แสงสว่างของแดดที่เจิดจ้าเล็ดลอดผ่านช่องหน้าต่างที่มีผ้าม่านปิดบังแสงเข้ามาในห้องนอน ปลุกให้ร่างบางที่หลับสนิทอยู่บนที่นอนให้รู้สึกตัวตื่น เปลือกตาปรือปรับรับกับแสงสว่างที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องด้วยความงัวเงีย มือเล็กคว้าสะเปะสะปะไปตามที่นอนกว้างเพื่อหาสมาร์ทโฟน เมื่อเจอสิ่งที่ต้องการก็ยกขึ้นดูเวลาพร้อมกับอ้าปากหาวหวอดไปด้วย
เวลาบ่ายโมงกว่าๆ ที่โชว์อยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟน คือเวลาประจำที่ร่างกายของเธอรู้สึกตัวตื่นอย่างอัตโนมัติในทุกวันโดยไม่ต้องพึ่งพานาฬิกาปลุก จัสมินตวัดขาลงจากเตียงนอน สองมือเล็กยกขึ้นสางผมของตัวเองก่อนจะรวบขึ้นสูงหยิบที่หนีบผมที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาเก็บผมไม่ให้ตกลงมาปกใบหน้าและลำคอ ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปหาน้ำดื่มแก้อาการคอแห้งที่โซนห้องครัวเล็กๆ ของคอนโด
สิ่งแรกที่เธอเห็นเมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมานั่นคือถุงชอปปิงใบใหญ่จากแบรนด์หรูที่วางอยู่บนโซฟา แรกๆ ก็ตื่นเต้นกับสิ่งของเหล่านี้ แต่พอนานเข้าแล้วมีทุกอย่างที่เคยอยากมี ความตื่นเต้นดีใจก็ลดน้อยลงไปด้วย คนตัวเล็กเดินเข้าไปดูถุงชอปปิงใบใหญ่ก่อนจะพบว่าด้านในถุงนั้นมีโน้ตแผ่นเล็กแปะอยู่ด้วย เธอหยิบมันขึ้นมาอ่านด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแล้ววางลงอย่างไม่คิดใส่ใจแล้วเดินเลยไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่ม ไม่แม้แต่จะเปิดดูสิ่งของที่อยู่ในกล่องด้านในด้วยซ้ำ ทำทุกอย่างเสร็จเธอก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อจะอาบน้ำเตรียมตัวออกไปทำงานของตัวเอง
งานที่ใช้รูปร่างหน้าตา ทั้งยังค่อนข้างเปลืองตัว แต่ค่าตอบแทนที่ได้มานั้นก็มากพอที่จะเปลี่ยนชีวิตที่เคยขัดสนของเธอให้สุขสบายขึ้นได้ แม้อาชีพพีอาร์จะถูกคนส่วนมากมองว่าขายตัวก็ตามแต่ เพราะความเป็นจริงแล้วเธอไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่จะว่าไม่ได้เป็นก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะชีวิตที่สุขสบายของเธอตอนนี้ไม่ใช่ว่าได้มาจากเงินที่ทำงานพีอาร์อย่างเดียว คอนโดนี้ รถที่ขับ รวมถึงถุงชอปปิงแบรนด์เนมใบนั้น ก็ล้วนแล้วแต่มาจากไนต์ เจ้าของคลับที่เธอทำงานอยู่ทั้งนั้น ทุกอย่างที่มีแลกกับสถานะ ของเล่นแก้เหงา ให้กับเขา
@NIGHT’s Club
จัสมินเปิดประตูก้าวขาลงจากรถหลังจากที่เดินทางมาถึงที่ทำงานของตัวเอง เธอไม่รู้ว่าที่อื่นมีกฎยังไง แต่ที่นี่พนักงานทุกคนจะต้องเข้ามาแต่งหน้าแต่งตัวที่คลับ เพราะทางคลับมียูนิฟอร์มให้ในแต่ละแผนกงาน เลิกงานก็เปลี่ยนชุดแล้วกลับโดยที่ยูนิฟอร์มที่สวมใส่แล้วทางคลับจะรับผิดชอบส่งซักให้ แต่คนที่อยู่ในตำแหน่งพีอาร์จะดีหน่อยตรงที่ชุดไม่ซ้ำเดิม เพราะพวกเธอนั้นขายรูปร่างหน้าตาเป็นหลัก เสื้อผ้าหน้าผมเลยต้องสำคัญที่สุด
“ทำไมวันนี้มาเร็วกว่าทุกวัน”
ทันทีที่จัสมินเดินเข้ามาถึงห้องแต่งตัวก็มีเสียงจากเพื่อนร่วมงานที่เธอค่อนข้างจะสนิทด้วยที่สุดอย่าง มุกหมวย ที่นั่งอยู่โต๊ะแต่งหน้าของตัวเองทักขึ้น
“ก็ปกตินะ” จัสมินตอบกลับด้วยท่าทีสบาย เดินเอากระเป๋าเครื่องสำอางค์ไปวางไว้ที่โต๊ะแต่งหน้าของตัวเอง ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาภายในห้องพร้อมกับหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดเล่น
“ปกติเธอมาถึงคนสุดท้ายย่ะ!” มุกหมวยหันมาสวนกลับทันควัน ก่อนจะมีเสียงบ่นที่ไม่ได้จริงจังอะไรดังมาจากคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ถึงว่าสิฉันไม่เคยได้เลือกชุดสีสวยๆ กับเขาเลย”
“ต่อให้ได้เลือกแกก็ออลแบล็คเหมือนเดิมแหละมิน”
“ก็ชุดสีดำใส่แล้วขลับผิวแถมยังพลางหุ่นได้ดี” จัสมินไหวไหล่ตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
“ฉันว่าไม่น่าจะใช่แค่นั้น เมื่อก่อนแกยังชอบใส่สีอื่นอยู่เลยนะ จนกระทั่ง...”
“อะไร แกจะเว้นวรรคทำไมเนี่ย” จัสมินขมวดคิ้วยุ่งถามกลับอย่างขัดใจที่เห็นเพื่อนเว้นวรรคคำพูดอย่างมีเลศนัย
“จนกระทั่งมีซัมติงกับคุณไนต์ แกก็เริ่มทิ้งชุดสีอื่นแล้วเลือกแค่สีดำ” มุกหมวยรีบพูดต่อก่อนจะถูกคนโปรดของเจ้านายหนุ่มวีนใส่
ใครๆ ที่นี่ต่างก็รู้ว่าจัสมินนั้นมีซัมติงกับเจ้าของคลับอย่างไนต์ และไม่วายที่จะถูกเพื่อนร่วมงานในตำแหน่งพีอาร์ด้วยกันอิจฉาริษยา เพราะจุดที่จัสมินยืนอยู่คือจุดที่หลายคนใฝ่ฝัน แม้จะไม่ใช่ตัวจริงก็ตาม
จัสมินชะงักให้กับคำพูดของมุกหมวย ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิด เธอกำลังนึกย้อนกลับไปช่วงที่เป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นจุดเปลี่ยนทุกอย่างของชีวิต
จุดเริ่มต้นของสถานะนี้เกิดจากการเข้าทำงานที่คลับนี้ใหม่ๆ เธอไม่รู้ว่าไนต์คือเจ้าของคลับแห่งนี้ เธอแค่ไปนั่งบริการเขากับเพื่อนเขาที่วันนั้นมาด้วยกันกลุ่มใหญ่ และเธอดันถูกหนึ่งในคนกลุ่มนั้นวางยาในแก้วเครื่องดื่มจนเกิดอาการร้อนรุ่มไปทั่วทั้งร่างกาย สติเริ่มขาดหายเมื่ออารมณ์ความต้องการทางเพศที่ถูกกระตุ้นด้วยยาเสียสาวเข้าเล่นงาน จากที่นั่งปกติเธอก็อยู่ไม่สุขเริ่มลูบไล้ลวนลามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ และคนคนนั้นก็คือไนต์ เขานั่งนิ่งไม่คิดจะห้ามปรามอะไรเธอด้วยซ้ำ จนท้ายที่สุดเธอก็ถูกเขาพาออกมาจากห้องวีไอพีแล้วจบลงที่เตียงตามคาด
ไม่รู้ว่าคืนนั้นระดับความเร่าร้อนจบลงที่ตรงไหน รู้แค่ว่าเธอตื่นมาอีกครั้งก็พบว่าในห้องนั้นมีแค่เธอนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงตามลำพังและเงินจำนวนมากพอสมควรวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง ที่พื้นห้องนั้นมีเศษซากของถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วถูกทิ้งอยู่บนพื้นมากกว่าหนึ่ง สถานการณ์ตอนนั้นเธอไม่ต่างจากผู้หญิงขายตัวเลยสักนิด
จากวันนั้นมาเธอก็พยายามระวังตัวเองไม่ให้ดื่มเครื่องดื่มที่ลูกค้าเป็นคนชงให้อีก ก่อนจะมารู้ความจริงทีหลังว่าคนที่เธอมีอะไรด้วยคืนนั้นคือเจ้าของคลับ ทำให้เธอเริ่มทำตัวไม่ถูกจนมีความคิดที่จะลาออก แต่ทว่าตอนนั้นชีวิตตัวคนเดียวอย่างเธอที่เพิ่งจะตกงานจากที่อื่นมาทำให้ไม่มีทางเลือก เพราะถ้าออกจากที่นี่กะทันหันเธอก็คงไม่เหลือเงินให้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้เธอเลือกที่จะทำเป็นลืมว่าคนในคืนนั้นคือใครแล้วทำงานของตัวเองต่อไป
จนกระทั่งเธอถูกเขาเรียกเข้าไปพบ พร้อมกับยื่นข้อเสนอที่เธอเรียกมันว่าการดูถูกให้ นั่นคือการเป็นของเล่นแก้เหงาให้เขาเป็นบางครั้ง แลกกับการที่เธอจะได้ทำงานที่นี่ต่อ อำนาจอยู่ในมือเขาเธอก็แค่ลูกจ้างจะทำอะไรได้ ในเมื่อตัวเองจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะที่นี่เงินค่าจ้างต่อวันนั้นสูงมาก ยังไม่รวมกับเงินค่าดื่มที่ในแต่ละคืนนั้นได้มากกว่าเงินค่าแรงเป็นสิบๆ เท่า คิดดูแล้วก็ไม่มีอะไรให้เสีย ในเมื่อเธอเองก็ได้ทำงาน ได้เงิน นั่นเลยทำให้เธอตอบรับข้อเสนอของเขาอย่างช่วยไม่ได้ และความสัมพันธ์ในฐานะของเล่นของเขานี้มันเกิดขึ้นมายาวนานมามากกว่าแปดเดือนเข้าไปแล้ว
และกฎข้อเดียวในความสัมพันธ์นี้คือ ห้ามรู้สึกเกินกว่าความสัมพันธ์ที่เป็นแค่ของเล่น...
แก่นกายใหญ่ถูกดันเข้าไปภายในความคับแน่นของกายสาว ผนังร้อนที่นุ่มหยุ่นด้านในตอดกระตุกรัดแน่นทุกการเคลื่อนไหวที่ผ่านเข้าไป“อ๊ะ อื้อ...”จัสมินครางกระเส่าร่างกายเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่คนตัวสูงส่งผ่านมา สายตาที่พยายามจะโฟกัสที่ท้องฟ้าถูกคนตัวสูงดึงดูดความสนใจไปหมดแล้วการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาสะกดให้เธอเพ่งมองแค่เขาไม่อาจละสายตา มือหนาที่จับขาเธอแยกออกจากกันกว้างเลื่อนขึ้นมาจับเอวคอดของเธอไว้แน่น กดจังหวะรัวเร็วขึ้นตามอารมณ์ปรารถนาที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงไนต์ปล่อยมือจากเอวคอดกิ่วของคนตัวเล็ก โน้มตัวลงหาเธอจนแผงอกแกร่งแนบชิดกับหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น กดริมฝีปากจูบลงที่ไหล่เล็กไล่ขึ้นตามลำคอระหง สองแขนค้ำยันทรงตัวเร่งจังหวะถี่รัวจนคนตัวเล็กเกร็งกระตุกอยู่ใต้พันธนาการ“อ๊ะ คุณไนต์ อื้อ... คะ คุณ...” คนตัวเล็กครางกระเส่า ยกมือขึ้นโอบกอดคนตัวสูงไว้แน่น จิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างระบายความเสียวซ่านที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงใกล้ถึงขีดสุดริมฝีปากหยักได้รูปไล่จูบซับขึ้นตามลำคอระหงจนถึงใบหูเล็ก ตวัดลิ้นเลียที่ใบหูของเธอจนร่างบางสั่นสะท้านหนักขึ้นกว่าเดิม“อื
“อ๊ะ...”เสียงครางแผ่วดังมาจากคนตัวเล็กที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาโกนหนวดด้วยความตั้งใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนตัวสูงไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือ“เป็นอะไร ทำต่อสิ” ไนต์ถามเสียงเรียบทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ความเป็นจริงเขากำลังก่อกวนเธอด้วยการบีบเคล้นสะโพกของเธออยู่“คุณก็อยู่นิ่งๆ ก่อนสิคะ”“สั่งฉัน?”“ถ้าคุณไม่นิ่งฉันก็ทำไม่ได้ เงยหน้าหน่อยค่ะ”ไนต์เงยหน้าขึ้นตามที่คนตัวเล็กบอก หยุดมือที่บีบขย้ำสะโพกของเธอลง ท่าทางตั้งใจนั่นทำให้เขายอมอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เธอโกนหนวดให้ต่อไปจัสมินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่คนตัวสูงยอมเงยหน้าตามที่เธอบอกง่ายๆ แถมยังยอมหยุดขย้ำสะโพกเธอด้วย แต่มือเขาก็ยังวางแหมะอยู่ที่ข้างต้นขาของเธอไม่ยอมขยับออกห่าง“เม้มปากให้หน่อยค่ะ”เป็นอีกครั้งที่ไนต์ทำตามคำสั่งอย่างไม่ถกเถียงอะไร ทำให้การโกนหนวดของจัสมินราบรื่นขึ้นจนใกล้จะเสร็จเรียบร้อยมือเล็กลูบเบาๆ ไปตามกรอบหน้าและปลายคางของคนตัวสูง เพื่อทดสอบดูว่าตัวเองนั้นโกนหนวดให้เขาเกลี้ยงเกลาดีแล้วหรือเปล่าสายตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้ดูจริงจังอย่างตั้งใจไม่วางตา เกิดคำถามขึ้นในใจว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เล่นกับเธอได้นานขน
จัสมินกลับถึงคอนโดตัวเองในช่วงเย็นที่แสงสว่างจากธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยแสงไฟ เธอกับไนต์แยกกันที่ลานจอดรถ และเธอไม่ได้ถามว่าเขาจะไปไหนต่อ หรือเอาง่ายๆ คือเธอไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องส่วนตัวของเขา แม้จะอยากรู้ว่าเขาจะไปไหนทำอะไรก็ได้แต่เก็บความสงสัยที่มีเอาไว้ในใจกล่องนาฬิกาเรือนหรูที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ ถูกหยิบออกมาเปิดดูอีกครั้ง ก่อนจะถูกเก็บเข้าไว้ในตู้โชว์อย่างดิบดี ดวงตาคู่สวยกวาดมองดูตู้เครื่องประดับของตัวเองที่มีทั้งนาฬิกา กำไลข้อมือ สร้อย แหวน รวมไปถึงตุ้มหู และเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย รวมๆ แล้วในตู้นี้มีมูลค่ามากถึงเลขเจ็ดหลัก ถ้ารวมพวกกระเป๋ารองเท้าด้วยราคาก็น่าจะเหยียบแปดหลักได้เธอคงจะเป็นของเล่นราคาแพงอย่างที่เขาว่าจริงๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะสิ่งของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเขาที่ให้มา แต่จะมีกระเป๋าใบหนึ่งที่ลูกค้าประจำที่เธอดูแลซื้อให้เป็นของขวัญ แต่ไนต์ไม่รู้ เขาคิดว่าเธอซื้อเอง และเธอก็ตั้งใจให้เขาเข้าใจแบบนั้น เพราะไม่อยากจะให้มีปัญหาตามมาครืน… ครืน…สมาร์ทโฟนที่ถูกปิดเสียงไว้เกิดแรงสั่นขึ้นให้ได้ยิน จัสมินละสายตาจากตู้เครื่องประดับมองหาสมาร์ทโฟนของตัวเองคิ้วเรียว
จัสมินและเทียร์น่าเดินเลือกซื้อเครื่องสำอางกันอย่างสนุก จากที่แรกๆ จัสมินเกร็งจนไม่กล้าหยิบจับอะไร แต่พอถูกเทียร์น่าจับให้ลองนั่นนี่ก็คลายความเกร็งที่มีลง ไปๆ มาๆ พวกเธอสองคนคล้ายจะคุยกันถูกคอซะแล้ว“เทียร์ว่ากลิ่นนี้เหมาะกับพี่มินมากเลยค่ะ หวานๆ แต่ซ่อนความเซ็กซี่ ดูน่าค้นหาสุดๆ”จัสมินชะงักมือที่กำลังจะหยิบน้ำหอมกลิ่นประจำของตัวเอง หันไปมองตามเสียงของเทียร์น่าที่ยื่นกระดาษเทสกลิ่นน้ำหอมส่งมาให้เธอลองดมดู“หอมดีนะคะ แต่พี่มีกลิ่นประจำที่ชอบอยู่แล้ว” เธอเคยลองเปลี่ยนไปใช้กลิ่นอื่นดูแล้วแต่ไนต์ไม่ชอบ...เลยต้องกลับมาใช้กลิ่นเดิม“กลิ่นไหนคะ ขอเทียร์ลองหน่อยสิ”ได้ยินแบบนั้นจัสมินก็หยิบน้ำหอมกลิ่นที่ตัวเองใช้ประจำส่งให้กับเทียร์น่าได้ลองดมกลิ่นดู“เอ๋...กลิ่นนี้คุ้นๆ เหมือนเคยได้กลิ่นมาจากพี่ไนต์เลยค่ะ” เทียร์น่าเอ่ยด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย พลางลอบสังเกตความผิดปกติของพี่สาวคนสวยที่เพิ่งได้รู้จักกัน“สงสัยคุณไนต์ก็คงใช้กลิ่นนี้ด้วยมั้งคะ”“พี่มินคะ นี่น้ำหอมผู้หญิงค่ะ พี่ไนต์ไม่ใช้อะไรแบบนี้หรอก” เธอว่าเธอมองไม่ผิดแน่ พี่ชายของเธอกับจัสมินต้องมีอะไรมากเกินกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่
จัสมินก้มหน้าก้มตาทานราเมงที่สั่งมา กะว่ารีบทานให้เส็จเร็วๆ จะได้รีบออกไปจากร้านนี้ แต่ทว่าขณะที่เธอกำลังเร่งรีบ คนที่นั่งอยู่โต๊ะในระดับสายตาก็พากันลุกขึ้นแล้วเดินออกไปก่อนเธอแล้วคนตัวเล็กมองตามสองคนหนุ่มสาวที่เดินออกจากร้านอาหารไป แล้วแอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดในการทานอาหารมื้อนี้ตอนแรกก็กะว่าจะรีบทานรีบออกไป แต่พอเห็นคนทั้งคู่ลุกไปก่อนเลยเลือกที่จะนั่งทานอาหารมื้อแรกของวันต่ออย่างใจเย็น แต่ในหัวก็ยังเอาแต่นึกถึงภาพของสองคนนั้นอยู่ตลอดเวลา อยากจะรู้ใจจะขาดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ถ้าเป็นคนรักของเขา เธอจะได้รีบจัดการตัวเองออกจากความสัมพันธ์นั้นโดยเร็ว ก่อนที่คนของเขาจะรู้ตัว...ฟุ่บ!ขวับ!ใบหน้าสวยหันขวับด้วยความรวดเร็วเมื่ออยู่ๆ ที่ว่างข้างกายก็มีคนเดินมานั่ง ความตกใจทำให้เธอรีบขยับออกห่างอย่างอัตโนมัติ และเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งลงเป็นใครก็ไม่ได้ทำให้ความตกใจของเธอลดน้อยลงเลย“คุณไนต์?!” ทำไมเขาถึงกลับมาได้ล่ะ เขากลับมาหาเธอเหรอ หรือว่าลืมของไว้แล้วแค่เดินกลับมาเอาไนต์จ้องมองคนตัวเล็กที่ดีดตัวออกห่างด้วยแววตานิ่งเฉย ก่อนจะละสายตาจากร่างบางมองไปบนโต๊ะที่มีถ้วยรา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะเข้ากับผิวกายที่โผล่พ้นออกมานอกผ้าห่ม ปลุกให้คนตัวเล็กที่หลับไหลไปด้วยความอ่อนเพลียรู้สึกตัว มือเล็กเอื้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายตัวเองจนถึงคอทั้งที่ตายังหลับ ขยับขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยความรู้สึกหนาวเย็นแรงขยับตัวของเธอดึงความสนใจจากคนตัวสูงที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ให้ละสายตาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือหันไปมอง ไนต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางการนอนของคนตัวเล็กผ่านรูปร่างของผ้าห่มผืนใหญ่ เธอขดตัวเข้าหากันจนแทบจะเป็นก้อนกลมๆ อยู่แล้วสายตาคมเหลือบมองที่รีโมทคอนโทรลของเครื่องปรับอากาศ เอื้อมมือหยิบขึ้นมากดปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เพราะตอนแรกที่เขามาถึงเขาเปิดทิ้งไว้ที่ 18 องศา จากนั้นก็มีกิจกรรมเข้าจังหวะกันไปไม่น้อยกว่าสองรอบ ทำให้ไม่ได้รู้สึกว่าอุณหภูมินั้นเย็นเกินไป แต่ตอนนี้กิจกรรมนั้นจบลงแล้ว และคนตัวเล็กเจ้าของห้องก็หมดแรงไปแล้วอย่างที่เห็นหมับ!ไนต์รีบหันกลับมามองเมื่อมีแรงกอดกระชับลงบนขาที่อยู่ใต้ผ้าห่ม คนที่เคยนอนขดตัวอยู่ข้างๆ ตอนนี้ขยับตัวเองมาแนบชิดกอดขาเขาไว้แน่นแล้วซุกใบหน้าลงที่ข้างเอวสอบของเขาไปด