LOGIN“พ่อจะตีลูกสองที ให้หลาบจำ”
ทรงศักดิ์เงื้อไม้อีกรอบ แต่คราวนี้คนที่โดนฟาดกลับเป็นหัสดิน ชายหนุ่มเข้าไปสวมกอดร่างเล็กทางด้านหลังรับไม้หวายเสียเอง
พลอยชมพูลืมตามองด้วยความตกใจ เธอเห็นแต่ใบหน้าเรียบเฉย และสายตาอ่อนโยนที่เขามอบให้
“บัวไม่ได้ตั้งใจใช่ไหม”
หัสดินถามด้วยริมฝีปากสั่นๆ ใบหน้าซีดเซียวของเขาทำให้เด็กสาวตกใจ
“ทะ... ทำแบบนี้ทำไม”
พลอยชมพูถามเสียงสั่นไม่คิดว่าเขาจะรับไม้หวายแทนเธอ ทุกคนตกตะลึงไปตามๆ กัน
“พี่รู้ว่าน้องบัวไม่ได้ตั้งใจ ใช่ไหมคะคนดี”
หัสดินถามซ้ำยิ้มให้เด็กสาวด้วยใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม ริมฝีปากที่ซีดเผยอยิ้มพร้อมกับแววตาที่อบอุ่น ก่อนที่ร่างสูงของเด็กหนุ่มจะทรุดลงไปกองกับพื้น
“ดิน! ลูกดิน”
ทุกคนรีบเข้าไปช่วยเหลือหัสดิน เพราะได้รับบาดเจ็บจากการโดนสุนัขกัดจึงทำให้อ่อนเพลีย
“รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป”
ทรงศักดิ์ดุบุตรสาวอีกครั้ง คราแรกพลอยชมพูชะงักรู้สึกผิด มองหัสดินด้วยความห่วงใย แต่พอโดนดุ เธอเชิดใส่ เม้มริมฝีปากแน่น
“อยากมารับไม้เองช่วยไม่ได้ บัวไม่ได้ต้องการความสงสาร ความช่วยหรือความเวทนาจากใครสักนิด”
เด็กสาวยังเถียงไม่เลิกก่อนเดินหนีขึ้นห้องไป
“ยัยบัว กลับมาเดี๋ยวนี้ พ่อบอกให้กลับมา!”
นายหัวใหญ่ตะโกนเสียงเข้มด้วยความโมโหจัด ตัวสั่นเทาจนทุกคนหวาดกลัวไปตามๆ กัน
“คุณคะ ปล่อยแกไปเถอะค่ะ”
พรพิมลพูดเสียงเนือยๆ ถอนใจหนักๆ มองลูกชายด้วยความห่วงใย ช่วยกันประคองหัสดินนอนบนโซฟาตัวยาว โดยมีกณวรรธช่วยดูอาการให้ไม่ห่าง
ตลอดหลายวันพรพิมลคอยเฝ้าดูแลบุตรชายคนเดียว ทรงศักดิ์ที่คิดว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับสองแม่ลูกจึงเลื่อนออกไปก่อน
พลอยชมพูได้แต่แอบมองหัสดินอยู่ห่างๆ ก่อนจะเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องอีกแล้ว จึงย่องเข้าไปหาเขา ความรู้สึกเป็นห่วงฉายชัดในแววตาคู่สวย แต่ไม่มีใครได้เห็นแม้แต่เธอก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
เด็กสาวมองพี่ชายร่วมบ้านที่นอนหลับสนิทบนเตียงด้วยความรู้สึกผิด แผลที่โดนเจ้าบุญหลายกัดหนักพอสมควร แต่ได้กณวรรธช่วยทำแผลให้ทุกวัน เขาจึงค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ
หัสดินที่นอนหลับไปนานเพราะฤทธิ์ยาค่อยๆ ลืมตาตื่น เขายิ้มเมื่อเห็นพลอยชมพูอยู่ข้างเตียง
เด็กสาวเผลอยิ้มเมื่อเห็นเขาฟื้น แต่เปลี่ยนเป็นหน้าบึ้งตึงทันทีเมื่อคิดได้ว่าเธอต้องมาสมน้ำหน้าเขาสิ ไม่ใช่มาสงสารหรือดีใจที่เห็นเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก
“น้องบัวมาเยี่ยมพี่เหรอคะ” หัสดินถามด้วยความดีใจ
“ใครบอก มาดูว่ายังอยู่หรือเปล่าต่างหาก ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ไม่อยากให้ใครมาตายในบ้าน”
แม้ใจจะคิดอีกอย่าง แต่ปากกลับพูดไปอีกอย่าง หัสดินยิ้มรับไม่แสดงอาการโกรธแม้แต่น้อย เขารู้ว่าเธอห่วงเขา เพราะสายตามันฟ้อง
“คนบ้า ยิ้มทำไม”
เด็กสาวขมวดคิ้วยุ่งเมื่อไม่เห็นอาการโกรธของชายหนุ่ม
“น้องบัวเป็นห่วงพี่ พี่ก็ชื้นใจแล้วค่ะ ไม่เป็นอะไรมากแล้ว พี่กัณฑ์ทำแผลให้ทุกวัน ตอนนี้ไม่เจ็บแผลแล้วด้วย แต่ปวดๆ เล็กน้อยเท่านั้น” เขาบอกให้เด็กสาวคลายใจ พลอยชมพูโล่งใจแต่พูดไปอีกทาง
“เอ๊ะ! บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นห่วง ทำไมต้องมาบอกอาการให้รู้ด้วย เค้าไม่ได้ถามสักหน่อย”
พลอยชมพูทำเสียงดังกลบเกลื่อน ไม่อยากเสียฟอร์ม แต่สีหน้าโล่งใจทำให้คนที่นอนบนเตียงยิ้มไม่หุบ
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้พูดอะไรกันอีก บิดาและมารดาเลี้ยงก็เข้ามาในห้อง
“บัว…” ทรงศักดิ์เรียกบุตรสาวด้วยความประหลาดใจ
“น้องบัวมาเยี่ยมผมนะครับคุณลุง”
หัสดินชิงพูดขึ้นก่อน พยุงตัวขึ้นจากเตียง เขาไม่อยากให้เด็กสาวโดนบิดาดุ
พลอยชมพูกัดริมฝีปากแน่น เลือกที่จะเงียบมากกว่าโต้เถียงหรือปฏิเสธ เพราะถ้าเขาไม่บอกเช่นนั้น เธอจะเป็นคนบอกบิดาเองว่ามาสมน้ำหน้าเขา
“บัวขอตัวก่อนนะคะ”
เด็กสาวรีบขอตัว เมื่อเห็นสายตาของบิดาและมารดาเลี้ยงมองมาด้วยความประหลาดใจอยู่ไม่คลาย แล้วทั้งสองก็เผลอยิ้มเมื่อคิดตามคำพูดของหัสดินที่เด็กสาวแสดงความห่วงใยโดยมาเยี่ยมหัสดินถึงห้อง
“ลูกเป็นยังไงบ้าง”
พรพิมลถามบุตรชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดีที่หัสดินเคยฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าไปแล้ว และยังไม่เกินหกเดือนจึงฉีดวัคฉีดแค่อีกเข็มเดียวเท่านั้น และต้องฉีดภายใน 72 ชั่วโมง ซึ่งกณวรรธได้จัดการเรียบร้อย หลังจากบุตรชายถูกสุนัขกัด
“ไม่เป็นไรแล้วครับแม่ ไม่ต้องเป็นห่วง”
เขายิ้มให้บิดาเลี้ยงและมารดา ทั้งสองจึงคลายใจไปได้มาก
หัสดินมีความอดทนสูงอย่างที่สุด ทรงศักดิ์นึกทึ่งในตัวลูกเลี้ยง บุคลิกลักษณะเหมือนหาญซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขาเหลือเกิน
แต่นั่นคือข้อด้อยที่เขาคิด เพราะความใจดี ใจอ่อน หรือยอมคนอื่นมากเกินไป หาญจึงต้องสูญเสียทุกอย่างให้น้องชาย หากเขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย ป่านนี้พรพิมลกับหัสดินจะเป็นเช่นไร
พายัพไม่ทำงานทำการอะไร ติดการพนัน เจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ตอนเพื่อนของเขายังอยู่ก็ขอเงินใช้ไม่หยุด ตอนจากไปก็ทำหลักฐานปลอมฮุบทรัพย์สมบัติไปอีก แต่คงอีกไม่นาน ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นคงไม่แคล้วตกอยู่ในมือของคนอื่น ก่อนถึงเวลานั้น เขาคงต้องทำอะไรสักอย่าง
เขาต้องฝึกหัสดินให้เข้มแข็งและแกร่ง สำหรับปกครองดูแลคนงานมากมาย หากหัสดินยังใจอ่อน คงไม่สามารถรักษาทรัพย์สมบัติอันใดได้ กลายเป็นคนอ่อนแอให้คนอื่นข่มเหง
ถ้าเขาจะฝึกเด็กคนนี้ให้แข็งแกร่งขึ้นได้คงดีไม่น้อย ที่สำคัญหัสดินมีจิตใจเมตตาต่อคนอื่น เหมาะสำหรับการดูแลลูกน้องที่ต้องใช้ทั้งพระเดชพระคุณ เด็กหนุ่มจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบหาตัวจับยาก
การทวงคืนทุกอย่างของตัวเองกลับคืนมา เป็นสิ่งที่ลูกเลี้ยงควรทำ เขาคิดเช่นนั้น แม้จะอีกกี่สิบปีก็ยังไม่สาย
ในใจหนุ่มใหญ่วาดหวังให้เด็กหนุ่มตรงหน้าดูแลทรัพย์สมบัติต่อจากเขา ดังนั้นหัสดินจะต้องเด็ดขาด เป็นที่ยำเกรงและเป็นที่รักของลูกน้องทุกคน
พลอยชมพูสาวน้อยวัย 18 สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมตอนปลาย ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 วันนี้เป็นวันแรกที่เธอเหยียบเข้ามาในบ้าน...
บ้านที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมเยียนเลยตลอดสามปี หลังจากบิดาส่งเธอไปอยู่โรงเรียนประจำ
หญิงสาวมองรูปบิดากับมารดาแขวนอยู่ที่กลางห้องกว้างของตัวบ้าน นึกประหลาดใจว่าท่านไม่ได้ปลดไปทิ้งที่ไหนหรอกหรือ
แต่อีกด้านมีรูปของท่านกับพรพิมลอยู่ด้วย หญิงสาวเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แม้จะทำใจได้แล้ว แต่อดคิดหวั่นๆ เสียไม่ได้
ร่างอรชรอวบอิ่มมีน้ำมีนวล ผิวเนียนนุ่มสุขภาพดี ผมยาวสลวยสีดำดุจเส้นไหม แขนเรียวกลมกลึง ขาเพรียวได้รูป อกอวบรับกับเอวคอดและสะโพกผาย ความสูงร้อยหกสิบเจ็ดเซนติเมตรสะดุดตาผู้พบเห็น
เหตุการณ์ในอดีตผ่านเข้ามาเหมือนหนังที่ฉายซ้ำไปซ้ำมา ก่อนที่บิดาจะส่งเธอไปอยู่ไกลหูไกลตาท่าน
“บัว! ทำไมผลการเรียนแย่แบบนี้”
ทรงศักดิ์ตวาดบุตรสาวเสียงดัง อารมณ์ขุ่นมัวสุดขีดเมื่อผลการสอบของพลอยชมพูตกเกือบทุกวิชา ที่สำคัญระยะหลังเขาต้องไปโรงเรียนบ่อยเพราะโดนฝ่ายปกครองเชิญไปพบด้วยสาเหตุว่าบุตรสาวไม่เข้าเรียน แต่ละวิชาแทบไม่มีสิทธิ์สอบ
“ก็บัวทำได้แค่นี้ ครูสอนไม่เข้าใจ”
พลอยชมพูตอบส่งๆ เธออยากให้บิดาสนใจเธอบ้าง การที่ผลการเรียนตกต่ำเช่นนี้ท่านจะได้สนใจ ไม่ใช่อะไรก็สนใจแต่แม่เลี้ยง
“บัวไม่เคยคะแนนตกแบบนี้มาก่อนนี่ลูก ทำไม บอกพ่อมาสิ”
ทรงศักดิ์คาดคั้น เพราะบุตรสาวสอบได้ที่หนึ่งทุกปี เกรดเฉลี่ย 4.00 ตลอดทุกภาคเรียน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนี้ผลการเรียนของบุตรสาวถึงย่ำแย่ขนาดนี้
“พี่กันต์ขา ศิเหนื่อยเหลือเกิน เมื่อยด้วย”เธอพ้อเมื่อเขายังไม่ยอมถอดถอนกายออกไปจากร่าง“พี่ยังไม่เหนื่อยเลย”ศศิกานต์ตาโต เขาจุมพิตเปลือกตาทั้งสอง เธอเริ่มครวญครางครั้งใหม่ กว่าเขาจะละจากร่างบางก็ตักตวงความสุขถึงที่สุดศศิกานต์หลับใหลด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่อิ่มเอมสุขกระสันแบบที่ไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิตสาวกณวรรธ เอาใจใส่ศศิกานต์เป็นอย่างดี ชายหนุ่มให้หญิงสาวไปทำงานกับเขาทุกวัน โดยไม่ยอมให้ไปทำงานที่ไหน เพราะอยากเห็นหน้าหวานๆ ตลอดเวลา เวลาตรวจคนไข้ออกมาเหนื่อยๆ จะได้ชื่นใจ บิดามารดาของหญิงสาวชอบใจใหญ่ที่ได้ลูกเขยเป็นคนดีและรักบุตรสาวจากใจจริงทั้งสองมีทายาทหัวปีท้ายปี ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด ยิ่งนานวันหมอหนุ่มยิ่งหวงภรรยามากขึ้น เพราะยัยหมูน้อยของเขาอวบอัดน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัวสำหรับหัสดินกับพลอยชมพูดำเนินกิจการทำข้าวนึ่งบรรจุกระป๋อง ซึ่งได้รับการตอบรับดีพอสมควร ทั้งสองค่อยๆ ขยายกิจการไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบร้อน โดยเปิดโรงงานเล็กๆ เพื่อแปรรูปข้าวหลายรูปแบบ มีให้เลือกสรรแล้วแต่ความต้องการของผู้บริโภค แต่เน้นเพื่อสุขภาพเป็นหลัก ที่สำคัญพันธุ์ข้าวสังข์หยดที่มีคุณค่าถูกนำมาผลิตเป็นข้าวบรรจ
“พี่กันต์บ้า อย่าพูดนะ คนเจ้าเล่ห์เกลียดที่สุดเลย” ศศิกานต์ตาเขียวใส่เจ้าบ่าว“เค้าบอกว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้นนะ” เขายิ้มตาพราว“พี่กันต์ ศิอยากอาบน้ำจริงๆ นะ”เธออ้อนวอนเขาทั้งคำพูดและแววตา“ได้สิ แต่ต้องให้พี่อาบด้วย ไม่งั้นก็ไม่ให้อาบ”ศศิกานต์ตาโต หมอหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์เริ่มหื่นกับเธออีกแล้ว คนบ้า... ไม่ให้เวลาเธอตั้งตัวบ้างเลยเหรอ“ไม่เอา ศิอาย พี่กันต์บ้าๆๆๆ”ศศิกานต์ดิ้นอึกอักทุบเขาไม่ยั้ง ชายหนุ่มกดมือน้อยทั้งสองเอาไว้“ไม่บ้าแล้วยัยลูกหมูน้อยของพี่ พี่อยากรักศิแบบนี้มานานแล้ว”เขากระซิบบอกเสียงกระเส่าหวาน จนหญิงสาวขนลุกชัน“พี่กันต์ ให้ศิทำใจก่อน”เธอกลืนน้ำลายฝืดเคืองลงคอ เขาไม่คิดจะให้เธอตั้งตัวเลยหรือยังไง สักนิดหนึ่งก็ยังดี“ก็ได้” เขาใจอ่อนในที่สุด ตกหลุมรักเด็กไปแล้วนี่นาศศิกานต์เผยยิ้มออกมาเมื่อรอดพ้นเงื้อมือเขาไปได้บ้าง อย่างน้อยให้เวลาเธอทำใจสักนิด“แต่มีข้อแม้...” นั่นไง เธอว่าแล้วเชียว“อะไรอีกล่ะคะ” เธอถามเสียงสั่นเมื่อเห็นประกายตาของเขา“พี่อาบน้ำด้วย ประหยัดเวลาไง อยากรักศิแล้วนะ รีบปั้มลูกไง จะได้มีลูกทันใช้ พี่แก่แล้วนะ อายุมากโข... กว่าเมียจะโตขนาดนี้”เข
ร่างสาวโยกกายเร้าอารมณ์หนุ่ม จนได้ยินเสียงเนื้อเสียดสีเป็นจังหวะปะปนกับเสียงร้องครวญแทบขาดใจ“พี่ดินขา... บัวจะขาดใจแล้ว”พลอยชมพูกระตุกร่างหวีดร้องสุดเสียง ร่างน้อยถูกกระชากเข้าสู่ความสุขหฤหรรษ์หัสดินผ่อนแรงเล็กน้อยเพื่อพลิกร่างอรชรให้นอนหงาย ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งเขายกขาเพรียวพาดบ่าเอาไว้ อยากเห็นเธอมีความสุขอยู่ใต้ร่างเขา อยากเห็นหน้าตาเสียวซ่านสุขล้ำที่ได้รับจากเขาพลอยชมพูอ้าแขนรับร่างสูงหนาที่ทาบทับเข้าหา เขาหมุนวนสะโพกสอบกระทั้นหน่วงหนักเมื่อจัดท่วงท่าได้เรียบร้อยสะโพกผายงอนงามลอยขึ้นจากพื้นเตียงเมื่อเขาโน้มกายลงมาเพราะขาทั้งสองของเธอพาดบนบ่ากว้างมือน้อยจับมั่นที่เอวหนาเพื่อรับแรงกระแทกจากกายหนุ่ม ริมฝีปากหวานครวญครางไม่ขาดสาย ริมฝีปากหยักลึกกดประทับปิดเสียงครวญหวานเอาไว้ จึงได้ยินแต่เสียงอู้อี้ในลำคอประสานกับเสียงกระแทกเนื้อกายเร่าร้อน เรียกอารมณ์เพศรสให้รุนแรงเกินห้ามใจ ยิ่งได้ยิน ยิ่งรัญจวนทั้งอารมณ์หวาม อารมณ์สวาทคุกรุ่นรุนแรงพลอยชมพูเกร็งร่างน้อยยะเยือก ตอดรัดความเป็นชายรุนแรง ร่างเล็กเกร็งสะท้านร้องครางเสียงสะอื้นด้วยความสุขซ่านล้นในลำนำรักที่ได้รับหัสดินเร่งเร้าลีลา
“อยากอาบน้ำเหรอคะ พี่ก็ร้อนเหมือนกัน”หัสดินพูดยิ้มๆ ดวงตาเป็นประกายจนสาวน้อยหน้าแดงระเรื่อ อาการนอนนิ่งของสาวน้อยทำให้เขารู้ว่าเธอต้องการอันใด“พี่ดินขา... ระหว่างอาบน้ำเล่าเรื่องพวกที่จับตัวบัวไปหน่อยสิคะ พี่ดินยังไม่เล่าให้บัวฟังเลย”เธอยังติดใจเรื่องนั้นอยู่ไม่หาย เขาบอกว่าจะเล่าให้ฟัง จนถึงบัดนี้ เธอเพิ่งจะนึกถามเขาอีกรอบ ลืมเลือนไปเสียสนิทเนื่องจากการดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้เธอมีความสุขจนลืมเรื่องความเจ็บป่วยของตัวเองและเหตุการณ์เลวร้ายไปเสียสนิท... แม้แต่กณวรรธเพียงแค่ได้มาตรวจอาการเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ได้ทำอะไรมากกว่าคนข้างๆ ที่ทำตัวเป็นหมอเสียเอง“ถ้าอาบน้ำด้วยกัน พี่ยังไม่รู้เลยว่าจะเล่าจบหรือเปล่า”เขาเอ่ยเสียงทุ้มลึก พลอยชมพูคล้องแขนที่คอหนา กดจุมพิตเบาๆ“งั้นเล่าก่อนสิคะ แล้วค่อยอาบน้ำ”สาวน้อยออดอ้อนเบียดกายเข้าหา เงยหน้ามองตาปริบๆ เขากดริมฝีปากหยักหนาที่พวงแก้มหอมแรงๆ อย่างชื่นใจ“เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นพี่ถูกยิง บัวจำได้ไหม”เขาทวนความจำ“จำได้ค่ะ”เธอตอบรวดเร็ว ตอนนั้นบิดาเริ่มให้หัสดินเข้าไปดูแลคนงานแทนท่าน มีหัวขโมยมาขโมยยางเอาไปขาย บิดากับเขาและลูกน้องก็เลยไปดักจับพ
บริเวณรอบกายเป็นป่าเขาลำเนาไพร ดูจากพื้นที่คงเป็นเนินเขาที่ใดที่หนึ่ง มีชายฉกรรจ์หลายคนเฝ้าเวรยามไม่ขาดหญิงสาวลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ หากคิดจะหนีคงยาก ตอนนี้เธอทำได้เพียงแต่ถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้เท่านั้น“เร็วๆ ตรงนั้นแล้วกัน อย่าคิดตุกติกหนีนะ ไม่งั้นศพไม่สวยแน่” คิมหันต์ยังขู่สำทับ“รู้แล้วจ้ะ ใครจะกล้าหนี บอกแล้วไงคืนนี้จะพาพี่คิมขึ้นสวรรค์”พลอยชมพูยิ้มหวานหยด เดินไปสามก้าวมันก็ตวาดมาเสียงดัง“ตรงนั่นแหละ อย่าไปไกล”หญิงสาวเม้มปากแน่น เริ่มขาสั่นเล็กน้อย แต่ทำใจดีสู้เสือเอาไว้ จะให้เธอมาถอดกางเกงตรงนี้ จะบ้าหรือไง“แหม... ขอตรงโน้นได้ไหม ฉันอายนะ ฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง ไม่มีปัญญาหนีหรอกจ้ะ” พลอยชมพูต่อรองชี้ไปอีกด้าน“จะฉี่ไม่ฉี่ เรื่องมากจริง เดี๋ยวก็ต้องเห็นอยู่แล้ว ตอนเข้าไปในกระท่อม”ชายหนุ่มทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจก่อนกวาดสายตาหยาบคายมองหื่นๆ“แหม... เอาไว้ในกระท่อมเราอยู่กันสองคน แต่ว่าตอนนี้ฉันอาย ฉันขอทำใจก่อนได้ไหม นี่ครั้งแรกของฉันเลยนะ ฉันจะยอมแบบไม่ขัดขืนเลย”พลอยชมพูสูดลมหายใจเข้าปอดแรงลึก เดินเข้าไปใกล้ๆ กรีดนิ้วที่แผงอกกว้างเพื่อยั่วยวนแม้จะหายใจไม่ทั่วท้อง แ
“โทรหาคุณบัวไม่ติดเลยค่ะนายหัว” สายรายงานเสียงระรัว“ผมจะออกไปตามหาน้องบัวครับป้าพา”หัสดินที่นั่งไม่ติดเอาเสียเลยบอกด้วยความร้อนใจเมื่อได้รับรายงานว่าพลอยชมพูยังไม่กลับมา ที่สำคัญตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วด้วย เป็นความผิดของเขาเองที่ไม่ได้พาเธอเข้าเมืองดังที่สัญญาเอาไว้เพราะมัวแต่ยุ่งกับงาน ไม่คิดว่าหญิงสาวจะเดินทางไปคนเดียวแบบนี้ แถมไม่พาใครร่วมทางไปด้วยสักคนเดียว“นายหัวระวังตัวนะคะ ตามคุณบัวกลับมาให้ได้นะคะ”พากับสายรู้สึกใจไม่ดีเพราะช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ค่อยปกติ พลอยชมพูออกไปไหนก็ไม่บอกไม่กล่าวให้ใครรู้ ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปใหญ่“ไม่ต้องห่วง ผมจะเอาคนงานไปสักสิบคน ฝากป้าดูแลบ้านด้วยนะครับ เดี๋ยวผมให้ลูกน้องมาอยู่เป็นเพื่อน”หัสดินจัดการตามที่บอก แล้วเดินทางออกไปหาหญิงสาวไม่รั้งรอระยะทางที่ขับรถผ่าน ใจของหัสดินร้อนรุ่มเหมือนไฟสุม ป่านนี้พลอยชมพูจะเป็นเช่นไรบ้าง นั่นคือสิ่งที่เขาเป็นกังวลที่สุดลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เขาใจคอไม่ดี ขอให้คุณพระคุณเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองหญิงสาวให้แคล้วคลาดปลอดภัยด้วยเถิด“ข้างหน้ามีรถจอดอยู่ครับนายหัว”เม่นที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรีบบอกผู้เป็นนาย







![เมียแต่ง [PWP] + [NC30+]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)