- AFTER PARTY -
“จบแล้วโว้ยยย~” เฮียโยตะโกนออกมาท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังลั่นในบ้านของเขา ที่นี่ตอนนี้มีฉัน ลิซ เฮียพาย เฮียบีท และเหล่ารุ่นพี่ที่จบพร้อมกัน รวมถึงบรรดาสาวๆ ที่แต่ละคนหิ้วมานัวเนียยั้วเยี้ยเต็มไปหมด “ดีใจเหมือนได้ใบปริญญา” ฉันพูดเหน็บเฮียไปขำๆ แล้วเขาก็หันมาทำหน้าเหมือนคาดโทษกัน “มานั่งนี่” เฮียโยจ้องหน้าฉันอย่างออกคำสั่งแล้วชี้นิ้วไปตรงที่ว่างบนโซฟาข้างเขา ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกจนหมด แต่ฉันเลือกที่จะส่ายหัว ทำหน้ากวนๆ ตอบกลับไปอย่างท้าทาย “ไม่!” “รักไอ้พายมันมากไง๊?” แล้วเฮียโยก็ทำหน้าเซ็งๆ พอโดนฉันขัดใจ ฉันเลยแกล้งขยับเข้าไปใกล้เฮียพายที่นั่งอยู่ข้างกัน เอียงหัวทำท่าจะไปซบไหล่เฮียพายขำๆ ก่อนจะพูดออกไป “ใช่.. รักมากกว่าใครในนี้เลย” “ใช่?” พอฉันพูดแบบนั้น เฮียพายก็เลิกคิ้วถามออกมาเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน ฉันเลยถลึงตาใส่เขา กลัวเฮียจะหลุดเรื่องนั้นออกมา แล้วเฮียก็อมยิ้มกรุ้มกริ่มเงียบๆ คนเดียว “เฮียนี่มัน...” ฟุ้บ! จังหวะที่ฉันกำลังเขม่นเฮียพาย อยู่ๆ เฮียโยก็ลุกพรวดจากโซฟาฝั่งตรงข้าม แล้วเดินมาทิ้งตัวตรงที่ว่างข้างฉันที่นั่งอยู่ข้างเฮียพายทันที ฉันเลยหันไปหาเขาแบบงงๆ คือปกติก็นั่งด้วยกันไม่คิดไร แต่ตอนนี้ฉันมีคดีที่ซ่อนไว้ไง กลัวใจตัวเอง -.- “จะมานั่งเบียดกันทำไมเนี่ยเฮีย” ฉันบ่นกลบเกลื่อนออกไป แล้วเฮียโยก็เลื่อนแขนมาโอบไหล่ฉันไว้ ก่อนจะพูดออกมา “อยากรักไอ้พายบ้าง โอ๋~ ไอ้เพื่อน” ผลัวะ! “หื้ม O[]O?” พูดจบเฮียโยก็ใช้มือจากแขนข้างที่โอบฉันไว้ตบเข้าที่หัวเฮียพายอย่างแรง จนลิซที่นั่งถัดออกไปทำตาโต เอิ่ม..เคยบอกไปยังว่ายัยนี่ไม่ชอบความรุนแรง ส่วนเฮียพายพอโดนแบบนั้นก็ถึงกับส่ายหัวแล้วพูดออกมาแบบเซ็งๆ “เหี้ยจริงๆ” แล้วฉันก็ใช้จังหวะที่พวกเขากำลังเคืองกันลุกพรวดออกจากโซฟาจะหนีไปนั่งกับลิซ แต่เฮียโยก็เอื้อมแขนมาคว้าเอวฉันกดให้นั่งลงที่เดิมอย่างรู้ทัน พรึ่บบบ! ฟุ้บ! “เพื่อ?” ฉันหันไปเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แล้วเฮียโยก็ลอยหน้าลอยหน้าตอบกลับมา “เป็นไม้กันหมาให้หน่อย เดี๋ยวมันตบเฮียคืนจะทำไง” “หึ..” พอเฮียโยพูดแบบนั้น เฮียพายก็หลุดขำในลำคอออกมา ฉันเลยหันไปมองค้อนใส่เฮียพายอีกที แล้วเขาก็ทำเฉยหันหนีไปหาลิซแทน แต่ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ เฮียบีทที่นั่งอยู่ตรงโซฟาที่เยื้องออกไปก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกวนประสาท แถมทำท่ายกมือขึ้นมาแล้วขำยกใหญ่ “โว้วๆ รอดูเค้าได้กันครับ ” แล้วจากนั้นรุ่นพี่คนอื่นๆ ก็มองมาที่ฉันกับเฮียโยด้วยเหมือนกัน ก่อนที่พวกเขาจะพร้อมใจกันพยักหน้ากันรัวๆ และยกมือขึ้นไปตามๆ กัน “ด้วยครับ ” “+1 เลยครับ ” “พนันเลยฮะ” “เอ่อ.. ได้กันคืออะไรหรอคะ -.-?” “แป่ว...” ฉันกับเฮียโยรับฟังคำพูดพวกนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยเพราะโดนแซวกันจนชิน แล้วคำพูดของทุกคนก็ถูกเบรคไว้ด้วยเสียงลิซที่ทำหน้ามึนๆ และมองไปรอบๆ แบบงงๆ เออน้องฉัน..มันใช่เวลามั้ย หลังไมค์ก็ได้เว้ย -_-! “ลิซ!” ฉันส่งเสียงเข้มออกไปปรามลิซที่มักจะออกอาการซื่อบื้อจนทุกคนพากันส่ายหัว คือถ้าคนฟังไม่ใช่พวกเฮียๆ ชะตาน้องฉันจะเป็นไงนะ จะโดนหลอกไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ป้ะ เฮ่อออออ! “งื้อออ โรสอย่าดุนะ ก็ลิซไม่รู้” พอฉันส่งสายตาตำหนิออกไปเบาๆ ลิซก็เลิ่กลั่กขึ้นมา แล้วรีบลุกพรวดพราดเข้ามาหาฉันเพราะกลัวฉันโกรธพร้อมกับถือแก้วน้ำหวานสีแดงในมือ แต่เพราะยัยนี่รีบร้อนเดินเข้ามาทำให้ขาไปขัดกับมุมโต๊ะที่วางอยู่ตรงกลาง และ... พรึ่บบบ! “O[]O” ร่างเล็กของลิซเสียหลักจะหน้าทิ่มลงไปแต่เฮียพายคว้าไว้ได้ทันจนลิซเซถอยกลับไปนั่งตักเขา แต่แก้วน้ำหวานในมือที่ลิซถือมาลอยลิ่วผ่านหน้าฉันที่เห็นเหตุการณ์และหลบมันได้พอดีไปกระเด็นเลอะเทอะใส่เฮียโยที่ไม่ทันระวังจนเปียกโชกในพริบตา ซ่าาาาา! “O[]O ฮะ..เฮียโย ลิซ..” “หยุดอยู่ตรงนั้น ไอ้เด็กบื้อ -_-” ลิซทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาเฮียโย แต่เฮียส่งเสียงดุออกไปจนลิซหน้าเสีย เหอะ..ให้ตายน้องฉัน! ให้! ตาย! “งื้อออ ลิซขอโทษค่าาา T.T เฮียพายด้วยนะลิซขอโทษษษ _/_” ใบหน้ามึนๆ อึนๆ ของลิซเริ่มทำหน้าไม่ถูก และเบะปากออกมาทำท่าเหมือนจะร้องไห้ พร้อมกับลุกพรวดพราดออกจากตักเฮียพายและยกมือไหว้เฮียโยกับเฮียพายซ้ำไปซ้ำมา พรึ่บบบ! แล้วอยู่ๆ เฮียโยในสภาพโคตรเละก็ถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออกทันที จนลิซอึ้ง อ้าปากค้าง และเอามือปิดตาก้มหน้าหนีไปอีก ไอ้ลิซ -_-! “เฮีย มาถอดไรตรงนี้เล่า -////-” เอาจริงอย่าว่าแต่ลิซเลย ฉันที่นั่งอยู่ข้างเขาพอเหลือบไปมองไอ้ Six Pack ที่โคตรจะแน่นและเป็นลอนสวยนั่นก็ประหม่าอยู่เหมือนกันเลยส่งเสียงดุเขาออกไป แต่เฮียโยไม่ได้สนใจคำพูดอะไรของฉันสักนิด แถมยังโยนเสื้อเขามาให้ฉันแบบไม่ทันตั้งตัวด้วย พรึ่บบบ! “เอาไปซัก” “ลิซทำก็ให้มันซักดิ” พอเฮียบอกมาแบบนั้น ฉันก็สวนกลับไปแบบทันควัน แล้วตั้งท่าจะโยนเสื้อเฮียไปให้ลิซที่นั่งปิดตาไม่สนใจโลกแทน แล้วเขาก็คว้ามือฉันไว้ หมับ! “เป็นพี่ก็ซักให้น้อง” เฮียพูดออกมาเสียงเรียบ แล้วคว้าแขนฉันดึงให้ลุกขึ้น ก่อนจะเดินลากฉันออกจากโซฟาแบบรีบร้อนท่ามกลางสายตาของบรรดาเฮียๆ ที่มองมาแต่ไม่ได้พูดอะไร “เดี๋ยวเฮีย จะไปไหน?” ฉันเอ่ยปากถามเจ้าของแผ่นหลังที่เอาแต่เดินลิ่วๆ นำฉันไปแบบไม่รู้จุดหมาย แล้วเฮียก็ตอบกลับมาเสียงเรียบก่อนจะเงียบไป.. “ซักเสื้อ” “ห๊ะ! ตอนนี้เนี่ยนะ? เฮียบ้าหรอ?!” พอได้ฟังคำตอบจากเฮียที่มันโคตรจะเอาแต่ใจ ฉันเลยโวยวายออกไปแต่เขาก็ไม่ตอบอะไรกลับมา สักพักเฮียโยก็พาฉันมาหยุดอยู่หน้าห้องนอนของเขาก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป แล้วชี้ทางไปห้องน้ำให้ ฉันเลยหันไปเบะปากใส่ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำมาล้างคราบน้ำหวานบนเสื้ออย่างไม่ค่อยจะเข้าใจ ทุกทีเลอะนิดเลอะหน่อยเห็นทิ้งเลยไม่ใช่รึไง คราวนี้เกิดงกอะไรขึ้นมา ประหลาด! ฉันใช้เวลาซักเสื้อเฮียอยู่สักพักก็เดินออกไป แล้วก็เจอกับเฮียที่กำลังยืนเลือกเสื้อในตู้อยู่แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร “ยังเลือกไม่ได้อีกหรอ -///-?” นี่ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยนะสาบานได้ -///- แค่สงสัยว่าการที่เฮียยืนเปลือยท่อนบนเลือกเสื้ออย่างสบายใจท่ามกลางแอร์เย็นจัดแบบนี้ ถามจริง..เขาไม่หนาวบ้างรึไง? “ใส่ตัวไหนดี” เฮียโยละสายตามาเหลือบมองฉันนิดหน่อยแล้วพูดออกมา ก่อนจะเลือกเสื้อต่อ ฉันเลยตอบๆ ไปและหันหน้าหนีเพราะยิ่งจ้องนาน หน้าฉันมันก็ยิ่งร้อนผ่าวเข้าไปใหญ่ แถมอยู่ๆ ใจก็ดันเต้นแรง แต่สาบานได้.. ฉัน.. ไม่ได้คิดอะไร มันเป็นไปเอง -////- “สักทีเหอะเฮีย ไม่ได้ไปเดินแฟชั่นวีค” “อืม เราว่าดำหรือขาว” เฮียโยพยักหน้าแล้วเลือกหยิบเสื้อในตู้ออกมา ก่อนที่ทั้งฉันและเขาจะพูดออกไปพร้อมกัน “ขาว / ขาว” ..แล้วเฮียก็กระตุกยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจและพูดต่อ “หึ.. แขนยาวหรือแขนสั้น” เขาส่งสายตาเป็นเชิงตั้งคำถาม แล้วเราก็พูดออกมาพร้อมกันอีก “ยาว / ยาว” “เฮียรู้แล้วจะถามทำไม -.-?” พอความเห็นเรามันตรงกันฉันเลยถามออกไป แล้วเฮียก็เปลี่ยนเรื่องไปเฉยๆ “อยู่ได้จริงใช่มั้ย?” แววตาที่มองมาของเฮีย ฉันพอจะดูออกแหละว่ามันมีความห่วงใย แต่..อย่าทำแบบนั้นจะได้มั้ย ก็มัน... “อยู่ได้ อารมณ์ไหน?” ฉันเลือกทำเป็นไม่สนใจ และหันหน้าหนี เพราะไม่อยากหวั่นไหวในความเป็นห่วงเป็นใยของเขา แล้วเฮียก็พูดออกมาพร้อมกับหยิบเสื้อไปใส่ “ก็จะไปแล้วไง..” เขาพูดออกมาเสียงเรียบเหมือนไม่สนใจอะไร แต่ฉันที่ได้ฟังก็ยิ่งนึกคำพูดของเฮียพายที่ยิ่งย้ำว่ามันไม่มีเวลาแล้วไง ไม่มีแล้วจริงๆ... “อืม” ฉันพยักหน้าตอบกลับไป พอดีกับที่เฮียเปลี่ยนเสื้อเสร็จพอดี “ป่ะ เสร็จละ” แล้วเขาก็หันมาพยักหน้าให้ก่อนเดินนำออกไป แต่ก้าวไปได้ไม่กี่ก้าวเฮียก็นิ่งไปและหันกลับมา กึก.. “หื้ม?” ฉันมองเขาด้วยแววตาสงสัย แล้วเฮียก็พูดออกมาและเดินย้อนกลับที่หัวเตียงข้างในห้อง “แป๊บ” แล้วเฮียโยก็เดินไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง หยิบกล่องบางอย่างออกมาและเอากล่องนั้นมายื่นให้ฉันด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “เนื่องใน...โอกาส?” “อยากให้” เฮียโยตอบกลับมา ฉันเลยรับไว้และค่อยๆ เปิดกล่องดู ก่อนจะพบกับสร้อยข้อมือที่มีลวดลายเป็นรูปดอกกุหลาบเล็กๆ เหมือนกับชื่อฉันเป๊ะ ฉันเลยแซวเขาแบบกวนๆ ออกไป แต่ในใจก็งงๆ ที่อยู่ๆ เขาก็นึกอยากจะให้มันกับฉันขึ้นมา “อีกเส้นเป็นดอกลิลลี่รึไง?” ไม่รู้ทำไมถึงพูดไปแบบนั้นเหมือนกัน คงเพราะเขาชอบสะสมเครื่องประดับล่ะมั้ง ฉันเลยเดาว่าเขาก็คงจะเลือกซื้อเครื่องประดับนู่นนี่นั่นให้ผู้หญิงมากมายของเขาเหมือนกัน แถมคนล่าสุดใต้บันไดนั่นก็ชื่อนี้นี่นา ..แต่เดี๋ยวดิ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้นซะหน่อย ทำไมต้องเอาตัวเองไปจัดอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยนะ -_-! “มีเส้นนี้เส้นเดียว” เฮียโยพูดขัดฉันที่กำลังถกเถียงกับตัวเองออกมา พอได้ยินแบบนั้น ยอมรับว่า..ก็แอบดีใจ ไม่ดิ ที่จริงไม่แอบหรอก ฉันดีใจ.. เลยพยักหน้าและตอบกลับเขาไป พร้อมกับก้มมองมันอีกทีและรู้สึกดีขึ้นมามากมายอย่างบอกไม่ถูก -////- “สวยดี” ฉันค่อยๆ หยิบสร้อยข้อมือในกล่องออกมาและมองมันชัดๆ อย่างช้าๆ แล้วเฮียก็เลื่อนมือหนาของเขาเข้ามายีหัวฉันสองสามทีก่อนจะยิ้มร่า “หึ..แหงดิ เฮียดีไซน์เอง” หื้ม..? จริงๆ ก็พอรู้นะว่าเขาชอบออกแบบเครื่องประดับหน้าตาแปลกๆ ไปเรื่อยเพราะมันเป็นธุรกิจที่บ้าน แต่เท่าที่เคยถาม เฮียบอกแค่ทำมันเล่นๆ ไม่ใช่รึไง ถ้าถึงกับดีไซน์เองและสั่งทำออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้แบบนี้.. จะถือว่าฉันได้สร้อยข้อมือแบบ Limited Edition ที่ไม่มีใครมีได้มั้ยนะ :) “ฝีมือใช้ได้เลยนะเฮียเนี่ย ^_^” ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่ความจริงมันเลยคำว่าใช้ได้ไปไกลมาก สร้อยข้อมือเส้นนี้มันสวยมาก แถมมันยังมีความหมายมากมายที่ทำให้ฉันอดใจสั่นไม่ได้พอรู้ว่าตัวเองจะได้เป็นเจ้าของมัน “มา..ใส่ให้ ทำหายมีเรื่องแน่” เฮียโยพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่สำหรับฉันมันโคตรดีต่อใจ เขาแบมือมาขอสร้อยข้อมือจากฉัน ฉันเลยทำหน้าขรึมแล้วส่งมันไปให้ ทั้งที่หัวใจตอนนี้มันโคตรจะเต้นแรงจนกลัวว่าเสียงนี้จะหลุดรอดออกไป >////< แล้วเฮียก็ค่อยๆ ใส่มันที่ข้อมือข้างซ้ายของฉันอย่างตั้งใจ.. “ป่ะ” พอใส่เสร็จเฮียก็เดินนำฉันไป ฉันเลยใช้จังหวะที่เขาเดินพ้นไป หลุดยิ้มกว้างออกมาอย่างระบายความรู้สึกที่มันเอ่อล้นข้างใน แล้วรีบหุบยิ้มก่อนจะเดินตามไปคว้าแขนเฮียเอาไว้ แล้วตัดสินใจทำบางอย่างออกไปในเสี้ยวนาที หมับ! “ว่างะ...” “โรสชอบเฮีย” “.......” สิ้นสุดคำพูดของฉัน ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ และพอเสียงรอบตัวมันยิ่งเงียบเท่าไหร่ เสียงใจของฉันมันก็ยิ่งดังขึ้น ดังขึ้น.. เสียงนี้มันชัดขึ้นจนฉันเริ่มประหม่า ส่วนเฮียก็มองมาด้วยท่าทางที่ดูนิ่งไปอย่างพิจารณา เราต่างจ้องหน้ากันท่ามกลางความเงียบแบบนั้นอยู่สักพัก จนเฮียเป็นฝ่ายดึงตัวฉันเข้าไปกอดไว้ นั่นทำให้ฉันโล่งใจที่อย่างน้อยปฏิกิริยาที่โต้ตอบกลับมามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย.. พรึ่บบบ! แต่สุดท้าย.. เฮียก็พูดออกมาช้าๆ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไร้เยื่อใยจนฉันที่อยู่ในอ้อมกอดเขาพอได้ฟังมันก็ถึงกับตัวชา และรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่พังทลายลงในพริบตา “ตัดใจ…” “.....” “เป็นอย่างที่เคยเป็นมันดีแล้ว” “.....” “เชื่อเฮีย...”หลายวันต่อมา...“อ้าววว ซาหวัดดีฮับคุณแม่ ฮ่ะๆ ~”เฮียบีทเดินควงไม้กลองเข้ามาในห้องซ้อมดนตรีที่มีฉันกับเฮียโยนั่งอยู่ แล้วเขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวนั่งด้วยท่าทางสบายๆฟุ้บ!“ไรเฮียอย่ามาแซว อยากตายด้วยไม้กลองรึไง -////-”พรึ่บบบ!ฉันเอื้อมมือไปคว้าไม้กลองจากมือเขาแล้วทำท่าจะฟาดเข้าให้ นี่ยังน้อยนะ ตอนฉันโทรไปบอกเฮียขำหนักกว่านี้หลายเท่าเลยเหอะ“เป็นไง เห็นไอ้นั่นแล้วเขินเลยป้ะ น่าอิจฉาจังเว้ย >////”พูดจบเฮียบีทก็แกล้งเอามือปิดหน้าปิดตาทำท่าทางกวนๆ ออกมาแถมยังทำตาปริบๆ มองไปหาเฮียโยที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ว่าแต่..ไอ้นั่นที่ว่านี่อะไร? เห็นแล้วทำไมต้องเขินด้วย?ครืดดด!“เชี่ยยย คณะคหกรรมค้นพบดาวดวงใหม่ งานดีสัส! เด็กในชมรมบอกมา”ยังไม่ทันที่ฉันจะถามอะไรเฮียบีท อยู่ๆ เฮียเลย์ก็พรวดพราดเปิดประตูห้องซ้อมดนตรีเข้ามา แถมยังคว้ามือถือตัวเองมาวางบนโต๊ะลงตรงหน้าพวกฉัน ในหน้าจอนั้นมีรูปผู้หญิงคนหนึ่งที่ขนาดแค่มองผ่านๆ ก็ยังถือว่าละสายตาได้ยากเหมือนกัน แล้วเฮียโยก็เอ่ยปากพูดอะไรงึมงำที่ฟังแล้วฉันถึงกับหันไปทำตาขวางใส่เขาทันที“จุ๊ๆๆ เห็นแบบนี้แล้วอยากจะฆ่าเมียเหลือเกิน”“เฮ้ย!”“อุ่ย..
วันต่อมา...@ DARK SHADOW CASTLE“ทำไมทำหน้างั้น?”เฮียโยหันมาถามฉันที่นั่งนิ่งๆ อย่างใช้ความคิด เพราะวันนี้เป็นวันพิพากษาเฮียคิระที่สร้างเรื่องไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน อีกอย่าง..ฉันเพิ่งจะถามที่มาที่ไปของการทำสงครามขนาดย่อมครั้งนี้จากปากเฮียโยตอนมาที่นี่ ก็ได้ความว่าเฮียคิระกับเฮียเตไม่ค่อยจะถูกกันมาตั้งนานแล้วแค่เพิ่งจะมาฉะกันจริงจังก็คราวนี้“เฮียว่าเฮียคิระ...”“เฮียอีกละ -.- ทำไมต้องไปนับญาติกับมัน”ฉันยังไม่ทันพูดอะไร เฮียโยก็ออกอาการไม่พอใจขึ้นมาซะก่อน ที่จริงก่อนหน้านี้เฮียโยก็ออกอาการหงุดหงิดมากที่ฉันเอาแต่ถามถึงเฮียคิระไม่หยุด“อะไร เฮียต้องขอบคุณเค้ารึเปล่า เฮียคิระเป็นคนพาโรสไปหาหมอถึงรู้ว่าท้อง” ฉันพูดออกไปแล้วเฮียโยก็หันมามองด้วยสีหน้าแปลกใจ“มันรู้ก่อนใคร?”“ใช่ รู้พร้อมโรส แล้วรู้ก่อนพ่อของลูกเลยไง ชัดมั้ย?!”ฉันส่งเสียงประชดประชันและทำหน้าตากวนประสาทแบบที่เขาชอบทำออกไป แล้วเฮียก็ขยับเข้ามาใกล้พรึ่บ! หวืดดด“ถอยไปไกลๆ ไม่ต้องมาง้อ”เฮียโยเอื้อมแขนมาทำท่าจะโอบ แต่ฉันขยับตัวหนีแล้วยักคิ้วท้าทายแต่เขาก็ยิ่งทำหน้าตาได้ใจ“ป่าวง้อสักหน่อย แค่จะบอกว่าอย่างอแง เดี๋ยวจะโดนชุดใหญ
“อื้อ~”ฉันตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเฮียโยที่รัดแน่นแต่กลับอบอุ่นมากจนหลุดยิ้มบางๆ ออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แขนข้างหนึ่งของเขายื่นมาให้ฉันหนุนแล้วยังใช้มันกอดร่างฉันเอาไว้ ส่วนอีกข้างวางพาดผ่านหน้าท้องของฉันเหมือนกำลังกอดลูกของเรายังไงอย่างงั้นใช่..ลูกของเรา :)ตลอดค่ำคืนที่ยาวนานเฮียโยเอาแต่พูดคำนั้นจนฉันเคลิบเคลิ้มกับรสสัมผัสที่เขาเติมเต็มมาให้อย่างอ่อนโยนและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นอีกมุมหนึ่งที่ฉันไม่คิดว่าเขาจะมีตั้งแต่รู้จักกันมาถัดออกไปอีกหน่อยมีสมุดบันทึกที่เขาจะให้ฉันตั้งแต่เมื่อคืนวางอยู่ ฉันเลยเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาดู แล้วก็โดนดึงความสนใจเอาไว้ด้วยข้อความสีชมพูมากมาย ตัดสีกับข้อความสีน้ำเงินที่ฉันเคยเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนJan 11,2017You have no idea how hard it is to pretend all the time.(คุณไม่รู้หรอกว่ามันยากขนาดไหนที่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกตลอดเวลา)♥ Don’t underestimate me, I notice more than you realize.(อย่าประเมินผมต่ำไป ผมสังเกตเห็นมันมากกว่าที่คุณเข้าใจ)Feb 28, 2017I need love from you but I know that it’ s hard.(ฉันต้องการความรักจากคุณ แต่ฉันรู้ว่ามันยาก)♥
“เมื่อกี๊ของแม่นะ ส่วนอันนี้อ่ะ..ของลูก”แคว่กกกกกก!O_O!พูดจบเฮียโยก็กระชากชุดนอนฉันจนขาดหลุดติดมือเขาไป โชคดีที่ฉันยังมีชั้นในปกคลุมร่างกายบางส่วนเอาไว้ แต่อากาศที่เย็นจัดภายในห้องก็ทำให้ฉันแอบสะท้านจนขนลุก“ไม่ขอนะ...”เฮียโน้มตัวมากระซิบข้างหูฉันด้วยแววตายียวนและตั้งใจกวนประสาท ฉันเลยยกมือขึ้นดันตัวเขาออกแล้วกำลังจะเอ่ยปาก แต่เฮียก็ชิงพูดขัดขึ้นมาซะก่อน“จุ๊ๆ พ่อลูกจะคุยกันฮะ แม่รอฟังเฉยๆ ครับห้ามดื้อ”“...อื้อออ”พูดจบเฮียก็กดจูบลงมาแบบหนักหน่วงกว่าเดิมหลายเท่า และเร่งจังหวะกระตุ้นให้ฉันเคลิบเคลิ้มตามเขา แถมยังเลื่อนมือมาสัมผัสเรือนร่างของฉันอย่างแผ่วเบา ลูบไล้มันไปมาอยู่อย่างนั้นจนฉันดิ้นพล่าน“อื้อออ~”ฉันขยับตัวไปมาตามสัมผัสของเฮียโยอย่างเก็บอาการไม่อยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลาเขาเลื่อนมือไปโดนตรงไหนมันก็ทนไม่ได้ ร่างกายฉันมันไวต่อความรู้สึกไปหมด“ชู่ววว เฮียแค่จูบลูก จับ..ลูก”เฮียโยถอนจูบและพูดออกมาเบาๆ แบบเน้นคำอยู่ข้างหูฉันจนฉันรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งตัวอีกครั้ง“ปล่อยโร...อื้อออ”ฉันเอ่ยปากพูดออกไปได้ไม่กี่คำเท่านั้น เฮียก็เลื่อนจมูกโด่งๆ ของเขาลงมาซุกไซร้ตรงซอกคอของฉัน
@ VAYO’ S CONDOแกร๊ก แอ๊ดดด“เมื่อไหร่จะพากลับห้อง”ฉันบ่นๆ ออกไปพอเฮียโยพาฉันวนกลับมาที่คอนโดเขาอีกครั้งหลังออกจากบ้านเขา ใจคอจะไม่ให้ฉันกลับห้องตัวเองเลยมั้ง น่าเบื่อจะแย่ -.-“ห้องไหนอ่ะ? ห้องลิซหรือห้องนิล”ฟุ้บ!พูดจบเฮียโยทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแบบชิลๆ แล้วเลิกคิ้วถามฉันที่ทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเขาออกมา...หืม? นี่เขารู้ด้วยหรอว่าฉันย้ายไปอยู่ห้องเจ๊นิลแล้วอ่ะ“งง.. เมียทั้งคนถูกมั้ย เราทำไรเฮียรู้หมดแหละ”เฮียโยพูดออกมาอย่างรู้ทัน พร้อมกับมองมาที่ฉันด้วยท่าทางกวนประสาทแบบนั้นไม่หยุด ก่อนที่ฉันจะตอบกลับไป“อะไร ใครเมีย คิดไปเอง!”“หึ..ก็ไม่รู้สิฮะ ถามเด็กในท้องมั้ยล่ะ โหลๆ พ่อชื่อไรอ่ะ? พ่อหล่อแบบนี้รึป่ะ? ฮ่ะๆ”เฮียโยพูดไปชี้นิ้วเข้าหาตัวเองไป แล้วเขาก็หลุดขำออกมาอย่างผู้ชนะ แถมยังยักคิ้วท้าทายฉันที่พอได้ฟังแล้วอยากจะคว้าแจกันเขวี้ยงใส่ให้รู้แล้วรู้รอด“รำคาญ! คืนนี้นอนข้างนอกไปเลยไป” พูดจบฉันก็เดินหนี แต่เฮียโยก็ยังส่งเสียงตามหลังมาแบบยียวนมากกก ให้ตาย!“ครับ เชิญตามสบาย ให้เฮียเซ็นยกมรดกให้ลูกเลยมั้ย ปากกาอยู่ไหนน้า~ หาแป๊บ”ชิ.. ประสาท!ครึ่งชั่วโมงต่อมา...ครืดดด!“เข้ามาทำไ
“...ว่าไงนะ?”ครืดดด!พูดจบฉันก็ลุกพรวดจากโต๊ะทันทีที่ได้ยินรุ่นพี่เฟรย่าพูดแบบนั้น แต่เฮียโยก็เอื้อมแขนมาคว้าเอวฉันพร้อมกับออกแรงดึงกลับไปนั่งตักเขา แถมยังใช้แขนแกร่งล็อคตัวฉันเอาไว้พรึ่บ!“อย่ามาจับ!” ปากฉันพูดกับเฮียโยแต่ตากลับจ้องไปทางรุ่นพี่เฟรย่าที่กำลังมองมาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ“ใจเย็นนะฮะเลดี้ เดี๋ยวเฮีย...”“...อธิบายเอง”รุ่นพี่เลโอพยายามแก้สถานการณ์ แต่รุ่นพี่เฟรย่าก็พูดขัดขึ้นมา ก่อนจะจ้องมาที่ฉันไม่วางตาแล้วพูดต่อ“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”“ก็รีบอธิบายมาดิ!” ฉันตะคอกสวนกลับไปอย่างหงุดหงิด จนโดนเฮียโยดุออกมาเสียงเข้ม“โรเซ่”“โอ๊ะ เชื่อละว่าโหดจริง” รุ่นพี่เลโอมองมาที่ฉันขำๆ ก่อนที่เขาจะยกแขนข้างหนึ่งขึ้นไปโอบรุ่นพี่เฟรย่าไว้แบบชิลๆ“มีเรื่องนิดหน่อยฮะเลดี้ ไอ้โยมันแค่เข้าไปช่วย”รุ่นพี่เลโอพูดอ้อมๆ ออกมาด้วยท่าทางเป็นมิตร แต่ยิ่งฟังฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจ แล้วยังไม่ทันจะถามอะไร รุ่นพี่เฟรย่าก็กวาดสายตามองคนในร้านนิ่งๆ ก่อนจะเหลือบมองรุ่นพี่เลโอแล้วพูดสวนขึ้นมา“โดนข่มขืนน่ะ”ขวับ!“ว่าไงนะ?!”O_O!ยอมรับว่าได้ฟังคำพูดนั้นฉันเองก็ตกใจ แต่ครั้งนี้เสียงที่ดังขึ้นมามันไม่ใช่ของฉันไ