แชร์

ตอนที่ 16

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-13 23:51:12

ว่าด้วยเรื่องระดับพลังในโลกลมปราณ ทั้งมนุษย์และสัตว์อสูรใช้ระดับขั้นเดียวกัน มีทั้งหมด 12 ระดับ (แบ่งขั้นย่อยเป็น ต่ำ กลาง สูง) ประกอบไปด้วย ระดับเริ่มต้น หลอมรวม นักรบ แม่ทัพ จอมยุทธ์ ปราชญ์ จักรพรรดิ ราชัน ราชันจักรพรรดิ เซียน เทพ และเทพบรรพกาล

ระดับพลังของดินแดนเบื้องล่างพบเห็นเพียง 7 ระดับเท่านั้น คือระดับเริ่มต้นถึงระดับปราชญ์ ด้วยทรัพยากรที่จำกัดทำให้ยากนักจะเลื่อนขั้นพลังได้ ดังนั้นตั้งแต่ระดับจักรพรรดิเป็นต้นไป ในสายตาคนของดินแดนเบื้องล่างถือได้ว่าเป็นระดับตำนาน เพราะมันนานมากแล้วที่ไม่มีระดับจักรพรรดิปรากฏกายออกมา

ไม่ต้องพูดถึงระดับเทพ เพราะต่อให้เป็นดินแดนเบื้องบนก็ยังนับว่าเป็นขั้นระดับตำนานเหนือตำนาน เนื่องจากยังไม่เคยมีใครไปถึงระดับเทพเลยนั่นเอง แม้แต่ขั้นเซียนยังมีน้อยที่จะเลื่อนระดับพลังไปถึงได้

การที่เว่ยซือหงปกปิดระดับพลังของตนในครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว เพราะหากนางไม่ปกปิดระดับพลัง เกรงว่ายุทธภพได้วุ่นวายครั้งใหญ่แน่ ทั้งนี้หากนางไม่ปกปิดอาจนำมาซึ่งปัญหา และก่อให้เกิดอันตรายกับครอบครัวของนางได้อีกด้วย

ถึงนางจะเด็กแต่นางก็ไม่ได้โง่นะ!

“เอาละ ไปข้างนอกกันเถอะ อยู่ในนี้มาตั้งสามวัน อาหงคิดถึงทุกคนที่สุดเลย! ออกจากมิติ”

วาบ!

ด้านนอกภายในเรือนนอนของเว่ยซือหง นับตั้งแต่เกิดการปะทุขึ้นของพลังปราณ เวลาเพิ่งผ่านมาเพียงสองชั่วยามเท่านั้น ครอบครัวตระกูลเว่ยรวมตัวกันที่ห้องนอนของเจ้าตัวน้อย สายตาจับจ้องไปยังร่างเล็กบนเตียง ที่นอนหลับตาพริ้มลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

“นี่ก็ผ่านมาสองชั่วยามแล้วนะเจ้าคะ หงเอ๋อร์ยังไม่ตื่นขึ้นมาเลย” หลิวลี่หงกังวลมาก นางห่วงบุตรสาวยิ่งนัก ตามปกติเมื่อพลังปราณตื่นขึ้น ร่างกายจะดูดซับไอพลังปราณที่ปะทุออกมากลับเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งกินเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม เจ้าของพลังก็จะตื่นขึ้นมาทันที แต่นี่...

“พี่ว่าคงเป็นเพราะพลังปราณของลูกตื่นก่อนกำหนด ทั้งยังมีถึงห้าธาตุ ร่างกายของหงเอ๋อร์จึงปรับสภาพให้รองรับพลังได้ช้า... นี่ก็ผ่านมาสองชั่วยามแล้ว อีกไม่นานลูกของเราก็จะตื่นขึ้น เจ้าอย่ากังวลเลย” พูดปลอบโยนแต่ภายในใจบิดาเช่นเขานั้นกังวลนัก

คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ทุกคนล้วนเป็นห่วงคุณหนูน้อยของจวนกันทั้งสิ้น

“ดึกมากแล้ว ท่านปู่ท่านย่ากลับไปพักก่อนดีหรือไม่ขอรับ”

“ใช่ขอรับ หากน้องสาวตื่นข้าจะไปตามท่านปู่ท่านย่าด้วยตนเอง” สองบุรุษพี่น้องกล่าวสนับสนุนกัน หากยังไม่มีใครตอบสนองอันใด คนที่ทำให้คนทั้งบ้านเป็นห่วงและกังวลพลันเริ่มขยับร่างกาย

“หงเอ๋อร์! ลูกฟื้นแล้ว” หลิวลี่หงสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบุตรสาวไวกว่าใคร ปรี่เข้ากอดร่างเล็ก

เปลือกตาเว่ยซือหงกะพริบถี่ก่อนลืมตาขึ้น เจ้าตัวน้อยกวาดสายตามองไปรอบห้องพบว่าครอบครัวของนางอยู่ที่นี่กันครบทุกคน

“ท่านพ่อท่านแม่ ท่านปู่ท่านย่า พี่ใหญ่พี่รอง อาหงทำให้ทุกคนเป็นห่วงแล้วเจ้าค่ะ”

“เด็กดี ลูกเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บปวดตรงไหนหรือไม่” เว่ยซือซานพูดพร้อมส่งกำลังภายในเข้าสำรวจร่างกายบุตรสาวหาร่องรอยการบาดเจ็บ   

“อาหงปลอดภัยดีเจ้าค่ะท่านพ่อ” เจ้าตัวน้อยยิ้มกว้าง แล้วหันไปพูดกับท่านย่าของนางว่า

“ท่านปู่ท่านย่า... ดึกแล้วนะเจ้าคะ หากไม่รีบพักผ่อน หลานกลัวว่าสุขภาพร่างกายของพวกท่านจะเจ็บป่วยเอาได้”

“เพ้ย! เจ้าตัวน้อยไม่ต้องห่วงปู่กับย่า พวกเราแข็งแรงดี ว่าแต่เจ้าเถอะ ไม่บาดเจ็บจริงใช่หรือไม่”

“นั่นสิหงเอ๋อร์ หลานไม่บาดเจ็บจริง ๆ นะ หากบาดเจ็บก็บอกย่า ย่าจะได้รีบตามหมอมาดูอาการ”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ แต่อาหงไม่ได้รับบาดเจ็บจริง ๆ ทั้งยังแข็งแรงมาก”

“จริงหรือ/แน่นะ” สองพี่น้องเว่ยซือหลางเว่ยซือเหลียงพูดขึ้นพร้อมกัน เจ้าตัวน้อยมองทุกคนอีกครั้งก่อนตัดสินใจ “หากพวกท่านไม่เชื่อก็ดูนี่สิเจ้าคะ”

มือน้อยยื่นออกมาข้างหน้าพร้อมกลิ่นอายพลังปราณระดับเริ่มต้นกระจายออกมา ทำเอาคนตระกูลเว่ยแตกตื่นมากกว่าเดิม

“พลังปราณระดับเริ่มต้นขั้นต่ำ!” เพราะความประหลาดใจทำให้ทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน มองไอปราณประกายทองที่ลอยอยู่เหนือฝ่ามือเล็กอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เจ้าตัวน้อยจะน่าตื่นตะลึงเกินไปแล้ว!  

“อัจฉริยะ... หลานข้าเป็นอัจฉริยะ!” ผู้เฒ่าเว่ยซือหลิวเอ่ยออกมาก่อนแหงนหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “สมแล้วที่เป็นหลานปู่”  

“หลานท่านคนเดียวที่ไหนกัน หงเอ๋อร์ย่อมเป็นหลานของข้าด้วย” หลินซือเหยาฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยออกมาบ้างพร้อมเขม่นมองสามีด้วยสายตาไม่พอใจเท่าไรนัก

คนอื่นมีอาการไม่ต่างจากฮูหยินผู้เฒ่าเช่นกัน ต่างพากันคิดว่า ข้ามีลูกสาว-น้องสาวเป็นอัจฉริยะ

เว่ยซือหงมองอาการของทุกคนแล้วลอบถอนหายใจเบา ๆ ดีนะที่นางปกปิดระดับพลังไว้ก่อน หากเปิดเผยหมดในครั้งเดียว จะต้องมีคนเป็นลมหมดสติแน่

“เอาละ ๆ ยามนี้ดึกมากแล้วและหงเอ๋อร์ก็เพิ่งฟื้น ให้นางพักผ่อนต่อเถิดขอรับ พวกเราก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนด้วย มีอะไรไว้คุยกันวันพรุ่งนี้”

“ได้ ๆ เจ้าลูกชายพูดถูกแล้ว ไป ๆ แยกย้ายกันไปได้แล้ว ปล่อยให้หลานสาวข้าพักผ่อน อย่าได้รบกวนนาง” ผู้เฒ่าเว่ยซือหลิวเอ่ยสมทบบุตรชาย ก่อนเป็นคนแรกที่เดินนำออกไป

คนอื่น ๆ พากันส่ายหน้ากับคำพูดของผู้ที่อาวุโสที่สุด แล้วหันไปร่ำลาเจ้าตัวน้อย ก่อนทยอยกลับออกไป

“พักผ่อนนะลูก มีอะไรไว้คุยกันพรุ่งนี้” หลิวลี่หงที่มองบุตรสาวอยู่ตลอด รู้ดีว่าบุตรสาวของนางมีหลายเรื่องที่อยากจะพูด

“เจ้าค่ะท่านแม่”

“ถ้ามีอะไรลูกก็ให้หลิงจูหรือหลิงอิงไปตามพ่อก็แล้วกันนะ” เว่ยซือซานพูดบ้าง

“เจ้าค่ะท่านพ่อ”

“ฝันดีนะหงเอ๋อร์” เว่ยซือหลางเข้ามาลูบศีรษะน้องสาวด้วยท่าทางอ่อนโยน

“ใช่ ๆ ฝันดีนะหงเอ๋อร์ อย่าลืมฝันถึงพี่ชายด้วยเล่า” เว่ยซือเหลียงคนร่าเริงพูดบ้าง

เจ้าตัวน้อยยิ้มกว้าง “เจ้าค่ะ ข้าจะฝันถึงทุกคนเลย พวกท่านไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ อาหงจะนอนแล้ว”

พี่ชายทั้งสองจากไป บิดามารดาอยู่ดูบุตรสาวคนเดียวอีกเล็กน้อยก่อนกลับเรือนไปพักผ่อนเช่นกัน

วันนี้สมาชิกตระกูลเว่ยต่างหลับไปอย่างอารมณ์ดี ถึงขั้นฝันหวานว่าจวนตระกูลเว่ยของพวกเขากำลังจะพัฒนาความแข็งแกร่ง และเพิ่มความรุ่งโรจน์ไปอีกขั้นแล้ว  

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 1   ตอนที่ 91 จบ

    ส่วนกลุ่มคนที่มาจากขุมอำนาจหรือจวนขุนนางต่าง ๆ มีความต้องการผลผลิตปราณจำนวนมาก ต่างตรงไปที่ชั้นสองของร้าน แล้วแจ้งชนิดและจำนวนผักที่ต้องการเสร็จ คนของตระกูลเว่ยที่มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนนี้ จะนำผลผลิตออกมาจากแหวนมิติตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ หลังตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อย ทำการจ่ายเงินเป็นอันจบการซื้อขายงานในส่วนนี้ถูกดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ขุมอำนาจต่าง ๆ ต่างชื่นชอบการจัดการด้วยวิธีนี้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องยื้อแย่งกับคนทั่วไป เพราะผลผลิตปราณถูกคนตระกูลเว่ยเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว โดยผักผลไม้ปราณในร้านค้าตระกูลเว่ยมีราคาดังนี้ผักกาดขาว ผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า ถั่วฝักยาว พริกชั่งละ 1 ตำลึงทองหัวไชเท้า แครอท แตงกวา ฟักทอง ฟักเขียว ชั่งละ 5 ตำลึงทอง มะเขือเทศ บัวหิมะ ชั่งละ 10 ตำลึงทองกล้วยชนิดต่าง ๆ ขายที่หวีละ 1 ตำลึงทอง แต่ละหวีมีถึงสิบลูกแตงโมขายผลละ 3 ตำลึงทอง ส้ม ผิงกั่ว(แอปเปิล) สับปะรด ชั่งละ 10 ตำลึงทององุ่น เฉ่าเหมย(สตรอว์เบอร์รี) และผลไม้ตระกูลเหมยทั้งหมดชั่งละ 20 ตำลึงทองลูกท้อ ทับทิม ลูกพลับจัดเป็นผลไม้มงคลขายชั่งละ 30 ตำลึงทองส่วนข้าว มันฝรั่งและมันเทศนั้นมีความต้องกา

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 1   ตอนที่ 90

    ร้านค้าตระกูลเว่ย “สวรรค์ พวกเขาปลูกผักปราณได้จริง ๆ”“เจ้าดูแสงสีเขียวระยิบระยับนั่นสิ นี่มันผักปราณระดับสูง”“ตระกูลเว่ยจะเก่งกาจเกินไปแล้ว”หน้าร้านตระกูลเว่ยมีแต่เสียงพูดคุยหลายช่วงอายุทั้งชายหญิง ดังสลับกันไปมา เรื่องที่ตระกูลเว่ยจะเปิดขายผักปราณสร้างความแตกตื่นไปทั้งยุทธภพ จะเห็นได้ว่าแคว้นโจวมีคนเข้าออกค่อนข้างมาก ทั้งผู้ฝึกยุทธ์อิสระ คนจากสำนักศึกษาต่าง ๆ เหล่าบัณฑิต และคนจากดินแดนเบื้องบน ที่ยืนปลดปล่อยพลังความแข็งแกร่งออกมาจาง ๆ เพียงเท่านั้นก็สร้างความอึดอัดให้คนของดินแดนเบื้องล่างได้แล้ว“ไม่คิดว่าข่าวที่คนของเราส่งไปจะเป็นเรื่องจริง”“ถ้าไม่เห็นผักปราณจำนวนมากที่อยู่ในร้านรอขายข้าก็ไม่อยากเชื่อเช่นกันขอรับคุณชาย”“ถึงลมปราณดินแดนเบื้องล่างจะขาดแคลนทว่าก็ไม่อาจดูเบาพวกเขาได้เช่นกันขอรับคุณชาย”“ไม่ถูกต้อง คนที่เราไม่อาจดูเบาคือตระกูลเว่ยเจ้าของผักปราณระดับสูงมากมายนี้ต่างหาก...”คุณชายของกลุ่มวิเคราะห์ออกมา พลางมองผักปราณระดับสูงที่ถูกจัดเตรียมไว้บนชั้นวางของ และอยู่ในตะกร้าแบ่งแยกเป็นชนิดต่าง ๆ ชัดเจน ง่ายต่อการเลือกหา ทั้งยังสะดวกต่อการซื้อขายราคาบนป้ายไม้ที่เด่นหราอยู

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 1   ตอนที่ 89

    อย่างไรก็ตามทัณฑ์สวรรค์มีเพียงสามสายเท่านั้น ทั้งยังทำอันใดกับหินแร่นิฬกาลไม่ได้ สมกับเป็นวัตถุดิบไร้ระดับ สมบัติประเมินค่าไม่ได้เช่นนี้ นางอยากครอบครองให้มากสักหน่อย ขนาดทัณฑ์สวรรค์ที่เป็นดังตำนานเล่าขาน ยังไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้มันได้เลย เป็นเช่นนี้จะไม่ให้นางโลภอยากได้เพิ่มได้อย่างไรเล่า!ตัวหินแร่นิฬกาลลอยนิ่งอยู่เช่นนั้นอย่างองอาจราวกับกำลังเยาะเย้ยสายฟ้าจากสวรรค์ ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เลือนรางหายไปอันที่จริงหินแร่นิฬกาลยังอยู่ที่เดิม เพียงแต่มันหลบซ่อนตัวเองด้วยอักขระพรางตา จึงไม่มีใครมองเห็น นอกจากเว่ยซือหงเท่านั้น ซึ่งนับเป็นข้อดีอย่างมาก เพราะถ้ามีคนต้องการทำลายไร่ของนางขึ้นมา ก็จะทำได้ยาก เนื่องจากหาตาค่ายกลไม่เจอกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้นลงไปแล้ว เว่ยซือหงยืนมองผลงานนี้ของตนด้วยความภาคภูมิใจท่ามกลางสายตาแตกตื่นของคนงานทั้งหมดรวมถึงครอบครัวตนเองด้วยแน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดในไร่ตระกูลเว่ยเช่นนี้ คนอื่น ๆ ต่างก็รับรู้แล้วเช่นกัน ม่านพลังสีทองที่ครอบคลุมทั่วไร่ตระกูลเว่ยมันชัดเจนเกินไป ราวกับเป็นพื้นที่ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกนอกจากเหตุการณ์ในวันนี้จะสร้างความแตกตื่นให้ผู้ค

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 1   ตอนที่ 88

    การจะปลูกผักปราณนั้นใช่ว่าเพียงพูดออกมาแล้วจะทำได้เลยทันที ตระกูลเว่ยต้องเตรียมตัวหลายอย่าง จนเมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพ พวกเขาจึงพากันไปที่ไร่ตระกูลเว่ยประตูจวนที่ปิดมานานหลายวันของตระกูลเว่ยถึงได้เปิดออก รถม้าประจำตระกูลทั้งสองคัน เคลื่อนออกจากประตูจวนท่ามกลางสายตาของชาวเมือง และเหล่าขุนนางที่คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาเมื่อถึงไร่ตระกูลเว่ย คนงานทั้งหมดทั้งแรงงานที่เป็นชาวบ้าน บ่าวตระกูลเว่ย รวมถึงทหารที่คอยดูแลความปลอดภัย และความเรียบร้อยของไร่ถูกเรียกมารวมตัวกันที่จุดเดียวพวกเขาทั้งงุนงงและสับสนว่าเจ้านายเรียกรวมตัวด้วยเหตุใด บ้างกังวลกลัวจะถูกเลิกจ้าง ยิ่งบรรดาเจ้านายไม่ปริปาก ความคิดพลันล่องลอยไปไกลมากกว่าเดิม ก่อนทุกคนจะแตกตื่นไปมากกว่านี้ พ่อบ้านอวิ๋นจึงเข้ามาไขข้อข้องใจเสียก่อน“ไม่ต้องแตกตื่น เจ้านายของพวกเราไม่ได้คิดจะเลิกจ้างพวกเจ้า ที่เรียกมารวมตัวกันเพราะจะมีการปรับเปลี่ยนไร่ตระกูลเว่ย การให้พวกเจ้าอยู่รวมกันเป็นจุดเดียวจะทำให้ปลอดภัยและดูแลง่ายกว่าเดิม”คนงานที่เป็นชาวบ้านต่างพากันโล่งใจ หม้อข้าวของตนยังอยู่ ยังไม่ได้ถูกทุบแต่อย่างใด ทว่าความสงสัยใคร่รู้ก็กลับมาอีก

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 1   ตอนที่ 87

    “ทุกคนเจ้าคะ อาหงมีเรื่องจะคุยด้วยเจ้าค่ะ” “ว่าเช่นไรลูกรัก มีเรื่องอะไรจะคุยกับพวกเราหรือ” เว่ยซือซานถามบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“เราเลิกขายผักกันเถอะเจ้าค่ะ”“เลิกขายผัก? เลิกแล้วผักที่ปลูกอยู่พันหมู่จะทำอย่างไร” ถึงจะแปลกใจที่เว่ยซือหงเอ่ยเรื่องการยกเลิกกิจการที่กำลังรุ่งเรืองในตอนนี้ แต่พวกเขาไม่ได้แตกตื่น เรื่องราวที่ผ่านมาได้สอนพวกเขาแล้ว ว่าเจ้าตัวน้อยเป็นคนมีเหตุผลเพียงใด การเอ่ยว่าจะไม่ขายผักแล้ว ไม่ใช่คำพูดที่เอ่ยออกมาเพราะต้องการล้อเล่นแน่“ไม่ต้องทำอันใดเลยเจ้าค่ะ แค่เปลี่ยนจากผักธรรมดาพวกนั้นเป็นผักปราณให้หมด”“เจ้าหมายความว่าอยากปลูกผักผลไม้ปราณแทนการปลูกผักธรรมดาหรือ”“เจ้าค่ะท่านแม่”สมาชิกในตระกูลเว่ยนิ่งคิด ความต้องการของบุตรสาวใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยน้ำพลังปราณที่เจ้าตัวมี การเปลี่ยนจากผักธรรมดาเป็นผักปราณนั้นทำได้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ ไม่ใช่ว่าทุกวันนี้พวกตนก็กินผักผลไม้ปราณและเห็ดปราณ ที่ปลูกอยู่หลังเรือนของเว่ยซือหงหรอกหรือหลินซือเหยาถอนหายใจมองหลานสาวพลางว่า “บอกเหตุผลให้ย่าและพวกเราทุกคนฟังได้หรือไม่ ว่าเหตุใดจึงอยากปลูกและขายผักปราณ”ซึ่งคำถามของฮูหยินผู้เฒ่

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 1   ตอนที่ 86

    ช่วงนี้เว่ยซือหงไม่ได้เคลื่อนไหวหรือทำอะไรเป็นพิเศษ นางทุ่มเวลาทั้งหมดให้ครอบครัว ทดแทนที่ตนหายไปตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน คนในตระกูลก็พอใจมากที่เจ้าตัวน้อยใช้ชีวิตสมกับที่เป็นเด็กเสียทีทว่าเป็นคนตระกูลใหญ่ ทั้งยังเป็นสตรี สิ่งที่ควรเรียนยังต้องเรียน นางจึงถูกท่านย่าคุมเข้มเรื่องศาสตร์ทั้งสี่เป็นประจำ ถึงจะไม่ค่อยชอบแต่เว่ยซือหงก็เข้าใจและทำได้ดี ทั้งนี้ยังต้องออกไปร่วมงานเลี้ยงกับท่านย่าหรือท่านแม่ยังจวนอื่น ๆ ตามบัตรเชิญที่ถูกส่งมาเป็นครั้งคราว เจ้าตัวน้อยเลยไม่รู้สึกเบื่อนักการออกไปพบปะผู้คนและเจอเพื่อนบ้างนับเป็นเรื่องดี เช่นวันนี้ที่นางมาเดินเที่ยวตลาดกับหลินหว่าน เด็กสาวจากตระกูลหลินที่เพิ่งทำความรู้จักกันไปเมื่อครั้งงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตที่ผ่านมานั่นเอง“เจ้าว่าปิ่นอันนี้สวยหรือไม่” หลินหว่านเอ่ยถามสหายพร้อมยื่นปิ่นดอกหมู่ตาน(โบตั๋น) ให้ดูเว่ยซือหงดูแล้วทั้งตัวรูปปิ่นและขนาดที่ไม่ใหญ่มากเกินไป เหมาะกับเด็ก ๆ อย่างพวกหน้า ก็พยักหน้ารับตอบคำทันทีเช่นกัน “สวยมาก เหมาะกับเจ้า”“จริงหรือ”“จริง”“เช่นนั้นข้าเอาอันนี้เจ้าค่ะ” คุณหนูตระกูลหลินส่งปิ่นให้สาวใช้ที่ติดตามมานำไปคิดเงิน“

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status