Share

บทที่ 11

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-22 20:19:26

หลังหว่านเมล็ดพันธุ์เส้นสายไปทั่วงานเลี้ยง ไซรัสก็ปลีกตัวออกมาหลบมุมสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียงเล็กๆ ข้างประตูทางออกฝั่งสวนหย่อมรกครึ้ม

ทีแรก เขาไม่เข้าใจนัก ว่าทำไมก่อนหน้านี้ลูคัสที่ดูจะคุ้นชินเรื่องวิถีชนชั้นสูงที่สุดในกลุ่มพี่ๆ น้องๆ ต่างสายเลือด ถึงได้พยายามเคี่ยวเข็ญให้เขาเต้นรำอย่างถูกวิธีทั้งๆ ที่เขาก็ยืนยันว่าไม่ต้องการเต้นรำกับใคร แต่หลังจากโดนเจ้ากรมการคลังหิ้วไปนั่นมานี่ จนโดนขุนนางและพ่อค้าใหญ่หลายรายยัดเยียดลูกหรือหลานสาวให้เขาเชิญไปเต้นรำ ผู้มั่งคั่งหน้าใหม่ของอาณาจักรก็เข้าใจทันที

น่ารำคาญนัก ไซรัสเอนหลังพิงผนัง แหงนหน้ามองพระจันทร์ อดคิดไม่ได้ว่าต้องใช้เวลาอยู่ในอาจักรนี้อีกนานแค่ไหน ภารกิจแสนสำคัญจึงจะลุล่วงเสียที

ท่ามกลางความเงียบงัน สตรีชุดขาวผ่องเดินผ่านประตูระเบียงออกมาอย่างเชื่องช้า คล้ายพยายามกลั้นความเจ็บปวดบางอย่าง

ทันทีที่ก้าวขาพ้นกรอบประตู หญิงสาวอ่อนเยาว์รายนั้นก็รีบประคองร่างเข้าหาสวนกว้าง ดูราวกับสัตว์ป่าหาที่หลบภัยยามเจ็บไข้

ลูกสาวนอกสมรสเจ้ากรมการเมือง...อัยน์นา...?

เขาบอกตัวเองว่าไม่ควรใส่ใจ แต่ท่าทีซวนเซ และเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายบนใบหน้าขาวนวล กลับทำให้เขากังวลจนทนนิ่งเฉยไม่ไหว

“คุณผู้หญิง” เขาเรียก แต่เธอทำเหมือนไม่ได้ยิน

ร่างอ้อนแอ้นในชุดราตรีกรุยกรายตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่คล้ายต้องการเรียกสติ จากนั้นก็เหลียวซ้ายแลขวาเหมือนต้องการจะแน่ใจว่าไม่มีใครพบเห็น ก่อนจะเคลื่อนที่ต่อไป ทำราวกับกลัวว่าถ้าหยุดเดินเมื่อไหร่ โลกทั้งใบจะล่มสลายลงเมื่อนั้น

ในชั่วเสี้ยววินาทีที่พ่อค้าหนุ่มคิดจะเบือนหน้าหนี นัยน์ตาสีเทาก็สังเกตเห็นหยดน้ำสีใสไหลลงอาบแก้มเธออย่างน่าตกใจ รบกวนความรู้สึกให้เขาไม่อาจแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

“...บ้าจริง” ไซรัสปราดเข้าคว้าตัวเธอไว้

ไม่นึกว่าเพียงเท่านั้น ร่างเล็กๆ นั่น จะอ่อนยวบเข้าหาอ้อมกอดเขาเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง

“คุณ...ไปซะ” เธอบอกน้ำเสียงขาดห้วง นอกจากรอยฝ่ามือแดงๆ บนหน้าแล้ว พวงแก้มสองข้างยังขึ้นสีแดงระเรื่อเหมือนคนมีไข้

“ตัวร้อน” พ่อค้าหนุ่มพึมพำ

เขาไม่คิดว่าเธอเจ็บป่วย เพราะจากที่เห็น ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเฉียบพลันเกินไป

ดูจากอาการแล้ว ไซรัสคิดว่าเธออาจโดนวางยาแปลกๆ บางอย่าง อย่าง ‘ยาปลุกกำหนัด’ ที่อารีเคยพูดถึง

จริงอยู่ว่าเขาไม่เคยเห็นใครโดนยาชนิดนี้ และยิ่งไม่เคยเรียนรู้มาก่อนว่าคนโดนวางยาชนิดที่ว่าจะมีอาการอย่างไร แต่เขาเชื่อ ว่ายาชนิดนั้นคงออกฤทธิ์คล้ายสุราบางชนิดของเผ่าพันธุ์โบราณในดินแดนเร้นลับ...สุราที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์คล้ายๆ กัน

“ผมจะพาคุณไปพบหมอ”

“ไม่” เธอปฏิเสธทันควัน “อย่า...อย่าให้ใครรู้”

คิ้วคมเข้มบนใบหน้านิ่งเฉยดั่งรูปสลักขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยิน

“ห่วงชื่อเสียงรึ แทนที่จะห่วงเรื่องภาพลักษณ์ ห่วงสุขภาพความปลอดภัยไม่ดีกว่ารึ อาการอย่างนี้ เห็นทีจะโดนวางยา ยานั่นจะมีผลข้างเคียงแบบไหนบ้างก็ไม่รู้”

“น้ำ...” เสียงเบาหวิวที่หลุดลอดจากริมฝีปากรูปกระจับฟังดูเย้ายวนอย่างน่าประหลาด “ฉันรู้...พาฉันไป” ฝ่ามือนุ่มนิ่มบีบแขนเขาไว้แน่น เหมือนกลัวว่าถ้าไม่ทำแบบนั้น ร่างทั้งร่างจะทรุดลงไปกองบนพื้นหญ้า “กลางสวนมีสระ...ฉันเห็น...” เธอบอกเสียงหอบ นิ้วเรียวงามเริ่มจิกเล็บลงบนต้นแขนแข็งแกร่ง เหมือนไม่พอใจที่เขามัวชักช้า

เคราะห์ดีที่วันนี้เสื้อคลุมแขนยาวที่ไซรัสสวมเนื้อผ้าหนาพอ ไม่อย่างนั้น ตอนนี้ ‘ท่านหญิงกุหลาบทะเลทราย’ คงฝากรอยอารมณ์ให้เขาเก็บไว้ดูต่างหน้าได้มากกว่าสิบแผล

“เร็วหน่อย” เธอเร่งเร้า น้ำเสียงแหบพร่า สองมือเริ่มเลื่อนไล้ไล่จิกแขนจิกคอเขาแน่นขึ้นเหมือนจงใจระบายความอัดอั้น

น่าหงุดหงิดนัก น่าหงุดหงิดที่ผู้หญิงในอ้อมแขนเขาดูจะห่วงเรื่องเกียรติยศและภาพพจน์มากกว่าชีวิต

และน่าหงุดหงิด ที่ทั้งๆ ที่ปลายนิ้วเล็กๆ นั่นทำให้เขาเจ็บแสบอย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าทำ มันกลับทำให้บริเวณที่ต้องสัมผัสเกิดอาการร้อนวูบวาบอย่างน่าพิศวง

“อยู่นิ่งๆ” เขาดุพลางช้อนอุ้มร่างเธอขึ้นแนบอก แล้วพาร่างอ้อนแอ้นในอ้อมแขนเดินผ่านกลุ่มไม้พุ่มเตี้ย มุ่งหน้าเข้าหาสวนวงกตแสนลึกลับ ภายในใจได้แต่หวัง ว่าสวนวงกตตรงหน้า จะไม่สลับซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจะหาสระน้ำอะไรนั่นเจอ “ทางไหน” คนไม่รู้ทางรีบถาม แต่ดูเหมือนตอนนี้ สติเธอจะลางเลือนเกินกว่าจะตอบไหว

“อึดอัด...” เธอพึมพำ สองมือเริ่มออกฤทธิ์ออกเดชมากขึ้น

วูบหนึ่ง ไซรัสคิดว่าเขาควรขัดใจเจ้าของร่างบอบบางในอ้อมแขนด้วยการอุ้มเธอไปพบหมอ แต่พอเห็นเธอกระชากผ้าคลุมไหล่ทิ้งเผยให้เห็นเนินอกอิ่มแถมยังจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและอารมณ์เท่านั้น คนที่แน่ใจว่าหมอรักษาโรคน่าจะเป็นชายก็สลัดความคิดนั้นออกจากหัวทันที

เสี่ยงเกินไป...

ไม่ใช่แค่เสี่ยง บางทีคนโดนวางยาอาจจะรู้ ว่าถึงรีบไปหาตอนนี้ หมอก็คงช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี

สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากพบหมอ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม สุดท้าย ‘ท่านหญิงกุหลาบทะเลทราย’ ก็จะถูกทิ้งให้ทนทุกข์อยู่กับความอับอายตลอดกาล

“อดทนไว้” คนหน้าใหม่ของอาณาจักรบอกทั้งๆ ที่ไม่แน่ใจว่าเจ้าของลมหายใจร้อนๆ ที่ต้นคอจะรับรู้

เขาพยายามสงบจิตสงบใจรวบรวมสมาธิแล้วเงี่ยหูฟังเสียงธรรมชาติ ไม่นานนักเจ้าของร่างสมส่วนในชุดสีดำสนิทก็ได้ยินเสียงบางอย่างร่วงลงน้ำ บอกให้รู้ว่าของที่มองหาอยู่ทางทิศไหน

“ขอให้ได้ผลทีเถอะ” พ่อค้าหนุ่มบ่นพึมพำ จากนั้นก็รีบอุ้มหญิงสาวอ่อนเยาว์สาวเท้าเดินไปตามสัญชาตญาณทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 15

    แม้ชื่อเสียงอัยน์นาจะได้รับการปกป้อง แต่ดูเหมือนชื่อเสียงของท่านหญิงพริสซิลล่ากับท่านหญิงแอนนาเบลจะยิ่งตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะถึงแม้คืนนั้นจะไม่มีใครรู้เห็นเรื่องนี้เพิ่มเติมนอกจากเจ้าบ้านอย่างเจ้ากรมการคลังกับสาวใช้อีกสองราย แต่หลังจากตอนนั้น ดูเหมือนพวกทหารในเหตุการณ์และคนรับใช้ที่เจ้ากรมการคลังส่งมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ท่านเจ้ากรมการเมือง จะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าต่อให้ครอบครัวกับคนใกล้ชิดฟัง แล้วคนเหล่านั้นก็เอาไปเล่าลือต่อพลางใส่สีตีไข่จนเกิดเนื้อเรื่องบทใหม่แทรกเสริมในนิทานเพลงเรื่องเก่า บทเดียวกับที่เหล่าผู้สืบเชื้อสายแกรนเทรนท์โดนเจ้าบ้านคนปัจจุบันเรียกตัวมานั่งฟังอยู่ในขณะนี้หนนี้อัยน์นาไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดในเรื่องเล่าเท่าไหร่นัก เพราะมีเรื่องอื่นรบกวนจิตใจ ทั้งยังเคยได้ยินหญิงรับใช้ในคฤหาสน์ซุบซิบนินทากันมามากแล้วรายละเอียดเรื่องราวก็เหมือนเคย คือเรื่องที่กวีเปรียบเปรยเธอกับสิ่งบริสุทธิ์สวยงามทั้งหมดทั้งมวลในโลกนี้ ในขณะที่ยกบทบาทร้ายกาจน่ารังเกียจให้ ท่านผู้หญิงเธลม่า แกรนเทรนท์ และพี่สาวต่างมารดาทั้งสอง จะพิเศษอยู่หน่อยก็ตรงที่หนนี

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 14

    “ไซรัส...!” ท่านหญิงพริสซิลล่ารีบปิดปากแอนนาเบลก่อนที่น้องสาวจะโวยวายอะไรออกมามากกว่านี้ถึงจะยืนอยู่ห่างกันพอสมควร แต่ตอนนั้น อัยน์นาก็พออ่านปากออก ว่าแอนนาเบลโดนพี่สาวสั่งให้ ‘หุบปาก’...ดูท่าชายคนนี้จะไม่ใช่คนที่พริสซิลล่าคาดหวังให้อยู่กับน้องสาวต่างมารดาอย่างเธอ...“เกิดอะไรขึ้นคะ” ทายาทแกรนเทรนท์คนโตรีบจูงมือน้องสาวตรงมาหาเธอกับไซรัสไม่ทันที่อัยน์นาจะได้อ้าปากตอบอะไร ไซรัสก็เป็นฝ่ายชิงตอบให้เสียก่อน“เธอหมดสติแล้วพลัดตกน้ำครับ ผมผ่านมาเห็นเข้า ก็เลยรีบช่วยเธอขึ้นจากสระ”“แต่เสื้อผ้า...” แอนนาเบลโดนพริสซิลล่าถลึงตาใส่เพราะประโยคนั้น“เสื้อผ้าคงโดนอะไรสักอย่างเกี่ยวตอนฉุกละหุกใช่ไหมคะ” พริสซิลล่าหันมาฉีกยิ้มให้เธอ “ดีจังเลยนะจ๊ะ อัยน์นา ที่มีคนมาช่วยไว้ทัน”“ค่ะ” อัยน์นาสะกดกลั้นความไม่พอใจที่โดนวางยาเอาไว้ พยายามจะไม่พูด

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 13

    อัยน์นาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน รู้เพียงตอนนี้ร่างกายเธอร้อนวูบไปทั่วจนครั่นเนื้อครั่นตัว แถมยังรู้สึกอึดอัดปนวาบหวามจนแทบทนไม่ไหวตอนนี้นัยน์ตาเธอพร่ามัว ร่างกายไม่ถึงกับไร้เรี่ยวแรง แต่ดูคล้ายมันจะตอบสนองต่อกล้ามเนื้อแข็งแกร่งกับกลิ่นอายราตรีดิบเถื่อนและโซ่ตรวนแสนอันตรายจากร่างกายคนตรงหน้าจนไม่อาจควบคุม ทั้งๆ ที่ที่ผ่านมา เรื่องการควบคุมตัวเอง เป็นเรื่องที่เธอแน่ใจว่าทำได้ดีที่สุดเธอไม่โทษยานั่น ความจริงเธอเกือบจะลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอขัดใจคือแรงดึงดูดจากชายตรงหน้า ขัดใจจนอยากจิกเล็บให้เขาเจ็บกว่านี้ แต่ตอนนี้ ส่วนลึกในใจเธอกลับอยากหยุดคิดทุกเรื่อง แล้วสูดซับกลิ่นอายแปลกประหลาดชวนหลงใหลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“คุณหนู” เจ้าของกลิ่นอายแสนยวนเย้าเรียกด้วยน้ำเสียงดุเข้มอัยน์นารำคาญเสียงห้ามปรามนั้นนัก จึงเลื่อนส่วนเดียวที่ว่างอยู่ขึ้นปิดริมฝีปากหยักสวยทรงเสน่ห์นั่น แล้วทำตามเสียงสั่งลึกลับที่คอยกระซิบกระซาบอยู่ในใจเธอได้ยินเขาสบถบ่นไม่เป็นภาษาด้วยสำนวนสำเนียงคล้ายชนชั้นล่าง นั่นทำให้ภาพชายท่าทีสุขุมในชุดเร

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 12

    ไซรัสอุ้มร่างอ้อนแอ้นเดินลงสระน้ำด้วยความร้อนใจ ภายในหัวไม่เหลือความคิดอื่นใด นอกจากการช่วยให้คนในอ้อมแขนพ้นจากความทรมาน“ร้อน...” เธอบ่นร้อน ทั้งๆ ที่น้ำในสระเย็นจัดจนขึ้นไอ สองมือเกาะเกี่ยวเขาไว้แน่น “...ช่วยที...” เธอพึมพำ น้ำเสียงเว้าวอนเขาไม่รู้ว่าเจ้าของใบหน้าอ่อนเยาว์นางนี้จะรู้ความหมายของสิ่งที่พูดออกมาหรือเปล่า รู้เพียงแต่ต้องพยายามประคองให้เธออยู่นิ่งๆแต่ดูเหมือนเจ้าของผิวนวลนิ่มจะไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่...พ่อค้าอัญมณีจึงต้องพาร่างในอ้อมแขนลงนั่ง แล้วกอดรั้งร่างเธอไว้ เพื่อไม่ให้ร่างที่ดูอ่อนยวบไปหมดร่างนี้พลาดจมน้ำซึ่งลึกเพียงระดับต้นขา หรือพลาดเดินไปหาใจกลางสระที่น่าจะลึกกว่าบริเวณนี้ไซรัสได้ยินเธอพึมพำอะไรหลายอย่าง แต่ถ้อยคำเหล่านั้นกลับฟังไม่ได้ศัพท์ จับใจความไม่ได้ บอกให้รู้ว่าเจ้าของดวงตาสีนิลกำลังไร้สติเพราะยาเห็นแบบนี้แล้ว พ่อค้านักแสวงโชคก็อดคิดไม่ได้ ว่าถ้าคนที่เธอเดินมาเจอไม่ใช่เขาแต่เป็นทหารยาม หรือผู้ชายเลวๆ สักคน มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่เขากำลังคิดอะไรๆ อยู่นั้น นิ้วมือร้อนๆ ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเขาแล้วลูบไล้ไปทั่ว จุดไฟปรารถนาแปลกประหลาด เผาผลา

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 11

    หลังหว่านเมล็ดพันธุ์เส้นสายไปทั่วงานเลี้ยง ไซรัสก็ปลีกตัวออกมาหลบมุมสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียงเล็กๆ ข้างประตูทางออกฝั่งสวนหย่อมรกครึ้มทีแรก เขาไม่เข้าใจนัก ว่าทำไมก่อนหน้านี้ลูคัสที่ดูจะคุ้นชินเรื่องวิถีชนชั้นสูงที่สุดในกลุ่มพี่ๆ น้องๆ ต่างสายเลือด ถึงได้พยายามเคี่ยวเข็ญให้เขาเต้นรำอย่างถูกวิธีทั้งๆ ที่เขาก็ยืนยันว่าไม่ต้องการเต้นรำกับใคร แต่หลังจากโดนเจ้ากรมการคลังหิ้วไปนั่นมานี่ จนโดนขุนนางและพ่อค้าใหญ่หลายรายยัดเยียดลูกหรือหลานสาวให้เขาเชิญไปเต้นรำ ผู้มั่งคั่งหน้าใหม่ของอาณาจักรก็เข้าใจทันทีน่ารำคาญนัก ไซรัสเอนหลังพิงผนัง แหงนหน้ามองพระจันทร์ อดคิดไม่ได้ว่าต้องใช้เวลาอยู่ในอาจักรนี้อีกนานแค่ไหน ภารกิจแสนสำคัญจึงจะลุล่วงเสียทีท่ามกลางความเงียบงัน สตรีชุดขาวผ่องเดินผ่านประตูระเบียงออกมาอย่างเชื่องช้า คล้ายพยายามกลั้นความเจ็บปวดบางอย่างทันทีที่ก้าวขาพ้นกรอบประตู หญิงสาวอ่อนเยาว์รายนั้นก็รีบประคองร่างเข้าหาสวนกว้าง ดูราวกับสัตว์ป่าหาที่หลบภัยยามเจ็บไข้ลูกสาวนอกสมรสเจ้ากรมการเมือง...อัยน์นา...?เขาบอกตัวเองว่าไม่ควรใส่ใจ แต่ท่าทีซวนเซ และเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายบนใบหน้าขาวนวล กลับทำให

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 10

    “ที่คุณพูดมาไม่ผิดเลย ” ไซรัสคลี่ยิ้มกว้างขึ้น เขาแสร้งกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนเอ่ย “ว่าแต่คุณเถอะ ดูเหมือนท่านหญิงหลายคนจะอยากให้คุณชวนเต้นรำ”“ผมเห็นพวกเธอบางคนเหลียวมองคุณกับญาติผู้พี่ของผมด้วยเหมือนกัน” คาร์ลหยิบเครื่องดื่มจากถาดที่คนรับใช้ชายถือผ่านมาให้ท่านเจ้ากรมการคลัง ไซรัส และตนเอง “งานสังคมก็เป็นเช่นนี้ล่ะ มันเป็นสถานทีที่สตรีชั้นสูงจะได้ออกมาอวดโฉมเพื่อหว่านเสน่ห์ให้ผู้คนหลงใหล ถัดจากงานนี้ก็คงมีคุณหนูกับคุณชายจากตระกูลไหนสักตระกูลประกาศการหมั้นหมาย”“แต่เห็นจะไม่ใช่ตระกูลแกรนเทรนท์” จู่ๆ ภรรยาเจ้ากรมการคลัง ก็ก้าวเข้ามาร่วมวงสนทนา ตอนนี้ร่างกายเธอกรุ่นกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ บอกให้รู้ได้โดยไม่ต้องเดา ว่าแก้วเหล้าหมักผลไม้ในมือเธอ คงไม่ใช่เหล้าแก้วแรกที่ดื่มกินยังดีที่เจ้าหล่อนมีสติพอจะยกพัดป้องปาก ก่อนออกความเห็นต่อไป“ฉันเห็นคุณหนูแกรนเทรนท์คนโตกับคนรองมองมาทางพวกคุณบ่อยๆ พวกคุณเพิ่งมาจากต่างถิ่น อย่าหลงกลเชียวนะคะ เห็นงามๆ อย่างนั้นน่ะ ไม่มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่คนไหนในอาณาจักรนี้อยากเฉียดใกล้หรอกค่ะ” นางบอกคาร์ลและไซรัสอย่างไม่สงวนถ้อยคำ ไม่สนใจสายตาห้ามปรามจากสามีแม้แต่น้อยแล้วค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status