เข้าสู่ระบบ'ขาล' เเอบชอบ 'หมอบะหมี่' ตั้งเเต่ยังเด็ก เธอเป็นผู้หญิงที่เเก่กว่าเขาสามปี เรียนหมอ เเละสมบูรณ์เเบบที่สุดเท่าที่เคยเจอ เเต่เธอดีเเต่อ่อยเขาให้อยากเเล้วจากไป ไม่คิดจริงจังกับหมายักษ์ที่ภักดีต่อเธอเสมอมา สายตาของขาลมีเเค่พี่หมี่ พี่หมี่เป็นของเขาเเต่เพียงผู้เดียว จนในที่สุด พี่สาวน้องชายต่างสายเลือดก็เผลอ 'วันไนท์' ด้วยกันโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอคือเจ้านาย เขาคือสุนัขตัวใหญ่ที่ซื่อสัตย์ต่อเธอ ปลอกคอที่เธอล่ามเขาไว้ มันเเข็งเเรงจนยากที่จะหลุดออก เขาหลงพี่หมี่จนกู่ไม่กลับอีกต่อไป 'ภักดีต่อเธอเหมือนหมา สยบเเทบเท้าเธอเหมือนทาส นั่นคือหน้าที่ของเขา'
ดูเพิ่มเติมร่างสูงกำยำพร้อมกับรอยสักเต็มทั้งสองแขนนั่งถือไม้ทีกระดิกเท้าอยู่หน้าห้องตรวจ คนไข้ พยาบาล รวมถึงผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างมองมาทางชายหนุ่มร่างใหญ่เป็นตาเดียว นั่นเพราะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลฟกช้ำ เสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูกับเสื้อกล้ามขาวด้านในเปรอะเลือดจนดูไม่ออกว่าเป็นเลือดจากปากแผลของเขา หรือเลือดของใครกันแน่
เขาคือ ‘ขาล’ หัวโจก ปวส. เทคนิคเครื่องกล เจ้าของใบหน้าดุดันกับทรงผมไถข้างมัดจุกสุดเท่ ขาลเป็นผู้ชายที่บ้าดีเดือด กล้าได้กล้าเสีย และเป็นคนหัวรุนแรงพอสมควร เขามีเรื่องตีกับวิทยาลัยอื่นเป็นประจำ และเข้าออกโรงพยาบาลเป็นบ้านหลังที่สอง
แต่แรงจูงใจที่ทำให้คนที่เกลียดโรงพยาบาลเข้าใส้ตั้งแต่เด็กอย่างขาลเลือกที่จะมาที่นี่ ก็มีอยู่อย่างเดียว
“คุณขาล ปริชาพิพัฒน์ คุณหมอเรียกพบค่ะ”
พยาบาลสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มขานชื่อของเขาหลังจากที่ร่างสูงรอมายี่สิบนาที ขาลในสภาพสะบักสะบอมหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดีซึ่งขัดกับบาดแผลภายนอกที่ออกจะหนักหน่วงเอาเรื่อง ก่อนที่จะกระตุกยิ้มให้พยาบาลที่ขานเรียกชื่อเขา
แต่ถึงแม้ว่าพยาบาลคนนั้นจะน่ารักแค่ไหน ก็สู้พี่สาวของเขาไม่ได้
คนตัวโตเปิดประตูเข้าไปในห้องตรวจพร้อมกับปิดประตูอย่างเรียบร้อย เขาเดินไปนั่งตรงหน้าร่างบางสะโอดสะองในชุดกาวน์สีขาว แววตาสีน้ำตาลอ่อนช้อนสายตาขึ้นมองคนตรงหน้าอย่างชินชา เพราะขาลมักจะมาหาเธอด้วยสภาพแบบนี้เสมอ
เมื่อมองดีๆ ก็ดูเหมือนเป็นการเรียกร้องความสนใจจากเธอกลายๆ
“คราวนี้ไปตีกับใครมาอีกล่ะคะ พ่อตัวดี”
“อริฝั่งธนน่ะครับ แต่พี่ไม่ต้องใส่ใจหรอก” เสียงทุ้มติดห้วนทำเสียงเล็กเสียงน้อยเอาอกเอาใจผู้หญิงตรงหน้า บัดนี้แววตาของผู้ชายตัวใหญ่ร่างถึกคนนี้เต็มไปด้วยความคลั่งรักหัวปักหัวปำ “ทำแผลให้ผมหน่อย”
“เมื่อไหร่ขาลจะเลิกมีเรื่องสักทีนะ” ผู้หญิงเรือนผมสีชมพูอ่อน กับใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาบ่นอุบขึ้นอย่างระอาแต่ไม่จริงจังนัก หุ่นอวบอัดภายใต้ชุดขาวนั่นไม่ทำให้เธอดูเซ็กซี่น้อยลง สายตาคมกร้าวของขาลหรี่มองหุ่นยั่วยวนของเธอที่เอนหน้ามาใกล้เขาอย่างคลั่งไคล้ “พี่มาทำแผลให้เราไม่ได้ตลอดหรอกรู้มั้ย จริงๆ หน้าที่นี้ควรเป็นของพยาบาลด้วยซ้ำ”
“ถึงพี่จะให้พยาบาลมาทำแทน ผมก็ไม่ยอมหรอก” คนตัวโตดื้อดึง “ผมจะเอาแค่พี่ ไม่งั้นก็ปล่อยแผลไว้งั้นแหละ”
“นิสัยเสียจริงๆ” ทั้งๆ ที่เธอรู้ว่าขาลทั้งเอาแต่ใจและแสดงออกชัดเจนจนไม่รู้จะชัดยังไงว่าชอบเธอมากแค่ไหน แต่ ‘หมอบะหมี่’ ก็ยังทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ว่าเขาสนใจเธอจนออกนอกหน้า แถมยังหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บจะได้มารักษากับเธอตัวต่อตัวที่โรงพยาบาลอีก
เอาจริงๆ เธอก็ชอบที่ตัวเองกลายเป็นที่รักในสายตาใครสักคน แค่หมอบะหมี่เป็นผู้หญิงที่ไม่เคยมีแฟนและสนใจแต่งานจนไม่คิดที่จะมีคนรักเป็นตัวเป็นตน เธอเลยไม่คิดที่จะห้ามหรือปฏิเสธผู้ชายร่างยักษ์หน้าตาดุดันคนนี้อย่างจริงจัง
อีกอย่าง... นั่นก็เพราะขาลเป็นน้องข้างบ้านที่เล่นด้วยกันสมัยเด็กๆ แม้ว่าหลังๆ ช่วงเธอเข้า ม.ปลาย จะห่างกันไป มาเจออีกทีก็ตอนขาลเข้าเรียน ปวช. และก็ตัวใหญ่ขึ้นจนผิดหูผิดตา จากเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ขาวๆ กลายเป็นชายหนุ่มกลัดมันตัวใหญ่สักเต็มตัว แต่ก็ไม่ได้น่ารังเกียจ กลับกัน หมอบะหมี่กลับชอบความว่านอนสอนง่ายติดดื้อรั้นหน่อยๆ ผิดกับลุคเถื่อนดิบภายนอกของเขา ที่จะแสดงออกแค่กับเธอเท่านั้นอยู่เหมือนกัน
คนตัวเล็กแต่รูปร่างสุดเอ็กซ์ขยับมาตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งกางขารอเธอมาทำแผลเหมือนรู้งานดี เธอเริ่มลงมือทำแผลให้เขาอย่างตั้งใจ โดยจงใจให้หน้าอกที่โตเกินรูปร่างเล็กกะทัดรัดของเธอล่อตาล่อใจตรงหน้าผู้ชายตัวยักษ์
เธอน่ะ ติดนิสัยชอบแหย่ ชอบอ้อยแต่ไม่ได้จริงจัง แล้วขาลก็โดนมนต์สะกดตรงนี้ดีดเข้าใส่จนรักจนหลงเธอแทบบ้าตาย
“เอ่อ คือ” เสียงทุ้มดังขึ้นในขณะที่หมอบะหมี่เอาสำลีมาแตะเบาๆ ที่ข้างแก้มสาก เขากลืนน้ำลายลงคอหลุบตาลงมองคอเสื้อสีขาวที่ร่นลงมาจนแอบเห็นร่องอกขาวจัดน่าขยี้ของผู้หญิงที่ตัวเองชอบ “พี่จูบผมเหมือนทุกทีได้มั้ย ผมไม่ได้จูบพี่มานานแล้ว”
และใช่ ขาลกับหมอบะหมี่ไม่ได้มีสถานะเป็นแค่น้องชายพี่สาวข้างบ้านกันเท่านั้น
พวกเขาเคยเลยเถิดไปจนเกือบได้เสียกัน... ในคืนที่หมอบะหมี่เมาแล้วเขาก็บังเอิญมาเจอที่คลับและพาเธอกลับไปส่งที่บ้าน
เรือนร่างขาวจัดที่เห็นเเวบๆ ในคืนนั้น พร้อมกับท่าทางยั่วยวนด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ แม้ยังไม่ได้สัมผัสลึกซึ้ง แต่ติดตาติดใจขาลมาก เขาตามตื้อเธออย่างโจ่งแจ้ง แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบจริงจังจากปากของหญิงสาว คนตัวโตเลยทำได้แค่ขออะไรที่พอจะทำให้เขามีความหวังไปวันๆ แทน
ซึ่งหมอบะหมี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอเม้มริมฝีปากหน้าแดงซ่าน ก่อนที่จะพยักหน้ารับ
“อื้อ” พอได้รับคำอนุญาต ร่างสูงก็เอื้อมฝ่ามือใหญ่ๆ มาจับข้อมือเล็กเพื่อดึงออกจากแก้มของเขา ก่อนที่จะใช้มือหนาอีกข้างรั้งศีรษะของเธอให้โน้มลงมาใกล้ ประกบปากจูบเธออย่างหนักหน่วง เหมือนกับว่าเขารอเวลานี้มาเนิ่นนาน
ปลายลิ้นเล็กแตะเบาๆ ที่ปลายลิ้นสาก เธอดูดลิ้นของขาลอย่างช่ำชอง พร้อมกับบดจูบจนคนตัวโตใจเต้นไม่เป็นส่ำ หน้าอกของเธอแนบอยู่ที่ต้นคอแกร่ง ในขณะที่หมอบะหมี่กลับกลายเป็นฝ่ายคุมเกม บรรเลงจูบปรนเปรอชายหนุ่มจนเขาแทบจะตบะแตกทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
“แฮ่ก...” จนผละออกมาเพราะหมอบะหมี่หายใจไม่ทันเพราะตระโบมจูบเด็กน้อยตัวเขื่องตรงหน้าด้วยแรงอารมณ์ที่พลุ่งพล้านนานเกินไปหน่อย ขาลก็แทบคลั่งตายอยู่ในอ้อมอกของเธอ เขากัดริมฝีปากแน่น และท่าทางนั้นก็ทำให้หมอสุดเซ็กซี่กระตุกยิ้มหวานออกมาเบาๆ พร้อมกับเช็ดรอยลิปสติกที่เลอะริมฝีปากหยักออกจนเขาใจเต้นหนักกว่าเดิมกับความน่าขย้ำของพี่สาวข้างบ้าน
“ชอบมั้ยคะ”
“...”
“ถ้าชอบ ก็มาอีกนะ”
ก็เพราะเธอขี้อ่อยงี้ไง เขาเลยไปไหนไม่เคยรอด
“แฮ่ก... อย่าสิ”“แต่ผมไม่ไหว ทุกทีที่เห็นพี่เปลือย”น้ำเสียงแหบกร้าวของคนตัวสูงกว่าชิดท้ายทอย ฝ่ามือหนาหยาบกร้านกอบกุมทรวงอกมหึมาท่ามกลางฝักบัวขนาดใหญ่ที่น้ำสาดกระทบร่างกายของเราทั้งคู่ ฉันหอบหายใจ ทรงผมสั้นที่เปียกแนบลู่กับท้ายทอยขาว บั้นท้ายถูกขยำเหมือนอีกฝ่ายกำลังบีบลูกโป่งให้แตก มันเจ็บ แต่กลับรู้สึกดีช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาเช้าที่ฉันเหนียวตัวจนต้องเข้าไปชำระร่างกาย แต่คนตัวโตก็เกาะติดฉันไม่เคยห่าง เขาคลั่งฉัน และหลงใหลฉันจนอยากจะแทรกตัวอยู่กับทุกๆ กิจวัตรประจำวันของฉันซึ่งก็ไม่ได้รำคาญ ออกจะชอบด้วยซ้ำที่เขาสิโรราบต่อฉันแบบนี้เรามาอยู่ที่จอร์เจียได้อาทิตย์กว่าๆ แล้ว วันแรกที่มาที่นี่น้องขาลเบิกเงินจากคุณลุงมาสามหมื่นลารี และเราใช้ชีวิตอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ใจกลางเมืองหลวงทบิลิซิร่วมกันแค่สองต่อสองแน่นอนว่ามีเซ็กซ์กันทุกวัน บางครั้งก็ทั้งวันทั้งคืนด้วยซ้ำ“เธอไม่ได้ทำเรื่องลาออกที่วิทยาลัยใช่มั้ย” ฉันกระซิบในตอนที่นอนเกยตัวเปลือยเปล่าอยู่บนท่อนแขนหนาที่เต็มไปด้วยรอยสักที่ฉันหลงใหล หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเราก็นอนอ้อยอิ่งกันบนเตียง ฉันเขี่ยแผงอกเขา ส่วนน้องขาลก็วนนิ้วรอบลาดไหล่ของฉัน
“ลบคลิปนั่น ถือว่าพี่ขอได้มั้ย” ฉันถอนหายใจหนักหน่วง กัดริมฝีปากจนห้อเลือดเมื่อตัวเองจำใจต้องออกปากขอร้องเขา“... ก็ได้ครับ” เหยี่ยวยังคงฉีกยิ้มอยู่ เขาปล่อยโทรศัพท์เครื่องหรูลงกับพื้นจนแตกกระจาย เมมโมรี่การ์ดกระเด็นออกมาจากชิ้นส่วนของโทรศัพท์ และคนตัวสูงก็กระแทกส้นเท้าลงไปจนมันหักเป็นสองท่อน“ขอบคุณ”“ไม่ ผมไม่ต้องการ”“...”“ผัวพี่อยู่ในรถอัลพาร์ด จะทำอะไรก็รีบทำซะ”ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ก้มลงมองเมมโมรี่การ์ดที่แตกเป็นสองส่วน ยังมีสีหน้าไม่ไว้ใจตอนที่เดินเอี้ยวตัวหลบตัวสูงใหญ่ของเหยี่ยวไปทางรถครอบครัวคันโตปึง!!เสียงเซ็งแซ่ดังมาจากในตัวรถ ประตูรถถูกเปิดออกอย่างแรงด้วยส้นเท้าของใครสักคน การ์ดชุดดำที่ฉันเพิ่งเคยเห็นหน้าวันนี้กระเด็นออกมาจากตัวรถ คนที่กระโดดลงมาทั้งที่แขนข้างหนึ่งยังห้อยโตงเตงคือน้องขาล ฉันเบิกตากว้าง พอๆ กับที่ร่างหนาในสภาพสะบักสะบอมจะตรงเข้ามารวบขาฉันขึ้นอุ้มด้วยมือข้างเดียว“ไอ้ขาล! มึงจะทำอะไรวะ” เสียงเข้มของเหยี่ยวดังขึ้นด้านหลังโดยที่เจ้าของอ้อมแขนไม่ได้ให้ความสนใจ เขาใช้เท้าที่เปื้อนเลือดตรงหัวรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มถีบผู้ชายที่นั่งหน้ารถจนพลัดตกลงมา“นะ... น้องข
การกินข้าวเช้านั้นดำเนินไปอย่างน่าประหวั่นพรั่นพรึง เมื่อป๊ามานั่งคุมฉันในห้องนอนด้วยตัวเอง และนั่งทอดสายตามองฉันในชุดเดรสสั้นและเสื้อกาวน์สีขาวเข้ากับชุดด้านใน พอบอกป๊าว่าวันนี้อยากกลับไปทำงาน ท่านไม่ได้ต่อว่าหรือห้ามปรามอย่างที่คิดไว้ แต่กลับมานั่งเฝ้าฉันด้วยตัวเอง“หวังว่าจะไม่แอบดอดไปหามันอีกนะ” ท่านเอ่ยขึ้นอย่างสงบเงียบเมื่อเห็นว่าฉันดูท่าทางปกติดี ไม่มีอาการคร่ำครวญมาหลายวันหลังจากที่ป๊าขังฉันไว้ในห้องนอน คิดว่าท่าทางนั้นอาจทำให้ท่านย่ามใจขึ้นมาบ้าง“อย่างที่ป๊าบอกเลยค่ะ... เด็กคนนั้นไม่มีดีอะไรเลย หมี่ไม่ได้จริงจังกับเขาหรอก” ฉันพูดด้วยท่าทางที่นิ่งกว่าทุกครั้ง แม้ว่าอัตราการเต้นของหัวใจจะค่อนข้างถี่จนน่ากลัว ฉันเป็นคนที่โกหกเก่ง แต่บางครั้งแรงกดดันของป๊าก็ทำให้ฉันประหม่า“ดีแล้ว มันไม่เหมาะสมกับหนูหรอก หนูเป็นแพทย์หญิงดีเด่น เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมยิ่งกว่าใคร ป๊าเลี้ยงดูหนูให้เติบโตมาอย่างงดงาม หนูควรเลือกผู้ชายได้ดีกว่านี้” ท่านฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจในท่าทางอันแสนเยือกเย็นของฉัน เหมือนกับว่าจะบังคับฉันได้เหมือนในวันวาน มือที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นเล็กน้อยเพราะป๊าเป็นคนที่ค่อนข้างดู
น้องขาลเงียบไป ภายใต้ความเงียบงัน ห้องที่ถูกเปิดให้สว่างเป็นสีเหลืองนวลอ่อนสะท้อนเสี้ยวหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของเขา“ผมยอมรับ... ว่าผมรักพี่” เขาโพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่คาดเดาอารมณ์ได้ยาก แววตาคมหลบตาลงมองมือของตัวเองที่ยกขึ้นมา “ผมรักพี่มาก มากพอที่จะทำให้พี่รู้ว่าผมโคตรคลั่ง และหลงพี่มากแค่ไหน”“...”“พี่หมี่ เราจะหนีไปด้วยกัน” เขาหันกลับมาสบตาฉัน แววตาคมปลาบนั้นเต็มไปด้วยความแน่วแน่ มั่นคง เขาบอกฉันให้รู้ว่าในสายตาของน้องขาลมีเพียงแค่ฉันคนเดียวในนั้น “ถ้าที่นี่ไม่มีใครที่เข้าถึงเราได้ ก็ทำให้โลกนี้เหลือแค่เราสองคนก็พอ”ฉันคลี่ยิ้มออกมา ฝ่ามือหนากอบกุมฝ่ามือเล็กของฉันแนบแน่น น้องขาลฉีกยิ้มกลับ เขาเลื่อนฝ่ามือหนามาเล่นเส้นผมสั้นประบ่าสีชมพูอ่อนของฉัน สางมันเบาๆ อย่างทนุถนอม ผิดแผกกับเวลาที่เราอยู่ร่วมกันบนเตียงอย่างสิ้นเชิงเขามักจะรุนแรงจนทำให้คลั่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ทนุถนอมเหมือนฉันเป็นเจ้าหญิง“พี่สวยเหลือเกิน พี่หมี่” เขาชมเชย ราวกับว่านี่จะเป็นการให้กำลังใจกับชีวิตของฉันรวมทั้งเส้นผมที่จะไม่เหมือนเดิม เรามีปณิธานอันแรงกล้าที่จะหนีไปด้วยกันจากสถานที่ที่จำกัดตัวตนของเรา
[พาร์ท : ขาล]ผมลอบเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของพี่หมี่ผ่านทางบ้านรกร้างข้างๆ ปีนต้นไม้อีกฝั่งขึ้นมาด้วยตัวคนเดียว กระโจนลงสู่ราวระเบียง สะเดาะกลอนประตูบานกระจก แล้วแทรกตัวเข้ามาในห้องนอนของเธอได้ยินเสียงราดฝักบัวกระทบเนื้อหนั่นในห้องน้ำในตัวห้อง ผมถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป แล้วก็พบกับภาพที่ไม่คุ้นตาพี่หมี่ในลุคผมสั้นประบ่า... เธอกำลังช่วยตัวเองในอ่างทันทีที่เห็นผมพี่หมี่ก็สะอื้นออกมา มันช่างน่ารักซะจนต้องเข้าไปกอดเอาไว้แน่นๆ และอุ้มเธอมาวางบนเตียงนอน เช็ดตัวให้ เป่าผมให้เป็นลำดับถัดไป โดยที่พยายามปัดความคิดเรื่องที่พี่หมี่พยายามยั่วยวนผม ทั้งที่สภาพเธอตอนนี้ผอมลงและอิดโรยเพราะไม่ได้กินข้าวมาเป็นอาทิตย์ผมเธอสั้นเหมือนถูกตัดและเล็มอีกทีจนเท่ากัน ผมพินิจลุคของเธอในวันนี้ที่แตกต่างออกไป ในขณะที่ร่างเปลือยเปล่าที่ขาวผ่องไปทั้งตัวนั่งเม้มริมฝีปากอยู่หน้ากระจก เหมือนเธอไม่ค่อยอยากมองตัวเองเท่าไหร่“เป็นอะไรไป” ผมถามตอนที่สางเส้นผมสีชมพูอ่อนของเธอ แล้วพี่หมี่ก็หันหน้าหนี“... ก็มันไม่สวย” เธอกัดริมฝีปากแน่น ตีความว่าตัวเองที่ถูกตัดผมออกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างแต่สำหรับผมเธอสวยมาก ไม่ว่าจะเป็นช
ฉันยืนจ้องหน้าป๊าอยู่หน้าประตูบ้านของน้องขาลท่านหรี่ตาลงมองสภาพของฉัน รวมถึงสภาพของร่างสูงกำยำที่ยืนอยู่ด้านหลังของฉันด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยกัดและรอยจ้ำคงพอทำให้ป๊ารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคนท่านกำชับแว่นสายตาขึ้นเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงทั้งตัวของท่านที่สั่นเทิ้ม“ป๊า...!” ฉันเรียกชื่อท่าน จนมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ป๊าผลักฉันออกจากหน้าประตู เดินไปใกล้กับร่างสูงใหญ่ของน้องขาล ท่านกระซิบเสียงลอดไรฟันกับหูเขาโดยที่ฉันไม่ได้ยิน แต่สีหน้าของน้องขาลตึงเครียดขึ้นทันทีตอนที่พ่อของฉันผละออกมาหมับ“ติรานา มากับป๊า” เสียงทุ้มที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงของป๊าพร้อมกับแรงกระชากที่แขนจนเซทำให้ฉันต้องเดินไปตามแรงของท่านอย่างช่วยไม่ได้ เหลียวหลังไปมองภาพของหมายักษ์ของฉันที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างอาลัยอาวรณ์จนฉันถูกกระชากลากถูเข้ามาในบ้านหลังโตของป๊าที่อยู่กับแม่บ้านสามสี่คน ถึงได้รู้ว่าท่านเองถึงขนาดลงทุนเดินข้ามฟากมาที่บ้านของน้องขาล ถัดมาจากบ้านเราแค่สองซอยป๊าออกกำลังกายบ่อยก็จริง แต่ตั้งแต่ที่คุณลุงพ่อของน้องขาลกลับต่างประเทศในตอนที่เขาอายุสิบห้าปี ป๊าก็ไม่เคยเข้าไปย่างกร
ความคิดเห็น