แต่จงเอ้ากลับคิดว่า หากวันนั้นเขาไม่พาจ้านจ้านไปเล่นที่อุทยานหลวง คนเลี้ยงม้าผู้นั้นก็คงไม่มีโอกาสวางยาพิษจ้านจ้าน และจ้านจ้านก็คงจะไม่หมดสติไปดังนั้น ช่วงเวลาที่จ้านจ้านหมดสติไป ในใจของจงเอ้าจึงราวกับมีหินก้อนใหญ่ทับอยู่ รู้สึกทุกข์ใจอยู่ตลอดเวลา“อยากได้อะไรก็บอกตานะ ตาจะพยายามหามาให้เจ้าให้ได้” จงเอ้าเอ่ยขึ้นเพื่อชดเชยในแบบของตน“ท่านตา ข้ามีของที่อยากได้จริง ๆ ”จ้านจ้านโอบรอบคอของจงเอ้า แล้วกล่าวอย่างจริงจัง“ข้าได้ยินมาว่าช่วงนี้ท่านตาไม่ยอมกินข้าวดี ๆ ไม่ยอมนอนหลับดี ๆ ท่านต้องสัญญากับจ้านจ้านว่า จะดูแลร่างกายของตนเองให้ดี และห้ามรู้สึกผิดอีกต่อไปแล้ว”ทีแรกจงเอ้าคิดว่าเด็กน้อยคงอยากได้ของอะไรสักอย่าง เขายังรู้สึกกังวลเล็กน้อยว่า ตนเองจะหามาให้ไม่ได้คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่จ้านจ้านร้องขอจะเป็นเรื่องเช่นนี้ ขอบตาของเขาก็พลันแดงก่ำขึ้นมา“ตารับปากเจ้า” เด็กคนนี้ช่างรู้ความและน่าเอ็นดูเสียจริง“เช่นนั้นข้าก็วางใจแล้ว” จ้านจ้านพยักหน้าอย่างพึงพอใจเหยาเสวี่ยที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้น “เอาละ เด็ก ๆ เดินทางมาเหนื่อยแล้ว อย่ามัวแต่ยืนอยู่หน้าประตูวังเลย ไปกินข้าวกันเถอะ ข้าเตรียมงา
ในรถม้า นอกจากซูจิ่งสิงที่กำลังนั่งจิบชาอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นผู้ใดอีก“ไปที่รถม้าของหลันเตี๋ยแล้ว”ซูจิ่งสิงวางถ้วยชาลง กล่าวอธิบายด้วยใบหน้าเรียบเฉยกู้หว่านเยว่ยกมือขึ้นกุมหน้าผากอย่างจนใจ “ช่างเถอะ ตามใจเขาก็แล้วกัน”กลุ่มทหารรับจ้างเดินทางมาพร้อมกับพวกเขา ทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือ มีพวกเขาอยู่ด้วยจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของจ้านจ้านเขาชอบไปวอแวหลันเตี๋ย ก็ทำให้พวกเขาได้อยู่กันอย่างสงบพอดี“พักผ่อนสักหน่อยเถอะ” ซูจิ่งสิงตบเบาะนุ่มข้างกายเบา ๆ สิ่งที่เขาคิดคือ สองวันนี้กู้หว่านเยว่เหนื่อยล้ามามากแล้ว การที่จ้านจ้านไปอยู่กับหลันเตี๋ย ก็เท่ากับมีคนช่วยดูแลลูกชายพอดี จะได้ให้นางพักผ่อนบนรถม้าอย่างเต็มที่ในรถม้าคันข้างหน้า จ้านจ้านกำลังแกว่งขาเล็ก ๆ ของเขาไปมา พลางสำรวจมองไปรอบ ๆ ภายในรถม้าของหลันเตี๋ยแขวนอาวุธลับไว้นานาชนิด เขามองดูด้วยความแปลกใหม่อย่างยิ่ง“พี่หญิง ของกลม ๆ ที่มีหนามแหลมอยู่รอบ ๆ นี่คืออะไรหรือ?”จ้านจ้านหยิบลูกกลมเล็ก ๆ ขึ้นมาลูกหนึ่ง แล้วหมุนเล่นในมือหลันเตี๋ยเหลือบมอง แล้วเอ่ยอธิบายอย่างเกียจคร้าน “เจ้านี่น่ะหรือ เรียกว่าระเบิดดาวตก ข้าดัดแปลงมาจากด
ลั่วหรงยกจอกสุราขึ้นมาดื่มหมดในรวดเดียวกู้หว่านเยว่นึกถึงเรื่องเมื่อครู่ จึงกล่าวถาม “ยังโกรธลั่วซิงอยู่หรือ?”ลั่วหรงกล่าวอย่างหมดหนทาง “ข้าเคยบอกเขาหลายครั้งแล้ว ไม่ต้องมาเป็นทหารรับจ้าง แต่เขาไม่เพียงไม่ฟังข้า อีกทั้งยังแอบรับภารกิจ และพาคนออกมา”ลั่วหรงก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับน้องชายคนนี้แล้วกู้หว่านเยว่คิดแล้วคิดอีก ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แล้วท่านเคยลองฟังความเห็นของลั่วซิงบ้างหรือเปล่า? ข้าว่าเขาอยากเป็นทหารรับจ้างจริงๆ นะอีกทั้งตอนอยู่ป่าซิงโต้ว เขาจัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก”แววตาลั่วหรงเผยให้เห็นความภาคภูมิใจเสี้ยวหนึ่ง “เสี่ยวซิงเป็นคนฉลาดและรักพวกพ้องตั้งแต่เด็ก พื้นฐานวรยุทธ์ก็ไม่แย่ เหมาะที่จะเป็นทหารรับจ้างจริงๆ นั่นแหละ”“ครั้งนี้เขาสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ ที่จริงข้าไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเลย”“เช่นนั้นเพราะอะไร ท่านถึง……” “เพราะการเป็นทหารรับจ้างอันตรายมาก”ลั่วหรงนวดหน้าผาก สีหน้าดูเจ็บปวดเล็กน้อย“ข้าเคยมีพี่น้องที่สนิทกันมากคนหนึ่ง แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่สำหรับพวกเราไม่มีอะไรต้องพูด และข้าก็เห็นเขาเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆ”“เมื่อ
ซูจิ่งสิงได้แต่กุมหน้าผาก เขาก็ทำอะไรกับความแก่แดดของลูกชายไม่ได้เช่นกันไม่นานนัก กลุ่มทหารับจ้างก็หลงจ้านจ้านจนหัวปักหัวปำแต่ละคนรุมล้อมเขาไว้ จะมอบของสะสมที่หามาได้ระหว่างการเป็นทหารรับจ้างให้เขา“หากข้ามีลูกชายที่น่ารักอย่างเจ้าก็คงดี”“เด็กคนนี้ฉลาดจัง แค่เห็นก็รู้สึกชอบแล้ว”หลันเตี๋ยยืดอก “เมื่อครู่เขาเรียกข้าว่าพี่หญิงคนสวยด้วย”ผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบการถูกชม โดยเฉพาะคนที่หยิ่งทะนงตนอย่างหลันเตี๋ยคำชมของเด็กทำให้นางรู้สึกมีความสุขมากกว่าคำพูดประจบสอพลอเหล่านั้น “จ้านจ้าน ต่อไปเจ้ามีปัญหาอะไร มาหากลุ่มทหารรับจ้างของพวกเราได้เลยขอแค่ข้ายังอยู่ในกลุ่มทหารรับจ้าง ก็จะต้องช่วยเจ้าแน่นอน”หลันเตี๋ยอยู่กลุ่มทหารรับจ้างมานานหลายปี เป็นบุคคลระดับผู้อาวุโสแล้ว สิ่งที่พูดออกมาจึงมีน้ำหนักในระดับหนึ่งต้าเจี่ยก็เดินเข้ามาใกล้ “ข้าคือลุงต้าเจี่ย ต่อไปเจ้ามีปัญหาอะไร มาขอให้ข้าช่วยก็ได้เช่นกัน”จ้านจ้านพยักหน้าอย่างยิ้มแย้ม “ขอบคุณพี่หญิงหลันเตี๋ย ขอบคุณท่านลุงต้าเจี่ย”หลันเตี๋ยถูกเด็กที่น่ารักคนนี้ทำให้ยิ้มจนหน้าบานอีกครั้ง หากไม่ติดว่าตอนนี้นางยังโสด หาคนที่ถูกใจไม่ได้
คนที่ห้ามปราม: ……o(╥﹏╥)oลั่วซิงรีบกล่าว “พี่ใหญ่ เลิกตีได้แล้ว ข้าทำภารกิจสำเร็จแล้วนะ ข้าได้ขนของหลู่ชู่มาแล้ว”ในที่สุดเขาก็มีโอกาสพูดสักที เมื่อครู่ถูกซ้อมจนได้แต่หนีเอาชีวิตรอด ไม่มีเวลาอธิบายเลย“เจ้า……” ลั่วหรงอึ้งไปชั่วขณะ แววตาเผยความประหลาดใจ จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความภาคภูมิใจ แต่ก็ถูกเขาเก็บซ่อนอย่างรวดเร็ว“เจ้าก็แค่โชคดีเท่านั้น หากดวงซวยขึ้นมาจริงๆ สัตว์ร้ายในป่าซิงโต้วสามารถฉีกร่างของเจ้าจนแหลก!”ลั่วหรงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ปีนั้นสหายที่ดีที่สุดของเขา ก็เพราะเจองูยักษ์ สุดท้าย……เรื่องนี้ฝังใจเขามาโดยตลอด“พี่ใหญ่”“พี่ใหญ่ลั่ว!” กู้หว่านเยว่วิ่งออกมาขวางลั่วหรงไว้ “เลิกตีได้แล้ว เลิกตีได้แล้ว”เมื่อหันไปมองลั่วซิงอีกครั้ง เจ้าหนูนี่รอดกลับมาจากป่าซิงโต้ว แต่เกือบจะมาตายด้วยมือของลั่วซิงแล้ว“หว่านเยว่ ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่?” ลั่วหรงอึ้งไปชั่วขณะ เขาคิดว่าตนเองตาฝาดเสียอีก“พี่หญิงเยว่!” ลั่วซิงดีใจมาก ในที่สุดก็มีคนมาช่วยตนเองแล้วแต่ทำไมพี่ใหญ่ดูเหมือนจะรู้จักพี่หญิงเยว่ด้วยกู้หว่านเยว่กล่าวห้ามปราม “พี่ใหญ่ลั่ว เลิกตีได้แล้ว มีอะไรก็คุยกันดีๆ ต่อให้ท่านหว
กู้หว่านเยว่ช่วยห่มผ้าให้จ้านจ้าน น้ำเสียงอ่อนโยนราวกับสายน้ำ “หิวหรือไม่ เดี๋ยวแม่ทำให้เจ้ากิน?” จ้านจ้านกำลังเหม่อลอย “ท่านแม่ ท่านลุงตั้งใจจะทำอย่างไรกับคนขับรถม้าที่ทำร้ายข้า?”กู้หว่านเยว่บอกไปตามความจริง “แม่เขียนจดหมายหาลุงของเจ้าแล้ว ให้ลุงของเจ้าฆ่าเขาเสีย”นางกลัวว่าจ้านจ้านยังเด็กเกินไป ไม่สามารถยอมรับการฆ่าฟัน แต่เขากลับพยักหน้าแรงๆ“ท่านแม่ทำถูกแล้ว ราชครูเว่ยเคยพูดไว้ว่า รู้ผิดแล้วแก้ไขเป็นเรื่องดีแต่ลูกคิดว่า เรื่องเดียวกันไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำสามครั้ง ในเมื่อเคยให้โอกาสคนขับรถม้าคนนั้นแล้วครั้งหนึ่ง เขากลับไม่รักษาโอกาสไว้ แถมยังคิดจะแก้แค้นคนเช่นนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องเมตตาอีกครั้ง ฆ่าเสียยังดีกว่า“เจ้า……” กู้หว่านเยว่มองจนเหม่อท่าทางที่เฉยเมยของจ้านจ้าน ไม่เหมือนเด็กอายุไม่กี่ขวบเลย แต่กลับมีมาดของว่าที่กษัตริย์อยู่หลายส่วน“ท่านแม่ ข้าหิวแล้ว!” จ้านจ้านกล่าวอย่างออดอ้อนกะทันหัน น้ำเสียงที่นุ่มนิ่มดึงความสนใจของกู้หว่านเยว่กลับมาทันทีนางรีบลุกขึ้น “แม่ไปทำให้เจ้ากินเดี๋ยวนี้”ซูจิ่งสิงกดนางนั่งลง “แม่ของเจ้าปรุงยาถอนพิษให้เจ้าตั้งแต่เช้า จนถึงตอนนี้ก็ยังไ