Share

บทที่ 10

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-21 11:51:39

“ที่คุณพูดมาไม่ผิดเลย ” ไซรัสคลี่ยิ้มกว้างขึ้น เขาแสร้งกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนเอ่ย “ว่าแต่คุณเถอะ ดูเหมือนท่านหญิงหลายคนจะอยากให้คุณชวนเต้นรำ”

“ผมเห็นพวกเธอบางคนเหลียวมองคุณกับญาติผู้พี่ของผมด้วยเหมือนกัน” คาร์ลหยิบเครื่องดื่มจากถาดที่คนรับใช้ชายถือผ่านมาให้ท่านเจ้ากรมการคลัง ไซรัส และตนเอง “งานสังคมก็เป็นเช่นนี้ล่ะ มันเป็นสถานทีที่สตรีชั้นสูงจะได้ออกมาอวดโฉมเพื่อหว่านเสน่ห์ให้ผู้คนหลงใหล ถัดจากงานนี้ก็คงมีคุณหนูกับคุณชายจากตระกูลไหนสักตระกูลประกาศการหมั้นหมาย”

“แต่เห็นจะไม่ใช่ตระกูลแกรนเทรนท์” จู่ๆ ภรรยาเจ้ากรมการคลัง ก็ก้าวเข้ามาร่วมวงสนทนา ตอนนี้ร่างกายเธอกรุ่นกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ บอกให้รู้ได้โดยไม่ต้องเดา ว่าแก้วเหล้าหมักผลไม้ในมือเธอ คงไม่ใช่เหล้าแก้วแรกที่ดื่มกิน

ยังดีที่เจ้าหล่อนมีสติพอจะยกพัดป้องปาก ก่อนออกความเห็นต่อไป

“ฉันเห็นคุณหนูแกรนเทรนท์คนโตกับคนรองมองมาทางพวกคุณบ่อยๆ พวกคุณเพิ่งมาจากต่างถิ่น อย่าหลงกลเชียวนะคะ เห็นงามๆ อย่างนั้นน่ะ ไม่มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่คนไหนในอาณาจักรนี้อยากเฉียดใกล้หรอกค่ะ” นางบอกคาร์ลและไซรัสอย่างไม่สงวนถ้อยคำ ไม่สนใจสายตาห้ามปรามจากสามีแม้แต่น้อย

แล้วคาร์ลก็เล่นด้วยเสียอย่างนั้น

“ทำไมล่ะครับ” ขุนนางหนุ่มถาม

“ไม่ทราบหรือคะ แม่ลูกสาวคนโตพริสซิลล่าที่ผมสีทองยาวหยักศกหน้าสวยคนนั้นน่ะ ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ งานอดิเรกที่เหมาะสมไม่มี งานหลักดีๆ ไม่ปรากฏ วันๆ ทำอยู่อย่างเดียว คือหาเรื่องทำร้ายคนรับใช้กับน้องสาวต่างแม่”

“นั่นใช่เรื่องควรพูดรึ” คนเป็นสามีพยายามหยุดการนินทาอย่างน่าเกลียด แต่ท่านผู้หญิงวิลส์ตันกลับไม่ใส่ใจเลยสักนิด

“ท่านหญิงแอนนาเบลน้องสาวคนรองก็ไม่ไหวพอกัน” ภริยาเจ้าบ้านยังคงเอ่ยต่อไป “รายนี้ไม่ร้ายกาจจนน่าปวดหัวเท่าคนพี่ แต่ดูจะคิดอะไรไม่เป็นนัก วันๆ ได้แต่เดินตามพี่สาวเหมือนเงาตามตัว พี่สาวพูดอะไรก็คอยทำตัวเป็นลูกคู่ แต่พออยู่คนเดียวเท่านั้นล่ะ กลายเป็นเบื้อเป็นใบ้ คิดอะไรเองไม่เป็นสักอย่าง”

“ไซรัส” เจ้ากรมการคลัง เอ่ยแทรกอย่างสุดทน “ผมมีคนที่อยากแนะนำให้คุณรู้จัก” เจ้าภาพเหลียวมองคาร์ลด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก “ฝากดูแลท่านผู้หญิงสักครู่ อย่าให้เธอดื่มมากนัก ดูท่าตอนนี้คงดื่มเข้าไปมากแล้ว”

 นับตั้งแต่ก้าวขาเข้างานเลี้ยงมา อัยน์นาก็ต้องเดินตามท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองเพียงเพื่อที่จะกลายเป็นส่วนเกินในทุกๆ บทสนทนา

ดูเหมือนว่าท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองกับลูกสาวทั้งสองจะจงใจแก้เผ็ดท่านเจ้ากรมการเมืองด้วยการพาเธอตามติดไปทุกที่ตามคำสั่งขุนนางสูงวัย แต่ในขณะเดียวกันก็คอยพูดถึงเรื่องความน่าขันระคนน่าหงุดหงิดของพวกทาสและชนชั้นล่าง แล้วแกล้งถามแกล้งขอความเห็นจากเธออยู่เนืองๆ

เพราะรู้ว่าทั้งสามจงใจหักหน้า อัยน์นาจึงยอมทนอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้มเศร้าสร้อยเหมือนต้องคอยกลั้นน้ำตาเอาไว้

“อัยน์นาจ๊ะ หน้าซีดๆ นะ ดื่มน้ำหน่อยไหม?” จู่ๆ พริสซิลล่าก็เกิดใจดีขึ้นมา

นั่นทำให้อัยน์ประหลาดใจที่สุด

“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันสบายดี ท่านหญิงดื่มเถอะค่ะ”

“ได้ยังไงกัน” แอนนาเบลยัดเยียดน้ำแก้วนั้นใส่มือเธอ “ดื่มซะ เกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา คุณพ่อจะว่าเอาได้ ว่าฉัน คุณพี่ แล้วก็คุณแม่ ดูแลเธอไม่ดี”

“แอนนาเบล อย่าเสียงดัง” ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองตวัดพัดสักหลาดประดับลูกไม้ในมือตีลูกสาวคนรอง ก่อนหันมาสั่งอัยน์นา “ดื่มซะ” เจ้าหล่อนคลี่พักป้องปาก กระซิบกระซาบให้ได้ยินกันแค่สองคน “หน้าหล่อนซีดอย่างกับศพ เกิดมาเป็นลมเป็นแล้งตรงนี้ ฉันจะเสียหน้า”

แม้จะไม่อยากดื่ม แต่เมื่อถูกกดดันมากเข้า อัยน์นาก็จำต้องดื่มน้ำแก้วนั้นเข้าไป

วูบหนึ่ง หญิงสาวแน่ใจว่าเห็นพริสซิลล่าเหยียดยิ้ม

“ริชาร์ดหายไปไหนของเขานะ” ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองบ่นอุบ “นี่ อัยน์นาจ๊ะ ไปตามคุณพ่อมาทีสิ” นางโปรยยิ้มให้ทุกคนในวงสนทนาเมื่อเอ่ยจบ เหมือนตั้งใจจะอวดว่าตนญาติดีกับลูกนอกสมรสของสามีแค่ไหน

“จะเหมาะหรือคะ คุณท่านอาจคุยธุระติดพัน...”

“เหมาะสมจ้ะ” เธลม่ายืนยัน “นี่ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้ว ไปบอกท่านทีเถอะ ว่าเธอกับฉันเริ่มเหนื่อยแล้ว พวกเราจะได้กลับคฤหาสน์กันเสียที...เดินหาให้ทั่วๆ หน่อยนะ”

อัยน์นาเหลียวมองพริสซิลล่าและแอนนาเบล และทั้งคู่ก็พยักหน้าสนับสนุนว่าเหนื่อยจริง

“ค่ะ รอสักครู่นะคะ” คนโดนไว้วานรับคำอย่างว่าง่ายเพราะเริ่มรู้สึกร้อนวูบแปลกๆ ขึ้นมา

เธอประคองสติถอนสายบัวแสดงความเคารพทุกคนในวงสนทนาอย่างนอบน้อม แล้วรีบปลีกตัวออกมาเพราะแน่ใจว่าน้ำแก้วนั้นคงมีอะไรสักอย่างเจือปน

ไม่ว่าในน้ำแก้วนั้นจะมีอะไร อัยน์นาแน่ใจว่ามันจะไม่ส่งผลดีต่อเธออย่างแน่นอน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 61

    “ขออภัย ขอผมอกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่” นี่เป็นคำพูดตัดบทขอปลีกตัวที่ไซรัสมองว่าช่างฟังดูทื่อและเสียมารยาทที่สุดเท่าที่เขาเคยทำหลุดจากริมฝีปาก แต่ตอนนี้สมองเขาเริ่มตื้อตันเกินกว่าจะนึกอะไรไหว“สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าคะ เราติดต่อขอความช่วยเหลือมหาดเล็กขอให้เขาช่วยจัดห้องพักให้คุณดีไหม”“อย่าให้ใครต้องลำบากเลยครับ ผมแค่มึนหัวนิดหน่อยเท่านั้น” เขาเริ่มนึกถึงสวน นึกถึงต้นไม้รกครึ้ม ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติก็ยิ่งอยากซ่อนตัวมากขึ้นเท่านั้น“ถ้าอย่างนั้น เราออกไปที่อุทยานกลางดีไหมคะ” สิ่งที่พริสซิลล่าเสนอ ตรงใจเขาพอดี “นะคะ เดินออกไปทางประตูตะวันออก แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เดี๋ยวดิฉันจะพาไป”“เปลี่ยนเป็นบอกทางดีกว่าครับ หายไปด้วยกัน ใครเห็นเข้าจะดูไม่ดี”พริสซิลล่ากัดริมฝีปากอย่างขัดใจ“แต่คุณบอกว่ามึนหัวนี่คะ” เธอจ้องหน้าเขา แววตาบ่งบอกว่าจะไม่ยอมทำตามที่บอกแน่ๆบทจะดื้อ ก็ดื้อดึงขึ้นมาแววตาท่านหญิงผมทองยามนี้ ดูรั้น ไม่ยอมคน คล้ายอัยน์นาอย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 60

    “ตาถั่วน่ะสิ” แอนนาเบลถลึงตาใส่ “เถียงคำไม่ตกฟาก แค่ถามว่าฉันทำหายที่ไหนแล้วช่วยกันหาไม่ได้หรือไง นั่นของแพงมากนะยะ”“แล้วคุณพี่ไปทำตกไว้ที่ไหนล่ะคะ”คำถามสั้นๆ จากอันย์นา ทำเอาท่านหญิงคนรองสะอึกหล่อนกลอกตา ก่อนตอบ“ในสวน”“ในสวน...? สวนไหนคะ”“ก็สวนใกล้ๆ นี่น่ะสิ!” แอนนาเบลแหวใส่ “เอาเป็นว่าหล่อนต้องมาช่วยฉันหา เดี๋ยวนี้!” บอกแล้ว คนอ้างว่าทำของหายก็เดินนำเธอมุ่งหน้าเข้าหาอุทยานที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ดอก ไม้ดัด และซุ้มไม้เลื้อยนานาชนิดแสงสลัวรางจากเสาติดตะเกียง ส่องให้คุณหนูทั้งสองจากตระกูลแกรนเทรนท์เห็นว่าอุทยานแห่งนี้กว้างขวางจนน่าตกใจ“คุณพี่ไปทำหายบริเวณไหนคะ” อัยน์นาถามหลังกวาดสายตามองไปรอบๆเธอแน่ใจว่าคนอย่างแอนนาเบลไม่มีทางทิ้งงานเลี้ยงหรูหราลงมาที่อุทยานซึ่งทั้งมืดสลัว ทั้งกว้างขวาง ทั้งเงียบเชียบ แบบนี้คนเดียวแน่ แต่ครั้นจะพูดว่ารู้ทัน ประเดี๋ยวพี่สาวจอมโวยวายรายนี้ ก็คงส่งเสียงแหลมแสบแก้วหูปฏิเสธคอเป็นเอ็น กลาย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 59

    “คุณจืดชืดจนใครต่อใครอิจฉา...จืดชืดเสียจนผมละสายตาจากคุณไม่ได้”กระทั่งคำพูดเชิงลบแบบนี้ ยังใช้เกี้ยวพาราสีผู้หญิงได้...เชื่อเขาเลยอัยน์นาพยายามเตือนตัวเองว่าชายคนนี้เป็นจอมเสแสร้ง ทั้งที่เกิดขัดเขินขึ้นมาจนแก้มตึง“ข่าวว่าท่านผู้หญิงสั่งตัดชุดราตรีสีฟ้าสดใสให้คุณสวมมางานนี้...เพราะอะไรถึงกลายเป็นสีทองไปได้” จู่ๆ เขาก็ชวนเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเสียอย่างนั้นไม่เปลี่ยนเรื่องเปล่า ยังมองเสไปทางอื่นชั่วครู่อีกด้วยคุณหนูเจ้ากรมการเมืองไม่ถึงกับรับความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ทัน เพียงแต่รู้สึกชัดเจน ว่าเขาจงใจพาเธอออกจากบทสนทนาเกี้ยวพาราสีที่ตัวเขาเองเป็นคนเริ่ม ชวนให้สงสัยว่าภายใต้ใบหน้าสวมหน้ากากยิ้มแย้ม เป็นมิตร พ่อค้ารายนี้ คิดอะไรอยู่ในใจท่ามกลางบรรยากาศคลอเคล้าเสียงดนตรี อัยน์นาเผลอจ้องมองนัยน์ตาสีดำ นิ่ง นาน“ความลับค่ะ” เธอเลือกตอบสั้นๆ เพราะไม่อยากพูดเรื่องตัวเองให้ใครฟังเกินจำเป็น“น่าเสียดาย ที่ผมจะไม่มีโอกาสทำความรู้จักช่

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 58

    คิดได้ไม่เท่าไหร่ สายตาคมกริบก็สังเกตเห็นชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว รูปร่างสมส่วน สวมชุดสีดำ ขลิบขอบปกคอเสื้อไล่ยาวมาถึงชายด้วยดิ้นเงิน ดูเข้มขรึม น่าเกรงขามเธอจำเขาได้ดี...ถึงวันนี้เขาจะแต่งกายเป็นทางการผิดหูผิดตา แต่นัยน์ตาสีดำกับเส้นผมยาวเหยียดสีเดียวกันและท่าทีทรงอำนาจดุจราชาอย่างนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากพ่อค้าน่าสงสัยวันนี้ไซรัสไม่ได้รวบผมต่ำอย่างทุกที แต่ปล่อยให้มันพลิ้วสยาย ติดจะดูเป็นทรงผมที่ดูสบายๆ เกินเหตุ แต่กลับน่ามองอย่างที่สุดเธอส่งยิ้มให้แล้วเดินตรงไปหาเขาทันที‘วันนี้คุณหนูอัยน์นาก็ยังต้องเป็นมิตรที่ดีต่อไซรัส’ นั่นเป็นสิ่งที่เธอบอกตัวเอง เมื่อเกิดแปลกใจที่สองขาพาร่างกายเข้าใกล้เขาโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิดไซรัสเองก็คลี่ยิ้มน้อยๆ ให้เธอเช่นกันภาพเหล่านี้ ทำให้บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ในวงสังคมพึงพอใจ...นัยว่าหมดคู่แข่งไปอีกราย แต่ไม่ใช่พริสซิลล่าตอนเห็นอัยน์นาเต้นรำกับเจ้าชาย เธออาจจะริษยา แต่ก็ยังรู้สึกดีกว่าตอนนี้ ตอนที่น้องสาวต่างมารดาพุ่งตรงเข้าหาผู้ชายที่เธอพึงใจโดยไม่หยุดคิดเล

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 57

    นานมากแล้วที่เสียงเพลงหวานซึ้งจากเครื่องสายดังกังวานใสขับกล่อมผู้คน และทำหน้าที่ต่างเสียงบอกจังหวะก้าวขาให้คู่เต้นรำที่เหลืออยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น“เธอเต้นเก่งมาก” คู่เต้นหนุ่มกระซิบแผ่วเบาในจังหวะที่อัยน์นาต้องหมุนตัวเข้าใกล้เขาอย่างช่วยไม่ได้“ไม่หรอกค่ะ เพราะคุณเต้นเก่งมากกว่า” เธอหมายความตามนั้นจริงๆถ้ามีใครมาถามว่าชายตรงหน้าเต้นรำเก่งแค่ไหน อัยน์นากล้าบอกทันทีว่าชายคนนี้เต้นเก่งมาก มากจนสามารถเปลี่ยนให้คนเต้นรำพอได้อย่างเธอกลายเป็นคนที่เหมือนเต้นเก่งได้ในพริบตาอยู่ในวงแขนเขา เธอก็ไม่ต่างจากขนนก ได้แต่ล่องลอยพลิ้วไหวไปตามสายลมทุกฝีเท้า ทุกการก้าวเดิน ทุกท่วงท่าการหมุนที่เขาชี้นำ ทำให้เธอได้รับเสียงปรบมือจากแขกในงานเป็นระยะเวลานี้ ใครต่อใครล้วนไม่กล้าก้าวขาเข้ามาเต้นเทียบเคียง พวกเขาเอาแต่เฝ้ามองเธอกับคู่เต้น...นั่นเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดที่สุด“ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน” นักเต้นหนุ่มบอกพลางยกแขนส่งให้เธอหมุนตัวใต้การควบคุมอีกครั้ง “

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 56

    กว่าตระกูลแกรนเทรนท์จะมาถึงประตูท้องพระโรงที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงหนนี้ งานเลี้ยงก็เริ่มไปนานแล้วอย่างที่ท่านผู้หญิงว่า สร้างความพึงพอใจให้ท่านผู้หญิง พริสซิลล่า และแอนนาเบลไม่น้อยงานเลี้ยงหนนี้ จัดเป็นงานเลี้ยงเต้นรำอย่างที่อัยน์นาเคยได้ข่าวมันเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ภายในท้องพระโรงกว้างขวางปูพรมสีแดงจัดผู้คนมากมายในชุดหรูหราต่างจับคู่เต้นรำ บ้างก็พูดคุย ยิ้มแย้มผู้คนและการแต่งกายว่าน่าประทับใจแล้ว ต้นเสาและเพดานโค้งสีขาวสลักลายละเอียดอ่อน โคมไฟระย้าคริสตัลขนาดใหญ่ใจกลางเพดาน สายประดับคริสตัลที่ห้อยทิ้งตัวเป็นสาย ช่อดอกลิลลี่สีขาวดอกใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ทหารยืนยามและบริกรในชุดหรูหรา วงดนตรีเล่นสดขนาดมหึมา เครื่องดื่มสีสันแปลกตามากกว่าสิบชนิด ม้านั่งบุกำมะหยี่สีแดงเข้มขาตั้งฉลุลายแบบเดียวกับเพดานดูเรียบหรูรับกับพื้นพรมและผนัง อาหารและของว่างนับร้อยชนิดจัดไว้เป็นคำๆ ประดับประดาด้วยผงสีทองสวยเด่น แต่ละรายละเอียดในงานเลี้ยงล้วนดูสวยงามมีระดับจนไม่อาจนิยามเพียงสั้นๆ ได้ว่า ‘น่าประทับใจ’“เข้าไปตอนนี้ต้องเด่นแน่ๆ ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status