แชร์

เสียสละ

ผู้เขียน: Teddy's
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 17:05:20

เซียนอวี่ใช้เวลาในการรวบรวมเงินและทองทั้งหมดที่มีจนหัวหมุน เธอเอาของมีค่าในห้องของตัวเองไปขายแลกเงินให้หมด ชิ้นไหนที่พอทำเงินได้ถูกเธอขายทั้งหมด พอขายเสร็จเซียนอวี่ก็เอาเงินไปซ่อนไว้ที่ลับ ตั้งใจว่าจะเอาออกมาวันที่ต้องออกเดินทาง

เธอทำแบบนั้นจนถึงวันที่จดหมายมาถึง พ่อแม่ซ่งเรียกลูก ๆ ในบ้านมานั่งรวมกันที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน ทั้งสองมีสีหน้าเศร้าโศกยามเมื่อมองลูก ๆ มองแล้วน่าสงสารจับใจ เหมือนกับพ่อแม่ที่จะต้องสูญเสียลูกน้อยของตนเอง

เซียนอวี่เองก็จำเป็นต้องเล่นละครไปกับทุกคนด้วย เธอนั่งมองทุกคนด้วยสีหน้างุนงง ก่อนจะฟังเจ้าของบ้านอย่างพ่อซ่งหยิบเอาจดหมายที่อยู่ในมือขึ้นมาอ่าน ก่อนที่สีหน้าของทุกคนจะย่ำแย่พอ ๆ กัน

“หมายความว่าเราต้องส่งตัวแทนในบ้านไปหนึ่งคน ครอบครัวใครครอบครัวมัน จะไปเอาลูกหลานของคนในตระกูลมาก็คงจะไม่ได้ ครอบครัวอื่นเขาก็ต้องส่งลูก ๆ ของเขาไปเหมือนกัน”

“แล้ว...พ่อคิดหรือยังครับว่าจะส่งใครไป” พี่ชายซ่งที่นั่งนิ่งทำหน้าเครียดไม่แพ้ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามขึ้น เขามองมาที่น้องสาวทั้งสองคนอย่างเป็นห่วง ทางเซียนอวี่นั้นได้รับสายตาเศร้า ๆ ส่วนทางหนิงหนิงกลับได้รับสายตาที่ทั้งห่วงทั้งสงสาร

“ยังหรอก จดหมายพึ่งมา แต่ก็มีคิดไว้ในใจแล้ว แต่พ่อขอกลับไปคิดดี ๆ ก่อนก็แล้วกันนะ พวกลูกอย่าพึ่งกังวลไป พ่ออาจจะหาทางออกให้ลูก ๆ ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาได้”

เรื่องจบลงที่ว่าพ่อซ่งบอกจะกลับไปคิดหาทางให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เช้าวันต่อมากลับเรียกทุกคนมารวมตัวกันอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้ามากอดเธอและร้องไห้ขอโทษเธอที่ต้องเลือกส่งเธอออกไป

“พ่อเขาไม่ได้อยากส่งลูกออกไปเลย พวกเราอยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา” แม่ซ่งที่อยู่ข้างหลังรีบเดินเข้ามาจับมือลูกเลี้ยงที่เอาแต่ยืนนิ่งไปทันทีที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นผู้ถูกเลือก

ไม่รู้ว่าเพราะตกใจจนพูดอะไรไม่ออกหรือว่าอย่างไร แต่เซียนอวี่นิ่งไปตั้งแต่สามีของเธอบอกว่าจะส่งเจ้าตัวไป อันที่จริงเธอและสามีจะบอกเซียนอวี่เรื่องฐานะที่แท้จริง พร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงเลือกส่งเจ้าตัวไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่พอมาปรึกษากันดี ๆ นิสัยของเซียนอวี่น่าจะไม่ยอมง่าย ๆ ถ้ารู้ว่าตัวเองหาทางรอดได้

เพราะอย่างนั้นเธอและสามีจึงได้ตกลงกันว่าจะปิดบังเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเซียนอวี่เอาไว้ก่อน ให้จัดการเรื่องส่งตัวไปให้เรียบร้อยก่อนค่อยบอกความจริง ป้องกันไม่ให้เซียนอวี่เล่นอะไรตุกติกใส่ทีหลัง

“ส่งหนูไป...สินะคะ” เธอไม่ได้ตกใจ แต่แค่กำลังแสดงละครให้คนพวกนี้เห็นก็เท่านั้น เธอตั้งใจว่าจะทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ

ชีวิตก่อนตอนรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่ถูกเลือกให้ไปชนบท เธอโวยวายว่าทำไมไม่ส่งหนิงหนิงไป อีกคนน่าจะเชี่ยวชาญการใช้ชีวิตและเอาตัวรอดในชนบทแบบนั้นมากกว่าเธอหลายเท่า ทำไมถึงเลือกที่จะส่งเธอกลับไป

แน่นอนว่าคำตอบที่ได้มาก็คือหนิงหนิงลำบากมาทั้งชีวิตแล้ว เธอจะเป็นพี่สาวที่เห็นแก่ตัวอยู่สุขสบายคนเดียวงั้นหรือ น้องพึ่งจะกลับมาอยู่กับครอบครัวได้ไม่กี่เดือน

ตอนนั้นเธออาวะลาดยกใหญ่ แต่สุดท้ายก็โดนส่งตัวไปอยู่ดี แถมเพราะเอาแต่โวยวายและอาละวาด ตอนถูกส่งตัวไปก็เลยไม่ได้ทันหยิบของมีค่าอะไรติดตัวไปมากมายเลยสักชิ้นเดียว จะมีก็แค่ที่ใส่ติดตัวไว้ตอนถูกจับส่งขึ้นรถไปเท่านั้น

“แม่คะ พ่อคะ ส่งหนูไปเถอะค่ะ พี่เขา พี่เขาไม่เคยต้องไปลำบาก หนูลำบากมาทั้งชีวิตแล้ว เรื่องพวกนั้นสบายมากค่ะ” ซ่งหนิงหนิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รีบเข้าไปจับมือดึงพ่อแม่ซ่งให้หันไปหาตนเองทันที

เด็กสาวพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง คำพูดนี้...ชีวิตก่อนเซียนอวี่เองก็พูดมันออกไป แต่คำตอบที่ได้คือเธอมันเห็นแก่ตัว ไม่คิดสงสารน้อง ทั้งที่น้องลำบาก แต่ตัวเองเลือกที่จะสบายเพียงคนเดียว

“โถ่อาหนิง ลูกแม่...ลูกลำบากมาทั้งชีวิต พ่อกับแม่ผิดต่อลูก จะให้ส่งลูกไปลำบากอีกได้ยังไงกัน แม่-” คุณนายซ่งแสนจะเอ็นดูลูกสาวแท้ ๆ ของตนเอง ช่างเป็นคนที่มีน้ำใจและใจดีเสียเหลือเกิน

“แม่ก็เลยเลือกจะส่งหนูไปแทน ตกลงค่ะ หนูจะไปเอง ต้องเดินทางวันไหนคะ”

คนทั้งห้องหันมามองหน้าเซียนอวี่อย่างตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่าซ่งเซียนอวี่จะยอมตกลงง่าย ๆ นี่ไม่ใช่การส่งไปต่างประเทศหรือไปห้างสรรพสินค้าแบบที่เด็กสาวชอบนะ แต่นี่เป็นชนบทที่แทบจะไม่มีความเจริญเลยแม้แต่น้อย

“อะ ซะ เซียนอวี่ ลูก” ทั้งพ่อและแม่ซ่งเห็นเซียนอวี่มีท่าทางไม่เหมือนที่ตนเองคิดก็ไปไม่เป็นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่พ่อซ่งจะเป็นคนที่ตั้งสติได้ก่อนแล้วรีบบอกรายละเอียดให้เด็กสาวได้รู้

เธอรีบรับเอาจดหมายส่งตัวมาอ่านรายละเอียด ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องนอนของตัวเอง เธอไม่เหลือเยื่อใยกับคนในครอบครัวนี้แล้วจริง ๆ ชีวิตก่อน เธอได้ตอบแทนพวกเขาไปหมดแล้ว ให้ไปหมดแล้วจริง ๆ แม้กระทั่งชีวิตของเธอ เธอก็ให้ครอบครัวซ่งไปแล้ว

สาเหตุการตายที่แท้จริงของเธอมาจากร่างกายอ่อนแอ แน่นอนว่าเพราะลำบากด้วยส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คือ...คนบ้านซ่งเคยได้ขอให้เธอผ่าตัดเปลี่ยนไตของตนเองให้ซ่งหนิงหนิง

ตอนนั้นเธอคิดว่าถ้าเธอยอมผ่านตัดเปลี่ยนไตให้ซ่งหนิงหนิง ตระกูลซ่งจะรับเธอกลับไป จะช่วยให้เธอไม่ต้องทนความยากลำบาก แต่ไม่เลย...คนพวกนั้นหลอกและให้ความหวังเธอเพียงเท่านั้น

ไม่มีใครสามารถขัดคำสั่งของรัฐบาลได้ แน่นอนว่าคนพวกนั้นรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว แต่ก็เลือกที่จะให้สัญญากับเธอ ให้ความหวังเธอ แต่ก็เป็นเธอเองที่โง่เชื่อคำพูดของคนบ้านนั้นด้วยนั่นแหละ ชาตินี้เธอเลยไม่คิดว่าตัวเองจะติดค้างอะไรคนที่นี่อีก เพราะเธอก็ได้ให้ชีวิตของเธอไปกับซ่งหนิงหนิงแล้ว การได้ไตของเธอไปเปลี่ยนให้ซ่งหนิงหนิง ก็เหมือนการให้ชีวิตใหม่กับอีกคน เพราะแบบนั้นเธอเลยไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด แม้ว่าที่ทำอยู่จะดูเห็นแก่มากตัวก็ตาม

แต่ใครจะยินดีให้ตัวเองลำบากล่ะ ถ้ารู้ว่าทำแล้วตัวเองจะสบาย จะเลือกไม่ทำงั้นหรอ เธอไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนที่เป็นคนดีมีคุณธรรมจนเลือกทิ้งทางรอดให้กับตัวเอง

หลังจากรู้ข่าว เธอเลือกที่จะเก็บตัวเงียบ แสดงละครให้คนพวกนั้นเชื่อว่าเธอกำลังเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมาก มีแค่เวลาอาหารเท่านั้นที่เธอจะลงไปพบหน้าทุกคน

ส่วนทางหนิงหนิงที่สุดแสนจะใจดีก็มาเคาะประตูห้องนอนเธอทุกวัน มาเคาะบ่อยจนเธอเกือบจะเผลอเปิดประตูไปด่าเพราะรำคาญเสียแล้ว ดีที่เก็บอารมณ์เอาไว้ได้ทัน

แต่ไม่เปิดประตูให้ ก็ไม่ได้หมายความว่าหนิงหนิงจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับเธอ บนโต๊ะอาหารทุกมื้อ ย้ำว่าทุกมื้อ ซ่งหนิงหนิงจะพูดขอร้องพ่อกับแม่ซ่งว่าให้ส่งตนเองไปแทนพี่สาว ย้ำว่าตนเองทนความลำบากมาทั้งชีวิต ส่วนเธอสบายมาทั้งชีวิต จะให้ไปอยู่ในที่แบบนั้นได้ยังไง

มันก็คงจะดีอยู่หรอก ถ้าเธอไม่ได้มองซ่งหนิงหนิงด้วยอคติเหมือนในตอนนี้ ทุกครั้งที่อีกคนขอร้องให้ส่งตนเองไปแทน เธอแทบอยากจะพังโต๊ะทานข้าวให้ไม่มีใครได้กินไปเสีย เวลาอาหารก็เอาแต่พูดแหล่มไม่หยุด ทำเอาความอยากอาหารของเธอลดลงไปเสียหลายส่วน

“พี่คะ พี่! พี่จะออกไปข้างนอกหรอคะ” ทันทีที่เซียนอวี่ออกจากห้อง ซ่งหนิงหนิงก็วิ่งแจ้นเข้ามาทันที เธอร้องเรียกเสียงดังลั่นบ้าน จนแม่ซ่งเดินตามมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ก่อนทั้งสองคนจะแปลกใจที่เห็นเธอแต่งตัวแต่งหน้าจนสวยเตรียมออกจากบ้าน ทั้งที่หลายวันมานี้เอาแต่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ใครเข้าไปเคาะก็ไม่ตอบ จะลงมาก็แค่ตอนกินข้าวเท่านั้น

“นี่ เอ่อ ลูกจะไปไหนหรอเซียนอวี่”

“ไปซื้อของเตรียมไปชนบทค่ะ อีกแค่สองวันก็ต้องไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ทันได้เตรียมของเลยนี่คะ หนูไม่อยากไปแล้วลำบากจนตายหรอกนะคะ”

“ซื้อของ อ๋อ ที่เตรียมของใช่มั้ย มา แม่กับน้องจะไปช่วยลูกด้วยอีกแรง มาเถอะ วันนี้ลูกอยากได้อะไรแม่จะซื้อให้ทั้งหมดเลย”

เธอนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตกลง ยังไงก็ดีกว่าต้องใช้เงินของตัวเองออก ให้คุณนายซ่งไปด้วยก็ดี เธอจะได้หยิบของที่อยากได้ให้หมดทุกอย่างเลย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   สองคนนั้น

    “ขอบคุณค่ะ” เซียนอวี่ขอบคุณคนตัวโตที่ถือวิสาสะแย่งของไปถือแล้วเดินมาส่งตัวเองถึงบ้านพัก อันที่จริงเธอก็ขอบคุณมาก ๆ นั่นแหละ ถ้าไม่ติดว่าเจ้าคนตัวโตนี่เอาแต่แซะนั่นแวะนี่เธอไม่หยุดตลอดทาง ว่าเธอขาสั้นบ้างล่ะ ตัวเตี้ยบ้างล่ะ“ไม่เป็นไร ของนี่ถ้ายกไม่ไหวก็ลากเข้าไปในห้องนะ” เขาไม่อยากเข้าไปในบ้านพักของสตรี อย่างไรบ้านหลังนี้ก็มีแต่ผู้หญิง ถ้าให้ผู้ชายตัวโตอย่างเขาเข้าไป คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่“อื้ม ว่าแต่...นายชื่ออะไรหรอ เจอกันหลายรอบแล้ว ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย อ้อ ฉันชื่อซ่งเซียนอวี่ เรียกว่าเซียนอวี่ก็ได้” เธอได้อีกคนช่วยไว้ตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เขากลับไม่เคยถามชื่อหรือแนะนำตัวกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว“หมิงหาน เหยาหมิงหาน เธอเรียกว่าหมิงหานก็ได้ ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวมีคนมา-” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ซ่งหนิงหนิงก็โผล่เข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงร้องตะโกนจนทุกคนต้องหันไปมองเธอ“พี่หมิงหาน! เอ้ะ พี่เซียนอวี่ พี่รู้จักพี่หมิงหานด้วยหรอคะ” ซ่งหนิงหนิงเดินสะพายตะกร้าที่เต็มไปด้วยผักเข้ามาพร้อมกับคนอื่น ๆ ระหว่างกำลังจะกลับเข้าบ้านพัก เธอกลับเห็นคนคุ้นตาเข้าเสียก่อ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   กล่องปริศนา

    เช้าวันนี้เซียนอวี่เตรียมตัวลงไร่กับคนอื่น ๆ หลังจากที่เธอเลือกจะเข้าป่าหาของมาให้คนในบ้านพักกินมาหลายวัน ตอนนี้ก็เริ่มมีคนไม่พอใจ หาว่าเธออู้งานกินแรงเพื่อนคนอื่น ๆ เธอเลยเปลี่ยนใจไม่เข้าป่าเหมือนทุกวัน“พี่คะ งานในไร่หนักมาก พี่ไม่เคยหยิบจับอะไรมาก่อน แบบนี้จะทำได้หรอคะ กลับไปเข้าป่าหาผักดีกว่ามั้ยคะ” ซ่งหนิงหนิงพยายามเป็นอย่างมากที่จะเข้ามาคุยกับเซียนอวี่ แต่ก็มักจะถูกเซียนอวี่เมินเฉยราวกับอากาศไปเสียทุกทีวันนี้ซ่งหนิงหนิงเองก็ถูกซ่งเซียนอวี่เมินอีกเช่นเคย ท่าทางจองหองถือตัวนั้นทำให้หลาย ๆ คนไม่พอใจ บวกกับหลายวันที่ผ่านมาเซียนอวี่มักจะแยกตัวออกไปทำงานเข้าป่ากับเหล่าชาวบ้าน แถมห้องพักก็พักเป็นห้องเดี่ยวไม่มีเพื่อน ซ่งหนิงหนิงเลยสนิทกับคนอื่น ๆ มากกว่า“อะไรกัน เซียนอวี่ก็เป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยงแท้ ๆ ทำไมถึงได้ทำตัวสูงส่งนักล่ะ เธอควรจะขอบใจและซึ้งใจหนิงหนิงเข้าไว้สิ ตัวเองไปแย่งวาสนาคนอื่นมาแท้ ๆ ตอนนี้ยังจะมาจองหองใส่คนเขาอีก”ปกติแล้วเซียนอวี่จะนิ่งเฉยกับคนอื่น ๆ ในบ้านพัก แต่ครั้งนี้เธอเลือกจะไม่ปล่อยผ่านไปเหมือนเช่นเคย ขาเรียวยาวที่กำลังเตรียมตัวจะก้าวลงไปในไร่และเริ่มงานหยุ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   เปล่านะคะ

    ลูกธนูแหลมคมแล่นผ่านหน้าเซียนอวี่ไปยังด้านหลัง ก่อนจะปักเข้าที่เจ้าหมูป่าตัวอ้วนที่กำลังวิ่งไล่เด็กสาวอยู่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เสียงร้องด้านหลังจะดังขึ้นดังกว่าปกติ หลังจากนั้นก็เงียบไปแต่ขาของเซียนอวี่ก็ยังคงวิ่งอยู่ เธอวิ่งเข้าไปหาคนที่ยิงธนูเฉียดหน้าเธอไปอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะเข้าไปหลบด้านหลังของชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับตัวเองทันทีหมูป่าถูกลูกธนูเมื่อสักครู่ปัดลงกลางหัว ทำให้ตอนนี้มันล้มตัวนอนอยู่กับพื้น ไม่รู้ว่าสิ้นใจตายแล้วหรือยัง แต่เรื่องนั้นเซียนอวี่ไม่ได้สนใจ ขอแค่มันไม่วิ่งไล่เธอเหมือนเมื่อครู่ก็พอ เธอกลัวจนฉี่แทบจะราดต่อหน้าทุกคนเสียแล้ว โชคดีที่กลั้นเอาไว้ทัน เธอบอกแล้วว่าสวรรค์เล่นตลกกับเธอ ขนาดมีคนตั้งเยอะตั้งแยะ ไอ้หมูบ้านั่นยังเลือกจะวิ่งไล่เธอเลย“มันตายแล้ว” เสียงเข้มดังขึ้นบนหัว เซียนอวี่ได้แต่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองช้า ๆ ก่อนจะเห็นว่าคนที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้เป็นใคร เธอเม้มปากกลั้นน้ำตามที่จวนจะไหลออกมาเต็มแก่เอาไว้ ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนช้า ๆยังไม่ทันที่เธอจะยืนขึ้นเองได้เสร็จ คนตรงหน้าก็จับต้นแขนของเธอแล้วดึงขึ้นเสียก่อน ร่างกายของเธอไม่สามาร

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   การเอาหน้าเป็นเรื่องสำคัญนะคะ

    อย่างที่เธอบอก หลังจากมาถึงที่หมู่บ้าน ทุกคนก็จะได้ทำงานทันที ไม่มีข้อยกเว้นให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น หลาย ๆ คนไม่ทันระวังตัว พวกเขาคิดว่าชาวบ้านจะให้ปรับตัวก่อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ให้คนสิบยี่สิบคนมาอยู่เฉย ๆ เป็นอาทิตย์ แล้วใครจะเป็นคนออกเงินค่าข้าวค่าน้ำให้กันล่ะ หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าให้ไปเอาอาหารที่บ้านของตนเองก็จริง แต่นั่นก็เป็นส่วนแบ่งจากการทำงานของทุกคนตลอดอาทิตย์ต่างหากพูดตามตรง หัวหน้าหมู่บ้านของที่นี่ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ยิ่งภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านนั้นยิ่งแล้วใหญ่เลย ของหลาย ๆ อย่างที่ดีหน่อยก็ถูกยายแก่นั่นยึดเอาไปกินเองในครอบครัว ชาติที่แล้วเธอเจออะไรแบบนี้มาไม่รู้ตั้งกี่เท่าไหร่ บางอาทิตย์ต้องทนกินแต่แป้งย่างโง่ ๆ เพราะของที่ดีหน่อยถูกริบเอาไปก่อนจะมาถึงพวกเธอจะรู้ตัวเสียอีก“วันนี้มีการเก็บข้าวโพดและเข้าไปหาของในป่า ทุกคนต้องแบ่งกันว่าจะทำหน้าที่ไหน แต่ต้องบอกก่อนว่าเข้าป่ามีความเสี่ยงที่จะเจอสัตว์ป่า ค่อนข้างอันตราย” ป้าฮุ่ยเข้ามาที่บ้านพักของเหล่าเยาวชนตั้งแต่เช้าตรู่หลายคนได้ยินว่าอาจจะเจอสัตว์ป่าที่อันตรายก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที ทุกคนพร้อมใจกัน

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   อะไรใหม่ ๆ

    ทันทีที่รถหยุดลง เซียนอวี่ก็รีบก้าวลงจากรถทันที เธอไม่มีท่าทางอิดออดหรือเหนื่อยอ่อนเหมือนคนอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย ขนาดผู้คุมยังอดแปลกใจไม่ได้ แต่ผู้คนเยอะแยะมากมาย ไม่มีใครมาสนใจเซียนอวี่มากขนาดนั้น ทุกคนยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเอง คนที่สนใจเซียนอวี่ก็มีแต่ซ่งหนิงหนิงเท่านั้นตั้งแต่ขึ้นรถ ซ่งหนิงหนิงเอาแต่นั่งร้องไห้ เธออยากจะรู้จริง ๆ ว่าร้องไห้ทำไม ร้องไห้เพราะถูกแยกกับครอบครัวที่พึ่งเจอกัน หรือร้องไห้เพราะตัวเองถูกกระชากลงจากสวรรค์ ก็แหม...คนไม่ชอบขี้หน้ากัน จะให้ไปมองในแง่ดีก็ออกจะประหลาดไปสักหน่อย“เอาล่ะ ต่อจากนี้ทุกคนจะต้องมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ร่วมกัน ขาดเหลืออะไรก็มาติดต่อที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านได้ เรื่องหน้าที่ของทุกคนเดี๋ยวจะมีคนไปแจกแจงอีกที ตอนนี้ทุกคนเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ”เซียนอวี่ยืนฟังนิ่ง ๆ เหมือนคนรับชะตากรรมตัวเองได้ เมื่อจบคำของหัวหน้าหมู่บ้าน เธอรีบเดินตรงไปยังบ้านพักที่ถูกสร้างเอาไว้สำหรับเยาวชนทันที แม้ว่าจะยังไม่มีใครบอกว่าหลังไหนก็ตามแต่คนอื่น ๆ ก็แค่แปลกใจ พวกเขาไม่ได้สงสัยอะไรมาก รู้ไม่รู้แล้วอย่างไร สุดท้ายเด็ก ๆ พวกนี้ก็ต้องมาอยู่ที่นี่อีกนาน บางคนอ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   ของขวัญไงคะ

    หลังจากซื้อของวันนั้น ในที่สุดเวลาก็ผ่านมาจนถึงวันที่ทุกครอบครัวต้องร่ำไห้ หลายครอบครัวออกมาส่งลูกหลานของตัวเองไปต่างที่ต่างทาง แต่ก็มีหลายครอบครัวที่มีท่าทางเมินเฉยแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือคนบ้านซ่ง หลังจากซื้อของจนพอใจ แถมยังไปขอเอาเงินจากคุณนายซ่งมาได้หลายพันหยวน เซียนอวี่ก็รีบขนย้ายของออกไปจากบ้านทันที ไม่ใช่เธอย้ายตัวเองออก แต่เป็นการย้ายเพียงแค่ของที่ต้องการจะเอาไปเพราะหลังจากที่เธอย้ายของมีค่าทั้งหลายออกไปฝากไว้ที่ไปรษณีย์ จดหมายจากทางการก็ส่งตรงมาที่บ้านซ่งในทันที หัวข้อคือการส่งตัวทายาทในบ้านให้ไปเป็นเยาวชนที่ชนบทห่างไกลแต่บ้านซ่งได้ส่งรายชื่อไปแล้วว่าจะให้ใครไป พวกเขาได้แต่แปลกใจว่าทำไมถึงมีจดหมายส่งมาซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะได้อ่านจดหมายแนบอีกฉบับที่แนบมาด้านหลังเนื้อความในจดหมายแนบนั้นมีอยู่ว่า ทางการรับรู้เรื่องการรับเลี้ยงซ่งเซียนอวี่ของตระกูลซ่งแล้ว ท่านผู้น้ำต้องการให้ทุกครอบครัวส่งทายาทของตนเองไป ดังนั้นครอบครัวซ่งจำเป็นต้องส่งทายาทที่แท้จริงของตนเองไป ไม่ใช่เด็กที่รับมาเลี้ยงตามที่ส่งรายชื่อมามือไม้ของสามพ่อแม่ลูกอ่อนไปหมด ส่วนคนที่ถึงกับล้มพับไปกับพื้นก็จะเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status