Home / โรแมนติก / กลรักกับดักซาตาน / บทที่ 1 การมาถึงและคำมั่นสัญญากับตัวเอง 1

Share

บทที่ 1 การมาถึงและคำมั่นสัญญากับตัวเอง 1

last update Last Updated: 2025-10-25 03:33:33

          “ค่าจ้างคืนละแปดร้อยหยวน...ค่าจ้างคืนละแปดร้อยหยวน...”

          หลินซีพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ คำพูดเพียงประโยคเดียวที่สะกดใจเธอไว้ไม่ให้หักพวงมาลัยรถกลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้

          “แปดร้อยหยวน...”

          เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ปล่อยให้มันลอยไปกับอากาศในรถที่เย็นเฉียบ หญิงสาวก้มลงมองชุดพนักงานเสิร์ฟที่รับมาแล้วทำหน้าแหย นี่มันไม่ใช่แค่ชุดพนักงานเสิร์ฟ แต่มันเหมือนชุดสาวใช้ราคาถูกที่จงใจตัดเย็บมาเพื่อยั่วยวนมากกว่า กระโปรงสีดำสั้นกุดจนน่าใจหาย เสื้อเชิ้ตสีขาวก็รัดติ้วจนแทบปริ แถมเนื้อผ้ายังบางเฉียบจนมองทะลุเห็นไปถึงไหนต่อไหน ซึ่งเธอเพิ่งจะมาสังเกตเห็นตอนที่ก้าวขาออกจากบ้านมาแล้ว

          คืนนี้เธอคงได้กลายเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์ของงานเลี้ยงเป็นแน่ เผลอ ๆ อาจจะโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรก ให้ตายสิ นั่นคงจะน่าอายพิลึก เธอไม่มีประสบการณ์เลยสักนิด แถมรูปลักษณ์ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าพนักงานเสิร์ฟมืออาชีพเลยสักนิดเดียว แม้ใจจะร่ำร้องอยากกลับไปขดตัวอยู่บนเตียงแล้วลืมเรื่องบ้า ๆ นี่ไปเสีย แต่เธอก็ต้องการเงิน

          “นี่แหละราคาของความฝัน” เธอพึมพำเย้ยหยันตัวเอง “ราคาของการพยายามจะเป็นนักเขียน ยัยถังแตกเอ๊ย”

          ความคิดนั้นช่างเสียดแทง ในขณะที่เธอกำลังขับรถไปตามถนนส่วนตัวที่ทอดยาวราวกับไม่มีที่สิ้นสุด มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยา...เทพนิยายที่เธอพยายามจะเขียนมันขึ้นมาในนิยายรักโรแมนซ์เรื่อง ‘เล่นเกมกับตัวพ่อ’ แต่ชีวิตจริงกลับผลักไสให้เธอมารับบทตัวประกอบที่น่าสมเพชเสียเอง

          สมองพยายามนึกถึงคำสั่งของนายจ้างคนใหม่ว่าให้จอดรถที่ไหน แต่ก็ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจจอดรถไว้หลังรถเบนท์ลีย์สีดำสนิทคันหนึ่ง รีบคว้ากระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปยังประตูหน้า แม้จะจำได้ลาง ๆ ว่ามีคนบอกให้เข้าทางประตูสำหรับคนรับใช้ก็ตาม แต่ตอนนี้เธอไม่สนอะไรทั้งนั้น ขอแค่ให้ตัวเองผ่านคืนนี้ไปพร้อมกับเงินแปดร้อยหยวนก็พอ

          “หลินซี?”

          เสียงเรียกที่ฟังดูยุ่งเหยิงทำให้เธอสะดุ้ง ผู้หญิงผมสั้นที่ถูกย้อมเป็นสีแดงเพลิงในชุดเดรสทำงานทะมัดทะแมงรีบวิ่งเข้ามาหาเธอ ในมือเต็มไปด้วยแผ่นกระดาษ เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้จักชื่อเธอได้อย่างไร แต่ก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะซักถาม

          “ค่ะ...ฉันเอง” เธอพยักหน้า พลางห่อตัวลงเล็กน้อยอย่างประหม่าเมื่อถูกสายตาคู่นั้นกวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะจบลงด้วยการทำหน้าแหย ๆ

          “เธอมาสาย” หญิงสาวคนนั้นเอ่ยเสียงเข้ม

          “จริงเหรอคะ” เธอรีบก้มมองนาฬิกาข้อมือ “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันสังเกตเลยว่า...”

          “จะมาไหม” หญิงผมแดงไม่รอให้เธอพูดจบ หล่อนมองกลับมาด้วยสายตาตำหนิกึ่งดูถูก “ตามฉันมา” ว่าจบก็หันหลังแล้วเดินจ้ำอ้าวหายเข้าไปข้างในทันที

          “ค่าจ้างคืนละแปดร้อย...ค่าจ้างคืนละแปดร้อย...”

          หลินซีท่องคาถาเดิมในใจขณะก้าวตามไปติด ๆ ถึงจะไม่แน่ใจว่าเงินจำนวนนี้มันคุ้มค่ากับความเครียดที่กำลังถาโถมเข้ามาหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าการไม่มีรายได้เลย การได้ทำงานกลางคืนเป็นครั้งคราวคือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีความฝันจะเป็นนักเขียนเต็มเวลา มันเป็นความฝันที่เธอยังคงกอดไว้แน่น แม้ตอนนี้มันจะดูห่างไกลเหลือเกิน

          โชคดีที่เธอมีเจิ้งลี่ซา เพื่อนสนิทที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอ เพื่อนไม่เพียงชื่นชมต้นฉบับ ‘เล่นเกมกับตัวพ่อ’ ของเธอ แต่ยังยอมให้เธอมาอาศัยอยู่ด้วยฟรี ๆ และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอต้องมายืนอยู่ที่นี่ เธอรู้ดีว่าเพื่อนไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายของเธอได้ตลอดไป เธอต้องช่วยแบ่งเบาภาระ จะไม่ยอมเอาเปรียบน้ำใจของเพื่อน หรือเป็นภาระให้ใครเด็ดขาด

          “เธอรับผิดชอบเสิร์ฟคานาเป้ เข้าใจนะ”

          เสียงของผู้หญิงผมแดงดึงเธอกลับมาจากภวังค์ เธอพยักหน้ารับอย่างรวดเร็วขณะที่เดินเข้ามาในห้องครัวที่ใหญ่โตและวุ่นวายที่สุดเท่าที่เคยเห็น หลินซีสังเกตว่าภายในนั้นยังมีพนักงานเสิร์ฟอีกเจ็ดแปดคนยืนอยู่รอบ ๆ ด้วยสีหน้าตื่น ๆ ไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่นัก และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย หญิงผมแดงรับโทรศัพท์แล้วรีบเดินออกจากห้องครัวไป ทิ้งให้เธอยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กับที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป

         

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลรักกับดักซาตาน   บทที่ 41 เศษซากของหัวใจ

    ความเงียบที่เข้ามาแทนที่เสียงหอบหายใจและเสียงครางแห่งความสุขสมนั้นมันหนักอึ้งและเย็นเยียบจนน่ากลัว หลินซีฟุบหน้านิ่งอยู่บนโต๊ะทำงานที่แข็งกระด้างและเย็นเฉียบ ร่างกายเปลือยเปล่าและเหนียวเหนอะหนะ ดวงตาจ้องมองไปด้านหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า สภาพห้องที่ยุ่งเหยิง แฟ้มเอกสารที่ตกกระจายเกลื่อนพื้น เศษกระดาษที่ปลิวว่อน ทั้งหมดคือซากปรักหักพัง ไม่ต่างจากสภาพจิตใจของเธอในตอนนี้ ความร้อนแรงเมื่อครู่จางหายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกว่างเปล่า อัปยศ และไร้ค่า หลินซีรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงสิ่งของ เป็นเครื่องระบายความใคร่ เป็นโสเภณีที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจ หญิงสาวค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ทุกส่วนของร่างกายปวดระบม แต่ความเจ็บปวดทางกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่กำลังกรีดลึกอยู่ในใจ เธอรีบกวาดสายตาหาเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกฉีกกระชากและโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี แล้วรีบสวมมันกลับคืนอย่างลวก ๆ ราวกับจะใช้เศษผ้าเหล

  • กลรักกับดักซาตาน   บทที่ 40 บทลงทัณฑ์ที่แท้จริง

    คำว่า ‘อย่าหยุดนะ’ หลุดออกมาเหมือนเสียงกระซิบที่ยอมจำนน มันคือการโยนเศษเสี้ยวสุดท้ายของกำแพงแห่งศักดิ์ศรีทิ้งไป รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของกู้เทียนอี้ มันคือรอยยิ้มของผู้ล่าที่รู้ว่าเหยื่อได้สยบแทบเท้าของเขาโดยสมบูรณ์ เขาไม่ปล่อยให้เธอต้องทรมานกับการรอคอย ปลายนิ้วช่ำชองเริ่มบรรเลงบทเพลงแห่งความปรารถนาอีกครั้ง แต่สำหรับหลินซีแล้ว ทุกสัมผัสที่ทำให้ร่างกายบิดเร่า คือทุกขณะที่หัวใจของเธอกำลังถูกบีบคั้น กฎที่เขาเคยตั้งไว้ดังก้องอยู่ในหัว... ‘ห้ามมีความรู้สึก’ ช่างเป็นคำพูดที่โหดร้ายเหลือเกินในยามนี้ และเมื่อเขาเห็นว่าหญิงสาวใกล้จะหลอมละลายเต็มที ร่างกายของเธอบิดเกร็งจนแทบจะถึงจุดสูงสุดอยู่รอมร่อ กู้เทียนอี้ก็ก้มหน้าลงมา ความร้อนชื้นที่ฉกวูบลงบนจุดที่อ่อนไหวที่สุดทำให้หลินซีสะดุ้งสุดตัว มันคือสัมผัสที่เธอไม่เคยคาดคิดและรุนแรงเกินกว่าจะต้านทาน เขาไม่ได้เริ่มต้นอย่างอ่อนโยน แต่กลับจู่โจมอย่างผู้กระหาย มอบสัมผัสที่ลึกซึ้งและจาบจ้วงที่สุดด้วยลิ้นร้อนชื้นของเขา ลิ้นของเขาทำราวกับมีชีวิต มันทั้งไล้เลีย ตวัด และดูดดึงอย่างช่ำชอง เขาเริ่มต้นด้ว

  • กลรักกับดักซาตาน   บทที่ 39 พายุระลอกใหม่ 3

    “กู้เทียนอี้...” หลินซีรวบรวมสติเส้นสุดท้ายพึมพำชิดริมฝีปากชายหนุ่ม เธอไม่อาจถอยหนี...และไม่อยากจะถอยหนี “นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะ” “แล้วมันเป็นความคิดที่เลวร้ายรึเปล่าล่ะ” เขาขยิบตา “อ๊ะ...ไม่ต้องตอบหรอก ผมไม่สนอยู่แล้วว่ามันจะดีหรือจะร้าย ผมชอบทั้งสองอย่าง” “ฉันก็แค่ไม่เข้าใจคุณ...กู้เทียนอี้” เธอพบว่ามันยากที่จะไม่ยิ้มให้เขา ดวงตาของเขาช่างน่าดึงดูด และอารมณ์ขันของเขาก็น่ารัก แม้แต่หลังจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นเธอก็ยังคงติดอยู่ในบ่วงของเขา “ผมก็เหมือนหนังสือที่เปิดอ่านง่าย ๆ ไม่มีอะไรต้องเข้าใจ แล้วคุณอยากจะรู้อะไรล่ะ” “ฉันอยากจะรู้...” เธอหยุดไปครู่หนึ่ง ตกใจที่ตัวเองเกือบจะเอ่ยชื่อ ‘ซูเฟิน’ ออกไป เธอเสียสติไปแล้วแน่ ๆ “อะไรคือสิ่งที่คุณอยากจะรู้ล่ะครับ” เขาเอียงคอ ดวงตาหรี่ลงขณะจ้องมองเธอ สีหน้าครุ่นคิด “มันไม่สำคัญหรอกค่ะ” “ก็เห็น ๆ อยู่ว่ามันสำคัญกับคุณ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนลงทำให้หลินซีบอกได้เลยว่าเขากำลังพยายามจะอ่านใจเธอ ทำให้เธอประหม่า ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี เธอจะบอกเขาได้ยังไง

  • กลรักกับดักซาตาน   บทที่ 39 พายุระลอกใหม่ 2

    ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของเธออย่างจาบจ้วง ไล่ต้อนและช่วงชิงทุกความหอมหวานไปจนหมดสิ้น สมองของเธอขาวโพลน ขาแข้งอ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่อยู่ มือที่เคยคิดจะผลักไสกลับขยุ้มเสื้อเชิ้ตของเขาไว้แน่นเป็นที่ยึดเหนี่ยว เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ ไม่ใช่เพราะขาดออกซิเจน แต่เพราะกำลังจมดิ่งลงไปในตัวตนของเขาจนหมดสิ้น “แล้วแบบนี้...ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจรึเปล่าครับ” กู้เทียนอี้ถามเสียงเบาขณะถอนริมฝีปากออกห่าง จ้องลึกลงไปในดวงตาหญิงสาวด้วยแววตาของผู้ชนะ “อืมมม...” เธอพึมพำ หายใจหอบเกินกว่าจะพูดอะไรได้ ฝูงผีเสื้อนับล้านกำลังบินว่อนอยู่ในท้อง ทำไมเขาต้องมีเสน่ห์ร้ายกาจขนาดนี้ด้วยนะ... “‘อืมมม’ เหรอครับ” เขามองเธออย่างเหนื

  • กลรักกับดักซาตาน   บทที่ 39 พายุระลอกใหม่ 1

    ก่อหน้านี้ ณ อีกฟากหนึ่งของห้องประชุม กู้เทียนอี้ยืนนิ่งไม่ไหวติง รอยยิ้มหยันที่เคยประดับอยู่บนใบหน้าเมื่อครู่ได้จางหายไปแล้ว เหลือเพียงความเยียบเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากดวงตาสีน้ำหมึกที่บัดนี้หรี่ลงจนแทบจะเป็นเส้นตรงจับจ้องไปยังภาพบาดตาเบื้องหน้า ภาพของหลินซีที่กำลังส่งยิ้มหวานหยดให้กับพนักงานหนุ่มคนนั้น ภาพที่เธอขยิบตา ภาพที่เธอยื่นโทรศัพท์คืนให้ ทุกการกระทำของเธอคือการตบหน้าเขาฉาดใหญ่ คือการประกาศสงครามที่โจ่งแจ้งที่สุด ความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่คุ้นเคยและไม่เคยต้องการที่จะยอมรับพลุ่งพล่านขึ้นมาในอก มันคือความโกรธ ไม่ใช่ความโกรธที่ดังและเกรี้ยวกราด แต่เป็นความโกรธที่เย็นเยียบ หนักหน่วง และพร้อมที่จะทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า เธอกล้าดียังไง... เขาไม่ได้เดิน แต่เขากำลัง ‘เคลื่อนตัว’

  • กลรักกับดักซาตาน   บทที่ 38 เดิมพันครั้งสุดท้าย 2

    “ต้องเป็นในทางที่ดีแน่ ๆ เลยใช่ไหมครับ” ใบหน้าของเขาจริงจังขึ้นมาทันที และในวินาทีนั้น เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาจริง ๆ เจียสือเป็นคนจริงใจ ดีเกินกว่าจะถูกดึงเข้ามาในเกมบ้า ๆ นี้ “ในทางที่ดีมากเลยค่ะ คุณเป็นคนดีจริง ๆ นะคะเจฟ” “แย่แล้วสิครับ” เขาแกล้งทำหน้าแหย ยกมือขึ้นทาบอกราวกับถูกยิง “อะไรคะ” “โดนชมว่าเป็นคนดีแบบนี้ก็จบกันพอดีสิครับ” “ไม่ค่ะ ไม่ใช่” เธอหลุดหัวเราะออกมากับท่าทีของเขา “ฉันชอบคนดีนะคะ” “ค่อยโล่งใจหน่อยครับ” เขายิ้มกริ่ม ก่อนที่รอยยิ้มของเขาจะค่อย ๆ จางหายไปเมื่อมองข้ามไหล่ของเธอ “แต่ผมว่า...”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status