ความเกลียดทำให้เขา... ทำร้ายเธอ ความรักทำให้เธอ ... ยอมอดทน แม้จะต้องถูกเปลวเพลิงแห่งความแค้นของเขาแผดเผา จนทำให้ร่างกายของเธอมี ราคี... เรื่องราวภาคต่อจากทัณฑ์ราคี ของปรัชญ์กับลินิน หรือไอ้หมาตลาดกับยายผ้าป่าน
View Moreตอนที่1. ยายผ้าป่านกับหมาตลาด/1
“จอดตรงนี้ก่อน”
ลินินบอกคนขับแท็กซี่ให้หยุดตรงบริเวณปากซอยก่อนทางเลี้ยวเข้าบ้าน หญิงสาวลงจากรถมายืนดูรอบๆ บริเวณนั้น หลับตาลงเพื่อนึกเปรียบเทียบกับภาพความทรงจำเก่าเมื่อห้าปีก่อน เมื่อลืมตาขึ้นมาทุกสิ่งเปลี่ยนไปจากเดิมจนไม่เหลือร่องรอยเก่า ตลาดทรัพย์เจริญของคุณยายฝ้ายคำถูกแทนที่ด้วยคอนโดสูงระฟ้า ตึกแถวกลายเป็นลานจอดรถ ภาพคุ้นตาของร้านรวงและผู้คนคึกคัก หายไปจากสายตา เวลาเปลี่ยนทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง หญิงสาวสะท้อนใจ
“ลงไปดูอะไรลูก รีบเข้าบ้านเถอะแม่ร้อนจะตายแล้ว”
นางแพรพรรณเปิดกระจกส่งเสียงเรียกลูกสาวให้กลับขึ้นรถ นางมองรอบๆ กายอย่างหงุดหงิดใจ หลังจากขายตลาดแล้วหอบเงินพาสามีตามลูกสาวไปเริ่มต้นชีวิตยังต่างแดน ไม่เคยคิดว่าต้องย้อนกลับมายังที่เก่า หากไม่เพราะการค้าล้มเหลวสามีเสียชีวิต นางไม่มีทางพาลูกสาวกลับมาอีก
“ไม่มีอะไรเหลือเลยค่ะ ห้าปีทำให้ที่นี่เปลี่ยนไปหมด” ลินินทอดถอนใจ
“เจ้าสัวเขาเอาที่ตลาดไปทำคอนโด นี่คงได้กำไรหลายล้าน ตอนนั้นกดราคารับซื้อแบบครึ่งต่อครึ่ง ถ้าแม่ไม่จำเป็นต้องใช้หนี้ให้เขา แม่ก็ไม่ขายหรอก” แพรพรรณยังเจ็บใจไม่หาย
ตอนนั้นเจ้าสัวโภคินใช้อำนาจของเจ้าหนี้กดดันให้เธอขายตลาดให้ในราคาถูก เธอกับสามีจึงต้องยอมขายให้อย่างไม่มีทางเลือก ตอนนี้นึกเสียดายก็สายไปเสียแล้ว
“ป่านจ้างบริษัทมาทำความสะอาดล่วงหน้าไว้แล้ว คุณแม่คงพออยู่ได้ ป่านจะจ้างคนงานไว้รับใช้คนหนึ่งนะคะ”
ลินินบอกมารดาหลังจากรถแล่นมาจอดหน้าประตูรั้วบ้านแล้ว คนขับรถช่วยยกกระเป๋ามากองไว้ให้ ก่อนจะขับรถออกไป ทิ้งสองแม่ลูกให้ขนกระเป๋าเข้าบ้านเอง
ประตูรั้วเปิดออกกว้าง เผยให้เห็นสภาพภายในบ้านที่ทรุดโทรมตามเวลาเพราะขาดคนดูแล ยังดีที่ได้รับการทำความสะอาดจึงไม่รกรุงรัง ลินินยกกระเป๋าเข้ามาภายในบ้านแล้วปิด ล็อกประตูรั้วบ้าน
“พรุ่งนี้คนที่ป่านติดต่อจ้างไว้ เขาจะมาทำงานค่ะ อาทิตย์หน้าป่านต้องขึ้นเชียงใหม่ไปรายงานตัว คุณแม่อยู่บ้านคนเดียวได้นะคะ ป่านจะให้คนงานมาอยู่เป็นเพื่อน”
ลินินได้งานเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ เป็นงานที่ได้รับการทาบทามจากอธิการบดีของที่นั่นมานานพอสมควร เมื่อเดินทางกลับเมืองไทยลินินจึงตอบรับ หญิงสาวไม่ได้พามารดาไปอยู่ด้วย เพราะแพรพรรณต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลกับแพทย์เฉพาะทางในกรุงเทพจากอาการโรคมะเร็ง หลังจากนายสมเกียรติเสียชีวิต แพรพรรณก็ตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ค่ารักษานั้นแพงมากจำเป็นต้องย้ายกลับมารักษาตัวที่เมืองไทย
“แม่ก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด จะให้กลัวอะไร”
แพรพรรณบอกให้ลูกสาวสบายใจ นางเกิดและเติบโตที่นี่ แค่จากไปอยู่ต่างแดนห้าปี ไม่ได้ทำให้นางรู้สึกรู้สาอะไรกับการต้องกลับมาอยู่ในสภาพเดิม ขาดเพียงคนรับใช้และบรรยากาศเก่าๆ แต่จะให้นางโหยหาอะไร เมื่อสิ่งเหล่านั้นล้วนไม่มีความหมายต่อนางเลย
“คุณแม่อาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวป่านจะไปโทรสั่งอาหารมาให้ทาน พรุ่งนี้ถึงจะมีคนมาทำอะไรให้ วันนี้กินอะไรง่ายๆ ไปก่อนนะคะ”
ลินินส่งมารดาเข้าห้องนอนได้ ก็ลงมาโทรสั่งอาหาร จากนั้นก็เดินสำรวจไปรอบๆ บ้าน ต้นไม้ในเขตบ้านของเธอถูกตัดทำความสะอาดเรียบร้อย มีเพียงฝั่งของเรือนไทยบ้านเก่าของคุณยายฝ้ายคำที่ยังรกเรื้อ หญิงเดินไปเกาะรั้วมองข้ามไปยังฝั่งนั้น ภาพความทรงจำเก่าๆ ย้อนวนมาในมโนนึก
“พี่ปอนด์ทำชิงช้าให้มัส พี่ป่านมาเล่นด้วยกันสิคะ”
มัสลินในวัยเยาว์ตะโกนข้ามรั้วมาเรียกพี่สาว ที่นั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่ในสวนฝั่งตึกใหญ่ ลินินหันไปมองก็พบว่าใต้ต้นไม้ข้างเรือนไทย ปรัชญ์หรือพี่ปอนด์ของมัสลิน กำลังผูกเชือกห้อยชิงช้า ให้น้องสาวของเธอเล่น
“อย่าไปเรียกเลย คุณหนูป่านเขาไม่เล่นของแบบนี้หรอก”
ปรัชญ์วางมือจากชิงช้าที่ผูกเพิ่งเสร็จ กอดอกมองมายังเธอ สายตาของเด็กหนุ่มในวัยสิบแปด ไม่ได้มองมาแบบเป็นมิตรเท่าไหร่ เขาอายุมากกว่าเธอสามปีแต่ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต ยอมตามใจเป็นเพื่อนเล่นเด็กอายุสิบสามอย่างมัสลิน ทั้งที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย กลับไม่ยอมอ่านหนังสือมาเล่นสนุกกับเด็กอยู่ได้ เธอเรียนเร็วและยังสอบเทียบข้ามชั้น จึงเรียนเกือบทันเขา ปีหน้าเธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนกัน
“พี่ปอนด์ อย่าพูดดักแบบนั้นสิ พี่ป่านชอบชิงช้าจะตาย ตอนเด็กๆ เคยเล่นกับมัสบ่อยๆ”
มัสลินหันไปต่อว่าปรัชญ์ แล้วหันกลับมายิ้มประจบ
“พี่ป่านมาเล่นเถอะ มัสจะแกว่งให้ เดี๋ยวป้าแพรมาอดเล่นนะ”
ตอนแรกลินินจะปฏิเสธ แต่เห็นใบหน้ากวนโทสะของ ปรัชญ์ ทำให้เธอละเมิดกฎของตัวเอง โดยยอมวางตำราเรียน เดินข้ามไปยังฝั่งเรือนไทย แล้วนั่งลงบนชิงช้าด้วยมาดนางพญา มัสลินดีใจที่พี่สาวมาเล่นด้วย รีบแกว่งชิงช้าให้
“สนุกไหมพี่ป่าน”
มัสลินถาม หลังจากแกว่งชิงช้ามาพักหนึ่ง
“ก็ดี มัสจะเล่นต่อไหมพี่จะลุกให้”
ลินินขยับจะลุกขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ ปรัชญ์แทรกตัวเข้ามาผลักชิงแทน ทำให้ร่างที่ยังไม่ทันวางเท้าแตะพื้นเสียหลักล้มฟาดดังโครม
“ตายแล้ว หนูป่าน เป็นอะไรหรือเปล่าลูก!”
เสียงกรีดร้องของแพรพรรณดังก้องขึ้น คนเป็นแม่กลับมาทันเห็นลูกสาวตกจากชิงช้าพอดี และแน่นอนทันเห็นว่าใครเป็นคนแกว่ง รีบวิ่งมาดูลูกสาวสุดที่รัก
“ป่านไม่เป็นไรค่ะ คุณแม่”
ลินินลุกขึ้นในสภาพคางแตก ใบหน้าเปื้อนฝุ่นมอมแมม เสื้อผ้ามีเศษหญ้าติดเต็มตัว นางแพรพรรณแทบจะกรีดร้องอีกหน โมโหจนตัวสั่นหันไปตวาดตัวต้นเหตุ
“นังมัส ไอ้ปอนด์ แกสองคนแกล้งลูกสาวฉันใช่ไหม ฉันเห็นนะว่าเมื่อกี้พวกแกจงใจแกว่งชิงช้าแรง จนหนูป่านตกลงมา ฉันจะเอาเรื่องพวกแก”
แพรพรรณมองรอบตัวก่อนจะเดินไปคว้าไม้ไผ่ที่ปักอยู่ข้างกระถางต้นไม้ เอามาหมายจะฟาดมัสลินก่อนพวก ปรัชญ์เข้ามาขวางไว้เลยเป็นคนถูกฟาดเสียเอง เขาแย่งไม้จากมือแพรพรรณมาโยนทิ้ง
“คุณนาย มันเป็นอุบัติเหตุ อย่ามาโทษกันมั่วๆ นะ เอะอะก็หาเรื่องตีมัส สักวันเถอะผมจะแจ้งตำรวจข้อหาทารุณกรรมเด็ก”
ปรัชญ์เอาตัวปกป้องมัสลินไว้ เขามองแพรพรรณด้วยสายตาเกลียดชัง แลเลยมาทางลินินด้วยสายตาไม่ต่างกัน
“คุณแม่คะ ป่านเจ็บค่ะ พาป่านไปหาหมอหน่อยค่ะ”
ลินินต้องยุติเรื่องไม่ให้ลุกลามมากกว่านี้ จำต้องเรียกร้องความสนใจจากมารดา นางแพรพรรณรีบพาลูกสาวไปหาหมอทันที
“ไปลูก แม่จะพาไปคลินิกหน้าปากซอย กลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะจัดการแกนังมัส ไอ้ปอนด์แกด้วยฉันจะไปเก็บค่ารักษาที่แม่แก หนูป่านเจ็บตัวเพราะฝีมือแก แม่แกต้องจ่ายค่ารักษาลูกฉัน”
พูดจบแพรพรรณก็จูงลูกสาวเดินออกไป ลินินหันกลับไปมองเห็นสายตาของปรัชญ์มองเธอด้วยแววตาวาวโรจน์ เธอหว่านเมล็ดความเกลียดใส่ใจเขาอีกแล้วใช่ไหม หลังจากไปให้หมอทำแผลให้ แพรพรรณทำตามที่พูดลากลูกสาวไปยังร้านขายขนมของเปรมใจเรียกร้องค่ารักษาจากแม่ของปรัชญ์
“ลูกของเธอ มันทำลูกสาวฉันเจ็บตัว เธอต้องชดใช้ค่าเสียหาย ถ้าลูกสาวฉันมีแผลเป็นเสียโฉม ฉันจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้หนักกว่านี้” แพรพรรณเอามือเท้าเอวพูดจาข่มขู่เปรมใจ
ลินินทนดูไม่ไหวเดินหลบมานอกร้าน นั่นทำให้พบกับปรัชญ์ที่ยืนอยู่ เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ใบหน้าของเขาเครียดเคร่งดวงตาดุกร้าว
“ยายผ้าป่าน แม่เธอมันเหลือเกินจริงๆ”
เขากระชากแขนลินิน ไปยังตรอกเล็กๆ ข้างร้าน ก่อนจะผลักเธอติดกำแพง ลินินตกใจกลับท่าทางคุกคามนั้น
“นายเป็นบ้าอะไร ทำตัวเหมือนหมาบ้า” ลินินขึ้นเสียงใส่
“ฉันบ้าแน่ หึ แม่เธออยากได้ค่าเสียหายใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเธอก็เรียกค่าเสียหายอย่างอื่นเพิ่มด้วยละกัน”
พูดจบปรัชญ์ก็ดันรวบร่างลินินมากอดไว้ พร้อมกับประกบจูบเธอแบบไม่ทันตั้งตัว ลินินตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ปล่อยให้เขาขโมยจูบแรกไปอย่างไร้ทางต่อต้าน เด็กหนุ่มจูบปากเธอจนหนำใจก็ผลักเธอล้มลงกับพื้น ยิ้มเยาะเด็กสาว
“ปอนด์ .. อ๊ะ ปอนด์ขา...”ลินินร้องครางเสียงพร่า ส่ายหน้าไปมาด้วยความรัญจวน ร่างกายของเธอถูกเขาบงการให้มีสภาพคล้ายดินน้ำมัน ที่จัดแต่งได้ตามใจเขาต้องการ ไม่ว่าจะพลิกพลิ้ว หมุนซ้าย หมุนขวา หันหน้าหรือหันหลัง เธอก็เคลื่อนตัวตามความต้องการของเขาทั้งสิ้น ความสุขสันต์รัญจวนใจ ประทุขึ้นโอบคลุมร่างกาย จนแทบไม่เป็นตัวของตัวเองปรัชญ์เองก็มอบทุกความสุขให้ภรรยาอย่างเต็มความสามารถ เขางัดลีลาเด็ดๆ มาใช้กับเธอ ในน้ำอาจจะทำให้เขาใช้ความรุนแรงไม่เต็มที่ แต่ก็มีความหฤหรรษ์ในทางอื่นชดเชยกัน พอร่างงามเกร็งกระตุก ภายในกายสาวรัดรึงเขาแน่น ชายหนุ่มก็สูดปากร้องครางออกมาแนบอกอวบแสนหวาน เร่งกระหน่ำโจนจ้วงเข้าหาเธอสุดแรง จนไปแตะขอบฟ้าด้วยกัน“อ๊าคคคค / กรี๊ดดดด”เสียงกรีดร้องด้วยความสุขสมของสองสามีภรรยาดังขึ้น พร้อมกับดวงอาทิตย์กลมโต หล่นจมลงไปใต้ขอบน้ำทะเล ความมืดโรยตัวเข้ามาปกคลุมทั่วบริเวณ“ขึ้นจากน้ำกันเถอะ มืดแล้ว”ลินินเอ่ยเสียงหอบ เอนหน้าซบบ่าหนาของสามีไว้ หลังจากเสร็จศึกในน้ำแล้ว“ไปต่อ ที่ห้องกันนะ”ฉลามหนุ่มยังกินนางเงือกไม่อิ่ม อยากจะกินร่างงามๆ นี่ให้สมอยากอีกสักสองสามรอบ“ฉันหนาว แล้วก็หิวข้าวด้ว
“น้ำเย็นสบายจัง”ลินินเอ่ยขึ้น เรียกความสนใจจากสามีให้มองหน้าเธอ หญิงสาวยิ้มหวานยกมือมาเกาะบ่าหนาของเขา ขยับตัวไปแนบชิด จนทรวงอวบงามแตะแนบกับแผงอกของเขา ลอบยิ้มเมื่อเห็นเขาสูดลมหายใจแรงๆ ดูเหมือนความเย็นของน้ำไม่ได้ทำให้อารมณ์ร้อนแรงในตัวเขาเย็นลงแม้แต่น้อย ตัวเธอเองก็ร้อนผ่าวไปกับสายตาเสน่หาของเขาเช่นกัน“อืม... เย็น อ่า... เย็นดีนะ”ปากพูดแต่มือของปรัชญ์เริ่มเลื้อยไปลูบบั้นท้ายของหญิงสาว เขาขยำสะโพกตึงแน่นของเธออย่างมันเขี้ยว กดให้แนบกับน้องชายของเขาที่เริ่มแข็งขึงขึ้นมา ลินินเหมือนจงใจยั่วเขาซ้ำด้วยการส่ายสะโพกไปมา ให้เนินนุ่มเสียดสีกัน เพิ่มแรงประทุในอารมณ์หนุ่มให้ร้อนแรงขึ้นเหมือนภูเขาไฟจวนระเบิด“ปอนด์ขา...”ลินินครางเรียกชื่อเขาเสียงหวานหยด เลื่อนมือมาลูบแผงอกของเขาไปมา ขณะเงยหน้าขึ้นแตะริมฝีปากบนลูกคางของเขาแผ่วๆ ริมฝีปากไต่ขึ้นมาจุมพิตริมฝีปากของเขา พอเขาจะจูบตอบเธอกลับผละออกห่าง แล้วว่ายน้ำหนีปล่อยให้เขาค้างคา จนต้องว่ายน้ำไล่จับแม่เงือกสาวจอมยั่ว แต่ลินินก็ว่ายน้ำเก่งจนคนตามจับต้องออกแรงอยู่นาน“อย่าหนีนะป่าน”“แน่จริง ก็จับฉันให้ได้สิคะปอนด์”ลินินสนุกกับการว่ายน้ำหนีสามีจ
“เล่นน้ำกันไหม แดดไม่แรงเท่าไหร่” ปรัชญ์เอ่ยชวน“ต้องทากันแดดก่อน” ลินินชูขวดครีมกันแดดให้เขาดู“ผลัดกันทาดีไหม เธอทาให้ฉันก่อนสิ เดี๋ยวฉันทาให้เธอบ้าง”ปรัชญ์หันหลังให้เธอช่วยทาครีม ลินินเปิดฝาขวดเทครีมบนฝ่ามือ ชโลมบนหลังให้เขานวดเบาจนครีมเข้าใต้ผิว แล้วจับไหล่ให้เขาหมุนตัวมาด้านหน้าทาครีมในส่วนที่เหลือ มือเรียวสวยลูบเบาๆ บนแผงอกหนาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อลอนสวย แก้มแดงระเรื่อไม่กล้าสบตาแวววาวของสามี ผิวของปรัชญ์เนียนลื่นขาวสะอาด ไม่แพ้ผิวของผู้หญิง สายตาคนทามองไปตามฝ่ามือแล้วเผลออมยิ้มเมื่อเห็นจุกนมสีชมพูของเขา มือเลื่อนลูบไปมาบนรอบป้านนมสีสวยนั้นนานเป็นพิเศษ ก่อนจะเลื่อนลงมาตามหน้าท้อง บรรจงทาครีมบนลอนกล้ามเนื้อทั้งหกลอน“อา... ป่านจ๋า นี่เธอทาครีมหรือว่าปลุกอารมณ์ผัวกันแน่”เสียงครางแผ่วพร่าดังใกล้หู ลมหายใจอุ่นๆ รินรดแก้มนวล เมื่อเจ้าของซิกแพกโน้มหน้ามาแตะปลายจมูกบนแก้มหอมๆ ของคนทา“ก็ทาครีมไง” ลินินเงยหน้าขึ้นสบสายตาวาววามของสามี แก้มร้อนผ่าวขึ้นมากับปลายจมูกที่กำลังปัดป่ายบนแก้มเธอ“ทาแค่นี้พอแล้ว ขืนทาอีก ฉันว่าเราคงไม่ได้ลงเล่นน้ำกันแล้ว”ปรัชญ์จับมือเธอไว้ไม่ให้ขยับลูบโลมเขาต่อ
“เหลือเราสองคนแล้วนะ”ปรัชญ์หันมาบอกลินิน หญิงสาวยิ้มสบตาเขาอย่างไม่กลัวเกรง เอ่ยว่า“อยู่กันสองคนแล้ว ทำอะไรกันดีคะ”“ทำอะไรเหรอ”ปรัชญ์ทำตาวาวๆ มองไปทั่วร่างงามของภรรยาสาว ทำเอาคนถูกมองแก้มร้อนผ่าว“ก็เล่นน้ำทะเลกันสองคนน่ะสิ เธอไปจัดเสื้อผ้านะ เดี๋ยวฉันตามไป”“รีบตามมาเร็วๆ นะ”ลินินบอก ก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าไปในห้อง หญิงสาวจัดการรื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋ามาแขวนในตู้เสื้อผ้า จัดของเขาเสร็จก็จัดของตัวเองบ้าง ก่อนจะอมยิ้มเมื่อหยิบชุดว่ายน้ำสีฟ้าออกมา ชุดนี้มัสลินให้มาเป็นของขวัญ และยังมีอีกสองชุดสีดำกับสีชมพู“พี่ป่าน ต้องหัดทำตัวเซ็กซี่เอาใจสามีบ้าง ยิ่งมีลูกแล้วเรายิ่งต้องสวยกว่าเดิม ให้สามีเราไปไหนไม่รอด” คำแนะนำของน้องสาวมาพร้อมชุดว่ายน้ำสามชุด และชุดนอนโปร่งบางอีกสองชุด แถมยังมีน้ำหอมและเครื่องสำอางอีกชุดใหญ่ เรียกว่าการมาฮันนีมูนครั้งนี้ เตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อกระชากใจสามีอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน“เมื่อคืนก็แทบแย่ ถ้าใส่ชุดนี้ จะรอดไหมเรา”ลินินมองชุดแล้วชั่งใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ สวมชุดนั้นไว้ข้างใน แล้วสวมชุดกระโปรงยาวกรุยกรายทับไว้ด้านนอก พอออกมาพบว่าปรัชญ์นั่งรออยู่บนเตี
หลังจากงานแต่งงาน ปรัชญ์ก็พาลินินไปฮันนีมูนกันสองคน เปรมใจรับอาสาเลี้ยงหลานให้คู่แต่งงานได้ใช้ช่วงเวลาแสนหวานร่วมกัน กริชกับมัสลินให้ของขวัญพี่ชายกับพี่สาว เป็นทริปฮันนีมูนบนเกาะส่วนตัว กริชลงทุนให้ยืมเรือยอร์ชของเขาและแถมใจดีให้ทั้งสองไปพักผ่อนที่บ้านพักบนเกาะส่วนตัวตอนแรกปรัชญ์กับลินินไม่อยากไปเพราะห่วงสองแฝด แต่กริชกับมัสลินช่วยกันเกลี้ยกล่อมบวกกับเปรมใจรับอาสาดูแลหลานให้ ทั้งสองผ่านช่วงเวลาแสนตึงเครียดและทุกข์ใจอย่างหนัก ในตอนที่ลินินตั้งท้องมาแล้ว ควรจะได้มีช่วงเวลาดีๆ ในความทรงจำบ้าง“ไม่รู้ตอนนี้ลูกจะเป็นยังไงบ้างนะ” ลินินบ่นถึงลูกทั้งสอง“โธ่... พูดแบบนี้ ฉันอยากแบกกระเป๋าพาเธอกลับบ้านเลยนะ ยิ่งคิดถึงตาหนูกับยายหนูอยู่”คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้น มีความคิดถึงลูกแฝดจนอยากล้มทริปฮันนีมูนเลยทีเดียว ติดตรงเขากับลินินอยู่บนเรือกลางทะเล และเรือใกล้ถึงเกาะส่วนตัวแล้ว กว่าจะทำใจจากลูกน้อยมาได้น้ำตาแทบหยด ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาไม่เคยห่างลูกทั้งสองสักหน เฝ้าเลี้ยงดูประคบประหงม จนเจ้าตัวน้อยเติบโตแข็งแรง มีพัฒนาการทั้งร่างกายและสติปัญญาเท่าเด็กวันเดียวกัน เหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ก็มีความสุขมาก ยา
“ป่านจ๋า เหนื่อยไหมคนดี”ปรัชญ์มายืนดูภรรยาปลดเครื่องประดับ และกิ๊บติดผมหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขาช่วยเธอดึงกิ๊บออก วันนี้ลินินสวยมาก สวยจนเขาใจสั่นไปหมด อยากเร่งให้ถึงเวลาเข้าหอไวๆ โชคดีที่เขาเลือกจัดงานแบบเรียบง่าย ไม่มีพิธีการยุ่งยากหรือแขกมากมายต้องรับรอง นอกจากมีเพื่อนฝูงและญาติมิตรมาร่วมงาน“นิดหน่อยค่ะ นายเมื่อยไหม ไหวหรือเปล่าเห็นดื่มไปหลายแก้ว” ลินินหันมาถาม“แค่จิบๆ เอง ฉันคอแข็งจะตาย แค่นี้ไม่ทำให้เมาหรอก ขืนเมาในวันเข้าหอก็เสียดายแย่สิ”เขาพูดไปทำตาวาวจ้องมองเนินไหล่และร่องอกของเธอไป มือลูบไล้ไปบนผิวนุ่มเนียน ขณะแตะปลายนิ้วบนซิปรูดลงช้าๆ ปากก็แตะบนหัวไหล่มนของเธอ จูบไล่ไปตามซอกคอขาวผ่อง อย่างหลงใหล“อื้อ... ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เหม็นเหงื่อจะแย่”ลินินบ่ายเบี่ยง ใจเต้นแรงกับการจู่โจมของเขา รู้ดีว่าเจ้าบ่าวของเธอหื่นหนักแค่ไหน ตาวาวของเขา ราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“เดี๋ยวค่อยอาบ”เจ้าบ่าวไม่สนใจเรื่องอาบน้ำ ตอนนี้เขาร้อนไปทั้งตัว อยากเชยชมเจ้าสาวแทบขาดใจแล้ว รีบช้อนอุ้มเจ้าสาวพาไปยังเตียง เขาวางเธอลงบนที่นอน แล้วลงมือช่วยถอดชุดเจ้าสาวให้ ด้วยวิธีแสนวาบหวาม ริมฝีปากแตะจุมพิตไปบน
Comments