเฉินจึงไม่เสกม่านกันเสียงอีก
เขาคงลืมไปว่าตอนนี้ในตำหนักมีแขกคนใหม่เพิ่มหนึ่งคน
ตงฟางอันนั่ว
........
ตำหนักเล็กฝั่งขวา
“ตู้ชิงชิงมีดีอะไรกัน หย่วนเฉินถึงหลงหัวปักหัวปำ ขนาดกลับขึ้นสวรรค์ยังต้องพานางกลับมา นี่เขาละกิเลสของมนุษย์แล้วนี่” ตงฟางอันนั่วนั่งบ่นบนเตียง หูทั้งสองข้างได้ยินเสียงกิจกรรมอันน่าอายอย่างชัดเจน
“ข้าก็อยากลองบ้าง บนโลกมนุษย์ข้าตายลงทั้งที่ยังเป็นสตรีพรหมจรรย์ กลับทะเลตะวันออกจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นสตรีพรหมจรรย์ ข้าไม่ยอม” ตงฟางอันนั่วใบหน้าบูดบึ้ง แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องครางอันแผ่วเบาของตู้ชิงชิงใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นแดงซ่าน
“ข้าจะไม่ให้เจ้าได้ครอบครองหย่วนเฉินแน่” ตงฟางอันนั่วกัดฟันพูดก่อนจะปลดเสื้อผ้าด้านล่างของตนแล้วใช้นิ้วเรียวเล่นกับร่างกายโดยเฉพาะจุดอ่อนไหว
“อืม ข้าอยากได้ใหญ่กว่านี้จัง”
........
วันถัดมา
ตำหนักไห่ถัง
“ฮองเฮาเพคะ สตรีที่อยู่กับท่านเทพหย่วนเฉินนางเป็นผีร้าย ตอนอยู่ที่โลกมนุษย์ได้สังหารผู้บริสุทธิ์ไปมากมาย ฮองเฮาต้องจัดการนางนะเพคะ” ตงฟางอันนั่วรายงานพร้อมกับปั้นสีหน้าเป็นกังวล
“จริงหรือ” ฮองเฮาแดนสวรรค์ใบหน้ากังวลไม่ต่างกัน นางยกฝ่ามือขึ้นสูงเล็กน้อยเพื่อเรียกเทพที่รับใช้ข้างกายให้เข้ามาหา
“ไปนำตัวนางมา”
“ขอรับ” เทพผู้รับใช้ประสานมือรับคำสั่งก่อนจากไปอย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านไปสองก้านธูป เทพรับใช้ก็พาตู้ชิงชิงมายังตำหนักไห่ถัง ตู้ชิงชิงกวาดสายตามองโดยรอบ ในใจรู้สึกหวั่นไหว ทว่าก็ไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด
“คารวะท่านเทพ” นางคุกเข่าคารวะด้วยความนอบน้อม
“อืม” ฮองเฮาตอบสั้นๆ แต่ไม่ได้สั่งให้ตู้ชิงชิงลุกขึ้นยืน ปล่อยให้สตรียังคงอยู่ท่านั้น
“แม่นางผู้นี้หรือคือสตรีที่หย่วนเฉินพึงใจ”
เสียงทรงอำนาจดังขึ้น ทุกสายตาหันมองจากนั้นก็ยอบกายคำนับพร้อมกัน
“คารวะเทียนจวิน”
ตู้ชิงชิงเห็นดังนั้นก็รีบค้อมกายก้มศีรษะไปทางบุรุษท่าทางน่าเกรงขาม “คารวะเทียนจวิน”
“อืม นับเป็นสตรีงดงามผู้หนึ่ง เพียงแต่เรือนกายยังไม่ได้เป็นเซียนอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเคยเข่นฆ่าผู้คนจำนวนมาก ลงโทษส่งตัวนางไปเกิดใหม่เป็นเดรัจฉานเสีย” บุรุษร่างสูงท่าทางทรงอำนาจเอ่ยวาจาหนักแน่น
“เทียนจวิน ทำโทษข้าน้อยด้วยวิธีอื่นได้หรือไม่เจ้าคะ” ตู้ชิงชิงหน้าตาตื่นตระหนก วันนี้หย่วนเฉินไม่อยู่ตำหนัก นางอยากเจอหน้าเขาสักครั้งก่อนจะต้องรับโทษ
หากต้องไปเกิดใหม่คงไม่ได้ลากันเป็นครั้งสุดท้าย
“เทียนจวิน เทียนจวิน” สตรีร้องขอความเห็นใจ ทว่าผู้ที่ถูกขอร้องกลับเมินเฉยไม่สนใจ
“ข้าเป็นประมุขเก้าชั้นฟ้า จะให้คนเช่นเจ้าเป็นเซียนเสวยสุขโดยไม่ต้องรับโทษได้อย่างไร” เทียนจวินกล่าว สายตาคมกริบหันมองทหารเซียนเป็นคำสั่งให้นำตัวตู้ชิงชิงไป
“ข้าน้อยขอเขียนจดหมายถึงเทพหย่วนเฉินก่อนได้หรือไม่” สตรีอ้อนวอนน่าสงสาร
“อนุญาต” เทียนจวินพยักหน้าเมื่อเห็นฮองเฮาของตนใจอ่อน ทำท่าจะเอ่ยปากให้ตู้ชิงชิง “นำกระดาษพู่กันมาให้นาง”
“ขอบคุณเทียนจวิน ขอบคุณฮองเฮา” ตู้ชิงชิงก้มศีรษะขอบคุณสามครั้งแล้วจึงรับกระดาษมารีบเขียนคำบอกลาสั้นๆ
คราก่อนที่จางอวิ๋นอวี้สิ้นชีพโดยไม่ได้บอกลาก็ทำให้จิตใจของตู้ชิงชิงเศร้าหมองจนหมดอาลัยตายอยากไปพักใหญ่ แม้ว่าจะได้เจออีกครั้งในฐานะเทพหย่วนเฉิน แต่นางก็ยังไม่เคยได้บอกความในใจเลยสักครั้ง
ทำเหมือนตนเองเป็นแค่สตรีอุ่นเตียงเท่านั้น ความผูกพันใดๆ ล้วนหาได้มีไม่
ครั้งนี้จึงไม่อยากมีสิ่งใดให้ค้างคาใจอีก
เขียนเสร็จตู้ชิงชิงก็พับกระดาษก่อนส่งให้คนของฮองเฮาเป็นผู้นำไปส่งที่ตำหนักของเทพหย่วนเฉิน
ตำหนักใหญ่ โถงรับรองสตรีนางหนึ่งมองกาน้ำชาและขนมในจานที่ตั้งบนโต๊ะด้านหน้าตนหลายครั้ง “ข้ากินจนอิ่มแล้วอิ่มอีก ท่านเทพหย่วนเฉินไปไหนหรือ”“เทพธิดาอย่าร้อนใจไป ท่านเทพแค่เอ่อ อยู่กับสตรีของตนเท่านั้น” ชิงสวินตอบน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อครู่เขาเดินผ่านหน้าห้องสรงน้ำ ได้ยินเสียงร้องครางของบุรุษสตรีสลับไปมาไม่ต้องเดาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของผู้ใด“สตรีอย่างนั้นหรือ ไหนว่าท่านเทพยังไม่มีคู่บำเพ็ญเพียร” สตรีเอ่ยถามด้วยใบหน้าตกใจ“ตอนนี้ยังไม่มีสถานะ แต่อีกไม่นานคงมี” มู่จวินเดินเข้ามาพอดีจึงตอบคำถามนี้“ข้ารักของข้ามานาน เป็นแบบนี้ได้อย่างไร” สตรีบ่นพึมพำเสียงเบาจนไม่มีผู้ใดได้ยิน สายตามองไปยังประตูทางเข้าด้วยความหวังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม หย่วนเฉินก็เดินเข้ามาพร้อมกับเทพเต๋ออันและนางเซียนซิงเหวิน“ข้าเห็นความสัมพันธ์ของเจ้ากับแม่นางตู้ก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ข้าเองอายุก็ไม่น้อยแล้ว ควรมีคู่บำเพ็ญเพียรบ้าง เลยตกลงกับซิงเหวินไว้ว่าจะอยู่ร่วมกัน” เต๋ออันพูดกับหย่วนเฉินสีหน้าสดใสทว่าซิงเหวินกลับสีหน้าเรียบเฉย นางมองเต๋ออันแล้วพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย “เจ้าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว มีอายุหลายพันปี ยังจ
ลิ้นร้ายเลียลงร่องนมจนชุ่มชื้น จากนั้นก็ตวัดไปยังติ่งนูนสีชมพูเนื้อทั้งสองข้าง ปลายลิ้นฉกรวดเร็วเหมือนงู ตวัดเลียดุจลูกสุนัข ริมฝีปากดูดเม้มดั่งทารกแรกคลอด“อื้อ อื้อ” ตู้ชิงชิงลมหายใจหอบถี่ แม้นางจะยังเป็นผีแต่ก็เริ่มรู้สึกเสียวซ่านที่หน้าอกและมวนหวิวในท้องน้อยราวกับมีผีเสื้อนับร้อยนับพันตัวบินวนไปมาอยู่ภายในแค่นางเริ่มต้นเสียว ร่องรักด้านล่างก็ถูกนิ้วยาวเรียวดันแทรกเข้าไป นิ้วเรียวแข็งนั้นแยงร่องที่คับแน่นเข้าๆ ออกๆ“ท่านมันระ ไร้ เหตุผล ที่ สุด”ตู้ชิงชิงข่มกลั้นความเสียวก่นด่าบุรุษออกมาทีละคำ ทว่าร่างแยกของหย่วนเฉินหาได้สนใจไม่ เขาจับต้นขาขาวยกสูงขึ้นพาดบ่าของตน ก่อนจะยัดแก่นกายใหญ่ยาวเข้าไปในร่องรักแทนนิ้วเรียวที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำใส“อื้ม คับแน่นดีมาก” หย่วนเฉินหลับตาซึมซับความรู้สึกถูกตอดรัดอย่างเต็มที่ เมื่ออยู่ในท่าทางที่คล่องตัว เขาก็เริ่มขยับเอวสอบตอกกระทุ้งแท่งหยกร้อนของตนรัวๆปัก ปัก ปัก ปักสตรีที่ไม่ได้ร่วมรักกับบุรุษมาพักใหญ่ ครั้นถูกกระแทกหนักๆ ถี่ ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอออกพร้อมกับส่งเสียงหวาน“อ้า”“รู้สึกดีหรือไม่” หย่วนเฉินยิ้มมุมปาก ดวง
หย่วนเฉินปล่อยให้ตู้ชิงชิงนอนหลับภายในตำหนัก ส่วนตัวเขาออกมาภายนอกด้วยใบหน้าสดใส ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าหลั่งน้ำไปเยอะรู้สึกได้ปลดปล่อย เขาจึงออกมาเดินเล่น แล้วค่อยกลับไปเข้าฌานอีกครั้ง เมื่อถึงสวนหย่อมข้างตำหนัก เขาก็พบกับเทพเต๋ออัน ผู้ซึ่งเป็นเทพข้างกายเทียนจวินกำลังพูดคุยอยู่กับเทพธิดาซิงเหวินครั้นได้ยินเสียงเดินเข้าไปใกล้ ทั้งเต๋ออันและซิงเหวินต่างก็หันมองหย่วนเฉินพร้อมกัน“ข้าก็คิดว่าเจ้าละกิเลสได้แล้ว ที่ไหนได้” เต๋ออันอมยิ้มพลางกล่าวหยอกเย้าหย่วนเฉินซิงเหวินอมยิ้มเช่นเดียวกัน “ข้าก็คิดไม่ถึงว่าท่านเทพหย่วนเฉินผู้ปฏิเสธนางเซียนเกือบทั้งสวรรค์กลับเลือกผีสาวร่วมเตียงโดยไม่อายผู้ใด”“เจ้าเป็นสตรี ใยถึงพูดแบบนี้” หย่วนเฉินถลึงตาใส่คนทั้งสอง“ข้ามีอายุหลายพันปี เหตุใดถึงต้องอายด้วย” ซิงเหวินตอบแล้วหันหน้าเข้าหาเต๋ออัน“เอ๊ะ ตอนนี้ฝั่งทะเลบูรพามีไอสวรรค์พิสุทธิ์จำนวนมาก หากมนุษย์หรือภูตผีที่มีกายเนื้อสูดกลืนอย่างต่อเนื่อง ก็จะสร้างกายทิพย์เป็นเซียนได้”เต๋ออันพยักหน้า แล้วส่งเสียง “อ่อ อ่อ อ่อ จริงด้วย ข้าลืมไปได้อย่างไรเนี่ย พอมีกายทิพย์แล้ว ก็แช่น้ำอมฤตสามวันสามคืน ฝึกบำเพ็
หน้าตำหนักหลักเทพธิดาเจินเมี่ยวกับเฟิ่งโหรวมาถึงก็พบซิงเหวินยืนดักอยู่ที่หน้าประตู นางได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างสตรีทั้งสองกับมู่จวิน จึงรีบออกมายังตำหนักนี้“ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าทั้งสองจะมาดูแลหย่วนเฉินของข้า แต่คงต้องทำให้พวกเจ้าผิดหวังแล้ว หย่วนเฉินมีพวกข้าดูแลแล้ว” ซิงเหวินตอบน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาเปล่งประกายบางอย่าง“พวกข้า” เจินเมี่ยวขมวดคิ้วทวนคำของซิงเหวินซิงเหวินยกยิ้มริมฝีปากคล้ายกับเป็นสตรีร้ายกาจ นางผลักประตูตำหนัก เดินนำเข้าไปภายในไม่ไกลจากเตียงนอนนัก ที่เตียงถูกดึงผ้าม่านปิดทุกฝั่ง ทว่าก็ยังพอมองเห็นเงาร่างในนั้นหนึ่งเงาบุรุษนอนบนเตียง และอีกหนึ่งเงาสตรีนั่งทับส่วนล่างของบุรุษ พร้อมกับขยับร่างกายในท่วงท่าที่ชวนจินตนาการไปไกล“นางผู้นั้น เป็นใครกัน” เฟิ่งโหรวตกใจถามเสียงดัง“นางคือสตรีคนแรกของท่านเทพขอรับ” มู่จวินที่อยู่ข้างหลังมาตลอดเปิดปากตอบให้ทุกคนได้ยิน “นางปรนนิบัติตั้งแต่อยู่บนโลกมนุษย์ เมื่อเสด็จกลับสวรรค์ก็ยังพานางกลับมาด้วย”“แน่ใจนะ ดูเหมือนว่าฝ่ายชายจะนอนนิ่งๆ เสียมากกว่า หรือไม่ใช่เทพหย่วนเฉิน” เมี่ยวเจินมุ่นคิ้วสงสัย ไม่ทันที่ซิงเหวินจะทันขัดขวาง นางก็เด
ตำหนักเทพหย่วนเฉินบุรุษอาภรณ์ขาวปลอดกลับมาถึงตำหนัก เขาเข้าไปนั่งที่ตั่งของตนตามความเคยชิน จากนั้นจึงสะบัดแขนเสื้อปล่อยผีสาวที่เก็บกลับมาให้เป็นอิสระตรงหน้าตู้ชิงชิงออกมาด้วยความงุนงง นางกวาดสายตามองโดยรอบก่อนหันมองท่านเทพที่พานางมา ณ ที่แห่งนี้เมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ตู้ชิงชิงถึงกับตกใจ ดวงตา จมูก ริมฝีปากนั้น เป็นสิ่งที่นางคุ้นตายิ่งนักบุรุษคนแรกและคนเดียวของนางตู้ชิงชิงอึ้งไปเล็กน้อย นางเอ่ยชื่อที่ติดปากออกมา “จางอวิ๋นอวี้ เจ้า.. ไม่ใช่สิ ท่านคือ....ท่านเทพลงไปจุติที่โลกมนุษย์หรือเจ้าคะ”หย่วนเฉินเลิกคิ้วประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดจะย้อนไปดูความทรงจำเมื่อครั้งจุติที่โลกมนุษย์ จึงไม่รู้ว่าตนเองอยู่บนโลกมนุษย์นั้นเป็นใคร และทำสิ่งใดไว้บ้าง“คงจะใช่” เขาตอบสตรีเพียงสั้นๆ ก่อนถามสิ่งที่ตนเองสงสัย “แล้วตอนที่ข้าเป็นมนุษย์ เคยช่วยเจ้าไว้อย่างนั้นหรือ”เขาเป็นมนุษย์ จะช่วยเหลือถ่ายทอดพลังเทพได้อย่างไรกัน นี่คือความสงสัยของเขา“จะว่าช่วยก็ช่วย จะว่าไม่ช่วยก็ไม่ช่วยเจ้าค่ะ” ตู้ชิงชิงลังเลเล็กน้อย นางไม่รู้จะตอบบุรุษตรงหน้าอย่างไรดี ในใจเต็มไปด้วยความกระดากอาย“ท่านเทพเคยไว้ชีวิต
ตู้ชิงชิงใช้เวลาเพียงสามวันก็จัดการโจรทั้งสามกลุ่มและพรรคพวกขององค์ชายสี่เหอควานตายจนหมด เหตุการณ์ที่มีคนจำนวนมากล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุนี้สร้างความสะเทือนขวัญแก่ผู้คนเป็นอย่างมากครั้นเรื่องดังกล่าวไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ของแคว้น พระองค์ทรงเรียกขุนนางทั้งหมดรวมถึงบรรดาโหรหลวงมาวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“กราบทูลฝ่าบาท นี่เป็นฝีมือของปีศาจแน่นอนพะย่ะค่ะ พระองค์ต้องทำพิธีขอให้ท่านเทพมาช่วยจัดการกำจัดปีศาจตนนี้” หัวหน้าโหรหลวงกราบทูลสีหน้าเคร่งเครียด“ได้ พวกเจ้าไปเตรียมการให้เรียบร้อยภายในสามวัน ข้าจะเดินทางไปทำพิธีด้วยตนเอง”........จวนรองผู้บัญชาการศาลต้าหลี่หลังจากที่ตู้ชิงชิงทำให้พวกเมิ่งหลู่ เกาถงและคนอื่นๆ หายห่วงจนไปสู่สุคติแล้ว นางก็กลับมายังจวนที่เคยอยู่กับจางอวิ๋นอวี้ ตู้ชิงชิงเลือกไม่ปรากฏกายออกมาให้ผู้ใดเห็นหน้าจวนประดับผ้าไว้ทุกข์ ภายในจวนเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ตู้ชิงชิงเห็นเฉินเล่อจิ้นผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของจางอวิ๋นอวี้กำลังปลอบน้องสาวตน“เจ้าเห็นหรือไม่ อวี้เอ๋อร์ของเราเป็นคนดี แม้ถูกโจรสังหาร แต่ก็ยังมีพวกภูติผีช่วยจัดการฆ่าโจรให้”“แต่นั่นบุ







