Share

ตอนที่ 63 สมบัติของข้า

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:06:43

แม่ทัพหลานซือเหยียน ไม่อาจทนมองดวงตาเย็นชาของบุตรสาวได้อีกต่อไป ร่างกายของเขาสั่นเทาด้วยความโกรธขึ้งและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน เขารู้ดี หากซ่งไห่หยางล่วงรู้ความจริง เบื้องหลังทั้งหมดที่ทำให้บุตรชายต้องพังทลาย... นั่นหมายถึงไฟสงครามที่จะโหมกระหน่ำอย่างไม่อาจห้ามได้เขากัดฟันแน่น หมุนกายจากไปโดยไม่หันกลับมา

แต่ก่อนที่ก้าวสุดท้ายของเขาจะพ้นธรณีประตู เสียงของหลานเยว่ก็ดังขึ้นเบื้องหลัง ราบเรียบ เยือกเย็น… และเต็มไปด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็น

“หากท่านรอดจากสถานการณ์นี้ไปได้... ข้าจะถือว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น” คำพูดนั้น…คล้ายคมมีดบางเฉียบที่กรีดลงกลางใจเขาแม่ทัพหลานหยุดชะงักเพียงครู่ ก่อนจะเปล่งเสียงเยาะหยันออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ

“เหอะ…” ไม่มีถ้อยคำอื่นอีก มีเพียงเสียงลมหายใจหนักแน่นที่บอกชัดถึงความบีบคั้นภายใน แล้วเขาก็เดินจากไป ไม่เหลียวหลัง ไม่สบตาและไม่กล่าวลา

ภายใต้แสงแดดยามสายของวันนั้น ฟ้าโปร่ง ไร้เงาเมฆ ราวกับวัฏจักรของพายุที่ซัดกระหน่ำในอดีตได้สงบลงชั่วคราว

ภายนอกจวนของหลานเยว่ เสียงล้อรถม้าหลายคันบดผ่านลานหินที่ได้รับการขัดเงาอย่างประณีต เสียงฝีเท้าทหารติดตามดังสม่ำเสมอ และเสียงบ่าวไพร่รีบร้อนเปิดทาง ดั่งรู้ดีว่าผู้ที่มาเยือนครั้งนี้…หาใช่บุคคลธรรมดาแม่ทัพซ่งไห่หยาง ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าจวนในชุดคลุมสีเข้มปักดิ้นทองที่แม้จะซีดลงบ้างตามกาลเวลา แต่แววตาของเขาในตอนนี้กลับทอประกายต่างจากวันวาน

ด้านหลังเขา ขบวนรถม้ามากมายจอดเรียงราย ภายในบรรทุกหีบสมบัตินับไม่ถ้วน ทองคำแท่ง เหรียญเงิน ผ้าไหมชั้นเลิศ เครื่องหยก เครื่องประดับ และม้วนหนังสือที่ดินจากหัวเมืองสำคัญ ของทั้งหมดนี้…ไม่ต่างอะไรจากการมอบ ครึ่งตระกูลซ่ง แด่หลานชายตัวน้อยโดยไม่มีถ้อยคำประกาศิต

ณ ระเบียงเรือนหลัก หลานเยว่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง ดวงตานิ่งสงบจับจ้องไปยังบุรุษผู้เคยเป็นศัตรูร่วมราตรีของเธอในอดีต ท่าทางของนางยังคงราบเรียบ สงบนิ่ง ราวผืนน้ำที่ไร้คลื่น

“ดูเหมือนว่าท่าน…ตัดสินใจแล้วสินะ” น้ำเสียงของนางไร้ซึ่งความตื่นเต้นหรือสั่นไหว ไม่สะทกสะท้านต่อทองคำกองมหาศาล ไม่ยินดี ไม่ปฏิเสธซ่งไห่หยางพยักหน้าเล็กน้อย สายตาเขาหลุบมองลงต่ำ ก่อนจะเอ่ยเสียงหนักแน่นอย่างเปี่ยมด้วยความจริงใจ

“มันคือสิ่งที่หลานจิ่วอวิ๋นนั้น…คู่ควรจะได้รับ สมแล้วที่เป็นสายเลือดของซ่งเจี้ยนหง ลูกชายของข้า”

คำพูดนั้นเปี่ยมด้วยการยอมรับอย่างแท้จริง ราวกับเขาได้สละความเป็นใหญ่ทั้งทางใจและทรัพย์สิน เพื่อแลกกับความสบายใจและการสืบทอดสายโลหิตในอีกรูปแบบหนึ่งไม่มีพิธีรีตรอง ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีพิธีกรรมบอกกล่าวสวรรค์มีเพียงชายชราผู้หนึ่ง...ที่เลือกจะยกความภาคภูมิใจทั้งหมดไปฝากไว้ในอนาคตของเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งยังคงไร้เดียงสาเกินกว่าจะเข้าใจว่า... ณ เวลานี้เอง เขาได้กลายเป็นศูนย์กลางของสองตระกูลใหญ่ และแสงตะวันที่แม่ของเขาเฝ้าอธิษฐานมาตลอด…ได้เริ่มส่องแสงผ่านม่านเมฆแล้ว

“ตามที่เราตกลงกัน...” นางเอ่ยเสียงเรียบเฉย “ข้าจะบอกชื่อของผู้ที่ฉุดกระชากลูกชายของท่าน ลงสู่ห้วงเหวแห่งความไร้ค่า”

ยังไม่ทันให้นางกล่าวต่อ ซ่งไห่หยางก็ยกมือขึ้นอย่างเงียบงัน สายตาเหม่อลอยไปยังสวนเบื้องนอกที่เด็กชายหลานจิ่วอวิ๋นยังคงวิ่งเล่นอย่างไร้เดียงสา

“หัวใจของข้ายังไม่พร้อมจะรับฟัง” เขากล่าวด้วยเสียงแผ่วพร่า แต่หนักแน่น “ข้ายังมีบางสิ่งสำคัญที่ต้องจัดการเสียก่อน… ขอเพียงเจ้าบอกใบ้แก่ข้าก็พอ” หลานเยว่เงียบครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวอย่างเรียบเย็น

“คนผู้นั้นเป็นผู้ที่ท่านรู้จักดี รู้ลึกถึงนิสัยใจคอ รู้แม้กระทั่งเงาเบื้องหลังของกันและกัน”

แม่ทัพซ่งไห่หยางนิ่งงัน สีหน้าไร้คลื่นอารมณ์ แต่ภายในดวงตาอันลึกล้ำของเขา สะท้อนแววบางอย่างที่เก็บงำเอาไว้ไม่มิด

“หลายวันมานี้ ข้ามาเยือนจวนของเจ้าหลายครา” เขากล่าวเสียงเรียบ “แต่ไม่เคยเห็นหน้าหลานซือเหยียนเลยแม้แต่ครั้งเดียว…” เขาหยุดชั่วขณะ ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงคล้ายหยอกล้อที่แฝงไว้ด้วยความเคร่งเครียด

“ฝากบอกเขาด้วย... ข้ารู้สึกสนุกนัก ที่เราเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันในวัยหนุ่ม” ถ้อยคำชวนคิดทิ้งไว้ในอากาศพร้อมรอยยิ้มที่คล้ายรอยแผลเก่า ขบวนรถม้าจึงเคลื่อนตัวออกไปจากจวนอีกครั้ง โดยที่เขามิได้หันกลับมามองหลานชายผู้เป็นความภาคภูมิใจของตนเลยแม้แต่น้อยมีเพียงคำฝากสั้น ๆ ที่ทิ้งไว้ให้สตรีตรงหน้าเท่านั้น

“ดูแลหลานจิ่วอวิ๋นให้ดี... เขาคือสิ่งมีค่าที่สุดที่ยังเหลืออยู่ในชีวิตข้า”

หลานเยว่เฝ้ามองแผ่นหลังที่ห่างไกลขึ้นทุกที ดวงตาไม่แสดงความรู้สึกใด หากแต่ในความเงียบงันของแววตานั้นกลับราวกับมีเสียงกระซิบของโชคชะตาที่กำลังจะหมุนวนอีกครั้ง

ทันทีที่รถม้าของท่านแม่ทัพซ่งไห่หยางเหยียบย่างกลับถึงจวน ร่างสูงใหญ่ของชายผู้หนึ่งก็ปรากฏอยู่หน้าประตูหลัก ราวกับรอคอยมานาน ใบหน้าของชายผู้นั้นแม้จะมีเค้าลางของบัณฑิตผู้ทรงปัญญา แต่ในยามนี้กลับแดงก่ำด้วยเพลิงโทสะ เนื้อตัวสั่นระริกจนแทบควบคุมไม่อยู่

เขาคือ ซ่งอี้เฉิน บุตรชายคนรองของแม่ทัพ ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกคาดหวังให้เป็นผู้สืบทอดหลักของตระกูล แต่เวลานี้ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและตื่นตระหนก

“ท่านพ่อ! ท่านไปที่ไหนมา?!” เสียงของเขาสั่นเครือ แต่ก็เต็มไปด้วยแรงกดดัน คล้ายกับน้ำเดือดที่พร้อมปะทุ

แม่ทัพซ่งหยุดเท้าเพียงครู่ แต่ไม่ได้เอ่ยคำใด ใบหน้าของเขาราบเรียบเย็นชา ไม่ต่างจากหินผาที่ไร้ความรู้สึก ก่อนจะก้าวผ่านบุตรชายไปโดยไม่แม้แต่จะปรายตา

การเพิกเฉยนั้นรุนแรงยิ่งกว่าการลงโทษใด ๆ ซ่งอี้เฉินกัดฟันกรอด รีบวิ่งไปยังขบวนรถม้าที่ยังจอดอยู่ไม่ไกล ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับคนคลุ้มคลั่ง ขณะเปิดม่านรถทีละคัน

“...ไม่มี... คันนี้ก็ไม่มี...!!” เขาระเบิดเสียงกรีดร้องอย่างควบคุมไม่ได้

“สมบัติของข้าอยู่ที่ไหน?! ท่านพ่อ! นี่มันสมบัติของข้า!” เสียงของเขาดังลั่นจนคนรับใช้รอบบริเวณถึงกับชะงักงัน หยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ แม่ทัพซ่งไห่หยางยืนนิ่ง ราวกับกำลังมองเงาสะท้อนของความอ่อนแอของบุตรชาย ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นและเฉียบขาด

“เจ้าช่างหลงตัวเองนัก อี้เฉิน...” เขาเอ่ยช้า ๆ แต่น้ำเสียงกลับเฉียบคมดังคมดาบ “ทรัพย์สินใดในตระกูลนี้ ล้วนเป็นของข้า เจ้าคิดว่าข้าเก็บมันไว้เพื่อเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

ซ่งอี้เฉินตัวสั่นเทิ้ม ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บใจ “...แต่...ข้า...ข้าเป็นลูกชายของท่าน!”

แม่ทัพซ่งไห่หยางแค่นหัวเราะในลำคอ ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง

“นั่นแหละปัญหา... เจ้าก็เป็นได้แค่ ลูกชายแต่ไม่เคยเป็นคนที่คู่ควร”

สิ้นคำ เขาหันหลังเดินจากไปอย่างสง่างาม ทิ้งให้ซ่งอี้เฉินทรุดลงกับพื้นราวกับโลกทั้งใบพังทลายลงตรงหน้า ภายในอกของเขาเดือดพล่านไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความเคียดแค้นที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงัน...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status