Share

บทที่4

last update Huling Na-update: 2025-06-07 23:51:41

หลังจากผ่านมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ตอนนี้เรื่องอะไรต่างๆ ท่านหัวหน้าหมู่บ้านก็ดำเนินการให้นางจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการหาช่างหาคนงานมาสร้างบ้านนางก็หาได้แล้ว ซึ่งตอนนี้นางก็กำลังยืนดูคนงานทำการก่อสร้างบ้านให้นางอยู่ นางสร้างบ้านแบบขนาดปานกลางเพราะอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งแบบบ้านที่นางได้นั้นก็ได้มาจากเสี่ยวเปาคนดีคนเดิมของนางนั้นเอง

และในทุกๆ วันเมิ่งฮวาจะต้องแวะมาดูคนงานสร้างบ้าน คอยทำนู้นทำนี่มาแจกคนงาน อย่างเช่นวันนี้นางก็ทำนำมาแจกคนงานให้ดื่มคลายร้อนกันเสียหน่อย จะได้มีแรงสร้างบ้านให้นางเสร็จไวๆ ยิ่งนางเอาใจใส่ มีน้ำใจกับพวกคนงานเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งอยากตอบแทน แต่ละคนเลยตั้งใจที่จะทำบ้านของนางออกมาให้ดูดีที่สุด

หลังจากที่นางคอยดูคนงานสร้างบ้านแล้ว เมิ่งฮวายังขึ้นเขาไปทำกับดักล่าสัตว์บนเขาอีกด้วย ซึ่งนางก็ได้สัตว์กลับบ้านเป็นประจำทุกวัน ทุกวันนี้ชาวบ้านหลายๆ คนก็ต่างอิจฉาท่านลุงกับท่านป้าจนแทบจะกระอักเลือดเพราะนอกจากจะรับนางที่เป็นคนแปลกหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นคนหนูร่ำรวยแล้วยังไม่พอ นางยังขึ้นเขาล่าสัตว์เก่งเสียด้วย เก่งกว่าตาแก่ที่บ้านพวกนางเสียอีก ต่างคนก็ต่างคิดกันว่าวันนี้คนที่เจอนางน่าจะเป็นพวกนางไม่งั้นป่านนี้พวกนางคงจะสบายกันไปเสียแล้ว แค่คิดก็ได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันกันอย่างเสียดาย

… และวันนี้ก็อีกเช่นเคยเมิ่งฮวาล่ากวางป่าออกมาได้ถึง 2 ตัว ซึ่งขนาดตัวนั้นก็เรียกว่าใหญ่มากเสียด้วย หากนำไปขายคงได้หลายตำลึง ไหนจะเขากวางที่แค่มีคู่หนึ่งก็สามารถนำไปขายที่ร้านสมุนไพรได้ตั้งหลายตำลึงทอง แต่นี่ได้มาถึง 2 ตัว มี2คู่ เช่นนี้จะขายได้กี่ตำลึงทองกันนะ? ผู้คนที่พบเห็นเมิ่งฮวาลากกวางตัวใหญ่ใส่รถเข็นกลับมายังบ้านก็ได้แต่ตกตะลึง อิจฉา และขบคิดไปพร้อมกัน

บ้านตระกูลลี่

“โอ้ อาเมิ่งล่าสัตว์อะไรได้กลับมาอีกแล้วหรือ” ท่านลุงที่กำลังผ่าฟืน เมื่อเห็นนางก็รีบเอ่ยปากถาม

“ท่านลุง ข้าล่ากวางป่าได้ล่ะ”

“อ้อ กวางป่ารึ ห๋า! เจ้าพูดอีกทีสิเจ้าล่าอะไรมาได้นะ” ท่านลุงตาลีตาเหลือกถาม

แต่ไม่ทันที่เมิ่งฮวาจะเอ่ยตอบ

“นี่! ตาแก่ แกจะแหกปากหาพระแสงอะไร ห้ะ!” ท่านป้าเดินฉับๆ ออกมาบ่นท่านลุงที่เสียงดัง

แต่เมื่อท่านป้าหันมาเห็นกวางป้า2ตัวที่นอนอยู่บนรถเข็น แถมยังตัวใหญ่ขนาด2คนอุ้มอีกต่างหาก ก็ตกใจทำตะหลิวหลุดมือ

เคร้ง!

“เอ่อ… ท่านลุงท่านป้าเป็นอันใดกันหรือเจ้าคะ” นางกล่าวถามพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ

แต่ท่านลุงกับท่านป้ามัวแต่ยืนค้างตกคะลึงกันอยู่ เสี่ยวเปาเลยเอ่ยตอบนางแทน

[ก็นายท่านเล่นล่ากวางป่ามาได้เช่นนี้ใครเขาจะไม่ตกใจกันเล่า แค่เขากวางป่าคู่หนึ่งไปขายที่ร้านขายสมุนไพรก็ได้หลายตำลึงทองแล้ว แต่นี่นายท่านสามารถล่าได้มาถึง2ตัวเชียวล่ะ] เมื่อเมิ่งฮวาได้ยินเสี่ยวเปาตอบก็เข้าใจทันที

“ท่านลุงท่านป้าเจ้าคะ!” เมิ่งฮวาจะโกนเรียกเสียงดัง

“อะ… เอ่อ อาเมิ่ง นี่เจ้าล่ามาเองหรือ” ท่านลุงที่ได้สติก่อนก็เอ่ยถาม

“ใช่เจ้าค่ะ” นางกล่าวตอบพร้อมกับผงกหัว

“เจ้ารู้มูลค่าของกวางป่าหรือไม่อาเมิ่ง”

“ข้าไม่รู้เจ้าค่ะท่านลุง หากท่านลุงอยากจะนำไปขายก็นำไปขายเถิดเจ้าค่ะ” เมิ่งฮวากล่าวออกมาอย่างไม่ยี่หระ

“เพ้ย! เจ้าเป็นคนล่ามาได่จะมาให้ข้าง่ายๆ ได้เช่นไรกัน อีกอย่างมูลค่าของกวางป่า2ตัวนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ ”

“จริงอย่างที่ตาแก่ว่า เจ้าเก็บเอาไว้เถิด แค่ทุกวันนี้พวกข้าก็ได้รับมามากเกินไปแล้ว”

“ท่านลุงท่านป้าอย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ แค่สมบัติที่ข้ามีในแหวนมิติก็ใช้ไม่รู้จะหมดเมื่อใดอยู่แล้ว ท่านทั้งสองนำไปขายแล้วเก็บเงินไว้ใช้ในยามจำเป็นเถิดเจ้าค่ะ ถือว่าข้าตอบแทนที่ท่านทั้งคู่ต่างก็ต้อนรับขับสู้ข้าเป็นอย่างดี ไหนจะดูแลข้าเหมือนลูกเหมือนหลานอีกะ”

“เจ้านี่นะ รู้จักหาเหตุผลมาให้พวกข้ารับของจากเจ้าเสียจริง” ท่านลุงเอ่ยออกมาอย่างจนใจ

“ก็ข้าพูดจริงนี่เจ้าคะท่านลุง” นางพูดพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ

“ได้ได้ ข้าสองคนยอมเจ้าละ ตาแก่เจ้ารีบนำกวาง2ตัวนี้ไปขายเถิด”

“ได้ได้”

หลังจากนั้นไม่นานท่านลุงก็หาผ้ามาคลุมปิดไว้เพื่อบดบังสายตาผู้คน แล้วเข็นรถที่มีกวางป่าอยู่บนรถออกไปทันที

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่63

    หลังผ่านเหตุการณ์สั่นคลอนชะตาทั้งหลายที่ปราสาทอู่หวัง และผ่านช่วงเวลาพักรักษาตัวอยู่ในจวนใหญ่ของโจวจางเหว่ย ในที่สุดนางก็สามารถฟื้นตัวคืนกำลังได้เกือบเต็มร้อย พลังลี้ลับจากเลือดมังกรในกายไม่ปรากฏอาการร้อนผ่าวอีกแล้ว เธอสัมผัสได้ว่าบัดนี้ตนไม่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งเช่นเดิมอีกต่อไปในเช้าวันแดดจัดที่มีเมฆลอยเรียงกันประปราย โจวจางเหว่ยได้จัดเตรียมรถม้าอย่างเรียบง่าย พาเมิ่งฮวาออกเดินทางกลับหมู่บ้านซานซี อันเป็นดินแดนเล็กๆที่เธอเคยใช้ชีวิตเรียบง่ายร่วมกับ ท่านลุงลี่คุน และท่านป้าลี่จูเสมอมาเมิ่งฮวามองเห็นทิวเขาคุ้นตาแต่ไกล ยิ่งใกล้ซานซีเท่าไรเธอยิ่งรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ นึกถึงวันที่ยังใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ไม่ต้องพัวพันกับเลือดมังกรหรือการเมืองใดๆ เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้านเธอเห็นรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของโจวจางเหว่ย และสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นๆที่พัดมาเหมือนยินดีต้อนรับการกลับมาของเธอเมื่อรถม้าวิ่งเข้าเขตบ้านลุงลี่คุน ท่านป้าลี่จูก็ปราดออกมาต้อนรับทันทีด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความห่วงใย“อาเมิ่ง! เจ้าไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?” ท่านป้าลี่จูรีบเข้ามาจับมือเมิ่งฮวา ตรวจดูกันตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับหล

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่62

    เสียงก้องสะท้อนในห้องมังกรใหญ่ยังคงโหมกระพือ เสาหินรอบข้างสั่นไหวราวกับจะถล่มลงทุกเมื่อ อานุภาพมหาศาลจากแกนมังกรแผ่กระจายเป็นวงกว้าง ทำให้อากาศสั่นระริกจนทุกคนที่อยู่ในห้องรู้สึกหายใจลำบากเมิ่งฮวายืนอยู่ตรงกลางวงแสงสีทองที่ปะทุจากจุดศูนย์กลางของแท่นบูชา เหงื่อและเลือดไหลอาบบนใบหน้าที่เธอไม่อาจรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้อีก ในจิตใจเธอมีเสียงสองกระแสคอยก้องสลับไปมา‘หลอมรวม… เพื่อเป็นผู้ครองพลัง! หรือทำลาย… เพื่อยุติความวุ่นวาย!’เบื้องหน้าเธอคือรูปสลักมังกรที่ดูเหมือนมีชีวิต แผ่นโลหะหนาทึบบนอกรูปสลักเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆเผยให้เห็นแกนมังกรคล้ายลูกแก้วสีทองสะท้อนแสงในมือเมิ่งฮวา อำนาจโบราณจากยุคสมัยราชวงศ์เก่ากำลังตื่นขึ้นพร้อมแรงกดดันอันเกรี้ยวกราดขณะที่คลื่นพลังปกคลุมห้องมังกรอย่างหนักหน่วง เหล่ามือสังหารที่ยังมีสติอยู่ก็ต้องคุกเข่าหรือหมอบกับพื้น องครักษ์ของโจวจางเหว่ยที่ยังยืนก็แทบจะทรงตัวไม่อยู่ บางคนถูกแรงอัดดีดกระเด็นไปยังซอกกำแพงโจวจางเหว่ยตะเกียกตะกายลุกขึ้น มือกำกระบี่ที่สั่นระริก พยายามฝ่าคลื่นพลังเข้ามาหาเมิ่งฮวา“ฮวาเออร์!” เขาเรียกสุดเสียง แต่ถูกแรงอัดบีบจนขยับได้ยากเต็มที

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่61

    แสงสีทองแห่งแกนมังกรที่ซ่อนอยู่ภายในร่างโลหะของมังกรส่องสว่างออกมาจากกลางแท่นบูชาอย่างน่าพิศวง บรรยากาศในห้องใต้ดินอันกว้างใหญ่ชวนให้รู้สึกถึงความเก่าแก่และพลังลี้ลับที่สั่งสมมานับศตวรรษเมิ่งฮวายืนนิ่งหัวใจเต้นระรัวเมื่อตระหนักว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ‘หัวใจ’ของอู่หวังที่แท้จริง ต้นกำเนิดแห่งอำนาจซึ่งเหล่ากบฏกำลังตามหามาโดยตลอดขณะที่เมิ่งฮวากำลังไล่สายตาสำรวจรูปสลักมังกรขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีชิ้นส่วนโลหะพิเศษครอบอยู่เป็นเกล็ด การเต้นของเลือดในร่างกายเธอก็เร่งจังหวะไม่หยุดราวกับสายเลือดตอบสนองต่อบางสิ่งที่เปล่งพลังงานอยู่เบื้องหน้า“ฮวาเออร์…” โจวจางเหว่ยเรียกเธอเสียงเบา มือกำกระบี่ข้างกายแน่น เขามองสถานการณ์ด้วยความระแวดระวังเพราะอาจมีศัตรูโผล่มาได้ทุกเมื่อ “เจ้ารู้สึกไหมว่าพลังนี้กำลังเรียกหาเจ้า?”เมิ่งฮวาพยักหน้าเล็กน้อยสีหน้าสับสนแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นางไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ก้าวเข้าใกล้แท่นบูชามากขึ้นทีละนิดโดยมีโจวจางเหว่ยตามมาคุ้มกันไม่ห่างบริเวณโดยรอบแท่นบูชามีร่องรอยภาพสลักเก่าแก่บนกำแพงหินและพื้น บ้างเป็นรูปมนุษย์แต่งกายหรูหรายืนล้อมมังกร บ้างเป็นรูปผู้คนคุกเข่าบูชา

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่60

    การต่อสู้ในโถงมังกรยังคงดุเดือด ดาบกระทบกันเสียงดังสนั่น เสียงเหล็กเสียดสีกันดังไปทั่วทุกมุมโถง บางครั้งสายตาของเมิ่งฮวาก็เหลือบไปเห็นบันไดลับที่เปิดลงไปยังส่วนลึกของปราสาท อาการบาดเจ็บจากการต่อสู้รุนแรงทำให้ความคิดของเธอพร่าเบลอ แต่เธอรู้ดีว่าถ้าไม่รีบตัดสินใจตอนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้พวกเขาพลาดโอกาสสำคัญไปท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรงนักฆ่าหลายคนเริ่มแยกตัวออกไป โดยมีท่าทางเหมือนจะเริ่มมีกลยุทธ์บางอย่าง การโจมตีของพวกมันแม่นยำและรวดเร็ว หลายครั้งที่เมิ่งฮวากับโจวจางเหว่ยต้องใช้กลยุทธ์หลบหลีกและโจมตีสวนกลับ หากพวกเขายังไม่สามารถหยุดยั้งพวกมันได้ กลุ่มของพวกเขาจะต้องถูกต้อนให้มุมในไม่ช้า“พวกมันกำลังพยายามล่อเราไปที่มุม!” เมิ่งฮวาตะโกนเตือน โจวจางเหว่ยหันไปมองเธอด้วยความเป็นห่วงแต่เขาก็ไม่มีเวลาพูดอะไร เพราะมือสังหารอีกคนพุ่งมาที่เขา โจวจางเหว่ยต้องหลบการโจมตีและสวนกลับด้วยกระบี่ในมือ“ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าหลบหนีไปได้แน่!” เขาตะโกนสั่งองครักษ์ที่ยืนข้างๆ พลางฟันกระบี่ของตนอย่างแม่นยำเสียงของดาบกระทบกันดังตึงตังจนหลายคนสะดุ้ง แต่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงนั้น เมิ่งฮวามองเห็นช่องว่างระห

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่59

    ความเงียบงันที่ปกคลุมอุโมงค์หินถูกแทนที่ด้วยเสียง ครืด… ครืด… ที่ดังสะท้อนก้องจนเสียดหู เมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ย ยืนประจันหน้ากับเงาดำขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ตรงส่วนปลายทางเดิน โดยมีองครักษ์อีกสองนายจับอาวุธเตรียมพร้อมในท่าทีตื่นตัวพอแสงคบไฟสาดส่องไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆก็ปรากฏให้เห็นเงาร่างเหมือน “รูปสลักมังกร” ขนาดใหญ่หินแกะสลักที่ลำตัวยาวเลื้อยไปตามผนัง มีส่วนหัวโผล่พ้นขึ้นจากพื้นหินชนิดที่เห็นฟันแหลมคมรางๆ ดวงตาของมันเป็นอัญมณีสีเขียวเข้มสะท้อนแสงไฟพราวระยับ จนดูราวกับมันกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่จริงๆเมิ่งฮวารู้สึกถึงเลือดในกายสูบฉีดเร็วขึ้น สัญชาตญาณบางอย่างร้องเตือนว่าสิ่งนี้มิใช่เพียงรูปสลักธรรมดา เหมือนมีพลังลี้ลับแผ่ออกมาจากตัวมัน“นายท่าน… นี่มัน… เคลื่อนไหวได้หรือขอรับ?” องครักษ์คนหนึ่งถามเสียงเบาหวิว มือกำกระบี่ไว้จนข้อขาวโจวจางเหว่ยไม่ตอบ เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวโดยที่ยังไม่ลดกระบี่ เสียงหินเสียดสีกันดังครืดอีกครั้ง ขณะเดียวกันรูปสลักมังกรก็ขยับคอไปด้านข้างช้าๆก่อให้เกิดความรู้สึกขนลุกพิลึก“รูปสลักนี้มีกลไกด้านใน… หรืออาจเป็นกับดักที่ใช้แรงคนหมุน?” เขาพึมพำ แต่ความสงสัยกลับเร้าใจขึ

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่58

    ท่ามกลางกลิ่นอับชื้นและความเยียบเย็นของห้องหิน ขบวนของเมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ยตัดสินใจหยุดพักชั่วคราวเพื่อฟื้นแรงและประเมินสถานการณ์ โดยมีองครักษ์สองนายผลัดกันออกไปยืนเฝ้าที่ปากอุโมงค์เพื่อป้องกันมือสังหารศัตรูที่อาจกลับมาได้ทุกเมื่อเมิ่งฮวานั่งพิงกำแพงที่ขรุขระ หายใจผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยหลังจากผ่านการต่อสู้อันบีบคั้น เหลือบมองสมาชิกในขบวนที่ได้รับบาดเจ็บก็กำลังนั่งพักผ่อนเช่นกัน บางคนก็หลับตาปลดปล่อยความตรึงเครียดโดยมีอาวุธวางข้างตัวไม่ห่าง“ทุกคนเหนื่อยกันมาก…” โจวจางเหว่ยเอ่ยเสียงเบา ดวงตาเข้มทอแววห่วงใย “แต่เรายังต้องก้าวต่อไป หากพ้นคืนนี้แล้วเดินไปอีกไม่ไกลก็อาจถึงใจกลางอู่หวัง”เมิ่งฮวาพยักหน้ารับ เธอเองก็รับรู้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่ลึกลงไปในภูเขานี้ คล้ายกับว่ามันรอให้เธอมาค้นพบมานานแสนนาน“นายท่าน!” องครักษ์คนหนึ่งที่เดินตรวจลึกเข้าไปในอุโมงค์ร้องเรียกเบาๆ สะท้อนเสียงมาไกล ราวกับค้นพบอะไรบางอย่างโจวจางเหว่ยและเมิ่งฮวาลุกขึ้นทันที นำองครักษ์บางส่วนถือคบไฟตามเข้าไปยังโพรงแคบภายในห้องต่อไปในโพรงนั้น… พื้นหินเรียบแต่ผนังสองข้างกลับคดเคี้ยวด้วยลวดลายสลักเป็นรูปคนและสัตว์ในท่าทางแป

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status