เข้าสู่ระบบบทที่4
วันนี้ก็เหมือนกับทุกๆ วัน หลังจากที่พี่นักรบส่งผมที่หน้าคณะ เราต่างคนก็แยกย้ายกันเข้าเรียน พี่นักรบเรียนอยู่สถาปัตย์ปี 3 คณะของเราสองคนบอกเลยว่าโคตรไกล วันๆ แทบไม่ได้เจอกันหรอก นอกจากตอนเช้า กับตอนกลับบ้านเท่านั้น
แต่ก็ดีนะ ขืนอยู่ใกล้กัน มีหวังผมไม่เป็นอันเรียนกันพอดี เพราะพี่มันต้องมาเฝ้าผมทั้งวันแน่ แล้วผมก็จะกลายเป็นเด็กอนุบาลที่ต้องมีผู้ปกครองมาคอยเฝ้าที่โรงเรียนชัวร์
แต่ถึงตัวไม่ได้มาเฝ้า พ่อเจ้าประคุณก็โทรหาสามเวลาหลังอาหารนะครับ บางทีผมก็คิดนะ ว่าทำไมพี่มันไม่มีแฟนเป็นเรื่องเป็นราวกับเขาบ้าง จะได้เลิกตามผมแบบทุกวันนี้เสียที
ปึก!
โคตรเจ็บ
“ไม่มีใครบอกเหรอ ว่ามึงควรจะมองทางมากกว่าจอมือถือ เวลาเดิน”
เสียงคุ้นๆ
ผมเงยหน้ามองสิ่งกีดขวาง ที่เพิ่งจะทำให้ผมเจ็บตัวเมื่อตะกี้ เพราะชนเข้ากับอกแกร่งของคนตรงหน้าอย่างแรง
โจทย์เก่า!
“ยุ่ง”
เดินหนีแม่งเลย ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับมัน
“มึงไม่คิดจะขอโทษกูหน่อยเหรอ โดน ทับ”
ผมหยุดชะงักทันที ไม่ใช่อะไร ผมกำลังสงสัยคำว่า ‘โดนทับ’ ที่มันพูด แถมเน้นทุกคำอีกต่างหาก
ไอ้พี่แมคมันไม่เคยมาแบบปกติกับเขาเลย แถมวันนี้ยังมีคำแปลกๆ มาให้งงอีก
“อะไรคือโดนทับ?”
“ชื่อมึงไง”
“ผมชื่อ จอม ทัพ” เน้นทุกคำ อย่างกวนตีนสุดๆ
“อีกหน่อยมึงก็โดนทับ จะแปลกอะไรถ้ากูจะเรียกตั้งแต่ตอนนี้”
มึง กวน ตีน กู
“ถามจริง พี่มีปัญหาอะไรกับผมป่ะเนี่ย ทำไมชอบกวนตีนใส่ตลอดเลย” อันนี้คือกูจริงจังมาก
“อย่าลามปาม กูเป็นรุ่นพี่มึงตั้งสองปี”
“พี่กวนผมก่อนนี่หว่า”
“มึงไม่เคยได้ยินคำว่า รักดอก จึงหยอกเล่นหรือไง รุ่นพี่จะแกล้งรุ่นน้องเพราะความเอ็นดูก็ไม่เห็นจะแปลก”
“แต่อย่างพี่ไม่น่าจะเอ็นดูผมนะ กวนตีนแบบนี้เหมือนอยากมีเรื่องมากกว่า”
“มึงลามปามกูสองครั้งแล้วนะ โดนทับ” กูชื่อ จอมทัพ โว้ย!
“เป็นนักเลงเหรอ ถึงชวนมีเรื่อง”
“ผมไม่ได้เป็นนักเลง ผมแค่ข้องใจว่าพี่จะเอายังไงกับผม”
“เอายังไงก็ได้ ที่มึงถนัด” มันพูดหน้าตาเฉย แถมยังยักคิ้วกวนประสาทมาให้อีก แม่งกวนตีนสัด
“ผมไม่ถนัดอะไรทั้งนั้น และก็ไม่อยากมีปัญหากับใครด้วย เพราะฉะนั้นเราต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน” พูดจบผมก็ทำท่าจะเดินหนีมา ถ้าไม่ถูกเรียกไว้ก่อน
“มึงยังไม่ได้ขอโทษกูเลย”
นี่มึงย้ำคิดย้ำทำหรือไงวะ
“ถ้าผมขอโทษ ทุกอย่างจะจบแล้วพี่ก็จะไม่มาวุ่นวายกับผมใช่ไหม?”
“มึงขอโทษกูก่อน กูถึงจะให้คำตอบ”
ลีลาไปอีก
“โอเค ผมขอโทษที่เดินไม่ได้ดู พอใจยัง”
“พอใจและ แล้วเจอกันไหม่นะครับน้องโดนทับ”
กวนตีนนน! มันกวนตีนผมมม!
มันเดินไปแล้ว แต่ผมยังโมโหอยู่เลย มีอย่างที่ไหนมาเรียกว่าโดนทับ
กูชื่อจอมทัพโว้ย ไอ้รุ่นพี่เฮงซวย!
บทที่30“มานั่งเป็นหมาหงอยอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงที่แสนจะคุ้นหูเอ่ยถามขึ้น เสียงที่ผมไม่ได้ยินมันมาสักพักหนึ่งแล้ว“มาถึงก็กวนประสาทเลยนะพี่” พี่แมคมันนั่งลงข้างๆ กับผมที่ตรงบันไดหน้าคณะของพี่มันนั่นแหละ ซึ่งผมมารอพี่นักรบกลับบ้านเหมือนทุกวันทั้งที่ปกติพี่นักรบจะไปรับผมที่คณะเอง แต่วันนี้ผมแค่รู้สึกอยากจะเดินออกกำลังกายเฉยๆ ก็เลยบอกกับพี่มันว่าจะมารอที่คณะ“มึงก็ลามปามกูไม่เปลี่ยนเลยนะ ไม่เจอกันไม่กี่วันไม่น่ารักขึ้นเลย” พี่มันว่าใครมันจะไปน่ารักเท่าน้องรหัสของพี่ล่ะ เห็นหน้าพี่มันแล้วโคตรจะหงุดหงิดเลยให้ตายเถอะ“สรุปมึงมาทำอะไรที่คณะกูเนี่ย อย่าบอกนะว่ามาหากู นี่คิดถึงกูขนาดนี้เลยเหรอ?” พี่แมคมันส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้“ใครคิดถึงพี่? อย่ามามั่ว อีกอย่างผมจะมารอใครก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่สักหน่อย”“เนี่ย เมื่อไหร่จะทำตัวน่ารักกับกูเหมือนที่ทำกับไอ้วุ้นมันบ้าง““ก็พี่วุ้นเขาไม่ได้กวนประสาทเหมือนพี่นี่ ในเมื่อผมไม่น่ารักก็ไม่ต้องมายุ่ง” ผมบอกก่อนที่จะลุกขึ้น ในเมื่อผมมันไม่น่ารักก็ไม่ต้องมายุ่ง ต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน“แล้วนี่มึงจะไปไหน”“เรื่องของผม” ผมบอกแล้วก็เดินหนีพี่มันมา“จอมทัพ ม
บทที่29หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“ช่วงนี้พี่แมคมันไม่มาตามตอแยมึงแล้วเหรอวะจอม” ไอ้กาวที่นั่งกินข้าวเที่ยงอยู่ด้วยกันกับผมเอ่ยถาม“ถามกู แล้วกูจะไปถามใคร? คิดก่อนพูดบ้างสิ” ผมตอบมันไป แต่ช่วงนี้ผมไม่เจอไอ้พี่แมคมันเลยจริงๆ ก็ตั้งแต่หลังจบงานเฟรชชี่เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น พี่มันก็หายตัวไปเลย ไม่มาตามวอแวเหมือนแต่ก่อน“แล้วมึงจะอารมณ์สียใส่กูทำไมเนี่ย? กูก็แค่ถามดีๆ ไหม?”“กูก็ตอบปกติไหม?”“ปกติมากมั้ง” มันสวนกลับ“อย่ามาหาเรื่องกูได้ป่ะ รีบแดกไปเลยมึงน่ะ” อากาศร้อนๆ แบบนี้ยังจะมาพูดจากวนประสาทกันอีก โคตรจะหงุดหงิดเลย“จอมทัพ” เสียงเรียกของน้ำชาที่ดังเข้ามา ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ กันกับผม พร้อมกับเพื่อนๆ ของเธออีกสองคน ทำให้ผมหันความสนใจไปที่น้ำชาแทนไอ้กาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน “น้ำชา มากินข้าวเหรอ?”“ใช่ เรามาหาเพื่อนที่อยู่คณะนี้น่ะ ก็เลยมากินข้าวกันที่นี่เลย”“นี่กาวเพื่อนเราเอง” ผมแนะนำให้น้ำชารู้จักกับไอ้กาว ส่วนทางน้ำชาเองก็แนะนำเพื่อนของตัวเองที่มาด้วยให้พวกผมรู้จัก“เสียดายที่ปริมไม่ได้มาด้วย ไม่อย่างนั้นจะได้ทำความรู้จักกับจอมทัพเอาไว้”“ปริมเหรอ?” ชื่อเหมือนคนที่พ
บทที่28วันนี้ผมจะได้เจอกับพี่ปาล์มเสียที เพราะเมื่อวานพี่ปาล์มเพิ่งจะบินกลับมาจากอังกฤษ แล้วก็เคลียร์เรื่องต่างๆ กับพี่นักรบจนเข้าใจกันดีแล้ววันนี้พี่นักรบเลยอยากให้ผมกับพี่ปาล์มได้รู้จักกันเอาไว้ เลยนัดกันออกมากินข้าว แล้วก็อาจจะหากิจกรรมอย่างอื่นทำต่อ เช่นดูหนัง แล้วก็เดินซื้อของกัน“ได้เจอตัวจริงเสียที ไดยินแต่ชื่อมานานละ” พี่ปาล์มบอก เมื่อเรามาถึงที่ร้านอาหารกันแล้ว“พี่ปาล์มหมายควาว่ายังไงครับ”“ก็แมคมันมาบ่นถึงให้ฟังอยู่เป็นประจำตั้งแต่มัธยมแล้ว ส่วนคนนี้ก็เอาแต่หวงน้อง” ประโยคหลังพี่ปาล์หันไปพูดกับพี่นักรบ“เลยไม่เคยมีใครได้เจอน้องจอมเลยจนกระทั่งเข้ามหาลัย ฯ นันแหละ เพื่อนในกลุ่มถึงได้เจอตัวจริงที่ไม่ได้มาแต่ชื่อเหมือนที่ผ่านมา”“ก็ไอ้แมคมันพูดมาก น่ารำคาญจะตาย” พี่นักรบมันว่า“รำคาญ หรือว่าหวงน้อง?” พี่ปาล์มหันไปพูดประชดใส่พี่มัน พี่นักรบมันเลยไม่พูดต่อสุดท้ายก็มีคนที่ปราบพี่มันอยู่จนได้นะ“ว่าแต่พี่แมคพูดถึงผมว่ายังไงเหรอครับ” อันนี้คือสิ่งที่ผมอยากรู้ เพราะคนอย่างไอ้พี่แมคมันไม่น่าจะพูดถึงผมในทางที่ดีแน่“แมคมันมาเล่าว่าน้องจอมน่ารัก ตะมุตะมิ น่าบีบแก้มที่สุด แล้วมันใช้เส
บทที่27ช่วงเย็น หลังจากที่การประกวดดาวเดือนสิ้นสุดลง และผู้ที่ครองตำแหน่งดาวเดือนของปีนี้ก็ได้แก่คณะสถาปัตย์ของพี่นักรบกับพี่แมคในงานมีการจัดบูทต่างๆ เอาไว้มากมาย มีทั้งการเล่นเกมต่างๆ การขายของจากบรรดานักศึกษาแต่ละคณะ“อยากกินอะไรไหม“ พี่แมคเอ่ยถาม หลังจากที่เราทั้งสองคนเดินกันจนทั่วงาน ซึ่งไม่รู้ว่าพี่มันไม่คิดที่จะอยู่กับพวกเพื่อนของตัวเองบ้างหรือไง จนไอ้กาวที่ตอนแรกก็เดินอยู่กับผมดีๆ ตอนนี้มันก็ขอกลับไปก่อนแล้ว แถมมันยังแชทมาบ่นอีกว่าพี่แมคอยู่ด้วยแล้วมันเกร็ง ทำตัวไม่ถูกก็พี่แกเล่นเอาแต่มองมันตาขวางแบบนั้น เป็นใครก็เกร็งกันทั้งนั้นไหมล่ะ“ไม่ล่ะ ผมยังไม่ค่อยหิว เดี๋ยวค่อยหาอะไรกินตอนกลับพร้อมพี่นักรบ””พี่มึงก็น่าจะดึกนั่นแหละ กูได้ข่าวว่าทางคณะจะพาน้องๆ ไปเลี้ยงฉลองที่ได้ตำแหน่งกันด้วย ดูแล้วกูอาจจะต้องไปส่งมึงแทน“”แล้วพี่ไม่ต้องไปกับพวกเขาเหรอ“”กูไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกวดสักหน่อย แต่พี่ของมึงน่ะเกี่ยวเต็มๆ เลยต้องไปกับเขาแบบเลี่ยงไม่ได้” พอพี่แมคพูดจบ ก็มีสายเข้าจากพี่นักรบ ว่าวันนี้อาจจะต้องกลับดึก พี่มันชวนให้ไปงานเลี้ยงกับพวกพี่ๆ เขา แต่ผมเห็นว่าไม่ค่อยรู้จักกั
บทที่26วันนี้พี่นักรบต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เพื่อที่จะไปเตรียมงาน เฟรชชี่ไนท์ที่จะจัดขึ้นในช่วงเย็น ซึ่งผมเองก็ต้องไปเหมือนกัน เพียงแต่ว่าผมจะตามไปทีหลังเพราะผมเองก็ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรมากนอกจากขึ้นสแตนเชียร์และพี่นักรบก็เห็นว่าวันนี้ไอ้กาวมันจะมารับเอง พี่มันก็เลยไม่ว่าอะไรที่ผมจะขอตามไปทีหลัง ไม่ได้ไปพร้อมพี่มันตั้งแต่เช้าเสียงกดกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ซึ่งไอ้กาวมันคงจะมาถึงแล้วนั่นแหละ ผมจึงรีบวิ่งออกไปอย่างไว เดี๋ยวมันจะด่าเอาได้ว่าต้องมารอผมแต่งตัว ไอ้นี่มันปากแจ๋วเสียด้วยแต่เมื่อผมมาถึงหน้าบ้าน กลับไม่คุ้นกับรถที่มาจอดที่รั้วหน้าบ้านเอาเสียเลย เพราะนั่นไม่ใช่รถของไอ้กาว“ยืนมองอยู่ได้ จะขึ้นมาไหม?” เมื่อคนที่อยู่ในรถลดกระจกลง ผมถึงได้รู้ว่าคนที่อยู่ภายในรถไม่ใช่ไอ้กาว แต่เป็นไอ้พี่แมค เพราะรถที่พี่มันขับมาคนละคันกับที่เคยมาส่งผมที่บ้านครั้งนั้น ผมเลยไม่คุ้น“ทำไมเป็นพี่ล่ะ”“ก็กูว่าง เลยจะมารับมึงไง กูเห็นนักรบมันไปตั้งแต่เช้าละ”“แต่ผมนัดเพื่อนเอาไว้แล้วนะพี่ คงจะไม่รบกวนพี่ดีกว่า”“เพื่อนมึงไปมหาลัยฯ แล้ว”“หมายความว่าไงวะพี่ แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าไอ้กาวมันไปมหาลัยฯ แล
บทที่25วันนี้ถือเป็นวันแรกในรอบหลายอาทิตย์ที่พี่นักรบมันมีเวลามากินข้าวเช้ากับผม แต่พี่มันพาผมมากินข้าวที่โรงอาหารของคณะของพี่มันนะ ไม่ใช่ที่คณะของผมคือผมไม่เขาใจว่าพี่มันจะลำบากย้อนไปย้อนมาเพื่อที่จะต้องไปส่งผมที่คณะทำไม ในเมื่อโรงอาหารที่คณะของผมมันถึงก่อนที่จะไปคณะของพี่มันด้วยซ้ำแต่พี่มันอ้างว่าข้าวหมูแดงที่คณะของมันอร่อยนักอร่อยหนา ก็เอาตามที่พี่มันสบายใจเลยก็แล้วกัน“หวัดดีครับน้องจอม” อยู่ๆ เสียงของพี่แมคมันก็เอ่ยขึ้น แล้วก็มานั่งแหมะอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ กันกับผม พร้อมกับแก้วนมเย็นปั่นมาวางตรงหน้าอีกหนึ่งแก้ว“กูซื้อมาฝาก”“อะไรของมึง น้องจงน้องจอมอะไร อย่ามาทะลึ่ง” ส่วนนี่ก็เป็นเสียงของพี่นักรบมัน“โห แตะไม่ได้เลยนะ กูก็เรียกน้องจอมอย่างที่ไอ้วุ้นมันเรียก”“แต่เจตนามันไม่เหมือนกัน”“มึงก็คิดมาก กูก็แค่เอ็นดูน้องมึงเหมือนน้องเหมือนนุ่ง”“สาบาน!”“ไม่ ทำไมกูต้องสาบาน”“ชิ!”“แล้วตกลงวันนี้ต้องไปดูน้องดาวเดือนอีกหรือเปล่า”“ไม่แล้ว วันนี้กูไม่ว่าง เพราะติดทำงานที่ต้องส่งอาจารย์ชิ้นสุดท้าย ว่าแต่มึงเถอะทำเสร็จแล้วใช่ไหม ถึงได้ไปสิงอยู่แต่กับน้องกูที่คณะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึ







