สตรีผู้นี้..เหนื่อยเกินไปแล้ว의 모든 챕터: 챕터 11 - 챕터 20

65 챕터

บทที่10 เข้าวัง

ประตูพระราชวังอันสูงตระหง่านเบื้องหน้า ทาด้วยสีแดงเข้มลวดลายมังกรทองที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของราชวงศ์ ทหารยามในชุดเกราะยืนเรียงรายสองข้างด้วยท่าทางเคร่งขรึมรถม้าเคลื่อนตัวผ่านประตูพระราชวัง มาหยุดอยู่บริเวณสำหรับจอดรถม้า ฉินเฉินอวี้ก้าวลงจากรถเป็นคนแรก ก่อนจะยื่นมือออกไปให้อวี้หลิงหรง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะจับมือเขาเบา ๆ แล้วก้าวลงมาทั้งสองเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินเหล่านางกำนัลและขันทีที่พบเจอระหว่างทางต่างโค้งคำนับด้วยท่าทีสำรวม บรรยากาศภายในพระราชวังนั้นเต็มไปด้วยความสงบเงียบ..พระตำหนักเฉียนชิง ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางแสงแดดยามเช้า เมื่อเข้าไปภายใน บรรยากาศกลับดูเย็นยะเยือก ผนังหินประดับด้วยภาพวาดมังกรพ่นเมฆและอักษรมงคล โต๊ะไม้จันทน์ตัวใหญ่กลางตำหนักประดับด้วยของมีค่าที่ทำจากหยกและทององค์ฮ่องเต้ประทับอยู่บนบัลลังก์ ดวงเนตรที่เฉียบคมทอดมองลงมาทั้งสอง เหมือนจะประเมินและจับตามองทุกการเคลื่อนไหว องค์ฮองเฮาประทับอยู่ด้านข้างด้วยท่วงท่าสง่างาม แม้รอยยิ้มบาง ๆ จะปรากฏบนพระพักตร์ แต่ความเย็นชาที่ซ่อนอยู่ในดวงเนตรนั้นยากที่จะมอง
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่11 หัวใจที่ถูกปิดตาย

พระตำหนักชิงเฟิง ของพระสนมสวี่มีบรรยากาศต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ตำหนักนี้ตั้งอยู่ในมุมสงบของพระราชวัง ล้อมรอบด้วยสวนดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมจาง ๆ ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่าย แม้จะไม่มีสิ่งของฟุ่มเฟือย แต่กลับแฝงด้วยความอบอุ่นพระสนมสวี่ซิงเหยียนเป็นสนมเอก [1] ขององค์ฮ่องเต้ นางเป็นบุตรสาวคนโตของเสนาบดีฝ่ายขวาโหย่วเฉิงเซี่ยงซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางสูงสุดในฝ่ายบู๊หรือฝ่ายทหารพระสนมสวี่ในชุดผ้าแพรสีอ่อนทรงนั่งรออยู่แล้ว นางมีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับบนใบหน้าที่ดูอ่อนล้า ดวงตาคู่นั้นเปี่ยมด้วยความห่วงใยและความรักที่ชัดเจน เมื่อเห็นทั้งสองนางก็ยิ้ม "พวกเจ้ามาแล้วหรือ""พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่" ฉินเฉินอวี้ย่อตัวลงคุกเข่า อวี้หลิงหรงเองก็ก้มลงเคารพด้วยท่วงท่าสง่างาม"ข้าไม่รู้เลยว่าชายาของอวี้เอ๋อร์จะเป็นสตรีที่งดงามถึงเพียงนี้" น้ำเสียงของนางนุ่มนวล สายตาเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอวี้หลิงหรงยิ้มเล็กน้อย "ขอบพระทัยเพคะเสด็จแม่"สนมสวี่ทอดสายตามองทั้งสอง เห็นถึงความห่างเหินในตัวของทั้งคู่ แต่กลับไม่พูดอะไรเพิ่มเติม นางเพียงเชื้อเชิญให้นั่ง แล้วพูดคุยเรื่องทั่วไปอย่างอบอุ่น"อวี้เอ๋อร์น่ะแต่ไหนแต่ไรแล้วเป็นคนพูดน้อย เพ
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่12 การกลั่นแกล้ง

ชีวิตของอวี้หลิงหรงในตำหนักเทียนเหิงขององค์ชายหกนั้นไม่ง่ายนัก หลังจากวันที่เข้าวังพร้อมกับฉินเฉินอวี้ เขาก็ไม่เคยโผล่หน้ามาที่เรือนของนางอีกเลย แต่เรื่องนั้นหาใช่เรื่องใหญ่สำหรับอวี้หลิงหรง เขาจะมาหรือไม่มานั้นนางหาได้สนใจ"พระชายาเพคะ ฮึก.. พระชายา.." เสียงร้องไห้ของจื่อรั่วดังขึ้นจากทางหน้าประตู อวี้หลิงหรงจึงลุกขึ้นจากตั่งไม้และเดินไปหาด้วยความเป็นห่วง"เด็กน้อย..มีอะไรหรือเจ้าร้องไห้ทำไมกัน" ขณะที่เปิดประตูออกไปอวี้หลิงหรงก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจใบหน้าของจื่อรั่วเต็มไปด้วยคราบน้ำตารอยแดงและรอยขีดข่วน มุมปากของนางมีคราบเลือดไหลซึมออกมา อีกทั้งเสื้อผ้ายังเปรอะเปื้อนไปและเต็มไปด้วยเศษฝุ่นเศษดินหัวใจของอวี้หลิงหรงคล้ายถูกบีบรัด นางกำแขนเสื้อของตนเองแน่นเพราะความโกรธ จื่อรั่วนางเป็นเด็กสาวใสซื่อและบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่จริงใจกับนาง เด็กที่น่ารักเช่นนั้นควรโดนกระทำเช่นนี้หรือไร!อวี้หลิงหรงพยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอาไว้ นางประคองร่างของจื่อรั่วเข้ามาภายในเรือน ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับคราบเลือดและคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของนาง"เกิดเรื่องอะไรขึ้น" น้ำเสียงของนางนั้นราบเ
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่13 การกลั่นแกล้ง(2)

อวี้หลิงหรงยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของเรือนครัว นางสวมอาภรณ์เรียบง่ายพร้อมด้วยสายตาเย็นชา จังหวะที่เสียงหัวเราะของพวกสาวใช้ดังขึ้นนั้น นางค่อย ๆ ก้าวออกมาจากเงามืดอย่างสง่างาม แต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม"ช่างน่าสนุกนัก พวกเจ้าคุยอะไรกันอยู่หรือ?" น้ำเสียงของอวี้หลิงหรงเยือกเย็นและเฉียบขาด เสียงนั้นเพียงแค่ดังขึ้นก็ทำให้บ่าวไพร่ทุกคนสะดุ้งเฮือก เสียงหัวเราะที่เคยดังลั่นกลับเงียบลงทันทีอันจิ่นเยว่ที่กำลังหัวเราะร่าเริงพลันหันมามอง ดวงตาของนางแฝงแววดูแคลนแต่ก็ฉายความตกใจเล็กน้อยก่อนจะปรับสีหน้าเป็นยิ้มเยาะอย่างรวดเร็ว"อ้อ.. พระชายา ท่านมาตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ?""ก็นานพอที่จะได้ยินทุกคำพูดของเจ้า" อวี้หลิงหรงกล่าวตอบพลางกวาดสายตามองบ่าวไพร่ที่พากันหลบสายตาอย่างหวาดกลัว ก่อนจะหยุดสายตาไว้ที่อันจิ่นเยว่อย่างแน่วแน่"พระชายางั้นหรือ.. ไยเจ้าจึงกล้าเรียกข้าเช่นนั้นเล่า มิกลัวถูกคนเอากรรไกรมาตัดปากหรือ" อวี้หลิงหรงเอ่ยเหน็บแนมอันจิ่นเยว่ยิ้มเยาะ นางได้ยินทั้งหมดแล้วอย่างไร เชลยไร้อำนาจอย่างนางจะไปทำอันใดได้! "เรื่องที่ท่านได้ยินไปพวกบ่าวก็เพียงแค่พูดล้อเล่นกันเท่านั้น พระชายาอย่าได้ถือสาเอาความ"
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่14 การกลั่นแกล้ง(3)

เพียงพริบตาเดียว ไอสังหารเย็นเยียบก็แผ่ซ่านไปทั่วห้องครัว กลิ่นอายของความตึงเครียดทำให้ทุกคนหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง ร่างของอันจิ่นเยว่ ถูกเหวี่ยงลงกับพื้นอย่างแรงจนเกิดเสียงกระแทกก้องไปทั้งห้อง ก่อนที่อวี้หลิงหรงจะก้าวขึ้นคร่อมกลางลำตัวของนางมือข้างหนึ่งของพระชายายกมีดเล่มคมขึ้นสูง ก่อนจะพุ่งลงมาอย่างไร้ความลังเล ปลายมีดคมกริบพุ่งตรงไปที่ลำคอของอันจิ่นเยว่ทว่าด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด นางยกมือขึ้นป้องกันได้ทัน คมมีดจึงบาดลึกเข้ากลางฝ่ามือแทน เลือดสดไหลพุ่งกระจายเปื้อนพื้น ท่ามกลางเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด"กรี๊ดด ไม่! ได้โปรด…!" เสียงของอันจิ่นเยว่สั่นสะท้าน น้ำตาไหลพรั่งพรูจนเปียกชุ่มสองแก้ม ร่างกายของนางบิดเกร็งขณะพยายามผลักมือของอวี้หลิงหรงออก แต่เรี่ยวแรงของนางอ่อนล้าจนทำได้เพียงยื้อเวลาไว้ฝ่ามือที่พยายามต้านทานเต็มไปด้วยบาดแผลลึกจนเส้นเอ็นที่นิ้วฉีกขาด เสียงหวีดร้องที่แสนเจ็บปวดนั้นทำให้บ่าวไพร่บางคนถึงกับทรุดตัวลง บางคนอาเจียนออกมาเพราะทนกลิ่นคาวเลือดที่ลอยฟุ้งไปทั่วไม่ไหว"หยุดเดี๋ยวนี้!" เสียงทรงอำนาจดังขึ้นก้องห้อง ดึงทุกคนออกจากความตระหนก ฉินเฉินอวี้ก้าวเข้ามาด้วยส
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่15 สตรีเลือดเย็น

หลังจากส่งให้อวี้หลิงหรงกลับเรือน ฉินเฉินอวี้ก็กลับมานั่งในห้องตำราด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ความเงียบภายในห้องยิ่งทำให้อารมณ์ของเขาดูหนักอึ้งยิ่งขึ้น คำพูดของเสด็จแม่ในวันนั้นยังดังก้องอยู่ในหัว“หากไม่สามารถรักนางฉันสามีภรรยาได้ อย่างน้อยก็ดีกับนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเถิด”เขาพยายามเปิดใจและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่ออวี้หลิงหรง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้กลับทำให้เขารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งคนที่น่าสงสารในสายตาเขา กลับกลายเป็นคนที่ถือมีดหมายปลิดชีวิตผู้อื่น ความคิดนี้ทำให้เขากดขมับแน่น พยายามหาคำตอบว่าทำไมนางถึงได้เลือดเย็นเพียงนี้"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ" เสียงของหลี่เฉียนอันดังขึ้นพร้อมเสียงเคาะประตูเบา ๆ"เข้ามา" ฉินเฉินอวี้เอ่ยอนุญาตเมื่อหลี่เฉียนอันก้าวเข้ามา เขาเริ่มรายงานคำให้การของสาวใช้ในเหตุการณ์ห้องครัวอย่างละเอียด ฉินเฉินอวี้ฟังอย่างตั้งใจ และยิ่งฟังไป สีหน้าของเขาก็ยิ่งเปลี่ยนจากความโกรธเป็นความสงสัย และในที่สุดก็เป็นความเข้าใจ"เจ้ากำลังจะบอกว่าสาวใช้ในตำหนักรวมหัวกันกลั่นแกล้งไม่ยอมส่งข้าวส่งน้ำไปที่เรือนของพระชายางั้นหรือ!!" เขาเข้าใจในที่สุดว่าการกระทำของอวี้หลิงหรงไม่ได้เกิดจากความ
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่16 ไม่ผิดต่อผู้ใด

อวี้หลิงหรงอยู่แต่บริเวณเรือนของตนมาราวหนึ่งเดือนแล้ว แผลที่หลังของนางในตอนนี้ก็หายดีแล้วเช่นกัน โชคดีที่ยาที่ฉินเฉินอวี้ให้คนยกมาให้ทุกวันนั้นเป็นยาชั้นดี ทำให้แผ่นหลังของนางนั้นไร้ซึ่งรอยแผลเป็นและกลับมาเรียบเนียนเช่นเดิมหลังจากที่นางเกือบพลั้งมือสังหารอันจิ่นเยว่ อาหารและสำรับก็ถูกส่งมาที่เรือนเร้นเมฆาอย่างตรงเวลาทุกวัน และแน่นอนว่ามันเป็นอาหารอย่างดีอวี้หลิงหรงไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองที่ฉินเฉินอวี้สั่งลงโทษตน เพราะถึงอย่างไรนางก็รู้ดีว่าตนนั้นทำเกินกว่าเหตุไปจริง ๆ นางจึงไม่คิดโผล่หน้าออกไปสร้างความลำบากใจให้กับผู้ใด และเลือกที่จะอยู่แต่บริเวณเรือนของตัวเอง จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาหนึ่งเดือน"พระชายาเพคะ แม่นมจางมาขอเข้าเฝ้าเพคะ" จื่อรั่วเดินกลับเข้ามาแจ้งให้นายของตนทราบด้วยสีหน้าที่แสดงความวิตกกังวล แม่นมจาง หรือที่รู้จักกันในชื่อจางอัน นางเป็นแม่นมผู้ดูแลองค์ชายหกมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย และด้วยความที่นางมีความใกล้ชิดกับพระองค์ นางจึงเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องและเคารพจากคนในตำหนักอวี้หลิงหรงพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกล่าว "ให้นางเข้ามาเถิด"แม่นมจางก้าวเข้ามา นางเป็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างผอม
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่17 กลับจวนสกุลอวี้

รุ่งเช้าภายในเรือนเร้นเมฆา พระอาทิตย์แรกแย้มทอดแสงอ่อน ๆ สาดส่องลอดผ่านม่านแพรโปร่งสีอ่อนเข้ามาภายในห้อง เสียงเปิดประตูดังขึ้นเบา ๆ ตามมาด้วยเสียงเรียกที่แสนคุ้นเคย"พระชายาตื่นเถิดเพคะ วันนี้เราต้องเดินทางกลับจวนเสนาบดีเพื่อเคารพญาติผู้ใหญ่กันนะเพคะ"อวี้หลิงหรงขยับเปลือกตาขึ้นอย่างเชื่องช้า นางรู้สึกถึงความหนักอึ้งของร่างกาย ราวกับไม่อาจตื่นจากภวังค์แห่งความง่วงงุนได้ในทันที ดวงตาคู่งามกะพริบถี่ ๆ ไล่ความมึนงง ก่อนที่คำพูดของจื่อรั่วจะค่อย ๆ ซึมซาบเข้าสู่โสตประสาท‘วันครบกำหนดการกลับไปเคารพญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายเจ้าสาวตามประเพณีงั้นหรือ..’เพียงแค่คิดถึงจวนตระกูลอวี้ นางก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาทันที อวี้หลิงหรงถอนหายใจยาว แววตาที่ง่วงงุนพลันแปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็น แม้นางจะพยายามเก็บงำอารมณ์ของตน แต่ความขุ่นเคืองก็ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ดี"กลับไปก็ใช่ว่าพวกเขาจะต้อนรับข้า" น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความหงุดหงิดที่ยากจะระงับ แม้จื่อรั่วจะไม่ได้กล่าวสิ่งใด แต่นางก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของนายเหนือหัวทว่ากฎก็คือกฎ แม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ในฐานะบุตรสาวนางไม่มีทางเลือกมากนักอวี้หลิงหรงกัดริมฝ
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่18 คนที่ผิดเสมอมา

ลมเย็นพัดผ่านศาลา เสียงใบไม้พลิ้วไหวยามต้องลม บึงน้ำเบื้องหน้าสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ กลิ่นหอมละมุนของดอกเหมยยังคงอบอวลอยู่ในอากาศ อวี้หลิงหรงยังคงนั่งอย่างสงบ มือเรียวบางยกถ้วยชาแนบริมฝีปาก จิบน้ำชารสเลิศที่ยังคงอุ่น ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบากระนั้น บรรยากาศอันสงบกลับถูกรบกวนด้วยเสียงฝีเท้าของผู้มาใหม่ ฝีเท้านั้นมั่นคงและเจือด้วยความจงใจ เมื่อเงาของบุคคลนั้นทอดผ่านทางเดินหินในสวน อวี้หลิงหรงก็รู้ได้ในทันทีว่าใครคือผู้มาเยือนอวี้ซูเม่ยก้าวเข้ามาพร้อมกับสาวใช้คนสนิทของนาง ในอาภรณ์เนื้อดีสีชมพูลายดอกเหมย แต่งแต้มใบหน้าด้วยเครื่องประทินโฉมให้ดูอ่อนหวาน ทว่าดวงตาที่ฉายแววหยามเหยียดของนางกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง"นึกว่าใครกัน ที่แท้..ก็พระชายาแคว้นฉินผู้สูงส่งนี่เอง"เสียงของอวี้ซูเม่ยเจือด้วยความเย้ยหยัน นางเดินทอดน่องเข้ามา ริมฝีปากแต้มรอยยิ้มดูแคลน พลางจงใจมองพี่สาวต่างมารดาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอวี้หลิงหรงที่กำลังจิบชาอยู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา เสียงของนางเรียบเรื่อยและไร้ซึ่งความหวั่นไหว"เจ้าต้องการจะพูดอะไรกันแน่?"อวี้ซูเม่ยหัวเราะเบา ๆ
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기

บทที่19 ความสงสัย

ภายในลานกว้างของจวน อวี้หลิงหรงถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าลงตรงกลางลาน บ่าวคนหนึ่งถือแส้หางกระเบนเข้ามาท่ามกลางสายตาของทุกคนในจวน อวี้ซูเม่ยที่ยังเจ็บแค้นมองภาพนั้นด้วยแววตาสะใจ แม้ใบหน้าของนางจะยังมีรอยตบชัดเจน"เริ่มลงโทษ!" เสียงตวาดของอวี้เฉิงดังขึ้น แส้ถูกเงื้อขึ้นสูงก่อนจะฟาดลงบนแผ่นหลังของอวี้หลิงหรง เสียงฟาดดังลั่นพร้อมกับเสียงเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น แต่หญิงสาวยังคงนิ่งไม่ร้องออกมา"หนึ่ง!" เสียงบ่าวประกาศจำนวนไม้"สอง!"เมื่อแส้กำลังจะฟาดลงเป็นครั้งที่สาม เสียงเย็นเยียบของใครบางคนดังขึ้น"หยุดเดี๋ยวนี้!" เมื่อเสียงเย็นเยียบดังก้องขึ้น ทุกสายตาในลานถูกดึงไปยังผู้มาใหม่ที่ก้าวเข้ามา เขาสวมชุดยาวสีดำเข้มตัดกับลายปักสีทองบนปกเสื้อ ท่าทางของเขาช่างทรงอำนาจ ดวงตาคมกริบกวาดมองไปทั่วก่อนจะหยุดที่เสนาบดีอวี้เฉิง แม้ไม่ได้เปล่งเสียงมากมาย แต่เพียงคำสั่งสั้น ๆ จากปากของเขา ก็เพียงพอจะหยุดทุกการเคลื่อนไหวในลานลงฉับพลันทุกคนต่างกลืนน้ำลายและหลบสายตาเมื่อพบกับความเยียบเย็นในดวงตาขององค์ชายหก ผู้ที่แค่ยืนเฉย ๆ ก็สามารถทำให้บรรยากาศรอบตัวแปรเปลี่ยนเป็นความเคร่งขรึมจนหายใจลำบาก"นี่หรือคือวิธีที่ท่
last update최신 업데이트 : 2025-11-06
더 보기
이전
1234567
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status