อดีตเป้าหมายนำมาทำสามีอันดับหนึ่งของหนึ่งนางกำลังเดินเข้าไปในสถานบันเทิงยามค่ำคืน แสงวิบวับทำให้เขาต้องหรี่ตามองหาเพื่อนที่นัดกันไว้
หมอปราชตัวสูงโดดเด่น สวมเชิ๊ตสีขาวปล่อยชายทิ้งนอกกางเกงยีนส์สีอ่อน หน้าเคร่งขรึม ตาสองชั้นแต่หลบใน คิ้วหนาได้รูปสวยเห็นช่วงกรามชัดเป็นสัน ยามกัดกระทบฟันด้านในกล้ามเนื้อนูนสวยจะเคลื่อนไหวเผยความเป็นชายแข็งแกร่ง ทรงผมทันสมัย ท่วงท่าสุขุมนุ่มนวลบาดลึกหัวใจผู้หญิง สำคัญคือริมฝีปากเป็นเส้นตรงคู่นั้นเย้ายวนเพศตรงข้ามยิ่งนัก
อายุจริงสี่สิบสาม อายุตามสายตาของสาว ๆ ราวสามสิบกลาง ๆ ดูเพอร์เฟคทุกอย่าง หล่อ รวย เก่ง ติดนิดเดียวว่าหากมีการจัดอันดับผู้ชายเอาแต่ใจระดับโลกปราชญาจะอยู่ท๊อปไฟว์ แต่ถ้าในระดับเอเชียอันดับหนึ่งยกให้พร้อมข้าวสารสองกระสอบได้เลย
"ไอ้ปราช" เสียงเรียกดังมาจากด้านหนึ่งนัว ๆ เข้ากับเสียงดนตรีวุ่นวาย
เพื่อน ๆ นั่งกันหน้าสลอน อดีตแกงค์ลูกหมูแห่งมหาวิทยาลัย สมาชิกส่วนใหญ่จบทันตะ มีซิ่วออกไปสาขาอื่นบ้าง แต่ยังรวมตัวกันเหนียวแน่นดี
อดีตแกงค์นี้มีปราชญาเป็นหัวหน้าแกงค์เพราะแข็งแกร่งที่สุด ฝ่าฝันได้ทุกการสอบ ประกวดดาวก็ได้เป็นดาวประกวดเดือนก็ได้เป็นเดือน สมัยเรียนมีงาน Open House ก็ดึงสาวม.ปลายสมัครเข้าคณะได้ล้นหลาม สมัยชั้นคลีนิกก็หาสาว ๆ มาเป็นเคสได้แบบสบาย ๆ คนอื่นมีปัญหาลูกค้าเลื่อนนัด ส่วนปราชญาลูกค้าไปเลื่อนนัดอื่นเพื่อมาทำฟันด้วย เรื่องความหล่อไม่ติด แต่เรื่องรสนิยมนี่สิไม่กระจ่าง
"มึงว่าไอ้ปราชจะแอบมีเมียยังวะ"
"หรือคนแบบมันจะอยากมีผัว"
เหตุเพราะสี่สิบสามปีที่ผ่านมาปราชญาไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนให้ใครได้เห็น เพื่อน ๆ จึงกังขา คนอื่นลูกเป็นขโยง ปราชญาก็ยังเดินโฉบไปโฉบมา
หรือมันจะเป็นเกย์ ?
ก่อนปราชญาจะมาถึงทั้งหมดจึงสุมหัวกัน
"กูมีนี่"
หมอบุญหรือบริบูรณ์ ความหล่อระดับกลาง การเรียนระดับเหวต้องโรยเชือกช่วย คิดได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องดี ๆ เป็นตัววุ่นวายของหมู่คณะ ชูเม็ดแคปซูลในมือ
"อะไรวะ" เพื่อนคนนึงถาม
"ยาวูบวาบ"
"เฮ้ย !" ตุลภพร้อง นอกจากปราชญาก็มีเขานี่แหละที่ดูเป็นผู้เป็นคนและไม่หลุดโลกเกินไป เขาซิ่วออกไปเรียนบริหารหลังเรียนทันตะได้หนึ่งปี
"นิดเดียวมึงแค่ร้อน ๆ เด็กในร้านเยอะแยะ เรียกให้มันหน่อยก็ได้ "
"จะดีเหรอวะ " เพื่อนคนอื่นในแกงค์ดูลังเล แล้วมือเรียวขาวข้างนึงก็ยื่นมาดึงเม็ดแคปซูลออกไป บิดออกแล้วโรยผงใส่ขวดน้ำเปล่า
เป็นอันจบ..
ศศินา มองเพื่ออนคนอื่น ๆ แบบลอยหน้าลอยตา สาวสวยดาวคณะทันตะ เคยแต่งงานกับนักธุรกิจร่ำรวย สามีแก่ตายจากไปแล้ว ตอนนี้เป็นกระดังงาลนไฟเนื้อหอม
"ฉันอยากรู้น่ะว่ารสนิยมหมอปราชเป็นแบบไหน"
ศศินาพูดหน้าตาเฉย ถ้าเป็นผู้หญิงก็เธอนี่แหละจะเสนอตัว
ปราชญาเดินมาถึงโต๊ะ เขานั่งลงทักทายเพื่อน ๆ ไปตามประสา
"ปราชเอาว๊อดก้าสักหน่อยมั้ย"
"ก็ดี"
ศศินาเป็นคนสั่งให้ เพื่อน ๆในแกงค์รู้กันหมดว่าหญิงสาวเคยชอบปราชญา
แป๊บเดียวว๊อดก้าก็วางตรงหน้า ปราชญาดื่มแก้วแรกกำลังจะต่อแก้วที่สอง รู้สึกว่ามีอะไรสั่น ๆ ที่ขา อ้อ ! โทรศัพท์มือถือเขาเอง
ปราชญากดรับ ขอตัวกับกลุ่มเพื่อนออกไปคุยด้านนอก เพราะข้างในเสียงดัง เขาสู้ไม่ไหว เบอร์แม่ด้วย ไม่รับก็ไม่ได้
เอาหูแนบ แทนที่จะเป็นเสียงทักทายของมารดากลับกลายเป็นเสียงเหมือนคนคุยกัน
"หนูหนึ่งนี่ตลกจริง พูดมาได้ว่าตาปราชตอนเด็ก ๆ หน้าเหมือนเต่า!"
.............................................
เอาแว้วววววววว
ในหัวเธอวนเวียนแต่ประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา หนึ่งนางกลัวเขาห่างเหินออกไปอีก กลัวจับใจว่าทุกอย่างจะวนกลับไปยังจุดเดิมที่เขารังเกียจเธอ ทุกวันนี้เขาเป็นเหมือนบ้านเป็นที่พักพิง เป็นคนที่ทำให้เธออุ่นใจ เธอโตมากับแม่เพียงลำพัง แม่ที่โอบอุ้มเธอไม่ได้มากเท่าที่ต้องการ แต่ปราชญาให้เธอได้ เขามารับ เขาดูแล และจัดการให้ทุกอย่างในชีวิตง่ายขึ้นหนึ่งนางกลัวว่าวันข้างหน้า .. ถ้าไม่มีเขาเธอหยุดความคิดไว้แค่นั้น อีกใจนึงก็แย้งว่าเขาก็มีสิทธิ์จะรู้ บางทีเขาอาจจะยินดีก็ได้แต่เขาก็เคยเกลียดเธอ ในใจมันมีคำว่าแต่เต็มไปหมด ความเชื่อมั่นในตัวเองของเธอหายไปไหนกัน“คุณ ถามอะไรหน่อยสิ”“ว่า”“ถ้าสมมติฉันท้องขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง”“จะท้องได้ยังไง ฉันใส่ถุงยางตลอด”หนึ่งนางหน้าเหวอ นี่คนแก่ลืมเหรอว่าครั้งแรกที่ได้กันในรถไม่ได้
เกือบสัปดาห์ที่ปราชญาเป็นกังวล เขารอฟังข่าวของบิดาด้วยใจระทึก จนกระทั่งเย็นวันศุกร์ที่มารดาโทรมาหา บอกข่าวที่ทำให้โล่งใจ“ภรรยาใหม่พ่อปราชน่ะเขาโทรมา ขอบคุณที่ไปบอกเรื่องปวดฟัน เขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องปวดฟัน พ่อปราชไม่เคยบอกว่าปวดฟันเขาเลยไม่ได้แจ้งหมอ สรุปว่าฟันกรามติดเชื้อไม่ใช่ฟันคุดหรอก เห็นว่าอาการดีขึ้นแล้ว คงพักรักษาตัวอีกสักพักใหญ่ ๆ แหละ”ปราชญาจึงโล่งอก ราวกับยกภูเขาออกจากอกที่ตัวเองไม่ต้องมีส่วนทำให้บิดาต้องลาจากโลกนี้ไป แต่เขาก็คือเขา นอกจากพยักหน้านิดนึงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ สองแม่ลูกจึงสนทนาเรื่องนี้แต่เพียงสั้น ๆ แล้วจบเพียงเท่านั้นไม่ต่อความยาวสาวความยืดให้ใครต้องเจ็บปวดหับเรื่องในอดีต จากนั้นก็ต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ประจำวันตามปกติถึงตอนเย็นปราชญาก็โฉบไปรับหนึ่งนางกลับมาที่คอนโดแล้วเล่าเรื่องที่บิดาปลอดภัยแล้วให้ฟัง เธอยินดีกับเขาที่ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องรู้สึกผิดกับความคิดที่ว่าตัวเองจะมีส่วนทำให้บิดาจากไป
เป็นครั้งแรกที่คนผ่านชีวิตมาหลายสิบปีอย่างเขาตกใจ ปัญหาคือเขาเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป ทั้งที่ผ่านมาเขายังไม่เคยยอมรับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นเรื่องราว ไม่เคยนั่งทบทวนตัวเองว่าจะพาความสัมพันธ์นี้ไปอยู่ตรงจุดไหน แค่ใช้ความรู้สึกว่าอยากเห็นหน้าอยากมีเซ็กส์และอยากให้เธออยู่ในปกครองตอนหนึ่งนางบอกว่าท้องมันเหมือนมีพายุลูกเล็ก ๆ พัดผ่านหน้า คิดไม่ทันจะพูดอะไรดี ทั้งอีกใจนึงยังมั่นใจว่าตัวเองใส่ถุงยางทุกครั้ง เขามีติดรถไว้ตลอด แค่เอื้อมมือไปหยิบที่ลิ้นชักหน้ารถมันไม่ได้ยุ่งยากอะไรไม่มีทางที่เขาจะไม่ใส่!หนึ่งนางเดินไปหยิบผลตรวจมาให้เขาดู ปราชญาหูอื้อตาลายเหมือนถูกค้อนหนัก ๆ ทุบหัว สมองยึดติดแต่ความเชื่อที่ว่าตัวเขาเองใส่ถุงยางอนามัยตลอดเวลา คำพูดแรกที่หลุดจากปากเป็นคำที่หนึ่งนางไม่คิดว่าจะได้ฟัง"ท้องกับใคร" ก็ในเมื่อเขาใส่ถุงยางทุกครั้งทุกครั้ง! ปราชญายังเชื่อมั่นอย่าง
บรรยากาศร้านริมน้ำเย็นสบาย หนึ่งนางนั่งเท้าคางมองสายน้ำไหลเอื่อย อาหารตรงหน้าเต็มโต๊ะไปหมด ทั้งต้มยำปลา ปลากะพงทอดน้ำปลา เนื้อทอด ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ไข่เจียวหอยนางรม ข้าวอบสับปะรด ตอนสั่งปราชญาถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ร้อยวันพันชาติไม่เคยเห็นเธอสั่งเยอะขนาดนี้มาก่อน“เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวเหรอ”“กินสิ” ก่อนไปตรวจก็กินข้าวกับแม่จนตรวจเบาหวานไม่ได้ เธอก็ไม่อยากกินแต่เห็นผักกาดดองแล้วมันเปรี้ยวปาก หลังตรวจสุขภาพเสร็จก็กินชานมไข่มุกไปแก้วใหญ่ ๆ กับขนมปังอีกก้อนเบ้อเริ่มก่อนเดินไปเจอเขาที่ห้องไอซียูนั่นแหละ“แล้วสั่งขนาดนี้จะกินหมดเหรอ”“มันอยากกินนี่คุณ ฉันจ่ายเองก็ได้”ปัญหามันไม่ใช่เรื่องเงิน ปัญหาอยู่ที่ช่วงนี้เขาว่าเธอดูเปล่งปลั่งขึ้น ที่สำคัญกินเยอะนอนเยอะ ช่วงวันหยุดไปรับเธอมาอยู่ที่คอนโดด้วยกัน หนึ่งนางก็กินแล้วก็นอนผิดวิสัยปกติข
หนึ่งนางรู้ดีว่าข้างในของคนตรงหน้ากำลังโหวงเหวง ถึงประคองตัวอยู่ได้แต่ข้างในคงล้มระเนระนาดไม่มีชิ้นดีขนาดแค่ดูข่าวคนแปลกหน้าเสียชีวิตเรายังอดใจหายไม่ได้ นี่พ่อทั้งคนจะดีจะร้ายอย่างไรก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกรู้สา“มากอดนะ” เธอยื่นมือเข้าไปหานี่ก็อีกความน่ารักของเธอ บางครั้งหนึ่งนางก็น่าหมั่นไส้และเธอก็น่ารักในคราวเดียวกันปราชญารับไว้ทั้งอ้อมกอด ซบหน้านิ่งเนิ่นนาน อุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่เธออยู่ตรงนี้“ไม่เป็นไรนะคุณ” เธอลูบหลังเขาแผ่วเบา ถ่ายทอดทุกความอบอุ่นที่มี ลืมสิ้นว่าตัวเองก็มีปัญหาเหมือนกัน ถึงตอนนี้ความรู้สึกของคนตรงหน้าสำคัญกว่า “หิวหรือเปล่า กินอะไรมั้ย”ปราชญาแวะพาเธอกินข้าวนอกบ้านเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาเขาทำแต่งาน อาหารก็กินแต่ในห้อง ไม่เคยได้พาเธอโฉบฉิวไปมาเลยสักครั้งร้านที่เลือกอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ยามค่ำลมจาก
ปราชญาปิดเสียงโทรศัพท์เพราะอยู่ในห้องไอซียู เขามองผู้ชายที่เคยได้ชื่อว่าเป็นพ่อด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ใบหน้าเหี่ยวย่นหลับนิ่งสงบอยู่บนเตียง เห็นเค้ารอยของความเครียดและความเหนื่อยล้า มีสายระโยงระยางต่อไปยังเครื่องมือต่าง ๆ เต็มไปหมดครั้งหนึ่งคนบนเตียงเคยสร้างบาดแผล เป็นแผลลึกแบบที่ปราชญาเชื่อแล้วว่าจะไม่ให้อภัย สุดท้ายถึงคราวจวนเจียนจะหมดเวลาชีวิต ปราชญาก็อดไม่ได้จะมาดู“พ่อปวดฟัน เผื่อปราชว่างจะให้ช่วยถอนฟันให้หน่อย”เขานึกถึงวันนั้นที่บิดามาหา ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบเจอกัน ใจหายและนึกกลัวไปถึงว่าหากคนนั้นเป็นมารดาหรือหนึ่งนางเล่าจะทำอย่างไร จะมีชีวิตอยู่อย่างไรถ้าคนที่รักไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วหนึ่งนางเดินมาพอดีตอนที่ปราชญาออกจากห้องไอซียู เธอตั้งใจว่าจะแวะมาเมียงมองบิดาของเขาสักหน่อย ไม่คิดว่าจะเจอเขาอยู่ที่นี่ประจันหน้ากันแล้วต่างฝ่ายต่างก็อึ้ง หนึ่งนางก็ไม่คิดว่าเขาจะ