นางร้ายมืออาชีพ ไป๋อวี่ซี ประสบอุบัติเหตุหนักจนเสียชีวิต แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สวรรค์กลับส่งให้เธอได้มาเกิดใหม่.. แต่แล้วทำไมถึงมาเกิดในร่างของชายาที่ท่านอ๋องไม่โปรดปรานเล่า!
View Moreตอนที่ 1
เกิดใหม่
"คัท!"
เสียงของผู้กำกับมือทองสั่งคัทหลังจากที่แสดงฉากอุบัติเหตุทางรถยนต์เสร็จสิ้น นักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง ไป๋อวี่ซี เดินออกมาจากรถยนต์ที่สั่งทำมาเพื่อการแสดงโดยเฉพาะด้วยท่าทางสบาย ๆ
"วันนี้ก็สุดยอดมากเช่นเคยนะคะคุณไป๋"
นักแสดงร่วมในกองเดินมาชื่นชมความเป็นมืออาชีพของนางร้ายอันดับต้น ๆ อย่างเช่นทุกครั้ง มีหรือว่าเธอจะไม่รู้ว่าลับหลังพวกเขาพูดถึงเธอว่าอย่างไรบ้าง แต่เพื่อหลบเรื่องเรื่องไม่เป็นเรื่องทำให้สิ่งที่คิดกับสิ่งที่พูดจึงแตกต่างกันเป็นธรรมดา
"ขอบคุณนะคะคุณลู่"
ไป๋อวี่ซี นางร้ายTop5ของวงการที่กวาดรางวัลใหญ่มานับไม่ถ้วน เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุยังน้อยและใช้ความสามารถไต่เต้าจนมาถึงจุดสูงสุด เรียกได้ว่ามากความสามารถของจริง
เธอโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงตั้งแต่เป็นนักแสดงสมทบจนได้ขึ้นแท่นเป็นนางเอก แต่เพราะใบหน้าที่สวยเฉี่ยวและบุคลิกที่เอาแต่ใจนั้นกลับทำให้เธอไม่ได้รับความสนใจในบทบาทสาวน้อยผู้อ่อนแอสักเท่าไหร่
เมื่อ5ปีก่อนทางค่ายจึงยัดบทนางร้ายมาให้จนต้องผันตัวมารับบทร้ายครั้งแรก แต่บทบาทที่เธอแสดงออกมานั้นกลับตีบทแตกจนผู้คนหมั่นไส้ทั่วบ้านทั่วเมือง จนได้รับรางวัลมากมายและเป็นที่รู้จักในนามนางร้ายคิวทอง
"เสี่ยวไป๋อีกครึ่งชั่วโมงมีถ่ายฉากจมน้ำเตรียมตัวด้วยนะ"
"ค่ะผู้กำกับ"
แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับไป๋อวี่ซีแล้ว นิสัยของเธอค่อนข้างแตกต่างจากบทที่ได้รับอยู่มาก หลังจากพักพอหายเหนื่อยหญิงสาวจึงเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะย้ายกองไปถ่ายทำฉากที่ทะเล เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยทุกคนก็เริ่มทำงานอีกครั้ง
"เสี่ยวไป๋ว่ายน้ำเก่งใช่ไหม งั้นฉากนี้ลงไปลึกหน่อยนะแล้วแกล้งเป็นตะคริวให้พระเอกไปช่วย"
ผู้กำกับจัดแจงคิวและบทให้นักแสดงอีกครั้งก่อนจะเริ่มถ่ายทำฉากที่ว่า ไป๋อวี่ซีลงไปในน้ำทันทีที่สั่งแอคชั่นตามบทบาทที่ได้รับ เมื่อลงไปไกลจนรู้สึกว่าน่าจะเพียงพอจึงจัดการตามบทที่ได้รับ แต่สิ่งที่แปลกก็คือเมื่อหันไปมองคนในกองพวกเขากลับดูมีท่าทีตกใจและวุ่นวายแปลก ๆ แต่ก็เห็นว่าผู้กำกับนั้นกำลังโบกมือให้จึงคิดว่าให้เริ่มแสดงได้
และเหมือนว่าวันนี้โชคจะไม่เข้าข้างสักเท่าไหร่ เพราะอากาศที่เย็นส่งผลให้น้ำในทะเลนั้นเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ว่าขาของเธอนั้นเกิดเป็นตะคริวขึ้นมาจริง ๆ
อวี่ซีพยายามส่งสัญญาณไปให้คนในกองแต่กลับเหมือนไม่มีใครมองเห็น เธอตะเกียกตะกายอยู่แบบนั้นนานหลายนาทีจนในที่สุดเรี่ยวแรงที่มีก็หมดลง ร่างกายแน่นิ่งทิ้งดิ่งลงไปในทะเลตามกระแสคลื่น ดวงตากลมค่อย ๆ หลับลงช้า ๆ พร้อมความรู้สึกหวาดหวั่นในใจ
'นี่ฉันกำลังจะตายอย่างนั้นเหรอ'
'แย่แล้วสิ! ไป๋อวี่ซีหนอไป๋อวี่ซี.. ดิ้นรนในวงการมาตั้งนานเพื่อมาจบชีวิตแบบนี้งั้นเหรอ'
'จะไม่ได้ดูซีรีส์ของดาราที่ชอบแสดงอีกแล้วงั้นเหรอ'
'ยังไม่มีแฟนเลยจะตายไปทั้งอย่างนี้เหรอ'
'ยังไม่อยากตายเลยจริง ๆ ช่วยด้วย.. ใครก็ได้.. ช่วยด้วย..'
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดทั้ง ๆ ที่ปกติกองละครจะมีการดูแลนักแสดงตลอดเวลาแท้ ๆ ทำไมวันนี้เธอกลับรู้สึกเหมือนคนกำลังจะตายเช่นนี้กันนะ
สิ้นสุดความคิดร่างกายก็จมดิ่งลงไปในทะเล พร้อมกับสติที่มีก็รางเลือนจนในที่สุดก็ดับไป
"เฮือก!"
ความรู้สึกแน่นหน้าอกจนต้องฮุบอากาศนี่มันอะไรกัน ไป๋อวี่ซี่ลืมตาขึ้นมาท่ามกลางแสงไฟสลัวจากเชิงเทียน ดวงตากลมกวาดตามองรอบห้องก็เห็นได้ถึงความผิดปกติ แต่เมื่อยิ่งมองสิ่งต่าง ๆ ในหัวก็เกิดภาพประหลาดที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน หญิงสาวที่มีใบหน้าเหมือนเธอราวกับก๊อบปี้กันมา แต่การแต่งกายช่างแตกต่างราวกับว่าอยู่ในซีรีส์พีเรียดจีนสักเรื่อง
"นี่มันหมายความว่ายังไง.. ไม่ใช่ว่าเราจมน้ำตายไปแล้วงั้นเหรอ"
ความทรงจำของตัวเองกำลังเล่นวนในหัวพร้อมกันความทรงจำที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน อวี่ซียกมือขึ้นมาจับศีรษะตัวเองไว้แน่นด้วยความรู้สึกทรมาน แต่เพราะความเจ็บปวดที่เกินจะรับไหวราวกับว่าสมองของเธอกำลังจะระเบิดนั้น ทำให้เธอทนไม่ไหวที่จะไม่ส่งเสียงกรี๊ดออกมา
"กรี๊ด!!"
ตอนที่ 30ความสุขที่ถูกเติมเต็มเวลาผ่านไปไม่นาน..“อุแว้! อุแว้!”เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังขึ้นก้องกระท่อมท่ามกลางความเงียบจากด้านนอก มีเพียงแค่เสียงกรีดร้องของเยว่เฟยและก้อนแป้งที่ลืมตาดูโลก“เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ!”หมอประกาศเสียงดังก่อนที่ไม่กี่อึดใจต่อมาเสียงร้องอีกเสียงก็ดังขึ้น“และเป็นคุณหนูอีกคนเจ้าค่ะ!”ท่านอ๋องยืนนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความตื้นตันน้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถาม“ลูก.. ปลอดภัยหรือไม่”“เด็กทั้งสองแข็งแรงมากเจ้าค่ะ!”ท่านอ๋องถอนหายใจอย่างโล่งอก ใบหน้าของเขาคลายความตึงเครียดลและในที่สุดเขาก็ได้เห็นลูกน้อยของตนเป็นครั้งแรก แต่ในวินาทีที่ความยินดีท่วมท้นไปทั่วหัวใจ เขากลับได้ยินเสียงของหมอที่ทำให้ร่างกายเย็นเยียบ“พระชายาเสียเลือดไปมาก!”ไป๋อวี่ซีที่เพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดกลับหมดแรงโดยสิ้นเชิง ดวงตาของเธอลืมขึ้นเล็กน้อยแต่สติเลือนราง เธอมองเห็นเงาของท่านอ๋องอยู่ตรงหน้า มองเห็นเงาตะคุ่มของเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอ เธออยากยิ้มอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนอง“เหิง.. เยว่..”เสียงเธอแผ่วเบาราวกับสายลมพัดผ่าน ทันใดนั้นเปลือกตาของเธอก
ตอนที่ 29ออกจากเมืองหลวงท้องพระโรงหลวงบรรยากาศภายในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ทหารและขุนนางยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบขณะที่ฮ่องเต้ประทับอยู่บนบัลลังก์ทอง พระพักตร์ทรงอำนาจทอดพระเนตรชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนคุกเข่าอยู่เบื้องล่างท่านอ๋องค้อมศีรษะลงต่ำ ร่างสูงสง่ากรำศึกจนเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นแต่แววตาของเขากลับแน่วแน่ดังเดิม“เยว่อ๋อง.. เจ้าทำศึกครั้งนี้ได้ดีนักราชสำนักและประชาชนต่างซาบซึ้งในคุณงามความดีของเจ้า”สุรเสียงของฮ่องเต้ดังก้องไปทั่วท้องพระโรง ก่อนจะมีรับสั่งให้ขันทีนำทองหนึ่งพันชั่ง ที่ดินสองผืน แก้วแหวนเงินทอง รวมถึงทหารสองหมื่นนายมาเป็นรางวัลตอบแทนขุนนางพากันซุบซิบถึงพระกรุณาขององค์จักรพรรดิ นับว่าเป็นรางวัลที่มากมายและล้ำค่าท่านอ๋องควรจะปลาบปลื้มยิ่งนัก แต่แทนที่เขาจะยินดีท่านอ๋องกลับเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ริมฝีปากยกยิ้มบาง ก่อนจะเอ่ยบางอย่างที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง“กระหม่อมขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพ่ะย่ะค่ะ แต่นอกจากของรางวัลเหล่านี้ กระหม่อมมีข่าวดีถวายฝ่าบาท..”“ว่ามาเถิด”ฮ่องเต้เลิกพระขนงเล็กน้อย ดวงตาคมจ้องมองไปยังบุรุษเบื้องล่าง ท่านอ๋องสบตากับฮ่องเต้ก
ตอนที่ 28แก้แค้นไป๋อวี่ซีเอ่ยออกมาเสียงแหบแห้งน้ำตาคลอเบ้า ในเวลานี้เธอไม่สามารถคิดไปในทางที่ดีได้เลยแม้เพียงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากได้ยินว่าลูกของเธอไม่เป็นอะไรอยู่ดีหมอหลวงยิ้มบาง ๆ อย่างอบอุ่น ก่อนที่จะเบาเสียงตอบกลับ“พระชายาท่านไม่ต้องกังวล ลูกของท่านปลอดภัยดี.. แม้จะได้รับบาดเจ็บจากการกระทบกระเทือน แต่ทารกในครรภ์ยังคงแข็งแรงดี ทั้งท่านและลูกจะต้องพักฟื้นให้ดี”เยว่เฟยรู้สึกเหมือนกับว่าหินก้อนใหญ่ที่ทับอยู่บนอกของเธอนั้นถูกยกออก น้ำหนักทั้งหมดที่ครอบงำเธอมาเป็นเวลาหลายชั่วยามนั้นหลุดออกไปทำให้เธอหายใจได้ลึกขึ้น“จริงหรือ”เธอกล่าวเสียงสั่น ปากแห้งผาก ริมฝีปากบานฉีกยิ้มด้วยความดีใจ ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าของหมอหลวงอย่างมีความหวังจนเมื่อเธอเห็นเขาพยักหน้าตอบ“ตอนนี้ท่านต้องพักให้เต็มที่ ร่างกายยังต้องฟื้นฟูอีกมาก”น้ำตาที่ไป๋อวี่ซีพยายามจะกลั้นเอาไว้หลั่งรินลงมา เหมือนกับฝนที่ตกจากฟ้าในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ความรู้สึกขอบคุณเต็มหัวใจจนไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ นอกจากการขอบคุณที่เงียบสงบ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับหมอหลวงที่ยืนข้างเตียงความเงียบแผ่ขยายไปทั่วห้อง แต่ในใจของไป๋
ตอนที่ 27ข้ามาช้าไป“เป็นอย่างไรบ้างหมอหลวง! พระชายาและลูกของข้าปลอดภัยดีหรือไม่”“ท่านอ๋อง.. พระชายาเวลานี้ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส กระหม่อมใช้ความสามารถที่มียื้อชีวิตเยว่เฟยเอาไว้ได้ เพียงแต่..”“เพียงแต่อะไร!”“เพียงแต่เด็กในครรภ์พระชายา.. กระหม่อมไร้ความสามารถ”เยว่อ๋องทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาของเขาแดงก่ำหยดน้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่สามารถหักห้ามได้“ที่ท่านพูดหมายความว่าอย่างไร.. ข้าไม่สามารถรักษาลูกของข้าไว้ได้อย่างนั้นหรือ”“หากท่านอ๋องพาพระชายามาเร็วกว่านี้อีกสักหน่อย กระหม่อมยังพอมีทางรักษาเอาไว้ได้”“ข้ามาช้าไปอย่างนั้นหรือ.. ไม่ได้! หากนางฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่านางสูญเสียบุตรในครรภ์ไปต้องเสียใจมากเป็นแน่ หมอหลวง! ท่านต้องหาทางช่วยรักษาลูกของข้าเอาไว้ให้ได้”เหิงเยว่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะไปคว้าที่ข้อมือของหมอหลวงเอาไว้“ท่านอ๋อง~ ฝ่าบาทส่งกระหม่อมมาดูอาการพระชายา ไม่ทราบว่าท่านอ๋องสะดวกหรือไม่”เขาหันไปมองผู้ที่มาใหม่ก็พบว่าเป็นไท่อี้เฉิงหมอประจำกายของฝ่าบาท เยว่อ๋องรีบหลบเพื่อให้เขาเข้าไปรักษาพระชายาอย่างว่าง่าย“ไท่อี้เฉิง.. ท่านต้องช่วยรักษาภรรยาและบุตรของข้าเอาไว้ใ
ตอนที่ 26ภาพที่ปวดใจแต่เพียงแค่เขาออกคำสั่ง ทหารและบ่าวในจวนก็กรูกันเข้าไปค้นหาในจวนอย่างรวดเร็ว เขาปรายตามองเวินหนิงที่ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจออกมาเลยแม้แต่น้อย ใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งชั่วยามคนที่เข้าไปค้นจวนรองแม่ทัพก็พากันเดินกลับออกมา“ไม่พบขอรับ”“เป็นไปได้อย่างไรกัน..”มือหนากำหมัดไว้แน่นก่อนจะหันไปจ้องใบหน้าของลู่เวินหนิงอีกครั้ง ท่าทางของนางที่ไม่รู้สึกรู้สายิ่งตอกย้ำว่าเธอมีพิรุธ แต่เพราะไร้ซึ่งหลักฐานและยังหาเยว่เฟยไม่พบ ความปลอดภัยของนางย่อมสำคัญกว่าจึงทำได้แค่ถอยออกมาก่อน“ข้าจะให้คำตอบของการกระทำในครั้งนี้กับรองแม่ทัพลู่ฉือเวยเอง กลับ!”เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นแล้วพาบ่าวในจวนกลับออกมาแต่โดยดี ลู่เวินหนิงกำมือของตัวเองไว้แน่นด้วยความโมโห เธอไม่คิดว่าเหิงเยว่จะกล้าพาค้นมาบุกจวนของรองแม่ทัพเช่นนี้ เรื่องนี้ไม่มีทางที่เธอจะยอมปล่อยผ่านไปแน่ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าหวานก็ยังคงฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างสะใจอยู่ดี“อู่ถังจับตาดูคุณหนูลู่เอาไว้ หากนางเคลื่อนไหวให้ตามไปทันทีแล้วรีบแจ้งข้า.. ข้าจะไปจวนอ๋องเจ็ด”เมื่อจัดการเรื่องที่ควรทำเรียบร้อยแล้ว เขาได้ขึ้นม้าเพื่อตรงไปยังจวนหยวนอ๋องตามลำพังทัน
ตอนที่ 25ลางสังหรณ์เสียงควบม้าดังกึกก้องไปทั่วผืนป่า แม้ว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่จิตใต้สำนึกของเขากลับไม่อยากช้าแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากที่เหิงเยว่ฟื้นขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บ สิ่งแรกที่เขาทำคือรีบร้อนที่จะกลับไปหาพระชายา แม้ว่าโม่ฉินหรือเหล่าทหารต่างไม่มีใครเห็นด้วยแต่กลับไม่มีใครสามารถห้ามเขาเอาไว้ได้สักคน เยว่อ๋องฝืนร่างกายก่อนจะใช้ยาระงับความเจ็บปวดที่มีฤทธิ์กดความรุนแรงของบาดแผลทั่วร่างกายเอาไว้นาน6ชั่วยาม เพื่อที่จะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวงแม้ว่าจะมีผลกระทบภายหลังเกือบถึงชีวิตก็ตาม“ท่านอ๋อง! ช้าหน่อยขอรับร่างกายของท่านยังไม่หายดีอาจถึงตายได้นะขอรับ”โม่ฉินเร่งฝีเท้าควบม้าตามมาด้วยความเป็นห่วงเอ่ยห้ามตลอดทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถห้ามเขาได้อยู่ดี“โม่ฉิน! ข้ามีลางสังหรณ์ว่าพระชายากำลังตกอยู่ในอันตราย”“จะเป็นไปได้อย่างไรขอรับ พระชายามีอู่ถังดูแลไม่มีอันตรายแน่นอนขอรับ”“ข้าไม่วางใจจะไปดูให้เห็นกับตา ไป!”เมื่อไม่สามารถห้ามปรามได้สุดท้ายทั้งสองก็รีบควบม้ามุ่งหน้ากลับเมืองหลวง ใช้เวลากว่าสี่ชั่วยามที่เขาเดินทางโดยไม่หยุดพักในที่สุดก็เดินทางมาถึงจวนอ๋อง ทันทีที่เขาเปิดปร
Comments