Share

บทที่ 4 นางรองแอบเจ้าเล่ห์ (2)

last update Last Updated: 2025-11-20 11:00:11


คำตอบของเขาทำให้คนฟังหมดอารมณ์จะถาม นอกจากเขาจะไม่วางแผนอนาคตของเขาและนางแล้ว ดูเหมือนว่าในสายตาของเขาจะมองนางเป็นเหมือนภาระของเขาเสียด้วยซ้ำไป

สวีอี้ฝานเบ้ปากใส่คนตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ เอาเถิด... เขาจะคิดอย่างไรก็ช่าง ในเมื่อไม่ช้าหรือเร็ว สุดท้ายทั้งเขาและนางก็ต้องแยกจากกันไปอยู่ดี

ครึ่ก!

รถม้าคันใหญ่เซถลาหลังจากเผชิญหน้ากับหลุมขนาดใหญ่ ทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างในโงนเงนเซถลามาอีกฝั่งตามแรงเหวี่ยง

"อ๊ะ!" หญิงสาวร้องเสียงหลง ร่างบางถลาไปข้างหน้าฝั่งตรงข้ามของตน มือบางรีบยื่นไปดันผนังรถม้าเอาไว้ก่อนที่ใบหน้าของนางจะกระแทกเข้ากับใบหน้าคมคายของเปาอี้ส่วง

ดวงตาคู่งามกะพริบถี่ หัวใจเต้นแรงราวจะหลุดออกมานอกอก เมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่คืบ การได้อยู่ใกล้กันเช่นนี้ทำให้นึกถึงเรื่องราวเมื่อครั้งที่ยังเป็นมู่ฝาน ในวันที่นางเสียสละชีพปกป้องเขาเพราะความเข้าใจผิด นางเห็นเขามองสบตากับนางราวกับคนไม่ได้ตาบอด

หรือเขาอาจจะโกหก...

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงขยับเข้าไปใช้สายตาจ้องเขม็งเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอียงคอมองด้วยความสงสัยราวกับกำลังค้นหาความจริงบางอย่าง แต่เมื่อเห็นว่าเปาอี้ส่วงยังคงนิ่งเฉย เขาไม่ได้สะทกสะท้านต่อการจู่โจมของนาง สุดท้ายจึงยอมแพ้ถอยกลับไปนั่งลงตามเดิมโดยไม่ทันได้สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนกำลังลอบถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง



ตลอดทางมาถึงจวนสกุลสวีทั้งเปาอี้ส่วงและสวีอี้ฝานก็ไม่ได้สนทนาด้วยกันอีก ต่างคนต่างนิ่งเงียบจมอยู่กับความคิดของตนเอง เมื่อรถม้าเคลื่อนมาจอดที่หน้าประตูจวนสกุลสวีเรียบร้อยแล้ว สวีอี้ฝานก้าวลงจากรถม้าพลางหันกลับไปหาคนที่นั่งอยู่เพื่อจะเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปจิบชาแทนคำขอบคุณ

"ท่านแม่ทัพ ข้าขอเชิญ..."

"กลับจวนสกุลเปา"

หญิงสาวเอ่ยยังไม่ทันจบประโยค เสียงห้าวพลันสั่งการเสียงดัง จากนั้นรถม้าคันใหญ่ก็เคลื่อนตัวจากไปด้วยความรวดเร็ว

"หยิ่งผยอง อวดดี น่าหมั่นไส้!" สวีอี้ฝานตะโกนไล่หลังไปด้วยความหมั่นไส้ นี่น่ะหรือบุรุษที่กำลังจะกลายมาเป็นสามีของนางในอนาคต ดูท่าว่าชีวิตคู่ของเขาและนางคงจะล่มไม่เป็นท่าก่อนที่นางจะทันได้ทำให้เขากับหยวนเสี่ยวหงรักกันเสียด้วยซ้ำไป

ดวงตากลมโตจดจ้องไปยังรถม้าที่เคลื่อนตัวออกไป มุมปากบางยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบปิ่นหยกปักผมขึ้นมา หรี่ตาลงเล็กน้อย กะระยะจนคิดว่าไม่พลาดพร้อมปามันออกไปข้างหน้าอย่างแรง

ฉึ่ก!

ปลายแหลมของปิ่นปักลงไปบนล้อรถม้าอย่างแม่นยำ ในขณะที่รถม้ากำลังเคลื่อนไปตามถนน

"คิกๆๆ" มือบางยกขึ้นมาปิดปาก ส่งเสียงหัวเราะด้วยความพึงพอใจ

"คุณหนูหัวเราะอะไรหรือเจ้าคะ" หลิงหลิงที่ยืนก้มหน้าอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ทางด้านหลังค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองเจ้านายสาวที่ยืนหัวเราะอยู่คนเดียวด้วยความประหลาดใจ

"วันนี้อากาศแจ่มใส ข้าเลยอารมณ์ดีก็เท่านั้น" นางหันไปตอบสาวใช้คนสนิท พลางเดินกลับเข้าไปในจวนพร้อมส่งเสียงฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดี



ดวงอาทิตย์ในยามบ่ายคล้อยส่องแสงสว่างจ้ากว่าเวลาเช้า ภายใต้ต้นไม้ใหญ่บนถนนที่ทอดยาวไปเบื้องหน้าเผยให้เห็นรถม้าคันใหญ่คันหนึ่งจอดนิ่งสนิทอยู่

"ท่านแม่ทัพขอรับ ข้าเห็นปิ่นปักผมเล่มนี้ปักอยู่ที่ล้อรถฝั่งทางด้านหลัง คาดว่าสาเหตุที่ยางแบนเกิดจากปิ่นเล่มนี้ขอรับ" หลูเผิงยื่นปิ่นหยกปักผมให้เจ้านายหนุ่ม เปาอี้ส่วงรับปิ่นเล่มนี้มาพิจารณา ไม่นานคิ้วกระบี่ก็เลิกขึ้นเล็กน้อย เขาจำได้ว่าเขาเห็นมันปักอยู่บนเรือนผมของคุณหนูสกุลสวี

"มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน" เขาพึมพำเสียงเบาด้วยความสงสัย หลังจากส่งสวีอี้ฝานและสาวใช้ของนางกลับจวนแล้ว รถม้าของเขาก็เคลื่อนกลับไปยังจวนสกุลเปา ทว่าเดินทางออกมาจากจวนสกุลสวีได้เพียงครึ่งทาง จู่ๆรถม้าก็ส่ายไปส่ายมา ก่อนจะหยุดลง หลูเผิงรายงานว่าเป็นเพราะยางแบน ก่อนจะพบว่าสาเหตุที่ยางแบนนั้นมาจากปิ่นปักผมของสวีอี้ฝาน

ก่อนที่นางจะเปิดประตูลงจากรถม้า เขายังเห็นปิ่นเล่มนี้ปักอยู่บนมวยผมของนาง แล้วเหตุไฉนยามนี้มันถึงได้มาปักอยู่บนรถม้าของเขาได้ นอกเสียจากว่านางจะเป็นคนทำ

สวีอี้ฝาน เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจมากจริงๆ!

ครั้นพอหวนนึกถึงยามที่นางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ส่งสายตามองเขาอย่างจับผิด มุมปากหยักก็กระตุกขึ้นมาเล็กน้อย นางจะรู้หรือไม่ว่าในยามที่กลิ่นกายหอมกรุ่นจากกายนางลอยเข้ามาแตะจมูก ชวนให้เขาเกิดความรู้สึกปั่นป่วนมากเพียงใด แต่เขาจำต้องเก็บอาการเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย

"ท่านแม่ทัพคิดอะไรอยู่หรือขอรับ" เสียงของหลูเผิงทำให้เปาอี้ส่วงหลุดจากภวังค์ เขาส่ายศีรษะไปมาเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธ

"ช่างเถิด ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก รีบกลับจวนกันเถิด"

"ขอรับท่านแม่ทัพ" หลูเผิงรับคำจากนั้นจึงยกมือขึ้นเป่าปาก เปาอี้ส่วงก็ทำแบบเดียวกัน รอเพียงไม่นานปรากฏอาชาตัวใหญ่สีขาวและสีดำวิ่งเข้ามาหาคนทั้งคู่

ร่างสูงกระโดดขึ้นหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว ดวงตาคมทอดมองไปเบื้องหน้า ยามนี้ไม่ได้อยู่ต่อหน้าคนอื่น เขาจึงไม่ต้องปกปิดตัวตนของตนอีกต่อไป

"ฮี้!" อาชาสีดำทะมึนราวกับสีนิลกาฬยกสองขาหน้าเปล่งเสียงร้องดังลั่น ก่อนจะพุ่งทะยานออกไปเบื้องหน้า โดยมีอาชาสีขาวตัวใหญ่ของหลูเผิงวิ่งตามไปอย่างติดๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี (2)

    "ฝานฝานข้าหิวแล้วรีบไปกินข้าวกันเถิด" เขากล่าวเสียงสั่นก่อนรีบสาวเท้าเดินออกมาจากห้อง สวีอี้ฝานทำหน้ามุ่ยอย่างไม่เข้าใจนัก เขาไม่ต้องการนางแล้วหรือ ไยถึงทำท่าทางรังเกียจไม่อยากแตะต้องตัวนางเช่นนั้นเล่าทว่านางยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สวีอี้ฝานรีบก้าวยาวๆตามสามี จับมือหนาของเขาเอาไว้และเดินไปตรงระเบียงหน้าหอนอนที่มีโต๊ะกลมวางอยู่ บนโต๊ะถูกจุดด้วยเทียนเล่มเล็กให้ความสว่างไสวอย่างสลัวๆ ที่ตรงนี้บรรยากาศดีสามารถมองเห็นวิวของสวนอุทยานในตอนกลางคืนได้อย่างชัดเจน"ท่านพี่นั่งก่อนเจ้าค่ะ" หญิงสาวผายมือให้เขาอย่างเชื้อเชิญ เมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งลงแล้ว นางจึงเดินกรีดกรายไปนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขา"วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหรือเปล่า" เปาอี้ส่วงถามด้วยความสงสัย มองบรรยากาศรอบกายด้วยความสับสน วันนี้หาใช่วันเกิด หรือวันครบรอบแต่งงานของเขาและนาง เหตุใดนางถึงทำเหมือนว่าวันนี้มันเป็นวันพิเศษ"ถ้าไม่ใช่วันพิเศษข้าจะกินข้าวกับท่านพี่ด้วยบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้หรือเจ้าคะ" มือบางเท้าคางจดจ้องไปยังคนตัวโตตาแป๋ว ท่าทางน่ารักน่าชังจนทำให้คนมองใจสั่นสะท้าน"แน่นอนว่าย่อมได้ ฝานฝานก็รู้ว่าข้าตามใจเจ้าเสมอ" ชายหนุ่มเ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี (1)

    หลายเดือนต่อมาสวีอี้ฝานได้ให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝดแก่เปาอี้ส่วง สร้างความปีติยินดีให้แก่คนสกุลเปาและคนสกุลสวีอย่างมาก เจ็ดวันหลังจากที่เจ้าก้อนแป้งคลอด สวีอี้ฝานก็ได้รับของขวัญที่ถูกส่งมาจากหวางจื่อชางอ๋อง นับตั้งแต่ที่เขาจากไปท่องยุทธภพ นางก็ไม่ได้พบเจอกับเขาอีกเลย เปาอี้ส่วงจัดการเปิดห่อของขวัญอย่างระมัดระวังพบว่ามันคือป้ายหยกสลักลวดลายมงคลหาใช่สิ่งของที่ใช้เกี้ยวสตรีอย่างที่เขานึกกลัวจึงค่อยโล่งใจไปบ้าง แม้ตัวของหวางจื่อชางอ๋องจะจากไป แต่เปาอี้ส่วงรู้ว่าอย่างไรเสียคนผู้นั้นไม่มีทางตัดใจจากสวีอี้ฝานได้โดยง่าย เขาจึงยังมีความหวาดระแวงเกรงว่าหวางจื่อชางอ๋องจะกลับมาแย่งชิงสวีอี้ฝานไปจากเขาอยู่ ยามนี้เจ้าเด็กแฝดทั้งสองคนอายุได้หนึ่งหนาวแล้ว เป็นเด็กอ้วนท้วนรูปร่างแข็งแรง พวกเขามีชื่อว่าเปาอี้เฉิงและเปาอี้หาน ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งได้เห็นพัฒนาการทางด้านหน้าตาทำให้ได้รู้ว่าเด็กๆทั้งสองคนถอดแบบจากคนเป็นพ่อแม่มาคนละครึ่ง ดูเป็นความแตกต่างที่สร้างสรรค์กันอย่างลงตัว คนที่ดูจะดีใจพอๆกับเปาอี้ส่วงที่เจ้าก้อนแป้งทั้งสองได้ถือกำเนิดขึ้นดูจะไม่พ้นเป็นฮูหยินผู้เฒ่า นับตั้งแต่ตอนที่เด็กๆเกิดมาจนถึงตอนนี้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว (2)

    "ว้าย! ฝานฝานขึ้นไปทำอะไรบนนั้นรีบลงมาเถิด เดี๋ยวจะตกลงมานะ อันตรายจริงๆ!""ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะท่านย่า แต่ก่อนข้าเคยขึ้นไปสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ" หญิงสาวตอบอย่างไม่สะทกสะท้านกับท่าทีตกใจของจางเข่อซินยามนี้ความสัมพันธ์ของคนสกุลสวีกับฮูหยินผู้เฒ่าดีขึ้นมาก นับว่าเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อฮูหยินผู้เฒ่ารู้ว่ายามนี้สวีอี้ฝานกำลังตั้งครรภ์ นางรู้สึกดีใจจนร้องไห้ออกมา หากเจ้าก้อนแป้งเกิด นางก็จะกลายเป็นท่านทวด เมื่อนึกถึงเจ้าก้อนกลมที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของคนสกุลเปาส่วนหนึ่งก็ยิ่งรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจ นางมักจะสรรหาของกินอร่อยๆหรือยาบำรุงชั้นเลิศมาให้สวีอี้ฝานอยู่เสมอ ดูเหมือนว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะยินดียิ่งกว่าคนเป็นแม่อย่างนางเสียอีก"ตายแล้ว! หนิงเชา ข้าจะทำอย่างไรดี หากฝานฝานตกลงมาหลานข้าคงไม่รอดแน่ โอย" ร่างบางของจางเข่อซินถึงกับซวนเซทำท่าจะล้มลง ยิ่งได้เห็นตอนที่สวีอี้ฝานกระโดดขึ้นเกาะลำต้นไม้ใหญ่สลับต้นกันไปมา นางก็รู้สึกใจสั่นราวกับจะหลุดออกมานอกอก ห่วงทั้งเจ้าก้อนกลมที่อยู่ในท้องและแม่ของเจ้าก้อนกลมที่ดูจะดื้อรั้นมากเหลือเกินทว่าเพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวก็มีสายลมพัดวูบผ่าน

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว (1)

    ยามนี้สวีอี้ฝานตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว หน้าท้องกลมนูนขยายใหญ่ออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ตอนที่ส่องกระจกทองเหลืองนางได้แต่ทอดถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ไม่นึกเลยว่าการตั้งครรภ์ช่างลำบากยากเข็ญยิ่งนัก นอกจากรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากแล้ว เวลาจะเดิน นั่งหรือนอนก็ไม่รวดเร็วเหมือนเมื่อก่อน ดีแต่ว่าเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น อาการแพ้ท้องที่มีค่อยๆทุเลาลงไปมากแล้ว จากเดิมที่มักจะคลื่นเหียนเวลาที่ได้กลิ่นอาหาร แต่ตอนนี้นางกลับเจริญอาหารมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ เปาอี้ส่วงจึงสั่งห้ามไม่ให้นางออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีเขาไปด้วย ทุกๆวันสวีอี้ฝานจึงได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่ที่จวนสกุลเปาอย่างเบื่อหน่าย ยังดีที่ว่าหลี่อ้ายซีผู้เป็นมารดากับสวีหยางโปผู้เป็นบิดามักจะแวะเวียนมาเยี่ยมนางอยู่บ่อยๆ "ฮูหยินเจ้าขา ผลไม้มาแล้วเจ้าค่ะ" หลิงหลิงเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ในมือถือถาดใส่อาหารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะกลม สวีอี้ฝานที่นอนเล่นอยู่บนเตียงค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น "หลิงหลิงเอามาให้ข้าที่เตียง" นางเอ่ย หลิงหลิงจึงรีบยกมาให้ตามคำบอก ร่างบางกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง บนตักวางถาดใส่ผลไม้พลางหยิบมันเข้าปาก ทว่ากินไปได้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทส่งท้าย

    ระหว่างที่สวีอี้ฝานกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาด ประตูห้องที่ปิดสนิทลงในตอนแรกก็ถูกเปิดออก ร่างสูงของเปาอี้ส่วงก้าวเข้ามาร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดขาวของหิมะ"ทุกคนมาทำอะไรที่ห้องของข้าขอรับ" ชายหนุ่มถามด้วยความงุนงง ก่อนจะรีบสาวเท้าก้าวเข้าไปหาภรรยา เมื่อได้เห็นหยาดน้ำตาของนาง หัวใจของเขาราวถูกบีบรัดอย่างรุนแรง"ฝานฝานเป็นอะไรไป ใครรังแกเจ้า" เขาถามพลางหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่ากับหนิงเชา"ข้าเปล่านะ" จางเข่อซินรีบส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะหันไปพยักเพยิดกับหนิงเชาเดินออกไปจากห้องเพื่อปล่อยให้สามีภรรยาได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสวีอี้ฝานปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ มองสามีอย่างงอนๆ เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเขาพลางส่งสายตามองสำรวจทั่วตัว"ท่านพี่ท่องยุทธภพกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ""ท่องยุทธภพอะไรกัน" คิ้วกระบี่ขมวดเข้าหากัน เปาอี้ส่วงถามด้วยความไม่เข้าใจ"ท่านพี่หนีข้ามาจากจวนสกุลสวีเพราะจะออกไปท่องยุทธภพมิใช่หรือเจ้าคะ""ใครบอกเจ้ากัน""หมิงหมิงบอกเจ้าค่ะ"เปาอี้ส่วงได้ยินเช่นนั้น เขาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นด้วยความขบขัน เขาบอกสวีชางหมิงว่าจะไปส่งหวางจื่อชางอ๋องไปท่องเที่ยวทั่วยุทธภพต่างหากไ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทที่ 34 จะกินเต้าหู้หรือกินข้า​ (2)

    หญิงสาวรับแผ่นกระดาษใบเล็กมาจากสาวใช้ก่อนจะเปิดคลี่ออกอ่าน เนื้อความในจดหมายเปาอี้ส่วงเขียนถึงนางไว้ว่า'ฝานฝาน เจ้าคงเกลียดและผิดหวังในตัวข้ามากที่ข้าไม่เชื่อใจเจ้า ข้าผิดไปแล้วจริงๆ ทว่าข้ารู้ว่าต่อให้ข้ากล่าวคำขอโทษซ้ำๆเจ้าก็คงยากที่จะให้อภัยข้า เดิมทีข้าคิดว่าหากข้าง้องอนเจ้า เจ้าคงจะให้อภัยข้าได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าข้าคิดผิด ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้ารำคาญ ต่อจากนี้ไปข้าจะไม่มากวนใจเจ้าอีก'สวีอวี้ฝานขมวดคิ้วมุ่น "คนบ้า! ข้ารำคาญท่านเสียที่ไหนกัน แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือว่าข้าแกล้งทำเพราะอยากทดสอบความอดทนของท่านเท่านั้น"หญิงสาวรู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่เปาอี้ส่วงถอดใจจากนางอย่างง่ายดาย แต่เมื่อเห็นถ้อยคำทิ้งท้ายที่เขาเขียนไว้ในจดหมาย จากความรู้สึกผิดหวังน้อยใจก็เปลี่ยนเป็นตกใจทันที'เจ้าจะอยู่ในความทรงจำของข้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นสวีอี้ฝานหรือมู่ฝาน ข้าก็จะรักเจ้าตลอดไป'สวีอี้ฝานรู้สึกใจหายวาบ นิ่งอึ้งไปหลายวินาที จ้องข้อความในจดหมายตาไม่กะพริบ ทางฝ่ายหลิงหลิงเห็นเจ้านายเงียบไปนางก็รู้สึกใจคอไม่ดีเท่าใดนัก นางสงสารฮูหยินเหลือเกิน อีกทั้งยังไม่เข้าใจท่านแม่ทัพเปาว่าเหตุใดเขาถึงทอดทิ้งฮู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status