ทุกคนต่างช่วยกันขนกล้วยกลับเหลาอาหารจนเต็มสองมือ เมื่อมาถึงที่ร้านก็ยามซื่อ (คือ 09.00 - 10.59 น.) กำหนดเวลาเริ่มทำงานของพนักงานในร้านต่างเริ่มปัดกวาดเช็ดถูพื้น โต๊ะ เก้าอี้ และแม่ครัวก็รีบทำตามออร์เดอร์ที่ได้รับมาจากยอดสั่งจองเมื่อวานนี้ ฟางหรงเมื่อเห็นเด็ก ๆ มากันแล้วและยังถือกล้วยมาอีก
"ได้กล้วยมาเยอะแยะพวกเจ้าจะเอาไปทำอะไรกัน?" "ท่านพ่อ เหมยเอ๋อร์บอกว่าจะทำอาหารแบบใหม่ให้กินขอรับ" "ใช่เจ้าค่ะ ข้าจะดูว่าฮุ่ยเหมยจะเอากล้วยดิบมาทำอะไร" ลี่จูกล่าวกับฟางหรง ทำให้ทุกคนในร้านก็อยากรู้เหมือนกัน "งั้นพวกเรามาช่วยกันทำกันเถอะเจ้าค่ะ" ฮุ่ยเหมยเอ่ยบอกกับทุกคนและบอกให้ทุกคนปอกเปลือกกล้วยทั้งดิบและสุกไว้ใส่จาน จากนั้นทุกคนก็เริ่มช่วยกันทำจนปอกเปลือกเสร็จแล้ว ฮุ่ยเหมยจึงบอกขั้นตอนต่อไปทันที "จากนั้นผ่าครึ่งกล้วยดิบและนำไปปิ้งจนสุกได้ที่ก็กินได้แล้วเจ้าค่ะ" "อืม เดี๋ยวพี่จะไปปิ้งให้" "คุณชายเดี๋ยวข้าช่วยท่านปิ้งเองขอรับ" เย่วเทียนที่ทำความสะอาดร้านเสร็จก็อาสาช่วยอีกแรง "รายการต่อไปคือแกงกล้วยดิบใส่เนื้อเจ้าค่ะ" เมื่อเด็กน้อยเอ่ยขึ้นทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 'หืม มันนำไปแกงได้ด้วยหรือเนี่ย' และฮุ่ยเหมยก็บอกวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ท่านพ่อจึงเป็นคนไปซื้อเนื้อสดกับมะพร้าวที่เป็นตัวเอกในการทำมา ฮุ่ยเหมยจึงขอท่านพ่อไปด้วย ท่านพ่อตกลงและทั้งสองคนก็เดินไปไม่ไกลก็ถึงร้านขายเนื้อหมู "เชิญสั่งได้เลยนายท่าน ชั่งละ 40 อีแปะขอรับ" "อืม ข้าเอา 2 ชั่ง" "ได้ขอรับนายท่าน" ฮุ่ยเหมยจึงคิดว่าทำไมท่านพ่อจึงไม่ค่อยซื้อเนื้อหมูมากินเพราะมันแพงมากนี่เองและเมื่อเห็นมันหมูก็คิดว่าจะทำกล้วยทอดด้วยจึงให้ท่านพ่อซื้อมันหมูไปด้วย "ท่านพ่อซื้อมันหมูไปด้วยเจ้าค่ะ" "หืม จะเอามันไปทำอะไรหรือลูก" "ข้าจะทอดกล้วยทอดเจ้าค่ะ" "อืมได้ ๆ เถ้าแก่ท่านขายมันหมูหรือไม่" "ข้าไม่ขายหรอกพ่อหนุ่ม นี่ นี่มีเยอะเลยถ้าอยากได้ข้าให้เจ้า" เถ้าแก่ชี้ไปที่แข่งใส่มันหมูที่มีหลายเข่ง "งั้นข้าขอซื้อจากท่านแล้วกันนะ" "อ้อ ได้ ๆ" "เดี๋ยวท่านไปส่งที่เหลาอาหารฮว๋าหงด้วยนะขอรับ" "ตกลง ๆ ข้าจะไปทานอาหารที่นั่นอยู่พอดี" "จริงหรือเถ้าแก่ ข้าเป็นเจ้าของร้านที่นั่นวันนี้ที่ร้านมีเมนูใหม่ด้วยนะขอรับ" "โอ้ จริงรึข้าจะไปอย่างแน่นอน" และท่านพ่อก็จ่ายเงินให้เถ้าแก่เป็นจำนวน 100 อีแปะและเดินออกมาซื้อมะพร้าว ในร้านขายผลไม้ส่วนมากมีแต่มะพร้าวอ่อนทั้งนั้น ฮุ่ยเหมยจึงถามเจ้าของร้านว่ามีมะพร้าวแก่หรือไม่ "เถ้าแก่มีมะพร้าวแก่หรือไม่เจ้าคะ" "มี มีเยอะเลยแม่หนูถ้าอยากได้ข้าคิดแค่ลูกละ 2 อีแปะเท่านั้น" "งั้นข้าซื้อมะพร้าวแก่ 2 ลูกมะพร้าวอ่อน 2 ลูกเจ้าค่ะ" "อ้อได้ ๆ เชิญเลือกได้เลย" ฮุ่ยเหมยจึงเลือกมะพร้าวไป 4 ลูกและท่านพ่อก็จ่ายเงินกับเถ้าแก่และเดินกลับร้าน เมื่อมาถึงหนิงหลงก็กำลังชิมกล้วยปิ้งที่ปิ้งเสร็จแล้ว เมื่อเห็นน้องสาวมาแล้วก็เอ่ยขึ้นด้วยความดีใจว่า "เหมยเอ๋อร์มันกินได้รสชาติพอใช้ได้เลยทีเดียว" "ถ้าอยากอร่อยกว่านี้ต้องกินกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดเจ้าค่ะ" "จริงหรือ งั้นต้องทำอย่างไรบ้าง" "อย่างแรกคือปอกมะพร้าวอ่อนและแก่ทั้งสองลูกแล้วขูดมะพร้าวให้ข้าก่อนเจ้าค่ะ" "ได้ ๆ งั้นพวกเราเข้าครัวไปช่วยกันทำดีหรือไม่" "เจ้าค่ะ/ขอรับ ท่านพ่อ" และก็พากันเข้าครัวทำน้ำจิ้มกล้วยปิ้งมะพร้าวอ่อน ทั้งสามคนก็เข้ามาในครัวที่แม่ครัวกำลังทำอาหารตามออร์เดอร์ที่ได้รับอย่างขะมักเขม้น เมื่อเห็นทั้งสามคนเข้ามาในครัวซิงเยียนจึงเอ่ยถามขึ้น “นี่เข้ามาในครัวมีลูกค้ามากันแล้วหรือเนี่ย” “อ้อ ยังหรอกพวกข้ามาทำอาหาร” “อ้อ ถ้าอย่างงั้นข้าขอไปทำอาหารต่อละ” “เชิญ เชิญ” ท่านพ่อกับหนิงหลงช่วยกันปอกมะพร้าวตามที่เด็กน้อยบอกจนเสร็จ และก็มีเสียงเรียกจากผู้ช่วยแม่ครัวว่า “นายท่านขอรับร้านขายเนื้อหมู นำมันหมูมาส่งขอรับ” “อ้อ มาแล้วรึ เอาเข้ามาเลย ๆ” และพนักงานก็ช่วยกันขนมันหมูเข้ามาในครัวที่มีมากถึง 10 เข่ง ท่านพ่อก็ไม่คิดว่าเถ้าแก่จะให้มาเยอะขนาดนี้แล้วคิดว่าถ้ามันกินไม่ได้คงต้องตีก้นลูกสาวตัวน้อยแล้วละทีนี้ “เหมยเอ๋อร์ แล้วเจ้าจะเอามาทำอะไร” “เอามันมาทอดเจ้าค่ะ ข้าจะเอาน้ำมันหมูมาทอดอาหารเจ้าค่ะ และกากหมูมาทานกับส้มตำได้ด้วยนะเจ้าคะ” “จริงหรือ งั้นพ่อจะไปก่อไฟและทอดให้เจ้า” “เจ้าค่ะ ข้าจะซอยหมูและทุบกระเทียมไว้ให้นะเจ้าคะ” “แล้วพี่ล่ะเหมยเอ๋อร์” “ท่านก็ขูดมะพร้าวไงเจ้าคะ” “อ้อได้ ให้พี่กินด้วยนะ” “ให้กินแน่นอนเจ้าค่ะ” “ได้ ๆ พี่จะรีบขูดมะพร้าวให้” และทุกคนก็ทำหน้าที่ได้รับมอบหมาย เมื่อท่านพ่อทอดไปเรื่อย ๆ เริ่มใกล้ ๆ กรอบแห้งแล้วให้ใส่กระเทียมทุบตามลงไป “ท่านพ่อเจียวจนหมูเป็นสีเหลืองทอง กรอบกำลังดีและกระเทียมเหลืองกรอบไปพร้อม ๆ กัน และระวังอย่าให้กระเทียมไหม้นะเจ้าค่ะ แล้วให้รีบตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันทันทีเลยเจ้าค่ะ เมื่อสะเด็ดน้ำมันแล้วโรยเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ทั่วก็เป็นอันเสร็จเจ้าค่ะ” ฟางหรงทอดเสร็จก็นำใส่ถ้วยใบขนาดกลางส่วนน้ำมันก็เทแยกเอาไว้ใช้นำใส่ไว้ในไห ฮุ่ยเหมยจึงหยิบมาเป่าให้เย็นและหยิบเข้าปากก็พบว่ากรอบอร่อยรสชาติใช้ได้ และฟางหรงก็นำมากินบ้างก็พบว่ามันกรอบอร่อยมาก และนำไปกินกับส้มตำที่บอกแม่ครัวทำไว้ให้จานหนึ่งก็พบว่ามันกินอร่อยเข้ากันไม่ต่างจากไก่ย่างเลย “เดี๋ยวพ่อนำไปขายด้วยดีหรือไม่” “ดีเจ้าค่ะท่านพ่อ จะขายเท่าไหร่ดีเจ้าคะ” “จานละ 10 อีแปะแล้วกัน” “ดีเจ้าค่ะ ขายไม่แพงทุกคนก็จะมาซื้อร้านเราเยอะ ๆ เจ้าค่ะ” “ดี ดี ดีเหมยเอ๋อร์เจ้าคือตัวนำโชคจริง ๆ ลูกรัก” ฟางหรงคว้าเอาเด็กน้อยมากอดด้วยความซาบซึ้งใจและดีใจที่ตัวเองช่างรู้ความยิ่งนัก “ไหน ๆ ข้ากินด้วยสิ” เสียงหนิงหลงเอ่ยขึ้นเมื่อตนขูดมะพร้าวเสร็จแล้ว เมื่อเห็นพี่ชายมาแล้วจึงหยิบไปให้พี่ชายชิมคำหนึ่ง “นี่เจ้าค่ะ” “อืมรสชาติกรอบอร่อยยิ่ง ข้าชอบมากเหมยเอ๋อร์” “ถ้าชอบก็กินเยอะ ๆ เจ้าค่ะ ท่านขูดมะพร้าวเสร็จแล้วหรือไม่" “อ้อ เสร็จแล้วเหมยเอ๋อร์” หนิงหลงเอยตอบและท่านพ่อก็ขอตัวออกไปทำงานเมื่อใกล้ถึงเวลาเปิดร้านแล้วเหลือแค่หนิงหลงกับฮุ่ยเหมย เมื่อจะถึงเวลาเริ่มเปิดร้านแล้ว ลี่จูจึงมาหาเพื่อนที่ในครัวและช่วยกันทำเมนูใหม่ที่ก่อนหน้านั้นทุกคนค้นพบว่ากล้วยดิบนำมาทำกินได้ และลี่จูก็นั่งกินอยู่ข้างนอกกับเหล่าพนักงานและท่านพ่อ เมื่อรู้ว่ากล้วยดิบกินได้จึงให้พนักงานไปขนกันมาหลายสิบเข่งเลยทีเดียว “ต่อไปข้าจะทำน้ำจิ้มกล้วยปิ้งให้ทานเจ้าค่ะ” “งั้นข้าจะมาเป็นผู้ช่วยให้พวกเจ้าด้วยคน” “ตกลง งั้นมาเริ่มกันเลย” และเด็กน้อยก็เอ่ยบอกวิธีการทำ “นำหม้อขึ้นตั้งไฟใส่น้ำกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาล แป้งข้าวโพดและจากนั้นคนให้เข้ากันใช้ไฟอ่อน ค่อย ๆ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ ประมาณ 1 เค่อ” เด็กน้อยทั้งสามและผู้ช่วยแม่ครัวก็มาช่วยเด็กน้อยทำด้วยเริ่มตั้งหม้อขึ้นไฟตามที่คุณหนูน้อยบอก "เมื่อเคี่ยวจนได้ที่แล้วใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปเจ้าค่ะ แล้วคนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง ทำการปิดไฟพักทิ้งไว้ให้เย็น นำกล้วยที่ทับแล้วจัดลงใส่จาน ราดด้วยน้ำจิ้มมะพร้าวอ่อน ตกแต่งให้สวยงาม แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเมนูของหวานอันใหม่ของเรา" เมื่อทำเสร็จแล้วฮุ่ยเหมยก็ให้ผู้ช่วยแม่ครัวนำไปให้ทุกท่านได้ชิม แม่ครัวที่กำลังทำอาหารก็ได้ชิมเป็นกลุ่มแรกก็พบว่าหวานอร่อยมาก วันนี้พบว่าได้กินแต่ของอร่อยจริง ๆ และนำไปให้ท่านพ่อชิมและลุงหานที่กำลังรับออร์เดอร์จากลูกค้า "ท่านพ่อทานกล้วยปิ้งราดน้ำจิ้มมะพร้าวอ่อนเจ้าค่ะ" "ทำกันเสร็จแล้วหรือลูก" "ใช่เจ้าค่ะ" เมื่อนำให้ท่านพ่อชิมแล้วหนิงหลงก็เป็นคนเอาไปให้ท่านแม่ได้ชิม เมื่อท่านพ่อกับท่านแม่ได้ชิมพบว่าหวานอร่อยมากจึงให้เป็นเมนูของหวานของเหลาอาหารฮว๋าหงของเรา เมนูต่อไปคือรายการที่กล่าวมาข้างต้นว่าจะทำคือ แกงกล้วยดิบใส่เนื้อเหมือนว่าทุกคนได้กินกล้วยปิ้งก็เหมือนจะลืมเมนูนี้ไป "พี่ใหญ่ พี่ลี่จูไปทำเมนูต่อไปกันเถอะ" "ยังมีอีกหรือเนี่ย" ลี่จูเอ่ยถามขณะกินกล้วยปิ้งไปด้วยความอร่อย "ใช่แล้วเจ้าค่ะ" เมื่อลี่จูได้ยินว่ามีเมนูใหม่ก็รีบเดินเข้าครัวทันทีกับฮุ่ยเหมย "อย่างแรกคือเตรียมวัตถุดิบเจ้าค่ะ" ฮุ่ยเหมยเอ่ยบอกกับลี่จูและผู้ช่วยแม่ครัวตอนนี้หนิงหลงต้องไปเป็นคนขายกล้วยปิ้งที่ยอดสั่งซื้อเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่ได้มาทำด้วยกัน "เหมยเอ๋อร์พี่ต้องไปช่วยท่านพ่อขายกล้วยปิ้งนะ พี่คงไม่ได้อยู่ช่วย" "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าทำกับลี่จูและผู้ช่วยก็ได้เจ้าค่ะ" จากนั้นก็ช่วยกันเตรียมวัตถุดิบมีอะไรบ้างเช่นเนื้อ 1 ชั่ง กล้วยน้ำว้าดิบ 6 ผล หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง หางกะทิ 3 ถ้วยตวง น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูด 3 ใบ วัตถุดิบพริกแกงมีพริกขี้หนูสด 30 เม็ด พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา หอมแดงหั่น 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมหั่น 2 ช้อนโต๊ะ ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ ขมิ้นหั่น 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 2 ช้อนชา และเมื่อเตรียมวัตถุดิบเสร็จก็เริ่มทำอาหารเลยโดยผู้ช่วยแม่ครัวเป็นคนทำฮุ่ยเหมยเป็นคนบอก ลี่จูช่วยหยิบวัตถุดิบให้ "วิธีทำโขลกพริกแกงหั่นเครื่องสมุนไพรที่จะให้สำหรับโขลกพริกแกง เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่เครื่องสมุนไพรที่หั่นไว้ลงในครก โขลกให้ละเอียดเสร็จแล้วก็ขั้นตอนต่อไปคือแกงเจ้าค่ะ ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่หัวกะทิลงไปเคี่ยวจนแตกมัน ตามด้วยพริกแกงที่โขลกไว้ ผัดจนส่งกลิ่นหอม ใส่เนื้อลงไปผัดกับพริกแกง ตามด้วยใส่กล้วยน้ำว้าดิบหั่นชิ้น ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ แล้วเติมหางกะทิลงไป ตั้งไฟอ่อน เคี่ยวให้เข้าเนื้อ ประมาณ 1 เค่อ ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปก็เป็นอันเสร็จ นำมากินได้เจ้าค่ะ" เมื่อได้ลองชิมก็พบว่ารสชาติเข้มข้นจัดจ้านจากพริกแกงตำเอง หอมเครื่องสมุนไพรเต็ม ๆ กล้วยดิบมัน ๆ เนื้อแน่น ๆ ทุกคนล้วนชื่นชอบกันมากจนตอนนี้ได้เสนอขายให้กับลูกค้าลูกค้าล้วนชื่นชอบกันมากและยังมีกล้วยปิ้งกับกากหมูที่อร่อยไม่แพ้กัน ในครัวล้วนวุ่นวายกับการทำอาหารใหม่ที่มียอดสั่งซื้อมากเป็นพิเศษ ท่านพ่อได้ให้คนงานมาช่วยกันทำอีกสองคนในครัว ฮุ่ยเหมยกับลี่จูก็ช่วยกันปอกกล้วยจนมือมีแต่ยางกล้วยไปหมด และมีบางขั้นตอนที่ผู้ช่วยยังไม่เข้าใจก็จะคอยถามคุณหนูน้อยอยู่ตลอด ทำให้ผู้ช่วยค่อยๆ ทำอร่อยขึ้นจนตอนนี้เป็นพ่อครัวเต็มตัวแล้วที่คอยทำเมนูกล้วยเป็นหลักให้กับเหลาอาหารทำให้เขาดีใจมากเพราะค่าแรงจะได้เพิ่มขึ้น ตอนนี้ร้านอาหารคนเข้าเยอะกว่าเมื่อวานมากเพราะเมนูใหม่ที่แสนอร่อยและถูกมากทำให้ทุกคนล้วนอยากมากินที่นี่ แม้ต้องรอนานก็ต้องอดทนรอเลยทีเดียว และฮุ่ยเหมยยังจะเสนอเมนูต่อไปที่ชอบทานอีกด้วยเนื่องจากต้องทำเมนูกล้วย ๆ ทำให้ต้องเอาไว้วันหลังแล้วกันเพราะตอนนี้ทุกคนยุ่งกันมากแม้กระทั่งเด็กน้อยก็ล้วนช่วยงานกันอย่างเต็มที่ทุกคนต่างช่วยกันขนกล้วยกลับเหลาอาหารจนเต็มสองมือ เมื่อมาถึงที่ร้านก็ยามซื่อ (คือ 09.00 - 10.59 น.) กำหนดเวลาเริ่มทำงานของพนักงานในร้านต่างเริ่มปัดกวาดเช็ดถูพื้น โต๊ะ เก้าอี้ และแม่ครัวก็รีบทำตามออร์เดอร์ที่ได้รับมาจากยอดสั่งจองเมื่อวานนี้ ฟางหรงเมื่อเห็นเด็ก ๆ มากันแล้วและยังถือกล้วยมาอีก"ได้กล้วยมาเยอะแยะพวกเจ้าจะเอาไปทำอะไรกัน?""ท่านพ่อ เหมยเอ๋อร์บอกว่าจะทำอาหารแบบใหม่ให้กินขอรับ""ใช่เจ้าค่ะ ข้าจะดูว่าฮุ่ยเหมยจะเอากล้วยดิบมาทำอะไร"ลี่จูกล่าวกับฟางหรง ทำให้ทุกคนในร้านก็อยากรู้เหมือนกัน"งั้นพวกเรามาช่วยกันทำกันเถอะเจ้าค่ะ"ฮุ่ยเหมยเอ่ยบอกกับทุกคนและบอกให้ทุกคนปอกเปลือกกล้วยทั้งดิบและสุกไว้ใส่จาน จากนั้นทุกคนก็เริ่มช่วยกันทำจนปอกเปลือกเสร็จแล้ว ฮุ่ยเหมยจึงบอกขั้นตอนต่อไปทันที"จากนั้นผ่าครึ่งกล้วยดิบและนำไปปิ้งจนสุกได้ที่ก็กินได้แล้วเจ้าค่ะ""อืม เดี๋ยวพี่จะไปปิ้งให้""คุณชายเดี๋ยวข้าช่วยท่านปิ้งเองขอรับ"เย่วเทียนที่ทำความสะอาดร้านเสร็จก็อาสาช่วยอีกแรง"รายการต่อไปคือแกงกล้วยดิบใส่เนื้อเจ้าค่ะ"เมื่อเด็กน้อยเอ่ยขึ้นทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า'หืม มันนำไปแกงได้ด้วยหรือเนี่ย'
ยามเซิน (15.00-16.59 น.) ในตอนนี้ในร้านยังคงมีลูกค้าที่นั่งทานอยู่เต็มร้าน แต่เนื่องจากตอนนี้วัตถุดิบในการทำอาหารหมดแล้ว มีมะละกอ หอยเชอร์รี่และกุ้งฝอย ที่เริ่มหมดและให้พี่เย่วเทียนไปเก็บจากในป่าท้ายตลาดที่ชาวบ้านสามารถเก็บของมาขายได้และนำมากินได้ดังนั้นจึงต้องให้ลูกค้ารอหรือบางคนก็เลือกทานเมนูอื่นแทน ท่านพ่อที่ช่วยกันรับออร์เดอร์กับลุงหานเมื่อเห็นว่าใกล้ยามโหย่ว (17.00-18.59 น.) ที่กำหนดเป็นเวลาปิดร้านจึงตกลงกับลุงหานว่าจะหยุดรับออร์เดอร์สำหรับวันนี้"ข้าคิดว่าจะหยุดรับรายการอาหารวันนี้ไว้ก่อน นี่ใกล้ยามโหย่วแล้ว""อืมได้ ข้าจะแจ้งให้ลูกค้าทราบ"ลุงหานเอ่ยตอบตกลงจึงให้ลูกค้าที่มาสั่งอาหารทีหลังสั่งจองไว้กินวันพรุ่งนี้ ลูกค้าก็เข้าใจจึงตกลงสั่งจองไว้พรุ่งนี้ เมื่อมีคนรู้ว่าสามารถสั่งจองได้จึงรีบต่อแถวสั่งจองอาหารไว้แต่ทั้งสองคนไม่คาดคิดว่ายอดสั่งจองจะมากถึง 45 คิวและแต่ละคนสั่งกัน 8-9 อย่าง ท่านพ่อจึงคิดว่าวัตถุดิบที่นำมาขายในวันพรุ่งนี้ต้องหาให้ได้มากที่สุด"พี่หานข้าวานท่านไปรับซื้อ ปลา หอย ปู กุ้ง จากชาวบ้านในหมู่บ้านให้ด้วยนะ""ได้สิ""ขอบคุณท่านมาก นี่เงิน 500 อีแปะข้าให้ไว้เผ
เมื่อเปิดร้านเสร็จทุกคนก็เริ่มไปประจำที่ ที่ได้รับมอบหมาย นอกจากท่านนายอำเภอแล้วก็มีลูกค้าเพียง 2-3 โต๊ะเท่านั้นตอนนี้ทุกคนล้วนว่างงานโดยเฉพาะไม่ใช่พนักงานที่บริการห้องพิเศษฮุ่ยเหมยอยู่กับท่านแม่ที่โต๊ะรับออร์เดอร์ชั้นสองที่บริการลูกค้าห้องพิเศษ ที่ตอนนี้มีเพียงหนึ่งห้อง เมื่อเสิร์ฟอาหารเสร็จก็เหมือนจะไม่มีงานทำ"ท่านแม่ข้าขอไปข้างล่างนะเจ้าค่ะ" เด็กน้อยนั่งเล่นกับท่านแม่ก็รู้สึกเบื่อ ๆ จึงคิดว่าจะไปเรียกลูกค้าให้ท่านแม่เยอะ ๆ ดีกว่า"ได้ ไปเล่นกับพี่ชายเจ้ากับลี่จูอย่าซนกันนักละ""เจ้าค่ะ"ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของเด็กน้อยเดินลงมาข้างล่างมันเงียบมากจนได้ยินเสียง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นที่ได้ขายไป 7 วันจะขายดีมากแต่เหมือนว่าจะบอกลูกค้าว่ามาขายที่นี่แต่บางทีผู้คนอาจจะไม่รู้จักมากนัก ดังนั้นจึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นไม่มีเงินจ่ายค่าแรง ค่าเช่าโรงเตี๊ยมแน่ ๆ“อ้าว เหมยเอ๋อร์ เจ้าไม่อยู่กับท่านแม่หรือไง?” เสียงหนิงหลงเอ่ยขึ้นถามขณะที่กำลังนั่งหยิบหอยเชอร์รี่เสียบไม้“ข้าจะมาเรียกลูกค้าเข้าร้านนะสิ”ฮุ่ยเหมยเอ่ยตอบและเห็นว่าพี่ชายกับลี่จูช่วยกันเสียบหอยกันอยู่ จึงคิดว่าพวกเขาจะทำปิ
เมื่อฟางหรงแนะนำอาหารและพูดคุยกับท่านลุงนายอำเภอและท่านหลงจู๊ได้สักพักก็ขอตัวออกมาทานข้าวกับครอบครัวอีกห้องหนึ่ง และแนะนำน้ำอ้อยกับชามะนาวให้กับทั้งสามท่านก่อนมารับอาหารเที่ยงกับครอบครัว"อ้อ ข้าขอแนะนำน้ำอ้อยกับชามะนาวให้แก่ท่านทั้งสามด้วยนะขอรับ""อืม อันนี้รสชาติหวานมาก นี่มีรสเปรี้ยวหวาน อืมชุ่มคอแปลกใหม่น้ำทั้งสองอย่างนี้ อร่อยรสชาติดีทีเดียว" เสียงท่านลุงอู๋เจ๋อเอ่ยขึ้นเมื่อลองชิมครั้งแรก"อืม โอ้ ข้าไม่เคยกินน้ำอะไรอร่อยเช่นนี้มาก่อน"ท่านหลงจู๊เอยชิมครั้งแรกและอุทานขึ้นมาด้วยสายตาเป็นประกายและเอ่ยถามขึ้นว่า"น้ำชามะนาวกับน้ำอ้อยนี่ท่านนำมาขายด้วยหรือไม่""ข้านำมาให้ลูกค้าดื่มเฉพาะในร้านเท่านั้นขอรับ""อ้อ ดี ๆ ข้าจะมาซื้ออาหารทุกวันเลย""ขอบพระคุณทุกท่านมากขอรับ งั้นข้าขอตัวก่อนเชิญทุกท่านกินให้เต็มที่ขอรับ""ได้ ๆ เชิญ ๆ"ฟางหรงก็เดินมารับประทานอาหารกับครอบครัว ฮุ่ยเหมยจึงรีบแนะนำ ส้มตำปูปลาร้า ที่ยังไม่เคยใส่ปูดองให้ท่านพ่อชิม"ท่านพ่อลองทานส้มตำปูปลาร้าดูเจ้าค่ะ""รสชาติอร่อยมากเหมยเอ๋อร์"แล้วทุกคนก็เริ่มทานอาหารกัน ทุกคนที่ได้ชิมล้วนชื่นชอบส้มตำปูปลาร้ากันมาก พนักงานที่จ้
ฮุ่ยเหมยนั่งเล่นอยู่ดี ๆ รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาไต่ที่ขาของตน พอมองไปก็พบว่าเป็นปูนา 'เฮ้ยยุคนี้มีปูนาด้วย' เมื่อพบเข้ากับปูนาหลายตัวก็คิดเมนูอาหารที่จะกินเย็นนี้ ปูนาสามารถนำมาดองใส่ส้มตำได้และใส่ยำมะม่วงได้ ใช่เลยนี้มันของอร่อยเลยล่ะ "ท่านพ่อเจ้าคะ ข้ามีของอร่อยมานำเสนอเจ้าค่ะ" เมื่อท่านพ่อรู้ว่ามีของอร่อยมาให้กินก็รีบเดินมาหาลูกสาวอย่างรวดเร็ว "อะไรหรือเหมยเอ๋อร์?" ท่านพ่อเอ่ยขึ้นด้วยตาเป็นประกายที่ตนจะได้กินของอร่อย และเด็กน้อยก็หยิบปูให้พ่อของตนดู "นี่เจ้าค่ะ ปูนา" "นี่ นี่ นี่!!! ตัวประหลาดเช่นนี้มันกินได้รึ" เมื่อท่านพ่อได้เห็นก็ถึงกับผงะไปเลยทีเดียว เมื่อตั้งสติได้ท่านพ่อก็เอ่ยถามลูกสาวใหม่เพื่อความแน่ใจ "เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือ เหมยเอ๋อร์!!!" "มันกินได้และนำไปใส่ส้มตำอร่อยมากเจ้าค่ะ" เมื่อได้ยินว่านำไปใส่ส้มตำได้ท่านพ่อก็ยอมตกลงที่จะจับมาให้ลูกสาว เมื่อได้ยินเสียงท่านพ่อร้องตกใจทุกคนจึงเดินมารวมตัวกันที่นี่ "มีอะไรกันท่านพ่อ" หนิงหลงเป็นคนเอ่ยถามขึ้น "เหมยเอ๋อร์นะสิ บอกว่าเจ้านี่มันกินได้" "จริงหรือเหมยเอ๋อร์" "ใช่เจ้าค่ะ มันนำไปทำอาหารได้ ใส่ส้มตำอร่อยมากด้วยนะ
เมื่อตกลงว่าจะเช่าที่ข้างโรงหมอแล้ว และเขียนสัญญากันเรียบร้อย ทุกคนจึงเดินตลาดหาซื้อของเข้าร้าน ฮุ่ยเหมยกำลังคิดว่าจะซื้ออะไรดี มีข้าวเหนียว เสื้อผ้าใหม่ตัดให้พนักงาน มีผ้ากันเปื้อน ผ้าโพกผม และกระดาษสำหรับจดรายการอาหาร และต้องจ้างคนอีกหลายคน"ท่านพ่อท่านแม่ซื้อของไปเก็บไว้ที่โรงเตี๊ยมก่อนไหมเจ้าคะ จะได้ไม่ต้องขนมาจากบ้านอีกทีเจ้าค่ะ""อืมเป็นความคิดที่ดี เหมยเอ๋อร์ลูกพ่อ ช่างคิดรอบคอบจริง ๆ"ท่านพ่อมองลูกสาวตัวน้อยของตนที่มีความคิดที่โตกว่าอายุมาก และลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดูและทั้ง 6 คนก็เดินหาซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ ท่านพ่อเป็นคนจูงลูกสาว ท่านแม่จูงพี่ชายเพราะคนค่อนข้างเยอะ กลัวลูกน้อยของตนจะพลัดหลงกัน ท่านพ่อคิดว่าอย่างแรกที่จำเป็นคือข้าวเหนียว ที่ทุกคนเริ่มชื่นชอบที่จะกินข้าวเหนียว จึงเดินไปยังร้านขายข้าวสารทันที"สวัสดีนายท่านต้องการซื้อข้าวสารแบบใดเชิญแจ้งมาเลยขอรับ" พนักงานในร้านเข้ามาต้อนรับลูกค้าอย่างกระตือรือร้นและแนะนำข้าวสารให้แก่ลูกค้าด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว"เอาข้าวเหนียว 20 ชั่ง ข้าวสารธรรมดา 20 ชั่ง"ท่านพ่อเอ่ยสั่งข้าวสารกับพนักงานและนับเงินจ่ายให้กับหลงจู๊ และบอกว่าให