หน้าหลัก / เมือง / Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+) / บทที่ 38 : รอไม่ไหว! เบอร์แบโต้เริ่มเคลื่อนที่ (13+)

แชร์

บทที่ 38 : รอไม่ไหว! เบอร์แบโต้เริ่มเคลื่อนที่ (13+)

ผู้เขียน: L.sunanta
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-13 22:52:21

"อุ๊ยแม่! ร่วง!"

.

"เพล้งงงงง!!!"

.

แก้วกาแฟร่วงหล่นลงพื้นแตกกระจาย ด้วยฝีมือของสาวนักจัดดอกไม้นามแคทเธอรีน เศษกระเบื้องพุ่งไปไกลเกินกว่าเมตรแถมยังแฉกกระจายออกทุกทิศทุกทาง ทำเอาทุกสายตาในร้านหันมาจับจ้องที่โต๊ะของเธอเป็นจุด ๆ เดียว

.

"ชิ! ซุ่มซ่ามชะมัดผู้หญิงอะไร ไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาซะเลย! อายเขาไหมล่ะทีนี้! ดูดิเป็นคนแท้ ๆ ต้องมาโดนพวกหุ่นยนต์เหยียด!"

.

"ย่ะ! ก็ใครล่ะที่ดันสั่งกาแฟมาซะเต็มโต๊ะ 1.. 2.. 3.. 4.. 5.. 6.. 7 โอ้โห! สั่งเยอะขนาดนี้ไปซื้อยาบ้ามาเคี้ยวแทนเถอะพ่อคุณ! มือฉันแค่พลาดไปโดน มันเป็นอุบัติเหตุย่ะ!

.

"ไอ้คนใจดำ! ถ้าเป็นพี่เจฟเฟอร์นะพี่เขาต้องเข้ามาถามฉันแล้วว่าเป็นอะไรรึเปล่า แทนที่จะด่าฉอด ๆ อย่างแก.. หึ๊ย!"

.

เพื่อนชายมุ่ยหน้าใส่หนำซ้ำยังยกมือขึ้นกอดอกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะเบอร์แบร์โต้รู้ดีว่าขืนเอะอะโวยวายมากไป เดี๋ยวไอ้พวกหุ่นกระป๋องที่นั่งอยู่เต็มร้านก็จะเขม่นเอาอีก เขาล่ะไม่ถูกชะตากับเจ้าพวกนี้เอามาก ๆ ทั้งไม่อยากอยู่ใกล้ แล้วก็ไม่อยากจะใช้ไลฟ์สไตล์ร่วม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะปูมหลังของเจ้าตัวที่ต้องการจะปกปิดไว้เป็นความลับ

.

"เออรู้แล้วล่ะนะ.. ฉันขอโทษก็ได้ หลบมานั่งฝั่งฉันนี่มา ให้เจ้าหุ่นมันทำงานเธอกำลังขวางทางมันอยู่นะ"

.

"อุ๊ย! ขอโทษค่ะคุณลุง"

.

หล่อนสะดุ้งโหยงเมื่อพบว่าไม่กี่วินาทีให้หลัง หลังจากเกิดเหตุคุณลุงหุ่นยนต์เจ้าของร้านตัวปุ้มปุ้ยก็ได้เดินเอี๊ยดอ๊าด ๆ เข้ามาหาพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ถืออยู่ในมือ

.

"ตุ๊ด ๆ ตุ๊ด ๆ มิเป็นไรครับ ขอเวลาทำความสะอาดสักครู่ครับ"

.

จบประโยคใบหน้าที่เป็นหน้าจอสี่เหลี่ยมก็หมุนติ้ว ๆ เป็นตู้สล็อตแมชชีนอีกครั้ง ก่อนจะหยุดหมุนแล้วปรากฏเป็นภาพของไม้กวาดไขว้กับไม้ถูพื้นที่คล้ายกับกากบาทขึ้นมา แต่เดี๋ยวก่อน! โปรดอย่าคิดว่ามันจะเหมือนกับโฆษณาขายสินค้าตอนกลางดึกของจอร์จกับซาร่า ที่พรรณนาถึงการเอาม็อบมาถูเข้ากับพื้นแล้วบิดน้ำตากว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เพราะนี่มันโลกปี ค.ศ. 2078 แล้ว

.

เจ้าของร้านร่างอ้วนเปิดช่องลับตรงฐานล่างของตัวเองออก จนเห็นลูกล้อและกลไกการเคลื่อนที่อันสลับซับซ้อน แต่นั่นไม่ใช้ประเด็นเพราะหลังจากที่แสงเซ็นเซอร์สีแดงถูกยิงออกมาจากช่องดังกล่าว พื้นกระเบื้องทั้งร้านก็กลายเป็นตารางหมากฮ็อต เส้นสีแดงสว่างโล่เป็นแนวไปตามร่องกระเบื้องเพื่อแสกนหาเศษแก้วทั้งหมดที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ

.

พอล็อคเป้าได้ทุกอย่างก็ง่ายล่ะ เพราะอุปกรณ์ที่ลุงแกถือมาหาใช่ไม้ถูพื้นอย่างที่พวกเราคิดไม่ แต่มันคือ "ก้านจับสำหรับคอนโทรล" แกใช้มันจุ่มเข้ากับพื้นกระเบื้องเพื่อเป็นการลิงค์สัญญาณ Rosen bridge อันเป็นสัญญาณปฏิภัทเวลาที่โลกเพิ่งค้นพบเจอเมื่อปี ค.ศ. 2048 และพัฒนาขึ้นใช้จริง ด้วยฝีมือของปัญญาประดิษฐ์ (Ai) ที่ไม่ใช่มนุษย์

.

ส่งผลให้คุณลุงแกย้อนเวลาได้ชั่วขณะหนึ่ง แล้วแกก็ก็เลือกที่จะโฟกัสเอาแต่แก้วกาแฟที่แคทรีนทำแตกเท่านั้น เพียงแค่เสี้ยวอึดใจทุกคนในร้านก็ได้เห็นว่าภาพมันเหมือนกับเทปวีดีโอตอนกรอถอยหลังในยุค 90's ไม่ผิดเพี้ยน เศษกระเบื้องชิ้นเล็กชิ้นน้อยวิ่งย้อนกลับเข้ามาหากัน มวลน้ำกาแฟที่ควันโขมงไหลย้อนสวนทางกลับหลังอย่างผิดธรรมชาติ แล้วก็วาร์ปเข้าไปอยู่ในแก้วตามเดิม

.

ก่อนที่สุดท้ายแล้วแก้วกาแฟกับจานรองทั้งหมดทั้งมวล จะวูบไหวฉึบฉับ! ขึ้นมาอยู่บนมือของหุ่นยนต์เจ้าของร้านอย่างหน้าตาเฉย!

.

"กริ๊ง!!!"

.

"ได้แล้วครับ.. เชิญทานให้อร่อยนะครับ มีอะไรก็เรียกใช้ได้เสมอ ตุ๊ด ๆ ตุ๊ด ๆ "

.

จัดแจงวางแก้วที่เคยแตกคืนลงบนโต๊ะ พลางยิ้มให้ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ แล้วก็กลับหลังหันเดินตุ้มตุ้ยกลับเข้าหลังร้านไป มนุษย์ที่มีอยู่เพียงแค่สองคนในร้านอย่างแคทรีนกับเบอร์แบร์โต้ก็เลยไม่แปลกใจนัก ว่าทำไมร้านกาแฟที่โด่งดังที่สุดในยอร์คชินถึงมีลุงแกเป็นพนักงานแค่คนเดียว แล้วก็ยังเชื่ออีกด้วยว่า อีกไม่นานมนุษย์อย่างพวกเขาก็คงจะหมดความจำเป็น

.

"ซูดดดดด! อึก ๆ อึก ๆ อึก ๆ "

"อ่าาาา~ หวานชิบเป๋ง!"

.

"อร๊ายยยยย! ไอ้ดำโต้นั่นมันแก้วกาแฟของฉันนะยะ แกถือสิทธิ์อะไรมาสวาปามของ ๆ ฉันมิทราบ คุณลุงเขาอุตส่าห์ช่วยเอากลับคืนมาให้ หน็อยยย! กรอดดดด!"

.

"ก็ฉันเกลียดมันนี่นา.. เห็นเธอทำตาลุกวาวปลื้มจิตปลื้มใจแบบนั้นแล้วยิ่งน่าขนลุกชะมัด ไม่รู้จะไปให้ค่าอะไรกับพวกมันนักหนา! หมั่นไส้! "

"ไป! ไปกันได้แล้ว! ไม่ทำงานทำการรึไง? ฉันต้องการ Gravity bike คันใหม่ด้วยต้องออกไปทำงานให้บอสอีก"

.

"บ่นอย่างกับตุ๊ด!"

"ช่างฉันเถอะน่า.. Bill , Please!"

.

"อ่าวแล้วไม่รอพี่เจฟเฟอร์แล้วหรอ!?"

.

"หมดอารมณ์จะรอแล้ว แกช้าเกินไปล่ะก็เลยว่าจะลองบุกเดี่ยวดูก่อน ไหวไม่ไหวยังไงค่อยว่ากันอีกที ขยับซิเธออ่ะ! ฉันจะจ่ายตังค์"

.

เบอร์แบร์โต้ลุกขึ้นยืนพลางสอดมือข้างที่ถนัดล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ระหว่างนั้นก็ใช้มืออีกข้างเขี่ยนิ้วหมุนเป็นวงกลมบนโต๊ะ ชั่วขณะจิตหน้าจอเมนูเรียกเก็บเงินแบบดิจิตอลก็ปรากฏขึ้นข้างบน ชายหนุ่มปัดมันทิ้งในทีแรก เพราะไม่ต้องการจ่ายเงินผ่านบัญชีด้วยบาร์โค้ด เขามีเงินที่แอบจิ๊กมาจากเอ็มม่าอยู่เต็มกระเป๋าก็เลยต้องการที่จะจ่ายเป็นเงินสดมากกว่า

.

ซึ่งทางร้านก็ไม่มีปัญหา หน้าจอถัดมาที่โผล่ขึ้นคือรูปแบบการจ่ายแบบเงินสด ด้านซ้ายสุดของโต๊ะมีเส้นสี่เหลี่ยมสีเขียวสว่างโล่ขึ้นเป็นกรอบสำหรับวางธนบัตร ทางขวาสุดก็มีเช่นกันแต่เป็นเส้นวงกลมสำหรับวางเหรียญ พอเบอร์แบร์โต้จัดแจงวางเงินตามกำหนดจนครบแตะปุ่ม Enter ปุ๊บ!แป๊บเดียว! ตัวเลขค่ากาแฟด้านบนก็หมุนติ้ว ๆ ลดลงฮวบฮาบจนกลายเป็นศูนย์ เช่นเดียวกันกับเหรียญและแบงค์ที่จมหายลงไปในเนื้อโต๊ะพร้อมกันไปด้วย

.

"โอเค.. เรียบร้อย"

.

แคทเธอรีนกลืนน้ำลายฝืดคอ ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอเองก็เพิ่งรู้ว่าเบอร์แบร์โต้มีเงินมากขนาดนี้ เธออยากจะลองถามเขาดูแทบขาดใจแต่ก็รู้อยู่ดีว่ายังไงซะเจ้าเพื่อนคนนี้ ก็ต้องตอบคำถามแบบกวนบาทากลับมาอีก ก็เลยลองถามแบบเลี่ยง ๆ ดู

.

"โห.. ไหนบอกไม่ชอบหุ่นยนต์ไง นี่เล่นเลี้ยงเขาทั้งร้านแบบนี้ ไปรวยมาจากไหนมิทราบจ๊ะ"

.

"อย่าเสือก! รีบไปกันได้แล้ว ฉันบอกแล้วไงว่าฉันต้องการรถ ฉันยังต้องทำงานต่ออีก!"

.

ไม่ได้ต่างจากที่คิดไว้เท่าไหร่ พูดกับหมาหมาเลียปาก แคทเธอรีนถึงกับหน้าเสียเธอมองดูเพื่อนชายคนสนิทเดินอาด ๆ ออกจากร้านไม่รับไหว้หรือยิ้มตอบคุณลุงแอนดรอยน์เจ้าของร้านด้วยซ้ำ เขาเดินข้ามฟากถนนไปรอที่ลานจอดเท้าสะเอวพ้อยท์เท้ารออย่างกับนางแบบชุดชั้นในวิกตอเรียซีเคร็ท พลางกระดิกเท้าดุกดิก จ้องเขม็งมาทางเธอหมายจะเอา Gravity bike คันใหม่ให้ได้

.

"ย่ะ.. รอฉันแป๊บนึงนะจ๊ะไอ้ผู้ชายเอาแต่ใจ ฉันจะไปจัดการทำเรื่องเบิกให้เดี๋ยวนี้ล่ะย่ะ พ่อคุณชายผิวถ่าน.. เช๊อะ!"

.

.

15 นาทีผ่านไปทุกอย่างก็เรียบร้อย แคทเธอรีนกลับไปทำงานกะบ่ายในร้านดอกไม้ของเธอต่อ ซึ่งแน่นอนว่างานแรกที่ทำก็คือการสนองตอบ Demand ของเบอร์แบโต้

.

พื้นผิวคอนกรีตของลานจอดข้างตึก Parallel ยุบบุ๋มลงเป็นวงกลม ซึ่งมีรัศมีความกว้างมากกว่า 3 เมตร ฝุ่นละอองลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ก่อนที่พื้นลานจอดเจ้ากรรมจะค่อย ๆ หมุนเป็นวงในทิศทวนเข็มนาฬิกา พร้อมกับยุบตัวลงช้า ๆ เป็นหลุมโบ๋ เบอร์แบโต้พยักหน้าถูกอกถูกใจ เขาสืบเท้าถอยหลังหลบฉากตั้งตารออย่างมีความหวังว่าจะได้ใช้ยานพาหนะลำใหม่ ในการทำภารกิจที่แสนจะยาก

.

สักพักหนึ่งเจ้า Gravity bike คันงามกับอุปกรณ์พร้อมสรรพก็โผล่ขึ้น มันหมุนติ้ว ๆ ขึ้นมาจากชั้นใต้ดินราวกับรถยนต์ Mitsubishi Triton ที่มีพี่ตูน บอร์ดี้แสลมเป็นพรีเซนต์เตอร์ในงานมอเตอร์โชว์ ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ไม่มีคุณก้อย รัชวิน มาเป็นพริตตี้ แล้วไอ้ฐานหมุน ๆ ในงานของเขาเอง ก็ไม่ได้ทำจากแผ่นคอนกรีตราดยางมะตอยดังที่เป็นอยู่

.

"ฟู่~!!!"

.

พอทุกอย่างประจำที่แล้วควันรอบฐานรองก็พุ่งขึ้นเป็นสาย เบอร์แบโต้รีบกระโดดขึ้นไปนั่งค่อมในเสี้ยวอึดใจ งานนี้เป็นไงเป็นกันขืนรอแต่เจฟเฟอร์ ปิเก้ที่สัญญาณขาดหายไปก็อาจจะตายไปซะก่อน เพราะระหว่างเจฟเฟอร์ที่หายไปจากการรักษาตัว กับปิเก้ที่หายไปเพราะภารกิจ ใครสำคัญกว่าก็น่าจะรู้ ๆ กันอยู่

.

"โอเค! ได้รถคันใหม่เอี่ยมอ่องมาแล้วไม่เลวนี่ยัยแคท! ค่อยสมกับเป็นเพื่อนกันหน่อย แต่ก่อนอื่นเราต้องเชื่อมข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกันก่อน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขับไปดาวน์โหลดไปน่าจะเข้าท่ากว่า ไปกันเลย! ไปทำภารกิจกัน!"

.

"บรึ๊นนนน! บรึ๊นนนน!"

.

เป็นจริงอย่างที่บอสว่าเพราะภารกิจนี้เป็นอะไรที่ยากระดับ 8 เป็นงานที่เด็กใหม่อย่างเบอร์แบร์โต้ไม่เคยทำมาก่อน เขาได้รับข้อมูลภารกิจในภาพรวมจากแผงหน้าปัดบนยาน Gravity bike คันนี้ ผนวกรวมเข้ากับการลิงค์สัญญาณจากยานของพี่ปิเก้ ที่จอดทิ้งไว้ในย่านกลางเมืองฝั่งตะวันตก อันเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจสำคัญของเมืองยอร์คชิน แล้วก็เป็นเขตของพวกผู้มีอิทธิพล

.

"สัด! นี่มันงานแฝงตัวหาข่าวนี่หว่า เรายิ่งไม่เคยทำซะด้วยแล้วกับการที่พี่ปิเก้หายเงียบไปแบบนี้ แม่ง! หรือว่า! ช่างเหอะลองติดต่อแกดูหน่อยดีกว่า"

.

หนุ่มผิวสีละสายตาออกจากถนนไปชั่วครู่ แล้วเข้าสู่โหมดมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First person) ในโหมดติดตามตัว เขาเห็นชัดเจนเลยว่าสัญญาณ GPS ของพี่ปิเก้ระบุตำแหน่งพิกัดล่าสุดว่าอยู่บนถนน Begerry บล็อค 12 ห่างจากที่นี่ไปประมาณ 800 เมตร เลี้ยวซ้ายสองครั้ง

.

"ครืดดดด! ครืดดดด! ครืดดดด!"

.

"ฮัลโหล.. ฮัลโหล.. พี่ปิเก้ได้ยินผมไหม ผมกำลังจะตามไปสมทบนะ รายงานสถานการณ์หน่อยพี่ ฮัลโหล! เฮ้! พี่ปิเก้!"

.

"ครืดดดดด ครืดดดดด"

เงียบสนิทไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมา

.

"ควยเอ๊ย! ทีตอนชวนมาเย็ดผู้หญิงนี่อย่างเร็ว พอเป็นเรื่องการเรื่องงานแม่งหายหัวเลยนะพี่! ผมว่าคนอย่่างพี่แม่งไม่ตายง่าย ๆ หรอก มันน่าจะมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นที่นั่นแหละ ซึ่งผมคงต้องเข้าไปดูเอง รู้สึกว่าจะเป็นสถานทูตหรือสถานกงศุลอะไรสักอย่างใช่ไหม?"

.

"ฮู้วววววว!"

.

"เวรเอ๊ย! แม่งโคตรไม่มั่นใจอ่ะ ในชีวิตไม่เคยไปงานไฮโซแบบนั้นซะด้วยสิ"

.

คิดมากไปก็เท่านั้นไอ้หนุ่มผิวหมึกบึ่ง Gravity Bike คันใหม่ของเขาต่อไปด้วยใจหวาดหวั่น พลันทำใจดีสู้เสือเข้าสู้ ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาก็มาถึง ยานยนต์ล้ำสมัยถูกนำมาซ่อนไว้ในซอกตึกแถว ๆ นั้นและทันทีที่ก้าวเท้าพ้นลงมา มือหนาก็รีบบิดหัวเข็มขัดเพื่อเลือกชุดเครื่องแบบที่ต้องการ ตามติดมาด้วยการกดปุ่มที่หัวเข็มขัดเสียงดังคลิก!

.

เพื่อให้เมือกเจลบาง ๆ พุ่งตัวออกมา มันกำลังจะตกลงสู่พื้นอยู่รอมร่อเบอร์แบร์โต้จึงต้องรีบพุ่งตัวเข้าไปใส่ สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นชุททักซิโด้สุดเนี้ยบ ที่เหมาะกับงานเลี้ยงเต้นรำในสถานทูตตามที่ได้รับข้อมูลมา

.

ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีอีกอย่างที่แคทเธอรีนนั้นละเอียดพอ หล่อนตั้งใจใส่ช่อดอกไม้มาในยาน Gravity bike ด้วย เพื่อความแนบเนียนว่านี่คือยานพาหนะสำหรับพนักงานส่งดอกไม้จริง ๆ แล้วเบอร์แบโต้ก็ได้ฉวยเอาช่อดอกไม้ดังกล่าวนั่นแหละมาใช้ เขาดัดแปลงมันทำเป็นหน้ากากเพื่อจะได้เดินเข้างานได้อย่างเนียน ๆ

.

เพียงแต่ว่า!

.

"เชี้ย! ไอ้สัด! แม่งลงทุนโคตร ๆ นั่นมันโดรนควบคุมสภาพอากาศนี่หว่า ต้องเป็นระดับอัครมหาเศรษฐีเท่านั้นอ่ะถึงจะใช้ของแบบนี้ได้ อึก..ก...ก กูจะรอดไหมว่ะเนี่ยะ กูก็แค่เด็กบ้านนอกที่บอสเก็บมาเลี้ยงเฮ๊ย.. ย. .ย ถึงว่าทำไมบอสแกถึงต้องโทรบอกเราให้เอาพี่เจฟเฟอร์มาด้วย"

.

แค่ปากทางเข้างานเด็กใหม่ของเราก็ปอดแหกซะแล้ว โดรนเจ้ากรรมที่พูดถึงเมื่อครู่คืออุปกรณ์สำหรับควบคุมดินฟ้าอากาศ มันคอนโทรลได้แม้กระทั่งการเปลี่ยนเวลาจากกลางวันให้เป็นกลางคืน หรือจะกำหนดอุณหภูมิต่าง ๆ ให้เป็นไปตามที่ต้องการก็ได้ นับว่าเป็นนวัตกรรมชั้นสูง เป็นอีกหนึ่งความหวังในพาร์ทของการป้องกันภัยคุกคามทางธรรมชาติที่มีต่อมนุษย์ ซึ่งทีมนักวิทยาศาสตร์เองก็กำลังพัฒนาให้สเกลมันใหญ่ขึ้น จนถึงขนาดมีข่าวลือออกมาว่าอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า เจ้าโดรนพวกนี้จะถูกส่งออกไปโคโจรนอกอวกาศ

.

แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนั้นเลย! กลับมาตรงนี้ที่หน้าสภานทูตก่อนดีกว่า เหนือศรีษะของเบอร์แบร์โต้คือโดรนพวกนี้จำนวน 4 ตัว มันลอยสูงจากพื้นราว ๆ 7 - 8 เมตร แต่ละตัวบินกินพื้นที่ห่างกันประมาณ 2,000 ฟุตเป็นมุมฉาก พูดง่าย ๆ คือขอบเขตการทำงานของพวกมันมีลักษณะเหมือนกับกล่อง 3 มิติ ที่ครอบคลุมบริเวณสถานทูตแห่งนี้เอาไว้ทั้งหมด ตั้งแต่หลังคา อาคาร ไปจนถึงสนามหญ้า

.

จำได้ว่าเบอร์แบร์โต้แยกจากแคทเธอรีนตอนบ่ายกว่า ๆ จากตึก Parallel มาถึงที่นี่ก็ใช้เวลาไม่น่าจะเกินชั่วโมง เพราะฉะนั้นจะเป็นจะตายยังไงตอนนี้ก็ต้องสว่างอยู่ ไม่มีทางที่จะมืดหรือพลบค่ำไปได้ แต่ทว่าทันทีที่สายลับน้องใหม่ผู้อ่อนประสบการณ์รายนี้ สืบเท้าเข้ามาในอาณาบริเวณของโดรนเท่านั้นแหละมึงเอ๊ย! ภาษาอีสานเรียกว่า "มืดตึ๊บ!!!"

.

"พรึบ!!!"

.

"Oh my goodness! มันอะไรกันว่ะเนี่ยะ มองอะไรไม่เห็นเลย คอมพิวเตอร์ใช้อินฟาเรด!"

.

สิ้นเสียงสั่งการเลนส์นัยน์ตาก็หมุนแกร็ก ๆ ปรับจากม่านตาธรรมดาเป็นเลนส์ชนิดพิเศษที่มองเห็นได้ในที่มืด แม้จะไม่ชัดนักแต่ก็ยังดีกว่าใช้ตาเปล่า

.

"เงียบไปรึเปล่าวะ? ในข้อมูลที่บลีฟมาเขาบอกว่าเป้าหมายในการทำภารกิจเป็นเจ้าพ่อ ที่จะมาดิลงานผิดกฏหมายกับผู้มีอิทธิพลในงานปาร์ตี้นี่นา แล้วนี่มันอะไรกันเงียบเป็นเป่าสาก อย่างน้อยก็ต้องเห็นเงาพวกบอร์ดี้การ์ด หรือพนักงานต้อนรับที่เข้ามาตรวจสอบเราบ้างสิ! แต่นี่ไม่มีเลย?"

.

"ไม่ได้การณ์แฮะ แม่งชักไม่ดีแล้ว ระวังตัวไว้หน่อยดีกว่า.."

.

"หมวดจู่โจม! Swith On!"

.

ถือเป็นการสั่งการด้วยน้ำเสียงที่เบาจนเกือบจะกลายเป็นการกระซิบ ปลายนิ้วชี้เบอร์แบโต้หักเตรียมไว้รอเผื่อฉุกเฉิน เขายิงไม่แม่นแบบเจฟเฟอร์เพราะงั้นกันไว้ก่อนย่อมดีกว่า ซึ่งจะด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจก็มิอาจทราบเพราะทุกครั้งที่ใช้โหมดนี้จอ GPS ระบุตำแหน่งจะรันขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ทำให้เด็กหนุ่มทราบว่าพี่ปิเก้ที่หายตัวไปก็ดันมีสัญญาณอยู่ข้างหน้านี่เอง พี่แกน่าจะอยู่ในห้องโถงหลังบานประตูใหญ่

.

"กูเดินเข้าเขตโดรนมาตั้งไกลยังไม่เจอใครสักคน ถ้าผลักเข้าไปข้างในแล้วยังไม่มีใครอีกกูกลับจริง ๆ นะบอส ข้อมูลบอสอย่างมั่ว!"

.

ยังอุตส่าห์มีอารมณ์ตลกแบบไม่ดูเวล่ำเวลา ทว่าวินาทีที่ผลักบานประตูหน้าห้องโถงหลักเข้ามานี่สิใจมันดันตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ขาแทบก้าวไม่ออก เพราะกลิ่นคาวนนั้นเหม็นคละคลุ้งรุนแรงจนต้องยกมือขึ้นปิดจมูก นี่คือภาพอุจาดสุดเวทนาที่สุดแล้วเท่าที่ดวงตาของเขาเคยเห็นมา

.

"ศะ.. ศพ! ศพเป็นร้อย ๆ เลย! อะ.. อ่ะ.. อ๊ววกกกกก!!!"

.

สำรอกออกมาโดยไม่แคร์ราคาของคาปูชิโน่ ดวงตาอินฟาเรดของเขาทำให้เห็นทุกอย่างเป็นสีเขียว ๆ ดำๆ แต่ก็พอเดาออกได้ว่าทุกคนคือพวกผู้หลักผู้ใหญ่คือคนมีฐานะ ศพพวกนี้น่าจะเป็นแขกหรื่อที่มางานเต้นรำสวมหน้ากากอย่างที่ข้อมูลบอก

.

"แล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันวะเนี่ยะ ทำไมทุกคนตายหมด! ไม่สิพี่ปิเก้! สัญญาณพี่อยู่ในนี้นี่หว่า! "

.

"คอมพิวเตอร์แสกน!"

.

เรติน่าจากเลนส์ตาปรับตัวอีกครั้งหลังได้รับคำสั่ง มันถอดอินฟาเรดออกเพื่อที่จะแสกนหาเป้าหมาย แต่แล้วยังไม่ทันจะทำอะไรเลยเบอร์แบโต้ก็สั่งให้หยุด พลันทรุดเข่าลงสำรอกอาหารกลางวันออกมาอีกหน

.

"แฮก ๆ แฮก ๆ อ๊วกกกก! อ๊วกกกก! ไม่ไหว ๆ มีแต่เลือดเต็มไปหมดเลย เต็มมือ เต็มหน้ากูไปหมดแล้ว! อ๊วกกก! อ๊วกกก!"

.

สีแดงฉาดฉานของสายโลหิตเปรอะเปื้อนไปทั่วทุกสารทิศ กลิ่นคาวเหม็นคลุ้งจนเริ่มเวียนหัว สภาพศพของพวกเขาเหมือนจุดจบของนักรบสปาตันในหนัง 300 ไม่มีผิด ถ้วยโถโอชามแตกกระจัดกระจาย! กลองชุดเครื่องดนตรีพังไม่เป็นชิ้น! ชุดสูท , หน้ากาก , กับชุดราตรี ที่เคยเลิศหรูบัดนี้ไม่ต่างจากผ้าห่อศพ ทั้งหญิงทั้งชายนอนตายกลายเป็นศพสูงกองพะเนินชวนสยดสยองน่าขนลุก

.

สติเบอร์แบร์โต้เหมือนจะหลุด ครั้นจะลุกขึ้นวิ่งหนีออกไปตั้งหลักไกล ๆ ก็ดันทะลึ่งลื่นลิ่มเลือดที่นองอยู่เต็มพื้นจนล้มหัวฟาด!

.

"โป้ก!!!"

.

"โอ๊ย! โอยยย! อูยยย! พี่เจฟเฟอร์พี่อยู่ไหน ตอนนี้ผมต้องการความช่วยเหลือจากพี่จริง ๆ นะ อ่ะ.. อ๊วกกก.. เอือกกก.. อ๊วกกกก"

.

เบอร์แบโต้คิดในใจ แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวไหมเพราะคิดถึงเรื่องชวนอ๊วกนี้ทีไร เหมือนเลือดมันจะไหลออกจากแผลที่แตกมากยิ่งขึ้น

.

.

ฝูงหมู่มวลแมลงวันบินแตกรังหนีขึ้นสู่โพ้นขอบฟ้า พวกมันมีเป็นล้าน ๆ ตัวแต่ไม่มีสักตัวเดียวที่อยู่เชื่อฟังคำสั่งของเจฟเฟอร์ อย่าว่าแต่จะให้ไปช่วยใครเลย ขนาดตัวเองยังแทบเอาตัวไม่รอด!

.

"เหวอ! อ๊ากกกก! ดึงฉันไว้ที่ Emily! จับมือฉันไว้!"

.

"วืดดดดด! ควับ!!!"

.

ไม่ใช่จับไม่โดนแต่เนื้อตัวของ Ai สาวนั้นวาบหายไป ตัว Emily กระพริบเป็นเส้น ๆ ดับ ๆ ติด ๆ อันเป็นผลมาจากสภาพจิตใจของเจฟเฟอร์ที่ตื่นตระหนกหวาดผวา ทำให้เครื่องฉายภาพในม่านตาทำงานไม่เป็นปกติ จนแทบจะใช้การไม่ได้

.

"โคตรแม่มเอ๊ย! อะไรก็ได้! คริส! อย่าให้ฉันตกใส่ทรายเป็นอันขาดนะ อ๊าาาาา! "

.

ตีโพยตีพายแหวกว่ายป่ายปัดสารพัด เพราะรู้ว่าชีวิตตนจบเห่แน่ถ้าหล่นลงไปสัมผัสพื้นทรายด้านล่าง แล้วทันใดนั้นเอง!

.

"จึก!!!"

.

"อ่าาาาาาาาส์.. อื้อออ.. อืออ.. อือออ!"

.

เจฟเฟอร์ห้อยต่องแต่งแหงนหน้ามองข้างบน พยายามมองหาว่าความอบอุ่นที่ห่อหุ้มนิ้วที่งอเป็นตะขอของเขาไว้คืออะไร ก่อนจะพบว่ามันไม่ใช่อุ้งมือของสาวน้อยโฮโลแกรมหากแต่เป็นหี!

.

"ครีส.. นะ.. นี่เธอ!"

.

"เกี่ยวไว้นะคะที่รัก ครีสไม่รู้ว่าจะทนได้นานเท่าไหร่ นอกจากจิ๋มแล้วคริสแตะตัวที่รักไม่ได้เลย!"

.

ร่างกายเธอกระพริบวูบวาบ เส้นสัญญาณแตกซ่า ๆ เป็นช่วง ๆ ไม่ต่างจากพี่ Emily เลยสักนิด อย่างที่เธอบอกเพราะเจฟเฟอร์ผู้เป็นดั่งเจ้าชีวิตเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าครีสจะหายไปตอนไหน แต่ที่รู้แน่ ๆ ตอนนี้เลยก็คือ โน่น! ข้างหน้าโน่น! เจ้าอสูรกายทรายบิ๊กเบิ้ม!

.

"ไอ้แซนดี้มันเริ่มรู้ตัวแล้ว.. ว.. ว.. ว !!!"

.

"โคร่งงงงง! , โคร่งงงงง!"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 61 : รุมสกรัม! (18+)

    สอดท่อนแขนอันกำยำเข้าโอบเอว ตวัดดึงเอาร่างอันผอมเพรียวเข้ามาแนบไว้ในวงแขน พลันกระโดดม้วนตัวเอาส่วนหนารับกงเล็บของเครื่องจักรสังหาร!."เอือกกก!"เจฟเฟอร์ร้องอุทานลั่น เขากัดฟันเม้มมุมปากในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อพบว่าองค์หญิงนาตาชากำลังจ้องมองอยู่ หน้าตาเธอบิดเบี้ยวขยะแขยง หัวคิ้วลู่เข้าหากันก่อนจะกลั้นใจซุกหน้าคมสวยที่คล้ายกับเทรเลอร์สวิฟ ลงมาซบเข้าที่ซอกคอของเจฟเฟอร์."ไม่ต้องกลัวนะครับผมมาช่วย ผมเป็นสุภาพบุรุษ ผมเกิดมาเพื่อคุณ""เอื้อกกก! อื้อหือ! อื้อออ! อ๊าาา!".แม่งแสบหลังก็แสบแต่แสบหูมากกว่าที่ต้องมาฟังอะไรแบบนี้ ระหว่างที่เจฟเฟอร์ได้ใช้ความพยายามในการปกป้ององค์หญิงอย่างเต็มความสามารถ พวกจักรกลซอมบี้ก็ทำอะไรองค์หญิงไม่ได้เลย มันทำได้เพียงตะปบกรงเล็บใส่หลังเขาแบบโหมกระหน่ำ และช่่วงเวลาที่เกร็งตัวป้องกันอยู่นั้น จู่ ๆ ริมฝีปากของนาตาชาก็ได้เผยอขึ้นเครือครางขมุบขมิบ เข้าใจว่าเธอคงจะกลัวมาก ยิ่งเป็นตอนที่เธอเผลอซีดปากและพ่นลมหายใจออกมา ยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดของเจฟเฟอร์พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น."กอดผมเอาไว้ครับ ผมจะไม่ให้องค์หญิงเป็นอะไรผมสัญญา"."อือ.. อืม.. แต่คุณคะ! ขืนเป็นแบบนี้".

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 60 : สอยแล้วเสียบ (13+)

    ลมโชยโบยแก้มเจฟเฟอร์บึ่ง Gravitybike ทะยานฟ้าจนหนังหน้าชาไปเป็นแถบ ริมฝีปากเผยอตีนผมโบกพัดวือกระพือเสียทรง ให้ตายสิเขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นบอร์ดี้การ์ดของเธอยังไงยังงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วดวงหน้าขององค์หญิงนาตาชาแบบใกล้ ๆ เขายังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง เจฟเฟอร์รู้แต่เพียงว่าเธอคือภารกิจ ขืนปล่อยให้รัชทายาทแห่งอลาลัสองค์นี้เป็นอะไรไป ข้อมูลการประชุมที่บอสอยากได้ก็คงจะล้มเหลว.มองไปตรง ๆ เห็นแต่ความสยดสยองบนท้องฟ้า ก้มลงด้านล่างก็เห็นแต่ตึกรามบ้านช่องที่เล็กเท่ากับจิ๋มมดในเมืองยอร์คชิน กระทั่งลองมองที่หน้าปัดยานความซวยจึงบังเกิด."เชี้ยแล้ว! ไอ้สัดเอ๊ย! นี่จะขับพ้นขอบชายแดนแล้วเหรอวะเนี่ยะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน""ตาย ๆ ๆ แคทเธอรีนไม่ได้เตรียมอาวุธใส่ Gravitybike มาซะด้วย ไหนจะพิกัดขององค์หญิงที่หายไปจากหน้าจออีก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยงานงอกแล้วไงกู!".โปรดอย่าสงสัยว่าทำไมเจฟเฟอร์ถึงออกอาการลนลานแปลก ๆ เพราะแม้ว่าในตัวเขานั้นจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำลายล้างมากมาย แต่ก็ยังเทียบไม่ได้อยู่ดีกับไอ้พวกที่อยู่ด้านล่าง เราพูดมาตลอดว่ายอร์คชินคือเมืองที่เปรียบเสมือนฐานที่มั่นสุดท้ายของโลก หลังเกิดส

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 59 : โจรกางเกงใน reborn!

    แสงสว่างสองหย่อมเปล่งประกายออกมาตรงบริเวณแก้มก้น ภายใต้ชุดหนังรัดรูปอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมงาน Parallel เจฟเฟอร์รับรู้ได้ถึงพลังงานความร้อนที่กำลังโรมรันผิวตูดของเขา มันอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ จนค่อนไปทางร้อน กระทั่งเจ้าตัวย่อขาลงแล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างลงไปตะปบไว้นั่นแหละมันถึงได้หยุด! ก่อนจะได้ออกมาเป็นแผ่นกระดานบางใส 2 แผ่นที่เรียกว่า "Jumper board".ขนาดกับรูปร่างเหมือนกับจานร่อนพลาสติกที่คนรักหมาใช้ปาให้เจ้าตูบกระโดดงับ ต่างกันนิดตรงที่ "Jumper board" นั้นอยู่ในรูปของคลื่นพลังงานมากกว่า มันเรืองแสงตลอดเวลา บางเบาแต่แข็งแกร่ง มิหนำซ้ำบริเวณด้านล่างยังมองเห็นประกายไฟสปาร์คเป็นเส้น ๆ ราวกับสายฟ้าจากค้อนโยเนียร์ของธอร์เทพเจ้า."เอาล่ะพอถือไว้ในมือแล้วจากนั้นก็.. , ฮึบ!"."พลั๊ว! , พลั๊ว! , พลั๊ว!""ฟิ้ววววว~!".ประหนึ่งเคยได้เสียกับจาพนมมาก่อน เจฟเฟอร์ตีลังกาใส่เกลียวพลันปาเจ้าแผ่น jumper board ออกไปกลางอากาศ! ม้วนตัวทีก็ปาไปอันนึง หกคะเมนหกรอบก็ปาออกไปหกแผ่น มันแทบจะวาร์ปขึ้นมาบนก้นได้เองในทุก ๆ ครั้งที่เขาไพล่มือไปสัมผัสโดนเข้า แผ่นบอร์ดพุ่งแหวกอากากาศฟึบฟับ ๆ ๆ ! คล้ายกับดาวกระจาย ก่อ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 58 : เจ้าหญิงแห่งอลาลัส

    รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่."เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา."เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตร

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 57 : กล่องดำของปิเก้

    "พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด."โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"."ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"."ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!".ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต."หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"."เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในส

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 56 : ถ้าน้องไม่ไหว ก็ปล่อยให้พี่

    สะบัดลำตัวสะดีดสะดิ้งหวิดหวิวเสียวสะท้าน ทันทีที่ภาพเสมือนโดนตัดสัญญาณ เจฟเฟอร์ก็รีบดึงสติกลับมาที่ตัวเอง เดชะบุญที่เขาไม่ได้ไปไหนไกลจากเบอร์แบโต้นัก จากตรงนี้ในชุดรัดรูปที่ใช้สำหรับทำภารกิจโดยเฉพาะ เจฟเฟอร์ยังคงมองเห็นเจ้าหน้าที่รุ่นน้องได้อย่างชัดเจน."โถ่เอ๊ย! ไอ้โต้ ดูสิดูมันทำ! ทำอย่างกับคนไม่เคยฝึกมา รื้อสถานที่เกิดเหตุกระจุยกระจาย ถุงมือก็ไม่ใส่ หลักฐานสำคัญหายหมดแล้วมั้งน่ะ! "."น่าเสียดายที่บอสรู้ตัวเร็วไปหน่อย ไม่งั้นเราคงได้ข้อมูลมามากกว่านี้ ดอกลาเวนเดอร์สดดอกหนึ่งราคาเฉียด 500 เหรียญ ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะกล้าปาเข้าใส่เราได้! ชูู่ววววว! ถึงที่ส่งไปจะเป็นแค่ภาพ visual ระบบ wireless ก็เถอะ แต่มันก็เสียวท้องน้อยดีเหมือนกันแฮะ.. วู้วววว!".วนมือเป็นวงบนพุงตัวเองวูบวาบ สายลับหนุ่มเป่าปากพ่นลมหายใจพรู อย่างที่เราทราบว่านวัตกรรมของ Parallel นั้นมีมากมายหลายชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้านี่ "เครื่องฉายภาพระยะไกลระบบ wireless " มันเป็นอุปกรณ์ย่อยที่ถูกติดตั้งเข้ามาใหม่ เพียงแค่กลับด้านหัวเข็มขัดนิดเดียว จากอุปกรณ์แปลงร่างก็จะกลายเป็นเครื่องส่งสัญญาณในทันที เดชะบุญที่โลกยุคนี้เป็น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status