LOGIN04 หลงเชื่อจนสนิทใจ
หลังสอบเสร็จอีริคขับรถมารับเมริษาที่มหาวิทยาลัยแต่เขาไม่ได้ขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เส้นทางที่เขาไปก็คือคอนโดหรูของเขานั่นเอง “พี่อีริคคะ วันนี้เมย์ขอไม่ไปคอนโดพี่ได้ไหมคะ” “อ่าว ทำไมล่ะ” อีริคหันมาถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ทุกวันหลังเลิกเรียนเขามักขับรถมารับเมริษาแล้วพาไปที่คอนโด “คือว่าช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างยุ่งค่ะ เมย์ต้องรีบกลับไปเคลียร์งานช่วยคุณพ่อค่ะ” แต่ความจริงบิดาของเธอเริ่มสงสัยแล้วต่างหากว่าทำไมพักนี้ถึงกลับบ้านดึก ทั้งๆที่ช่วงนี้คือช่วงสอบ เข้าใจว่าอีริคคงใช้เวลาด้วยกันกับแฟน แต่ที่บ้านยังไม่มีใครรู้ว่าเธอมีแฟนและเธอก็ยังไม่กล้าบอกใคร “แต่เมย์เพิ่งสอบเสร็จไม่ใช่หรอ กลับไปทำงานแบบนี้ เดี๋ยวจะเครียดเอานะ” ชายหนุ่มที่อยากใช้เวลาส่วนตัวกับสาวน้อย หว่านล้อมทุกวิถีทางเพราะเขาเชื่อว่ายังไงเมริษาก็ไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน “เมย์แค่ไม่อยากให้พ่อทำงานเยอะ ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยสบายค่ะ” “เอางี้ งั้นพี่จะไปส่งเมย์ก่อนสองทุ่ม ตกลงไหม” เมริษาปรายตามองนาฬิกาดิจิตอลที่โชว์อยู่บนคอนโซลรถ บอกเวลาบ่ายสามนิดๆนั่นก็เท่ากับว่าเธอมีเวลาอยู่กับแฟนหนุ่มราวๆห้าชั่วโมง ด้วยความที่เธอเองก็ต้องการความอบอุ่นจากเขาเหมือนกัน ทำให้เธอเลือกตอบตลกลง “ก็ได้ค่ะ ไม่เกินสองทุ่มนะคะเดี๋ยวคุณพ่อสง…อ้ะ! เดี๋ยวคุณพ่อเป็นห่วง” “ครับ” อีริคคลี่ยิ้มหวานละมุนเมื่อสามารถโน้มน้าวหญิงสาวได้สำเร็จ มือใหญ่เอื้อมมาโยกศีรษะเล็กเหมือนที่เขาเคยทำส่งผลให้ใบหน้าหวานร้อนผ่าวขึ้นมาทันที “แล้วเมื่อไหร่เมย์จะพาพี่ไปเปิดตัวกับที่บ้านสักที” “เอ่อ…รอให้เมย์สอบเสร็จก่อนได้ไหมคะ อาทิตย์หน้าคิดว่าน่าจะสอบเสร็จพอดี” “แล้วเปิดตัววันนี้เลยไม่ได้หรอ เราคบกันมาเกือบครึ่งปีแล้วนะ แต่เมย์ไม่เคยพาพี่ไปเปิดตัวกับที่บ้านเลย” ชายหนุ่มมุ้ยหน้า แสร้งว่ากำลังน้อยอกน้อยใจ แต่ความจริงแล้วเขากำลังรอให้เมริษาพาเข้าไปทำความรู้จักกับที่บ้านต่างหาก นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมให้เขาไปเจอที่บ้านสักที จนตอนนี้ความอดทนของเขาเริ่มหมดลงแล้ว ถ้าไม่ติดว่าต้องเล่นละครตอบตา เขาคงเผยธาตุแท้ออกไปนานแล้ว “พอดีว่าช่วงนี้บริษัทของเมย์กำลังยุ่งๆ เมย์กลัวว่า…เอ่อ…จะไม่สะดวก” รอยยิ้มของเธอซีดเซียวเช่นเดียวกับใบหน้า อีริคยังไม่รู้ว่าที่บ้านยังไม่อนุญาตให้เธอมีแฟน ทำให้เธอต้องหาเรื่องโกหกเขาอยู่ตลอดเวลาเพียงเพราะไม่อยากเสียเขาไป บิดาของเธอไม่เหมือนคนปกติทั่วๆไป ด้วยความที่เธอเป็นสาเหตุทำให้มารดาจากไป ท่านเลยจงเกลียดจงชังเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีจากผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาเลยด้วยซ้ำ ต่างจากผู้เป็นพี่สาวที่บิดาทั้งรักทั้งห่วง เหตุการณ์ในวันนั้น...ทำให้ความรู้สึกของบิดาเปลี่ยนไปทันที มารดาของเธอจากไปในขณะที่คลอดเธอออกมาได้เพียงสี่วัน นี่คือเหตุผลที่ทำให้บิดาจงเกลียดจงชังจนถึงขั้นไม่นับว่าเป็นลูก …แล้วมันเป็นความผิดของเธอหรือ? หากรู้สักนิดว่าถ้าเกิดมาแล้วจะทำให้มารดาจากไป เธอคงเลือกที่จะไม่เกิดเลย “เงียบทำไมครับ เมย์ลำบากใจหรอ” เสียงของอีริคสะกิดให้อีกคนหลุดออกจากภวังค์ความคิด “ปะ…เปล่าค่ะ เมย์ไม่ได้ลำบากใจเลย เพียงแต่ว่าช่วงนี้ที่บ้านยังไม่สะดวกจริงๆ พี่อีริครอเมย์ได้ไหมคะ เมย์สัญญาว่าจะพาพี่มาเปิดตัวกับที่บ้านแน่นอน” “พี่รอเมย์มาหกเดือนแล้วนะ” อีริคพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิ แต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “…งั้นพี่จะรออีกหนึ่งเดือนละกัน แต่รอบนี้พี่ไม่ยอมละนะ ยังไงพี่ก็ต้องเจอที่บ้านเมย์ให้ได้ พี่จะได้คุยเรื่องแต่งงาน” “วะ…ว่ายังไงนะคะ!” เมริษาตกใจจนหัวใจแทบหลุดออกมา สักพักก้อนเนื้อที่หน้าออกข้างซ้ายก็เต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับความดีใจ ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ “มะ…เมย์ว่ามันจะดูเร็วไปไหมคะ เราเพิ่งคบกันได้หกเดือนเองนะ” “หกเดือนที่ไหน นี่เรารู้จักกันมาเกือบหนึ่งปีละนะ กว่าพี่จะจีบเมย์ติด รู้ไหมใช้เวลาตั้งกี่เดือน” “กะ…ก็เมย์ยังไม่เคยมีแฟนนี่คะ อีกอย่างเมย์ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่จีบ” หญิงสาวหลุบหน้าลงต่ำด้วยความเหนียมอาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังดีใจที่อีริคถึงขั้นวางแผนขอเธอแต่งงาน “แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่จีบละนะ แต่พี่…อยากแต่งงานกับเมย์” ชายหนุ่มแกล้งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆในขณะที่รถหรูกำลังจอดติดไฟแดง ริมฝีปากของหญิงสาวเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ทุกครั้งที่อีริคอ่อนโยนกับเธอ ทำให้หัวใจดวงน้อยๆพองโตไม่หยุด ความอบอุ่นที่เขากำลังมอบให้เป็นความอบอุ่นที่เธอไม่เคยได้รับจากที่บ้านเลยด้วยซ้ำ และตั้งแต่มีผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิต โลกทั้งใบที่เคยเป็นสีเทากลับกลายเป็นสีชมพูขึ้นมาทันที อีริคมอบความสุข มอบความอบอุ่นให้เธอ ทำให้หัวใจดวงน้อยๆดวงนี้หลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้น และกล้าพูดได้เต็มปากว่าเธอรักอีริค “พะ…พี่อีริคพูดจริงๆใช่ไหมคะ ว่าอยากแต่งงานกับเมย์ ไม่ได้หลอกเมย์ใช่ไหม” “แล้วทำไมพี่ต้องหลอกแฟนตัวเองด้วยล่ะ หืม” จมูกโด่งสูดดมซอกคองามระหงส์พร้อมกับเพลิงสวาทในร่างกายกำลังลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ ทางด้านเมริษาเองก็กำลังต้านทานความต้องการของตัวเองไม่ได้เช่นกัน “พี่ว่าเรารีบกลับคอนโดกันเถอะ ตอนนี้พี่อยากกินเมย์แล้ว” จมูกโด่งไม่หยุดอยู่แค่นั้น เคลื่อนเข้าไปประทับจูบบนริมฝีปากอวบอิ่ม บดขยี้เบาๆกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่าย เมริษาที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับริมฝีปากหวานละมุน เปล่งเสียงครางออกมาเบาๆก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะบดขยี้แรงขึ้นเรื่อยๆ อีริคจุดยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ หากไม่ติดว่ากำลังอยู่บนท้องถนนเขาคงกินแม่กระต่ายสาวไปนานแล้ว แต่คงต้องรอให้ถึงคอนโดเสียก่อน เพราะวันนี้เขาอยากให้เธอได้เป็นกระต่ายสมใจ ——————09 เปลี่ยนไปทางด้านเมริษาเริ่มกระวนกระวายใจเข้าไปทุกทีเพราะเธอติดต่อแฟนหนุ่มไม่ได้ตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า“หายไปไหนนะ” เมริษาโทรย้ำอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะติดต่อได้สักที ตอนนี้เธอเริ่มคิดแล้วว่าจะไปตามแฟนหนุ่มที่คอนโดดีไหมเผื่อเกิดอะไรขึ้นกับเขาจะได้ช่วยทันและในจังหวะที่เธอกำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อดี ก็มีข้อความจากวาสิตาส่งเข้ามา แต่พอเปิดเข้าไปแล้วเจอภาพนั้น มือถือเครื่องเล็กก็ร่วงหล่นบนพื้นทันทีอีริคอยู่ในผับกับผู้หญิง!“มะ…ไม่จริง” เธอส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่เชื่อสายตาว่าภาพนั้นคืออีริค เขาเคยบอกว่าไม่ชอบดื่มเหล้า ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน แล้วภาพนั้นคืออะไร “พะ…พี่ไม่ได้อยู่ที่นั่น ต้องไม่ใช่พี่แน่นอน พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น”อาจจะเป็นแค่คนหน้าเหมือนก็ได้ เธอเชื่อว่าอีริคไม่ใช่คนแบบนั้น คนบ้างานอย่างเขาไม่มีทางอยู่ในสถานที่แบบนั้นหรอกติ้ง!!ครั้งนี้วาสิตาส่งเป็นวีดิโอมาพร้อมกับซูมเข้าไป แต่พอเห็นสร้อยที่ผู้ชายคนนั้นสวมอยู่ มันคือสร้อยเส้นเดียวกับที่อีริคชอบใส่“ไม่จริง!!” เธอจับต้นชนปลายไม่ถูก อีริคหายไปทั้งวันแต
08 เลิกเล่นละคร@หลายวันต่อมาเสียงฝีเท้าของชายฉกรรจ์หลายคนก้าวเข้ามาภายในบ้านก่อนที่ชายชรารูปร่างผอมโซค่อยๆก้าวเท้าลงมาจากรถตู้ โดยมีลูกน้องคนสนิทช่วยประครองร่างเอาไว้ เหตุผลที่ร่างกายของเขาผอมโซ เป็นเพราะคิดถึงลูกชายคนเล็กจนตรอมใจ แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมาเกือบสองปีแล้ว แต่ความแค้นของคนเป็นพ่อยังฝังลึกอยู่ในใจ“ความจริงพ่อไม่ต้องมาก็ได้นะครับ ฮ่องกงอยู่ใกล้แค่นี้เอง ผมนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปก็ได้”“ที่พ่อมาเพราะพ่ออยากมาดูให้เห็นกับตาว่าแผนของเจ้าไปถึงไหนแล้ว” อีวานค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาหรูภายในบ้านหลังใหญ่ที่อีริคเป็นคนซื้อเอาไว้ แม้กระทั่งเมริษาเองก็ไม่รู้ว่าเขามีบ้านที่เมืองไทย เพราะเขาตั้งใจให้เธอรับรู้เรื่องราวทุกอย่างแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น“ก็เหมือนที่ผมรายงานพ่อทุกวันนั่นแหละครับ”“แต่นี่ก็ผ่านมาเกือบสองปีแล้วนะ ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบๆทำให้จบแล้วรีบกลับฮ่องกงซะ”“ผมพยายามแล้วครับ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมพาผมไปเจอที่บ้านสักที” ที่เขาคะยั้นคะยออยากให้เมริษาพาไปเปิดตัวกับที่บ้านเพราะเขาจะได้ถือโอกาสนี้ตามสืบว่าเงินทั้งหมดที่พวกมันสูบจากอาร์เธอร์ไป อยู่ที่ไหน“ไม่ใช่ว่
07 กลัวจะเสียคุณไป ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้ดังระงมดังทั่วห้อง ในตอนนี้เมริษาไม่รู้จะปรึกษาเรื่องนี้กับใครดี เธอไม่อยากเล่าปัญหาทั้งหมดภายในบ้านให้แฟนหนุ่มฟังเพราะกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอไปอีกคน เธอไม่เหลือใครแล้วจริงๆ …อีริคคือที่พึ่งทางใจที่สุดท้ายตอนนี้เธอคิดถึงอีริคเหลือเกิน ถ้ามีเขาอยู่ข้างๆก็คงดี เธอจึงตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาแฟนหนุ่ม“พี่อีริคกลับถึงคอนโดหรือยังคะ”(ครับ พี่เพิ่งถึงเมื่อกี้เลย เสียงดูแปลกๆนะครับ เมย์เป็นอะไรหรือเปล่า) “เปล่าค่ะ” เมริษาพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ กลัวเขารู้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ แต่สุดท้ายปลายสายก็ยังได้ยินอยู่ดี(นี่เมย์ร้องไห้หรอ ร้องไห้เรื่องอะไรบอกพี่ได้ไหมครับ)“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เมย์แค่…คิดถึงพี่)“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะครับคนเก่ง งั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวพี่จะพาไปเที่ยว เผื่อเมย์อารมณ์ดีขึ้น”เมริษานิ่งไปพักนึ่ง ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อ ถ้าหากอีริครู้ว่าบิดาของเธอเรียกค่าสินสอดถึงร้อยล้าน เขายังจะรักเธออยู่หรือเปล่า เธอไม่อยากตีค่าความรักเป็นเงินเลยด้วยซ้ำ เพราะรักที่เธอให้เขามีค่ามากกว่าเงินร้อยล้านเสียอีก “ก็ได้ค่ะ แต่เมย์ข
06 ฝันร้ายยังตามหลอกหลอนนานเท่าไหร่ไม่รู้...เมริษากำลังยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยโพรงหญ้าสูงท่วมหัว มองไปทางไหนก็ไม่เจอใครเลยสักคน จนเกิดความงุนงงว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรและที่นี่คือที่ไหนแต่ทันใดนั้นฝนก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เธอต้องเร่งฝีเท้าไปตามทางเดินเพื่อหาที่หลบฝน จนกระทั่งไปเจอเข้ากับศาลาเก่าๆข้างทาง เธอวิ่งเข้าไปหลบตรงนั้นโดยไม่รู้ว่ามีชายคนนึ่งกำลังนั่งหลบฝนอยู่ข้างในนั้นเช่นกัน“ขอหลบฝนด้วยคนนะคะ” เธอบอกกับผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่อีกฝั่งของศาลา และทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น เธอก็กรีดร้องออกมาสุดเสียง เพราะเขาคือผู้ชายที่เคยไล่ข่มขืนเธอเมื่อต้นปี “กรี๊ดดด!!!”“เจอกันอีกแล้วนะ หึ…หึ” เสียงหัวเราะเยือกเย็นบาดลึกไปถึงขั้วหัวใจ และในวินาทีนั้นมันก็กระโจนเข้ามา ทำให้เธอต้องรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที”ชายคนนั้นวิ่งตามมาติดๆโดยที่เธอพยายามเร่งฝีเท้าหนี แต่จู่ๆแข้งขากลับอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งก็ยิ่งเหนื่อย และในที่สุดมันก็ตามมาทันหมับ!!มือหยาบกระชากคอเสื้อจนชุดนักศึกษาขาดหวิ่นก่อนที่มันจะล็อคร่างของเธอแล้วลา
05 หลอกให้ตายใจ@คอนโดหรูของอีริคทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง ร่างบางก็ถูกผลักลงบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตามด้วยร่างหนาของอีริคขึ้นมาคร่อมทับเอาไว้“พี่ทนไม่ไหวแล้ว พี่ขอทำเลยนะ”“เดี๋ยวก่อนสิคะ” เมริษายกมือดันร่างสูงเอาไว้ “อาบน้ำก่อนนะคะ”"ไม่ทันแล้ว พี่ไม่ไหวแล้ว เรามีเวลาอยู่ด้วยกันแค่ห้าชั่วโมงเองนะ” อีริคแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนทั้งๆที่ตอนนี้เขาอยากจับเจ้าหล่อนกระแทกเต็มทน ไม่รู้จะเล่นตัวอะไรนักหนาบางครั้งเขาเองก็เริ่มหงุดหงิดที่เธอไม่ค่อยได้ดั่งใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเล่นละครต่อไปเพราะถึงอย่างไรเป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่เมริษาอยู่แล้ว “เมย์ไม่เห็นใจพี่หรอ เราไม่เคยค้างคืนด้วยกันเลยนะ”“เมย์ก็อยากทำแบบนั้นนะคะ แต่ว่ามันไม่ได้จริงๆ เมย์กลัวที่บ้านเป็นห่วง”“เมย์ก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ ที่บ้านจะหวงอะไรนักหนา” ไม่พูดเปล่า มือร้อนเคลื่อนเข้าไปใต้ร่าง ใช้นิ้วใหญ่เกี่ยวปลดตะขอชุดชั้นในอย่างชำนาญ “เมย์ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วงค่ะ อ้ะ!” หญิงสาวเผลอเปล่งเสียงออกมาด้วยความกระสันเมื่อถูกนิ้วใหญ่บีบขยี้ยอดหน้าอก ทำให้ความต้องการพุ่งทะยานขึ้นมาทันที“อยู่กับพี่ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น” เขาไม่พูดเปล่
04 หลงเชื่อจนสนิทใจหลังสอบเสร็จอีริคขับรถมารับเมริษาที่มหาวิทยาลัยแต่เขาไม่ได้ขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เส้นทางที่เขาไปก็คือคอนโดหรูของเขานั่นเอง“พี่อีริคคะ วันนี้เมย์ขอไม่ไปคอนโดพี่ได้ไหมคะ”“อ่าว ทำไมล่ะ” อีริคหันมาถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ทุกวันหลังเลิกเรียนเขามักขับรถมารับเมริษาแล้วพาไปที่คอนโด“คือว่าช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างยุ่งค่ะ เมย์ต้องรีบกลับไปเคลียร์งานช่วยคุณพ่อค่ะ” แต่ความจริงบิดาของเธอเริ่มสงสัยแล้วต่างหากว่าทำไมพักนี้ถึงกลับบ้านดึก ทั้งๆที่ช่วงนี้คือช่วงสอบ เข้าใจว่าอีริคคงใช้เวลาด้วยกันกับแฟน แต่ที่บ้านยังไม่มีใครรู้ว่าเธอมีแฟนและเธอก็ยังไม่กล้าบอกใคร“แต่เมย์เพิ่งสอบเสร็จไม่ใช่หรอ กลับไปทำงานแบบนี้ เดี๋ยวจะเครียดเอานะ” ชายหนุ่มที่อยากใช้เวลาส่วนตัวกับสาวน้อย หว่านล้อมทุกวิถีทางเพราะเขาเชื่อว่ายังไงเมริษาก็ไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน “เมย์แค่ไม่อยากให้พ่อทำงานเยอะ ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยสบายค่ะ”“เอางี้ งั้นพี่จะไปส่งเมย์ก่อนสองทุ่ม ตกลงไหม”เมริษาปรายตามองนาฬิกาดิจิตอลที่โชว์อยู่บนคอนโซลรถ บอกเวลาบ่ายสามนิดๆนั่นก็เท่ากับว่าเธอมีเวลาอยู่กับแฟนหนุ่มราวๆห้าชั่วโมง ด้วยความที่เธอเองก็ต







