"ชื่อแปลกดีนะครับ" ธามบอกด้วยรอยยิ้ม
"ดิฉันชลาลัย สายชลเป็นผู้ดูแลที่นี่ค่ะ" หญิงสาวแนะนำตนเอง พร้อมทั้งพนมมือไหว้ทักทายแขกต่างชาติที่มาพักด้วยรอยยิ้ม
รอยยิ้มแสนหวานตลอดจนท่าทางอ่อนโยน ทำให้อีธานกระตือรือร้นที่อยากจะรู้จักกับชลาลัยให้มากยิ่งขึ้น เมื่อรสชาติจี๊ดจ๊าดที่ทำให้น้ำหูน้ำตาไหลบรรเทาลง เขาก็ถือโอกาสชวนคุยจนธามต้องเป็นฝ่ายนั่งฟังแทน
"ที่นี่สงบเงียบดีนะครับ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน"
"ค่ะ เราต้องการเน้นให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติและพักผ่อนอยู่กับตนเอง โดยไม่มีสิ่งอื่นมารบกวนให้มากที่สุดค่ะ"
"ที่นี่นอกจากทะเลสวยแล้ว มีอย่างอื่นที่น่าสนใจไหมครับ" ชายหนุ่มหยอดคำหวานไปพร้อมกับสายตาเป็นประกาย
ธามได้แต่อมยิ้ม รู้ว่าเพื่อนรักเริ่มจะทอดสะพานหวานเหมือนเช่นที่เคยทำกับคนอื่นมานักต่อนักแล้ว เขารู้จักอีธานดีว่านิสัยอย่างไร รักสนุก ไม่ผูกมัดและไม่เจาะจงเพียงใครคนเดียวเท่านั้น นี่ล่ะ คืออีธาน แอนเดอร์ลีย์ ตัวจริงเสียงจริง
แต่ดูเหมือนว่าสะพานที่อีธานพยายามจะทอดหวังให้ชลาลัยเดินข้ามมาไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด เพราะหลังจากที่อาหารค่ำจบลงด้วยของหวานแสนอร่อย ชลาลัยก็ขอตัวแยกไปทำหน้าที่ของตน โดยไม่ไปเดินเล่นริมทะเลตามคำชวนของชายหนุ่มแต่อย่างใด มีเพียงแค่ตอบรับว่าพรุ่งนี้เธอจะให้คนของรีสอร์ทมาพาสองหนุ่มไปท่องเที่ยวเท่านั้นเอง
"เริ่มไม่สนุกแล้วหรือไง อีธาน" ธามเย้าเมื่อเห็นอีธานเดินทอดน่องริมหาดด้วยท่าทางเหงาหงอย
"เปล่า ฉันปกติดี" คนรักทะเลเดินต่อไปอย่างช้าๆ
"ที่นี่มีที่เที่ยวอย่างที่นายชอบด้วยนะ เพียงแต่เราต้องออกไปนอกรีสอร์ทหน่อย จะไปไหน ฉันจะไปเป็นเพื่อน" ธามกลัวว่าเพื่อนรักจะเหงา เพราะปกติอีธานชอบแสงสีและความสนุกครื้นเครง แต่ที่นี่ไม่มีอะไรนอกจากเสียงคลื่นและหาดทรายเท่านั้น
"ไม่ ไปนอนดูดาวกันดีกว่า"
อีธานเร่งให้ธามเดินกลับไปที่บ้านพักโดยเร็ว เขาอยากรู้เรื่องการหมั้นของเพื่อนรักที่เพิ่งเกิดขึ้นสดร้อนๆ เมื่อไม่กี่วันมานี้มากกว่า การออกไปท่องราตรีอย่างเช่นทุกครั้งไป
ดาวคืนนี้สวย ยิ่งมีความสุขเมื่อได้นอนดูดาวท่ามกลางเสียงคลื่นและลมทะเลที่พัดโชยมาไม่ขาดสาย ระเบียงมุมห้องที่ยื่นออกมาทางรีสอร์ทจัดไว้ให้เป็นมุมพักผ่อน ซึ่งอีธานชวนและบังคับให้เพื่อนรักมานอนดูดาวเป็นเพื่อน และเล่าเรื่องราวของคู่หมั้นสาวที่ชื่อรติรสให้ฟังอย่างละเอียด
ธามไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกจึงชวนอีธานคุยเรื่องอื่นไปอีกสักพักแล้วขอตัวเข้านอน ปล่อยให้ชายหนุ่มเพลิดเพลินไปกับดวงดาวริมหาดยามค่ำคืนต่อไปคนเดียวเพียงลำพัง
อีธานลุกขึ้นทอดสายตามองไปในความมืด ทะเลยามค่ำคืนที่มีแสงจันทร์ส่องสว่างพอให้มองเห็นฟองคลื่นสีขาวที่พัดเข้าหาฝั่ง ธรรมชาติงดงามทั้งยามตื่นและยามหลับใหล สถานที่ใดในโลกไม่อาจทำให้ชายหนุ่มเพลิดเพลินและมีความสุขได้เท่ากับเสียงคลื่นและชายหาด ดื่มด่ำกับธรรมชาติอยู่พักใหญ่ก็เริ่มรู้สึกง่วงและอยากจะพักผ่อน พรุ่งนี้เช้าเขาจะมาสำรวจท้องทะเลที่แสนงดงามของเกาะหวนแห่งนี้ ว่ามีมนต์อันใดดึงให้ต้องข้ามฟ้ามาหาถึงที่
ก่อนจะกลับเข้าไปนอนเขาเห็นบางสิ่งผิดปกติในทะเล เพ่งตามองให้แน่ใจมีบางสิ่งเกิดขึ้นที่ริมหาด มีคนดำผุดดำว่ายอยู่ในทะเลยามค่ำคืน เงือกน้อย ไม่ซิ มีคนกำลังจะจมน้ำต่างหาก
"เฮ้ คุณ" อีธานวิ่งลงมาที่ริมหาด แน่นอนแล้วว่ามีอีกคนอยู่ในทะเล และกำลังจะจมหายไปต่อหน้าต่อตาเขา
"คุณ" ชายหนุ่มตะโกนสุดเสียง
ฝีมือว่ายน้ำที่ไม่เป็นรองใครและยิ่งเป็นทะเลด้วยแล้ว อีธานกลายร่างเป็นฉลามหนุ่มที่ดำผุดดำว่ายอยู่ในทะเลอย่างคล่องแคล่ว ไม่ช้ามือของเขาก็สัมผัสกับใครบางคนได้ มีคนอยู่ข้างใต้และกำลังจะด่ำดิ่งจมลึกลงไปอีก
อีธานคว้ามือของคนที่กำลังจะจมไว้และออกแรงดึงตัวขึ้นมา พระเจ้า ลำแขนแข็งแรงที่รั้งตัวอีกคนไว้พาดผ่านกลางหน้าอก ผมยาวสยายเต็มหลังดำเป็นมัน ผู้หญิง เป็นผู้หญิงแน่
เมื่อรู้ว่าเป็นผู้หญิง อีธานคิดว่าเจ้าหล่อนคงไม่ได้มาเล่นน้ำทะเลกลางดึกเพราะคลั่งไคล้เสียงคลื่นแน่ แต่คงคิดจะมาใช้ทะเลแสนสวยเป็นที่ระบายความผิดหวังมากกว่า มาทำวันไหนไม่ทำดันมาทำต่อหน้าในวันพักผ่อน เขาไม่มีวันยอมให้ทะเลงดงามแห่งนี้กลายสุสานให้เธอได้สังเวยชีวิตแน่
"ปล่อย" คนถูกดึงขึ้นมาพยายามจะดิ้นให้หลุดจากการถูกกอด แขนแข็งแรงที่รัดตัวไว้กำลังสัมผัสบางสิ่งที่หวงแหน
เจ้าหล่อนดิ้นและเริ่มดิ้นรุนแรงขึ้น ไม่ได้แล้ว อีธานยิ่งรั้งตัวเธอไว้แน่นและหาทางทำให้สงบเพื่อจะลากขึ้นฝั่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะหมดแรงและจมหายไปพร้อมๆ กัน
เขาไม่ได้ฉวยโอกาสหรือคิดแต๊ะอั๋งแต่เพื่อให้เจ้าหล่อนสงบและขึ้นฝั่งโดยเร็ว อีธานจำเป็นต้องรั้งใต้ราวนมซึ่งทำให้สัมผัสกับความอวบอิ่มของกายสาวชัดเจน แล้วออกแรงดึงตัวเธอขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จ ล้มลงนอนแผ่หราหมดแรงทั้งคนช่วยและคนถูกช่วย
"คุณ คุณ" อีธานขยับตัวขึ้นแล้วรีบมาดูว่าคนที่ช่วยไว้เป็นอย่างไรบ้าง
สายตาเหลือบไปเห็นอกอิ่มใต้เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ ที่กระดุมเม็ดบนสุดหลุดเผยความขาวเนียนเต็มสองเต้าอิ่ม นอกจากนั้นเรียวขาขาวที่มีเพียงชายเสื้อเชิ้ตตัวเก่งปิดไว้แค่ต้นขา มองปราดเดียวก็สรุปได้สั้นๆ ว่า สวย
"คุณ เป็นไงบ้าง" ชายหนุ่มเอามือแตะที่ข้างแก้มเบาๆ หวังจะให้เธอลืมตาลุกขึ้นมาพูดกันว่าเกิดอะไรขึ้น
"คุณ..."
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา "ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเ
คำแนะนำของอีธานเป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย แต่ปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทไม่ใช่แค่หนี้สิ้นที่พอกเป็นหางหมูเท่านั้น แต่ยังติดปัญหาอื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรด้วยต่างหาก "ใครจะกล้ามาลงทุนกับรีสอร์ทเล็กๆ อย่างเรา" ชลาลัยพูดอย่างหมดหวัง ความงดงามของทิวทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ไม่มีมิตรภาพหรือความสนใจ หากแต่อิทธิพลของคนที่อยากครอบครองพื้นที่ต่างหาก ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวพร้อมทั้งบีบให้จันทร์เจ้ารีสอร์ทค่อยๆ ตายลงทีละน้อย เพื่อหวังให้ในที่สุดชลาลัยจะยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดให้กับนายทุนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่ทุกขณะ "แต่เราก็จะดิ้นให้ถึงที่สุดใช่ไหม พี่ลัย" มีนากุมมือปลอบใจพี่สาว "ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน" พี่สาวคนสวยฝืนยิ้มออกมาได้อีกครั้ง&nb
อีธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ แต่ในเวลานี้สายตาเขาจับจ้องไปskแม่สาวที่กำลังกอดชลาลัยอยู่ ท่าทางของมีนาเข้มแข็งมากตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะมองใครนอกจากปลอบประโลมพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว "ไม่เป็นไรแล้วพี่ลัย สงสัยต้องนิมนต์ท่านมาปัดเสนียดจัญไรพวกหน้าเลือดหน่อยแล้ว" มีนาพนมมือไหว้พระพุทธรูปก่อนจะอุ้มอัญเชิญเข้าไปในห้องทำงานตามเดิม เธอเพิ่งรู้ว่าพี่สาวไม่ได้อยู่กับคุณนายสร้อยทองเพียงลำพัง หากแต่มีใครบางคนที่หญิงสาวไม่อยากเจออยู่ด้วย มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร "ทำไมไม่กลับไปอีก" มีนาเอ่ยขึ้นลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน แต่ไม่เจาะจงชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่ต้องการพูดด้วย และเข้าใจว่าอีกไม่กี่นาทีคนที่ไม่อยากเจอตลอดชีวิตก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าแล้ว หลังจากที่กลับ
เรือพร้อมจะไปส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งในอีกครึ่งชั่วโมง ธามเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่อีธานเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ค้างคาใจในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามหาทางพบมีนาตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งหนีหายไป แต่ไร้เงาราวกับว่าไม่ได้อยู่ในจันทร์เจ้ารีสอร์ทนี้ ทางเดียวที่อีธานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็คงต้องถามชลาลัยเท่านั้น เขาจึงให้ธามรออยู่ที่ล็อบบี้แล้วกลับไปที่ออฟฟิศทันที อีธานเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าออฟฟิศของจันทร์เจ้ารีสอร์ท ก็ได้พบกับชลาลัยอีกครั้ง แต่วันนี้สีหน้าเธอดูเคร่งเครียดจนไม่เหลือรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าอีกเลย "สวัสดีค่ะ จะกลับวันนี้แล้วใช่ไหมคะ" ชลาลัยพยายามจะยิ้มหวานๆ ให้ลูกค้า แต่ตอนนี้เรื่องที่กำลังปวดหัวทำให้ยิ้มไม่ออกสักเท่าไร "ครับ เอ่อ คุณ เอ่อ คือ" อีธานไม่รู้จะเริ่มต้นถามถึงมีนาอย่างไร
สายของวันถัดมามีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอาหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ""อุ๊บ..."หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที
มีนาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าจะมีใครรออยู่ อีธานรีบวิ่งตามออกมาแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ "ปล่อยนะ" เจ้าตัวสะบัดไม่ยอมให้จับ "เรายังไม่ได้คุยกันเลย" อีธานไม่ยอมปล่อย "ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อย" มีนาออกแรงสะบัดแขนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มยึดเอาไว้แน่นซ้ำยังรวบสองมือไว้ ดึงเข้ามาหาไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกด้วย "ถ้าไม่คุยกันดีๆ เราไปคุยต่อหน้าพี่สาวคุณก็ได้ เอาไหม" ท่าทางอีธานเอาจริงแน่ "ขู่ฉันเหรอ" หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ "ไม่ได้ขู่แต่ผมทำจริง หรือจะไปตอนนี้เลยก็ได้ เมื่อเช้าคุณลัยเพิ่งถามว่าไปเที่ยวเมื่อคืนสนุกไหม คุณอยากให้ผมตอบไหมล่ะว่าสนุกจนเกือบโต้รุ่ง แต่คนที่สนุกคือคุณไม