แชร์

สาวได้สาวเอา

ผู้เขียน: Teddy's
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 17:04:57

ทุกคนรู้จักการสาวมั้ย สาวที่หมายถึงสาวเอาของมาไว้กับตัวเองน่ะ ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นั้นอยู่ แน่นอนว่าการรับของนั่นของนี่แบบไม่ปฏิเสธเลยมันผิดวิสัยของซ่งเซียนอวี่ คุณหนูแห่งตระกูลซ่ง แต่แล้วอย่างไรล่ะ เธอไม่สนหน้าตาแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าใครจะหยิบยื่นอะไรมาให้ เซียนอวี่ก็รับเอาไว้หมดทุกอย่างแต่โดยดี สร้างความแปลกใจให้คนในบ้านไม่น้อยเลย

“พี่คะ วันนี้ฉันมีเรียนมารยาท พี่จะออกไปข้างนอกหรอคะ งืม...อดไปด้วยเลยค่ะ” หลังจากกลับเข้าตระกูลซ่งมาได้หลายวัน ซ่งหนิงหนิงก็กล้าพูดกล้าจามากขึ้น แถมเซียนอวี่ยังไม่ได้ทำตัวห่างเหินหรือจองหองใส่เหมือนชีวิตก่อน สาวน้อยเลยกล้าที่จะตีสนิทกับพี่สาวต่างสายเลือดคนนี้เร็วขึ้นจนน่าตกใจ

“ใช่ วันนี้เพื่อน ๆ ชวนออกไปเดินเที่ยวในเมืองน่ะ เธอก็ตั้งใจเรียนให้จบแล้วกันนะ จะได้ออกไปไหนมาไหนได้เร็ว ๆ” แม้ในใจเธอจะชิงชังคนตรงหน้าแค่ไหน แต่ฉากหน้าเธอก็ต้องแสร้งพูดดีด้วย เพื่อความสงบสุขและความสุขสบายในอนาคตอันใกล้นี้

“นั่นสินะคะ ถ้าฉันไม่ถูกเอาตัวไปตั้งแต่คลอดก็คงดี คงไม่ต้องมาฝึกมารยาททั้งที่โตขนาดนี้แล้ว พี่โชคดีมากจริง ๆ ที่ได้การเรียนการสอนดี ๆ แบบนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก ฉันคงเก่งแต่งานใช้แรงงานเท่านั้นจริง ๆ ฮะ ๆ เรียนมาตั้งหลายวันแล้ว แต่ยังไม่พัฒนาไปถึงไหนเลย พี่นี่น่าอิจฉาจริง ๆ ” หนิงหนิงพูดออกมายิ้ม ๆ

เซียนอวี่เองก็ยิ้มรับไม่พูดอะไร ทั้งที่ในใจของเธอกำลังกัดข่มความหงุดหงิดเอาไว้อย่างเต็มที่ ไอ้คำพูดแบบนี้ของซ่งหนิงหนิงนี่แหละที่เธอเกลียดนักเกลียดหนา เป็นคนที่ปลุกเร้าอารมณ์ความหงุดหงิดของเธอได้ดีเสียจริง

ความหมายเมื่อครู่ จะบอกว่าเธอโชคดีที่ได้อยู่อย่างสุขสบาย ทั้งที่ลูกสาวตัวจริงอย่างตัวเองต้องทำงานงก ๆ ลำบากอยู่ข้างนอกน่ะหรือ ช่างพูดช่างจาเสียจริงนะซ่งหนิงหนิง

เธอกัดฟันข่มความโมโห ก่อนจะยิ้มแล้วรีบออกจากบ้าน วันนี้เธออ้างว่าเพื่อนชวนไปเที่ยวเล่น ดังนั้นจะมาทำแผนพังไม่ได้ พอบอกว่าเป็นงานที่ต้องเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ คุณหญิงคุณชายซ่งก็แทบจะประเคนเงินมาให้เธอออกไปใช้จ่ายสร้างหน้าสร้างตากับเพื่อน ๆ คุณหนูทั้งหลาย

แน่นอนว่าเพื่อนพวกนั้นเซียนอวี่ไม่ได้คิดจะรักหรือผูกพันอะไรมากมาย ชาติก่อนเธอพยายามขอให้เพื่อนพวกนั้นช่วย แต่ก็ไม่มีสักคนที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเลยสักคน แถมบางคนยังหัวเราะเยาะที่เธอถูกส่งให้ไปอยู่บ้านนอกอีกต่างหาก

แต่เพื่อรีดเอาเงินจากบ้านซ่งมาให้ได้มากที่สุด สุดท้ายเธอก็ต้องยอมรับคำเชิญของพวกเพื่อนจอมปลอมพวกนั้นไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ก็เงินมันหอม...ใครจะไปอดใจไหว จริงไหมล่ะ

วันนี้เซียนอวี่ก็ยังคงทำเช่นเคย เธอใช้เงินที่คุณแม่ซ่งให้มาไปซื้อทองคำแท่ง แม้จะซื้อได้ไม่มากเท่าตอนมากับคุณนายซ่ง แต่เธอก็มีความคิดว่า จะเล็กน้อยแค่ไหน สุดท้ายทองก็คือทอง มัน ขาย กิน ได้!

“วันนี้เซียนอวี่ไม่ถูกใจเสื้อผ้าหรอ ทำไมซื้อน้อยจังล่ะ ปกติเธอชอบซื้อเยอะกว่าเพื่อนเลยนี่นา”

“นั่นสิ หรือจะมีปัญหาอะไร ถ้าเป็นเรื่องเงิน...ยืมพวกเราก่อนก็ได้นะ คิกคิกคิก มีเมื่อไหร่ค่อยมาใช้คืน”

เพื่อนสาวที่มีสถานะเป็นเพื่อนในโรงเรียนของเซียนอวี่อดจะเอ่ยปากไม่ได้ ปกติพวกเราสาว ๆ ในห้องเรียนจะนัดกันไปซื้อเสื้อผ้าพร้อมกัน ซ่งเซียนอวี่มักจะเป็นคนที่ซื้อเยอะกว่าใครเพื่อน ด้วยรูปร่างและหน้าตาที่ค่อนข้างได้เปรียบคนอื่น ไม่ว่าใส่อะไรก็สวย เลยทำให้ใส่ชุดไหนก็ดูดีไปเสียหมด เพราะอย่างนั้นเวลามาเที่ยวเล่นด้วยกัน เซียนอวี่จึงเป็นคนที่ใช้จ่ายเยอะมากกว่าเพื่อน

แต่ไม่รู้วันนี้เพื่อนสาวคนสวยคนนี้เป็นอะไรไป เห็นหยิบเสื้อผ้าแค่ไม่กี่ชุดเท่านั้น แถมแต่ละชุดก็ดูเชย ๆ เหมือนพวกที่มาจากบ้านนอกอย่างไรอย่างนั้น หรือตระกูลซ่งกำลังจะตกอับกัน

“หืม ให้ยืมหรอ พวกเธอมีเท่าไหร่ล่ะ ฉันเอาเงินไปซื้อเครื่องประดับทางนั้นหมดแล้ว แต่ยังมีบางอย่างที่อยากได้อยู่ ถ้างั้นเอามาให้ฉันยืมหน่อยได้หรือเปล่าล่ะ” เธอไม่รังเกียจที่จะยืมเงินเพื่อนจอมปลอมพวกนี้แล้วหนีไปใช้ชีวิตอยู่บ้านนอกหรอกนะ ชีวิตนี้จะมีโอกาสวนกลับมาเจอกันหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ในเมื่อยื่นโอกาสมาให้ขนาดนี้แล้วแท้ ๆ ทำไมเธอจะไม่รับล่ะ อีกไม่นานจดหมายก็จะส่งมาถึงบ้านแล้ว

ตอนนี้ในสังคมก็เริ่มมีคนพูดเรื่องส่งตัวลูกหลานไปชนบทครอบครัวละหนึ่งคนแล้วเหมือนกัน แม้ว่าทางรัฐจะยังไม่ออกมายืนยันหรือปฏิเสธเรื่องข่าวที่หลุดออกมา แต่เหล่าตระกูลที่มีอันจะกินทั้งหลายก็เริ่มตื่นตัวกันแล้ว

“บะ บ้าน่า เธอเนี่ยนะจะยืมเงิน พูดเล่นแล้ว ฮะฮะฮะฮะ” เด็กสาวคนที่ออกปากเองว่าจะให้ยืมเงินแสร้งหัวเราะแล้วเดินหนีห่างออกไปทันที เรื่องอะไรเธอจะเอาเงินค่าขนมของตัวเองมาให้คนอื่นยืม สนิทกันหรือก็ไม่

เซียนอวี่ได้แต่มองตามหลังขำ ๆ คนพวกนี้ชอบที่จะเหน็บแนมคนอื่น การกดคนอื่นให้ต่ำแล้วยกยอตัวเองให้สูงนั้นเป็นเรื่องที่คนกลุ่มนี้ชอบทำ โดยเฉพาะยัยคนเมื่อครู่

แต่ไม่เป็นไร เธอจะให้อภัย เพราะหลายคนที่อยู่ตรงนี้ มีหลายคนที่ถูกส่งตัวไปยังชนบทเหมือนกันกับเธอ แต่ไม่ใช่ที่เดียวกันหรอกนะ แต่ละคนจะถูกสุ่มสถานที่ที่จะส่งตัวไป ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าชีวิตในวันข้างหน้าของเธอจะมีคนรู้จักมาเห็น หรือถ้ามาเห็นแล้วอย่างไร ในเมื่อคนอื่นก็ลำบากเหมือนกัน

การเก็บเล็กผสมน้อยของเซียนอวี่เป็นไปอย่างช้า ๆ แต่อย่างน้อยเธอก็มีรายรับเข้ามาทุกวัน จากพ่อซ่งบ้าง จากแม่ซ่งบ้าง ไหนจะเงินค่าขนมอีก ยิ่งเธอทำตัวดีกับหนิงหนิงมากเท่าไหร่ เงินที่เธอได้รับก็มากเท่านั้น ถึงคำพูดของอีกคนจะกวนระบบประสาทเธอแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็จะอดทนเอาไว้

“พี่คะ วันนี้ก็จะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ๆ อีกแล้วหรอคะ” ในทุก ๆ วันก่อนออกจากบ้าน ซ่งหนิงหนิงเหมือนคนที่ดวงสมพงษ์กับเธอยิ่งกว่าชายหนุ่มท่านไหนในโลกใบนี้

ในทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน เธอจะต้องได้เจอกับหนิงหนิงที่เตรียมตัวเข้าเรียนกับอาจารย์ที่จะมาสอนถึงที่บ้าน และอีกคนก็จะถามเธอแบบนี้ทุกเช้า ว่าออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนอีกแล้วหรอ สำหรับคนไม่ชอบ ความห่วงหรือหวังดีก็เป็นเรื่องน่ารำคาญเหมือนกัน

“ใช่ ฉันไม่ต้องเรียนแบบเธอนี่ แล้วนี่เธอไม่รีบเข้าเรียนหรอ ถามจริง ๆ นะหนิงหนิง ทำไมเธอถึงมารอเจอฉันทุกเช้าเลยล่ะ” แต่ทนแล้วยังไง ความอดทนของคนมันก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน เธอต้องปั้นหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

ทั้งที่เก็บอารมณ์มาได้ดีตลอด แต่วันนี้เซียนอวี่กลับเลือกจะตอบกลับบ้าง แต่ก็ไม่ได้รุนแรงมากมายอะไร แค่เป็นการถามทั่ว ๆ ที่ทำเอาคนฟังเม้มปาก

หากถามว่าเซียนอวี่เกลียดคนแบบไหนมากที่สุด ก็ต้องเป็นคนที่เอาแต่ร้องไห้เอาแต่อ่อนแอ เหมือนตอนนี้ที่หนิงหนิงกำลังน้ำตาซึมเพราะเธอถามว่าไม่ต้องไปเรียนหรอ แล้วทำไมเราสองคนถึงได้เจอกันทุกเช้า คำถามทั่ว ๆ ไปแบบนี้ อีกคนยังร้องไห้ คิดว่าถ้าเจอเธอด่าจริง ๆ จะขนาดไหนกันล่ะ

ชีวิตก่อนเธอตกหลุมอารมณ์ของตัวเอง เธอด่ากราดใส่อีกคนจนคนในบ้านตำหนิเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ชีวิตใหม่นี้เธอจะไม่ทำอย่างนั้น ที่ผ่านมาเธอได้เรียนรู้แล้วว่า ซ่งหนิงหนิงเป็นคนเสแสร้งมากแค่ไหน

“มีเรื่องอะไรกัน อาหนิง ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะลูก เซียนอวี่ ลูกว่าอะไรน้อง” บุญบาป คุณแม่ของพวกเราที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนเข้ามาเห็นฉากนั้นเข้าพอดีกระมัง แต่จากคำพูดแล้ว น่าจะไม่ได้มาเห็นตั้งแต่ต้น

“ไม่นะคะแม่ หนูกำลังจะออกไปหาเพื่อน ๆ แต่หนิงหนิงเดินมาทักทายเหมือนทุกเช้า หนูแค่ถามไปว่าทำเรามีวาสนาต่อกันขนาดนี้นะ เจอกันทุกเช้าเลย แม่ก็รู้นี่คะ หนิงหนิงต้องไปเรียนกับอาจารย์ ส่วนหนูก็ออกไปหาเพื่อน ๆ ก็แค่นึกขำว่าวาสนาเราตรงกันจนได้มีโอกาสเจอกันทุกเช้าเท่านั้นเอง ที่หนิงหนิงทำหน้าแบบนั้น แม่ต้องถามเองแล้วล่ะค่ะ หนูไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะคะ” นี่แน่ะ ก่อนจะปล่อยให้นังดอกบัวนี่เปิดปากเล่าความเท็จเอนเอียงไปฝั่งตัวเอง เธอชิงพูดก่อนจะดีกว่า ถ้าปล่อยให้ซ่งหนิงหนิงพูด บางทีคำพูดง่าย ๆ ว่าเจอกันทุกเช้าเลยของเธอ อาจจะกลายเป็นว่าเธอไปพูดจาส่อเสียดเหน็บแนมอีกคนก็ได้ ไว้ใจไม่ได้หรอกนะคนแบบนั้นน่ะ

“จริงหรือเปล่าอาหนิง” คุณแม่ซ่งอดไม่ได้ที่จะหันไปถามลูกสาว ถ้าแค่คำพูดแบบที่เซียนอวี่ว่า มันก็ไม่น่าจะเป็นอะไรไม่ใช่หรอ แล้วลูกสาวเธอทำไมถึงได้ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้แบบนั้นล่ะ แถมน้ำตายังคลอเบ้าจนเห็นได้ชัดอีก

“จะ จริงค่ะ พี่พูดแบบนั้น หนู...หนูแค่-” ซ่งหนิงหนิงไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร คำพูดของเซียนอวี่ไม่ได้รุนแรงจนต้องร้องไห้ แต่เธอกลับรู้สึกเปรี้ยวในใจอย่างไรไม่รู้ สุดท้ายเลยเผลอทำหน้าแบบนั้นออกไปจนคุณแม่มาเห็น ถ้าทุกคนรู้ว่าเธออิจฉาเซียนอวี่ ทุกคนจะมองว่าเธอไม่ดีหรือเปล่า

“เห็นมั้ยล่ะคะคุณแม่ แล้วคุณแม่มาคาดคั้นหนูแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ คุณแม่จะดุหนูหรอคะ ทั้งที่หนูเองก็เป็นลูกของคุณแม่เหมือนกันนะคะ”

เซียนอวี่ตั้งใจพูดให้สองแม่ลูกตั้งสติ คนพวกนี้ยังไม่รู้ว่าเธอรู้ความจริงเรื่องชาติกำเนิดของตัวเองแล้ว ยิ่งช่วงนี้ครอบครัวซ่งยิ่งจะปล่อยให้ข่าวหลุดออกมาถึงหูใครไม่ได้เด็ดขาด เพราะอีกแค่ไม่กี่วัน ทางการจะประกาศเรื่องส่งตัวเยาวชนทั้งหลายไปชนบทแล้ว

“...ไม่เลยลูก แม่จะทำอย่างนั้นได้ยังไงกัน ลูกรัก แม่ก็รักลูกเท่ากันทุกคน เพราะว่าน้องพึ่งจะเข้ามา หลายปีที่น้องถูกคนไม่ดีเอาตัวไป ต้องลำบากกว่าพวกเรามาก แม่เลยเผลอตัวไปหน่อย เซียนอวี่อย่าโกรธแม่กับน้องเลยนะลูก” หญิงวัยกลางคนรีบเอ่ยปลอบใจลูกสาวบุญธรรม

ในตอนแรกเธอตั้งใจจะบอกความจริงให้เด็กคนนี้รู้เสียที ว่าตำแหน่งที่ตนเองอยู่ ตอนนี้เจ้าของเขากลับมาแล้ว เมื่อตัวจริงพร้อม เซียนอวี่ต้องคืนตำแหน่งและทุกอย่างให้หนิงหนิง แต่สามีของเธอกลับห้ามเอาไว้ก่อน ทั้งยังเน้นย้ำว่าต้องทำตัวให้ดีกับเซียนอวี่เข้าไว้ อย่าให้เด็กสาวต้องหมางใจเป็นอันขาด

“ฮึ หนูจะหายโกรธก็ได้ แต่คุณแม่ต้องให้เงินค่าขนมของวันนี้เพิ่ม หนูอยากได้เครื่องประดับ ของเดิมมันเชยแล้ว เพื่อน ๆ เริ่มถามว่าไม่มีเงินซื้ออันใหม่ใส่หรือยังไง หนูไม่ยอมนะคะ”

“เอาสิลูก มา ๆ แม่จะให้พิเศษเลยนะวันนี้ ลูกอยากได้อันไหนก็เลือกเอาได้เลย เอานี่จ้ะ”

“ขอบคุณค่ะคุณแม่ งั้นหนูไปก่อนนะคะ หนิงหนิงด้วย พี่ไปก่อนนะ ตั้งใจเรียนล่ะ” ต่อหน้าทุกคนเธอจะแสร้งทำเป็นแทนตัวเองว่าพี่เพื่อให้คนในบ้านตายใจ แต่อย่าลืมนะ ว่าหนิงหนิงเองก็เอาแต่เรียกเธอว่าพี่ ทั้งที่ความจริงแล้วเจ้าตัวรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองอายุเท่ากันกับเธอ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   สองคนนั้น

    “ขอบคุณค่ะ” เซียนอวี่ขอบคุณคนตัวโตที่ถือวิสาสะแย่งของไปถือแล้วเดินมาส่งตัวเองถึงบ้านพัก อันที่จริงเธอก็ขอบคุณมาก ๆ นั่นแหละ ถ้าไม่ติดว่าเจ้าคนตัวโตนี่เอาแต่แซะนั่นแวะนี่เธอไม่หยุดตลอดทาง ว่าเธอขาสั้นบ้างล่ะ ตัวเตี้ยบ้างล่ะ“ไม่เป็นไร ของนี่ถ้ายกไม่ไหวก็ลากเข้าไปในห้องนะ” เขาไม่อยากเข้าไปในบ้านพักของสตรี อย่างไรบ้านหลังนี้ก็มีแต่ผู้หญิง ถ้าให้ผู้ชายตัวโตอย่างเขาเข้าไป คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่“อื้ม ว่าแต่...นายชื่ออะไรหรอ เจอกันหลายรอบแล้ว ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย อ้อ ฉันชื่อซ่งเซียนอวี่ เรียกว่าเซียนอวี่ก็ได้” เธอได้อีกคนช่วยไว้ตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เขากลับไม่เคยถามชื่อหรือแนะนำตัวกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว“หมิงหาน เหยาหมิงหาน เธอเรียกว่าหมิงหานก็ได้ ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวมีคนมา-” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ซ่งหนิงหนิงก็โผล่เข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงร้องตะโกนจนทุกคนต้องหันไปมองเธอ“พี่หมิงหาน! เอ้ะ พี่เซียนอวี่ พี่รู้จักพี่หมิงหานด้วยหรอคะ” ซ่งหนิงหนิงเดินสะพายตะกร้าที่เต็มไปด้วยผักเข้ามาพร้อมกับคนอื่น ๆ ระหว่างกำลังจะกลับเข้าบ้านพัก เธอกลับเห็นคนคุ้นตาเข้าเสียก่อ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   กล่องปริศนา

    เช้าวันนี้เซียนอวี่เตรียมตัวลงไร่กับคนอื่น ๆ หลังจากที่เธอเลือกจะเข้าป่าหาของมาให้คนในบ้านพักกินมาหลายวัน ตอนนี้ก็เริ่มมีคนไม่พอใจ หาว่าเธออู้งานกินแรงเพื่อนคนอื่น ๆ เธอเลยเปลี่ยนใจไม่เข้าป่าเหมือนทุกวัน“พี่คะ งานในไร่หนักมาก พี่ไม่เคยหยิบจับอะไรมาก่อน แบบนี้จะทำได้หรอคะ กลับไปเข้าป่าหาผักดีกว่ามั้ยคะ” ซ่งหนิงหนิงพยายามเป็นอย่างมากที่จะเข้ามาคุยกับเซียนอวี่ แต่ก็มักจะถูกเซียนอวี่เมินเฉยราวกับอากาศไปเสียทุกทีวันนี้ซ่งหนิงหนิงเองก็ถูกซ่งเซียนอวี่เมินอีกเช่นเคย ท่าทางจองหองถือตัวนั้นทำให้หลาย ๆ คนไม่พอใจ บวกกับหลายวันที่ผ่านมาเซียนอวี่มักจะแยกตัวออกไปทำงานเข้าป่ากับเหล่าชาวบ้าน แถมห้องพักก็พักเป็นห้องเดี่ยวไม่มีเพื่อน ซ่งหนิงหนิงเลยสนิทกับคนอื่น ๆ มากกว่า“อะไรกัน เซียนอวี่ก็เป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยงแท้ ๆ ทำไมถึงได้ทำตัวสูงส่งนักล่ะ เธอควรจะขอบใจและซึ้งใจหนิงหนิงเข้าไว้สิ ตัวเองไปแย่งวาสนาคนอื่นมาแท้ ๆ ตอนนี้ยังจะมาจองหองใส่คนเขาอีก”ปกติแล้วเซียนอวี่จะนิ่งเฉยกับคนอื่น ๆ ในบ้านพัก แต่ครั้งนี้เธอเลือกจะไม่ปล่อยผ่านไปเหมือนเช่นเคย ขาเรียวยาวที่กำลังเตรียมตัวจะก้าวลงไปในไร่และเริ่มงานหยุ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   เปล่านะคะ

    ลูกธนูแหลมคมแล่นผ่านหน้าเซียนอวี่ไปยังด้านหลัง ก่อนจะปักเข้าที่เจ้าหมูป่าตัวอ้วนที่กำลังวิ่งไล่เด็กสาวอยู่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เสียงร้องด้านหลังจะดังขึ้นดังกว่าปกติ หลังจากนั้นก็เงียบไปแต่ขาของเซียนอวี่ก็ยังคงวิ่งอยู่ เธอวิ่งเข้าไปหาคนที่ยิงธนูเฉียดหน้าเธอไปอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะเข้าไปหลบด้านหลังของชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับตัวเองทันทีหมูป่าถูกลูกธนูเมื่อสักครู่ปัดลงกลางหัว ทำให้ตอนนี้มันล้มตัวนอนอยู่กับพื้น ไม่รู้ว่าสิ้นใจตายแล้วหรือยัง แต่เรื่องนั้นเซียนอวี่ไม่ได้สนใจ ขอแค่มันไม่วิ่งไล่เธอเหมือนเมื่อครู่ก็พอ เธอกลัวจนฉี่แทบจะราดต่อหน้าทุกคนเสียแล้ว โชคดีที่กลั้นเอาไว้ทัน เธอบอกแล้วว่าสวรรค์เล่นตลกกับเธอ ขนาดมีคนตั้งเยอะตั้งแยะ ไอ้หมูบ้านั่นยังเลือกจะวิ่งไล่เธอเลย“มันตายแล้ว” เสียงเข้มดังขึ้นบนหัว เซียนอวี่ได้แต่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองช้า ๆ ก่อนจะเห็นว่าคนที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้เป็นใคร เธอเม้มปากกลั้นน้ำตามที่จวนจะไหลออกมาเต็มแก่เอาไว้ ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนช้า ๆยังไม่ทันที่เธอจะยืนขึ้นเองได้เสร็จ คนตรงหน้าก็จับต้นแขนของเธอแล้วดึงขึ้นเสียก่อน ร่างกายของเธอไม่สามาร

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   การเอาหน้าเป็นเรื่องสำคัญนะคะ

    อย่างที่เธอบอก หลังจากมาถึงที่หมู่บ้าน ทุกคนก็จะได้ทำงานทันที ไม่มีข้อยกเว้นให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น หลาย ๆ คนไม่ทันระวังตัว พวกเขาคิดว่าชาวบ้านจะให้ปรับตัวก่อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ให้คนสิบยี่สิบคนมาอยู่เฉย ๆ เป็นอาทิตย์ แล้วใครจะเป็นคนออกเงินค่าข้าวค่าน้ำให้กันล่ะ หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าให้ไปเอาอาหารที่บ้านของตนเองก็จริง แต่นั่นก็เป็นส่วนแบ่งจากการทำงานของทุกคนตลอดอาทิตย์ต่างหากพูดตามตรง หัวหน้าหมู่บ้านของที่นี่ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ยิ่งภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านนั้นยิ่งแล้วใหญ่เลย ของหลาย ๆ อย่างที่ดีหน่อยก็ถูกยายแก่นั่นยึดเอาไปกินเองในครอบครัว ชาติที่แล้วเธอเจออะไรแบบนี้มาไม่รู้ตั้งกี่เท่าไหร่ บางอาทิตย์ต้องทนกินแต่แป้งย่างโง่ ๆ เพราะของที่ดีหน่อยถูกริบเอาไปก่อนจะมาถึงพวกเธอจะรู้ตัวเสียอีก“วันนี้มีการเก็บข้าวโพดและเข้าไปหาของในป่า ทุกคนต้องแบ่งกันว่าจะทำหน้าที่ไหน แต่ต้องบอกก่อนว่าเข้าป่ามีความเสี่ยงที่จะเจอสัตว์ป่า ค่อนข้างอันตราย” ป้าฮุ่ยเข้ามาที่บ้านพักของเหล่าเยาวชนตั้งแต่เช้าตรู่หลายคนได้ยินว่าอาจจะเจอสัตว์ป่าที่อันตรายก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที ทุกคนพร้อมใจกัน

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   อะไรใหม่ ๆ

    ทันทีที่รถหยุดลง เซียนอวี่ก็รีบก้าวลงจากรถทันที เธอไม่มีท่าทางอิดออดหรือเหนื่อยอ่อนเหมือนคนอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย ขนาดผู้คุมยังอดแปลกใจไม่ได้ แต่ผู้คนเยอะแยะมากมาย ไม่มีใครมาสนใจเซียนอวี่มากขนาดนั้น ทุกคนยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเอง คนที่สนใจเซียนอวี่ก็มีแต่ซ่งหนิงหนิงเท่านั้นตั้งแต่ขึ้นรถ ซ่งหนิงหนิงเอาแต่นั่งร้องไห้ เธออยากจะรู้จริง ๆ ว่าร้องไห้ทำไม ร้องไห้เพราะถูกแยกกับครอบครัวที่พึ่งเจอกัน หรือร้องไห้เพราะตัวเองถูกกระชากลงจากสวรรค์ ก็แหม...คนไม่ชอบขี้หน้ากัน จะให้ไปมองในแง่ดีก็ออกจะประหลาดไปสักหน่อย“เอาล่ะ ต่อจากนี้ทุกคนจะต้องมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ร่วมกัน ขาดเหลืออะไรก็มาติดต่อที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านได้ เรื่องหน้าที่ของทุกคนเดี๋ยวจะมีคนไปแจกแจงอีกที ตอนนี้ทุกคนเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ”เซียนอวี่ยืนฟังนิ่ง ๆ เหมือนคนรับชะตากรรมตัวเองได้ เมื่อจบคำของหัวหน้าหมู่บ้าน เธอรีบเดินตรงไปยังบ้านพักที่ถูกสร้างเอาไว้สำหรับเยาวชนทันที แม้ว่าจะยังไม่มีใครบอกว่าหลังไหนก็ตามแต่คนอื่น ๆ ก็แค่แปลกใจ พวกเขาไม่ได้สงสัยอะไรมาก รู้ไม่รู้แล้วอย่างไร สุดท้ายเด็ก ๆ พวกนี้ก็ต้องมาอยู่ที่นี่อีกนาน บางคนอ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   ของขวัญไงคะ

    หลังจากซื้อของวันนั้น ในที่สุดเวลาก็ผ่านมาจนถึงวันที่ทุกครอบครัวต้องร่ำไห้ หลายครอบครัวออกมาส่งลูกหลานของตัวเองไปต่างที่ต่างทาง แต่ก็มีหลายครอบครัวที่มีท่าทางเมินเฉยแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือคนบ้านซ่ง หลังจากซื้อของจนพอใจ แถมยังไปขอเอาเงินจากคุณนายซ่งมาได้หลายพันหยวน เซียนอวี่ก็รีบขนย้ายของออกไปจากบ้านทันที ไม่ใช่เธอย้ายตัวเองออก แต่เป็นการย้ายเพียงแค่ของที่ต้องการจะเอาไปเพราะหลังจากที่เธอย้ายของมีค่าทั้งหลายออกไปฝากไว้ที่ไปรษณีย์ จดหมายจากทางการก็ส่งตรงมาที่บ้านซ่งในทันที หัวข้อคือการส่งตัวทายาทในบ้านให้ไปเป็นเยาวชนที่ชนบทห่างไกลแต่บ้านซ่งได้ส่งรายชื่อไปแล้วว่าจะให้ใครไป พวกเขาได้แต่แปลกใจว่าทำไมถึงมีจดหมายส่งมาซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะได้อ่านจดหมายแนบอีกฉบับที่แนบมาด้านหลังเนื้อความในจดหมายแนบนั้นมีอยู่ว่า ทางการรับรู้เรื่องการรับเลี้ยงซ่งเซียนอวี่ของตระกูลซ่งแล้ว ท่านผู้น้ำต้องการให้ทุกครอบครัวส่งทายาทของตนเองไป ดังนั้นครอบครัวซ่งจำเป็นต้องส่งทายาทที่แท้จริงของตนเองไป ไม่ใช่เด็กที่รับมาเลี้ยงตามที่ส่งรายชื่อมามือไม้ของสามพ่อแม่ลูกอ่อนไปหมด ส่วนคนที่ถึงกับล้มพับไปกับพื้นก็จะเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status