Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน / ตอนที่ 53 กลางดึกที่เสียงฝนพรำ

Share

ตอนที่ 53 กลางดึกที่เสียงฝนพรำ

last update Last Updated: 2025-12-03 11:56:14

ฟู่เหวินโหลวปราชญ์หลวงผู้สูงศักดิ์ ผู้กุมอำนาจล้นฟ้า และเคยเป็นดั่งเสาหลักแห่งแผ่นดินบัดนี้กลับไม่ต่างอะไรจากเชลยในกรงเงามืดเขายังมีลมหายใจ…แต่หัวใจกลับไม่ต่างจากเถ้าถ่านที่ยังอุ่นคุกรุ่นบาดแผลทางกายอาจบรรเทาลงแล้วแต่บาดแผลในใจ… กลับลุกลามขึ้นทุกค่ำคืนเหมือนเปลวไฟที่ไม่มีวันมอดดับ

ภายในเรือนชั้นใน เขานั่งนิ่งเงียบ สายตาเหม่อลอยทอดไปยังขอบฟ้าอันไร้จุดจบสายลมเย็นพัดผ่านกลีบบุปผาอย่างแผ่วเบาแต่ในอกเขากลับเหมือนถูกไฟนรกเผาไหม้แทน

“ใครกัน…?” เสียงคำรามสะท้อนอยู่ในใจเขาถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับหวังว่าคำตอบจะผุดขึ้นมาจากห้วงสำนึกแต่ไม่ว่าเขาจะย้อนคิดสักกี่พันหมื่นครั้งก็ไม่อาจนึกออกเลย... ว่าผู้ใดกล้าลูบคมเขาเช่นนี้มันไม่ใช่การลอบโจมตีธรรมดาไม่ใช่แค่การปล้นสะท้านฟ้าแต่มันคือการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีด้วยเงามืดที่ไม่ต้องเปลืองแม้กระทั่งปลายดาบมันว่าง่าย... แต่วางลึก มาเงียบ… และจากไปเงียบราวกับไม่เคยมีตัวตนประหนึ่งเงา ที่ไม่มีใครจับต้องได้

ขวดยาวิเศษซึ่งเขาเคยภาคภูมิใจของประทานจากองค์จักรพรรดิบัดนี้กลายเป็นเพียงภาชนะว่างเปล่าที่นอนอยู่ในกล่องไม้ลายมังกรมันไม่ใช่สิ่งของอีกต่อไปมันคือ คำเย้ยหยัน ที่แผดเผาเขาทุกครั้งที่มองเห็นเวลาเนิ่นนานผ่านไปเป็นเดือนไร้เบาะแส ไร้เงา ไร้ทุกสิ่งศัตรูผู้นี้ ไม่ได้มุ่งหมายชีวิตเขา... แต่มุ่งหมายใจมันกำลังบั่นทอนเขาทีละน้อย... ด้วยความเงียบ

และยิ่งเงียบเขายิ่งคิดถึงมันยิ่งคิดถึงก็ยิ่งคลั่งแค้น...และเมื่อความแค้นหยั่งรากลึกลงในใจ ฟู่เหวินโหลวก็เริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนเขาไม่ได้หวั่นกลัวความตายหากแต่หวั่นกลัวว่า...

“ศัตรูผู้นั้น... อาจไม่มีวันกลับมา” ความพ่ายแพ้ที่ไร้บทสรุปคือพันธนาการที่ทำลายเขายิ่งกว่าความพ่ายแพ้ใดในชีวิเพราะหากอีกฝ่ายไม่กลับมาเขาจะไม่มีวันได้รู้คำตอบไม่มีวันได้ล้างแค้นไม่มีแม้แต่โอกาส…จะได้เอ่ยคำถามสุดท้ายออกไปว่า

“เจ้า…คือใคร?”

ค่ำคืนนี้...ฝันร้ายของฟู่เหวินโหลวได้กลายเป็นจริง เขาหาได้ล่วงรู้เลยว่า คนที่เขาคร่ำครวญอยากพบจะปรากฏกายต่อหน้าเขา ในยามที่เขาเปราะบางที่สุด ฟ้าคะนองคำรามบนผืนฟ้ามืดครึ้มสายฝนซัดกระหน่ำดั่งม่านพรางตาและเสียงภายใต้ม่านฝนนั้น เงาดำร้อยชีวิตเคลื่อนตัวรวดเร็วไร้สุ้มเสียงทุกคนสวมชุดดำ ปิดบังใบหน้า ไม่เหลือเค้าความเป็นมนุษย์พวกเขาลอบเร้นเข้าเขตจวนชั้นนอกได้อย่างง่ายดายแม้จะมีเวรยามวางแน่นหนาแต่กลับไร้ผู้ใดรู้ตัว

เมื่อถึงชั้นใน อันเป็นที่พักของปราชญ์หลวงเหล่าองค์รักษ์ระดับสูงถูกปลิดชีพทีละรายเงาดำเข้าประชิดอย่างแนบเนียนและ...แทนที่ร่างผู้ตายด้วยภาพลวงตาอันน่าตื่นตระหนก พวกมันแปลงโฉมได้ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ แต่ยังลอกทุกอิริยาบถ น้ำเสียง ท่วงท่าเงาของหลานเยว่… ได้แทรกซึมกลืนกินจวนของฟู่เหวินโหลวจนหมดสิ้นข้างกายฟู่เหวินโหลวในยามนี้รายล้อมไปด้วยคนของนางโดยสิ้นเชิง โดยที่เขาไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย

ท่ามกลางพายุและสายฟ้าเธอ... จึงปรากฏ หลานเยว่หญิงผู้หลอมรวมความเยือกเย็นและความตายไว้ในกายเดียวก้าวเท้าอย่างสงบเข้าสู่เรือนพักของเขาในชุดดำสนิท ร่างของนางดูลื่นไหลไปกับความมืดใบหน้าซ่อนเร้นใต้ผ้าคลุมแต่แรงกดดันจากกายบางนั้น กลับหนาหนักยิ่งกว่าทัพพัน

นางยกมือเปิดประตูเสียงแกร๊กเบา ๆ ดังขึ้น...ประหนึ่งปลดผนึกแห่งโชคชะตาที่รอวันสะสางบานประตูแง้มเปิดกลิ่นไอของสายฝน และบางสิ่งที่เย็นเฉียบ...แทรกเข้ามาพร้อมกันฟู่เหวินโหลว หันขวับ ดวงตาเบิกกว้างเขารู้ทันทีว่าผู้มาเยือนไม่ใช่ใครธรรมดา...แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็น “ใคร”เสียงของเขายังทรงอำนาจแต่ภายในกลับสั่นไหวไม่ต่างจากเทียนที่ใกล้มอด “เจ้าเป็นใคร...ถึงกล้าบุกรุกมาถึงที่นี่!”

ไม่มีคำตอบมีเพียงสายตาคมลึกเบื้องหลังหน้ากากที่ทอดมองกลับมาอย่างไร้อารมณ์ความเงียบ...กลายเป็นดั่งมีดที่กรีดลึกลงกลางใจ นางไม่แม้แต่จะเสียเวลาเปล่งวาจาให้เปลืองลมหายใจกับฟู่เหวินโหลวชายชราผู้ที่ผู้คนทั่วทั้งแผ่นดินต่างยอมหมอบคลานเลียแม้เพียงฝ่าเท้าของเขา

นางเคลื่อนไหวฉับพลันดั่งภูตเงา ไร้สุ้มเสียง ไร้ร่องรอยก่อนที่ฟู่เหวินโหลวจะรู้ตัว บางสิ่งก็พุ่งกระแทกเข้ากลางใบหน้าอย่างรุนแรงเสียงกระทบดังสนั่น ร่างทั้งร่างของเขากระเด็นล้มลงไปกองกับพื้นในชั่วพริบตานัยน์ตาที่เคยเปี่ยมด้วยความถือดี บัดนี้สั่นระริกด้วยความหวาดกลัวแม้เขาจะมีฝีมืออยู่บ้าง หากแต่กลับไม่อาจตามทันการเคลื่อนไหวของนางได้เลย

“เป็นเจ้าใช่ไหม...” เสียงพร่าของชายชราดังขึ้นอย่างยากลำบากเขารู้ในทันทีหญิงสาวเบื้องหน้า คือนางคนที่เขาตามหาคนที่กล้าท้าทายอำนาจของเขาคนที่ขโมยทุกสิ่งไปจากเขาราวกับเงามารในรัตติกาลแต่หลานเยว่ไม่แม้แต่จะสนใจคำถามของเขานางยกฝ่าเท้าขึ้นเหยียบลงบนร่างของเขาอย่างไร้ความปรานีกดแน่นจนร่างชราถูกตรึงจมลงไปกับพื้นยิ่งกว่าก่อนหน้าเขาดิ้นเล็กน้อย แต่ไร้ผล

“เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร!”

ฟู่เหวินโหลวแผดเสียงออกมาด้วยความเดือดดาลแม้ในสภาพที่ถูกเหยียบอยู่กับพื้น ศักดิ์ศรียังพยายามแผดเสียงต้าน

แต่เสียงนั้น… กลับไร้พลัง ไร้ความหนักแน่นไม่มีใครฟังและไม่มีใครแยแสหลานเยว่ยังคงนิ่งงัน ปราศจากคำตอบบนใบหน้านางไม่มีแม้แววสนใจเพราะสำหรับนางแล้ว ชื่อเสียง อำนาจ และความสำคัญของเขาเป็นเพียงสิ่งลวงตาที่กำลังถูกบดขยี้อยู่ใต้ฝ่าเท้า

"เจ้ารู้ไหม... ว่าสิ่งที่ข้าชื่นชอบมากที่สุดคืออะไร?" น้ำเสียงของหลานเยว่เย็นชา ราบเรียบราวสายน้ำในเหมันต์นางเอ่ยพลางกดปลายเท้าหนักยิ่งขึ้นบนร่างที่แนบกับพื้นของฟู่เหวินโหลวดวงตาของนางจับจ้องร่างชายชราที่ดิ้นไม่ได้แม้แต่น้อย เหงื่อผุดเต็มใบหน้าเหี่ยวย่น มือที่เคยสั่งตายผู้คนสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น

“ยิ่งคนผู้นั้นอยู่สูงเท่าไร ข้าก็ยิ่งชื่นชอบ... ฉุดกระชากศักดิ์ศรีของมันลงมามากเท่านั้น” ถ้อยคำเย็นเยียบดุจมีดกรีดแทงเข้าไปกลางใจ ฟู่เหวินโหลวตัวสั่นเครือ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยโทสะในชีวิตหลายสิบปีของเขา ไม่เคยมีผู้ใดกล้าพูดจาหยามหยันเช่นนี้ไม่เคย… มีแต่เสียงสรรเสริญหวานล้ำราวหยดน้ำผึ้งแต่วันนี้ เขากลับต้องนอนแนบพื้น ให้สตรีผู้หนึ่งเหยียบย่ำเกียรติยศจนแหลกลาญปากกำลังจะตะโกนโต้กลับ ทว่าทันใดนั้น...

เพล้ง! เสียงกระดูกหักดังสนั่นกลางฝ่าเท้าเสียงกรีดร้องอันโหยหวนปะทุขึ้นทันควัน เมื่อหลานเยเว่ยกเท้าขึ้นกระทืบลงบนแขนและขาของชายชราจนผิดรูป กระดูกบิดเบี้ยวอย่างน่าเวทนาก่อนที่เขาจะทันได้สติ นางก็เคลื่อนนิ้วเร็วราวสายลมจี้ลงบนจุดสำคัญของเขาอย่างแม่นยำเส้นลมปราณหลักถูกทำลาย...

เสียงร้องของเขาดังระงม ฝ่ามือที่เคยโบกบัญชาผู้คนนับพัน บัดนี้กลับเอื้อมไปคว้าเพียงอากาศ“ชะ...ช่วยด้วย! ใครก็ได้... ช่วยข้าด้วย!!”

เสียงร้องอันเจ็บปวดดังแข่งกับเสียงฝนที่เทกระหน่ำ ราวกับสวรรค์ก็ร่วมหลั่งน้ำตาให้กับความสิ้นอำนาจของเขาแต่เสียงเหล่านั้น... ไม่มีผู้ใดได้ยินเพราะเหล่าองค์ลักษณ์ ผู้พิทักษ์ที่เคยยืนเรียงรายรอบเรือนล้วนตายสิ้นร่างถูกสังหารทิ้งเงียบงัน และตำแหน่งของพวกมัน... ถูกแทนที่ด้วยคนของหลานเยว่ทั้งหมดที่นี่… ไม่มีใครจะมาช่วยเขาอีกแล้วฝ่าเท้าสุดท้ายประทับลงบนอกของฟู่เหวินโหลว เสียงกระแทกดัง “พลั่ก!” ตามด้วยร่างที่กระตุกเฮือกก่อนจะแน่นิ่งลงนอนจมพื้น

“ช่างน่าเวทนา... ข้าเผลอหนักมือไปหน่อย” หลานเยว่กล่าวเสียงเรียบ แต่แฝงรอยเย้ยหยันในแววตา

“แขนขาผิดรูป เส้นลมปราณถูกทำลายน่าเสียดาย… ปราชญ์หลวงของแผ่นดิน อาจเหลือเพียงร่างไร้ค่า ไม่ต่างอะไรกับขยะที่ถูกทิ้งไว้ข้างทาง”

นางหันหลังกลับอย่างช้า ๆ เสียงฝีเท้าแผ่วเบาแทบไร้เสียง ปล่อยให้ร่างชายชรานอนแน่นิ่งกลางสายฝน ร่างสั่นด้วยความเจ็บและอัปยศวันนี้… หลานเยว่ไม่ได้มาเพื่อฆ่านางเพียงแค่ มาเยี่ยมเยือน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status