“แม่จ๋า... เอ๋ยมีเรื่องอยากขอร้องหน่อยจ้า” เอ๋ยเป็นเด็กสาวอายุ 16 ที่เพิ่งจะเรียนปวช.ได้ไม่ทันไร ก็มีแฟนพาผู้ใหญ่มาสู่ขอเพื่อแต่งงานก่อนจะเรียนจบ ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันเป็นมั่นเป็นเหมาะดีแล้ว
ทำให้ มยุเรศ ซึ่งเป็นแม่ของเอ๋ย ค่อนข้างแปลกใจว่า มีเรื่องอะไรที่ลูกสาวกังวลขอร้องมาเช่นนี้
“จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว มีเรื่องอะไรที่ยังทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้อีกล่ะ” ขณะที่มยุเรศกำลังนั่งรีดผ้าอยู่ เอ๋ยเหลือบสายตาแลซ้ายหันขวา มองให้แน่ใจว่า พ่อคงจะไม่ได้ยินเรื่องที่พวกเธอสองคนคุยกัน
“คือว่า...” เอ๋ยเข้าไปกระซิบข้างหูมยุเรศ ทำให้สีหน้าของเธอค่อนข้างตกใจ เบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าจะเป็นคำพูดที่หลุดมาจากปากลูกสาววัย16ปี
“แม่ช่วยเอ๋ยหน่อยได้มั๊ย...นะจ๊ะๆ” เด็กสาวยิ้มหวาน เพราะเธอปรารถนาจะทำเรื่องอย่างนั้น แต่ทว่าดันไม่มีประสบการณ์ไม่มีความรู้ อีกอย่างเธออยากรู้ก่อนจะเข้าวิวาห์กับ เสมา ซึ่งเป็นคู่หมั้นกันตอนนี้
กว่าจะได้แต่งงานต้องรอให้จบปวช. ซึ่งเหลืออีกตั้งสองปีกว่าจะได้แต่งงานเข้าวิวาห์... มันทำให้เธออยากทำเรื่องแบบนั้นกับคู่หมั้นคู่หมาย...
“ทุกวันนี้ล่ะ?” มยุเรศไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ลูกสาวมีความต้องการในขณะที่ไม่รู้ว่า เสมา คู่หมั้นลูกสาวกำลังทำอะไรอยู่
“พี่เสมา เขาเป็นคนสุภาพบุรุษมาก แค่ถือแขนจับมือ หอมแก้ม เป็นอะไรที่น่ารักมาก เอ๋ยอยากมีอะไรแบบนั้นกับพี่เสมา เพื่อให้เขากับเอ๋ยมีความสุข แต่ติดตรงที่เอ๋ยไม่กล้าทำ เกรงว่าพี่เสมาจะเข้าใจผิดจ้า”
“ขืนไปพูดกับพ่อแบบนี้ มีหวังโดนเฆี่ยนตายพอดี... อกอีแม่จะระเบิดแตกตาย!” มยุเรศรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ตื่นเต้นตูมตามแทนลูกสาวที่อยากจะทำเรื่องอย่างนั้นก่อนออกไปครองเรือนกับชายคู่หมั้นคู่หมาย
“แม่ช่วยเอ๋ยหน่อยได้มั๊ยอ่ะ แค่ทำเป็นก็พอ ไม่ต้องท้องก็ได้ เอาไว้เรียนจบแต่งงานต่อจากนั้นก็ค่อยให้พี่เสมาว่าไป” เอ๋ยวิงวอนร้องขอ หวังว่าแม่จะยอมช่วยและสอนเธอ...
มยุเรศค่อนข้างหน้านิ่วคิ้วขมวด อยากให้ลูกสาวรออีกสองปีเอง แต่ท่าทางเธอเริ่มโตเป็นสาว และฮอร์โมนในร่างกายคงจะฟุ้งซ่านมาก ขนาดมาคุยกับเธอ ยังทำให้อารมณ์เธอยังปั่นป่วนชวนอยากจะขึ้นไปขย่มตอพ่อก็ว่าได้
ยามนี้เขาไปทำงานตจว.กับเพื่อนร่วมงานอีกเป็นเดือนกว่าจะกลับ เธอไม่รู้จะทำยังไงดี
อยากจะห้ามปรามลูกสาวก็คงไม่ไหว เกรงว่าไปทำอะไรผิดๆ ถูกๆ เอง กับคู่หมั้นหรือกับเพื่อน ถ้าเกิดท้องในวัยเรียนขึ้นมา ก็คงจะแย่...
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน แม่จะลองไปขอร้องลุงก็แล้วกัน เผื่อว่าลุงจะยอมสอนให้ รอแม่อยู่ที่บ้านนะ แม่ต้องไปคุยกับลุงก่อน”
“แม่ไม่โทรคุยกับลุง วรชิต ล่ะ?” เอ๋ยถามด้วยความสงสัย อยากรู้เหมือนกันว่าลุงจะยอมช่วยสอนหรือเปล่า
“เรื่องอย่างนี้ไม่คุยผ่านมือถือหรอก แม่ไปคุยกับลุงที่บ้านโน้นดีแล้ว” มยุเรศต้องปิดเครื่องรีดผ้า แล้วเริ่มอาบน้ำแต่งตัวพรมน้ำหอม เพื่อออกเดินทางไปบ้านของพี่ชายสามี
“แต่งตัวเต็มยศเลยนะแม่”
“ลุงจะได้ยอมช่วยสอนเอ๋ยยังไงล่ะ” เมื่อมยุเรศกล่าวจบ เธอบอกให้ลูกสาวเฝ้าบ้าน ในขณะที่มยุเรศขับมอร์เตอร์ไซค์ไปบ้านวรชิต ลุงของเอ๋ย อย่างมีจุดประสงค์ที่มากกว่าขอให้ช่วยสอนหลานสาว
******
ภายในบ้านของวรชิต ไร้เสียงการพูดคุยใดๆ นอกจากเสียงของเครื่องแอร์คอนดิชั่นกำลังทำงานให้อากาศภายในห้องเย็นฉ่ำ มีเสียงกระแทกระหว่างกำแพงกับเครื่องไม้บางอย่าง กระทบเป็นจังหวะหนักๆ เนิบนาบ
พร้อมๆ กับเสียงของก้อนเนื้อตีปะทะกันซ้ำๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอ และยังมีเสียงของมยุเรศกำลังครางแทรกเป็นระยะๆ มันดังออกมาจากห้องนอนส่วนตัวของวรชิต เขาเพิ่งจะสึกจากพระมาเป็นทิศได้กว่าปีแล้ว
มยุเรศไม่ได้แวะมาหาเขานานพอสมควร ตั้งแต่วรชิตไปบวชพระ ทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยแอบมาหา ต้องหายไปจากความทรงจำ เมื่อวรชิตลาสิขาออกจากการเป็นพระ เธอก็ไม่กล้าไปหาเขาอีกเลย
แต่เพราะคำขอของลูกสาว ทำให้เธอต้องรวบรวมความกล้า ที่จะกลับมาหาวรชิตอีกครั้ง เผื่อว่านอกจากได้ทบทวนความสัมพันธ์เก่าๆ แล้ว อาจจะแนะนำอะไรดีๆ ให้ลูกสาวของเธอ ไม่ทำอะไรผิดพลาดในวัยเรียนปวช.
ชีวิตแต่งงานของเอ๋ยก็ไม่ต้องล้มเพราะ ผิดใจกับเสมาอีกด้วย มยุเรศคิดว่า เธอน่าจะคิดถูกแล้วที่แวะกลับมาหาวรชิตอีกครั้ง เพื่อได้รำลึกถึงความสัมพันธ์เก่าๆ จะว่าไปแล้ว เธอมีเวลาดีๆ แบบนี้กับ วรชิตมากกว่าอยู่กับวรชัย สามีของเธอเสียอีก
เรือนกายสาวใหญ่กว่าสี่สิบปี กำลังอยู่ในท่วงท่าโก่งโค้ง ค้ำกายด้วยสองแขน เรือนร่างสั่นระริกจากแรงกระแทกมาจากด้านหลัง สองหัวเข่าถ่างกว้าง ปล่อยให้ปลายเท้าชี้ไปที่ปลายเตียงคนละมุม
ร่างชายตัวใหญ่หนา รูปร่างสันทัดดูแลมาอย่างดี ตอนครองเพศบรรชิต เขาไม่อ้วนลงพุงแถมผิวพรรณดี ผุดผ่องสดใส ร่างกายแข็งแรงกำยำ ไม่ต่างกับชายที่ไปออกกำลังกาย เข้าฟิตเนสอย่างดี เนื่องด้วยฉันอาหารมื้อเดียวมาหลายปี
สองมือหนาโอบอุ้มสะโพกกลมสองก้อน เด้งไปมาระหว่างถูกดึงเข้ามากระแทกกับหน้าท้องของวรชิต ซ้ำแล้วซ้ำแล้ว เพื่อปล่อยให้ความเป็นชายสอดใส่เข้าร่องสวาท กระหน่ำแทงแรงๆ เสียภายในหลั่งไหลความเปียกชุ่มฉ่ำ
หล่อลื่นให้องคชาตเสียบกระแทก หลายคราเพิ่มอารมณ์ทุกการเคลื่อนไหว ปล่อยกำลังออกไปสุดแรง เครื่องเตียงเฟอร์นิเจอร์ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว กระแทกเสียชนฝาผนังดังสนั่นไปทั่วห้อง
เสียงครวญครางของมยุเรศ สร้างอารมณ์กำหนัดให้แก่วรชิตเป็นอย่างมาก นานแล้วที่ไม่ได้มาทำอะไรด้วยกันอย่างนี้ เขาตอบรับอย่างดีโดยไม่รีรอช้า
เมื่อชม.ที่แล้วยังนั่งคุยอยู่ในห้องรับแขก เพียงแค่มยุเรศขอคุยเรื่องทบทวนความสัมพันธ์เก่าๆ วรชิตลุกขึ้นยืน มองเธอซึ่งนั่งอยู่เบื้องล่าง ทำให้จิตใจหญิงสาวรู้สึกผิดอย่างแรงราวกับจะถูกเขาตอกย้ำเรื่อง แอบมาได้เสียกับพี่ชายผัว
เธอนึกว่าเขาจะปฏิเสธ แต่เขากลับยื่นมือชวนให้เธอเดินตามเขาขึ้นไปที่ห้องนอน พร้อมอีกมือถือรีโมทเปิด แอร์เย็นฉ่ำ เพื่อให้เรื่องคุยกันวันนี้ ดำเนินไปได้ด้วยดี หลังจากเสื้อผ้าหลุดกายออกจากทั้งสองคน
******
“นานแล้วนะ ยังสวยแน่นเครื่องฟิตเหมือนเดิมเลย” วรชิตกล่าวชม ขณะยังดึงสะโพกกลมในอุ้งมือ บีบแก้มก้น เชิดร่องสวาท แล้วสอดองคชาตเสียบเข้าไปแทบจะทะลุปริปากมดลูกภายในกายเธอ
“คับปากคับช่องดีจริงๆ มันอวบอัดใหญ่ขึ้นนะพี่ชิต” มยุเรศแทบร้องเสียงหลง เสียงหายไปในลำคอ เพราะครวญครางกับขนาดที่ยาวและใหญ่ขึ้น เธอรู้สึกหิวโหย และกระหายมานาน ต้องเก็บอารมณ์มากแค่ไหน เพื่อมิให้สามีได้รู้
“ขอแตกในเถอะนะ น้องเรศ” เขาเรียกชื่อเธอสนิทสนม พร้อมกระหน่ำรัวองคชาตกระแทกเธอไม่ยั้ง แทบทำให้หญิงสาวเสร็จเสียวน้ำแตกหลั่งไหลมากมาย เพื่อให้ความเป็นชายได้ทำงาน ยิงน้ำขุ่นเหนียวหนืด พวยพุ่งอยู่ภายในกายเธอ
ยามเมื่อลากองคชาตออกมา พร้อมน้ำขุ่นหลั่งไหลทะลักล้นออกมา ทำให้เสียงหอบหายใจของชายหญิง กระหืดกระหอบอย่างเหน็ดเหนื่อย ด้วยอารมณ์เสร็จสมอย่างพึงพอใจ...
วรชิตคิดว่า มยุเรศคงได้มีโอกาสดีๆ และจังหวะที่วรชัย น้องชายของเขาไม่รู้ ว่าพวกเขาสองคนกลับมาแอบทำแบบนี้แล้ว มันทำให้วรชิตมีความสุขมาก แม้จะไม่ได้มีเมียเป็นเรื่องเป็นราว หรือหาแฟนใหม่แต่งงาน
หลังจากผิดหวังหย่าร้างกับภรรยา จนตัวเองต้องไปบวชเป็นพระ เรื่องนั้นก็หลายปีแล้วตอนที่มยุเรศยังตั้งท้องไม่ได้คลอดเสียด้วยซ้ำ เขาลาสิขามา เพราะเห็นว่าภายในวัดไม่สงบ และเขาอยากจะออกมาหางานทำ
ออกจากวัดเพื่อมาอยู่บ้านเก่าพ่อแม่ ก็ยังมีวรชัยน้องชายของเขา ให้ความช่วยเหลือบ้าง... แม้จะรู้ตัวว่า สิ่งที่ได้กระทำลงไป มันผิดกับที่บวชเรียนมาก็เถอะ แต่มยุเรศเป็นหญิงสาวที่สวยและมีน้ำใจดี ที่จะทำให้เขามีความสุขเช่นนี้
******
“ที่มาหาพี่วันนี้ รำลึกความหลังเก่าๆ รึ?” วรชิตกล่าวถาม แม้ว่าตัวเขายังสวมกอดภรรยาน้องชายตัวเองก็เถอะ ความจริงถ้าไม่เป็นเพราะ พ่อแม่จับมยุเรศคลุงถุงชนกับวรชัย บางทีเขาคงจะได้แต่งงานกับเธอเสียเอง
“จ้า แล้วก็มีเรื่องอยากจะขอร้องให้ช่วยเหลือหน่อย”
“สิ่งใดรึ? ที่น้องมยุเรศต้องการให้พี่ช่วย พี่ทำให้ได้ทุกอย่างเลย ถ้าน้องยังมีใจให้พี่เหมือนเดิมแบบนี้” วรชิตดึงร่างเธอมาสวมกอด พร้อมกับจูบที่หน้าผากอย่างโหยหา
เขาแอบรักเธอมานาน แถมมยุเรศก็ยินยอมให้เขาได้กอดอย่างที่ต้องการมาเสมอ แต่เพราะน้องชายเขารักเธอ อีกทั้งแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้วรชิตต้องมาเร้นกายหลบซ่อน พร้อมแอบเสพสุขกับเธอลับหลังวรชัยแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
“พี่ช่วยสอนเซ็กซ์ให้เอ๋ยหน่อยสิ ลูกสาวของน้อง อยากทำเรื่องแบบนี้เป็น โดยที่ไม่ต้องเสียสาวน่ะ” มยุเรศย้ำอีกครั้ง เพราะการทำแบบนี้ค่อนข้างจะหาเรื่องทะเลาะกับสามี และคู่หมั้นลูกสาวได้ หากเขารู้ว่าเอ๋ยทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่น
“ความจริงน่าจะให้แฟนเอ๋ยทำเองเลยนะ แต่อย่าบอกนะ...ว่ามันไม่มีน้ำยา... เสียเชิงชายเลย” วรชิตถามเชิงเปรย ถ้ามยุเรศพูดได้ขนาดนี้ ไม่น่าให้หมั้นแต่งงานเลยจริงๆ สิพับผ่า
“เอ๋ยรักเสมาจ้า แต่ลูกอยากทำกับคู่หมั้น แต่ทางโน้นสุภาพมากเกินไป พี่ช่วยได้มั๊ย?”
“ได้นะ...เอาไว้พรุ่งนี้น้องพาหลานสาวมาคุยกับพี่ก็แล้วกัน ขออีกรอบหน่อยสิ...มัดจำ...” วรชิตกล่าวทีเล่นทีจริง จับเธอนอนหงายถ่างขากว้าง แล้วเริ่มทำการทับร่างเธอไว้ใต้ร่างหนาเขา
วรชิตปิดปากเธอด้วยรสจูบบดเบียด สอดลิ้นแทรกตวัดพันเอาไว้มิให้ตอบปฏิเสธ มยุเรศต้องตกลงกันตามนี้กับวรชิต ความเป็นชายอวบอูมอิ่มบวม เริ่มขยายตัวเพราะตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้คุยวันนี้ ความใหญ่ของมันเริ่มแข็งเกร็ง เอ็นตึงหนาใหญ่ พร้อมจะทำงานใช้งานหนักต่อในรอบถัดไป
สองแขนบางกอดก่ายเขาเอาไว้ คิดถึงเหลือเกินกับสัมผัสรักมากมาย ที่ได้ทำลงไป เธอไม่เคยนึกเสียใจเลย ที่แอบมากระทำลับหลังวรชัยอย่างนี้... อย่างน้อยลูกสาวเธอจะมีความสุขกับคนที่รัก ไม่ใช่ถูกทิ้งร้างโดดเดี่ยวโดยไม่รู้อะไรเลย
เรื่องเซ็กซ์บนเตียง อาจจะทำให้เอ๋ยกับเสมา มีความสุขมากกว่า มยุเรศจะถูกวรชัยปล่อยปละละเลย จนห่างเหินเสียเนินนานขนาดนี้ มยุเรศไม่มีทางเลือกสำหรับอารมณ์เปลี่ยวจึงได้หันเห มาอยู่กับวรชิตแบบนี้
******
ปอมกำลังจูบนัวเนียอยู่กับบัวใกล้ห้องของฝน เขากำลังบดเบียดร่างบัวด้วยกายหนุ่ม หญิงสาวแหงนหน้ามองสูง เพื่อจูบกับชายที่อยากได้ทำผัว สวมกอดแนบแน่นแทบอ่อนระทวยเรือนร่างบางแนบชิดกายหนุ่มผอมบางแบนราบ เบียดกันแทบจะอยากเปลื้องผ้า เพราะเกิดอารมณ์อยากมีอะไรกัน ปอมรู้สึกลืมฝนไปจากใจชั่วขณะ จนเปลื้องผ้าช่วงล่าง และอยากจะอุ้มร่างบางเอาไว้ใต้สองแขนความเป็นชายเริ่มกระตุกตื่นเต้น ผงกหัวพร้อมจะพิชิตความเป็นสาวอื่น ซึ่งไม่ใช่ญาติน้องสาวอีกต่อไป บางทีฝนอาจจะชอบพอลก็ได้ และคงไม่ต้องการเขาอีก ปอมรู้สึกน้อยใจและหัวเสีย จะเป็นไรไปหากเขาจะอยู่กับบัว โดยไม่มีฝนความเป็นชายเริ่มเสาะหาปากร่องสวาท มันกำลังเปียกและเรียกร้องให้องคชาตเสียบกระแทกเสยเข้าร่างบัว หญิงสาวรู้สึกดีเมื่อปลายเท้าลอยทั้งสองข้าง เรือนหลังเธอแนบชิดกับกำแพงไม้ ระหว่างกำลังถูกก้อนเนื้ออวบยาวอัดเข้ากายเธอบัวถูกอุ้มแตงด้วยสองแขนที่แข็งแรงของปอม มันทำให้เธอรู้สึกดีกว่าตอนอยู่กับพอล ร่างเขาใหญ่และหนักอึ้ง ทำให้เธออึดอัดและหายใจไม่ออก แต่ตอนนี้ปอมกำลังอุ้มเธอ พร้อมกับสอดใส่ทำให้เธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกช่วงล่างของเธอกำลังขานรับกับขนาดของปอม และขมิ
เมื่อปอมกำลังเดินจูงมือกลับมากับฝน หลังจากเล่นน้ำตกเย็นๆ และเล่นน้ำขุ่นของปอมไปแล้ว บัวยืนรอปอมกับฝน เพราะจะขอเดินกลับมาด้วย“พอลล่ะ? มันไม่น่าทิ้งบัวอยู่ตรงนี้นะ” ปอมถามถึงเพื่อนที่พึ่งเป็นแฟนกับบัว และก็ได้กันเมื่อคืนนี้อย่างรุนแรง ทำเสียงดังตลอดคืน ทำไมตอนนี้ปล่อยให้บัวยืนรออยู่ที่นี่คนเดียว“พอลเดินเร็วมาก บัวเหนื่อยเลยตามไม่ไหว พอลบอกว่าให้รอปอมพาออกมา บัวก็เลยรอจ้า” บัวถือโอกาสขอกอดควงแขน และใกล้ชิดปอมระหว่างแววตาเธอเหลือบหันมามองฝนแอบอมยิ้ม เธอแค่อยากมั่นใจว่า ปอมกับฝนเป็นพี่น้องกัน“ถ้างั้นเราออกไปพร้อมๆ กันเถอะ เดี๋ยวจะได้กลับบ้านพร้อมกัน” ปอมไมได้สนใจบัว แต่ตั้งใจจะพาเพื่อนกลับไปด้วยกัน แต่สำหรับฝนเธอไม่ชอบใจที่บัวมาทำอะไรแบบนี้กับปอม ทั้งๆ ที่บัวก็เพิ่งจะได้กันกับพอลฝนรู้สึกแย่สุดๆ จนหน้าเครียดนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไร เธอรู้สึกไม่ชอบที่บัวมาทำอะไรแบบี้กับปอมต่อหน้าเธอ แต่ไม่อาจแสดงอาการหึงปอมได้เลย เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอกับปอมได้เสียกับบ่อยจนแทบจะเป็นผัวเมียกันเสียเองพอลยืนรออยู่ที่รถ ให้ปอมกับฝนพาบัวออกมา เพราะเขาหิวน้ำก็เลยเดินไม่รอบัว ปล่อยให้ออกมากับปอม แบบเขาไม่ได้รู้
วันถัดมา พ่อแม่ของฝนยังคงจัดอาหารเลี้ยงครอบครัวเหมือนเดิม เป็นวันสบายๆ และทุกๆ คนก็หน้าตายิ้มแย้มเบิกบาน ราวกับรู้ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นสายตาของพ่อแม่หันมองบัวกับพอล ซึ่งเมื่อคืนพวกเขานอนอยู่ด้วยกัน รอยยิ้มของผู้ใหญ่เบ่งบานออกมา แทบจะทำให้บัวค่อนข้างเขินอาย เพราะวันนี้เธอก็เดินขาถ่าง และปวดท้องระบมเสียด้วย เพราะมันคือครั้งแรกของเธอกับพอลเรือนหน้าของบัวแดงระเรื่อ แต่ไม่มีใครพูดอะไรให้บัวรู้สึกแย่ หรือโดนล้อเลียน เธอจึงมานั่งทานอาหารเช้า ซึ่งข้างๆ พอลก็นั่งอยู่ด้วย“เมื่อคืนหลับสนิทนะ” แม่ของฝนถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ พลางยิ้มแก้มปริออกมา เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบัว“อ่า ค่ะ ที่นี่นอนหลับสบายดีค่ะ” เธอตอบเสียงขัดเขิน ในขณะที่พอลยังคงทำตัวตามปกติ และเป็นผู้ชายที่คบกับบัว เขาไม่มีทีท่าว่าเหนื่อย ยกเว้นว่าจะหิวกว่าปกติ“ทานเยอะๆ นะ อาหารที่นี่ก็แค่พื้นบ้าน แต่ไม่น้อยกว่าใครที่ไหนนะ” แม่ของฝนกล่าวข้อดีของอาหารมื้อนี้ เพื่อให้บัวทานเยอะๆ พลางหันไปมองฝนซึ่งทำตัวเงียบระหว่างทานอาหาร“เพื่อนมีแฟนน่ารักดีนะ ฝน” แม่ของเธอชวนคุยอยู่คนเดียว เด็กสาวพยักหน้าไม่มองใคร นอกจากสนใจอาหารตรงหน้าอย่างเดีย
บรรยากาศความเป็นครอบครัวราบรื่นดี เพราะบ้านทางครอบครัวของฝน มีพื้นที่เยอะ และห้องพักหลายห้อง มันเคยเป็นบ้านหลังใหญ่สำหรับครอบครัวใหญ่ เมื่อทุกๆ คนแยกย้ายกันไป เลยปิดห้องพักว่างเปล่าเมื่อฝนกลับมาพร้อมๆ กับญาติของพ่อแม่ ปอมยกมือไหว้ โน้มตัวลงต่ำสุภาพ ตามด้วยบัวและพอล ซึ่งเป็นเพื่อนตามมาเที่ยวบ้านด้วย ทำให้พ่อแม่ของฝนยิ้มแย้มหัวเราะร่าเริง มีความสุขมาก หลังจากลูกสาวสอบเสร็จ ปิดเทอมกลับบ้านบัวได้ทำความรู้จักกับพอล และฝนแนะนำให้บัวลองคบกับพอลดู สายตาของเพื่อนหันมามองค้อนเล็กๆ ราวกับถูกจับคู่ตั้งแต่ก่อนมาที่นี่ แต่สายตาของพอลมองฝนทั่วทั้งเรือนร่าง เธอน่าสนใจกว่าบัวเสียอีกพอลไม่ค่อยชอบใจตอนที่ปอมจับคู่เขากับบัว ความจริงเขามีสิทธิ์ที่จะคบกับฝน หรือบัวก็ได้ ไม่ใช่บอกให้คบกับคนที่เขาจัดหามาให้ พอลคิดว่าน่าจะลองหาโอกาสดีๆ กับฝนดูบ้าง“คืนนี้ค้างที่บ้านตามสบายนะ พ่อกับแม่ขอตัวก่อน ฝากเก็บข้าวของให้ด้วยนะฝน” พ่อแม่ของเธอ เป็นคนเมตตามีน้ำใจงาม แต่ด้วยกาลเวลาที่ทำให้วัยและสังขารของพวกเขาร่วงโรยไปมากฝนอยากจะบอกพ่อแม่เรื่องปอม แต่ก็กลัวจะไม่เข้าใจและโกรธ จึงทำได้เพียงแค่เป็นลูกสาวที่ดี ชวนญาติแวะม
เช้าวันถัดมา ปอมและฝนต่างคนต่างหอบเสื้อผ้า เดินทางกลับบ้านของตัวเอง ซึ่งอยู่คนละทิศทาง ปอมจึงทำได้แค่สวมกอดน้องสาว และฝนก็ทำได้แค่โบกมือลายิ้มหวานให้ กว่าจะได้กลับมาเจอกัน ก็คือ คืนวันอาทิตย์...ทำไมฝนจะจำวันแรกที่เจอปอมไม่ได้ เขามีท่าทางแบดบอย และดวงตาที่กวนประสาท แต่พอรู้ว่าเป็นพี่ชายและน้องสาว ทำให้เธอต้องทำตัวดีกับเขา จนเขารู้สึกดีกับเธอเพียงแค่สวมกอดตอนจะเข้าห้องน้ำ ร่างเธอมีเพียงผ้าขนหนูพันกาย และตัวเขาก็เปลือยอยู่เบื้องหน้า นั้นคือครั้งแรกของเธอกับเขาในห้องน้ำ ซึ่งตอนนั้นป้าศรียังไม่กลับมาถึงบ้านยามเย็นหลังเลิกเรียนมหาวิทยาลัยในวันนั้น ฝนเสียความบริสุทธิ์ให้แก่ปอม และเขาก็ได้พูดปลอบใจบอกรักเธอมาเสมอ ถึงจะเป็นพี่น้อง ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอกับเขาจะรักและมีอะไรด้วยกันไม่ได้ฝนถูกอุ้มแตงในห้องน้ำ และปอมเป็นนักกีฬาที่แข็งแรงมาก เขากระแทกเธออัดเข้ากับกำแพง แทงองคชาตเสียบลึกจนเลือดแตกหลั่งไหล ทะลักออกมาทั้งเจ็บทั้งเกร็ง ฝนร้องไห้เพราะความเจ็บปวด ถึงจะกรีดร้องแทบห้องน้ำแตกปอมก็ยังไม่ปล่อยให้เธอหลุดรอดจนกระทั่งเขาเสร็จสุดๆ จึงปล่อยเธอวางง แล้วชักว่าวอัดฉีดน้ำขุ่นเข้าหน้าท้องของฝนที่เ
ปลายริมฝีปากฝนแตะขอบหัวบาก ระหว่างมันโผล่หัวพ้นเยื่อหนังหุ้มองคชาต มันกำลังตื่นเต้นกระตุกเสียว ฝนจึงอ้าปากกว้างเพื่อครอบงำมันเอาไว้ในคราเดียว ขบเม้มดูดปิ่มปลายให้ปอมนอนเสียวตัวสั่นเกร็งกัดฟัน มือกำผ้าห่มแน่น“ซี๊ด...!!!” ชายหนุ่มพยายามสงบสติอารมณ์ และพยายามไม่ส่งเสียงครางเสียงระหว่างที่เขาจะต้องใช้ปากโลมเลียปากทางเข้าร่องสวาทฝน เขาเลื่อนมือมาสอดแหย่เส้นตรงเมื่อกลีบอวบทั้งสองบวมปิดปากสนิทน้ำเมือกเปียกฉ่ำกำลังหลั่งไหลออกมาเรื่อยๆ เมื่อเรือนร่างหญิงสาวเริ่มสั่นสะท้านหลังจากปอมเริ่มใช้นิ้วมือแหย่เข้าไปเขี่ยกับยอดเม็ด และดึงช่วงล่างของฝนให้กระชับกับปากเขาปลายลิ้นหนาของปอมยื่นเลียนนอกกลีบอวบ และโลมเลียอยู่ปากร่องสวาทตอบรับเสียเริ่มเกิดอารมณ์หลั่งไหลสายน้ำหล่อลื่นออกมา ได้รสชาติเสียปอมเพลิดเพลินดื่มด่ำกับการใช้ลิ้นให้ฝนหญิงสาวอ้าปากครวญเสียว หลังจากปอมกำลังลงลิ้นให้กับของสงวนของเธอ มีแต่เขาเท่านั้นที่ได้ครอบครอง แม้ครั้งแรกที่ผ่านมา เขาก็คือชายคนแรกที่ได้พิชิตความพิศวงเรือนกายหญิงสาวฝนโน้มหน้าลงต่ำ เพื่อกลืนองคชาตเขาเข้าไปครึ่งลำ มันช่างอวบอิ่มใหญ่บวม แน่นคับปาก จนต้องใช้ลิ้นโลมเลียตามลำ