รุ่งเช้ามาเยือนพร้อมกับสายฝนพรำโปรยปรายลงมายังลอนดอน ไอหมอกจางๆ ปกคลุมไปทั่วบ้านพักของเอดิสัน บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นดูเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย เมื่อแสงแดดยามเช้าส่องกระทบใบหน้าของเมรี่ เฟรเดอริค อเล็กซานเดอร์ และเลดี้อลิซาเบธ ฮาร์ทเวลล์
"เราต้องไปที่บ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ให้เร็วที่สุดค่ะ" เลดี้อลิซาเบธกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "ฉันแน่ใจว่าต้องมีเบาะแสบางอย่างที่ตำรวจมองข้ามไป" "ผมเห็นด้วยครับ" อเล็กซานเดอร์พยักหน้า "เราจะเริ่มจากที่นั่น" เอดิสันกางแผนที่ลอนดอนบนโต๊ะ "บ้านพักของลอร์ดเจมส์อยู่ในย่านที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนัก" เมรี่ที่ต้นแขนยังคงมีผ้าพันแผลอยู่ มองไปที่แผนที่ "คุณเอดิสันคะ เราจะเข้าไปในบ้านโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็นได้อย่างไรคะ? ตำรวจน่าจะยังคงเฝ้าอยู่" "ผมได้เตรียมการไว้แล้วครับ" เอดิสันยิ้มเล็กน้อย "ผมรู้จักใครบางคนที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจได้ชั่วคราว" พวกเขาออกเดินทางไปยังบ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่สไตล์จอร์เจียที่ดูโอ่อ่าแต่กลับมีบรรยากาศที่เงียบเหงาเกินไป ประตูหน้าถูกปิดตายด้วยป้าย "ห้ามเข้า: เขตสืบสวนคดี" และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายยืนเฝ้าอยู่ ตามแผนการที่วางไว้ รถตู้ขนส่งของบริษัทซักรีดแห่งหนึ่งที่เอดิสันจัดเตรียมไว้ ก็แล่นเข้ามาจอดขวางหน้าบ้านพักพอดี พนักงานคนหนึ่งที่แต่งกายเหมือนคนส่งผ้า พยายามทำทีเป็นกำลังเร่งรีบ และบังเอิญทำกล่องผ้าขนาดใหญ่หล่นขวางทางเดิน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาช่วยจัดการ ในจังหวะชุลมุนนั้น เอดิสันก็พาเมรี่และคณะแทรกตัวเข้าไปในบ้านพักได้อย่างแนบเนียน ร่องรอยแห่งความลับ ภายในบ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์นั้นเงียบสงัดและมืดสลัว แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟที่ตำรวจทิ้งไว้ ส่องกระทบกับเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกคลุมด้วยผ้าคลุมสีขาว เหมือนกับบ้านร้างที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายปี กลิ่นอับชื้นและกลิ่นคาวเลือดจางๆ ยังคงคละคลุ้งในอากาศ สร้างบรรยากาศที่น่าขนลุก "พี่เจมส์ถูกพบเสียชีวิตในห้องสมุดของเขาค่ะ" เลดี้อลิซาเบธกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอเดินนำทางพวกเขาเข้าไปในห้องสมุด ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน ผนังเต็มไปด้วยชั้นหนังสือสูงเสียดเพดาน เมรี่มองไปรอบๆ ห้อง ตำรวจได้ทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้ว มีร่องรอยการต่อสู้ที่ชัดเจน เฟอร์นิเจอร์ล้มคว่ำ หนังสือกระจัดกระจายอยู่บนพื้น สิ่งของหลายอย่างถูกทำลาย แต่สิ่งที่เมรี่สังเกตเห็นได้ทันทีคือความรู้สึกบางอย่างที่ผิดปกติ มันไม่ใช่แค่ห้องที่ถูกรื้อค้น แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่สำคัญถูกซ่อนไว้ "ทางการบอกว่าเขาฆ่าตัวตาย" อเล็กซานเดอร์พึมพำขณะสำรวจร่องรอยบนพื้น "แต่จากร่องรอยการต่อสู้ ผมว่ามันไม่ใช่การฆ่าตัวตายแน่นอน" เฟรเดอริคก้มลงมองที่พื้น "ดูนี่สิครับ! มีรอยรองเท้าบูทขนาดใหญ่ตรงมุมห้อง" เขามองไปที่เลดี้อลิซาเบธ "พี่ชายของคุณใส่รองเท้าบูทขนาดใหญ่แบบนี้ไหมครับ?" เลดี้อลิซาเบธส่ายหน้า "ไม่ค่ะ พี่เจมส์ไม่เคยใส่รองเท้าบูทแบบนี้เลย" "นั่นยืนยันว่ามีคนร้ายเข้ามาในบ้านครับ" เอดิสันกล่าว "และคนร้ายคนนั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' เพราะรอยรองเท้าบูทนี่เหมือนกับรอยที่ผมเคยเห็นที่โกดังและบิ๊กเบน" เมรี่เดินไปที่โต๊ะทำงานของลอร์ดเจมส์ ซึ่งถูกรื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจาย เธอเห็นลิ้นชักที่เปิดอ้าอยู่ และสมุดบันทึกที่เลดี้อลิซาเบธบอกว่าหายไป ก็ไม่พบที่นี่ "สมุดบันทึกเล่มนั้นสำคัญมากจริงๆ ค่ะ" เมรี่กล่าว "คนร้ายต้องเอาไปแน่ๆ" อเล็กซานเดอร์เดินไปที่ชั้นหนังสือ เขาไล่มือไปตามสันหนังสือแต่ละเล่ม "พี่เจมส์เป็นคนละเอียดอ่อนมากครับ เขาจะต้องทิ้งเบาะแสอะไรบางอย่างไว้แน่นอน" ปริศนาใต้พรม ในขณะที่ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการค้นหา เมรี่ก็สังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ เธอเห็นรอยยับเล็กๆ บนพรมเปอร์เซียผืนใหญ่ที่ปูอยู่กลางห้อง ราวกับว่ามีสิ่งของหนักๆ เคยถูกลากไปบนนั้น "คุณเอดิสันคะ ดูนี่สิคะ" เมรี่ชี้ไปที่รอยยับบนพรม เอดิสันก้มลงมอง เขาใช้มือคลำไปตามรอยยับนั้น แล้วก็พบว่าพรมผืนนั้นไม่ได้ปูอยู่บนพื้นไม้ธรรมดา แต่มี ช่องว่างเล็กๆ อยู่ใต้พรมตรงบริเวณนั้น "เป็นไปได้ว่ามีอะไรบางอย่างถูกซ่อนอยู่ใต้พรมครับ" เอดิสันกล่าว เขาและอเล็กซานเดอร์ช่วยกันเลื่อนเฟอร์นิเจอร์ที่ขวางทางออกไป แล้วยกพรมขึ้น เมื่อพรมถูกยกขึ้น พวกเขาก็พบกับ แผ่นไม้เก่าๆ ที่ถูกวางทับอยู่บนพื้นไม้จริง มันดูเหมือนจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของพื้นบ้าน "นี่แหละครับ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "ต้องมีอะไรซ่อนอยู่ใต้แผ่นไม้นี้แน่ๆ!" เอดิสันใช้เครื่องมือพยายามงัดแผ่นไม้นั้นออก มันถูกยึดไว้อย่างแน่นหนา และดูเหมือนจะมีร่องรอยการงัดแงะมาก่อนแล้ว "ดูเหมือนจะมีคนพยายามจะเปิดมันก่อนเราแล้วครับ" เอดิสันกล่าว "แต่ไม่สำเร็จ" ในที่สุด หลังจากพยายามอยู่พักใหญ่ เอดิสันก็สามารถงัดแผ่นไม้นั้นออกได้สำเร็จ ภายใต้แผ่นไม้นั้นคือ ช่องว่างแคบๆ ที่มีกล่องเหล็กขนาดเล็กซ่อนอยู่ "เจอแล้ว!" เมรี่อุทานด้วยความตื่นเต้น เธอรีบหยิบกล่องเหล็กขึ้นมา กล่องนั้นหนักพอสมควร และถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา "คุณเอดิสันคะ ช่วยเปิดให้หน่อยได้ไหมคะ?" เมรี่ถาม เอดิสันรับกล่องเหล็กมา เขาใช้เครื่องมือสะเดาะกุญแจอย่างรวดเร็ว เสียงแกร๊กเบาๆ ดังขึ้น แล้วฝากล่องก็เปิดออก ภายในกล่องมีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือ ม้วนกระดาษโบราณ ที่ถูกผูกด้วยเชือกเส้นเล็กๆ และมี กุญแจทองเหลืองรูปสัญลักษณ์แปลกๆ วางอยู่ข้างๆ "นี่คืออะไรคะ?" เมรี่ถาม เอดิสันคลี่ม้วนกระดาษออก ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนนั้น มันไม่ใช่รหัสลับ แต่เป็น แผนผังของอุโมงค์ใต้ดิน ที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง ทอดตัวอยู่ใต้ใจกลางลอนดอน และมีจุดสีแดงหลายจุดทำเครื่องหมายไว้ "นี่คือเบาะแสสู่ 'ขุมทรัพย์แห่งความรู้' ครับ!" เอดิสันกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "และกุญแจดอกนี้ก็น่าจะเป็นกุญแจสำหรับเปิดประตูบางอย่างในอุโมงค์นั้น!" "แล้วจุดสีแดงพวกนี้คืออะไรคะ?" เฟรเดอริคถาม "ผมไม่แน่ใจครับ" เอดิสันตอบ "แต่มันอาจจะเป็นจุดที่ 'เงาแห่งลอนดอน' ใช้เป็นที่ซ่อน หรือเป็นจุดสำคัญบางอย่าง" เลดี้อลิซาเบธมองแผนผังด้วยความหวัง "พี่ชายของฉันต้องเป็นคนซ่อนสิ่งนี้ไว้แน่ๆ เลยค่ะ เขาพยายามจะเปิดโปงความลับขององค์กรนี้" ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงกระจกแตกดังสนั่นจากหน้าต่างห้องสมุด! เผชิญหน้าในบ้านร้าง ชายฉกรรจ์ในชุดดำหลายคนกระโดดเข้ามาในห้องสมุดอย่างรวดเร็ว พวกเขาสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า และถือปืนพกอยู่ในมือ "พวกแกหนีไม่พ้นหรอก!" ชายคนหนึ่งตะโกน "ส่งแผนผังนั่นมาให้เราซะ!" การปะทะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันอีกครั้ง อเล็กซานเดอร์และเอดิสันพุ่งเข้าใส่คนร้ายทันที เฟรเดอริคที่ยังคงบาดเจ็บ พยายามปกป้องเมรี่และเลดี้อลิซาเบธ "หนีไปครับ!" เฟรเดอริคตะโกน "ผมจะถ่วงเวลาไว้เอง!" เมรี่รู้ว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก เธอคว้ามือเลดี้อลิซาเบธไว้แน่น "ไปค่ะ!" พวกเขาพุ่งตัวออกไปจากห้องสมุด วิ่งไปตามโถงทางเดินที่มืดมิด เสียงปืนดังไล่หลังมาติดๆ เมรี่รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความกลัว แต่เธอก็ต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องเลดี้อลิซาเบธ "ไปทางไหนคะคุณเอดิสัน!" เมรี่ตะโกน "ไปทางห้องครัวครับ! น่าจะมีทางออกด้านหลัง!" เอดิสันตอบ เขาตามมาสมทบกับพวกเขาหลังจากจัดการกับคนร้ายไปได้สองสามคน พวกเขาวิ่งเข้าไปในห้องครัวที่เต็มไปด้วยเครื่องครัวที่ถูกคลุมผ้าไว้ เสียงแตกของจานชามที่ถูกกระแทกดังสนั่นเมื่อพวกเขาชนเข้ากับสิ่งของต่างๆ คนร้ายยังคงไล่ตามมาไม่ลดละ "เร็วเข้าครับ!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน เขาพยายามเปิดประตูหลังห้องครัว แต่มันถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา "ไม่นะ! มันถูกล็อก!" เมรี่อุทานด้วยความสิ้นหวัง เสียงฝีเท้าของคนร้ายดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มิสเตอร์คลาร์กปรากฏตัวขึ้นที่ประตูห้องครัว ใบหน้าของเขาดูถมึงทึงและเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ดวงตาของเขาจ้องตรงมาที่แผนผังในมือของเมรี่ "ส่งมันมาให้ข้าซะ!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกน "ไม่มีทางหรอก!" เมรี่ตอบอย่างท้าทาย ในจังหวะวิกฤตนั้น เอดิสันเหลือบไปเห็นช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือเตาผิงเก่าๆ "ไปทางนั้นครับ!" เอดิสันตะโกน "มันน่าจะนำไปสู่ห้องเก็บของด้านนอก!" อเล็กซานเดอร์จัดการยกตัวเมรี่และเลดี้อลิซาเบธขึ้นไปบนช่องระบายอากาศได้อย่างรวดเร็ว เฟรเดอริคตามขึ้นไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากเขายังบาดเจ็บอยู่ "พวกแกคิดว่าจะหนีพ้นอย่างนั้นหรือ!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกน เขายกปืนขึ้นเล็ง แต่ยังไม่ทันที่มิสเตอร์คลาร์กจะเหนี่ยวไกปืน เอดิสันก็กระโดดเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือดอีกครั้ง เอดิสันพยายามถ่วงเวลาให้เมรี่และคนอื่นๆ หนีไปได้ เมรี่และคณะคลานไปตามช่องระบายอากาศที่มืดมิดและแคบ กลิ่นฝุ่นและสนิมคละคลุ้งไปทั่ว เสียงปืนและเสียงต่อสู้ดังแว่วมาจากด้านหลัง เมื่อคลานมาได้ไม่นาน พวกเขาก็พบกับช่องเปิดอีกช่องหนึ่งที่นำไปสู่พื้นด้านนอก ซึ่งเป็นสวนด้านหลังของบ้านพัก "ลงมาครับ!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน พวกเขากระโดดลงสู่พื้นดินอย่างรวดเร็ว เมรี่หันไปมอง เห็นเอดิสันกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับมิสเตอร์คลาร์ก เธอกลัวว่าเอดิสันจะเป็นอะไรไป "คุณเอดิสันคะ! รีบมาค่ะ!" เมรี่ตะโกน เอดิสันจัดการกับมิสเตอร์คลาร์กด้วยการใช้เครื่องครัวขนาดใหญ่ฟาดเข้าที่ศีรษะของเขาอย่างแรง มิสเตอร์คลาร์กล้มลงหมดสติ เอดิสันรีบวิ่งตามพวกเขาออกมาจากบ้านพัก "ไปครับ!" เอดิสันตะโกน "เราต้องไปจากที่นี่!" พวกเขาวิ่งไปที่รถยนต์ที่จอดรออยู่ เอดิสันกระโดดขึ้นไปนั่งที่คนขับ และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้บ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ และความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความตายของเขาไว้เบื้องหลัง เมรี่มองไปที่แผนผังอุโมงค์ใต้ดินในมือของเธอ เธอรู้ว่าการตามหา 'ขุมทรัพย์แห่งความรู้' จะนำพวกเขาไปสู่ใจกลางของ 'เงาแห่งลอนดอน' และความจริงเกี่ยวกับ 'ปรมาจารย์แห่งเงา' ที่ซ่อนอยู่ในความมืดมิด และตอนนี้พวกเขาก็มีภารกิจเพิ่มเติม นั่นคือการไขคดีฆาตกรรมของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ เพื่อล้างแค้นให้พี่ชายของเลดี้อลิซาเบธเสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นไปทั่วศูนย์บัญชาการลับขององค์กร 'กาลเวลา' แสงไฟสีแดงกะพริบไปมา สร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและอันตรายยิ่งกว่าเดิม เมรี่และทีมต้องเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดวิลเลียมส์และเหล่า 'ยมทูต' ที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง"พวกแกไม่มีทางทำลาย 'แกนกลาง' ของข้าได้หรอก!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำราม "ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว!"เขากดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในข้อมือของเขา และทันใดนั้นเอง กำแพงเหล็กขนาดใหญ่ก็เลื่อนลงมาปิดกั้นทางเข้าออกทุกทาง ทำให้พวกเขาติดอยู่ในห้องควบคุมแห่งนี้"ไม่นะ!" เฟรเดอริคอุทาน "เราติดกับแล้ว!""ไม่ต้องห่วงครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ผมรู้ทางออกครับ!"เขาชี้ไปที่ช่องระบายอากาศขนาดเล็กที่อยู่บนเพดาน "เราต้องเข้าไปในนั้น!"แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ท่านลอร์ดวิลเลียมส์ก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขามีพละกำลังและความว่องไวที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปราวกับว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยเสริม"แกจะต้องเป็นคนแรกที่ตาย!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำรามใส่เมรี่เมรี่หลบการโจมตีของเขาได้อย่างหวุดหวิด เธอใช้มีดสั้นป้องกันตัวเองจากคมมีดของท่านลอร์ดวิลเลียมส์ที่พุ่งเ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข
สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ลอนดอน ชีวิตของเมรี่และทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เป็นแค่นักสืบธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิดโปงองค์กรลับที่สั่นสะเทือนสังคมอังกฤษทั้งประเทศ ข่าวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และชื่อของตระกูลแบล็ควู้ดก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้เช้าวันหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งจากราชสำนักได้ส่งมาถึงพวกเขา มันเป็นจดหมายเชิญให้พวกเขาไปรับรางวัลเกียรติยศที่พระราชวังบักกิงแฮม ในฐานะผู้ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญของประเทศ"นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราจะได้ไปพระราชวังบักกิงแฮม!""เราไม่ได้ไปเที่ยวครับพี่เฟรเดอริค" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราไปในฐานะผู้ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัล"เมรี่มองไปที่จดหมายเชิญ เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจทราบสาเหตุ"ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ" เอดิสันกล่าว "เราจะไปพระราชวังกันวันนี้"พวกเขาแต่งกายในชุดสูทและชุดราตรีที่ดูสง่างาม และนั่งรถม้าคันหรูที่ราชสำนักส่
ท้องฟ้าเหนือลอนดอนเป็นสีเทาหม่น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านก้อนเมฆหนาทึบ บรรยากาศเงียบสงัดราวกับกำลังรอคอยบทสรุปของเรื่องราวที่ยืดเยื้อมานาน เมรี่และทีมยืนเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดเอียน เกรย์ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและอำมหิต"คิดว่าการจับกุมผู้การฟิลลิปส์จะหยุดย้าข้าได้งั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนกล่าว "ข้าคือ 'ท่านลอร์ดผู้สูงศักดิ์' ที่แท้จริง และพวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ตรงนี้!"เขาไม่ได้มาคนเดียว ชายฉกรรจ์ในชุดดำหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด รายล้อมพวกเขาไว้จากทุกทิศทาง"พวกแกมีกันแค่หกคน" ท่านลอร์ดเอียนเยาะเย้ย "จะสู้กับคนจำนวนมากอย่างพวกเราได้อย่างไร!""เราสู้เพื่อความถูกต้อง!" เมรี่ตะโกน "ความจริงจะเปิดเผยทุกอย่าง!""ความจริงอย่างนั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนหัวเราะ "ข้าคือความจริง! ข้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของลอนดอน!"การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว!เบ็นกับเอดิสันที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พยายามเข้าจัดการกับลูกสมุนของท่านลอร์ดเอียนอย่างสุดกำลัง เฟรเดอริคกับอเล็กซานเดอร์ต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อปกป้องเลดี้อลิซาเบธ เมรี่คว้ามีดสั้นที่มิสเตอร์คลาร์กเก็บไว้ให้เ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กจอดนิ่งอยู่ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน ผู้การฟิลลิปส์ยืนจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจเสียอีก"ส่งสมุดบันทึกนั่นมาให้ข้า!" ผู้การฟิลลิปส์คำราม "แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกแกทุกคน!""ไม่มีทางหรอก!" อเล็กซานเดอร์ตอบ เขาคว้าปืนพกที่เก็บซ่อนไว้ในรถขึ้นมาเล็งไปที่ผู้การฟิลลิปส์"คิดว่าปืนกระบอกเดียวจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ!" ผู้การฟิลลิปส์ยิ้มเยาะ "ข้ามีกำลังคนมากกว่าที่พวกแกคิดนัก!"ทันใดนั้นเอง ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดข้างๆ ผู้การฟิลลิปส์ แล้วชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำหลายคนก็ลงมาจากรถ"นี่ไง! พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ที่นี่แล้ว!" หนึ่งในนั้นตะโกนสถานการณ์ดูเลวร้ายลงเรื่อยๆ เมรี่รู้ว่าพวกเขาตกอยู่ในวงล้อมแล้ว"เราต้องสู้ครับ!" เอดิสันกล่าว เขาพยายามพยุงตัวเองให้ยืนได้ด้วยขาที่บาดเจ็บ"เราจะสู้ด้วยกัน!" เลดี้อลิซาเบธกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด!เฟรเดอริคและเบ็นพุ่งเข้าใส่ลูกสมุนของ 'เงาแห่งลอนดอน' อย่างรวดเร็ว พวกเขาต่อสู้กันอย่างไม่ลดละ ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็ยิงปืนใส่คนร้ายอย่างแม่นยำเมรี่และเอดิสัน
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในร้านอาหาร เมรี่ก็ได้ที่อยู่จากจดหมายที่อยู่ในมือของชายชราผู้ล่วงลับ มันเป็นที่อยู่ของบ้านหลังหนึ่งที่ดูเก่าแก่ในย่านชานเมืองของแมนเชสเตอร์ เมรี่รู้ว่าเธอต้องไปที่นั่นเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถไปคนเดียวได้"ฉันต้องหาทางติดต่อพี่ชายให้ได้" เมรี่พึมพำกับตัวเองในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น เธอก็เห็นรถตำรวจคันหนึ่งแล่นผ่านมา เธอจำตำรวจนายนั้นได้ทันที เขาคือตำรวจที่เคยช่วยเธอไว้ที่ร้านอาหาร!"คุณเมรี่!" ตำรวจนายนั้นกล่าว "คุณกำลังจะไปไหนครับ!""ฉันต้องไปที่ที่อยู่แห่งหนึ่งค่ะ" เมรี่ตอบ "มันอาจจะเกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' "ตำรวจนายนั้นมองไปที่เมรี่ด้วยความสงสัย "ผมไม่คิดว่าคุณควรไปคนเดียวนะครับ""ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วค่ะ" เมรี่ตอบ "เพื่อนและพี่ชายของฉันถูกจับตัวไป และฉันต้องหาทางช่วยพวกเขาให้ได้"ตำรวจนายนั้นมองไปที่เมรี่ด้วยความประทับใจในความกล้าหาญของเธอ "ผมจะไปกับคุณครับ"เมรี่เบิกตากว้าง "คุณจะไปกับฉันอย่างนั้นหรือคะ?""ใช่ครับ" ตำรวจนายนั้นตอบ "ผมเชื่อในสิ่งที่คุณพูด และผมเชื่อว่าคุณกำลังต่อสู้เพื่อความถูกต้อง"เมรี่รู้สึกดีใจ เธอรู้