ยังไงก็ต้องเป็นเธอ นิยายชุด Only One โดย M_Morine เขา..คือซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ผู้เคยมีทุกอย่าง ยกเว้น “เธอ” เธอ...คือ ดีไซเนอร์สาว ผู้หนีจากบางอย่างในอดีต โดยคิดจะไม่หันกลับไป สองปีแห่งการหายตัวหนึ่งคำถามที่ไม่เคยได้คำตอบ และโชคชะตาที่พาเขามายืนตรงหน้าเธออีกครั้ง—ในวันที่เธอไม่ใช่ "เธอคนเดิม"
View Moreสองปีแล้ว...ที่ เธอหายไป
หายไปจาก ทุกช่องทาง ทุกพื้นที่ นอกจากหัวใจของเขา----ยากที่จะลืม
อึก... อึก... อึก...
เสียงกลืนเหล้าจากขวดขนาด 1.5 ลิตร ดังขึ้นในความเงียบ ของเหลวสีน้ำตาลไหลผ่านลำคออย่าง ไร้รส ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงตามแรงกลืนจนแทบสำลัก
เพล้ง! ขวดแก้วถูกเหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ลังเล เศษแก้วแตกกระจายทั่วพื้นไม้ กลิ่นแอลกอฮอล์ราคาแพงระเหยฟุ้ง คลุ้งไปทั่วห้อง แต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่กลางห้องนั้นกลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
เฉิงชิงอี หรือที่โลกทั้งใบเรียกเขาด้วยชื่อบนเวทีว่า Dion (ไดออน)—เทพเจ้า ศิลปินหนุ่มลูกครึ่งจีน–เกาหลี วัย 29 ปี ผู้ที่เคยถูกยกย่องให้เป็นปรากฏการณ์ของวงการเพลงแห่งเอเชีย ใบหน้าหล่อคม ผิวขาวสะอาด ดวงตาดำสนิทที่แฝงความลึกลับ ส่วนสูง 184.8 เซนติเมตรที่มักทำให้เขาดูโดดเด่นเสมอ พรสวรรค์ด้านดนตรีที่เขาขัดเกลาตั้งแต่อายุ 15 ปี ส่งเขาสู่จุดสูงสุดของวงการไอดอนอย่างสง่างาม
แต่เบื้องหลังชื่อเสียง ความสำเร็จ และแสงแฟลชนับพัน... คือหัวใจที่พังยับเยินจากการถูกหักหลัง
โดยคนที่เขาเคยไว้วางใจมากที่สุด—ผู้จัดการส่วนตัวของเขาเองและเพราะเหตุการณ์นั้น…เขาจึงต้อง “เสียเธอไป”
สองปีแล้ว...ไม่มีแม้แต่เงาของเธอ
ไม่มีแม้แต่ร่องรอยว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
เขาทุ่มหมดหน้าตัก—เงิน เส้นสาย อิทธิพล กระทั่งมือสกปรกที่สุดในเงามืด นักสืบนับร้อยคน... แต่ผลที่ได้กลับมีเพียงความว่างเปล่า...
ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน...เธอก็เหมือนคนที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกนี้เลย
เขาหลับตาลงแต่ภาพของเธอในความทรงจำกลับชัดเจนยิ่งกว่าทุกสิ่งในโลกนี้
วันนั้น...วันที่เธอยื่นร่มให้เขาใต้สายฝน ริมฝีปากของเธอยิ้มบาง ๆ ขณะเอ่ยเบา ๆ ว่า
“ฉันเกลียดเวลาคุณเปียกฝน… มันทำให้คุณดูเศร้าเกินไป”
เธอไม่ใช่แฟนคลับ
ไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน
ไม่ใช่คนในวงการ
แต่เธอเป็นแค่ “คนธรรมดา” ที่มองเขา...ในแบบที่ไม่มีใครเคยมอง
คนเดียวที่เขาเคยเชื่อใจ...
และคนเดียวที่เขาทำหายไป...
โทรศัพท์ของเธอปิดเงียบตั้งแต่วันนั้น บัญชีธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว กล้องวงจรปิดของโรงแรมที่เธอพัก…ไม่มีแม้แต่เงาของเธอปรากฏแม้เพียงเฟรมเดียว มันเหมือนเธอถูก "ลบ" ออกจากโลกใบนี้...
...หรืออาจจะถูกใครบางคน “ซ่อน” ไว้ตั้งแต่แรก
คิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่น สายตาคมกริบจ้องหน้าจอมือถือนิ่ง ราวกับถ้ามันมีชีวิต ก็คงไหม้เป็นจุณในเสี้ยววินาที
ครืน... ครืน...
เสียงสั่นจากมือถือดังซ้ำ ๆ อย่างน่ารำคาญ แต่เฉิงชิงอีกลับปัดหน้าจอทิ้งอย่างหัวเสีย
ติ่ง... ติ่ง...
การแจ้งเตือนจากกรุ๊ปไลน์ “KigGuy4” โผล่ขึ้นกลางหน้าจอ
BomBom:/ มึงอยู่ไหน ซอนาบอกว่านายยังไม่ถึงสนามบินเลย เรื่องหัวใจมึง กูเข้าใจนะโว้ย
แต่งานก็คืองาน อย่าทำให้ความพยายามตลอดหลายสิบปีพังดิวะ/Kimho: /มันอ่าน แต่ไม่ยอมตอบวะ/
BomBom: /ถ้ามันไม่ตอบ กูไม่บอกว่าน้องอยู่ไหน/
แนบรูปหญิงสาว
ไดออนจ้องภาพหญิงสาวในมือถือ ดวงตาแดงก่ำ กรามซ้ายขบแน่นจนเส้นเอ็นขึ้น แทบเป็นตะคริว มือกดพิมพ์ตอบกลับอย่างหงุดหงิด
Dion: /มึงมีไร/
Kimho: /โห... พูดกับเพื่อนให้ไพเราะหน่อยครับท่านพี่! /
Dion: (ส่งสติกเกอร์รูป “ตีน”)
Kimho: /เซี่ยพากูไปส่ง รพ. ด่วน กูนี่โดนตีนเต็ม ๆ ว้อย!/
BomBom: /ยัง ยังไม่หยุดเล่นกันอีก! 555/
BomBom: /กู/
/แค่/
/จะ/
/บอกว่า…/
Kimho: /ควาย! มึงจะพิมพ์ทีเดียวไม่ได้รึไง กูลุ้นจนจะเยี่ยวราดอยู่แล้วเนี่ยะ!/
BomBom: /น น อ ง ไ ท ย.../
ที่พิมพ์ติดขัดเพราะขณะนั้นน้องชายของเขา กำลังถูกลุกล้ำด้วยปากของสาวหมวยนมใหญ่ ผู้บุกตะลุยโดยไม่ให้หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างโอยองบอมตั้งตัวได้ทัน
ใช่…เขาคือ บอมบอม หรือ โอยองบอม นักธุรกิจหนุ่มอายุยังไม่ถึงสามสิบ แต่ครองตำแหน่ง CEO แห่ง BBOOM Entertainment ค่ายเพลงที่เขาก่อตั้งร่วมกับไดออนนับตั้งแต่วันเดบิวต์ นอกจากเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ พวกเขายังเป็นเพื่อนรักที่ฟาดกันได้ทุกคำ
Kimho: /ค ว ... แล้วจะรู้เรื่องไหม กูไปเข้าฉากก่อนละ ภารกิจของมึงเสร็จเมื่อไหร่ ค่อยพิมพ์มาตรง ๆ หน่อยแล้วกัน วู้ววว!/
คิมโฮ—พระเอกหนุ่มหน้าหวาน เจ้าของฉายา “ดอกไม้งามแห่งเกาหลี” พิมพ์ข้อความจบก่อนวิ่งแจ้นเข้าสตูดิโอถ่ายทำแบบไม่เหลียวหลัง
Christ: …
BomBom: /น น อ ง ไ ท ย/
ไดออนจ้องภาพหญิงสาวในมือถือด้วยสายตาเศร้า มือกำแน่น น้ำตาไหลรินโดยไม่มีคำอธิบาย
‘ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน…ผมขอโทษ…ผมขอโทษ…’
หยดน้ำตาของลูกผู้ชายร่วงลงบนหน้าจอ เขาไม่ได้ร้องเพราะความอ่อนแอ แต่เพราะรู้ดีว่า…
เขากำลังกลายเป็นคนที่เขาเคยเกลียด
คนที่พยายามตามหาใครสักคน เพียงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า “ยังมีอะไรให้ยึด”
‘เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยากเจอเธอเพราะคิดถึง...หรือเพียงเพราะเขาไม่เหลือใครอีกแล้ว’
‘แต่มีสิ่งเดียวที่เขารู้แน่—หากไม่ได้เจอเธอ...เขาอาจสูญเสียแม้แต่ตัวตนของตัวเอง’
ชายหนุ่มลุกจากโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์หนึ่งที่เขาไม่อยากโทรหาที่สุด แต่ก็เลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว
“ซอนา…ติดต่อทีม…ฉันต้องรู้ว่าเธออยู่ไหน”
“ไดออน นายอยู่ที่ไหน? ทำไมยังไม่มาที่สนามบิน?”
เสียงจากปลายสายของซอนา ผู้จัดการสาวใจหนุ่ม ฟังดูทั้งหงุดหงิดและร้อนใจ
“นักข่าว แฟนคลับ กำลังรอส่งนายอยู่นะ!”
ไดออนไม่ตอบอะไรนอกจากเอ่ยสั้น ๆ
“จองไฟลท์ใหม่ ฉันจะเดินทางพรุ่งนี้”
จากนั้นก็ตัดสายทิ้งโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายยังพูดไม่จบ
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งวาง!”
เสียงของซอนาตะโกนลั่น ก่อนจะสบถกับตัวเอง
“แล้วนัดคุยกับทีมดริฟต์รถโชว์ล่ะ? รูปแบบการแสดงที่ต้องเช็กด้วยกันอีก เฮ้อ…บ้าตายชะมัด!”
มือหนึ่งจับโทรศัพท์ อีกมือขยี้ผมตัวเองจนยุ่งไม่เป็นทรง
จังหวะนั้น มีนักข่าวคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ พร้อมยิงคำถามทันควัน
“เกิดอะไรขึ้นกับไดออนครับ?”
ซอนาสะดุ้งเล็กน้อย แต่รีบตั้งสติ ก่อนแปรเปลี่ยนสีหน้าทันที เธอยิ้มบาง โค้งตัวอย่างสุภาพ ก่อนเอ่ยเสียงชัด
“ไม่มีอะไรค่ะ ไดออนมีปัญหาส่วนตัวเล็กน้อย อาจต้องเลื่อนการเดินทางเป็นพรุ่งนี้ ทางเราต้องขอโทษแฟน ๆ ทุกท่าน รวมถึงสื่อมวลชนที่รออยู่ด้วยนะคะ”
จากนั้นเธอหันกลับไปพูดกับกล้องที่ทีมงานไลฟ์อยู่
“ทางเราและไดออน ยินดีชดเชยด้วยการจัดแฟนมิตติ้งสุดพิเศษ ขอเชิญแฟน ๆ ทุกท่านลงชื่อกับทีมงานได้เลยค่ะ”
ซอนา...หญิงสาวร่างบางผู้ครองตำแหน่ง “ผู้จัดการมือทอง” แห่งวงการบันเทิงเกาหลี เพิ่งเซ็นสัญญากับ BBOOM Entertainment ได้ไม่นาน แต่กลับต้องมารับไม้ต่อดูแลศิลปินระดับโลกที่ขาดความมั่นคงทั้งอารมณ์และหัวใจอย่าง...ไดออน
ประตูเกสต์เฮาส์เปิดออกอย่างแรง เธอหันไปตามเสียง แล้วถอนหายใจแรงทันที
“เฮ้อ...”
ซอนามองร่างสูงของไดออนในสภาพสะบักสะบอม เมาเละจนแทบไม่เหลือเค้าศิลปิน
เธอเรียกแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด พร้อมหยิบมือถือโทรเคลียร์ตารางงานที่ไทย จัดการแทบทุกเรื่องในเวลาอันสั้น
“โชคดีที่วันนี้มีแค่ดูคิวการแสดงกับทีมเท่านั้น ไม่งั้น...ซวยกว่านี้แน่”
เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง ขณะลากร่างไอดอลระดับโลกขึ้นเตียงให้เรียบร้อย
ทันใดนั้น เธอชะงัก
“สนามบินสุวรรณภูมิ...ยังไม่ได้แจ้งแฟนคลับเลยนี่หว่า!”
ซอนารีบวิ่งไปเปิดคอมพิวเตอร์ กระแสจากโลกออนไลน์ในเกาหลีเริ่มขึ้นเทรนด์ไปแล้ว
‘ต้องหนักขนาดไหน ถึงเลื่อนการเดินทาง?’
‘ฉันเป็นห่วงเขาจัง สามีของฉัน…’
‘แม่จะนอนหลับได้ยังไง?’
‘เชื่อว่าไดออนของฉันต้องไม่เป็นอะไร’
‘ดังแล้วทำอะไรก็ได้เหรอ? ไม่เห็นใจแฟนคลับเลย’
ซอนามองหน้าจอถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ
“แก...มีคนรออยู่มากมายขนาดนี้ อย่าทิ้งตัวเองไปไกลกว่านี้เลยนะ...ไดออน”
ค่ำคืนงานเลี้ยงเล็ก ๆ หลังพิธีแต่งงานที่มิลาน สวนดาดฟ้าถูกแต่งแต้มด้วยไฟประดับสีอุ่น แสงจากโคมไฟระย้าสะท้อนแก้วแชมเปญบนโต๊ะกลม เสียงดนตรีแจ๊สคลอเบา ๆ เคล้ากับเสียงหัวเราะของแขกผู้ร่วมงานในบรรยากาศที่อบอวลด้วยความสุขข้าวหอมในชุดเดรสผ้าซาตินสีงาช้าง สะบัดชายกระโปรงเบา ๆ เดินออกมายังระเบียงที่ตกแต่งด้วยไม้เลื้อยและเทียนหอม ลมเย็นพัดปะทะใบหน้าเบา ๆ พร้อมกลิ่นดอกมะลิจากกระถางใกล้ตัวเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ข้อความใหม่เพิ่งถูกส่งเข้ามาไม่กี่นาที“พี่ขอโทษที่ไม่ได้ไปงานของน้อง...แต่เจี่ยเจียสัญญาว่า จะกลับไปมองรอยยิ้มที่สดใสของเธอในเร็วๆนี้นะ”ข้าวหอมอ่านจบก็เงียบงันไปครู่หนึ่ง ดวงตาเริ่มรื้นน้ำใส ๆ โดยไม่รู้ตัว เธอยิ้มบาง ๆ เหมือนต้องการซ่อนความรู้สึกไว้เพียงคนเดียว‘เจี่ยเจีย’ — สวีอิงหราน พี่สาวต่างแม่ของเธอ ผู้หญิงที่เคยทำให้เธอร้องไห้มากที่สุด…แต่ก็เป็นคนเดียวที่พร้อมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเธอที่สุดเช่นกันเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นด้านหลัง ก่อนที่วงแขนอบอุ่นจะโอบเอวเธอไว้แน่น กลิ่นโคโลญจ์อ่อน ๆ แบบเฉพาะของเขาแตะจมูกในทันที“พี่สาว...ส่งข้อความมาเหรอ?”เสียงทุ้มนุ่มของไดออนกระซิบถามเบา ๆ ใ
[เช้าวันต่อมา]แสงแดดยามเช้าเกลี่ยตัวบนผ้าห่มสีอุ่น อากาศในห้องไม่ได้หนาว แต่หัวใจสองดวงที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มนั้น…ร้อนกว่าอะไรทั้งหมดข้าวหอมค่อย ๆ ลืมตา เปลือกตาเธอกะพริบช้า ๆ รับกับแสงธรรมชาติที่สาดผ่านผ้าม่านเข้ามาอย่างนุ่มนวล เธอรู้สึกถึงไออุ่นจากคนที่อยู่ข้างหลัง วงแขนแข็งแรงที่กอดเธอไว้แน่นไม่ปล่อย ผิวของเขาแนบชิดหลังเธออย่างไม่มีช่องว่าง เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ ขับกล่อมให้หัวใจเธอสงบราวกับบทเพลงกล่อมนอนเธอยิ้มบาง ๆ พลางขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันขยับได้เต็มที่ เสียงทุ้มแหบจากด้านหลังก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา"อย่าขยับสิคะ..."เสียงนั้นทำให้เธอชะงัก หัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเขินอาย “ข้าวจะปลุกเฮีย…”"เมื่อคืนเฮียยังไม่พอเลย..."คำพูดที่ดังเบาข้างหูทำให้ใบหน้าข้าวหอมแดงก่ำ เธอพยายามขยับหนีด้วยความเขิน แต่ยิ่งเธอขยับ วงแขนของเขาก็ยิ่งกระชับแน่น"เฮีย…" เธอเรียกเสียงเบา"ข้าวเจ็บนะคะ..."เสียงหัวเราะต่ำ ๆ ดังจากลำคอของเขา กึ่งเอ็นดูกึ่งขี้เล่น เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ กระซิบที่ข้างหูเธออย่างนุ่มนวลแต่ลึกซึ้ง"แล้วเมื่อคืนร้องทำไมคะ..."คำถามที่ไม่มีเจตนาเย้าแหย่ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก
[หน้าห้องพักโรงแรม ที่จัดเป็นเรือนหอชั่วคราว– มิลาน เวลา 20:45 น.]ไดออนเปิดประตูห้องพักหรูบนชั้นดาดฟ้า ข้าวหอมในชุดเดรสยาวหลังเปลี่ยนออกจากชุดเจ้าสาวเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง“คืนนี้…” เธอพูดเสียงเบา“ไม่ต้องมีอะไรหวานมากก็ได้นะคะ แค่เราอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว”ไดออนยิ้มบาง“ถ้าเฮียบอกว่าเตรียมเทียน หอม กลีบกุหลาบ และไวน์ไว้หมดแล้วล่ะ…”“เฮีย—!” ข้าวหอมเขินจนหูแดง แต่ยังไม่ทันได้ดุจริง ๆ —ตึง! ตึง! ตึง!เสียงเคาะประตูดังลั่น พร้อมเสียงเจื้อยแจ้วโหวกเหวกคุ้นหู“เปิดเร็ว! เพื่อนเจ้าสาวขอเข้าตรวจห้อง!”“แค่มาเช็คว่าไม่มีพิธีแปลก ๆ แบบคล้องประตูอะไรเท่านั้นเอง!”“เฮียไดออนซ่อนกุหลาบใต้เตียงรึเปล่า เราขอดู!”ข้าวหอมเบิกตากว้าง ไดออนถอนหายใจแล้วหันไปกระซิบ“…ดวงใจกับมินยงมาแน่”ประตูเปิดออก —ดวงใจ, มินยง, และ คิมโฮ ยืนถือกล่องของขวัญ กับไวน์คนละขวด เดินเข้ามาแบบไม่รอเชิญ“อ๊ะ! บรรยากาศดีอยู่นะ” ดวงใจ หันไปรอบ ๆ“เฮียจัดได้มินิมอล ไม่เว่อร์นะ…ไม่เหมือนตอนขอแต่งงาน!”คิมโฮ ยกไวน์ขึ้นมา“เราเอาแชมเปญมาฉลองให้คืนแรกครับ!”“เฮียไดออน คนป๊อปปูลาร์อันดับหนึ่ง…ผู้ไม่เคยเป็นสามีใครมาก่อน!”ข้าวหอมเอามื
[โบสถ์หินเก่ากลางมิลาน – เวลา 11:11 น.]ไม่มีพรมแดง ไม่มีสื่อ ไม่มีเวทีระดับโลก มีแค่ห้องโถงแคบ ๆ ที่ประดับด้วยดอกลาเวนเดอร์แห้งบนแท่นไม้เรียงราย ผ้าม่านสีขาวบางปลิวเบา ๆ ตามแรงลมจากช่องหน้าต่าง เสียงเปียโนบรรเลงคลอด้วยท่วงทำนองเรียบง่าย แต่ทุกโน้ตชัดเจนราวกับสะท้อนอารมณ์ของวันพิเศษนี้หน้าประตูโบสถ์ —“ข้าวหอม…อย่าพึ่งเดินเข้าพิธีนะยะ!!”เสียงแหลมตื่นของหญิงสาวคนหนึ่งดังมาก่อนตัวจะปรากฏ ดวงใจในชุดเดรสโทนชมพูนู้ดวิ่งจ้ำพรวดมาด้วยรองเท้าส้นสูง กระแทกพื้นหินตึก ๆ จนแขกบางคนหันมามองเธอพุ่งเข้าประตูโดยไม่ทันชะลอ—โครม!“ว้าย!”ร่างของเธอกระแทกเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงในสูทดำสนิทเต็มแรง จนถุงของฝากในมือกระเด็นหล่นพื้น ขนมกล่องเล็ก ๆ กลิ้งออกมาอย่างอนาถ“ขอโทษค่ะ! ขอโทษจริง ๆ!” ดวงใจรีบย่อตัวลงเก็บของก่อนจะเงยหน้าขึ้น…แล้วก็ชะงักใบหน้าที่เธอเห็นคือ คริส — หนุ่มมาดนิ่งแห่ง BBOOM Entertainment ผู้มีออร่าระยะห่างแบบคนที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงง่ายเขาแค่ก้มเก็บของให้เธออย่างนิ่ง ๆ แล้วเอ่ยเบา ๆ น้ำเสียงต่ำ เรียบ ไม่เร่งเร้า“...รีบเหรอ”“ค่ะ รีบ…แต่ตอนนี้รีบเขินมากกว่า…” ดวงใจหลบสายตาทันที เสียงเธอเบา
[หน้าห้องพักผู้ป่วย – เวลา 10:10 น. วันถัดมา]เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมเสียงเจื้อยแจ้วที่แค่ได้ยินก็น่าปวดหัว“เปิดเร็วๆ แม่หญิงฟ่านเฉียน! นี่ข้าหอบของกินมาจากร้านดังนะยะ!”ไดออนสะดุ้งเฮือกจากที่กำลังหั่นแอปเปิล ข้าวหอมที่นั่งกินข้าวต้มอยู่บนเตียงถึงกับยิ้มกลั้นหัวเราะ“เสียงแบบนี้…ไม่ต้องเดาเลยว่าใคร”ประตูเปิดออก—ปรากฏร่าง เพื่อนสาวตัวแสบประจำแก๊ง Rice Design Group ใส่แว่นกันแดดตัวใหญ่ กระเป๋าสะพายสองใบ มือหิ้วถุงอาหารเกือบสิบถุงเหมือนจะมาปิกนิก“แก๊สสส! ยัยข้าว! ทำไมโทรหาแกไม่ได้เลยยะ!”เพื่อนเดินเข้ามาจุ๊บหน้าผากข้าวหอมแรงจนเธอเซไปข้าง“แม่! แกผอมไปนะ ห้ามอดข้าวอดน้ำเข้าใจมั้ย ช่วงนี้แฟนดารากำลังแรง อย่าเพิ่งอกหัก!”ไดออนสำลักน้ำอยู่ข้างเตียง ข้าวหอมหัวเราะกลั้นเสียง“ไม่มีอกหักค่ะ…แค่หัวใจบวมนิดหน่อย”“ว้ายยยยยยย!!!” เสียงเพื่อนแสบลากยาว “นี่ยังกล้าเล่นมุกอีกเหรอ!?”เธอวางถุงอาหารลงจนเต็มโต๊ะ “พวกเราเป็นห่วงจะตายห่า คิดว่าแกไปติดเกาะหรือโดนลักพาตัวไป!”ข้าวหอมกับไดออนสบตากันเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร…แค่ยิ้มจาง ๆ ที่มีความหมายเกินคำอธิบาย[อีกมุม – โทรศัพท์ของข้าวหอมสั่นเบา ๆ]เธอหย
เสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้นสองครั้ง ไดออนที่ยังยืนอยู่ใกล้เตียงข้าวหอม หันไปมอง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูอย่างเงียบ ๆชายหนุ่มหน้าตาอ่อนโยนในเสื้อคลุมสีเทาเรียบ เดินเข้ามาหน้าตามีแววกังวล — แต่เมื่อก้าวพ้นประตูมาเพียงไม่ก้าวเดียว เขาก็ชะงักดวงตาของเขามองตรงไปที่เตียง เห็นร่างของข้าวหอมนอนพิงหมอนอยู่ เส้นผมยุ่งนิดหน่อยจากการนอนนาน แต่ใบหน้าอ่อนแรงนั้นกำลังยิ้มให้เขา“เก๊อ…เกอ…” เสียงเธอเบาเหมือนสายลม กระซิบแผ่วราวกับกลัวมันจะหายไปสวีเฉียนเกอไม่พูดอะไรในทันที แววตาเขาไหววูบ เหมือนภาพในอดีตไหลย้อนกลับมาพร้อมกัน — เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เคยจับชายเสื้อเขาไว้แน่นในคืนที่ฝนตกแต่ที่ทำให้เขาชะงักจริง ๆ…ไม่ใช่แค่ข้าวหอมเขาหันไปมองผู้หญิงอีกคนที่นั่งหันหลังให้ข้างเตียง — ผมยาวรวบหลวมๆและไหล่ผอมบางนั้น ทำให้เขารู้สึกคุ้นอย่างประหลาด แม้จะมองไม่เห็นใบหน้า แต่ลางสังหรณ์บางอย่างกลับเต้นแรงขึ้นในใจเขาโดยไม่รู้สาเหตุ“…คุณคือ…” เขาถามออกมาเบา ๆ ด้วยความลังเลหญิงสาวคนนั้นค่อย ๆ หันหน้ากลับมาช้า ๆทันทีที่สายตาทั้งสองสบกัน — แม้จะไม่เหมือนในความทรงจำแม้จะไม่มีรอยยิ้มแบบที่เขาเคยจำได้แต่ดวงตาคู่นั้น…แวว
Comments