เพราะรักจึงตามตื้อเพียงแค่อยากเห็นหน้าอยากได้รักตอบ แต่ไม่เคยจะรู้เลยว่ามันทำให้อีกคนทั้งลำบากใจ ทั้งหงุดหงิดและไม่ชอบ
ดูเพิ่มเติม“นี่พี่บอกกี่ครั้งแล้วพู่กันทำไมไม่ฟังกันบ้าง ถ้าพี่ไม่อนุญาตหรือถ้าพี่ไม่อยู่ที่ห้องห้ามแอบเข้ามาที่ห้องพี่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่คุยด้วยอีกแล้วนะ อย่ามาหาว่าพี่ใจร้ายด้วยนะ”
เสียงตวาดของวรานนท์เจ้าของคอนโดหรูดังลั่นห้องด้วยความโมโห ทำเอาตอนน้ีพู่กัน หรือนายพนัชกร ธีรวัฒนาวัฒน์ รู้สึกตกใจกลัวขึ้นมาทันที เพราะปกติพี่เนมจะใจดีกับตัวเองตลอด สาเหตุที่แอบเข้ามาในพื้นที่หวงห้ามของหนุ่มหล่อร่างสูงอย่างวรานนท์ โชติกุลวัฒนา หรือพี่เนมของน้องพู่กัน ก็เพราะวันพรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของพี่เนมเจ้าชายในดวงใจของพู่กัน ร่างโปร่งบางก็เลยตั้งใจที่จะมาฉลองวันเกิดให้ล่วงหน้า แต่พอโดนตวาดเลยทำให้ร่างบางหน้าเสียไม่นึกว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียขนาดนี้ “พู่กันขอโทษนะครับพี่เนม ก็พู่กัันแค่อยากมาเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่เนมล่วงหน้าและอยากจะมาเป่าเทียนวันเกิดกับพี่เนมเป็นการส่วนตัวแค่สองคนเราก่อนเฉยๆ พี่เนมอย่าโกรธพู่กันเลยนะครับ น๊าาาา” คนตัวเล็กกว่าอ้อนเจ้าของห้องเสียงหวานที่เมื่อก่อนเคยใช้ได้ผลดีมาตลอดเผื่ออีกคนจะใจดีหายโกรธตัวเองลงบ้าง แต่วรานนท์ก็ได้แต่ถอนหายใจทำท่าเบื่อหน่ายออกมาให้ร่างบางได้เห็นและใจแป้ว แต่ก็ยังแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าช่วงนี้อยู่ในช่วงฝึกงานของวรานนท์ คนตัวโตคงทำงานมาหนื่อยๆ คงอยากพักผ่อน อากาศร้อนด้วย เลยอาจจะหงุดหงิดบ้างไม่เป็นไรแค่นี้พนัชกรทนได้ “แล้วพรุ่งนี้ไม่ไปบ้านพี่ใช่ไหมถึงจะเอามาวันนี้ให้ได้” “ไปครับ ก็บอกแล้วไงว่าอยากให้พี่เนมเป่าเค้กกับพู่กันก่อนแค่สองต่อสอง ทำไมไม่เข้าใจกันเลย” “แล้วไหนเค้กที่จะให้เป่า รีบเอามาเป่าเร็วๆ ชักช้าจะได้รีบกลับบ้าน พี่เหนื่อยอยากพักผ่อน” เสียงร่างสูงถามหาเจ้าเค้กตัวปัญหาอย่างดุๆ เขาไม่อยากอยู่กับร่างบางนาน ไม่อยากให้พนัชกรเข้าใจผิดคิดว่าเขามีใจ เขาแค่เอ็นดูเหมือนน้องเหมือนนุ่งแค่นั้น แต่อีกคนไม่ฟังเลยตามตื้อเขาตลอด พอเห็นคนพี่ถามหาเค้กทำให้ร่างบางของพนัชกรรีบไปยกเค้กก้อนเล็กน่ารักที่ตัวเองให้มาม๊าพรีนสอนทำออกมาวางไว้ที่โต๊ะทานข้าวในห้องแล้วปักเทียนวันเกิดไว้ก่อนที่จะจุดเทียนแล้วถือมาตรงหน้าคนตัวสูง “ เอาล่ะนะครับ แฮบปี้เบิร์ด เดย์ ทู ยู แฮบปี้เบิร์ด เดย์ ทู ยู แฮบปี้เบิร์ด เดย์ แฮบปี้เบิร์ด เดย์ แฮบปี้เบิร์ด เดย์ ทู ยู สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่เนม พู่กันขอให้พี่เนมมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตอบรักเนมเร็วๆนะครับที่รักของพู่กัน ฟอดดดดดด” ร่างบางร้องเพลงวันเกิดพร้อมด้วยคำอวยพรให้กับวรานนท์ ก่อนที่จะหอมแก้มคนตัวสูงและยื่นเค้กวันเกิดให้ เจ้าของวันเกิดก็รับมาอย่างเสียไม่ได้ ไม่มีแม้กระทั่งรอยยิ้มให้ ใบหน้าหล่อไม่แสดงสีหน้าอะไรเลยนอกจากยืนหล่ออยู่เฉยๆ “พู่กันพี่บอกกี่ครั้งแล้ว อย่ามาแก่แดดก๋ากั่นลวนลามพี่ พี่ไม่ชอบ” วรานนท์ทำหน้าไม่ชอบใจใส่อีกคน แต่ถึงแม้พนัชกรจะโดนดุก็ใช่จะสนใจยังคงคะยั้นคะยอจูงมืออีกคนมานั่งที่โต๊ะแล้วส่งมีดตักเค้กให้คนตัวสูง “พี่เนมมาตัดเค้กวันเกิดเร็วครับ นี่พู่กันทำเองเลยนะครับไม่หวานมาก” ซึ่งวรานนท์ก็รับมาตัดให้จบๆ ก่อนที่จะใช้ช้อนตักขึ้นมาชิมเค้กมะพร้าวอย่างที่เขาชอบรสชาติอร่อยเลยล่ะ ตักเค้กเข้าปากพลางเหลือบตามองไปทางคนทำที่ทำหน้าลุ้นรอคำติชมจากเขาอยู่ “โอเค รสชาติใช้ได้ ขอบคุณครับ พี่อิ่มแล้วอ่ะที่เหลือพี่ยกให้พู่กันเอาไปกินแทนพี่ที” พนัชกรยิ้มแก้มปริทันทีกับคำชมเขาดีใจที่พี่เนมชมว่าเค้กที่เขาอุตส่าห์ทำมาอร่อย แต่ประโยคต่อมาที่วรานนท์ยกเค้กกลับมาให้ตัวเองคืออะไรอร่อยแล้วทำไมถึงไม่กินต่อ เพิ่งตักกินไปคำเดียวเอง “พี่เนมไม่กินอีกเหรอครับ ทานอีกหน่อยนะครับเดี๋ยวพู่กันป้อนให้เอาไหม” “ไม่ต้องพี่บอกว่าอิ่มแล้วไง พี่ยกให้ ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง ถ้าไม่รับกลับก็เอาไปท้ิงถังขยะเลย” วรานนท์เผลอพูดตะคอกออกมาด้วยความหงิดหงุด เขาไม่ชอบที่ร่างบางคอยเซ้าซี้ทำโน่นทำนี่ให้เขาตลอดมาคอยป้วนเปี้ยนใกล้ๆ ให้เขาได้รำคาญใจ คนฟังถึงกลับหยุดชะงักช้อนที่กำลังตักเค้กไปจ่อป้อนที่ปากหยักของชายยอดดวงใจ ในใจมันสั่นมันเสียใจกับคำพูดของร่างสูง เขาเคยร้องไห้น้อยใจกับคำพูดของวรานนท์แต่ก็โดนร่างสูงต่อว่าไม่ชอบคนเจ้าน้ำตา ครั้งนี้แม้จะเสียใจกับคำพูดร้ายๆไม่ถนอมน้ำใจกันก็ทำได้แค่ร้องไห้ในใจแค่นั้น “พู่กันขอโทษครับ ถ้าพี่เนมอิ่มแล้วเดี๋ยวพู่กันเอาเก็บไว้กินเองก็ได้ครับ” “พี่ขอโทษแล้วกันที่เสียงดังใส่ คราวหลังพี่พูดอะไรก็ฟังพี่บ้าง แล้วนี่จะกลับหรือยัง พี่จะได้ลงไปส่งข้างล่าง” “เอ่อ กลับก็ได้ครับพี่เนมจะได้พักผ่อน สุขสันต์วันวันเกิดอีกครั้งนะครับที่รักของพู่กัน พู่กันขอโทษนะครับที่มากวนเวลาพักผ่อนของพี่ พู่กันกลับก่อนนะครับ” “ป่ะ เดี๋ยวพี่ลงไปส่งข้างล่าง” ร่างบางเลยอยู่อ้อยอิ่งไม่ได้ จำใจต้องเดินตามเจ้าของห้องออกไป ร่างสูงของวรานนท์เดินมารอร่างบางในลิฟต์เขาสังเกตว่าร่างบางทำหน้าหงอยลง แต่ทำยังไงได้เขากลับจากฝึกงานมาเหนื่อยๆ ก็ต้องการที่จะพักผ่อนส่วนตัว แต่ร่างบางก็ชอบมาขโมยเวลาเขาไปตลอดเหมือนนกรู้ตารางชีวิตของเขาจะไม่ทำให้เขาหงุดหงิดเลยได้ยังไง บางวันโทรมาดึกๆมาคุยเรื่องไร้สาระ จนเขาต้องดุเอา คนตัวสูงเดินมาหยุดอยู่ที่รถของพนัชกรที่จอดอยู่พร้อมกับรออีกคนที่เดินถือกล่องเค้กตามหลังมาช้าๆ อย่างใจเย็น และอดทนนี่ขนาดท่าเดินยังช้าจนเขาเห็นแล้วหงิดหงิดรำคาญลูกกะตาจะช้าไปถึงไปเถอะพ่อคุณ เดินยังกะจะไปประกวดเทพี พอร่าบางเดินมาถึงที่รถของตัวเองที่จอดอยู่แล้วก็กล่าวลาวรานนท์คนหล่อในหนึ่งเดียวในดวงใจอย่างจำใจ “พู่กันไปก่อนนะครับพี่เนม ขอบคุณที่ลงมาส่งนะครับ สวัสดีครับ ฟอดดดด” ลาคนหล่อปากร้ายเสร็จ พู่กันก็จู่โจมหอมแก้มอย่างรวดเร็วโดยที่คนพี่ไม่ทันตั้งตัวก่อนที่จะขับรถออกไป วรานนท์ โชติกุลวัฒนา ตอนนี้เขา 21ปี กำลังจะเรียนปริญญาตรีปีสี่ตอนนี้อยู่ในช่วงฝึกงาน เขาเข้าไปฝึกที่บริษัทของครอบครัว เพื่อที่จะเข้าไปช่วยแด็ดดี้ เวทานนท์ ฝึกบริหารไปด้วย เขามองคนตัวบางที่เพิ่งขับรถจากไป เขารู้จักกับพนัชกรเพราะครอบครัวสนิทกันแด็ดดี้กับลุงหมอพ่อของร่างบางเป็นเพื่อนรักกัน พวกเขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ และร่างบางเป็นเพื่อนสนิทของสองแฝดน้องของเขา โน้ตกับเนยเรียนอนุบาล ประถม มัธยมมาด้วยกันตลอด เพิ่งจะแยกกันตอนเรียนมหาวิทยาถึงแม้จะอยู่คนละคณะก็ยังอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน น้องโน้ต วรงกรณ์ แฝดพี่เรียนวิศวะ ส่วนน้อยเนย วราภรณ์ เรียนคณะบริหารเหมือนเขา แต่ร่างบางที่เพิ่งขับรถจากไปเลือกที่จะเป็นคุณหมอเหมือนผู้เป็นพ่อ วรานนท์ในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มตั้งแต่เด็กๆ ก็ดูแลน้องๆ มาตลอด จนมาถึงตอนที่พวกน้องๆ กำลังจะจบมอปลาย พู่กันก็เข้ามาสารภาพกับเขา ว่าแอบรักมาตลอดและมาขอคบเป็นแฟน ซึ่งเขาเองไม่ได้ชอบร่างบางแบบคนรักเลยปฏิเสธไป แต่อีกฝ่ายก็ตามตื้อตลอดตั้งแต่นั้นมาโดยไม่สนคำปฏิเสธจากเขา เพราะได้แรงสนับสนุนจากสองแฝดเพื่อนรัก ถึงตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเขาจะเป็นหนุ่มฮ็อตของคณะและมหาวิทยาลัยเขาก็ไม่ได้คบใครเป็นพิเศษ บางทีก็แค่วันไนท์สแตนด์ เพราะเขายังไม่เจอใครที่รักจริงๆ มีผู้หญิงและผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาหาเขาต้องการแค่มีคืนพิเศษกับเขา วรานนท์ก็โอเคแต่ต้องทำข้อตกลงกันว่าไม่ผูกมัดเขาถึงจะตกลงยอมหลับนอนด้วย“อูย น้องพู่กันแต่งงานเมื่อไหร่ จนมีลูกโตแล้วเหรอ แด็ดดี้ไม่เห็นรู้เลยถ้าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ลุงหมอก็น่าจะบอกพวกเราแล้วนะ ยกเว้นไม่อยากให้รู้” พอถึงประโยคนี้ทั้งหมดหันมามองหน้ากัน ว่าสิ่งที่ตัวเองฉุกคิดในใจจะตรงกับที่คนอื่นคิดหรือเปล่า“พี่เวย์ พี่เวย์คิดเหมือนนิวไหม” นวพรรษถามสามีเพราะปกติเวทานนท์กับนิลกาฬเป็นเพื่อนรักกันมีอะไรคุยกันตลอด ยกเว้นตอนนี้ที่นิลกาฬจะไม่ยอมคุยคือเรื่องที่เกี่ยวกับพู่กันลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เพราะให้เหตุผลว่าพู่กันขอร้องไว้จะไม่ติดต่อกับใครที่เมืองไทยเพราะอยากจะลืมความรักที่มีให้วรานนท์ลูกชายของตัวเอง และจะอยากจะตั้งใจเรียนซึ่งตนและสามีก็เคารพการตัดสินสินใจของหลานชาย เพราะลูกชายตัวเองผิดจริงทำให้ไม่ได้ตามหาข่าวสารอะไรที่เกี่ยวกับพนัชกรอีกเลย“ที่รักคิดว่าครอบครัวโน้นมีบางอย่างที่ไม่อยากให้พวกเรารู้ใช่ไหม” เวทานนท์ถามภรรยาเพื่อความมั่นใจในความคิดของตัวเองอีกครั้ง“ยังไงครับมามี๊โน้ตงงไปหมดแล้ว” วรงกรณ์เริ่มทนไม่ไหว“ตอนที่น้องบอมเล่าเมื่อสักครู่นี้ว่าเมื่อตอนน้องพู่กันยังอยู่ที่นี่มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้หน้ามืดจะเป็นลมบ่อยๆ ใช่ไหมลูก เป็นไปได้ไหมตอนนั้นอาจจะท้
วรานนท์อุ้มน้องส้มโอไปส่งให้กับปิยวดีและชัยวุฒิที่หน้าห้างตามที่ได้นัดหมายพอปิยวดีเดินออกจากรถมารับลูกสาวกลับเข้าไปในรถที่สามีขับมาจอดกระพริบไฟฉุกเฉินรออยู่แล้ว หลังจากนั้นวรานนท์ก็รีบเดินย้อนกลับไปยังร้านไอศกรีมที่มีพนัชกรกับน้องพัตเตอร์สองแม่ลูกนั่งอยู่ พอก้าวขาเข้าไปถึงที่โต๊ะที่สองแม่ลูกนั่งอยู่ร่างสูงก็เจอแต่โต๊ะที่ว่างเปล่าและพนักงานกำลังเก็บเช็ดทำความสะอาดโต๊ะอยู่“ขอโทษนะครับ ลูกค้าที่เป็นผู้ชายตัวขาวๆกับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่นั่งอยู่โต๊ะนี้ลุกออกไปนานหรือยังครับ”“เพิ่งลุกออกไปเมื่อสักครู่ประมาณไม่เกิน 5 นาทีได้ค่ะ” พนักงานร้านไอศกรีมตอบลูกค้ารูปหล่อ“ขอบคุณมากนะครับ”ขอบคุณพนักงานเสร็จแล้ววรานนท์ก็เดินออกไปจากร้านไอศกรีม เพื่อเดินหาสองคนแม่ลูกเผื่อจะเจอ แต่ใช้เวลาเดินหาอยู่สักพักก็ไม่เจอวรานนท์จึงขับรถกลับบ้านไปพอไปถึงบ้านร่างสูงของวรานนท์ก้าวเข้าบ้านและขึ้นห้องนอนไปโทรหาวราภรณ์น้องสาวของตัวเองทันที“เนยทำอะไรอยู่ว่างคุยกับเฮียไหม” ด้วยความที่วราภรณ์ไปเรียนต่อปริญญาเอกอยู่ถึงฝรั่งเศษเวลาไม่ตรงกันเลยต้องถามก่อนว่าว่างหรือเปล่าเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลาน้องสาว“ว่างอยู่คุยได้ มีอ
“ไอ้ห่าวุฒิกูมาถึงโรงเรียนลูกมึวแล้ว แล้วคุณครูเค้าจะยอมให้ลูกมึงออกมากับกูเหรอ ดีไม่ดีแจ้งตำรวจจับกูอีกไอ้ห่าเออๆถึงแล้ว มึงโทรบอกคุณครูเค้าแล้วใช่ไหมว่าให้กูมาลูกรับแทน เออเดี๋ยวกูคุยกับเขาก่อน”วรานนท์บ่นเพื่อนที่โทรมาหาวานให้เขามารับน้องส้มโอแทนเพราะตอนนี้ชัยวุฒิกับปิยวดีสองสามีภรรยาเพื่อนสนิทของเขารถเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกำลังเคลียร์กับประกันและคู่กรณีอยู่ที่ต่างจังหวัดน่าจะไม่สามารถกลับไม่ทันรับลูกหลังเลิกเรียนได้ และอีกอย่างบริษัทของวรานนท์ก็อยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติที่เด็กหญิงตัวน้อยเรียนอยู่เลยโดนเพื่อนไหว้วานให้มารับน้องส้มโอแทนวรานนท์เดินเข้าไปติดต่อขอรับตัวน้องส้มโอกับคุณครูที่พ่อกับแม่ของเด็กหญิงได้แจ้งคุณครูไว้แล้วจึงเป็นการง่ายแค่แสดงบัตรประชาชน และน้องส้มโอก็เคยเห็นลุงเนมแล้วหลายครั้งพอเห็นลุงเนมคนหล่อใจดีมารับเด็กหญิงก็ดีใจทันทีเพราะลุงเนมชอบมีอะไรอร่อยๆมาฝากส้มโอเสมอและเป็นช่วงจังหวะเดียวกันที่พนัชกรมารับน้องพัตเตอร์กลับหลังเลิกเรียนพอดี ด้วยความรีบเพราะคุณมี๊บอกจะไปทานไอศกรีมทำให้เด็กชายตัวน้อยดีใจรีบวิ่งนำหน้าคุณมี๊จะไปถึงที่ขึ้นรถก่อน และหันมาเรียกคุณมี๊ให้รีบเ
วันนี้เป็นวันที่พนัชกรมีความสุขมาก เป็นวันที่เขาภาคภูมิใจกับแปดปีที่เขาอดทนฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบากต่างๆเริ่มตั้งแต่เสียใจเจ็บปวดกับความรักแทบเอาชีวิตไม่รอดตื่นมาต้องเจอกับการที่ต้องรู้ตัวว่าตัวเองตั้งครรภ์ในวัยที่ไม่สมควรอย่างวัยเรียนและโดนคนที่เป็นพ่อของลูกในท้องตัดขาดความสัมพันธ์กันและเลี้ยงดูลูกน้อยจนเติบใหญ่เพียงลำพัง แต่ยังถือว่าโชคดีที่มีครอบครัวที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนและมีคุณปู่มาอยู่ช่วยเลี้ยงเหลนด้วยจนตอนนี้ลูกน้อยอายุได้เจ็ดขวบแล้ว การเรียนที่หนักหน่วงมาตลอดจนตอนนี้สามารถจบเป็นแพทย์เฉพาะทาง สาขาด้านการผ่าตัดศัลยกรรมหัวใจและทวงอกได้สำเร็จ ต้องขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกคนในครอบครัวที่มีให้ร่างบางมาตลอด รวมทั้งน้องพัตเตอร์ลูกชายตัวน้อยและคุณปู่อาทิตย์ที่คอยอยู่เคียงข้างมาตลอด หลังจากนี้ไปพนัชกรก็จะพาลูกน้อยกลับไปอยู่ประเทศไทยบ้านเกิดเมืองนอนที่เขาจากมาตั้งแปดปีที่ไม่เคยกลับไปเหยียบอีกเลย กลับไปครั้งนี้เขาได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆแล้ว“น้องพัตเตอร์คิดถึงคุณตากับคุณยายที่สุดในโลกเลยครับ” เด็กชายตัวน้อยตอนนี้อายุเจ็ดขวบแล้วโผเข้ามากอดนิลกาฬกับพีรฉัตรผู้เป็
“อาาาาาส์เสียงร้องครางเสียวของพนัชกรดังน่าฟังสำหรับคนตัวสูงมากขณะนี้ เมื่อส่งน้องน้อยไปเยือนแดนสวรรค์แล้วถึงคราของวรานนท์บ้าง ร่างสูงผละออกจากพนัชกรเพียงเพื่อที่จะถอดเสื้อผ้าออกจากกายอย่างรวดเร็วก่อนที่จะลงมาหาร่างบางอีกครั้งด้วยร่างกำยำเปลือยเปล่า ปากหยักก้มลงไปดูดเลียที่หน้าอกเนียนของคนน้องอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียวให้ร่างบางอย่างต่อเนื่องก่อนที่วรานนท์จะถดตัวขยับดูดเลียตามผิวเนื้อเนียนของร่างบางลงมาเรื่อยๆ ลงมาถึงหน้าท้องน้อยแบนราบ เลียเรื่อยลงมาที่ต้นขาด้านในเม้มดูดจนขาขาวเนียนตอนนี้เริ่มเป็นรอยแดง แล้วย้ายจากขาข้างขวามายังขาข้างซ้ายและทำแบบเดียวกัน คนตัวสูงนอนคว่ำหมอบอยู่ที่บริเวณก้นเนียนก่อนที่จะดันก้นเนียนให้ยกขึ้นแล้วยกให้ขาเรียวทั้งสองข้างให้พาดมาที่บ่าแกร่งของตัวเอง มือหนาคว้าลำเนื้อสีอ่อนมากำรูด ส่วนลูกบอลทั้งสองที่อยู่ใต้แท่งเนื้อก็โดนปากหยักอ้าอมไว้ในปากดูดแล้วคายออกมาเลียจนลูกบอลทั้งสองแข็งเกร็ง จากนั้นก็ย้ายลิ้นร้อนเลียมาเรื่อยจนมาถึงบริเวณช่องทางด้านหลัง เลียทั่วบริเวณฝีเย็บให้อีกฝ่ายได้สะดุ้งด้วยความเสียว ก่อนที่ลิ้นร้อนจะเลียลามมาถึงรูสวาทสีสวยที่ยิ่งโดนเลียยิ่งขม
ทุกคนในกลุ่มคณะแพทย์ที่ไปดื่มฉลองกันไม่มีใครไม่รู้จักวรานนท์ เดือนมหาลัยปี 4 พี่ชายคนสนิทของพนัชกร พอวรานนท์ขอเอาตัวคนเมากลับบ้านกับตัวเองเลยไม่มีใครกล้าทัดทาน และพอดีกับที่พนัชกรไม่ได้ขับรถมาเพราะบอกที่บ้านไว้ว่าจะมาเลี้ยงวันเกิดเพื่อนและอาจจะนอนที่บ้านเพื่อน เห็นจะมีแต่ไอ้เดือนแพทย์ที่คัดค้านบอกว่าจะดูแลคนเมาเอง มองจากดาวอังคารก็รู้ว่ามันคิดไม่ซื่อกับคนเมา“ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวเพื่อนผมผมดูแลเองก็ได้ครับ” กิตติภพบอกรุ่นพี่ที่ตัวโตกว่าเหมือนเกรงใจหนักหนา“คงไม่รบกวนพวกรุ่นน้องหรอกเดี๋ยวพี่พาพู่กันกลับบ้านเอง เดี๋ยวลุงหมอพ่อของพู่กันดุเอาถ้าเห็นว่าน้องพู่กันเมาขนาดนี้” อีกคนก็ไม่ยอมเช่นต้องยกลุงหมอมาอ้างเพื่อให้รุ่นน้องรู้ว่าเขาสนิทกับครอบครัวของพนัชกรมากกว่า“แต่ผมขออนุญาตคุณปู่อาทิตย์แล้วครับ คุณปู่อนุญาตให้พู่กันนอนบ้านผมได้” กิตติภพแย้งอย่างไม่ยอมอีก“โอเค นั่นเป็นเรื่องของคุณปู่กับเธอ แล้วพี่ก็คิดว่าน้องคงไม่ได้บอกคุณปู่อาทิตย์ด้วยหรอกใช่ไหมว่าจะให้พู่กันกินเหล้าจนเมาขนาดนี้ เพราะปกติถ้าไม่อยู่กับคนที่บ้านพู่กันจะไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่ม แต่เดี๋ยวพี่จะพาน้องพี่กลับไปกับพี่ก่อนแค่
ความคิดเห็น