แค่คืนเดียว ฉันคิดว่ามันจะจบ...แต่คุณหมอสุดหล่อกลับร้อนแรงจนฉันถอนตัวไม่ขึ้น คืนเดียวไม่พอ เขาจะเอาทั้งตัวและหัวใจฉัน
View Moreเสียงทะเลาะกันดังลั่นห้องจนเพื่อนข้างห้องได้ยินกันหมด
“คุณจะเอาอะไรอีกฮะ! เลิกก็เลิกไปสิ จะตามจิกหัวฉันทำไม!” พริมตะโกนเสียงสั่น น้ำตาคลอจนมองหน้าเขาแทบไม่ชัด ปกรณ์ยืนกอดอก มองเธอด้วยสายตาดูถูกจนเจ็บไปถึงใจ “ผมไม่ได้ตามจิก แต่จะเตือนคุณไว้...คนอย่างคุณ ต่อให้ไปหาผู้ชายอีกกี่คน มันก็ไม่มีใครจริงจังด้วยหรอก” “หยุดพูดให้ฉันดูแย่ซะที!” “ความจริงมันก็แค่นั้น พริม คุณมันก็เเค่ ผู้หญิงจนๆ มาเเต่ตัวไม่มีอะไรเลย ถ้าไม่มีเงินผมคุณมันก็ไม่มีค่าอะไร” เพี๊ยะ! มือเธอฟาดหน้าเขาเต็มแรง เสียงดังจนเงียบกันทั้งคู่ “ฉันอาจไม่ดีนัก แต่ฉันไม่ใช่ขยะที่ใครก็จะมาดูถูกได้!” เธอหอบหายใจ กวาดสายตามองของที่เคยซื้อด้วยกัน น้ำตาร่วงอีกรอบ “ขอให้คุณอยู่กับความว่างเปล่าของตัวเองไปเถอะ!” พริมคว้ากระเป๋า เสื้อผ้าได้แค่ไม่กี่ชิ้นก็ลากออกมาจากห้อง เสียงเขายังตะโกนตามหลัง “แล้วอย่ากลับมาร้องไห้ให้ผมสงสารอีก!” ประตูปิดดังปัง ใจเธอเต้นแรงจนจะเป็นลม พริมเดินออกมาหน้าตึก ยืนงง ไม่รู้จะไปไหน จะโทรหาใคร น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอก้มมองโทรศัพท์ แท็กซี่ไม่มีสักคันที่จอดรับ คืนนี้เธอไม่มีบ้าน ไม่มีคนรออยู่ แต่ดีกว่าต้องอยู่กับผู้ชายเลวๆ คนนั้น เธอเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ต่อให้พรุ่งนี้มันจะย่ำแย่แค่ไหน อย่างน้อยคืนนี้ฉันก็ไม่ต้องทนโดนด่าอีกแล้ว มองโทรศัพท์ในมือ เธอกดหาเบอร์หนึ่งในนั้นอย่างมีความหวัง “มะ...หมวย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม” เสียงเธอสั่น “พริม! เป็นอะไร? อยู่ไหนบอกมานะ เดี๋ยวหมวยไปหาทันที” น้ำตาไหลพราก เธอพูดไม่ออกแค่ร้องไห้เสียงเบา เสียงรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งดังมาถึง พอหันไปก็เห็น “หมวย” เพื่อนสาวตัวเล็ก กำลังขี่มอเตอร์ไซค์มาหา “พริม! ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวหนาวตายก่อน!” หมวยพูดเสียงอ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง พริมร้องไห้สะอึกสะอื้นก่อนจะก้าวขึ้นมอเตอร์ไซค์อย่างว่าง่าย ลมหนาวตีหน้า แต่ใจเธอกลับอุ่นขึ้น เพราะรู้ว่ามีหมวยอยู่ข้างๆ ระหว่างทาง หมวยไม่พูดเยอะ เพียงแต่เอื้อมมือมาสอดมือเล็กๆ ของพริมไว้ในมือเธอแน่น “ไม่เป็นไรนะพริม...ที่นี่ปลอดภัย” พริมพยักหน้า น้ำตายังไหลไม่หยุด เธอรู้สึกดีขึ้นกับคำปลอบโยนของหมวย เสียงมอเตอร์ไซค์จอดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวริมทาง แสงหลอดไฟสลัวๆ กับเสียงช้อนกระทบชามดังเป็นจังหวะ หมวยดับเครื่องแล้วหันมามองพริมที่นั่งกอดกระเป๋า หน้าเศร้าเหมือนคนหมดแรง “ลงมาเถอะ กินอะไรก่อน เดี๋ยวค่อยกลับบ้านฉัน” “ฉัน...ไม่ค่อยหิวหรอกหมวย” พริมเสียงแผ่ว น้ำตายังไหลไม่หยุด “กินเถอะพริม แกไม่ได้กินข้าวตั้งแต่บ่ายแล้วมั้ง จะได้มีแรง เดี๋ยวเป็นลม” หมวยไม่รอคำตอบ ลงไปก่อนแล้วเดินมาถอดหมวกกันน็อกให้ พริมเลยต้องยอมลงตามไปนั่งบนเก้าอี้พลาสติกสีแดงหน้าร้าน แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเงยหน้ามองแล้วยิ้มใจดี “เอาก๋วยเตี๋ยวอะไรดีลูก?” หมวยหันมาถามเบาๆ “กินได้ใช่มั้ย?” พริมพยักหน้าอย่างอายๆ “อะไรก็ได้…” “ป้าคะ เส้นเล็กน้ำสองชาม ไม่ใส่ถั่วงอกค่ะ” หมวยหันไปสั่ง แม่ค้าเดินไปลวกเส้นเสียงดังซู่ๆ กลิ่นน้ำซุปหอมฉุนลอยมาเตะจมูกจนพริมใจอ่อน น้ำลายสอทั้งที่เพิ่งบอกว่ากินไม่ลง หมวยนั่งลงตรงข้าม มือจับแก้วน้ำเย็นจ่อมาให้ “ดื่มก่อน จะได้ตั้งสติ” พริมเงยหน้ามองเพื่อน น้ำตาไหลเงียบๆ ก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่ม มือสั่นน้อยๆ “หมวย…ฉันเหนื่อย…ฉันไม่รู้จะไปไหน…” “ก็ไปบ้านฉันนั่นแหละ จะไปไหนอีกล่ะ” เสียงแม่ค้าวางชามก๋วยเตี๋ยวลงบนโต๊ะดัง กึก น้ำซุปร้อนๆ กลิ่นหอมเหมือนจะปลอบใจได้ พริมคีบเส้นเข้าปากคำแรก ทั้งร้อนทั้งเค็มไปหมด หมวยมองแล้วถอนหายใจ ยื่นกระดาษทิชชู่ให้ “ร้องไป กินไปก็ได้ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น” พริมพยักหน้า แอบยิ้มออกมาทั้งน้ำตา คืนนี้เธออาจไม่มีที่ของตัวเอง แต่ยังมีหมวย ที่นั่งตรงข้ามเธออยู่ตรงนี้ ไม่ทิ้งกันไปไหนเช้าวันรุ่งขึ้น – บ้านเช่าของพริม แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านผ้าม่านสีครีมเข้ามาในห้อง พริมตื่นขึ้นก่อนลูก ลุกไปจัดการตัวเอง เธอสวมเสื้อเชิ้ตสะอาดกับกางเกงผ้าเรียบร้อย เสียงนาฬิกาปลุกมือถือดังเบาๆ น้องพายขยับตัวงัวเงีย กอดตุ๊กตากระต่ายแน่นก่อนลืมตา “แม่…เช้าแล้วเหรอคะ” “เช้าแล้วค่ะ…ตื่นได้แล้วคนเก่ง วันนี้เราต้องไปโรงเรียน” “พาย…อยากนอนต่อ” เด็กหญิงซุกหน้าลงหมอนเสียงอู้อี้ พริมหัวเราะเบาๆ ก้มลงหอมแก้มฟอด “ไม่ได้ค่ะคนขี้เซา ไปโรงเรียนใหม่ต้องตื่นเช้า” พายพยักหน้าอย่างจำยอม ยอมลุกมานั่งพับเพียบบนฟูก พริมช่วยเช็ดหน้าลูกแล้วค่อยๆ จัดผมให้ ขณะเตรียมกระเป๋านักเรียน เสียงเคาะประตูหน้าบ้านก็ดังขึ้นสองครั้ง ก๊อก ก๊อก พริมชะงัก หันไปมองประตู ก่อนจะเดินไปเปิด ป้าเจ้าของบ้านเช่าเป็นผู้หญิงวัยประมาณ50 ผมซอยสั้น ใส่เสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงลายดอก ยืนยิ้มถือถุงขนมอยู่ “สวัสดีจ้ะหนูพริม ตื่นแต่เช้าเลยนะ” พริมยกมือไหว้ รีบยิ้มรับ “สวัสดีค่ะป้า…ตื่นเตรียมลูกไปโรงเรียนค่ะ” ป้าหัวเราะเบาๆ ยื่นถุงขนมให้ “ป้าเอาขนมปังกับนมมาฝาก หลานจะได้กินรองท้องก่อนออกไป” น้องพายเดินมาเกาะชายเสื
ช่วงเย็น – หน้าบ้านหมวยรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองจอดชิดขอบฟุตบาท พริมลงจากรถในชุดทำงานเรียบๆ เสื้อเชิ้ตขาวกับกางเกงผ้าเรียบ เธอสูดหายใจเข้าลึก เหนื่อยแต่ก็โล่งใจที่วันนี้ผ่านไปได้อีกวันประตูรั้วบ้านหมวยค่อยๆ เปิดออก เด็กหญิงตัวเล็กผิวขาวอมชมพูวิ่งถลาออกมา ยิ้มกว้างจนตาหยี“แม่! แม่ขา!”“พาย…อย่าวิ่งเร็ว เดี๋ยวล้ม”พริมก้มลงอ้าแขนรับลูกสาวมากอดแน่น กลิ่นแป้งเด็กโชยขึ้นแตะจมูก เธอหัวเราะเบาๆ แล้วลูบผมลูก“คิดถึงแม่ไหมคะ”“คิดถึงเยอะเลย!” พายตอบเสียงใส ก่อนจะซบอกแม่แน่นพริมยิ้มอ่อนโยน ฝ่ามือไล้แผ่นหลังเล็กๆ ของลูก ก่อนจะหันไปบอกเพื่อนว่าเดี๋ยวจะพาพายกลับไปพักที่ห้องเช่า แล้วค่อยพากันย้ายอีกทีหลังร่ำลา เธอจูงมือลูกเดินออกมาหน้าบ้าน“วันนี้หนูเล่นอะไรบ้างคะ”“พายเล่นบ้านตุ๊กตา แล้วก็ช่วยป้าจ๋าหั่นผัก…พายเก่งไหมแม่”“เก่งที่สุดเลยลูก”เด็กหญิงยิ้มตาหยี แก้มกลมๆ แดงนิดพริมก้มมองนาฬิกา ก่อนชวนลูกไปแวะซื้อข้าวกับของใช้“หนูอยากกินอะไรคะ แม่ว่าจะเข้าเซเว่นหน่อย”“กินโจ๊กไก่!”“ได้ค่ะ งั้นไปกัน”---หน้าเซเว่นพริมจูงมือลูกเข้ามาในร้าน เดินตรงไปโซนข้าวกล่อง น้องพายมองชั้นวางขนมตาลุกวาว“แม่…พาย
ค่ำวันเดียวกัน – บ้านคุณหมออคิณบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์น รายล้อมด้วยสวนหย่อมที่คนสวนตัดแต่งเรียบร้อย ไฟสีขาวนวลส่องสว่างไปทั่วบริเวณ แต่ในใจอคิณกลับรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกขังอยู่ในห้องแคบๆเขานั่งพิงพนักโซฟาในห้องรับแขก สวมเชิ้ตสีครีมติดกระดุมเรียบร้อย ใบหน้าคมคายดูเรียบเฉย แต่ในดวงตามีแววลังเลที่ซ่อนไว้ไม่มิดตรงข้ามเป็นพ่อกับแม่ แต่งตัวหรูหราเพราะเพิ่งกลับจากงานเลี้ยง พ่อวางแก้วน้ำแร่ลงบนโต๊ะ พูดขึ้นก่อนใคร“เรื่องงานหมั้น…เราตกลงกับทางนั้นแล้วนะอคิณ”เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ สบตาพ่อ“ผมยังไม่ได้ตอบตกลง”แม่ถอนหายใจเสียงดัง“อคิณ แม่กับพ่อไม่ได้จะบังคับ…แต่ลูกก็รู้ว่าเขาเป็นผู้หญิงดี ครอบครัวก็ดี จะหาคู่ที่เหมาะสมกว่านี้อีกเหรอ?”เขาไม่ตอบทันที จ้องมือตัวเองที่ประสานกันบนตัก“…ผมแค่ยังไม่แน่ใจ ว่าจะไปกันรอด”“ไม่รอดอะไร อยู่กันไปก็รักกันเอง” พ่อว่าเสียงหนัก “แกก็อายุสามสิบแล้วนะอคิณ ถึงเวลาคิดเรื่องครอบครัวได้แล้ว”เขาขยับตัวเล็กน้อย ริมฝีปากขบกันจนขึ้นรอยแดงในหัวเขามันวุ่นวายไปหมด…ภาพงานหมั้น ภาพชีวิตที่ถูกจัดวางไว้เรียบร้อยเหมือนหมากกระดาน มันไม่ใช่สิ่งที่เขาฝันอยากมีมาตั้งแต่แรกแม่มองส
ค่ำวันเดียวกัน – บ้านปกรณ์ บ้านสองชั้นตกแต่งหรูหราดูเงียบเกินปกติ ไฟในห้องรับแขกเปิดสลัวๆ ปกรณ์นั่งอยู่ตรงโซฟาหนังสีเข้ม มือคีบบุหรี่ค้างไว้ ดวงตาคมเต็มไปด้วยความหงุดหงิด โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะสั่นเบาๆ เขาลากสายตามองชื่อคนโทรเข้าก่อนจะกดรับเสียงเย็น “ว่า…” เสียงนักสืบปลายสายรายงานเรียบๆ “เจอตัวแล้วครับ คุณพริมพาลูกไปอยู่กับเพื่อนผู้หญิงแถวเขตชานเมือง วันนี้เพิ่งไปสมัครงานใหม่” ปกรณ์ขมวดคิ้ว หรี่ตาลง “ลูกอยู่กับเขาด้วย?” “ครับ เด็กหญิงอายุประมาณสี่ขวบ แข็งแรงดี ไม่มีปัญหาอะไร” ปกรณ์พ่นควันบุหรี่ช้าๆ ใบหน้าดูคล้ายคนโกรธ และในแววตาเหมือนมีความคิดซ่อนอยู่ “…แล้วเขาอยู่ที่นั่นมานานแค่ไหน” “สองคืนแล้วครับ ดูเหมือนเพื่อนผู้หญิงคนนั้นจะช่วยเหลือเต็มที่” ปกรณ์เงียบไปอึดใจ ลมหายใจฟังดูหนักขึ้น “ถ่ายรูปมาส่งให้ฉันทุกวัน ฉันต้องรู้ว่าลูกอยู่ที่ไหน” “ได้ครับ ผมจะรายงานทุกความเคลื่อนไหว” เขากดวางสายแล้วโยนมือถือไว้บนโต๊ะอย่างหัวเสีย ใจมันร้อนรุ่มไปหมด…โกรธที่พริมหนีไปไม่บอกอะไรสักคำ โกรธที่เธอกล้าพาลูกออกไปเงียบๆ แต่ก็…ห่วง ปกรณ์ยกมือกดขมับ ความอึดอัดแล่นเต็มอกจนแทบร
เช้าวันใหม่ – บ้านหมวยแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ห้องนอนอบอุ่นไปด้วยบรรยากาศสดใส น้องพายนั่งแต่งตัวอยู่บนเตียง มือเล็กๆ กำลังรวบผมเป็นเปียสองข้างด้วยความตั้งใจพริมยืนอยู่ข้างๆ ช่วยจัดเสื้อผ้าให้ลูกสาวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวัง“พายตื่นเต้นไหมลูก?”น้องพายหันมามองแม่ ดวงตากลมโตเปล่งประกายสดใส“พายตื่นเต้นมากค่ะ แม่! พายอยากเจอเพื่อนใหม่”พริมหัวเราะเบาๆ แล้วกอดลูกแน่น“แม่ก็อยากเห็นพายมีความสุขนะลูก วันนี้เป็นวันแรกของเราสองคนหมวยเดินเข้ามาในห้อง มือถือกล่องอาหารกลางวัน“เอาของกินมาฝากด้วยนะ เด็กเก่ง”น้องพายรับกล่องอาหารด้วยรอยยิ้มสดใส“ขอบคุณน้าหมวยค่ะ!”พริมหันไปมองหมวย“ขอบใจมากนะหมวย ที่ช่วยดูแลพายกับพริมมาตลอด”หมวยยิ้มตอบ“ไม่ต้องพูดเยอะ มึงทำดีอยู่แล้ว”ที่หน้าโรงเรียนใหม่พริมจอดรถมอเตอร์ไซค์ข้างทาง น้องพายจับมือแม่แน่น ใบหน้าตื่นเต้นแต่ก็มีความกังวลเล็กน้อย“แม่…ถ้าเพื่อนไม่ชอบพาย พายจะทำยังไงดี?”พริมกุมมือเล็กของลูก“แม่เชื่อว่าพายจะเจอเพื่อนดีๆ เยอะเลย ลูกแค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ”น้องพายยิ้มแล้วก้าวเข้าประตูโรงเรียนไปพร้อมแม่หมวยยืนส่งยิ้มให้ทั้งคู่“โ
เย็นวันเดียวกัน – บ้านหมวยโต๊ะกินข้าวไม้เล็กๆ ถูกจัดเรียบร้อยด้วยจานข้าวผัดสีทองหอมกรุ่น รสชาติกลมกล่อมและชวนน้ำลายสอ กลิ่นกระเทียมเจียวลอยฟุ้งไปทั่วบ้านน้องพายนั่งตักพริม มือเล็กจับช้อนอย่างตั้งใจ ดวงตากลมโตมองหมวยที่นั่งฝั่งตรงข้าม“น้าหมวย…พายกินเองได้นะ พายเก่งมากเลย”หมวยยิ้มแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวน้องพายเบาๆ“โห เก่งจริงๆ คนเก่งของน้าหมวย”น้องพายยืดอกเล็กๆ ก่อนตักข้าวผัดเข้าปาก หันมามองแม่ด้วยสายตาใส“แม่…พายว่าข้าวผัดอร่อยมากเลย แม่กินเยอะๆ นะ จะได้ไม่ผอม”พริมขำทั้งน้ำตา ยกมือแตะแก้มลูก“แม่ไม่ผอมหรอกลูก แม่อ้วนแล้ว ดูพุงสิ”น้องพายเอามือเล็กๆ จิ้มพุงแม่เบาๆ“พุงนิ่มนุ่ม…พายชอบ”หมวยหัวเราะเสียงดังจนแทบสำลัก“เด็กคนนี้น่ารักเป็นบ้าเลย”แม่หมวยยิ้มมองสองแม่ลูกด้วยความรัก“กินเยอะๆ นะลูก เดี๋ยวอิ่มแล้วก็ไปนอนกัน”น้องพายเงยหน้าขึ้น ยกมือไหว้“ขอบคุณคุณยาย…พายอร่อยมากเลยค่ะ”พริมยิ้มเจื่อนๆ“พายเรียกป้าเขาก็ได้ลูก…”แม่หมวยโบกมือเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก เรียกอะไรก็ได้ ถ้าหนูมีความสุข”น้องพายยิ้มกว้าง กินข้าวผัดต่ออย่างมีความสุขก่อนนอน – ห้องนอนบ้านหมวยหลังเก็บจานข้าวผัด หมวยปูฟูกเ
Comments