ตอนที่ 2 พี่เลี้ยง (ส่วนที่ 1)
เสียงฝีเท้าดังก้องมาจากทางเดินแคบๆระหว่างห้องพักบนเรือ ซักพักก็ปรากฏร่างบอบบางในชุดกระโปรงพองฟูวิ่งตรงมาอย่างร่าเริง
"ปาป้า หายไปไหนมาคะ นิดตามหาทั่วเลย" เสียงใสๆร้องถามมาแต่ไกล ดารินทร์เพ่งมองผ่านแสงสลัวไปตรงทางเดินนั่น เด็กหญิงร่างเล็กบอบบางแต่น่าจะอายุเกินสิบปีแล้ว น่าจะสิบสองสิบสามได้มั้ง อีตาบ้านี่ มีลูกตั้งแต่เริ่มใช้งานเป็นหรือยังไงนะ! เด็กหญิงหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าปาป้าของเธอไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ดวงตากลมโตมองมาอย่างใคร่รู้
"เพื่อนปาป้าครับ" ทันทีที่จบคำพูดสั้นๆนั้น เด็กหญิงก็กระพุ่มมือไหว้อย่างเด็กที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี รอยยิ้มอ่อนหวานเป็นมิตรเกลื่อนดวงหน้าเล็กๆจิ้มลิ้มนั่น เด็กอะไรน่ารักขนาดนี้นะ คนที่บอกไม่ชอบเด็กตั้งแต่แรกแอบคิดในใจ
ตาคมมีรอยยิ้มขบขันเมื่อเห็นท่าทางของ'คนไม่รักเด็ก' ก็ลูกสาวเขาแสนจะน่าเอ็นดูขนาดนี้ ยากที่ใครจะไม่ใจอ่อน
"นิต้านี่คุณดารินทร์ ปาป้าให้คุณดารินทร์พักกับนิต้าได้มั้ย" คนเป็นปาป้าถามอย่างอ่อนโยน
"ได้ค่ะ" เสียงใสๆตอบกลับมาทันที รอยยิ้มสดใสที่ส่งมา ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกของดารินทร์ได้มาก
"เชิญข้างในเลยค่ะ"เด็กหญิงเปิดประตูกว้างเชื้อเชิญเพื่อนร่วมห้อง ดารินทร์ก้าวตามเข้าไปโดยมีร่างสูงตามมา หวังว่าเขาคงไม่ได้พักห้องเดียวกับลูกสาวหรอกนะ
"ผมต้องเล่าให้ลูกสาวผมฟังน่ะ ว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ผมไม่อยากมีความลับกับนิต้า" ชายหนุ่มอธิบาย
ดารินทร์มองสองพ่อลูกที่กำลังพูดคุยกันเรื่องของเธอ ตากลมโตของคนเป็นลูกมีแววตื่นเต้นชัดเจน กิริยาท่าทางเป็นธรรมชาตินั่นดูน่าเอ็นดูนักหนา ทำไมไม่เหมือนคนพ่อเลยนะ พ่อแสนจะน่าหมั่นไส้ นิ่งเฉย วางอำนาจน่าดู
"แล้วคุณดารินทร์บาดเจ็บหรือเปล่าคะ" พอฟังจบเด็กหญิงก็รีบหันมาถามอย่างห่วงใยทันที คำถามที่ผู้ใหญ่ตัวโตไม่คิดจะถามเธอซักนิด
"ไม่เลยค่ะ"
"แล้วหิวมั้ยคะ ปาป้าสั่งอะไรให้คุณดารินทร์ทานซิคะ" โดยไม่รอคำตอบเด็กหญิงหันไปออกคำสั่งกับปาป้าของเธอทันที ชายหนุ่มมองลูกสาวแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู
"คร้าบ เจ้าหญิง" ชายหนุ่มลากเสียงอย่างล้อเลียน ดารินทร์ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายที่เอาแต่ทำหน้านิ่งๆ ตั้งแต่เธอขึ้นมาบนเรือจะมีมุมแบบนี้ ท่าทางเขาคงรักลูกสาวเอามากๆ
"แล้วปาป้าก็กลับห้องไปได้แล้วนะคะ เราอยากจะอยู่กันตามประสาผู้หญิง" ดารินทร์คิดว่าเธอเห็นประกายวิบวับในดวงตาของเด็กหญิงเมื่อเดินไปส่งผู้เป็นพ่อที่ประตู
"ปาป้าเป็นผู้ชายที่น่ารักนะคะ" เด็กหญิงเอ่ยขึ้นลอยๆขณะเปิดตู้ค้นหาชุดนอนออกมาวางบนเตียง
"คุณดารินทร์ผอม น่าจะใส่เสื้อผ้านิดได้ แต่อาจจะสั้นหน่อยนะคะ" เด็กหญิงยิ้มจนตาหยีเมื่อนึกถึงส่วนสูงที่ต่างกันระหว่างเธอกับหญิงสาว
"เรียกพี่รินทร์ก็ได้ค่ะ แล้วนิต้ามาเที่ยวกับปาป้าสองคนเหรอคะ" หญิงสาวชวนคุย
"ค่ะปาป้ามาทำงาน ส่วนนิดมาเรียนภาษา เลยกลับเมืองไทยพร้อมปาป้าเลย" หญิงสาวรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง
“นิต้าคงไม่ได้หมายความว่าจะกลับเมืองไทยโดยเรือลำนี้นะคะ”
“ใช่แล้วค่ะ” คำตอบของเด็กหญิงทำเอาหญิงสาวรู้สึกหัวหมุนไปชั่วครู่ เธอพึ่งจะมาจากเมืองไทยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว แล้วนี่เธอกำลังจะขึ้นเรือกลับเมืองไทย ที่สำคัญต้องใช้เวลากี่วันกันกว่าจะถึงเมืองไทย ช่วงเวลาที่เธอหายไปครอบครัวเธอจะรู้สึกอย่างไร
“นิต้า พี่พอจะมีทางติดต่อที่บ้านพี่ได้บ้างมั้ย พี่รอจนเรือแล่นกลับไปถึงเมืองไทยไม่ได้หรอกนะ” เด็กหญิงมีท่าทางลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด ผู้เป็นพ่อคงกำชับอะไรไว้แน่ๆ คนเผด็จการ!
“ปาป้านิต้าห้ามไว้ใช่มั้ย” หญิงสาวถามตรงๆ เด็กหญิงพยักหน้าหลบสายตาของหญิงสาวร่วมห้อง นิตารู้สึกสงสารหญิงสาวรุ่นพี่ผู้นี้อยู่ไม่น้อย หากเมื่อกี้ตอนเดินไปส่งปาป้าที่ประตู เธอถูกกำชับเอาไว้ว่าห้ามให้ดารินทร์ติดต่อกับใคร เพราะอาจจะนำอันตรายมาสู่เรือลำนี้ได้
“พี่คงต้องไปคุยกับปาป้านิต้าให้รู้เรื่อง ถ้าพี่หายไปนานขนาดนั้นทางบ้านของพี่คงเป็นห่วงมาก” เด็กหญิงพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“ปาป้าอยู่ห้องข้างๆค่ะ ให้นิต้าพาพี่รินทร์ไปมั้ยคะ”
“ขอบคุณนิต้ามากนะคะ” โชคดีที่เด็กหญิงคนนี้เข้าใจอะไรง่ายๆ แต่คนเป็นพ่อซิจะพูดง่ายเหมือนลูกมั้ย หญิงสาวอดหวั่นใจไม่ได้ พ่อลูกอะไรกันทำไมไม่เหมือนกันเลยนะ ลูกสาวแสนจะน่ารัก แต่พ่อนี่ซิ
ตอนที่ 5 งานใหม่ (ส่วนที่ 2) สุดท้ายแล้วดารินทร์ก็ไม่สามารถขัด'จอมเผด็จการ' ภายใต้ท่าทางแสนสุภาพได้ ต้องยอมให้เขาพามายังด้านหนึ่งของเรือ ซึ่งจัดเป็นออฟฟิศขนาดย่อมๆ หญิงสาวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านอกจากดูแลเรือลำนี้แล้ว ชายหนุ่มยังต้องทำงานอะไรอีก เธอพอจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับธรรศมาบ้างจากเด็กหญิงนิตา เด็กหญิงเล่าว่าปาป้าของเธอเป็นลูกชายคนโตของตระกูลมอเรล ตระกูลที่รวยติดอันดับโลกเพราะมีธุรกิจหลายอย่าง เรือลำนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ถึงแม้ดารินทร์จะได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวตระกูลเหริน ตระกูลมาเฟียแห่งเกาะฮ่องกง มีธุรกิจมากมายเช่นกัน หากแต่เธอไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับกิจการใดๆของตระกูล เพราะถูกเลี้ยงดูโดยตากับยายที่เมืองไทย เธอเลยไม่เคยรู้ว่าลูกหลานเศรษฐีนี่จะต้องสืบทอดงานอะไรของครอบครัวบ้าง แล้วบนเรือลำนี้มีอะไรให้ธรรศทำอีก "ผมต้องบริหารธุรกิจของครอบครัวหลายๆอย่าง ถึงตอนนี้ผมจะมาอยู่บนเรือ แต่งานหลายๆอย่างมันหยุดไม่ได้" จริงๆแล้วชายหนุ่มตั้งใจจะใช้เวลาช่วงที่ล่องเรือจากฮ่องกงกลับไทย เป็นช่วงเวลาพักผ่อน แต่ภาระหน้าที่หลายๆอย่างก็ทำให้เขาละทิ้งงานไม่ได้เลย โชคดีที่เทคโนโลยีปัจจุบั
ตอนที่ 5 งานใหม่ (ส่วนที่ 1) ดารินทร์ลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ พบว่าตัวเองกำลังนอนกอดอยู่กับนิตา อีกฝากหนึ่งของเตียงว่างเปล่า เขาคงลุกออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว เมื่อคืนกว่าเธอจะข่มตาหลับได้ก็ดึกมาก เพราะความรู้สึกปั่นป่วน และไม่คาดคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น มือเรียวยกแตะริมฝีปากบางของตัวเอง บ้า! เขาจู่โจมทำแบบนั้นจริงหรือนี่ จูปิเตอร์ มอเรล จูบเธอ เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบานั้นถึงกับทำให้เธอแยกไม่ออกว่าเป็นความฝันหรือความจริงเชียวหรือ หญิงสาวสั่นศีรษะแรงๆไล่ความคิดฟุ้งซ่านในหัว รีบลุกเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว พอเงยหน้ามองกระจกเงาบานกว้าง หญิงสาวก็เห็นกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งแปะเอาไว้ ดารินทร์กวาดสายตาผ่านตัวหนังสือสวยงามเป็นระเบียบเร็วๆ เมื่อเช้าตื่นมามอนิ่งคิสคุณแล้ว แต่คุณไม่ยอมตื่น เจอกันที่ห้องอาหารนะครับ.......ธรรศ มือเรียวขยำกระดาษโน๊ตในมือ ตาบ้าเอ้ย! เขาทำบ้าอะไรเนี่ย ถ้านิตาตื่นมาเข้าห้องน้ำก่อนเธอ เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วเด็กหญิงจะรู้สึกยังไง ดารินทร์ยกมือแตะริมฝีปากตัวเองอีกครั้งอย่างเผลอตัว เขาจูบเธอจริงๆหรือนี่ หรือมันเพ
ตอนที่ 4 เรื่องเล่า (ส่วนที่ 2)สุดท้ายธรรศก็ต้องเดินไปส่งสองสาวต่างวัยที่กลายเป็นคู่หูที่แสนจะเข้ากันดีเพราะกลัวผีขึ้นสมองเหมือนกัน พอทานอาหารเสร็จทั้งคู่ก็แสร้งทำเป็นโอเอ้ไม่ยอมกลับห้อง ขณะที่ธรรศพูดคุยทักทายกับผู้โดยสารหลังทานอาหาร ทั้งๆ ที่ปกติทั้งคู่จะพยายามไม่อยู่ในห้องอาหารนาน เพราะไม่อยากปะทะกับบรรดาคุณหญิงคุณนายหลายคนที่ไม่ลงรอยกัน ตอนแรกชายหนุ่มตั้งใจจะคุยธุรกิจกับแขกบางคน หากพอเห็นท่าทางของดารินทร์และนิตา ก็ต้องตัดสินใจจะพักเรื่องงานเอาไว้ก่อน แล้วไปส่งสองสาวที่ห้องพัก คนสามคนเดินเรียงแถวไปตามทางเดินสลัวๆของเรือโดยมีธรรศนำหน้า ดารินทร์รั้งท้ายและเด็กหญิงนิตาเดินตรงกลาง ดารินทร์รู็สึกว่าวันนี้ทางเดินจากห้องอาหารกลับห้องพักดูทั้งไกลและมืดกว่าทุกวัน นิตาก็คงรู้สึกเหมือนเธอเพราะเด็กหญิงทำท่าเหมือนไม่มีแรงจะก้าวขาเอาซะเลย "คุณธรรศ ฉันว่าคุณอุ้มนิต้าเถอะค่ะ ดูแกเดินไม่ค่อยจะไหวแล้ว" จริงๆ นิตาก็โตเกินกว่าจะให้คนเป็นพ่ออุ้มแลัว หากดารินทร์เห็นท่าทางแล้วว่าถ้าปล่อยให้เด็กหญิงเดินต่อไปเอง คงไม่ถึงห้องพักง่ายๆ แน่ ธรรศหันมามองหน้าซีดๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยแ
ตอนที่ 4 เรื่องเล่า (ส่วนที่ 1) "พี่รินทร์ขา" เสียงใสๆ ดังแจ้วๆ มาก่อนตัว ดารินทร์เงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังนอนอ่านอยู่บนเตียงอาบแดด มองดูร่างเล็กที่วิ่งมาหยุดหอบตัวโยนอยู่ข้างๆ "ใจเย็นๆ นิต้า หายใจก่อน" มือเรียวเอื้อมไปช่วยประคองร่างของเด็กหญิงให้นั่งลงข้างๆ สังเกตเห็นแววตาตื่นตระหนกบนวงหน้าเล็กๆ นั่นๆ "แย่แล้วค่ะ แย่มากๆ" พอหายเหนื่อยเด็กหญิงก็ละล่ำละลักกับพี่เลี้ยงจำเป็นทันที "อะไรจ้ะนิต้า แล้วไปไหนมา" วันนี้ดารินทร์ชวนเด็กหญิงมานั่งเล่นที่ระเบียงด้านหนึ่งของเรือ การได้นอนอ่านหนังสือท่ามกลางท้องทะเลกว้างมันก็ทำให้ลืมๆไปได้ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ส่วนหนึ่งคงเพราะเด็กหญิงตัวน้อยแสนน่ารักที่ทำให้เธอรู้สึกไม่เหงา วันนี้เด็กหญิงนิตาขนเอาสมุดสเก็ตมานั่งวาดรูปเล่น เด็กหญิงมีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะพอตัวเลยทีเดียว หากวาดไปได้ซักพักก็ขอไปเอาอุปกรณ์เพิ่ม โดยให้ดารินทร์นั่งเฝ้าของไว้ แล้วเด็กหญิงก็หายไปเสียนาน ก่อนจะวิ่งหน้าเริ่ดกลับมา "ไปเอาของค่ะ แล้วไปเจอป้าแม่บ้าน" เด็กหญิงนั่งแปะลงบนเตียงอาบแดดข้างๆ อาการหอบเพราะ
ตอนที่ 3 เจ้าเสน่ห์ (ส่วนที่ 2)ดารินทร์เพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งที่มีชายหนุ่มคอยตามจ่ายเงินให้ จริงๆ มันก็เงินเธอนี่ เค้าบอกเองว่าจะส่งบิลไปเก็บ แล้วทำไมเธอจะต้องเกรงใจ ร้านค้าบนเรือไม่มีอะไรแตกต่างไปจากบนบกแต่อย่างไร แม้แต่ร้านกาแฟริมทางสไตล์ฝรั่งเศสก็จำลองมาเหมือนทุกรายละเอียด หญิงสาวรู้สึกตื่นตาไปหมดจนอดนึกถึงคนที่นอนพักอยู่ที่ห้องไม่ได้ เด็กหญิงคงสนุกสนานไม่น้อยถ้าได้มาเดินเที่ยวด้วยกัน "นิต้าเคยมาที่นี่หรือยังคะ" เสียงหวานใสเอ่ยถามคนเป็นพ่อของเด็กหญิง "ยังครับ เราเพิ่งขึ้นเรือมาก่อนคุณไม่นาน" ดวงหน้างดงามครุ่นคิดนิดนึงก่อนจะเอ่ยขึ้น "เราน่าจะไปชวนแกนะคะ ป่านนี้แกคงตื่นแล้ว" ชายหนุ่มเหลือบตามองคนพูดแว้บหนึ่ง รอยยิ้มทาทับดวงตาสีอำพัน "เดี๋ยวผมให้คนไปตามแกแล้วกัน เราไปนั่งรอแกที่ร้านกาแฟตรงนู้นดีกว่า" หญิงสาวพยักหน้ารับ เพราะเธอก็เริ่มรู้สึกเมื่อยแล้วเหมือนกัน เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นใกล้ๆ จนหญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นจากเมนูที่แสร้งทำเป็นสนใจเพื่อจะได้ไม่ต้องอึดอัดที่ไม่รู้จะคุยอะไรกับคนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ตอนที่ 3 เจ้าเสน่ห์ (ส่วนที่ 1) ร่างบางระหงเดินเลาะริมระเบียงท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆในยามบ่าย น้ำทะเลเบื่องล่างเป็นสีเขียวใสราวมรกต ระยิบระยับท่ามกลางเปลวแดด ดารินทร์รู้สึกว่าเธอคงดื่มด่ำกับความงามรอบๆตัวมากกว่านี้ หากการที่เธอมาอยู่บนเรือลำนี้ตอนนี้ไม่ใช่เพราะหนีการตามล่า แล้วจับพลัดจับผลูมาอยู่กับสองพ่อลูกประหลาดคู่นี้ ประหลาดตรงไหนน่ะหรือก็ประหลาดตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นมีลูกสาวโตขนาดนี้ โตจนน่าจะเป็นน้องสาวได้เลย เธอไม่มั่นใจว่าผู้ชายคนนั้น จูปิเตอร์ มอเรล อายุเท่าไหร่ หากจากรูปลักษณ์อายุของเขาไม่น่าจะเกินสามสิบ นั่นแปลว่าเขามีลูกตั้งแต่อายุสิบกว่าๆเท่านั้นเอง เด็กหญิงลูกสาวของเขานั่นก็งดงามน่ารักราวตุ๊กตาตัวน้อย ดวงตากลมโตดำสนิท จมูกปากจิ้มลิ้มพริ้มเพราแบบไทยแท้ๆ ต่างจากพ่อที่หน้าฝรั่งจ๋า แม่ของเด็กหญิงคงเป็นสาวไทยแสนสวย แต่แปลกที่ไม่เห็นพ่อลูกจะพูดถึงเลย แล้วอยู่ๆคนที่กำลังคิดถึงก็โผล่มาในสายตา ร่างสูงในชุดลำลองชุดเดียวกับเมื่อเช้าเดินลิ่วๆมาจากด้านตรงข้ามของเรือ คิ้วได้รูปสีเดียวกับเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ "คุณมาทำอะไรตรงนี้" หญ