All Chapters of หมอเทวดาทะลุมิติ มาอุ้มท้องให้แม่ทัพไร้ทายาท: Chapter 1 - Chapter 10

100 Chapters

บทที่ 1

แคว้นต้าโจวณ จวนแม่ทัพเจิ้นกั๋ว“คุณหนูเจ้าคะ! ได้เวลาดื่มยาแล้วเจ้าค่ะ”สาวใช้ประคองถ้วยยาขับทารก ส่งไปให้สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ท้องโตซึ่งอยู่ข้างกายนางสตรีผู้นั้นรับถ้วยยามาโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย“ดื่มไม่ได้นะ!”ทันใดนั้น สตรีหลายคนที่สวมอาภรณ์เรียบง่าย ก็รีบพุ่งเข้ามาปัดถ้วยยาขับทารกในมือของนางทิ้งไปหนึ่งในนั้นไม่ทันระวังบังเอิญชนนางเข้า ทำให้ศีรษะของสตรีมีครรภ์กระแทกเข้ากับตู้ที่อยู่ด้านข้าง “น้องเจ็ด! เห็นแก่ที่เด็กในท้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า ทั้งยังเป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของจวนแม่ทัพ ขอร้องล่ะ อย่าทำแท้งเขาเลยนะ”เด็ก?จวนแม่ทัพ?มู่หนิงรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการรับความทรงจำของร่างนี้เข้ามาเจ้าของร่างเดิมคือบุตรีภรรยาเอกของจวนอัครเสนาบดี มีชื่อนามสกุลเดียวกับนาง เนื่องจากบิดาหลงอนุภรรยาแล้วทอดทิ้งภรรยาเอก หลังจากมารดาเสียชีวิตไป นางก็ถูกนายหญิงคนปัจจุบันที่จิตใจโหดเหี้ยม ขับไล่ไปอยู่ที่เรือนหลังที่ถูกทิ้งร้าง ใช้ชีวิตแย่ยิ่งกว่าสุนัขเสียอีกจนกระทั่งเมื่อหกเดือนก่อน แม่ทัพใหญ่เจิ้นกั๋วโม่จิ่นยวนถูกคนวางแผนลอบวางยา และได้มีความส
Read more

บทที่ 2

“ท่าน... ท่านปล่อย... ปล่อยข้า”มู่หนิงอ้าปาก แต่กลับไม่ได้รับอากาศเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าที่งดงามอย่างยิ่งพลันแดงก่ำขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพราะเลือดคั่งเรี่ยวแรงของเจ้าหมอนี่ช่างมหาศาลนัก คิดจะฆ่านางหรืออย่างไร?“บอกมา เจ้าเป็นใคร”สายตาที่เย็นเยียบของโม่จิ่นยวน ราวกับต้องการจะมองทะลุเข้าไปถึงจิตวิญญาณของนางมู่หนิงทุบตีไปที่มือของเขาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วชี้ไปที่ลำคอของตนเอง ส่งสัญญาณให้เขาปล่อยมือก่อนนางถึงจะพูดได้ทว่าคนบางคนกลับทำเหมือนพวกสมองทึบ ยังคงบีบลำคอขาวเนียนและบอบบางของนางไว้เช่นเดิมมู่หนิง “...”ฮูหยินผู้เฒ่าโม่เห็นดังนั้น ก็ตกใจจนแทบสิ้นสติสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวที่พวกนางอุตส่าห์อ้อนวอนให้มู่หนิงเก็บไว้ จะมาให้เขาบีบคอจนสิ้นใจไปไม่ได้เด็ดขาดเมื่อคิดได้ดังนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าโม่ก็ยกไม้เท้าในมือขึ้น ฟาดลงไปอย่างแรงบนแขนของโม่จิ่นยวนที่กำลังบีบคอมู่หนิงอยู่ “จิ่นยวน! เจ้ารีบปล่อยหนิงหนิงเดี๋ยวนี้ หากหลานของแม่เป็นอะไรไป แม่ก็จะไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!” “น้องเจ็ด รีบปล่อยน้องสะใภ้เร็วเข้า”พี่สะใภ้ทั้งหกต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูก พากันเข้ามาแกะมือของเขาออกแม้ว่าโม่จิ่
Read more

บทที่ 3

มู่หนิงตีเขาไปทีหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะกล่าวอย่างจริงจัง “ก็บอกแล้วมิใช่หรือว่าข้าแค่ฝันไป อีกอย่าง บุตรสาวที่ไม่เป็นที่รักอย่างข้า จะมีความสามารถอันใดที่จะไปได้ยินเรื่องราวบางอย่างจากท่านอัครเสนาบดีได้”โม่จิ่นยวนเห็นสีหน้าจริงใจของนาง ไม่มีทีท่าว่ากำลังโกหกแม้แต่น้อยเรื่องบางอย่าง ก็ใช่ว่าจะไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ เลย เขาก็พอจะมีลางสังหรณ์อยู่บ้างแล้ว“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”โม่จิ่นยวนกลัวว่านางจะเป็นกังวล จึงเผลอเอ่ยปากปลอบโยนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน“ข้ารู้สึกว่าท่านจะต้องถูกโบยด้วยกระบองทหาร หากท่านเชื่อข้า ในช่วงเวลาคับขันก็จงแอบกินยานี่เข้าไปก่อน มันจะช่วยลดความเจ็บปวดทั้งหมดได้ชั่วคราว และช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเล็กน้อยได้ในทันที”มู่หนิงกล่าวจบ ในมือก็พลันปรากฏยาเม็ดสีขาวหนึ่งเม็ดขึ้น นางยัดมันใส่ในมือของโม่จิ่นยวน แล้วกำชับอีกครั้ง “อีกอย่าง หากตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ข้าแนะนำว่าท่านแกล้งสลบไปก็ได้”ในประวัติศาสตร์ ฮ่องเต้สั่งโบยเขาด้วยกระบองทหารมากกว่าร้อยครั้ง เห็นว่าเขาใกล้ตายแล้วจึงไว้ชีวิตลมหายใจสุดท้ายให้หามกลับมาหวังว่าสมองเขาจะไม่ดื้อด้านเกินไป
Read more

บทที่ 4

“คารวะฮูหยินเจ็ดขอรับ”บ่าวรับใช้สองคนที่ยืนเฝ้าคลังสมบัติอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นนาง ก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อม“เปิดคลังสมบัติ ข้าจะเข้าไปเอาเงินสักหน่อย”มู่หนิงแสดงท่าทีหยิ่งผยอง จงใจแสร้งทำตัวเป็นเจ้าของร่างเดิมที่อวดดีจองหองคนนั้น“ขอรับ”บ่าวรับใช้ไม่ได้ขัดขวาง เปิดประตูให้นางเข้าไปโดยตรงตอนนี้ในจวนแม่ทัพใครบ้างจะไม่รู้ว่านางกำลังตั้งท้องคุณชายน้อย ฮูหยินผู้เฒ่าและเหล่าฮูหยินน้อยยังได้กำชับไว้เป็นพิเศษว่า หากนางต้องการเอาสิ่งใดก็ให้นางเอาไป ห้ามขัดขวางใด ๆ ทั้งสิ้นณ ห้องโถงใหญ่จวนแม่ทัพฮูหยินผู้เฒ่าโม่และเหล่าลูกสะใภ้เมื่อมาถึงห้องโถงใหญ่ ก็พบว่าโม่จิ่นยวนนอนคว่ำอยู่บนเปลหาม ถูกทิ้งไว้บนพื้นอย่างไม่ไยดี ด้านหลังของเขายังเต็มไปด้วยเลือด“จิ่นยวน”ฮูหยินผู้เฒ่าเดินโซเซเข้าไปข้างหน้า ทรุดตัวลงบนพื้นเพื่อดูอาการบาดเจ็บของโม่จิ่นยวนด้วยความเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง แต่ก็กลัวว่าจะไปสัมผัสโดนบาดแผลของเขา จึงได้แต่ชักมือที่สั่นเทากลับมา“น้องเจ็ด”พี่สะใภ้หลายคนมองโม่จิ่นยวนที่บาดเจ็บสาหัสอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในใจพลันลุกโชนไปด้วยความโกรธ“พวกเจ้ายืนบื้ออยู่ทำอะไร ยังไม่รีบไปตามหมออี
Read more

บทที่ 5

“ใต้เท้า! พวกข้าน้อยได้ตรวจค้นอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบจริง ๆ ขอรับ”ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบกลับอย่างหนักแน่นอีกครั้งเจ้ากรมเฉินขมวดคิ้ว มองไปยังสตรีหลายคนที่เฝ้าอยู่ข้างกายโม่จิ่นยวนด้วยความสงสัยเขาที่รู้เรื่องราวเบื้องหลังอยู่แล้ว จึงสงสัยขึ้นมาทันทีว่าคนตระกูลโม่อาจจะค้นพบอะไรบางอย่าง แล้วย้ายของออกไปก่อนที่พวกเขาจะมาตรวจค้นแต่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้มู่หนิงลุกขึ้น ทำท่าทางเป็นห่วงโม่จิ่นยวนอย่างมาก เอ่ยถามอย่างร้อนรน “เจ้ากรมเฉิน ในเมื่อตรวจไม่พบของจากท้องพระคลัง เช่นนั้นพวกเราสามารถไปเชิญหมอมารักษาท่านแม่ทัพได้แล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”ฮูหยินผู้เฒ่าโม่ไม่อยากเสียเวลาแม้แต่น้อย ตอนนี้เพียงแค่อยากให้หมอมาดูอาการบาดเจ็บของบุตรชาย ไม่รอให้เจ้ากรมเฉินเอ่ยปาก นางก็เริ่มสั่งการสาวใช้และบ่าวชายข้างกาย “รีบไปเชิญหมอ ไปเชิญหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาให้หมดทุกคน”“บังอาจ หากไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่าบาท ห้ามใครไปเชิญหมอทั้งนั้น”เจ้ากรมเฉินไม่อนุญาตให้คนออกจากจวนเขามองไปยังกลุ่มแม่ม่ายของตระกูลโม่ มุมปากยกยิ้มอย่างเย็นชา “แม้ว่าคนของเราจะไม่พบหลักฐานในจวน แต่ก็ยากที่จะรับประก
Read more

บทที่ 6

ฮูหยินผู้เฒ่าโม่ยืนขึ้น มองไปยังเหล่าลูกสะใภ้ที่ดีของนาง พยายามสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาโม่จิ่นยวนเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็เอ่ยขึ้นโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย “พี่สะใภ้ทุกท่าน ข้ากับท่านแม่หวังว่าพวกท่านจะฉีกทำลายหนังสือสมรสทิ้งเสีย ฉวยโอกาสที่ตอนนี้เรื่องราวยังไม่ถูกตัดสิน รีบออกจากจวนแม่ทัพไปในยามดึก”พูดจบเขาก็หันไปมองมู่หนิง สายตาจับจ้องไปที่ท้องนูน ๆ ของนางอย่างอาลัยอาวรณ์ “มู่หนิง! เจ้ากำลังตั้งท้อง ยิ่งไม่สามารถติดตามข้ากับท่านแม่ไปตกระกำลำบากระหว่างทางเนรเทศได้ ในบรรดาพี่สะใภ้ของเจ้า นอกจากพี่สะใภ้สี่ที่ไม่มีวรยุทธ์แล้ว คนอื่น ๆ ก็พอมีวิชาอยู่บ้าง การจะพาเจ้าแอบหนีออกไปอย่างเงียบ ๆ ยังพอทำได้”“ท่านแม่ ข้าไม่ไปเจ้าค่ะ ได้โปรดอย่าขับไล่พวกเราไปเลย ก็แค่การเนรเทศมิใช่หรือ ต่อให้พรุ่งนี้ต้องขึ้นแท่นประหารตัดศีรษะ ข้าก็จะไม่ฉีกทำลายหนังสือสมรสเด็ดขาด”พี่สี่พอได้ยินดังนั้น ก็รีบคุกเข่าลงมองฮูหยินผู้เฒ่าโม่พลางร้องไห้อ้อนวอนแม้ว่านางจะขี้ขลาด แต่กลับไม่กลัวความลำบากแม้แต่น้อย ยิ่งไม่กลัวความตาย“ท่านแม่! แม้ว่าข้าจะไม่เก่งกาจองอาจเหมือนท่านพี่ แต่ข้าก็ขออยู่ร่วมเป็นร่วมตายกั
Read more

บทที่ 7

อีกทั้งรูปทรงของหยกแขวนชิ้นนี้ เหตุใดถึงได้คุ้นตานัก มันเหมือนกับลวดลายบนประตูบานที่ยังไม่เคยเปิดออกในมิติของนางอย่างยิ่ง“ไม่ใช่ของที่ซื้อมา แต่เป็นหยกแขวนที่ข้าแกะสลักขึ้นเองจากหยกไขมันแพะ” โม่จิ่นยวนเห็นนางมีปฏิกิริยามากถึงเพียงนี้ ก็นึกว่านางชอบหยกแขวนชิ้นนี้แล้ว “หากเจ้าชอบ ก็ยกให้เจ้าก็แล้วกัน”“คิดไม่ถึงว่าท่านยังมีฝีมือด้านนี้ด้วย ขอบคุณแล้วกัน เห็นแก่ที่ท่านมอบหยกแขวนให้ข้า เรื่องที่เมื่อวานท่านบีบคอข้า ข้าจะไม่ถือสาหาความกับท่านแล้ว”มู่หนิงเก็บมันเข้าไปในมิติผ่านแขนเสื้ออย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็กำชับอีกครั้ง “รีบนอนลงบนเตียงได้แล้ว บาดแผลบนหลังของท่านหากยังไม่ทายาอีก ระหว่างทางเนรเทศคงได้ลำบากแน่”โม่จิ่นยวนได้ยินนางกล่าวขอบคุณ ความรู้สึกไม่คุ้นเคยก็พลันเกิดขึ้นมาในใจเขาหันกลับไปนอนคว่ำบนเตียง ปล่อยให้มู่หนิงใช้ยาทาลงบนบาดแผลโม่จิ่นยวนสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลในการทายาของนาง ช่างระมัดระวังถึงเพียงนั้น หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงสุขุม “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่มู่หนิงคนเดิมอีกต่อไปแล้ว ใคร ๆ ต่างก็มีความลับ เจ้าไม่อยากพูดข้าก็จะไม่ซักไซ้ ขอเพียงเจ้าไม่ท
Read more

บทที่ 8

“ถ้าข้าจับได้นะ ข้าจะอัดมันให้ฟันร่วงหมดปากเลย”เพราะโกรธมากเกินไป หลังจากเข้ามานางก็ไม่ได้เหลือบมองไปทางโม่จิ่นยวนเลยแม้แต่น้อยโม่จิ่นยวนได้ยินดังนั้น ลูกกระเดือกที่ดูเย้ายวนก็ขยับขึ้นลงเล็กน้อย กลืนคำพูดที่คิดจะพูดเมื่อครู่กลับลงไปในทันทีเขามองไปที่ซากแกนสาลี่ที่กินเหลือซึ่งห่อด้วยผ้าวางไว้ข้างเตียง รีบใช้จิตสำนึกเก็บมันเข้าไปในมิติมู่หนิงที่กำลังโมโหอยู่แล้ว สัมผัสได้ว่าในมิติมีของเพิ่มเข้ามาอย่างกะทันหัน ก็นึกว่าเจ้าหัวขโมยที่แอบกินเมื่อครู่ รู้จักตอบแทนด้วยการใส่ของกลับเข้ามาบ้างแล้วพอสัมผัสได้ว่าเป็นซากแกนสาลี่ที่กินเหลือ ใบหน้าของนางก็พลันเขียวคล้ำมู่หนิงโกรธจนตบโต๊ะเสียงดังปัง “เกินไปแล้ว เกินไปจริง ๆ ”โม่จิ่นยวนเพิ่งจะลุกขึ้น ก็ได้ยินเสียงนางบ่นพึมพำด้วยความเกรี้ยวกราดอาจเป็นเพราะรู้ตัวว่าผิด แม้แต่เขาที่ผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน ในชั่วขณะนี้ก็ยังรู้สึกใจคอไม่ดีอยู่บ้างโม่จิ่นยวนปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เดินเข้ามาอย่างใจเย็น นั่งลงข้าง ๆ นางแล้วเอ่ยปลอบ “อย่าโกรธไปเลย โกรธมากไม่ดีต่อร่างกาย เจ้าชอบกินสาลี่ ต่อไปข้าจะหาเงินมาซื้อสาลี่ให้เจ้ากินทุกวัน”“เหตุใดข้าถึ
Read more

บทที่ 9

แม่ทัพหลัวเห็นหัวหน้าขันทีกลับวังไปรายงาน ชั่วขณะหนึ่งเขาก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะไปก็ไม่ได้ จะอยู่ต่อก็กระไรอยู่ด้วยความอับจนหนทาง เขาจึงทำได้เพียงยืนรออยู่ที่นี่อย่างแห้งแล้ง“ท่านพี่! ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรไป?”มู่หนิงย่อตัวลง ยื่นมือออกไปหยิกที่แขนของโม่จิ่นยวนอย่างแรงทีหนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง “พี่สะใภ้ ท่านพี่สลบไปอีกแล้ว พวกท่านรีบพยุงเขากลับไปที่ห้องเร็ว”โม่จิ่นยวนก้มหน้าลง มุมปากกระตุกอย่างรุนแรงผู้หญิงคนนี้ จงใจทำอย่างแน่นอนจะเตือนให้เขาแกล้งสลบ นางก็หยิกเบา ๆ หน่อยก็ได้แต่นางกลับใช้แรงเต็มที่ ราวกับอยากจะหยิกเขาให้ตาย“น้องสะใภ้เจ็ดอย่ากังวลไปเลย พวกเราจะรีบพยุงน้องเจ็ดกลับห้องไปพักผ่อนเดี๋ยวนี้”พี่สะใภ้ใหญ่หยางซูหว่านปลอบโยนนาง จากนั้นก็ประคองแขนคนละข้างกับพี่สะใภ้รองฟางเหวิน พาเขากลับไปยังเรือนข้างริมฝีปากสีชมพูของมู่หนิงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย มองดูแผ่นหลังของโม่จิ่นยวนที่ถูกประคองจากไป ในใจพลันรู้สึกเหมือนได้แก้แค้นสำเร็จใครใช้ให้ท่านมาบีบคอข้าดังนั้น วันนี้ท่านก็ลองลิ้มรสชาติการถูกข้าหยิกแขนดูบ้างมู่หนิงไม่อยากอยู่ในห้องโถงใหญ่ต่อ เตรียมจะไปหาโ
Read more

บทที่ 10

หัวหน้าขันทีก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว รับภาพอักษรนั้นมาแล้วกระซิบเสียงเบา “ฝ่าบาททรงหมายความว่า มู่หนิงผู้นี้เป็นตัวปลอมหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ เจ้าไปสืบดูก่อน หากพบสิ่งใดไม่ชอบมาพากล ก็อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น รีบกลับมารายงานข้าก่อนแล้วค่อยวางแผน”“พ่ะย่ะค่ะ บ่าวรับพระบัญชา”หัวหน้าขันทีพยักหน้ารับคำ แล้วเดินออกจากห้องทรงพระอักษรไปด้วยท่าทีชั่วร้ายฮ่องเต้หรี่พระเนตรลงเล็กน้อย ตั้งแต่ตอนที่องครักษ์ลับมารายงานเรื่องการตายของหงอิง เขาก็เริ่มระแวงแล้วมู่หนิงผู้นี้ ตกลงว่าเมื่อก่อนนางแสร้งทำเป็นโง่เขลาได้แนบเนียนเกินไป หรือว่าถูกสับเปลี่ยนตัวไปนานแล้ว?ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน นางก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่เพื่อคลอดทารกในครรภ์ออกมาได้...เรื่องที่ได้รับอนุญาตให้เลื่อนการเนรเทศออกไป หัวหน้าขันทีก็รีบกลับมาแจ้งข่าวที่จวนแม่ทัพอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นแม่ทัพหลัวก็นำคนกลับไปครึ่งหนึ่ง เหลือไว้อีกครึ่งหนึ่งเพื่อกักบริเวณคนในจวนแม่ทัพต่อไปยามค่ำคืนหลังจากที่ทุกคนดับไฟเข้านอนแล้ว มู่หนิงและโม่จิ่นยวนก็สวมใส่ชุดสีดำทั้งตัว ปิดบังตนเองอย่างมิดชิด แล้วมุ่ง
Read more
PREV
123456
...
10
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status