หน้าหลัก / รักโบราณ / ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า / ตอนที่2 ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว

แชร์

ตอนที่2 ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว

ผู้เขียน: Bunmeebooks
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-17 07:18:32

ณ ศาลาริมน้ำ  อุทยานหลวง

“ข้าได้ยินมาว่า องค์หญิงปีศาจสั่งโบยแล้วขับไล่พ่อครัวออกจากตำหนักอีกแล้ว”

เหยากุ้ยเฟยเอ่ยจบก็ยกน้ำชาขึ้นจิบ การได้สนทนาถึงเรื่องไม่ดีของศัตรูกับเหล่าพี่น้องนางสนมเปรียบเสมือนการได้ชมการแสดงรื่นเริงเพื่อความบันเทิงใจในยามว่าง

“นับวันยิ่งจะแผลงฤทธิ์มากขึ้น ข้ารู้สึกละอายใจแทนฝ่าบาทยิ่งนัก”

หวงกุ้ยเฟยแสร้งทอดถอนลมหายใจ แล้วทอดสายตามองไปยังลานบุปผานานาชนิดที่กำลังแข่งกันเบ่งบาน มวลบุปผาเหล่านี้เปรียบเสมือนเหล่าสาวงามข้างกายฮ่องเต้ ถึงแม้จะมีมากมาย แต่ก็ไม่มีนางใดได้ขึ้นครองตำแหน่งฮองเฮา เพราะฝ่ามือน้อย ๆ ขององค์หญิงปิงหลินได้ขว้างกั้นตำแหน่งนี้เอาไว้ แม้นางจะเป็นถึงหวงกุ้ยเฟยแต่ก็ยังไม่อาจก้าวเข้าสู่ตำแหน่งฮองเฮาได้

“ทั้งพ่อครัว ทั้งนางกำนัล หากขัดใจองค์หญิงปีศาจเพียงนิด ก็ล้วนถูกขับไล่ หากปล่อยไว้เช่นนี้ วังหลังต้องลุกเป็นไฟแน่ ๆ ฮ่องเต้สมควรที่จะแต่งตั้งฮองเฮาเพื่อดูแลความเรียบร้อยของวังหลัง ตามความเห็นของข้า หากไม่มีนาง ท่านพี่ก็คงจะได้ขึ้นตำแหน่งฮองเฮาไปนานแล้ว”

เหยากุ้ยเฟยพูดยุแยง หมายจะยืมมือของหวงกุ้ยเฟยกำจัดองค์หญิงปิงหลินให้พ้นไปจากเส้นทางตำแหน่งฮองเฮาของตน นางเป็นธิดาของราชครูเหยา เข้าวังได้เพียง 3 ปีก็ได้รับตำแหน่ง -กุ้ยเฟย - เพราะฮ่องเต้การทรงโปรดปรานนางมาก

หลายรัชสมัยมาแล้วที่วังหลังแห่งนี้ต่างแย่งชิงตำแหน่งฮองเฮา เหล่าสนมแย่งชิงตำแหน่งนี้อย่างดุเดือด แต่เมื่อถึงสมัยฮ่องเต้องค์ปัจจุบันศึกชิงตำแหน่งฮองเฮาของเหล่าสนมก็สิ้นสุดลง เพราะองค์หญิงปิงหลินทรงทูลขอฮ่องเต้ไม่ให้แต่งตั้งใครมาแทนมารดาของตน ดังนั้น เหล่านางสนมจึงยุติการแก่งแย่งชิงดีซึ่งกันและกัน แล้วมุ่งเป้าไปยังองค์หญิงปิงหลินแทน

“น้องหญิงระวังปากด้วย เจ้าก็รู้ว่าองค์ฮ่องเต้ทรงรักองค์หญิงราวกับจะประคองไว้ในใจกลางฝ่ามือเช่นนั้น หากได้ยินวาจาเช่นนี้หัวสวย ๆ ของเจ้าอาจจะหลุดจากบ่าได้”

หวงกุ้ยเฟยเตือนขึ้นเบา ๆ แม้ในใจจะรู้สึกสาแก่ใจนักที่มีผู้ใช้วาจาตำหนิติเตียนองค์หญิงปีศาจ

“ขออภัยเพคะท่านพี่ ข้าแค่เอ่ยเรื่องจริงเท่านั้น หากไม่มีองค์หญิง วังหลังคงจะสงบสุขขึ้น”

“น้องหญิงไม่ต้องกังวลไป ข้าได้ยินเฉินกงกงกล่าวว่าแคว้นอ้ายฉีได้ส่งราชทูตมาสู่ขอองค์หญิงให้กับองค์ชายรัชทายาท อีกไม่นานนางคงได้ไปเป็นพระชายาต่างแคว้น”

หวงกุ้ยเฟยเป็นธิดาของเสนาบดีกรมพระคลังหลวง ผู้คนมากมายต่างเกรงใจบิดานาง ดังนั้น ข่าวในราชสำนักมีหรือจะรอดพ้นจากหูตาของนางไปได้

“ฝ่าบาทจะทรงยอมรึ”

“ยอมหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับขุนนาง และข้าราชบริพารมิใช่หรือ”

หวงกุ้ยเฟยเอ่ยอย่างแฝงความหมาย จงใจบอกใบ้ให้สนมกุ้ยเฟยนำความไปบอกแก่พี่น้อง เพื่อช่วยส่งข่าวแก่ญาติของตนซึ่งล้วนแต่เป็นขุนนางว่า ให้ลงความเห็นสนับสนุนการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรี เพื่อเป็นการกำจัดเสี้ยนหนามโดยทางอ้อม

“อ่า.... จริงด้วยสิท่านพี่”

เหยากุ้ยเฟยเอ่ยเบา ๆ รู้แจ้งซึ่งความหมายนั้น

ณ ท้องพระโรง

“ฝ่าบาท ทหารของแคว้นอ้ายฉีได้รับการฝึกฝนและมีความแข็งแกร่งยิ่ง ข้าพเจ้าคิดว่าควรรับข้อเสนอการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีครั้งนี้”

เสนาบดีกรมพระคลังหลวง ก้าวออกมาถวายความคิดเห็นเป็นคนแรก เขาเป็นบิดาของหวงกุ้ยเฟยจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งหากองค์หญิงปิงหลินจะถูกขจัดออกไปให้พ้นทางตำแหน่งฮองเฮาของธิดาตน

“กระหม่อมเห็นด้วยกับท่านเสนาบดี การแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีครั้งนี้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงสงคราม ประชาชนแคว้นฉู่ของเราจะได้ไม่บาดเจ็บล้มตาย”

ราชครูเหยารีบสนับสนุนขึ้นทันที เพราะธิดาของตัวได้เป็นกุ้ยเฟยแล้ว หากไม่มีองค์หญิงปิงหลิน โอกาสที่กุ้ยเฟยจะย่างขึ้นเป็นฮองเฮาก็มีมากขึ้น

“ขอให้พระองค์ทรงโปรดพิจารณาให้ท่านหญิงปิงหลินแต่งงานกับองค์รัชทายาทแห่งแคว้นอ้ายซีด้วยเถิดพระเจ้าค่ะ”

เสียงของบรรดาเหล่าขุนนางอีกมากมายที่ถวายข้อคิดเห็นไปในทางเดียวกัน

ผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์เหนือคนทั้งปวง มีสีพระพักตร์เคร่งเครียด เพราะพระองค์ทรงตามใจลูกสาวมากเกินไป จึงทำให้นางสร้างความไม่พอใจแก่เหล่าสนมในวังหลังเป็นอันมาก ส่งผลกระทบมาถึงส่วนหน้า เหล่าขุนนางจึงบีบให้พระองค์กำจัดองค์หญิงปิงหลินออกจากวังหลวงให้ได้ ! เพราะความรักที่มีให้นางมากกว่าลูกคนอื่นแท้ ๆ จึงเป็นการทำร้ายนางทางอ้อม

หากปิงหลินต้องแต่งงานไปอยู่แคว้นอ้ายฉี ด้วยนิสัยที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็ก นางต้องได้รับความลำบากมิใช่น้อย และอยู่ไกลเกินกว่าที่พระองค์จะเอื้อมพระหัตถ์ไปปกป้องคุ้มครองเหมือนเช่นเคยได้

แต่ถ้าหากพระองค์ทรงคัดค้าน ไม่ยอมให้องค์หญิงปิงหลินแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรี ก็จะเกิดคำครหาได้ว่า เป็นฮ่องเต้ที่ทรงไร้คุณธรรมเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม และเมื่อเกิดสงครามราษฎรล้มตายเป็นจำนวนมาก องค์หญิงปิงหลินก็คงจะถูกตราหน้าว่าเป็น – องค์หญิงแห่งเภทภัย – ชักนำภัยพิบัติมาสู่แคว้นฉู่

“เฮ่อ....”

ฮ่องเต้ฉู่ถอนพระทัย ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ล้วนทำให้พระองค์เป็นทุกข์ทั้งสิ้น

“เรียนเสด็จพ่อ  กระหม่อมมีความเห็นต่าง แคว้นอ้ายฉีเป็นเพียงเล็ก ๆ แต่บังอาจมาสู่ขอองค์หญิงเพียงองค์เดียวของแคว้นเรา แสดงให้เห็นถึงการหยามเกียรติพระองค์ หากเรายอมรับการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีนี้ ก็เท่ากับว่าเรายอมอ่อนให้ แคว้นอ้ายฉีก็จะเหิมเกริมมากขึ้น แล้วยกทัพมาตีแคว้นเราในที่สุด”

องค์ชายรัชทายาทถวายความคิดเห็น เขาไม่ได้ต้องการเพียงช่วยเหลือน้องสาวแท้ ๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง หากบรรดาขุนนางทั้งหลายไม่ถูกความโลภปิดหูปิดตาเพื่อสนับสนุนให้ลูกสาวตนครองตำแหน่งฮองเฮา ก็คงจะมีความเห็นเช่นเดียวกับเขาเป็นแน่

“เรียนฝ่าบาท นั่นเป็นการคาดการณ์ขององค์รัชทายาทเพียงเท่านั้น และอาจจะเป็นความคิดเห็นของพี่ชายที่อยากจะปกป้องน้องสาวสายเลือดเดียวกัน ขอพระองค์โปรดใคร่ครวญอย่างยุติธรรม และเห็นแก่ราษฎรเป็นที่ตั้งพ่ะย่ะค่ะ”

เพราะหวงกุ้ยเฟยทรงเป็นที่โปรดปรานขององค์ฮ่องเต้เป็นอย่างมาก เสนาบดีกรมพระคลังหลวงจึงรีบทูลทักท้วงอย่างไม่เกรงกลัว

พอสิ้นคำของเสนาบดีกรมพระคลังหลวงบรรดาขุนนางทั้งหลายก็ส่งเสียงแซ่เซ็งสนับสนุนขึ้น ฮ่องเต้จึงได้แต่ถอนพระทัยออกมา จากนั้นก็ยกมือขึ้นข้างหนึ่งขึ้นเสียงเหล่านั้นจึงเงียบลงแล้วพระองค์จึงตรัสออกมาว่า

“เอาเถอะ เรื่องนี้พวกเราค่อยหารือกันอีกที”

เมื่อตรัสจบฮ่องเต้ก็ลุกขึ้นเดินกลับไปยังห้องทรงงานอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เหล่าขุนนางได้เอ่ยปากทักท้วงได้

ขณะที่ทุกท่านหมอบถวายพระพรลา เสนาบดีกรมพระคลังหลวงลอบสบตากับราชครูเหยา ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว อย่างไรเสียองค์หญิงต้องแต่งไปที่แคว้นอ้ายฉีแน่นอน !

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่ 5 นางปีศาจชัด ๆ

    “เจ้าไล่เฆี่ยนตีผู้อาวุโส แบบนี้จะให้ข้าชมเจ้าว่าเด็กดีงั้นรึ หรือจะให้เรียกเจ้าว่าองค์หญิงปีศาจ”หยางจงพูดจบก็รีบสะบัดตัวออกจากการจับกุมของทหารองครักษ์ที่กำลังอึ้งกับถ้อยคำเผ็ดร้อนของเขาเมื่อครู่“กล้าว่าข้าเป็น องค์หญิงปีศาจรึ ทหารจับตัวเขามาทำโทษเดี๋ยวนี้ !”องค์หญิงน้อยกระทืบเท้าเร่า ๆ อย่างขัดใจหยางจงวิ่งหลบหนีอย่างว่องไว แต่แล้วเขาก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนตุบ !“โอ๊ย !” ร่างของเด็กชายวิ่งชนเข้ากับผู้หนึ่งจนหงายหลังล้มลงไป เด็กหญิงที่วิ่งไล่ตามมาจึงฟาดกิ่งไม้ตีหยางจงเสียหลายที“นี่แนะ นี่แนะ เจ้าบังอาจว่าข้าเป็นปีศาจรึ”“ท่านหญิงโปรดระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ บุตรชายของกระหม่อมผิดไปแล้ว”แม่ทัพหยางคุกเข่าลงพร้อมกับดึงให้บุตรชายให้หมอบอยู่ข้าง ๆ เขามีลูกชายเพียงคนเดียว แต่กลับไปล่วงเกินเบื้องสูงเข้าให้แล้ว หยางจงซ่อนความโกรธเอาไว้ในใจ บิดาเขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ รบข้าศึกทำคุณให้แผ่นดินมาช้านานเหตุใดต้องคุกเข่าให้กับเด็กหญิงคนหนึ่งด้วย !“เขาเป็นลูกเจ้ารึ ข้าจะไปฟ้องเสด็จพ่อ ข้าจะลงโทษเขา โทษฐานที่บังอาจกล่าวหาว่าข้าเป็นองค์หญิงปีศาจ”องค์หญิงน้อยเชิดหน้าขึ้น พร้อมกับเอามือกอ

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่ 4 บังอาจนัก

    “บังอาจนัก กล้าสาปแช่งให้องค์หญิงให้มีอันเป็นไปรึ”ชิงชิงตวาดขึ้นด้วยความโมโห นางและองค์หญิงเดินมายังไม่ทันจะถึงท้องพระโรงก็ได้ยินบทสนทนาอันแสลงหูนี้เมื่อเห็นว่าคนที่กล่าวเป็นเพียงนางกำนัลข้างกายองค์เท่านั้น สนมฉิงเฟยจึงขึ้นเสียงตอบกลับว่า“ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยเช่นนั้น เจ้าคงจะหูฝาดไปเอง”“ถ้าเจ้าบอกว่านางหูฟาด ก็เท่ากับว่าข้าหูไม่ดีด้วยงั้นรึ เพราะถ้อยคำเมื่อครู่ข้าก็ได้ยิน !”องค์หญิงปิงหลินตวาดเสียงกร้าวเมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่านางสนมต่างก้มหน้าตัวสั่นงันงกไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากขึ้นแก้ตัว“ดี ในเมื่อไม่มีใครกล้ายอมรับผิด ทหาร ! ตบปากพวกนาง ห้าสิบที โทษฐานที่บังอาจว่าข้าหูไม่ดี”สิ้นคำองค์หญิงปิงหลินก็เชิดหน้าขึ้น แล้วเดินจากไปปล่อยให้ทหารเหล่านั้นทำโทษ ในเมื่อพวกนางไม่อยากยอมรับ ก็จงลิ้มรสความเจ็บปวดเสียบ้างเพี๊ยะ !“โอ๊ย องค์หญิงโปรดเมตตา กระหม่อมไม่กล้าอีกแล้ว โอ๊ย โอ๊ย”ใบหน้าสวย ๆ ของเหล่านางสนมเริ่มบวมแดง ริมฝีปากบวมเจ่ออย่างน่าสงสารเพี๊ยะ ! เพี๊ยะ ! เพี๊ยะ !เสียงตวาด เสียงฟาดมือลงกระทบเนื้อ และเสียงร้องโอดโอยดังเป็นระยะ ๆ นั้น ทำให้ หยางจง แม่ทัพใหญ่หยุดมองดู

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่ 3 เกิดเรื่องใหญ่

    ชิงชิง รีบซอยเท้าเข้ามาหาองค์หญิงปิงหลินซึ่งประทับอยู่ในศาลาริมน้ำ สวนอุทยานส่วนพระองค์ในพระตำหนัก“ท่านหญิง ท่านหญิงเพคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ”นางไม่ลืมที่จะยอบกายถวายความเคารพก่อนแล้วจึงเอ่ยคำ นางรีบวิ่งมาที่ศาลาริมน้ำทันทีที่ทราบเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีจากเฉินกงกงหัวหน้าขันทีที่รับใช้องค์ฮ่องเต้“เจ้าเรียกข้าเสียงดังทำไมกัน ดูสิผีเสื้อแตกตื่นบินหนีหมดแล้ว”ท่านหญิงปิงหลินกล่าวอย่างเกียจคร้าน มิได้ใส่ใจความตื่นตระหนกของนางกำนัลคู่ใจ เพราะไม่ว่าจะมีเรื่องใดเกิดขึ้น นางมั่นใจว่าทั้งฮ่องเต้และองค์รัชทายาทจะยื่นพระหัตถ์มาปกป้องเสมอ ดังนั้น นางจึงเอนกายอย่างสบายบนเก้าอี้ที่สั่งทำพิเศษ ทอดสายตาไปยังบึงบัว ผีเสื้อน้อยกำลังกระพือปีกดอมดมบุปผาอย่างสำราญใจ“โธ่... องค์หญิงเพคะ อย่าทรงพระทัยใจเย็นอยู่เลย คราวนี้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับพระองค์แล้วจริง ๆ เพคะ”ชิงชิงแทบจะร้องไห้ออกมา รู้สึกสงสารองค์หญิงที่ต้องแต่งงานกับองค์รัชทายาทต่างแคว้น“ว่ามาเถอะ”เมื่อทนเสียงคร่ำครวญของชิงชิงใช้ไม่ไหว องค์หญิงปิงหลินจึงขยับกายลุกขึ้นนั่ง เพื่อจักได้ฟังข่าวร้ายที่นางกล่าวถึง“แคว้นอ้ายฉีส่งทูตมาส

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่2 ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว

    ณ ศาลาริมน้ำ อุทยานหลวง“ข้าได้ยินมาว่า องค์หญิงปีศาจสั่งโบยแล้วขับไล่พ่อครัวออกจากตำหนักอีกแล้ว”เหยากุ้ยเฟยเอ่ยจบก็ยกน้ำชาขึ้นจิบ การได้สนทนาถึงเรื่องไม่ดีของศัตรูกับเหล่าพี่น้องนางสนมเปรียบเสมือนการได้ชมการแสดงรื่นเริงเพื่อความบันเทิงใจในยามว่าง“นับวันยิ่งจะแผลงฤทธิ์มากขึ้น ข้ารู้สึกละอายใจแทนฝ่าบาทยิ่งนัก”หวงกุ้ยเฟยแสร้งทอดถอนลมหายใจ แล้วทอดสายตามองไปยังลานบุปผานานาชนิดที่กำลังแข่งกันเบ่งบาน มวลบุปผาเหล่านี้เปรียบเสมือนเหล่าสาวงามข้างกายฮ่องเต้ ถึงแม้จะมีมากมาย แต่ก็ไม่มีนางใดได้ขึ้นครองตำแหน่งฮองเฮา เพราะฝ่ามือน้อย ๆ ขององค์หญิงปิงหลินได้ขว้างกั้นตำแหน่งนี้เอาไว้ แม้นางจะเป็นถึงหวงกุ้ยเฟยแต่ก็ยังไม่อาจก้าวเข้าสู่ตำแหน่งฮองเฮาได้“ทั้งพ่อครัว ทั้งนางกำนัล หากขัดใจองค์หญิงปีศาจเพียงนิด ก็ล้วนถูกขับไล่ หากปล่อยไว้เช่นนี้ วังหลังต้องลุกเป็นไฟแน่ ๆ ฮ่องเต้สมควรที่จะแต่งตั้งฮองเฮาเพื่อดูแลความเรียบร้อยของวังหลัง ตามความเห็นของข้า หากไม่มีนาง ท่านพี่ก็คงจะได้ขึ้นตำแหน่งฮองเฮาไปนานแล้ว”เหยากุ้ยเฟยพูดยุแยง หมายจะยืมมือของหวงกุ้ยเฟยกำจัดองค์หญิงปิงหลินให้พ้นไปจากเส้นทางตำแหน่งฮองเฮาของ

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่1 องค์หญิงปีศาจ

    ณ เมืองหลวง แคว้นฉู่สมัยราชวงศ์ ฉู่ ที่ 17 ฮ่องเต้ฉู่หลางทรงรักองค์หญิงฉู่ปิงหลินยิ่งนัก เพราะทรงเป็นธิดาเพียงองค์เดียวที่เกิดจากฮองเฮา และเป็นเพียงองค์เดียวแห่งแคว้นฉู่ ความรักของฮ่องเต้ที่มีต่อธิดามากมายนัก แม้กระทั่ง เมื่อฮองเฮาสิ้นชีพลงเมื่อ 10 ปีก่อน องค์หญิงฉู่ปิงหลินไม่ยอมให้ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งฮองเฮาคนใหม่ พระองค์ก็ทรงตามพระทัย ดังนั้น องค์หญิงฉู่ปิงหลินจึงครอบครองตำหนักหงส์ฟ้า ซึ่งตำหนักของฮองเฮามีอำนาจอยู่เหนือวังหลังตั้งแต่บัดนั้นมายิ่งนานวันพระชันษาขององค์หญิงฉู่ปิงหลินยิ่งมากขึ้นจนกระทั่งอายุได้ 18 ชันษา นางยิ่งมีอำนาจมากขึ้นและเป็นที่กล่าวขานไปทั่วทั้งวังหลวงว่า“องค์หญิงปีศาจ” เนื่องด้วย องค์หญิงทรงสั่งทำโทษข้ารับใช้ไม่เว้นแต่ละวัน อีกทั้ง สนมนางในก็ถูกนางสั่งสอนเสียจนไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้ตำหนักหงส์ฟ้า แม้เรื่องความร้ายกาจของนางจะลอยไปถึงหูของฮ่องเต้ แต่พระองค์ก็หลับตาเสียข้างหนึ่ง เพราะรู้สึกสงสารนางที่กำพร้ามารดาตั้งแต่ยังเล็ก จึงไม่มีใครคอยอบรมสั่งสอน ฮ่องเต้เอาใจนางเพื่อชดเชยที่พระองค์ไม่มีเวลาให้นางนอกจากนี้ องค์ชายรัชทายาทยังเป็นพี่แท้ ๆ ของนาง จึงทำให้ไม่มีผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status