Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาพบรักกับเมน / บทที่ 23 การพัฒนาสินค้า

Share

บทที่ 23 การพัฒนาสินค้า

last update Last Updated: 2025-10-08 20:00:11

บทที่ 23

การพัฒนาสินค้า

         เป็นเวลากว่าสามวันที่ฟางหนิงฮวาไม่ได้ออกจากบ้าน จะออกไปก็แค่ตอนที่ไปส่งซาลาเปาให้กับจวนต่าง ๆ ในตอนเช้าเท่านั้น ทั้งวันพวกเขาต้องเร่งทำแผ่นแป้งจนแทบจะไม่ได้พัก เมื่อเห็นสหายไม่ออกมาหาหลายวันในที่สุดต้าเป่ากับเสี่ยวเจียงก็มาเยี่ยมฟางหนิงฮวาที่ร้าน

         “ข้าก็คิดว่าเจ้าจะไม่สบายอีกแล้วเสียอีก ถึงได้รีบมากัน” ต้าเป่าพูดพลางมองสำรวจสหายแทบทุกส่วนเพื่อความมั่นใจ

         “ข้าไม่เป็นอะไรจริง ๆ ต้าเป่า เจ้านี่ทำตัวเหมือนเป็นพ่อข้าเข้าไปทุกวันแล้ว” ฟางหนิงฮวาทำหน้าย่นใส่

         “แล้วเหตุใดเจ้าไม่ไปหาพวกเราล่ะ เกิดอะไรขึ้น” เสี่ยวเจียงยังอดเป็นห่วงไม่ได้

         ฟางหนิงฮวายืดอกขึ้นตัวตรงก่อนจะพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจว่า “เพราะว่าข้าทำภารกิจเพื่อบ้านเมืองอยู่นะสิ”

         “ภารกิจเพื่อบ้านเมือง?” ทั้งต้าเป่ากับเสี่ยวเจียงร้องขึ้นมาพร้อมกัน

         “ภารกิจอะไรกัน” ต้าเป้าถาม

         ฟางหนิงฮวายังคงกล่าวต่อด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจอยู่ “คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ เมื่อสามวันก่อนข้าเอาซาลาเปาไปส่งที่จวนของท่านเจ้าเมืองตามปกติ ท่านเจ้าเมืองพูดกับข้าว่าที่ครัวของกองทัพมีคนไม่พอไม่สามารถทำแผ่นแป้งสามพันแผ่นสำหรับทหารได้ทันก่อนวันเคลื่อนทัพ ก็เลยถามข้าว่าที่บ้านของข้าสามารถทำได้หรือไม่”

         “เจ้าก็เลยตอบตกลงไปในทันที” ต้าเป้าพูดเป็นเชิงถามไม่เชิงถาม

         “ก็ไม่ถึงกับทันทีหรอก ข้ากลับมาคุยกับท่านพ่อท่านแม่ก่อน พอท่านพ่อกับท่านแม่บอกกว่าทำไหวข้าถึงไปตอบตกลงกับท่านเจ้าเมือง” ฟางหนิงฮวาตอบ

         ต้าเป่ากับเสี่ยวเจียงพยักหน้าเข้าใจ พวกเขาเพียงคิดว่าดีแล้วที่สหายไม่ได้เป็นอะไร มิเช่นนั้นแล้วจะต้องเป็นห่วงมากกว่านี้เป็นแน่

         “แล้วเจ้าทำทันได้อย่างไร แผ่นแป้งตั้งมากมายถึงเพียงนั้น” เสี่ยวเจียงถาม เหมือนกับว่านางไม่อยากเชื่อว่าคนเพียงสามคนจะทำแผ่นแป้งเสร็จภายในสองวัน

         “ข้าไม่นอนเลยตลอดสองวัน ส่วนท่านพ่อกับท่านแม่ก็นอนน้อยมาก ทั้งยังมีเสี่ยวเสียมาช่วยในช่วงกลางวันอีก” ฟางหนิงฮวาตอบพลางทำตาปรือให้เสี่ยวเจียงดู “เจ้าเห็นหรือไม่ว่าขอบตาของข้าดำคล้ำไปหมดแล้ว ใครเห็นก็คงต้องคิดว่าข้านั้นเป็นค้างคาวแน่ ๆ

         “เจ้าออกจะพูดเกินจริงไปหน่อยนะ อย่างเจ้าแค่นกฮูกก็พอแล้ว” ต้าเป่าเอ่ยแซว

         สหายของลูกมาเยี่ยมพ่อกับแม่ของฟางหนิงฮวาก็จัดน้ำชาและขนมมาให้พวกเขาอย่างเต็มที่ ขนมที่ว่านี้ก็หนีไม่พ้นซาลาเปา ส่วงนน้ำชาก็เป็นเพียงชาจีนธรรมดาเพราะที่ร้านนี้มีชาอยู่แค่แบบเดียว

         “ขอบคุณขอรับท่านอา” ต้าเป้าหันไปพูดกับนิ่งหรง

         “ขอบคุณเจ้าค่ะ” เสี่ยวเจียงเองก็ย่อกายลงคราหนึ่ง

         บรรยากาศที่ร้านซาลาเปาเป็นไปอย่างครึกครื้น มีลูกค้ามาซื้อซาลาเปาตลอดทั้งวัน ในที่สุดซาลาก็หมด ทั้งแป้งที่อยู่ในห้องเก็บของก็หมดด้วยเช่น ฟางตวนจึงปิดร้านแล้วชวนภรรยาออกไปซื้อแป้งด้วยกัน ปล่อยให้คนหนุ่มสาวนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานในร้าน

         “นี่ ข้ามีเรื่องจะเล่าให้พวกเจ้าฟังด้วยละ” ฟางหนิงฮวาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น

         “เรื่องอะไรหรือ” ต้าเป่ากับเสี่ยวเจียงถามออกมาพร้อมกัน พวกเขาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย

         “เจ้าจำเรื่องที่ข้าเคยบอกก่อนหน้านี่ว่าจะคิดค้นซาลาเปาสูตรใหม่ได้ไหม เมื่อสองสามวันก่อนข้าได้ลองทำแล้วนะ แล้วก็ทำไปให้ท่านเจ้าเมืองกับหมอหลิวชิมดูแล้วด้วย เดี๋ยวข้าเอามาให้พวกเจ้าดู” พูดจบฟางหนิงฮวาก็เดินไปที่ลังถึงซึ่งกำลังนึ่งซาลาเปาร้อน ๆ อยู่แล้วหยิบเอาซาลารูปแบบต่าง ๆ มาอย่างละหนึ่งลูก

          “โอ้โห...สวยจังเลย ที่เจ้าทำเองหรือ” เสี่ยวเจียงเบิกตาโตมองซาลาเปาเหล่านั้นด้วยความตื่นเต้น

         “อืม” ฟางหนิงฮวายืดอดแล้วกระแอมทีหนึ่ง “ซาลาเปาพวกนี้ข้าใช้สีจากดอกไม้ใบไม้ต่าง ๆ จากนั้นก็ปั้นเป็นรูปทรง ใส่ไส้ พอนึ่งเสร็จแล้วก็ออกมาหน้าตาเช่นนี้แหละ”

         “เจ้าเก่งจังเลยหนิงฮวา ซาลาเปาที่สวยงามเช่นนี้จะต้องเป็นที่นิยมในเมื่อถู่หยางของเราเป็นแน่” เสี่ยงเจียงเอ่ยชมสหายไม่หยุด

         ต้าเป่าหยิบซาลาเปารูปลูกท้อขึ้นมาแล้วกัดเข้าไปทีหนึ่ง “แต่ว่าไส้ซาลาเปานี่ยังเหมือนเดิมอยู่นี่นา”

         “ใช่แล้ว ข้าเองก็มีความคิดที่จะปรับปรุงมันอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าชาวเมืองที่นี่จะชอบแบบไหนกันแน่ก็เลยคิดที่จะปรึกษากับพวกเจ้าก่อน เจ้าสองคนมีความเห็นว่าอย่างไร” ฟางหนิงฮวาถาม ความจริงแล้วนางมีคิดไว้ในใจอยู่สองสามอย่าง ทว่าอยากจะฟังจากผู้ที่คุ้นเคยกับคนเมืองนี้มากกว่าก่อน

         ทั้งต้าเป่าและเสี่ยวเจียงต่างก็มองซาลาเปาบนจานนั้นอย่างครุ่นคิด พวกเขานิ่งอยู่นานทว่าก็ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา ฟางหนิงฮวารอฟังจนทนไม่ไหวจึงพูดความคิดของตนเองออกมาแทน

         “นี่ ข้าคิดว่าข้าจะทำไส้ซาลาเปาแบ่งออกไปเป็นสองแบบ มีใส้ที่เป็นของหวานอาจจะทำจากถั่วเหลืองหรือไม่ก็ถั่วดำ ส่วนใส่เค็มก็จะเป็นหมูสับไข่เค็มเหมือนเดิมพวกเจ้าว่าความคิดนี้ใช่ได้หรือไม่” ฟางหนิงฮวาถาม

         “อืม” เสี่ยวเจียงเมือนกับว่าจะคิดอะไรออก “เดิมทีแล้วคนเมืองถู่หยางชื่นชอบของหวานอยู่แล้ว หากว่าทำซาลาเปาเป็นไส้หวานได้ก็จะดีมาก แต่ว่าข้าคิดว่าใส้ควรจะมีความหลากหลายกว่านี้หน่อย อย่างเช่นซาลาเปาที่เป็นรูปลูกท้อนี้ก็น่าจะใส่พวกท้อเชื่อมลงไปด้วย ซาลารูปดอกบัวก็น่าจะใส่เม็ดบัวเข้าไปด้วยเช่นกัน”

         “เป็นความคิดที่ดี เสี่ยวเจียงเจ้าฉลาดที่สุด” ฟางหนิงฮวาเอ่ยชม

         “เจ้าเคยได้ยินเรื่องของซาลาเปาปลาเค็มหรือไม่” จู่ ๆ ต้าเป่าก็ถามขึ้นมา

         “ซาลาเปาปลาเค็ม?” ฟางหนิงฮวากับเสี่ยวเจียงถามกลับพร้อมกัน

         ต้าเป่ารวบรวมความคิดเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ เล่าเรื่องของซาลาเปาปลาเค็มนี้ให้หญิงสาวทั้งสองฟัง “ซาลาเปาปลาเค็มนั้นเดิมทีมีพ่อค้าคนหนึ่งทำขายอยู่ในเมืองหลวง กิจการของเขาไปได้ไม่ดีนักเพราะกลิ่นปลาเค็มทำให้ร้านของเขาเหม็นไปทั้งร้าน ทว่าวันหนึ่งองค์จักรพรรดิทรงเสด็จออกมานอกเมืองและรถม้าพระที่นั่งดันขับผ่านร้านซาลาเปาปลาเค็มนี้เข้า เจ้ารู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น”

         “เกิดอะไรขึ้นหรือ” หญิงสาวทั้งสองถามพร้อมกันอีกครั้ง

“องค์จักรพรรดิทรงสั่งให้หยุดรถม้าแล้วเสด็จลงมาที่ร้านซาลาเปาเลยอย่างไรล่ะ” ต้าเป่าเล่าด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น “พระองค์บอกว่ากลิ่นปลาเค็มของร้านนี้หอมมาก แล้วก็ทรงลองชิมซาลาเปาปลาเค็มดูก็พบว่ารสชาติถูกพระทัยเป็นอย่างยิ่ง นับตั้งแต่นั้นมาพระองค์ก็สั่งให้เจ้าของร้านซาลเปาเข้าไปเป็นพ่อครัวหลวงแล้วทำซาลาเปาปลาเค็มให้พระองค์เสวยทุกวัน”

         เมื่อฟังแล้วฟางหนิงฮวาก็รู้สึกว่ามันออกจะเกินจริงไปบ้าง นี่ไม่แน่อาจจะเป็นเพียงนิทานหลอกเด็กที่คนร้านตลาดพูดให้ลูกหลานฟังก็เป็นได้ จักรพรรดิที่ไหนจะตัดสินพระทัยรับคนเข้าวังหลวงง่ายถึงเพียงนั้น

         “ดูหน้าพวกเจ้าแล้วเหมือนกับจะไม่เชื่อ แต่ก็ว่าแหละเรื่องราวมันไม่หลักฐานพิสูจน์นี่นา แต่ข้าว่าหากเจ้าลองทำดูก็ไม่ได้เสียหายอะไร ที่ร้านของข้ามีปลาเค็มอยู่เดี๋ยวจะวิ่งกลับไปเอามาให้เดี๋ยวนี้” ต้าเป่าว่า

         ฟางหนิงฮวาเองก็เคยได้ยินมาบ้างในชาติที่แล้วว่ามีซาลาเปาปลาเค็มขายแต่ว่านางเองก็ไม่เคยชิมเลยสักที เพราะส่วนใหญ่แล้วจะขายอยู่ในชนทบทซึ่งหากินได้ยากสักหน่อย ทว่าหากลองนำวัตถุดิบต่าง ๆ มาลองทำดูแล้วอาจจะทำออกมาได้ดีก็เป็นได้

         “ตกลง พวกเรามาลองทำกัน”  ฟางหนิงฮวาว่า

         ต้าเป่ารีบวิ่งกลับร้านเพื่อไปหาปลาเค็มมาให้ฟางหนิงฮวา ส่วนเสี่ยวเจียงก็วิ่งกลับบ้านไปเอาลูกท้อเชื่อมกับเม็ดบัว ฟางหนิงฮวาวิ่งไปร้านแป้งซื้อแป้งมาเพิ่มสองถุง เมื่อทั้งสามกลับมาพบกันที่ร้านแล้วก็ลงมือทดลองทำซาลาเปาตามแบบที่คิดกันเอาไว้ ในที่สุดก็ทำออกมาสำเร็จ ทั้งสามคนประสานมือเข้าด้วยกันแล้วร้องออกมาด้วยความดีใจ

         “สำเร็จแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 31 ออกรบ

    บทที่ 31 ออกรบ บรรยากาศในค่ายที่เคยคึกคักเริ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เมื่อรองแม่ทัพซุนก้าวเข้ามาในกระโจมบัญชาการ สีหน้าของเขาเคร่งขรึม บ่งบอกถึงเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรายงาน“ท่านแม่ทัพ ข้าศึกส่งคนเข้ามาสอดแนมในค่ายของเรา ตอนนี้พวกเราจับตัวมันได้แล้ว ข้ารอคำสั่งท่านว่าจะให้จัดการอย่างไร”เซียวป๋อเหวินวางพู่กันลงจากมือ ดวงตาสงบนิ่งแต่ลึกลงไปภายในแฝงความเด็ดขาด “ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”เขาลุกขึ้นจากที่นั่ง สะบัดชายเสื้อแล้วเดินตามรองแม่ทัพซุนออกจากกระโจมไป เสียงฝีเท้าหนักแน่นของเขาก้องสะท้อนเป็นจังหวะมั่นคง ขณะที่เหล่าทหารที่พบเห็นต่างหลีกทางให้ด้วยความเคารพเมื่อมาถึงลานประหารกลางค่าย สายตาของเซียวป๋อเหวินจับจ้องไปที่ชายสองคนที่ถูกมัดไว้กับเสา แขนและขาของพวกมันเต็มไปด้วยรอยแผลจากการถูกซ้อมแต่ใบหน้ากลับแข็งกร้าว ไม่มีแววหวาดกลัวหรือยอมจำนนเขาก้าวเข้าไปใกล้ พลางถามด้ว

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 30 วุ่นอยู่กับการทำศึกแต่ในใจก็คิดถึงเช่นกัน

    บทที่ 30 วุ่นอยู่กับการทำศึกแต่ในใจก็คิดถึงเช่นกัน อีกด้านเซียวป๋อเหวินตอนนี้กำลังทำศึกอยู่ที่ชายแดนเหนือบริเวณแม่น้ำฉางเป่ย การต่อสู้ครั้งนี้ใช้กองทัพเรือ เป็นการต่อสู้กับชนเผ่าเฮยจั้งที่พยายามจะตีเอาดินแดนเหนือของแคว้นรวมทั้งเมืองเสวี่ยคังด้วย เดิมทีชนเผ่าเฮยจั้งอยู่เหนือขึ้นไปหลายพันลี้ทว่าด้วยภัยความหนาวทำให้อากาศแห้งแล้ง ปลูกพืชผลก็ไม่ได้ เลี้ยงสัตว์ก็ไม่ได้ เลยทำให้พวกเขาต้องอพยพลงใต้มาตายเอาดาบหน้า หวังว่าจะมีที่ดินทำกินให้คนในเผ่าได้มีชีวิตรอด ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ชนเผ่าก็จริงทว่าชาวเฮยยจั้งนั้นรวม ๆ แล้วก็มีไม่ต่ำกว่าแสนคน ที่เป็นทหารได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็น่าจะราว ๆ สามหมื่น พื้นฐานของพวกเขาเป็นคนที่มีร่างกายที่ทรหดอดทนมาก ทั้งยังสามารถอดอาหารได้เป็นเวลานาน ทำให้ศึกครั้งนี้เซียวป๋อเหวินรับมือยากอยู่เล็กน้อย “ลูกธนู

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 29 และแล้วก็ต้องจากกัน

    บทที่ 29 และแล้วก็ต้องจากกัน ขบวนของท่านเจ้าเมืองเคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองไปแล้วท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องแสดงความยินดีและน้อมส่งท่านเจ้าเมืองไปยังเมืองเสวี่ยคัง ขบวนนั้นยาวเหยียดเต็มไปด้วยทหารที่มาจากมืองเสวี่ยคังและทหารบางส่วนที่ติดตามท่านเจ้าเมืองไปด้วย ความยิ่งใหญ่นี้ทำให้ชาวเมืองทั้งดีใจและรู้สึกเศร้าใจในเวลาเดียวกัน “พวกเราจะคิดถึงท่านเจ้าเมือง” “ท่านเจ้าเมืองอย่าได้ลืมพวกเรานะขอรับ ส่วนพวกเราจะไม่มาทางลืมท่านอย่างแน่นอน” “น้อมส่งท่านเจ้าเมือง” “ขอให้ท่านเจ้าเมืองโชคดีขอรับ” เสียงของชาวเมืองยังคงกล่า

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 28 เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย

    บทที่ 28 เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย เมื่อได้ยินข่าวว่าเซียวป่อเหวินได้เลื่อนตำแหน่งและต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองเสวี่ยคังฟางหนิงฮวาก็ทั้งดีและเศร้าใจ การที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสิ่งที่ดี อีกอย่างครั้งนี้เข้าได้เป็นถึงแม่ทัพรับรองว่าอนาคตของเขาจะต้องรุ่งเรื่องเป็นแน่ แต่เพราะเมืองเสวี่ยคังอยู่ไกล จะไปมาหาสู่กันก็ลำบาก จะพบหน้ากันเช่นทุกวันนี้ก็คงเป็นไปได้ยาก “หนิงฮวา เจ้าเองก็อยากให้เขาเจริญก้าวหน้ามิใช่หรือ แล้วจะมานั่งเศร้าทำไมกัน” ต้าเป่าเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วถามด้วยความเป็นห่วง “ที่จริงข้าก็ยินดีกับเขานั่นแหละ แต่ถ้าเขาไปอยู่ที่เมืองเสวี่ยคังข้าก็คงจะไม่ได้พบกับเขาอีก” ฟางหนิงฮวาพูดออกมาอย่างเศร้าใจ “ต่อให้ไม่ได้พบกันก็เขียนจดหมา

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 27 ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่

    บทที่ 27 ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่ ฟางหนิงฮวาเอาซาลาเปามาส่งทุกวัน ทุกครั้งทั้งสองก็จะพูดคุยกันและสนิทกันมากขึ้น สำหรับเซียวป๋อเหวินนอกจากหมอหลิวแล้วก็แทบจะไม่มีสหายที่สามารถพูดคุยยกันเรื่องทั่วไปได้เลย ส่วนมากก็จะพูดแต่เรื่องที่เป็นทางการกับองครักษ์แล้วก็ทหารเท่านั้น แต่กับฟางหนิงฮวาเขากลับรู้สึกว่าทั้งเขาและนางมีอะไรที่คล้าย ๆ กัน ทั้งความคิดความสนใจในสิ่งต่าง ๆ จึงได้สนิทกันอย่างรวดเร็ว ฟางหนิงฮวาเองเมื่อได้พูดคุยกับเซียวป๋อเหวินก็เหมือนกับได้พูดคุยกับหยางจื้อเจ๋อ จึงมีความสุขทุกครั้ง “ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งจะมาถามความเห็นจากท่าน” ฟางหนิงฮวาพูดขณะที่เอากล่องใส่ซาลาเปาวางลงบนโต๊ะอาหารของเซียวป๋อเหวิน “อะไรหรือ น่าสนใจหรือไม่&

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 26 กลับมาพร้อมชัยชนะ

    บทที่ 26 กลับมาพร้อมชัยชนะ ขบวนทัพเดินผ่านเข้าประตูเมืองมาด้วยความสง่าผ่าเผย เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เหล่าราษฎรมายืนเรียงแถวรอต้อนรับท่านเจ้าเมืองกับทหารของเขาเต็มสองข้างทาง พวกเขาต่างตั้งหน้าตั้งตาคอยวีระบุรุษผู้ปกป้องรักษาบ้านเมืองเอาไว้ รอที่จะกล่าวขอบคุณอย่างยิ่งใหญ่ เซียวป๋อเหวินขี้ม้าสีดำคู่กายเข้ามาในประตูเมืองตามด้วยทหารองรักษ์คนสนิทและเหล่าแม่ทัพนายกองอีกหลายคน เขาโบกมือและยิ้มทักทายให้กับทุกคนพร้อมประกาศชัยชนะในครั้งนี้ “ชาวเมืองถู่หยางทุกคน บัดนี้พวกโจรภูเขาทั้งหลายได้ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นแล้ว หลังจากนี้ต่อไปเมืองถู่หยางของพวกเราจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตตามปกติและทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป อย่าได้เป็นกังวล” “

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status