@ ZTUDIO
“…….” คิระนั่งนิ่งๆท่ามกลางความเงียบของห้อง VIP#3 อย่างใจเย็น รอคอยการมาถึงของเตโชหลังจากที่เขาแจ้งพนักงานต้อนรับที่ทวงถาม Night Card บัตรผ่านประตู Zone VIP ชองที่นี่ ซึ่งแน่นอน นอกจากจะไม่มี เขายังเลือกจะวาดรูปตราประทับของ Dark Shadow ฝากเอาไว้ และถือสิทธิ์เดินเข้ามารอในห้องนี้อย่างไม่เกรงกลัวอะไร แถมยังบอกพนักงานต้อนรับไปแบบนึกสนุกว่าตัวเองเป็นพี่ชายของเตโชซะด้วย ตึงงงง! รออยู่ไม่นานเท่าไหร่ ดูเหมือนคนที่อยากเจอจะผลักประตูเข้ามาแบบฉุนเฉียวใช้ได้ ท่าทางร้อนรนของคนตรงหน้าทำให้คิระกระตุกยิ้มมุมปากออกไป เพราะมันอยู่ใกล้แค่เอื้อมเองไงล่ะ เพื่อนๆ Nightshade ที่ไอ้เวรนี่หวงนักหวงหนา แค่คนธรรมดา 4 คน กระสุนเจาะหัวคนละนัดก็กำจัดได้ง่ายๆ “เป็นเกียรติที่ได้เจอครับ..ท่านผู้นำ” “มึงล้ำเส้น!” ทั้งที่คำทักทายของคิระเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่เตโชกลับตะคอกออกมาจนเสียลุคนิ่งๆนั่น ยิ่งทำให้คิระสนุกมากขึ้นไปอีกจนได้ใจ หึ...ล้ำเส้น? คำพูดที่ชวนโมโหดังขึ้นมาในหัวจนคิระถึงกับแสยะยิ้ม มันเป็นคนตรงหน้าเองไม่ใช่รึไง ที่เกือบจะฆ่าเขากับลิซ่าก่อน แถมยังลอบทำร้ายเฟรย่าเมื่อกี๊อีก ซึ่งเรื่องนี้ยอมให้ไม่ได้ เพราะลิซ่าและยัยนั่น...ต่างก็เทิดทูนหมอนี่ยิ่งกว่าใคร “มึงรู้กูต้องการอะไร” เขาจะให้โอกาสมันอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! คิระพูดออกไปอย่างต้องการเจรจา ที่ผ่านมาแม้คิดอยู่เสมอว่าต้องเอาคืนมาให้ได้ ตำแหน่งว่าที่ผู้นำที่เตโชไม่สมคววรได้รับ แต่เขาก็ไม่เคยลอบกัด หรือกระทำการรุนแรงอะไรก่อน เราประลองกันตามกติกา แม้ความตั้งใจแรกที่บินข้ามประเทศมาถึงนี่จะมาเพื่อหาเรื่อง แต่การใช้เวลากับลิซ่าก็ทำให้เขาลืมความคิดพวกนั้นไปจนหมด เพราะงั้นคงไม่ต้องบอกว่าคนที่เริ่มก่อน...คือมันมาตลอด! “วิธีอ้อนท่านปู่? กูคงสอนให้ไม่ได้” “ไอ้ติณณ์!!!” พรึ่บ! คำตอบของเตโชสำหรับคำถามที่ยังคงเหลือโอกาสให้อยู่ ทำให้คิระที่พอได้ยินก็หมดความอดทนทันทีถึงกับลุกพรวดขึ้นมาประชันหน้าด้วยแววตาประทุจร้าย เพราะมันชวนให้คิดได้ ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วันเป็นฝีมือของคนตรงหน้าแน่นอนไม่ใช่ใครที่ไหน ยิ่งเห็นสีหน้าเย้ยหยันของเตโชที่มองมาคิระก็ยิ่งจ้องไป ...อ้อนหรอวะ? คงเพราะเขาไม่เคยอ้อนคนที่ได้ขึ้นว่าเป็นผู้นำแห่ง Dark Shadow ใช่ไหม?! ทุกอย่างที่เป็นเขา ท่านปู่ถึงไม่เคยสนับสนุนอะไร แม้จะทวงถามให้เขากลับคืนสังกัด ก็ยังถามเพียงแค่ครั้งเดียว และปล่อยเขาไว้กับสภากฎ ให้เขาเผชิญกับความโหดร้ายที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ แล้วยังต้องเติบโตมาในอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้ ขนาดไอ้ติณณ์ที่อยู่ไกล ยังได้รับการดูแลอย่างดีมากกว่าเขาที่อยู่ใกล้ ขนาดเดินสวนกันแทบทุกวัน ท่านปู่ยังไม่เคยถามว่าเขาสุขสบายดีไหม ทั้งหมดนี้แค่เพราะมันอ้อนท่านปู่ มันทำในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ แค่นั้นใช่ไหม?! ยิ่งคิด ความรู้สึกลึกๆของคิระก็ยิ่งประทุขึ้นมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ คิระกัดฟันและกำหมัดแน่นจนมือสั่น ท่าทางของคิระทำให้เตโชที่มองมาเป็นฝ่ายได้ใจบ้าง เขากระตุกยิ้มมุมปากและยิ่งจงใจปั่นประสาทคิระด้วยประโยคที่พอได้ฟังก็ทำเอาถึงกับสติแตก “Respect me MEMBER.. I’ m your LEADER!” พรึ่บบบ เพล้งงง!!! แล้วแค่เสี้ยวนาทีพอได้ยินแบบนั้น คิระก็โน้มตัวลงไปคว้าแก้วบนโต๊ะปาสวนกลับแทนคำตอบไปหาเตโชอย่างแรง แต่เขาเบี่ยงตัวหลบทัน แก้วนั่นเลยไปกระทบผนังห้องจนแตกกระจายตามแรงเหวี่ยงที่คิระส่งไป ความไม่พอใจจนกลายเป็นความโกรธแค้นที่ประทุขึ้นมาทำให้คิระพยายามควบคุมลมหายใจตัวเอง และอดกลั้นความโกรธที่มีเอาไว้ เพราะรู้ว่าจุดยืนของคนตรงหน้าถูกปกป้องไว้ด้วยกฎของ Dark Shadow ที่เขาจะกระทำการอะไรตามใจทันทีไม่ได้ เตโชอยู่ในตำแหน่งว่าที่ผู้นำแล้ว ตามกฎแม้เขาเป็น Member ระดับสูงก็ห้ามล้ำเส้นมากไป เพราะถ้าพลั้งมือทำอะไรรุนแรงไปแต่เตโชยังมีชีวิตรอด คิระก็จะถูกลงโทษตามกฎของ Dark Shadow ไง ดังนั้นทางเดียวที่ทำได้...มีแค่ทำให้อีกฝ่ายแน่นิ่งไม่เหลือลมหายใจแล้วก็เท่านั้น! “หึ.. จะทำเป็นไม่เห็นแล้วกัน” แล้วเตโชก็พูดออกมาอย่างจงใจกวนประสาทคิระอีกครั้ง ก่อนจะหมุนตัวเดินล้วงกระเป๋าออกจากห้องนิ่งๆ ส่วนคิระเองได้แต่กัดฟันและกำมือแน่น มองเขาเดินออกจากห้องไปอย่างไม่ใส่ใจในท่าทางเคียดแค้นจนอยากจะฆ่ามันให้ตายแม้แต่น้อย “...ก็ถ้าอยากจะเป็นหลานรักมาก” กึก! น้ำเสียงสั่นจากความโกรธและความน้อยใจที่ทวีคูณมาจากไหนไม่รู้ของคิระถูกส่งไป แต่แค่คำพูดที่ดูไม่มีอะไรกลับเรียกให้เตโชชะงักฝีเท้าและหยุดฟังแต่ไม่ได้หันกลับมา ในขณะที่อีกด้านคือคิระที่แววตาเริ่มสั่นคลอน เพราะอยู่ๆก็ต้องรับมือกับภาพในหัวที่แว๊บขึ้นมามากมายในแบบที่เขาควบคุมอะไรไม่ได้ ทั้งภาพครอบครัว ภาพที่เคยเล่นกันสามคนพี่น้อง และเจ็บยิ่งกว่าอะไร คือภาพที่พ่อแม่เขาถูกฆ่าไปต่อหน้าต่อตาตัดสลับกันในหัวไปมาจนแทบจะหลั่งน้ำตาให้กับเสียงอ้อนวอนสุดท้าย ก่อนจะเห็นกระสุนหลายนัดยิงกราดใส่พ่อแม่ตัวเองที่สวีเดนในขณะที่เขาทำอะไรไม่ได้ พ่อแม่เขาต้องมาตาย เพราะคำสั่งงี่เง่าของพ่อแม่มัน...ท่านปู่เองก็เพิกเฉยกับสิ่งนั้น ความยุติธรรมอยู่ตรงไหนกัน?! น้ำตาลูกผู้ชายหยดหนึ่งไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาแบบนี้เขาถึงได้อ่อนแอนัก แต่คิระก็ปาดมันออกอย่างนิ่งเงียบและไม่ใส่ใจ ไม่มีเสียงสะอื้น และรีบชิงพูดออกไปเสียงเข้มก่อนที่เตโชจะเดินออกไป “…งั้นก็ข้ามศพกูให้ได้ แล้วอยากได้อะไรมึงก็เอาไป!” พูดจบคิระก็เป็นฝ่ายเดินออกจากห้องนี้ก่อน เขาเดินออกไปด้วยความไม่รู้... ว่าเตโชเห็นภาพการกระทำนั้น จากเงาสะท้อนในกระจกประตู…หลายวันต่อมา...
“ผมว่าใช่แน่แล้วล่ะครับนาย” ซองสีน้ำตาลที่บรรจุรูปถ่ายปึกหนึ่งถูกส่งจากมือไคยะมาวางลงตรงหน้ามาโครและคิระที่กำลังนั่งเล่นเกมส์คู่กัน ต่างคนต่างใส่ Head phone ที่เปิดเสียงดังลั่น มือกดก็จอยเกมส์รัวๆไม่ยั้งแต่ไม่ได้มีสีหน้าอินกับมันเลยสักนิด เพราะทั้งคู่ต่างคนต่างก็มีเรื่องให้คิด แต่แม้จะไม่ได้รับความสนใจ ไคยะก็ยังคงรายงานผลต่อไปท่ามกลางเสียงกดจอยเกมส์ในห้องที่เงียบสนิท “ผู้หญิงที่ตอนแรกผมบอกว่าไม่มีอะไร รู้สึกว่าจะมีครับ ผมให้คนตามเฝ้าเธอและได้รับรายงานว่าคืนก่อนหลังนายกลับจากกินข้าวกับคุณเฟรย่า คุณเตโชก็เพิ่งแยกกับเธอครับ” พูดไป ไคยะที่เห็นว่านายตัวเองไม่ได้สนใจซองที่น้ำตาลที่นำมาให้เลยสักนิด ก็เป็นฝ่ายเปิดซองและหยิบรูปเตโชที่กำลังสวีทกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ร้านบะหมี่ออกมาวางลงตรงหน้าคิระทันที แต่คิระไม่แม้แต่จะเหลือบมอง หรือตอบกลับเขาเลยสักนิด “หลังจากนั้น คนของเราก็ตามเฝ้าเธออย่างใกล้ชิดตั้งแต่ที่หอพักจนถึง Treatise ทุกวัน จนมีวันหนึ่งบังเอิญได้เจอกับคุณเตโชที่ไปส่งเธอที่นั่น ทำให้คุณเตโชรู้ตัว...” พรึ่บ! แม้โทนเสียงจะแผ่วลง พร้อมกันกับที่ไคยะก้มหัวอย่างแสดงความขอโทษให้กับคิระที่คนของตัวเองทำพลาด แต่คิระก็ยังนิ่ง ผิดกับมาโครที่พอได้ยินก็เบนความสนใจจากจอและเป็นฝ่ายหันไปหาไคยะด้วยท่าทางแปลกไปทันที “พวกมึงปะทะกับมัน?” “เปล่าครับ คนของเราชิ่งออกมาก่อน แต่จากที่ได้รับรายงานมันก็แปลกอยู่เหมือนกัน เพราะความผิดปกติของรถคุณเตโชในวันนั้น...” “ห่วงรถนายมึงก็พอ ไม่ต้องไปห่วงรถมัน” อยู่ๆ มาโครก็ชิงตัดบทไปเสียงเข้ม ไคยะเองก็ก้มหัวให้ และก้มค้างไว้อย่างนั้น อย่างน้อยก็รอจนกว่าจะแน่ใจว่าคิระจะไม่ลงโทษ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยังเอาแต่เล่นเกมส์ไม่สนใจจนไคยะเลิ่กลั่กใหญ่ “ช่วยพูดอะไรหน่อยเถอะครับนาย ผมขอโทษจริงๆครับ เป็นความผิดของผมเองที่เลือกลูกน้องที่ใช้ไม่ได้....” “...แล้วยังไง?” ได้ฟังแบบนั้นคิระเลยวางจอยเกมส์ในมือลงแล้วลดระดับ Head Phone ลงมาคล้องคอ พร้อมกับหยิบรูปบนโต๊ะขึ้นไปดู ก่อนจะถามซ้ำ... “มันรู้ตัวแล้วยังไง?” เสียงเข้มที่ดูไม่ใส่ใจของคิระถามออกไป แล้วพิจารณารูปในมือเงียบๆ ในขณะที่ไคยะก็รีบรายงานต่ออย่างหวั่นๆ “เธอเก็บของแล้วย้ายที่พักไปตั้งแต่วันนั้นครับ ย้ายไปอยู่กับ...” “ชื่อ?” คิระตัดบทถามไป เพราะไม่ต้องฟังต่อก็รู้ว่าย้ายไปที่ไหน “มะ...โมเน่ต์ครับ” “(- -)(_ _)” ได้ฟังคำตอบ คิระก็พยักหน้าพร้อมกับวางรูปในมือลงอย่างรับรู้หน้าตาผู้หญิงที่ว่าแล้ว ที่จริง...ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สนใจว่าผู้หญิงของเตโชจะเป็นใคร แค่รู้จากลิซว่าไอ้เวรนั่นมีคนกุ๊กกิ๊กเลยอยากรู้จักหน้าเอาไว้... แต่ตอนนี้ไม่ใช่! ในเมื่อมันเลือกจะยุ่งกับผู้หญิงของเขาก่อน กล้าแตะต้องของรักของหวงของเขา ก็ต้องแลกกับของรักของหวงของมันเหมือนกันไง! “หลังจากนี้การติดตามเธอคงเป็นไปได้ยาก...” “ก็ล่อออกมา” คิระพูดสวนไปทันทีเพราะรู้ว่าไคยะจะพูดอะไร “นายหมายถึง...” “หึ” แล้วแววตามีแผนร้ายก็ผุดขึ้นมาพร้อมกับริมฝีปากอมชมพูที่กระตุกยิ้มอย่างประทุจร้าย เขาไม่ได้หงุดหงิดที่เตโชรู้ตัวเลยสักนิด เพราะคิดว่าการกระทำของลูกน้องตัวเองมันปั่นประสาทอีกฝ่ายได้ดี ยิ่งไปกว่านั้น คิระพอใจในประวัติของว่าที่ Leader’s Wife มากซะด้วย เพราะไคยะหามาให้จนพิจารณาจุดอ่อนได้ง่ายๆแบบละเอียดยิบ “ผู้มีพระคุณเป็นเจ้าของร้านบะหมี่ งั้นไปลองชิมหน่อยก็ดี :)”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X