Share

บทที่ 6 คารวะฮูหยินผู้เฒ่า (2)

last update Huling Na-update: 2025-11-20 11:11:04


จวนสกุลเปาใหญ่โตโออ่าไม่น้อย ภายในพื้นที่แบ่งเป็นเรือนเล็กกับเรือนใหญ่ หอนอนของฮูหยินผู้เฒ่าจะอยู่ที่เรือนเล็กทางด้านทิศตะวันออกติดกับสระบัว หลังจากที่เปาอี้เหวยบุตรชายของนางซึ่งเป็นบิดาของเปาอี้ส่วงจากไป นางจึงได้ขอย้ายออกมาอยู่ที่เรือนเล็ก

ยามนี้เปาอี้ส่วงและสวีอี้ฝานนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นภายในเรือนเล็ก ชายหนุ่มนั่งนิ่งไม่ไหวติงทว่าสายตากลับแอบเหลือบมองคนข้างกายที่กำลังส่งสายตามองไปรอบๆอย่างสำรวจ ยามที่นางหันกลับมาทางเขา เปาอี้ส่วงก็รีบเบนหน้าหนีนางไป เพราะเกรงว่าสวีอี้ฝานจะจับได้ว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตาบอด

ทางด้านสวีอี้ฝานหาได้สนใจคนตัวโต นางเอาแต่ครุ่นคิดว่าฮูหยินผู้เฒ่าคงจะเป็นคนเจ้าระเบียบและหัวสูงมิใช่น้อย ดูจากสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่วางอยู่ล้วนปราณีตและมีราคาแพง บริเวณโดยรอบสะอาดสะอ้านแม้กระทั่งเก้าอี้ไม้ที่ถูกขัดจนขึ้นเงาวับ

"เชิญท่านแม่ทัพกับฮูหยินเจ้าค่ะ" รอเพียงไม่นานบ่าวรับใช้ก็เดินออกมาเชื้อเชิญให้คู่สามีภรรยาเข้าไปพบฮูหยินผู้เฒ่าที่หอนอน

สวีอี้ฝานรับผ้าปักลายหงส์มาจากหลิงหลิงเดินตามหลังสามีไปยังหอนอนของฮูหยินผู้เฒ่า ตามกฏธรรมเนียมของแคว้นฮั่น วันแรกหลังจากงานสมรส ฝ่ายเจ้าสาวต้องนำของกำนัลมาให้ญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายเจ้าบ่าว

ภายในหอนอนของฮูหยินผู้เฒ่าถูกตกแต่งอย่างวิจิตรหรูหรา นางนั่งอยู่บนตั่งนอนซึ่งล้อมด้านหนึ่งด้วยฉากเล็กๆที่ทำจากไม้ประดู่ ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นสตรีวัยหกสิบเศษ รูปร่างผอมบาง สวมอาภรณ์หรูหรา ประดับหยกมุกบนศีรษะ สวีอี้ฝานคิดว่าในวัยสาวคงจะเป็นสตรีที่งามสะคราญผู้หนึ่ง

สวีอี้ฝานตั้งใจจะผูกมิตรกับญาติผู้ใหญ่หนึ่งเดียวของเปาอี้ส่วงผู้นี้ เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าปรายตามาทางที่ตนยืนอยู่ นางจึงส่งยิ้มหวานให้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือสายตาที่ปราดมองนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

"ย่านึกว่าหนุ่มสาวสมัยนี้จะไม่เคร่งครัดเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติเสียแล้ว" นางกล่าวเสียงเรียบพร้อมแค่นเสียงเหอะออกมาเล็กน้อย วาจานั้นทำให้สวีอี้ฝานรับรู้ได้ทันทีว่าฮูหยินผู้เฒ่ากำลังกระทบกระเทียบเรื่องที่นางตื่นสาย

"ท่านย่าเจ้าคะ ข้าขออภัยที่วันนี้มาคารวะท่านย่าสาย นั่นเป็นเพราะว่า..."

"เป็นเพราะว่าเมื่อคืนหลานไม่ยอมปล่อยให้ฝานเอ๋อร์ได้พักผ่อนเองขอรับ" มือหนาโอบไปที่ไหล่บอบบางของนางพร้อมดึงเข้าหาตัว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสุขราวกับว่าเมื่อคืนทั้งเขาและนางได้ผ่านคืนวันอันหวานชื่นมาด้วยกันจริงๆ

คำตอบของเปาอี้ส่วงทำให้ทุกคนหันมองมายังเขาเป็นตาเดียว ฮูหยินผู้เฒ่าปรายตามองหลานชายสลับกับสวีอี้ฝานด้วยความไม่พอใจเท่าใดนัก เดิมทีนางตั้งใจจะกล่าวคำตำหนิสวีอี้ฝาน แต่ในเมื่อเปาอี้ส่วงออกหน้ารับแทนเช่นนี้ นางจะทำอย่างไรได้

"ท่านพี่เหตุใดถึงพูดเช่นนี้ล่ะเจ้าคะ" สวีอี้ฝานกระซิบถามคนข้างกายด้วยความไม่เข้าใจ จู่ๆเขาจะออกหน้ายอมรับผิดแทนนางทำไมกัน

"ข้าพูดอะไรผิดไปงั้นหรือ" เปาอี้ส่วงกระซิบถามต่อ

"ก็เมื่อคืนเราไม่ได้... เอ่อ ไม่ได้อุ่นเตียงกันจริงๆเสียหน่อย"

"ใช่ เมื่อคืนเราไม่ได้ทำ แต่ข้าพูดเผื่อถึงวันนี้ต่างหาก"

สองแก้มขาวเปล่งสีแดงระเรื่อ หัวใจเต้นแรงราวจะหลุดออกมานอกอก ท่านแม่ทัพเปาอี้ส่วงหมายความว่าวันนี้เขาจะทำเช่นนั้นกับนางหรือ

โอย... จะบ้าตาย เหตุใดเขาคิดถึงแต่เรื่องใต้สะดือกันนะ!

เปาอี้ส่วงไม่ตอบอะไร แต่เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าซีดเผือดของคนข้างกาย เขาก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆในลำคอ ยิ่งเห็นนางกลัว เขาก็ยิ่งอยากแกล้ง

จางเข่อซินเห็นสองสามีภรรยาพูดคุยกันกระหนุงกระหนิงก็บังเกิดความไม่พอใจ สวีอี้ฝานไม่ใช่หลานสะใภ้ที่นางต้องการ คนที่นางต้องการจะให้หลานชายแต่งงานด้วยก็คือหยวนเสี่ยวหงต่างหาก นางหมายตาบุตรสาวสกุลหยวนผู้นั้นมานานแล้ว เหตุเพราะเปาอี้เหวยและหยวนตวนฮ่าวบิดาของหยวนเสี่ยวหงเป็นสหายรักกันมานาน ทำให้สองตระกูลสนิทสนมกันมาก อีกทั้งหยวนเสี่ยวหงก็เป็นสตรีที่เปี่ยมไปด้วยรูปทรัพย์ จิตใจดี มีเมตตาหาที่ติไม่ได้ แตกต่างจากสวีอี้ฝานที่มีดีแค่หน้าตากับฐานะ แต่นิสัยแตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว

บุตรสาวสกุลสวีเทียบกับหยวนเสี่ยวหงไม่ได้แม้กระทั่งเศษฝุ่น

"อะแฮ่ม" มือบางยกมือขึ้นปิดปากส่งเสียงกระแอมเบาๆ ขัดจังหวะสองหนุ่มสาว

"เข้าไปคารวะท่านย่าเถิด" เปาอี้ส่วงกระซิบบอกคนข้างกาย สวีอี้ฝานจึงขยับเข้าไปใกล้โขกศีรษะคำนับฮูหยินผู้เฒ่าที่นั่งอยู่บนตั่ง หลังจากนั้นจึงประคองผ้าปักชูขึ้นเหนือศีรษะให้ฮูหยินผู้เฒ่าตามธรรมเนียม

จางเข่อซินนั่งนิ่งหลังตรง ไม่แม้แต่จะปรายตามองมายังหลานสะใภ้ที่นั่งอยู่เบื้องหน้า เปาอี้ส่วงเห็นเช่นนั้นจึงหยิบงานปักชิ้นนั้นไปวางอยู่ตรงหน้าตักของฮูหยินผู้เฒ่าแทน

"ท่านย่า หากไม่มีเรื่องใดแล้ว พวกข้าสองคนต้องขอตัวก่อน" เปาอี้ส่วงประคองสวีอี้ฝานขึ้นพร้อมเดินออกไปจากห้องโดยมีสายตาของฮูหยินผู้เฒ่ามองตามไปด้วยความไม่พอใจนัก

ดูท่าว่าหลานชายสุดที่รักของนางจะหลงใหลในตัวบุตรสาวสกุลสวีเป็นอย่างมาก หญิงสาวผู้นั้นก็ช่างปะไรทำหน้าตาน่าสงสารออดอ้อนออเซาะเขา เห็นแล้วรู้สึกหมั่นไส้ยิ่งนัก! เห็นทีเรื่องนี้จะปล่อยผ่านไม่ได้เสียแล้ว หาไม่ความหวังที่จะได้หยวนเสี่ยวหงมาเป็นหลานสะใภ้คงต้องจบลงตรงนี้เป็นแน่

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี (2)

    "ฝานฝานข้าหิวแล้วรีบไปกินข้าวกันเถิด" เขากล่าวเสียงสั่นก่อนรีบสาวเท้าเดินออกมาจากห้อง สวีอี้ฝานทำหน้ามุ่ยอย่างไม่เข้าใจนัก เขาไม่ต้องการนางแล้วหรือ ไยถึงทำท่าทางรังเกียจไม่อยากแตะต้องตัวนางเช่นนั้นเล่าทว่านางยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สวีอี้ฝานรีบก้าวยาวๆตามสามี จับมือหนาของเขาเอาไว้และเดินไปตรงระเบียงหน้าหอนอนที่มีโต๊ะกลมวางอยู่ บนโต๊ะถูกจุดด้วยเทียนเล่มเล็กให้ความสว่างไสวอย่างสลัวๆ ที่ตรงนี้บรรยากาศดีสามารถมองเห็นวิวของสวนอุทยานในตอนกลางคืนได้อย่างชัดเจน"ท่านพี่นั่งก่อนเจ้าค่ะ" หญิงสาวผายมือให้เขาอย่างเชื้อเชิญ เมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งลงแล้ว นางจึงเดินกรีดกรายไปนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขา"วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหรือเปล่า" เปาอี้ส่วงถามด้วยความสงสัย มองบรรยากาศรอบกายด้วยความสับสน วันนี้หาใช่วันเกิด หรือวันครบรอบแต่งงานของเขาและนาง เหตุใดนางถึงทำเหมือนว่าวันนี้มันเป็นวันพิเศษ"ถ้าไม่ใช่วันพิเศษข้าจะกินข้าวกับท่านพี่ด้วยบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้หรือเจ้าคะ" มือบางเท้าคางจดจ้องไปยังคนตัวโตตาแป๋ว ท่าทางน่ารักน่าชังจนทำให้คนมองใจสั่นสะท้าน"แน่นอนว่าย่อมได้ ฝานฝานก็รู้ว่าข้าตามใจเจ้าเสมอ" ชายหนุ่มเ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี (1)

    หลายเดือนต่อมาสวีอี้ฝานได้ให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝดแก่เปาอี้ส่วง สร้างความปีติยินดีให้แก่คนสกุลเปาและคนสกุลสวีอย่างมาก เจ็ดวันหลังจากที่เจ้าก้อนแป้งคลอด สวีอี้ฝานก็ได้รับของขวัญที่ถูกส่งมาจากหวางจื่อชางอ๋อง นับตั้งแต่ที่เขาจากไปท่องยุทธภพ นางก็ไม่ได้พบเจอกับเขาอีกเลย เปาอี้ส่วงจัดการเปิดห่อของขวัญอย่างระมัดระวังพบว่ามันคือป้ายหยกสลักลวดลายมงคลหาใช่สิ่งของที่ใช้เกี้ยวสตรีอย่างที่เขานึกกลัวจึงค่อยโล่งใจไปบ้าง แม้ตัวของหวางจื่อชางอ๋องจะจากไป แต่เปาอี้ส่วงรู้ว่าอย่างไรเสียคนผู้นั้นไม่มีทางตัดใจจากสวีอี้ฝานได้โดยง่าย เขาจึงยังมีความหวาดระแวงเกรงว่าหวางจื่อชางอ๋องจะกลับมาแย่งชิงสวีอี้ฝานไปจากเขาอยู่ ยามนี้เจ้าเด็กแฝดทั้งสองคนอายุได้หนึ่งหนาวแล้ว เป็นเด็กอ้วนท้วนรูปร่างแข็งแรง พวกเขามีชื่อว่าเปาอี้เฉิงและเปาอี้หาน ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งได้เห็นพัฒนาการทางด้านหน้าตาทำให้ได้รู้ว่าเด็กๆทั้งสองคนถอดแบบจากคนเป็นพ่อแม่มาคนละครึ่ง ดูเป็นความแตกต่างที่สร้างสรรค์กันอย่างลงตัว คนที่ดูจะดีใจพอๆกับเปาอี้ส่วงที่เจ้าก้อนแป้งทั้งสองได้ถือกำเนิดขึ้นดูจะไม่พ้นเป็นฮูหยินผู้เฒ่า นับตั้งแต่ตอนที่เด็กๆเกิดมาจนถึงตอนนี้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว (2)

    "ว้าย! ฝานฝานขึ้นไปทำอะไรบนนั้นรีบลงมาเถิด เดี๋ยวจะตกลงมานะ อันตรายจริงๆ!""ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะท่านย่า แต่ก่อนข้าเคยขึ้นไปสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ" หญิงสาวตอบอย่างไม่สะทกสะท้านกับท่าทีตกใจของจางเข่อซินยามนี้ความสัมพันธ์ของคนสกุลสวีกับฮูหยินผู้เฒ่าดีขึ้นมาก นับว่าเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อฮูหยินผู้เฒ่ารู้ว่ายามนี้สวีอี้ฝานกำลังตั้งครรภ์ นางรู้สึกดีใจจนร้องไห้ออกมา หากเจ้าก้อนแป้งเกิด นางก็จะกลายเป็นท่านทวด เมื่อนึกถึงเจ้าก้อนกลมที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของคนสกุลเปาส่วนหนึ่งก็ยิ่งรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจ นางมักจะสรรหาของกินอร่อยๆหรือยาบำรุงชั้นเลิศมาให้สวีอี้ฝานอยู่เสมอ ดูเหมือนว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะยินดียิ่งกว่าคนเป็นแม่อย่างนางเสียอีก"ตายแล้ว! หนิงเชา ข้าจะทำอย่างไรดี หากฝานฝานตกลงมาหลานข้าคงไม่รอดแน่ โอย" ร่างบางของจางเข่อซินถึงกับซวนเซทำท่าจะล้มลง ยิ่งได้เห็นตอนที่สวีอี้ฝานกระโดดขึ้นเกาะลำต้นไม้ใหญ่สลับต้นกันไปมา นางก็รู้สึกใจสั่นราวกับจะหลุดออกมานอกอก ห่วงทั้งเจ้าก้อนกลมที่อยู่ในท้องและแม่ของเจ้าก้อนกลมที่ดูจะดื้อรั้นมากเหลือเกินทว่าเพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวก็มีสายลมพัดวูบผ่าน

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว (1)

    ยามนี้สวีอี้ฝานตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว หน้าท้องกลมนูนขยายใหญ่ออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ตอนที่ส่องกระจกทองเหลืองนางได้แต่ทอดถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ไม่นึกเลยว่าการตั้งครรภ์ช่างลำบากยากเข็ญยิ่งนัก นอกจากรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากแล้ว เวลาจะเดิน นั่งหรือนอนก็ไม่รวดเร็วเหมือนเมื่อก่อน ดีแต่ว่าเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น อาการแพ้ท้องที่มีค่อยๆทุเลาลงไปมากแล้ว จากเดิมที่มักจะคลื่นเหียนเวลาที่ได้กลิ่นอาหาร แต่ตอนนี้นางกลับเจริญอาหารมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ เปาอี้ส่วงจึงสั่งห้ามไม่ให้นางออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีเขาไปด้วย ทุกๆวันสวีอี้ฝานจึงได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่ที่จวนสกุลเปาอย่างเบื่อหน่าย ยังดีที่ว่าหลี่อ้ายซีผู้เป็นมารดากับสวีหยางโปผู้เป็นบิดามักจะแวะเวียนมาเยี่ยมนางอยู่บ่อยๆ "ฮูหยินเจ้าขา ผลไม้มาแล้วเจ้าค่ะ" หลิงหลิงเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ในมือถือถาดใส่อาหารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะกลม สวีอี้ฝานที่นอนเล่นอยู่บนเตียงค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น "หลิงหลิงเอามาให้ข้าที่เตียง" นางเอ่ย หลิงหลิงจึงรีบยกมาให้ตามคำบอก ร่างบางกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง บนตักวางถาดใส่ผลไม้พลางหยิบมันเข้าปาก ทว่ากินไปได้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทส่งท้าย

    ระหว่างที่สวีอี้ฝานกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาด ประตูห้องที่ปิดสนิทลงในตอนแรกก็ถูกเปิดออก ร่างสูงของเปาอี้ส่วงก้าวเข้ามาร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดขาวของหิมะ"ทุกคนมาทำอะไรที่ห้องของข้าขอรับ" ชายหนุ่มถามด้วยความงุนงง ก่อนจะรีบสาวเท้าก้าวเข้าไปหาภรรยา เมื่อได้เห็นหยาดน้ำตาของนาง หัวใจของเขาราวถูกบีบรัดอย่างรุนแรง"ฝานฝานเป็นอะไรไป ใครรังแกเจ้า" เขาถามพลางหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่ากับหนิงเชา"ข้าเปล่านะ" จางเข่อซินรีบส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะหันไปพยักเพยิดกับหนิงเชาเดินออกไปจากห้องเพื่อปล่อยให้สามีภรรยาได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสวีอี้ฝานปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ มองสามีอย่างงอนๆ เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเขาพลางส่งสายตามองสำรวจทั่วตัว"ท่านพี่ท่องยุทธภพกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ""ท่องยุทธภพอะไรกัน" คิ้วกระบี่ขมวดเข้าหากัน เปาอี้ส่วงถามด้วยความไม่เข้าใจ"ท่านพี่หนีข้ามาจากจวนสกุลสวีเพราะจะออกไปท่องยุทธภพมิใช่หรือเจ้าคะ""ใครบอกเจ้ากัน""หมิงหมิงบอกเจ้าค่ะ"เปาอี้ส่วงได้ยินเช่นนั้น เขาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นด้วยความขบขัน เขาบอกสวีชางหมิงว่าจะไปส่งหวางจื่อชางอ๋องไปท่องเที่ยวทั่วยุทธภพต่างหากไ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทที่ 34 จะกินเต้าหู้หรือกินข้า​ (2)

    หญิงสาวรับแผ่นกระดาษใบเล็กมาจากสาวใช้ก่อนจะเปิดคลี่ออกอ่าน เนื้อความในจดหมายเปาอี้ส่วงเขียนถึงนางไว้ว่า'ฝานฝาน เจ้าคงเกลียดและผิดหวังในตัวข้ามากที่ข้าไม่เชื่อใจเจ้า ข้าผิดไปแล้วจริงๆ ทว่าข้ารู้ว่าต่อให้ข้ากล่าวคำขอโทษซ้ำๆเจ้าก็คงยากที่จะให้อภัยข้า เดิมทีข้าคิดว่าหากข้าง้องอนเจ้า เจ้าคงจะให้อภัยข้าได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าข้าคิดผิด ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้ารำคาญ ต่อจากนี้ไปข้าจะไม่มากวนใจเจ้าอีก'สวีอวี้ฝานขมวดคิ้วมุ่น "คนบ้า! ข้ารำคาญท่านเสียที่ไหนกัน แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือว่าข้าแกล้งทำเพราะอยากทดสอบความอดทนของท่านเท่านั้น"หญิงสาวรู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่เปาอี้ส่วงถอดใจจากนางอย่างง่ายดาย แต่เมื่อเห็นถ้อยคำทิ้งท้ายที่เขาเขียนไว้ในจดหมาย จากความรู้สึกผิดหวังน้อยใจก็เปลี่ยนเป็นตกใจทันที'เจ้าจะอยู่ในความทรงจำของข้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นสวีอี้ฝานหรือมู่ฝาน ข้าก็จะรักเจ้าตลอดไป'สวีอี้ฝานรู้สึกใจหายวาบ นิ่งอึ้งไปหลายวินาที จ้องข้อความในจดหมายตาไม่กะพริบ ทางฝ่ายหลิงหลิงเห็นเจ้านายเงียบไปนางก็รู้สึกใจคอไม่ดีเท่าใดนัก นางสงสารฮูหยินเหลือเกิน อีกทั้งยังไม่เข้าใจท่านแม่ทัพเปาว่าเหตุใดเขาถึงทอดทิ้งฮู

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status