ปราบ มือขวาเจ้าพ่อในฐานะลูกบุญธรรมต้องตอบแทนด้วยการปกป้องดูแล เธอ หงส์ ลูกสาวเพียงคนเดียวสายเลือดแท้ๆ เด็กสาว ดื้อรั้น ไม่ฟังใคร งี่เง่า เอาแต่ใจ อารมณ์ร้อน วู่วาม ห้ามไม่ฟัง หยิ่งผยองจองหองเป็นที่หนึ่ง
ดูเพิ่มเติมตอนที่ 1
สง่างามดั่งหงส์
ใครบางคนได้กล่าวไว้ว่า ‘ดอกไม้แต่ละชนิด ผลิบานในฤดูกาลของมันเอง’ เช่นเดียวกับการผลิบานของดอกซากุระในช่วงปลายเดือนมีนาคมของฤดูใบไม้ผลิ
‘ปราบ’ ชายหนุ่มวัย 35 ปียืนบนสะพานอิฐโค้งข้ามทะเลสาบที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขาจิบชาอุ่นๆ ในยามเช้าชื่นชมทัศนียภาพวัดเก่าแก่และปราสาทสวยงามจับใจ
แต่ทว่า…เสียงไม้เท้าสแตนเลสกระทบพื้นจากด้านหลังดังรบกวน มือเหี่ยวจับปลายหัวหยักของไม้เท้าตามมาด้วยเสียงฝีเท้าย่างก้าว เขาหันกลับไปมองใบหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
คนอายุราว 70 ปี สวมเสื้อโค้ทตัวยาวคู่กับหมวกเบเร่ต์สีดำ เขารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ชายแก่ฉีกยิ้มกว้างพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด ในที่สุดก็หาจนเจอ ความจริงไม่ใช่เรื่องยากการค้นหาคนสูญหายในฐานะเจ้าพ่อผู้มีอำนาจบันดาลได้ทุกสิ่ง
“คงสำคัญมากใช่ไหม” ปราบไม่ได้กล่าวคำทักทายแต่อย่างใดเขารู้ว่าการที่เจ้าพ่อดั้นด้นมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองนั้นมันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่
“ไม่มีใครรู้ใจอั๊วเท่าลื้ออีกแล้ว” เสียงหัวเราะดังในลำคอ คนฟังฝืนยิ้ม นับสิบกว่าปีที่พวกเขาไม่ได้เจอกัน เหตุการณ์ครั้งนั้นมันสร้างอำนาจให้คนเป็นเจ้าพ่อแต่กลับสร้างปมในใจฝังลึกให้กับอีกคน
“เข้าประเด็นเถอะ อย่ายืดเยื้อเลย” เขาถอนหายใจเพราะรู้ว่าการมาครั้งนี้ของเจ้าพ่อต้องมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจแน่แววตาชายชราดูวิตกกังวล
“ลื้อช่วยอั๊วอีกสักครั้งได้ไหม มันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ” ปราบรู้สึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าตอบว่าไม่...”
“ลื้อคงไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเนรคุณหรอกใช่ไหม” ปราบกัดฟัน แก้วชาในมือถูกบีบจนสั่นคนแก่กล้าใช้คำว่าลูกเนรคุณทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาถวายให้ทุกอย่างทั้งชีวิตและอิสรภาพ
“พูดมาเถอะต้องการอะไร” น้ำเสียงเยือกเย็นดุดันและท่าทางสุขุมคือสิ่งที่ชายชราปรารถนาอยากให้เกิดกับลูกสาวเพียงคนเดียวแต่เป็นไปได้ยาก
“เปลี่ยนห่านให้เป็นหงส์ ภารกิจสุดท้ายของลื้อ”
“ทำไมต้องเป็นผม”
“อั๊วนึกไม่ออกเลย ถ้าไม่ใช่ลื้อจะเป็นใคร” ชายชรามีแววตาเป็นประกายมันเปี่ยมไปด้วยความหวังต่างจากชายหนุ่มที่หดหู่ดูสิ้นหวัง
ในฐานะที่เป็นลูกบุญธรรมได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีจึงยากที่จะปฏิเสธคำขอร้องจากเจ้าพ่อได้แต่ปราบจะเชื่อได้ยังไงว่านี่คือภารกิจสุดท้ายแล้วจริงๆ
“ภารกิจสุดท้ายจริงหรอ” ชายชรายิ้มใจเย็น ก่อนจะมองไปยังวิวทิวทัศน์ข้างหน้าทะเลสาบกว้างใหญ่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระที่กำลังผลิบาน
สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ดูขลังและเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์คนแก่เริ่มเข้าใจชีวิตแล้วว่าทุกสิ่งไม่ยั่งยืนเพราะในไม่ช้าดอกซากุระที่เบ่งบานต้องร่วงโรยตามกาลเวลา เช่นเดียวกับเขา
“คนแก่ที่เป็นมะเร็งอย่าอั๊ว คงอยู่ได้ไม่นาน” เมื่อชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้น เขามีใบหน้าเรียบเฉยไม่มีความรู้สึกตื่นตระหนกหรือตกใจ
“ต้องทำยังไงบ้าง” ถึงเขาจะออกจากวงการและปลีกวิเวกมาอยู่คนเดียวนานนับสิบกว่าปีแต่ยังคงได้ยินข่าวความขัดแย้งระหว่างสองเจ้าพ่ออยู่เสมอ
เมื่อได้ยินจากปากเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลฝั่งตะวันออกว่ามีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเขารู้ได้ทันทีว่าภาระอันหนักอึ้งจะตกไปอยู่ที่ใคร ‘หงส์’ลูกสาวเพียงคนเดียว เธอมีนิสัยก้าวร้าวเอาแต่ใจ เพราะถูกตามใจตั้งแต่เด็กจน
“อั๊วอยากให้ลื้อช่วยปกป้องดูแลเธอ สอนให้เธอเข้มแข็ง มีวุฒิภาวะเป็นผู้นำที่ดีเป็นพญาหงส์ที่สง่างามอั๊วจะได้ตายตาหลับ” คำขอครั้งสุดท้าย ไม่ใช่ในฐานะเจ้าพ่อแต่ในฐานะพ่อคนหนึ่ง เขาอยากให้พี่ชายกลับไปดูแลน้องสาว
"คุณหนูแข็งแกร่งอยู่แล้ว การเอาชนะศัตรูคงไม่ยาก ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร"
"แข็งแต่ยังไม่แกร่งพอนิสัยเอาแต่ใจความดื้อรั้น จะทำลายทุกอย่าง คงเป็นความผิดอั๊วเอง ที่ตามใจมาตั้งแต่เด็ก" แววตาของผู้เป็นพ่อวิตกกังวลอย่างมากเพราะรู้จักนิสัยลูกสาวตัวเองดีกว่าใคร
“ตกลง สัญญาได้ไหมว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย” ความจริงเขาควรปฏิเสธงานนี้ แต่ไม่ทำ เพราะไม่ต้องการให้ใครมาตราหน้าว่าเป็นลูกบุญธรรมที่เนรคุณเลี้ยงเสียข้าวสุก
“อั๊วสัญญา ลื้อจะได้มีอิสรภาพตามที่ต้องการ” เด็กกำพร้าที่ได้รับการอุปการะจากเจ้าพ่อกลายมาเป็นผู้ที่แกร่งกล้ามากความสามารถ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมือขวาแต่เขาไม่มีความสุขเลยในชีวิตที่ผ่านมา
ปราบเชื่อว่านี่จะเป็นงานสุดท้ายของเขาเพราะอีกไม่นานชายชราหมดอายุขัย แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาควรได้รับมันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับความเลวทรามของเขา
อีกอย่าง หากวันหนึ่งหงส์ต้องขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ปราบอยากเห็นเธอมีคุณธรรมมากกว่าผู้เป็นพ่อที่มีเพียงความทะเยอทะยานความโลภและอำนาจที่ไร้ความเมตตา
#โรงอาหารมหาวิทยาลัย
“กรี๊ดดดดดดดด........!!!” เสียงกรีดร้องดังจนแสบแก้วหู น้ำแกงราดลงบนหัวไหลอาบ โชคดีที่มันไม่ได้ร้อนจัดแต่ก็ทำให้ปวดแสบปวดร้อนเอาเรื่อง
“เอามันให้ตาย!!!” สิ้นคำสั่งเพื่อนสนิททั้งสองที่เป็นเบี้ยล่างให้คนสั่งการมาตลอด จู่โจมด้วยการจิกหัวขึ้นมาจากนั้นจับโขกลงไปบนโต๊ะ ยังไม่สาแก่ใจคนหนึ่งล็อคด้านหลังส่วนอีกคนตบไม่ยั้ง
“เพี๊ยะ เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!”
”ฮืออออ....ฮือออๆๆๆ” คนโดนยำร้องไห้ปล่อยโฮ ใบหน้าฟกช้ำสักพักเลือดไหลตรงมุมปาก ความโกลาหลที่เกิดขึ้นทำให้คนอื่นๆ มุมดูจำนวนมาก แต่ทว่า ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะทุกคนรู้ดีว่าเธอเป็นใคร
“หยุดนะ!” ท่ามกลางความวุ่นวาย มีเสียงปริศนาเข้ามาแรกทุกคนหันไปมอง เจียลี่ อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจรับตำแหน่งวันแรกต้องห้ามปรามเพราะเด็กกลุ่มนี้คือนิสิตในสังกัดของเธอ
“อย่ามายุ่งดีกว่า ปัญหาของฉัน ฉันจัดการเองได้” หงส์ ลูกสาวเจ้าพ่อคนดังที่ไม่มีกล้าแตะ หันไปพูดกับอาจารย์อย่างไม่ให้เกียรติ ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอ จนกระทั่งอาจารย์คนนี้เข้ามา
“เขาไปทำอะไรให้เธอ” หงส์ไม่ตอบนางตัวดี เสือกไม่เข้าเรื่องไปฟ้องอาจารย์ประจำวิชาว่าเธอโกงข้อสอบ ทำให้เธอโดนตัดคะแนน เรื่องนี้รู้ถึงหูเจ้าพ่อโกรธมากเขาต้องยัดเงินเพื่อให้ลูกสอบผ่าน
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่ง ปัญหาของฉัน ฉันจัดการเองหูหนวกหรอ หรือคิดว่าเป็นอาจารย์จะทำอะไรก็ได้ อย่าเสือกค่ะ! มีหน้าที่สอนก็สอนไป” เธอหยิ่งผยองไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น
“ไม่ได้ ปัญหาของเธอกำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อน” เจียลี่ รู้ดีว่าหงส์คือใครแต่ด้วยความเป็นครูมีจรรยาบรรณ รักความถูกต้องเป็นธรรมจึงยอมนิ่งเฉยไม่ได้
ยิ่งมองเห็นคนไร้ทางสู้ยิ่งน่าสงสาร เด็กคนนั้นโดนทำร้ายเธอร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนเสียสติ เนื้อตัวมอมแมม ใบหน้าฟกช้ำมีเลือดไหลมุมออกปากและจมูก ครูสาวไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยพยุงขึ้นมา หวังจะพาไปทำแผลที่ห้องพยาบาล
“หยุด ใครอนุญาตให้ไป” ทั้งคู่หยุดชะงักหงส์เอาตัวเองมาบัง พร้อมกับเพื่อนอีกสองคนที่เดินมาประกบด้านหลัง
“หลีกทาง ไม่งั้นเจอดีแน่” เจียลี่ยกมือชี้หน้าถ้าไม่หลบเธอคงต้องใช้อำนาจหน้าที่จัดการเด็กนิสัยเสียคนนี้ แต่คนตรงหน้าไม่ได้มีท่าที่เกรงกลัวเลย เธอยืนกอดอกไล่ตามองอาจารย์ที่ปรึกษาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นี่ใช่ไหม เจียลี่ ที่ปรึกษาคนใหม่ของพวกเรา มีปัญญาแค่นี้หรอ รองเท้ามือสอง เสื้อมือสอง กระโปรงราคาหลักร้อย แหวะ! อุจาดลูกตา” คนโดนดูถูกโกรธจนตัวสั่นแต่ยังมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง
“เราสองคนก็ต่างกันแค่เสื้อผ้าเท่านั้นแหละ เธอคงไม่ได้รับการเสี้ยมสอนเรื่องมารยาทสินะ หรือไม่ก็มีความบกพร่องทางสมอง ป่วยทางจิตหรอถึงได้เที่ยวดูถูกคนอื่นไปวันๆ” หงส์ได้ยินแบบนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอมองไปรอบๆ สังเกตเห็นคนอื่นแอบหัวเราะเยาะยิ่งทำให้อับอาย
“กล้าดียังไงมาด่าฉัน รู้จักฉันน้อยไปสินะ” เจียลี่หลุดขำความจริงเธอไม่อยากรู้จักเลยด้วยซ้ำ
“คิดว่าตัวเองเกิดมามีพร้อมทุกอย่างแล้วจะดูถูกเหยียดหยามใครก็ได้หรอ อย่าคิดว่าทุกคนเขาจะยอมเธอหมดสิ เธอก็แค่ลูกคนรวย ไร้สมอง อ้อ ต้องเรียกว่าสมองหมาปัญญาควายถึงจะถูก”
“อี....!!!” เธอจะสวนคืนแต่มองไปรอบๆ มีคนมุงดูมากมาย
หงส์กรีดร้องในใจเธออยากตบสั่งสอนให้หายแค้นแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้เพราะการทะเลาะวิวาทกับอาจารย์แถมยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาไม่ใช่เรื่องดีเจ้าพ่อคงไม่ปลื้มแน่
แต่ถึงยังไงก็จะเอาคืน เจียลี่ คนแรกที่กล้าด่าเธอแถมยังด่าต่อหน้าผู้คนมากมาย สร้างความอับอาย ลูกสาวเจ้าพ่อคนดังโดนด่ากลางโรงอาหารอีกไม่นานข่าวคงแพร่สะพัดไปทั่ว
“มากไปแล้วนะ ตบมันเลยไหม” เพื่อนข้างหลังโกรธแทน นิสาจะเดินมาเอาเรื่องแต่ต้องหยุดเพราะโดนมือกันไว้
“รอก่อน มันเจอกูแน่” เธอหันไปพูดเบาๆ
ตอนที่ 10บทลงโทษคนอวดเก่ง“เธอส่งคนไปทำร้ายฉันทำไม” ประโยคแรกที่เจียลี่พูดออกมา“อะ อะ อย่ากล่าวหาคนอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานสิคะอาจารย์” หงส์กอดอกเดินเข้าไปประจันหน้า ปราบรีบคว้าแขนคนของเขาให้ไปยืนด้านหลัง หงส์การกระทำนั้นก่อนจะหลุดขำออกมา“อะไรกันเป็นคนของฉันแท้ๆ ดันไปปกป้องคนอื่น อืมมม แบบนี้ตัดเงินเดือนดีไหมน้า...” เจียลี่ที่ได้ยินว่าปราบเป็นพวกเดียวกันกับหงส์ แทบไม่อยากจะเชื่อ เธอสะบัดแขนออก ก่อนจะเดินมาประจันหน้า“เด็กเลว! ความคิดต่ำตม ถ้าวันนั้นปราบไม่ช่วยฉัน คงไม่ได้มายืนตรงนี้ จิตใจเธอทำด้วยอะไรยังมีความเป็นคนอยู่ไหม” เจียลี่โกรธแค้นผู้หญิงคนนี้มากก่อนหน้าไม่ใช่ว่าเธอจะนิ่งเฉย หาทางเล่นงานคืนตลอด แต่ยอมรับว่ากลัวอำนาจเงิน ถึงยังไงตอนนี้มีปราบยืนข้างๆ แล้วเขาทำให้ความกลัวหายไป“อาจารย์ร่าN! อุ้ยขอโทษค่ะมันหลุดปาก แต่เป็นถึงอาจารย์อย่าพูดจาพล่อยๆ สิคะ ใครทำหรอ ไหนหลักฐาน”“หลักฐานหรอ นี่ไง เพี๊ยะ!!!”ฝ่ามือฟาดลงไปบนหน้าของคนไม่ยอมรับผิด คนโดนตบหน้าหัน หงส์เอามือแตะริมฝีปากเพราะได้กลิ่นคาวเลือด เป็นอย่างที่คิด เคราะห์ซ้ำกรรมซัดมันไปโดนแผลเก่ารอยกัดของหมาทำให้มีเลือดไหลออกมา วินาที
ตอนที่ 9สัจจะวาจา“กริ๊งงงงงงงงงง........” เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก มันดังมาก ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้แก้วหูแทบแตก หญิงสาวดีดตัวขึ้นจากเตียงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเสียงดังขนาดนี้ นาฬิกาปลุกกระดิ่งคงถูกวางไว้แนบใบหูของเธอ ใครมันกล้าเล่นพิเรนทร์แบบนี้“โอ้ยยย ปวดหัว” หัวหนักอึ้งราวกับมีโอ่งใหญ่วางอยู่ข้างบนเป็นเพราะอาการเมาค้างจากเมื่อคืน เธอส่ายหน้าไปมาเพื่อเรียกสติ“ตื่นได้แล้ว” เสียงชายปริศนาปลุกเธอให้ตื่นตอนตี 5 เธอพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง คำถามคือ ปราบ! เข้ามาทำอะไรในห้องของเธอ เมื่อตั้งสติได้คนบนเตียงรีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบังร่าง อีกครั้งที่เขาทำอะไรโดยพลการ“ออกไปจากห้องฉัน ตอนนี้” คนยืนปลายเตียงเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า เขาอยู่ในชุดออกกำลังกายกางเกงวอร์มเสื้อกีฬา“ อย่าลืมสิ เมื่อคืนเธอแพ้น็อคนะฉันชนะมีสิทธิ์สั่งการทุกอย่าง หรือจะไม่รักษาคำพูด” ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ หงส์ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่จะยังไงก็ช่าง เขาไม่ควรเข้ามาในห้องนอนของเธอ อีกอย่างนี่มันตี 5 วัน หยุดเธออยากนอนตื่นสายๆ ยังไม่ส่างเมาจากเมื่อคืนเลยด้วย
ตอนที่ 8เด็ดปีกหงส์ประตูรถฝั่งผู้โดยสารถูกเปิดออก กระเป๋าถือแบรนด์เนมยี่ห้อดังวางอยู่บนเบาะ เขาโน้มตัวลงไปหยิบจากนั้นปิดประตูและทันทีที่หันหลังกลับไปปรากฏร่างของชายฉกรรจ์สองคนยืนอยู่เขาหยุดชะงักมองที่มือพวกมันมีอาวุธท่อนเหล็กแข็งๆ ขนาดยาว“ขอเถอะ วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์” เขาเปล่งเสียงที่ดูเหนื่อยล้าออกมาจากลำคอพวกนั้นแสยะยิ้มเหมือนโดนท้าทาย พวกมันไม่รอช้าจู่โจมทันที!“พลึบ”“โคร้ม!!!” มันคนหนึ่งวิ่งกรูเข้ามาง้างมือเตรียมฟาด เขาถีบหน้าอกจนหงาย“ฟริ้ววว....” อีกคนฟาดท่อนเหล็กใส่เต็มแรง เขาก้าวถอยหลังหลบทัน มันฟาดอีกครั้งเขาหลบด้วยการเคลื่อนที่ไปด้านข้างอย่างคล่องแคล่ว“ฟึ๊บบบ” ครั้งนี้เขาใช้ความเร็วกว่ารับช่วงแขนมันไว้ มือข้างที่ถือกระเป๋าแบรนด์เนมกระแทกเข้าเบ้าหน้า ทำงานประสานกับเท้าที่สกัดขามันจนล้ม คนเสียเปรียบพลิกตัวลงไปนอนข้างล่างเขาอาศัยจังหวะนั้นแย่งท่อนเหล็กออกจากมือ“ผลั๊วะ” มันพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาจากพื้น ปราบฟาดท่อนเหล็กใส่หน้าจนมันน็อคคาที่ คนโดนถีบลุกขึ้นมาตั้งหลักได้กำท่อนเหล็กในมือแน่น จู่โจมใส่เขามันใช้สองมือจับปลายท่อนเหล็กหวังฟาดกลางกระบาล ปราบใช้ท่อนเหล็กในมือที
ตอนที่ 7พันธสัญญา“ลื้อต้องหัดใจเย็นให้มากกว่านี้ ลื้อจะทำให้ทุกอย่างพังทลาย” เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์หรูเจ้าพ่อรีบตักเตือนลูกสาว“หงส์ไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นหนิ อีกอย่าง ป๊าได้ยินที่มันพูดไหม ลามกจกเปรตที่สุด” ลูกสาวยืนกอดอกคุยกับพ่อ โดยมีปราบยืนอยู่ข้างๆ“ยังไงลื้อก็ต้องแต่ง” หงส์ถอนหายใจเธอไม่เข้าใจคนเป็นพ่อว่าทำไมต้องบังคับจิตใจขนาดนี้“แล้วถ้าหงส์ไม่แต่งล่ะ”“ไม่ได้! มันเป็นสัญญาระหว่างสองตระกูล สัญญาระหว่างเจ้าพ่อกับเจ้าพ่อ เปลี่ยนไม่ได้ อีกอย่างถ้าผิดคำพูดคนอื่นจะมองยังไง วาจาของเจ้าพ่อทั้งสองฝั่งคงไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป”“สัญญาบ้าบออะไร หงส์รู้นะ ป๊าเองก็ไม่ชอบตระกูลนั้นเหมือนกัน ถ้าไม่ชอบแล้วจะไปสัญญาทำไม”“ลื้อไม่เข้าใจหรอก มันซับซ้อนกว่าที่คิด เราเคยมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกันมาตลอด อั๊วกับหลงเราเป็นเพื่อนรักกัน สร้างอาณาจักรขึ้นมาด้วยกันแต่ความโลภทำให้มันอยากเป็นเจ้าของอาณาจักรเพียงหนึ่งเดียว” เจ้าพ่อเหลารู้ดีว่าความโลภของคนน่ากลัวแค่ไหน เขาผ่านมามันหมดแล้วและได้รับบทเรียนมากมาย“ไอ้หลง มันทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการแต่อั๊วไม่ยอมง่ายๆ จนกระทั่ง เรื่องที่ลื้อต
ตอนที่ 6สงบสติอารมณ์“แป้ก แป้ก แป้ก” เสียงกดเปิดสวิตช์ ไฟทุกดวงในห้องนอนถูกเปิดติดสว่างจ้า เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวที่กำลังนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มคนในชุดนอนสายเดี่ยวกำลังหลับฝันหวาน“พลึ้บบบ” เธอสะดุ้งตื่นทันทีที่ผ้าห่มถูกกระชากออก หงส์มองเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ปลายเตียง ร่างบางๆ ดีดตัวขึ้นมาจากเตียงนอนสุดหรูอัตโนมัติ“ใครอนุญาตให้เข้ามา” เธอขยี้ตาตัวเองเพราะไม่เชื่อสายตาว่าจะเป็นเขา ปราบเข้ามาในห้องนอนของเธอได้ยังไง ชายหนุ่มที่มีใบหน้าเคร่งขรึมเขามีกุญแจทุกดอกในบ้านหลังนี้“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้” หงส์ตกใจมากเธอคว้าผ้าห่มขึ้นมากอด ชุดนอนของเธอมันยั่วสวาทเกินไป ในขณะที่สายตาของเขากลับไม่ได้พิศวาสเธอเลยแม้แต่น้อย“ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว” คำพูดห้วนๆ ที่เธอเกลียด เขาไม่เคยพูดดีกับเธอเช่นเดียวกับเธอที่ไม่เคยพูดจาไพเราะกับเขา หงส์เงยหน้าขึ้นไปดูเวลานาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาตีห้า“กล้ามาที่เข้ามาในห้องนี้ จะออกไปดีๆ หรือให้คนมาลากตัวออกไป” เขาได้รับอภิสิทธิ์เหนือใคร มันเป็นเพราะคำสั่งของเจ้าพ่อแต่เขาไม่ควรเข้ามาในห้องนอนของเธอโดยพลการแบบนี้“ไม่ลุกใช่ไหม” ปราบไม่สนใจคำขู่ จู่โจมเข้าหาโดยที่เธอไม่ทันต
ตอนที่ 5หงส์หรืออีกา“หมอทำแผลให้เรียบร้อยแล้วครับ โชคดีที่มีแค่รอยถลอก” หงส์มองดูแผลถลอกตรงบริเวณข้อศอกและหัวเข่าด้วยสีหน้าเป็นกังวลเธอกลัวว่าจะมีแผลเป็นตามมา“สบายใจได้ครับ ทาครีมที่หมอให้เป็นประจำไม่มีรอยแผลเป็นแน่นอน” หมอเห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดี รู้ได้ทันทีว่าคนไข้กังวลเรื่องอะไรหงส์เดินกะเผลกออกมาจากห้องทำแผลในโรงพยาบาลพร้อมหิ้วรองเท้าส้นสูงออกมาด้วยแต่เธอหยุดชะงักเพราะเห็นใครบางคนกำลังยืนรอ ปราบยืนกอดอกหลังพิงเสาเขาจ้องมองเธอด้วยใบหน้านิ่งๆ ไร้ความรู้สึก เธออยากกรี๊ดออกมาแต่กลัวคนแตกตื่น“เชิญนั่งครับ” บุรุษพยาบาลวิ่งมาพร้อมรถเข็น“ไม่ต้อง” เธอไม่อยากให้เขาเห็นว่าอ่อนแอแค่นี้ก็รู้สึกอับอายจะแย่คนเจ็บเดินกะเผลกไปที่รถโดยมีปราบเดินตามหลังไปติดๆ โชคดีที่รถของเธอจอดอยู่ไม่ไกล ปราบจ้องมองผู้หญิงดื้อรั้นที่เดินอยู่ข้างหน้า ในใจของเขาไม่คิดสงสารเธอเลยแม้แต่น้อย ทำตัวเองแท้ๆ ไม่มีใครบังคับให้ลงจากรถกลางสี่แยกไฟแดงสมควรแล้วที่โดนแบบนี้“เชิญครับ...คุณหนู” พอเดินมาถึงรถปราบเปิดประตูออก พร้อมกับผายมือให้คนเจ็บเข้าไปนั่ง หงส์ยอมง่ายๆเธออยากกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุดจะได้เอาเรื่องนี้ไปฟ้องเจ
ความคิดเห็น