คำพูดของสตรีตรงหน้าทำให้เกิดความเงียบไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาต่างจับจ้องเจ้าของคำพูด ก่อนจะหันมามองสบตากัน ราวกับจะย้ำให้แน่ใจว่าตนมิได้หูฝาด เมื่อทบทวนประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง ต่างก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับสตรีงดงามที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่เช่นกัน
"นายหญิง เอ่อ ท่านพูดจริงๆ หรือขอรับ"
ตู้เซิ่งเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมา รับรู้ได้ว่าวันนี้แววตาของสตรีตรงหน้านั้นดูเปลี่ยนไปจากเดิม เขาเห็นความอ่อนโยนมีเมตตาอยู่ในนั้น หาใช่ความดุร้ายแข็งกร้าวอย่างเคย
ตู้เซิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรหากเป็นความต้องการของอีกฝ่าย เขาก็ยินดีที่จะทำเพื่อตอบแทนคุณ ถึงแม้ว่ามันจะต้องฝืนใจทำก็ตาม เพราะแม้แต่ชีวิตของเขาเองเขาก็ยินดีที่จะมอบให้
อิงอิงสังเกตเห็นประกายความยินดีที่วาบผ่านดวงตาของพวกเขา ทำให้นึกละอายใจยิ่งนัก พวกเขาเองก็คงไม่อยากทำสิ่งไม่ดี นางกวาดตามองไปรอบกายอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาถามในสิ่งที่นางสงสัย
"ตู้เซิ่งข้าขอถามท่านหน่อยเถิด เหตุใดพวกท่านจึงมีความเป็นอยู่เช่นนี้ ทำไมถึงไม่หาที่อยู่และงานที่ดีและมั่นคงทำ"
หน่วยก้านของพวกเขานั้นดูแล้วก็ไม่ได้เลวร้าย ดูเหมือนจะมีทักษะการต่อสู้อยู่ไม่น้อย ไม่เช่นนั้นต่อไปภายหน้าจะเป็นมือเท้าทำเรื่องชั่วร้ายให้ว่านเย่วอิงได้อย่างไรกัน
ดวงตากลมโตมีประกายความตื่นเต้นวาบผ่านเมื่อความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว
หรือพวกเขาจะเป็นเช่นดังพวกหนังละครที่นางเคยดู อย่างพวกพรรคกระยาจกอะไรเทือกนั้น แต่จำต้องแฝงกายเพื่อที่จะตบตาเหล่าศัตรู
แต่แล้วความคิดที่กำลังบรรเจิดของนางก็ถูกดับลงเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากของอีกฝ่าย
ตู้เซิ่งระบายลมหายใจออกมาอย่างเศร้าหมอง ก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวของพวกตนให้สตรีตรงหน้าฟัง
ความจริงแล้วตนและทุกคนที่นี่หาใช่คนของแคว้นนี้เป็นเพียงผู้ที่อพยพมาจากแคว้นอื่นเพราะเกิดสงครามจนแคว้นนั้นล่มสลาย แต่เพราะเป็นคนจากต่างแคว้นทำให้ถูกกดขี่ข่มเหง ภายหลังนั้นทรัพย์สมบัติที่ติดตัวมาก็ถูกปล้นชิงไปจนหมด ไปทำงานที่ไหนก็ถูกเอารัดเอาเปรียบและกลั่นแกล้งอยู่เสมอ จนในที่สุดก็ต้องมาเป็นขอทานอย่างที่เห็น
อิงอิงได้ฟังเรื่องราวของอีกฝ่ายแล้วรู้สึกเห็นใจเป็นอย่างมาก ชีวิตของพวกเขานั้นน่าสงสารมากเลยทีเดียว หากมีโอกาสนางอยากจะให้การช่วยเหลือพวกเขา แต่ตอนนี้ ชีวิตของนางก็ยังเอาไม่รอดเลย หากนางรอดไปได้ นางสัญญาว่าจะกลับมาช่วยเหลือพวกเขาอย่างแน่นอน
หลังจากพูดคุยกันอยู่สักพัก จึงได้ขอตัวกลับ ก่อนไปก็ไม่ลืมหยิบเอาถุงเงินที่พกติดตัวมามอบให้กับตู้เซิ่ง ถึงในวันนี้นางจะยังช่วยเหลือสิ่งใดไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยเงินที่อยู่ในถุงก็ช่วยให้พวกเขาได้กินอิ่มไปอีกหลายวัน
"ท่านเอาเงินนี่ไปซื้อของกินมาให้พวกเขาเถิด พวกเขาคงจะหิวกันมาก"
อิงอิงเอ่ยกับตู้เซิ่งด้วยรอยยิ้ม แม้ไม่อาจช่วยเหลือได้มากไปกว่านี้ อย่างน้อยนี่ก็เป็นก้าวแรกที่ดีที่สุดที่นางนั้นได้ทำเพื่อคนอื่นบ้าง นางคงจะรู้สึกไม่ดีแน่หากเห็นความลำบากของพวกเขาเช่นนี้แล้วแต่กลับไม่ได้ให้การช่วยเหลือใดๆ เลย
ตู้เซิ่งและเหล่าขอทานต่างมองสตรีตรงหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ ในดวงตานั้นปรากฏความเคารพเทิดทูน ยื่นมือที่สั่นเทารับเอาถุงเงินมาถือเอาไว้ จากนี้ไปชีวิตของพวกเขาทั้งหมดขอมอบให้สตรีนางนี้
เมื่อร่ำลาทุกคนร่างบอบบางก็มุ่งหน้าไปยังถนนสายหลัก หาใช่ทางที่จะพานางกลับไปยังจวนตระกูลเว่ย นี่คือความตั้งใจของนางอีกอย่างหนึ่ง นางทนอุดอู้อยู่แต่ในจวนมานานเกินไปแล้ว ในเมื่อสามารถออกมาได้แล้ว นางจะปล่อยโอกาสอันดีนี้หลุดมือไปได้อย่างไรกัน ขอออกมาเปิดหูเปิดตาหน่อยเถิด นางอยากจะรู้เหลือเกินว่าในยุคนี้ด้านนอกนั้นจะเป็นเช่นไร จะเป็นอย่างที่นางเคยจินตนาการผ่านตัวอักษรหรือไม่
สองเท้าเล็กย่ำไปตามตรอกเล็กแคบอย่างกระตือรือร้น สายตากวาดมองรอบกายที่ช่างให้ความรู้สึกแตกต่างจากที่ที่นางจากมาเหลือเกิน ไม่มีตึกสูงระฟ้า มีเพียงกำแพงหิน กำแพงอิฐ อากาศก็บริสุทธิ์ ไม่มีควันจากมลพิษ ตามทางเดินนั้นเงียบสงบไร้เสียงเครื่องยนต์เครื่องจักรรบกวน ได้ยินเพียงเสียงย่ำเท้าของนาง เมื่อตกอยู่ในความเงียบ จิตใจก็พลันสงบ สมองก็ปลอดโปร่ง ความคิดมากมายจึงเจิดจ้าแล่นผ่านเข้ามาในหัว หนทางในการเอาชีวิตรอดผุดพลายขึ้นมาในความคิด
หากไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมนั้นได้ หรือนางจะพึ่งพาตัวร้ายฝ่ายชายที่จำไม่ได้แม้แต่ชื่อของอีกฝ่ายดี
นั่นคือความคิดแรกที่วาบผ่านเข้ามา
อิงอิงได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดกับความคิดของตัวเองที่ตีกันในหัว เพราะนั่นย่อมเป็นทางเลือกที่ไม่ดีเอาเสียเลย มีเรื่องใดบ้างที่ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวร้ายจะสามารถเอาชนะพระเอกของเรื่องได้ เช่นเดียวกับนางร้ายเช่นนางที่ไม่อาจเอาชนะนางเอก ขึ้นชื่อว่าตัวร้ายไม่เคยที่จะรอดไปจนถึงตอนจบเสียด้วยซ้ำ ที่รับรู้มาตัวร้ายนั้นตายทุกราย นั่นไม่เท่ากับว่านางเร่งให้ตัวเองตายเร็วขึ้นหรอกหรือ
ไม่ดี ไม่ดี ตัวเลือกนี้คงต้องตัดออก
อิงอิงส่ายหน้าให้กับความคิดไม่เข้าท่าของตัวเอง พลางคิดหาหนทางอื่น
หรือจะเป็นพระรอง แต่พระรองเรื่องนี้เท่าที่จำได้ก็หลงรักแม่นางเอกหัวปักหัวปำและยังเกลียดชังนางร้ายเช่นนางด้วยซ้ำ
เฮ่อ! แล้วนางจะพึ่งผู้ใดดีเล่าที่พระเอกผู้เป็นลูกรักของสวรรค์ไม่สามารถที่จะต่อกรได้
ผ่านไปเพียงหนึ่งเดือนหลังจากงานมงคลสมรสของคุณชายน้อยตระกูลเซี่ย จวนตระกูลเซี่ยก็มีงานมงคลเกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นงานมงคลสมรสของท่านแม่ทัพเซี่ยเยี่ยนเฉินนายท่านของจวนกับคุณหนูว่านเย่วอิงคนงาม สตรีผู้อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน และครั้งนี้ก็คล้ายดังจะชื่นมื่นเสียยิ่งกว่างานมงคลของบุตรชาย เพราะแขกที่มาร่วมงานล้วนมีแต่เหล่าคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เคียงคู่กันมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว สหายของเจ้าสาวที่มาร่วมงานในวันนี้ล้วนไม่มีสตรีคนใดที่ไร้คู่อีกแล้ว เพราะหลังจากงานมงคลของเซี่ยชิงเทียนในวันนั้นภายในเดือนเดียวพวกนางต่างพากันขึ้นเกี้ยว ตบเท้าแต่งงานออกเรือนกันไปตามๆ กัน และเจ้าบ่าวของพวกนางก็หาใช่ใครที่ไหน บุรุษเหล่านั้นล้วนเป็นสหายของคุณชายเซี่ยชิงเทียนทั้งสิ้น ความดีความชอบนี้คงต้องยกให้เจ้าสาวของงานในวันนี้ที่เป็นผู้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในวันนั้นขึ้น หนุ่มสาวจึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันแบบถึงพริกถึงขิง เพราะหลังจากที่พากันเต้นระบำคลอเคล้าจอกสุราอย่างที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน ตื่นมาอีกทีก็เนื้อตัวเปล่าเปลือยแนบชิดอยู่กับบุรุษเสียแล้วงานในวันนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีท่ามกลางความหวานชื่นของคู่บ่าวสาว และ
แล้ววันมงคลสมรสของเซี่ยชิงเทียนกับจ้าวอี้หลันก็มาถึง จวนแม่ทัพในวันนี้อบอวลไปด้วยความสุขและกลิ่นอายอันเป็นมงคล ภายในจวนนั้นดูมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ บ่าวไพร่ต่างมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า เพราะไม่ใช่เพียงแค่คู่บ่าวสาวที่ดูจะมีความสุขและหวานซึ้งต่อกัน แต่ดูจะมีหลายคู่ที่หวานชื่นไม่แพ้คู่บ่าวสาว บรรดาบุรุษจากจวนแม่ทัพต่างพากันหลงเสน่ห์สาวๆ จากจวนตระกูลว่าน ตบเท้าเข้าไปเกี้ยวพาจนประตูจวนท่านหมอว่านแทบจะสึกแต่ดูเหมือนผู้ที่ดูจะคลั่งรักกว่าใครคงจะเป็นนายท่านของจวน ที่ไม่ยอมออกห่างจากคนงามแม้เพียงครึ่งก้าว เพราะวันนี้คุณหนูว่านเย่วอิงงดงามมากเสียจนท่านแม่ทัพตามติดแจ โฉมงามผู้เป็นว่าที่มารดาของเจ้าบ่าว ใบหน้างามประดับไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตายังทอประกายแห่งความสุขจนยากที่จะละสายตาได้และยังมีรอยยิ้มหวานที่ถูกส่งไปให้บรรดาแขกที่มาร่วมงานก็ยังหวานหยดย้อย จนท่านแม่ทัพต้องคอยถลึงตามองเหล่าบุรุษหนุ่มๆ ที่เผลอไผลหันมาจ้องมองสตรีของตนจนใบหน้าเลิ่กลั่กไปตามๆ กันเซี่ยเยี่ยนเฉินทอดสายตามองว่าที่ฮูหยินของตนด้วยสายตารักใคร่ชื่นชม ภูมิอกภูมิใจในตัวคนรักอย่างมาก แม้นางจะซุกซนแต่กลับรู้ว่าเ
อิงอิงแอบย่องออกมาจากเรือนของตนด้วยฝีเท้าที่เบาและเงียบกริบ เรือนร่างกลมกลึงแฝงกายไปกับความมืด ใช้เงาไม้ช่วยอำพรางกาย นางต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งเพื่อที่จะหลบให้พ้นสายตาของเหล่าเวรยามที่บิดาได้วางเอาไว้รอบเรือน เพื่อป้องกันมิให้ชายคนรักแอบลอบเข้ามาหานาง แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้กลับเป็นเป็นบุตรสาวของตนเสียเองที่ลักลอบแอบออกมาหาบุรุษ แม้จะรู้สึกผิดต่อบิดาแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อตอนนี้ความรักความคิดถึงคนรักมันอึดอัดคับแน่นอยู่ในอก นึกเข้าข้างตัวเองว่าอย่างไรนางก็ต้องแต่งให้เขาอยู่แล้ว การกระทำเช่นนี้ก็คงจะไม่ผิดมากนัก เพราะถึงอย่างไรนางกับเขาก็กลายเป็นคนคนเดียวกันแล้ว ยิ่งคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาที่มองนางด้วยสายตาตัดพ้อ นางยิ่งไม่อาจที่จะเมินเฉยปล่อยให้อีกฝ่ายแง่งอนได้นาน ยิ่งน้ำคำที่ชายคนรักฝากมากับเสี่ยวม่านม่าน ยิ่งทำให้โฉมงามหัวใจอ่อนยวบจนแทบจะล่องลอยไปหาเขาเสียเดี๋ยวนี้จะรอจนกว่าจะได้พบหน้า แนบชิดเนื้อนวลโถ โถ โถ โถ โถ...พ่อพยัคฆ์เฒ่าของอิงอิง พ่อยอดขมองอิ่ม ทูนหัวทูลกระหม่อมของเมีย คงคิดถึงเมียใจจะขาดแล้วกระมังท่านพ่อเจ้าขา อิงอิงขอโทษนะเจ้าคะ อื้อ...หนูรักเค้า หลงเค้า ให้เค้าไปหมดแล้
ณ เวลานี้คงไม่มีใครไม่กล่าวถึงเรื่องราวของท่านแม่ทัพเซี่ยเยี่ยนเฉินบุรุษผู้กล้าแกร่ง ผู้เป็นยอดบุรุษแห่งแผ่นดิน บุรุษผู้ที่ขณะนี้กลายเป็นที่อิจฉาของบรรดาบุรุษทั่วทั้งเมืองหลวง เพราะนอกจากจะเป็นผู้ที่ฝ่าบาทให้ความไว้วางพระทัยแล้ว อีกฝ่ายยังได้ครอบครองโฉมสะคราญผู้งดงามเป็นหนึ่ง สตรีผู้มีความงามอันเย้ายวนแล้วยังอ่อนเยาว์เป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มที่อายุรุ่นราวคราวลูกมาเป็นว่าที่ฮูหยินความสุขใดเล่าจะเทียบเท่าการได้ครอบครองหญิงงาม มันช่างน่าอิจฉาเสียยิ่งนัก ชีวิตคงจะกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาไม่ใช่น้อย ไม่รู้ว่าพวกตนต้องทำบุญอีกกี่ชาติจึงจะมีวาสนาเช่นอีกฝ่ายแต่ไหนเลยใครเล่าจะรู้ ว่าบุรุษผู้ที่ทุกคนต่างก็อิจฉาอยู่นั้น ตอนนี้กำลังนั่งใบหน้างอง้ำอย่างคนอดอยากปากแห้ง เนื้อขาวๆ หวานๆ ฉ่ำๆ อยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่ไม่อาจที่จะกัดกินได้ ใบหน้าหล่อเหลาคร้ามคมจึงดูหม่นเศร้าหงอยเหงาราวคนกำลังตรอมใจอย่างหนัก คร่ำครวญอย่างชอกช้ำอยู่ได้เพียงในใจ ไม่อาจที่จะเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ไหนล่ะรางวัลที่เขาสมควรจะได้รับ รางวัลความดีความชอบของเขาอยู่ที่ใดกัน เพราะตั้งแต่งานเลี้ยงในวังหลวงวันนั้น นี่ก็ผ่านมากว่าสิบวันแ
ตึก ตึก ตึก ตึกเสียงหัวใจภายใต้อกอิ่มเต้นอย่างรุนแรงจนน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมา เสียงตุบๆ ดังอื้ออึงอยู่ในหัวจนกลบเสียงรอบกายไปเสียสนิท อิงอิงจ้องมองบุรุษผู้ที่หันมาสบตานาง เฝ้ารอคำตอบของอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อมากกว่าผู้ใดนางกำลังตื่นเต้น ตื่นเต้นมากๆ ตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้ที่อีกฝ่ายขอสมรสพระราชทานให้บุตรชายเสียอีก สองมือของนางรู้สึกได้ว่ามันเย็นเฉียบและสั่นเทา นางรู้สึกยินดีอย่างมากที่เขายอมให้บุตรชายและคนรักได้ครองคู่กัน ยินดีจนอยากจะตกรางวัลให้อย่างงาม และตอนนี้หัวใจของนางก็กำลังเต้นกระหน่ำรอคอยคำตอบของเขา รอคอยว่าคำตอบนั้นมันจะใช่อย่างที่นางคิดหรือไม่ แม้ตอนนี้สายตาของเขาที่มองมาจะสื่อถึงความในใจทั้งหมด จนสามารถบอกนางให้มั่นใจ แต่นางก็ยังอยากได้ยินจากปากของเขา เซี่ยเยี่ยนเฉินมองสบดวงตาคู่งามของสตรีคนรัก สตรีที่เขามั่นใจแล้วว่าไม่อาจที่จะปล่อยมือจากนางได้ สตรีที่เขายอมให้นางหมดทุกอย่างโดยไร้เงื่อนไข ยอมมอบให้ได้แม้แต่ชีวิต เขาค้นพบแล้วว่าความสุขของเขาคือนาง ถึงแม้จะมีใครกล่าวว่าเขานั้นเป็นบุรุษโง่งมหลงใหลในตัวสตรีเขาก็พร้อมที่จะน้อมรับ เขาจะยืดอกรับอย่างเต็มภาคภูมิ คำกล่า
อิงอิงกวาดตามองหาบุรุษผู้ที่ส่งสายตาบอกให้นางออกมาหาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะนางออกมาตามหาเขาอยู่นานแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมโผล่หัวออกมาเสียทีเซี่ยชิงเทียนคิดจะเล่นพิเรนทร์อะไรอีกอุ๊ย!!!คนงามหลุดอุทานขึ้น ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง เมื่อจู่ๆ เอวบางก็ถูกโอบรัดจากทางด้านหลังด้วยลำแขนแข็งแกร่ง ก่อนร่างของนางจะถูกยกจนตัวลอยขึ้นจากพื้น แต่เพราะสัมผัสและกลิ่นหอมอันคุ้นเคยของอีกฝ่ายจึงทำให้นางหาได้มีความตระหนกตกใจ รู้ตัวอีกทีก็ถูกอุ้มมาหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นใหญ่ลับตาคนเสียแล้ว เซี่ยชิงเทียนหายขุ่นเคืองบิดาของเขาแล้วหรืออย่างไรจึงปล่อยให้อีกฝ่ายมาใกล้ชิดนางเช่นนี้เมื่อเท้าแตะพื้นจึงหันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ใบหน้างามงอง้ำเตรียมจะเอ่ยถ้อยคำต่อว่าคนที่เมินเฉยใส่นางมาหลายวันแต่วันนี้กลับมาทำตัวรุ่มร่ามอุกอาจราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ หึ พอนางเมินเฉยใส่บ้างก็มาทำตาขุ่นเขียวใส่นาง อย่าคิดนะว่านางจะยอมใจอ่อนง่ายๆ ปล่อยให้นางต้องเสียน้ำตาเศร้าซึมเสียหลายวัน ความรู้สึกที่เสียไปใช่จะเรียกคืนกันโดยง่าย มันคงต้องมีการแลกเปลี่ยนกันบ้าง"นี่ท่าน..."อื้อ...แต่ทว่านางยังไม่ทันจะได้เอ่ยสิ่งใดจอมเผด็จการก็ใช้ริมฝี