Share

จับผิดที่

Author: jalix-ren
last update Last Updated: 2025-05-17 22:27:01

แดดยามบ่ายคล้อยต่ำ ลมอ่อน ๆ พัดผ่านเรือนเบา ๆ ให้ความร้อนอบอ้าวของวันทุเลาลง อินที่เพิ่งเสร็จจากงานผ่าฟืนและตักน้ำกำลังนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่กับเพื่อนทาสรุ่นราวคราวเดียวกัน เสียงหัวเราะคิกคักจากพวกเขาขับกล่อมบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายขึ้น

จู่ ๆ หญิงชราผมหงอกนางหนึ่งก็เดินตรงมาหาอิน นางแต่งกายด้วยผ้าฝ้ายเก่าซีด คล้ายทาสเช่นเดียวกัน อินเงยหน้ามองอย่างสงสัย ก่อนที่นางจะยิ้มใจดีและเอ่ยขึ้น

“พ่อหนุ่ม ดูตัวใหญ่กำยำดีแท้ ช่วยไปตักน้ำใส่อ่างไม้บนเรือนใหญ่ให้ทีเถอะ ข้าแก่จนหลังจะหักเสียแล้ว”

อินรับคำโดยไม่อิดออด เขาหยิบถังไม้ขึ้นพาดบ่า ก่อนจะก้าวเดินไปยังเรือนใหญ่ ยายช่อ ชื่อที่นางบอก เดินตามมาพลางเล่าเรื่องราวของตนเองว่าเป็นบ่าวเก่าแก่ของบ้านนี้ เลี้ยงคุณเปรมมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ฟังแล้วอินอดไม่ได้ที่จะถามถึงวัยเด็กของคุณเปรมด้วยความอยากรู้

“คุณเปรมตอนเด็กเป็นคนอย่างไรหรือยาย?”

“หึ ๆ ท่านขี้อ้อนเชียวล่ะ แต่ก็เป็นเด็กสุขุมตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เคยร้องไห้งอแงให้ใครเห็นเลย”

" แต่ก็น่าสงสารที่พ่อท่านรีบด่วนจากไปเสียก่อนเลยต้องอาศัยอยู่กับแม่ที่ใจร้ายน่ะ "

นางเล่าเสียงอ่อนโยน ปล่อยให้เรื่องราวพาอินไปถึงภาพของคุณเปรมในวัยเยาว์ที่เขาไม่เคยนึกถึงมาก่อน

เมื่อตักน้ำจนเต็มอ่างไม้ที่ตั้งอยู่หลังเรือน ซึ่งเชื่อมกับคลองสายเล็กและมีไม้กั้นเป็นกำแพงให้ความเป็นส่วนตัว อินกำลังจะเดินกลับไป แต่ยายช่อกลับเรียกไว้เสียก่อน

“ไปเก็บดอกมะลิกับดอกชมนาดมาโรยน้ำด้วยนะ คุณเปรมโปรดกลิ่นหอม ๆ พวกนี้นัก เวลาไปทำราชการกลับมาเหนื่อย ๆ ท่านมักจะแช่น้ำที่มีดอกไม้ จะได้ผ่อนคลาย”

อินพยักหน้ารับโดยไม่ถามอะไรอีก เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ทำท่าจะเดินออกจากเรือน แต่ยายช่อกลับรั้งเขาไว้อีกครั้ง พร้อมกับส่งสายตาวิงวอน

“ช่วยยายอีกอย่างเถอะพ่อหนุ่ม คืนนี้เจ้าช่วยดูแลเครื่องแต่งกายของคุณเปรมให้ด้วยเถอะ”

อินชะงัก “ทำไมต้องเป็นข้าด้วยเล่า ยายก็ทำเองสิ”

“ยายปวดหลังเหลือเกิน แค่ตักน้ำยังแทบไม่ไหว” นางทำหน้าตาสงสารจนน่าเห็นใจ อินถอนหายใจยอมจำนน

พอถึงเวลา คุณเปรมเดินเข้ามาในอ่างน้ำช้า ๆ ละอองน้ำเกาะพราวบนไหล่เปลือยเปล่าของเขา อินที่กำลังจะหยิบเสื้อผ้ามาวางให้พลันชะงัก ภาพตรงหน้าทำให้เขาหัวหมุน

เรือนกายขาวเนียนตัดกับผืนน้ำ ใบหน้าของคุณเปรมผ่อนคลาย ปล่อยให้สายน้ำโอบกอดร่างกายราวกับกำลังปลดปล่อยความเหนื่อยล้า อินหลบสายตา ไม่คิดจะมองนาน แต่ก่อนจะได้ขยับหนี เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น

“เจ้ารีบไปไหน?”

อินกลืนน้ำลายเฮือก “ข้าก็แค่… เอ่อ…”

คุณเปรมลืมตาขึ้น สายตาคมสบเข้ากับดวงตาของอินที่ยังคงจับจ้องตนเองอยู่ แม้อินจะพยายามเมินก็ตาม แววตานั้นเต็มไปด้วยความลังเลและสับสน คุณเปรมยกยิ้มมุมปาก รู้สึกพึงพอใจที่เห็นท่าทางกระสับกระส่ายของอิน

“เวลาแช่น้ำ ข้าไม่ชอบอยู่คนเดียว”

อินอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตามคำสั่งโดยไม่อิดออด นั่งลงเงียบ ๆ ห่างจากอ่างน้ำเล็กน้อย ทว่าดวงตากลับเผลอจับจ้องร่างกายของคุณเปรมอยู่ร่ำไป ใบหน้าเรียบสงบ แต่ภายในกลับร้อนราวกับมีเปลวไฟแผดเผา

คุณเปรมรับรู้ถึงสายตานั้นได้เต็มเปา จึงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วต่ำปนกลั้วหัวเราะ

“เฮ้ย..เจ้าเด็กบ้าจ้องข้าขนาดนี้ ข้าอายเป็นนะ”

อินสะดุ้งสุดตัว หัวใจเต้นโครมครามราวกับจะทะลุออกจากอก ใบหน้าร้อนฉ่า รีบเบือนหน้าหนีแต่ก็ช้าไปแล้ว เพราะคุณเปรมหันมาสบตาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่ทำให้อินยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมหายลงไปในบางสิ่งที่ไม่อาจต้านทานได้

สายลมยามบ่ายพัดเอื่อย ลูบไล้ผิวกายดั่งจะช่วยบรรเทาความร้อนจากแดด อินที่นั่งหน้าแดงก่ำอยู่ข้างอ่างไม้พยายามห้ามใจไม่ให้สายตาตัวเองเผลอไผลไปมองเรือนร่างของคุณเปรมที่แช่น้ำอยู่ตรงหน้า

"อิน...มาขัดตัวให้ข้าหน่อย"

เสียงทุ้มติดจะขี้เล่นดังขึ้น พร้อมดวงตาคมที่มองมาอย่างเจ้าเล่ห์ อินที่นั่งนิ่งราวกับถูกตรึงไว้กับพื้น เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะรีบหลุบตาลงแทบจะทันที

"ก็...ยายช่อไม่อยู่ ถ้าเจ้าไม่ทำ แล้วจะให้ข้าทำเองรึ?"

ประโยคนั้นทำให้อินที่หน้าแดงอยู่แล้ว ยิ่งร้อนวาบขึ้นอีก เขาค่อยๆ ขยับตัวไปหยิบที่ขัดตัว มือจับมันแน่นราวกับเป็นที่ยึดเหนี่ยว ก่อนจะค่อยๆ ทาบลงบนท่อนแขนขาวเนียนของเจ้านาย ขยับมือลูบไปมาเบาๆ ราวกับกลัวว่าจะแตะต้องแรงเกินไป จนคุณเปรมที่มองอยู่เผลอหลุดขำออกมาเบาๆ

"ขัดแต่แขนข้าจนถลอกหมดแล้วอิน แล้วหลังกับด้านหน้า เจ้าไม่คิดจะแตะเลยรึ?"

เสียงติดแววกลั้วหัวเราะทำให้อินสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้มลงมองน้ำในอ่างเหมือนมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในชีวิต ก็ทั้งชีวิตเขาไม่เคยต้องมาอาบน้ำให้ใครแบบนี้มาก่อน! ยิ่งเป็นคุณเปรม...ยิ่งรู้สึกว่ามันผิดแปลก

เขากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อน ก่อนจะพยายามขัดแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายให้แรงขึ้นเล็กน้อย แต่ดูเหมือนคุณเปรมจะยังไม่พอใจ

"หึ...ถ้าเจ้าทำเบาขนาดนี้ ข้าว่าไปเรียกยายช่อมาทำแทนดีกว่า"

เสียงทุ้มที่แฝงความเอาแต่ใจนั่น ทำให้อินรีบเงยหน้าขึ้นโดยไม่ทันคิด แววตาตื่นตระหนกประสานเข้ากับดวงตาคมที่ทอดมองเขาอยู่ก่อนแล้ว

ระยะห่างที่แค่คืบเดียวทำให้อินรู้สึกเหมือนลมหายใจขาดห้วง เขาสบตากับใบหน้างามที่เปียกน้ำ เส้นผมสีดำขลับตกลงมาปรกหน้าผาก ดวงตาคู่นั้นฉายแววหยอกล้อเล็กน้อย ขณะที่ริมฝีปากได้รูปโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ

เขาควรหลบตา ควรถอยห่าง แต่ทำไมถึงได้จ้องแบบนี้...

เสียงคุณเปรมดังขึ้นอีกครั้ง ดึงเขาออกจากภวังค์

"นอกจากจะชอบจ้องหน้าข้าแล้ว เจ้าคงชอบจ้องหน้าอกข้าเหมือนกันสินะ?"

อินกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มใต้ฝ่ามือของตัวเอง พอเผลอเหลือบตาลงมองก็เห็นว่าเขากำลังจับอยู่ตรงหน้าอกของอีกฝ่าย! แถมตอนตกใจยังเผลอบีบมันอีกด้วย!!

ร่างกายเขาแข็งค้างไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบดึงมือออกแทบไม่ทัน

"ข ขอโทษขอรับ! ข้าไม่ได้ตั้งใจ!"

อินรีบก้มหน้าก้มตาโค้งขอโทษแทบจะซ้ำไปซ้ำมา ใจเต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกมานอกอก

แต่แทนที่คุณเปรมจะว่าอะไร เขากลับหัวเราะเบาๆ ยกมือขึ้นลูบไล้ต้นคอของตัวเองอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะลุกขึ้นยืนในอ่างน้ำ ร่างกายเปลือยเปล่าที่มีหยดน้ำเกาะพราวทำให้อินแทบละลายอยู่ตรงนั้น

"ไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ข้าเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว...อยากพักผ่อน"

น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยที่ดังขึ้นนั้น กลับทำให้อินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ เขาพยักหน้าหงึกๆ รีบลุกขึ้นยืนก่อนจะก้าวพรวดๆ ออกไปทันที

แต่พอเดินออกไปพ้นสายตา เขาก็รีบยกมือขึ้นกุมอกตัวเอง ใบหน้าแดงก่ำจนจนแทบปิดไม่มิด นี่เขาทำบ้าอะไร มันเสี่ยงโดนหวายเฆี่ยนจนตายได้เลยนะไอเจ้าบ้าธีรัชเอ้ย ถึงจะบ่นพึมพำกับตัวเองแค่ไหน ตอนนี้เขาก็ต้องรีบไปเตรียมใส่เสื้อผ้ามห้คุณเปรมด่วนเลย

อินรีบสาวเท้ากลับไปยังห้องที่เตรียมเครื่องแต่งตัวของคุณเปรมไว้ หัวใจยังคงเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ เขาสูดลมหายใจลึก พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อนที่คุณเปรมจะออกมาจากห้องอาบน้ำ

เขายืนรออยู่ตรงมุมห้อง ทันทีที่เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังใกล้เข้ามา อินก็รีบหันไปหยิบผ้าคลุมตัวที่เตรียมไว้ก่อนจะค้อมศีรษะต่ำอย่างเคารพ คุณเปรมก้าวออกมาจากหลังม่านไอน้ำจางๆ

ร่างกายขาวเนียนเปลือยเปล่ามีหยดน้ำเกาะพราว สะท้อนกับแสงตะเกียงยามค่ำคืนจนดูราวกับเปล่งประกาย อินเม้มริมฝีปากแน่น ใจเขายิ่งเต้นแรงกว่าเดิม เขายื่นผ้าให้ด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย คุณเปรมรับไปพลางปรายตามองอินด้วยแววตาที่อ่านยาก ก่อนจะอมยิ้มบาง ๆ

"ช่วยข้าแต่งตัวหน่อยได้หรือไม่ อิน"

เสียงหวานเอ่ยขึ้นแผ่วเบา แต่กลับดังชัดเจนในโสตประสาทของอิน ร่างสูงใหญ่ถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอ ราวกับโดนคาถาต้องมนต์จนขยับตัวไม่ได้ แต่เมื่อตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายยังคงรออยู่ อินก็พยายามสะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปแล้วเอื้อมมือไปรับเสื้อผ้าชุดใหม่ขึ้นมาอย่างเงอะงะ

เขาค่อย ๆ สวมเสื้อคลุมตัวในให้คุณเปรม ปลายนิ้วเผลอสัมผัสผิวเนียนนุ่มนั้นอยู่หลายครั้งจนรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นขึ้นมาถึงใบหู อินกัดฟันข่มใจ พยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด แม้ว่าหัวใจเขาจะไม่ได้สงบลงเลยแม้แต่น้อย

เมื่อแต่งตัวเรียบร้อย คุณเปรมนั่งลงบนตั่งไม้ตัวเล็ก พลางจัดแขนเสื้อของตนให้เข้าที่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองอินด้วยรอยยิ้มบางเบา แววตาคู่งามสะท้อนแสงวาบเป็นประกายบางอย่างที่อินไม่อาจเข้าใจได้ในตอนนั้น

"สายตาที่เจ้ามองข้า...มันไม่เหมือนเดิมเลยจริง ๆ "

เสียงของคุณเปรมดังขึ้นอีกครั้ง อินชะงัก ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะรีบหลบสายตาลงต่ำทันที ความรู้สึกมากมายประดังประเดเข้ามาในอกจนแทบตั้งตัวไม่ติด เขาไม่รู้ว่าควรตอบอะไร ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีในเวลานี้

คุณเปรมยังคงจ้องเขาไม่วางตา รอยยิ้มนั้นยังประดับอยู่บนใบหน้ารูปงาม ทว่าคราวนี้มันกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้อินรู้สึกคล้ายกับว่าตนกำลังถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของอีกฝ่ายอย่างช้า ๆ

หัวใจของอินเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ..ราวกับร่างกายนี้มันพร้อมตอบสนองกับบุคคลตรงหน้าคนนี้โดยเฉพาะ

อินชะงักไปเมื่อได้ยินคำถามที่ดังขึ้นในความเงียบ

"คืนที่เจ้าจมน้ำ...เจ้าแอบขึ้นเรือนข้ามาใช่หรือไม่?"

เสียงของคุณเปรมไม่ได้แข็งกร้าว ทว่าในความเรียบนิ่งนั้นแฝงไปด้วยความคาดหวังบางอย่าง อินไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะเขาเองก็ไม่รู้จริง ๆ ว่า 'อิน' ก่อนหน้านี้เคยทำอะไรไว้บ้าง

เขาเงียบ ไม่มีคำพูดแก้ตัว ไม่มีคำโกหก และไม่มีคำอธิบายใด ๆ ทั้งสิ้น

คุณเปรมยังคงจ้องมองเขาด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะหลุบเปลือกตาลงเล็กน้อย ยิ้มบาง ๆ คล้ายทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจในเวลาเดียวกัน

"ที่พวกบ่าวพากันพูดว่าเจ้าสูญเสียความทรงจำ...คงเป็นเรื่องจริงสินะ"

อินยังคงเงียบ เขาไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี คำพูดเหล่านั้นเหมือนเป็นหมอกหนาที่แผ่คลุมหัวใจเขาโดยไม่รู้ตัว

คุณเปรมถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว

"ขนาดเรื่องของเรา...เจ้าก็ยังจำมันไม่ได้เลย..."

หัวใจของอินกระตุกวูบ เขาไม่ได้เข้าใจทุกอย่าง แต่เขารู้ดีว่าความเจ็บปวดของอีกฝ่ายนั้นชัดเจนเพียงใด แผ่นหลังบางของคุณเปรมดูราวกับกำลังแบกรับอะไรบางอย่างที่อินไม่อาจสัมผัสได้ และก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกไป คุณเปรมก็หมุนตัวหันหลังให้

"ออกไปได้แล้ว อิน ข้าจะพัก"

เสียงนั้นไม่ได้แข็งกระด้าง แต่กลับเต็มไปด้วยระยะห่าง อินเม้มริมฝีปากแน่น ก้มหน้าลง เขารู้สึกผิด รู้สึกอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อทดแทนสิ่งที่ 'อิน' ในอดีตเคยมีต่อคุณเปรม

อินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกัดฟันแน่น ดวงตากลมโตตัดสินใจแน่วแน่

"ขอโทษ..."

เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเบา ๆ ทำให้คุณเปรมชะงักฝีเท้าเล็กน้อย อินสูดลมหายใจลึกก่อนจะพูดต่อ

"ขอโทษที่ข้าจำเรื่องของเราไม่ได้...แต่ข้าสัญญา ต่อจากนี้ ข้าจะดูแลท่านให้ดี อย่างที่เคยทำ"

ห้องทั้งห้องเงียบลงในทันที อินรู้สึกได้ถึงบรรยากาศรอบตัวที่เปลี่ยนไป เขาก้มหน้ารอคอยการตอบรับหรือปฏิเสธจากคุณเปรม ใจเต้นรัวราวกับกลองรัวเร็ว

แต่แทนที่จะมีคำพูดเย็นชา หรือคำตำหนิกลับมา เสียงหัวเราะแผ่วเบากลับดังขึ้นแทน อินเงยหน้าขึ้นอย่างไม่แน่ใจ และทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงฝ่ามืออุ่นที่แตะลงบนใบหน้าของเขาเบา ๆ

คุณเปรมยิ้ม ดวงตางดงามเปล่งประกายด้วยความเอ็นดู

"เจ้าไม่ใช่อินที่ข้ารู้จักเลยจริง ๆ ด้วย..."

ก่อนที่อินจะทันตั้งตัว นิ้วเรียวก็เอื้อมมาหยิกแก้มเขาเบา ๆ

อินเบิกตากว้าง ก่อนจะขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ยเหมือนหมาตัวโตที่ถูกเจ้านายหยอกเล่น คุณเปรมหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะตบไหล่อินเบา ๆ

"กลับไปพักเถอะ อิน พรุ่งนี้ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ"

อินมองคุณเปรมอยู่อย่างนั้น แม้ในใจยังคงมีคำถามมากมาย แต่สุดท้ายเขาก็พยักหน้า รับคำสั่งด้วยท่าทีเชื่อฟังอย่างน่ารัก

ก่อนจะค้อมศีรษะต่ำอย่างเคารพ และสาวเท้าออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงเงาสะท้อนของรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของคุณเปรมที่มองตามแผ่นหลังกว้างของเด็กหนุ่มผู้ไม่รู้อะไรเลย...

แต่กลับมีบางอย่างที่เหมือนเดิมอยู่เสมอ

หัวใจที่มักจะเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเวลาอยู่ใกล้คุณหลวงท่านนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บัญชารักคุณหลวง   ข้ามาหาแล้วหนา

    หลังจากพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลครบกำหนดสองวันตามคุณหมอสั่ง ธีรัชก็ได้กลับมาที่บ้านของตนเองอีกครั้ง บ้านที่เขาควรจะเคยคุ้นแต่กลับรู้สึกแปลกตา เหมือนกลายเป็นแค่ฉากในละครที่ไม่ได้ฉายให้ใครดู เขาเดินช้า ๆ ผ่านห้องนั่งเล่น มองเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัวล้ำสมัย ตู้เย็น ทีวี และโซฟานุ่ม ๆ ที่เคยนั่งดูซีรีส์กับตัวเองในทุกคืนวันศุกร์จนลากไปเช้าของอีกวัน... ชีวิตที่สะดวกสบายและบ้านหลังใหญ่โตที่เขาสร้างมันขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ด้วยความภาคภูมิใจที่แต่ก่อนเขาต้องรู้สึกดีใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับมาเหยียบที่แห่งนี้แต่ครั้งนี้ทำไมมันกลับไม่อุ่นเหมือนอ้อมแขนของใครบางคนที่เขาคิดถึงจับใจ หรือเพียงเพราะโลกใบนี้ ไม่มีคุณเปรมอยู่ด้วย...ธีรัชนั่งลงกับพื้นเบา ๆ ตรงระเบียงหลังบ้าน ลมฤดูหนาวพัดแผ่วผ่านใบหญ้า เสียงนกกระจอกยังคงร้องเจื้อยแจ้วไม่รู้วันเวลาผ่านไปแค่ไหนสำหรับพวกมัน ต่างจากหัวใจของธีรัชที่เหมือนหยุดเดินตั้งแต่วันนั้น วันที่เขาจาก “บ้าน” หลังหนึ่งในยุคต้นรัตนโกสินทร์กลับมาเขาหลับตา สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แต่ก็ไม่ได้กลิ่นดอกมะลิที่เคยหอมกรุ่นในยามเช้า กลิ่นหอมน้ำอบไทยที่มักจะติดต

  • บัญชารักคุณหลวง   หวงกลับคืน

    ทินกรรุ่งอรุณ แสงแดดอุ่น ๆ สาดผ่านม่านผืนบาง ละไล้ลงบนใบหน้าของอินที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง เปรมยืนอยู่มุมห้องอย่างเงียบเชียบ จนเมื่อหมอที่เขาเรียกมาตรวจอาการเดินออกมาจากห้อง อินหันไปมองด้วยสายตาเป็นกังวล“เขาเป็นอย่างไรบ้างขอรับท่านแพทย์?” เสียงเปรมเต็มไปด้วยความห่วงใยแพทย์หมอถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเอ่ยคำวินิจฉัย “จากที่ฉันตรวจดูทั้งหมดแล้ว คิดว่านายคนนี้น่าจะแพ้พิษบางอย่างที่สะสมในร่างกาย และเพิ่งจะแสดงอาการออกมา โชคดีที่ตรวจพบเร็ว ฉันจัดยาไว้ให้แล้ว ให้กินเช้าเย็นนะหลวงเปรม”เปรมพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเครียด“ที่สำคัญ ช่วงนี้อย่าให้เขาใช้ร่างกายหนัก ๆ ยิ่งถ้ามีไข้ พิษจะยิ่งกระจายเร็วขึ้น ต้องระวังให้ดี”“ขอรับ… ขอบพระคุณมากขอรับท่านแพทย์ขอบคุณจริง ๆ”คุณเปรมส่งหลวงแพทย์หมอจนลับสายตา ก่อนจะรีบกลับเข้าห้อง เขาเปิดประตูเบา ๆ เหมือนกลัวเสียงจะไปรบกวนคนป่วย บนเตียง อินนอนเอนพิงหมอนอยู่ก่อนแล้ว ดวงตากลมใสสบกับเขาอย่างแนบแน่น มีแววซุกซนผสมความอ่อนล้าอยู่ในนั้น“ไม่ต้องทำหน้ากังวลขนาดนั้นก็ได้นะครับ” อินพูดเบา ๆ น้ำเสียงพยายามกลั้วหัวเราะ “ผมสบายดีม๊ากก ตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน

  • บัญชารักคุณหลวง   ลางสังหรณ์

    แสงแดดยามสายทอดผ่านม่านโปร่งบางภายในโถงของเรือนหลังใหญ่ เสียงจิบน้ำชาดังแผ่วเบาท่ามกลางความเงียบสงบที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของใบชาและมะลิอบแห้งเปรมนั่งเอนหลังบนเบาะรองตัวยาว ร่างกายที่เคยแบกรับภาระหนักอึ้งมาหลายวันคล้ายได้หย่อนคลายเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน เขาสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย ผ้าคลุมบางสีอ่อนพาดบ่า ใบหน้าเริ่มมีรอยอ่อนล้าจาง ๆ แต่แววตายังคงหนักแน่นและแน่วแน่เช่นเดิมอินนั่งอยู่พื้นข้าง ๆ มือหนึ่งหยิบหนังสือ อีกมือก็ไม่วายวางไว้บนขาของคนรัก พยักหน้าเบา ๆ รับฟังอย่างตั้งใจ แม้บทสนทนาที่เอ่ยออกมาจะชวนให้ใจสั่นไม่น้อย“อีกไม่กี่วัน…” เปรมเอ่ยเสียงเรียบ ขณะทอดสายตามองออกไปยังสวนหลังบ้าน“หลวงวิษณุจะถูกนำตัวไปประหาร พร้อมกับ พักพวกอีกสามคน”อินชะงักมือที่กำลังเปิดหน้ากระดาษ เสียงคำว่า “ประหาร” กระแทกเข้าหูราวกับสายลมหนาวเฉียบ เขาเงยหน้ามองอีกคน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ แต่ไม่ได้เอ่ยขัด เพราะเข้าใจดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องของความแค้นส่วนตัวธรรมดา หากแต่เป็น ความยุติธรรมที่คนบาปสมควรได้รับเปรมวางถ้วยชาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหันมาสบตาอินตรง ๆ“ข้ารู้ว่าเจ้าหวั่นใจ แต่การลอบสังหาร เจตนาโค่นล้มอำนาจ

  • บัญชารักคุณหลวง   น้ำเดือดที่ดับไฟกองเล็ก

    แสงแดดยามสายทอดผ่านหมู่เมฆลงมากระทบผิวน้ำในท่าเรือ เกลียวคลื่นเบาๆ ซัดกระทบข้างลำเรือสำเภาอย่างสม่ำเสมอ เสียงเชือกเสียดสีกับเสากระโดง สลับกับเสียงกลาสีเรือร้องสั่งงานก้องไปทั่วท่าเรือ เปรมยืนอยู่ที่หัวท่า ชุดเครื่องแบบขุนนางขอบทองดูขรึมขลัง เขากำลังไล่ตรวจตราสินค้าที่ถูกขนลงจากเรือ สำรวจบัญชีรายชื่อสินค้าจากแดนไกลพลางใช้แววตาเคร่งขรึมพินิจทุกรายละเอียดทว่ากระแสลมเย็นที่พัดมากลับนำพาบางสิ่งมาให้เขา กลาสีเรือชาววิลาทคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหา มอบจดหมายเก่าๆ ซองขาดปลายให้โดยไม่เอ่ยคำใด เปรมรับไว้ด้วยความสงสัย ครั้นเปิดจดหมายอ่าน ความสงบของเช้าวันนั้นก็ถูกฉีกทึ้งข้อความที่เขาได้อ่านนั้นสั้น เรียบง่าย แต่ราวกับเสียงระเบิดในอก> “รีบกลับมาดูผลงานข้าสิขอรับคุณพี่เปรม ก่อนที่มันจะตายน่ะ”เส้นเลือดที่ขมับเขาปูดพองขึ้น มือข้างหนึ่งกำกระดาษจนยับยู่ยี่ ขณะที่อีกมือแทบสั่นเทา ใจของเปรมกระโจนไปข้างหน้าเร็วกว่าความคิด เขารู้ดี ใครเป็นคนทำเรื่องนี้ได้ และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กล้าเยาะหยันเขาเช่นนี้ หลวงวิษณุ“รีบส่งกำลังตามจับหลวงวิษณุเดี๋ยวนี้!” เขาสั่งเสียงกร้าวกับทหารที่ติดตามมาด้วย" มันยังอยู่พ

  • บัญชารักคุณหลวง   ภาระที่ต้องแบกรับ

    เสียงฝีเท้าดังสม่ำเสมอบนพื้นไม้สักของตำหนักฝ่ายในเรือน เปรมเดินกลับมายังห้องพักชั้นบนอย่างเหนื่อยล้า แขนเสื้อถูกร่นขึ้นครึ่งหนึ่ง เหงื่อชื้นผุดบนหน้าผากแต่ไม่ทันได้ซับ เจ้าตัวก็ทรุดตัวลงกับเก้าอี้ไม้ฝังลายอย่างหมดแรงบนโต๊ะข้างเตียงมีจดหมายหนึ่งฉบับวางอยู่เรียบร้อย ลายมือเจ้าหนุ่มคนรักวางซองกระดาษไว้แนบด้วยใบไม้สีเขียวที่แห้งไปบ้างจากการเดินทางไกล เปรมมองมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะแกะเปิดด้วยมือที่ยังเปรอะหมึกจากเอกสารเมื่อบ่ายเขาอ่านมันช้าๆ เงียบๆ ไม่มีใครในที่นี้รู้ว่าอินเขียนอะไรในนั้น ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีน้ำตา มีเพียงรอยยิ้มบางที่คลี่ออกบนใบหน้าของชายหนุ่มผู้เก็บงำความรู้สึกจนคนรอบตัวเรียกเขาว่า ‘คุณเปรมจอมบึ้งตึง’เปรมยกใบไม้นั้นขึ้นแนบจมูก สูดกลิ่นจาง ๆ ที่หลงเหลืออยู่พลางหลับตาลงอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะเปิดสมุดบันทึกเก่าหนังวัว หย่อนใบมะลิลงบนหน้าหนึ่งที่ยังว่าง แล้วจดบางสิ่งไว้ด้วยลายมือเรียบร้อยเพียงไม่กี่คำ"ยังมีบ้านให้กลับเสมอ"เขามองออกไปยังท้องฟ้ากลางคืนผ่านหน้าต่าง บนฟ้าคืนนี้เต็มไปด้วยหมู่ดาว และพระจันทร์ทรงกลดก็สุกสว่างอย่างสงบ เป็นค่ำคืนที่สวยงามเกินกว่าจะเก็บไว้ในควา

  • บัญชารักคุณหลวง   ฝากดูแลแทนข้าที

    หลายต่อหลายวันผ่านไปไวเหมือนโกหก เพราะวันนี้กลับเป็นวันที่ต้องส่งคนรักออกไปทำงานไกลตัวเสียแล้ว รุ่งเช้าตรู่ แสงแดดแรกของวันทอดผ่านหน้าต่างเรือนไทยส่องสะท้อนกับผืนน้ำที่สงบเงียบ เสียงไก่ขันยังไม่ทันจางหาย อินก็ตื่นขึ้นมาอย่างรู้งาน เขาเตรียมน้ำท่าร้อนอุ่นอย่างพอดี กลิ่นมะลิจากเกลืออาบน้ำที่ตั้งใจผสมด้วยมือของตนเองลอยคลุ้งทั่วห้อง อินขัดผิวและเช็ดตัวให้เปรมอย่างอ่อนโยน ทุกจังหวะของนิ้วและฝ่ามือเหมือนตั้งใจจดจำสัมผัสของคนรักไว้ในใจ“คุณเปรม…” อินพูดขึ้นในขณะที่กำลังติดกระดุมเสื้อผ้าให้ “ถ้าเดินทางไปถึงที่โน่นแล้ว อย่าลืมเขียนจดหมายมาหาผมนะครับ อย่างน้อยก็...เดือนละสองฉบับก็ยังดี”เปรมยกมือขึ้นลูบศีรษะของอินเบา ๆ “เจ้าจะไม่เขียนตอบกลับข้ารึ?”“ผมกลัวว่าจะเขียนไม่ทันคุณเปรมต่างหาก” อินแสร้งเบะปาก พลางส่งยิ้มละมุน “แค่คิดถึงก็แทบจะเขียนทุกวันอยู่แล้ว”เปรมหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะกดจูบลงที่หน้าผากอีกฝ่ายแผ่วเบา เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใย และความเสียดายเมื่อถึงเวลาต้องไปที่ท่าเรือ อินช่วยขนของและจัดแจงทุกอย่างอย่างคล่องแคล่ว เขายกกระเป๋า ผูกเชือกมัดปากถุง เดินขึ้นลงเรือจนเหงื่

  • บัญชารักคุณหลวง   ขอสักทีก่อนไป

    ประตูห้องบานไม้ปิดลงเบา ๆ พร้อมเสียงกลอนที่ถูกหมุน เสียงฝีเท้าของอินหยุดชะงักอยู่หน้าประตู ก่อนจะหันกลับมา“จะให้ผมหาน้ำให้ดื—”เขาพูดได้แค่นั้นก่อนที่ร่างกำยำจะถูกคว้าหมับเข้ามาในอ้อมกอดแน่นหนา กลิ่นน้ำอบอ่อนๆจากเสื้อลินินของคุณเปรมยังไม่ทันจาง ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประกบลงมาทาบปิดคำพูดของเขาแรงแต่ไม่รุนแรง เร่าร้อนแต่มั่นคง และเต็มไปด้วยความคิดถึงที่อัดแน่นจนล้นขอบใจอินนิ่งไปชั่วครู่ สมองขาวโพลน ก่อนที่มือจะเลื่อนขึ้นจับแผ่นอกแข็งแรง แล้วหลับตาตอบรับจูบนั้นอย่างเงียบงันแฮ่ก เสียงหอบหายใจดังขึ้นเป็นระยะ ต้นขาเรียวถูกสอดเข้าไปแทรกอยู่ระหว่างขาของคนตัวใหญ่กว่า ร่างทั้งสองบดเบียดเข้าหากันจนหลังพิงผนังไม้ ลิ้นร้อนดูดดึงรสหวานขมปลายจากปากของอีกฝ่าย มือหนากอดรัดเอวคอดไว้หลวมๆ ขนาดที่พยายามจูบตอบ" อดทนมาทั้งวันแล้ว แฮ่ก.. " เสียงพูดสุดเร้าใจดังขึ้นอยู่ข้างหูของอิน " ถอดผ้าออกสิอิน " ปากอิ่มพึมพำพ้นลมร้อนใส่ ก่อนจะใช้มือขยำก้นของอินอย่างปลุกเร้าเป้าที่นูนขึ้นโผล่พ้นผ้าโจงออกมาอย่างเห็นได้ชัดกำลังถูกันไปมาทุกครั้งที่ร่างเบียดเข้าไปใกล้ชิดจนแทบไม่มีช่องให้อากาศลอดผ่าน " เร็วเข้า.. " มือเรี

  • บัญชารักคุณหลวง   บุคคลต้องสงสัย

    พระจันทร์ลอยเด่นเหนือเรือนพัก เสียงกรอบแกรบของไม้เก่าที่ขยับตามลมเบาๆ แทบจะกลบเสียงหัวใจที่เต้นดังตุบๆ ของคนสองคนไม่ได้เลยอินขยับฟูกเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด… แล้วก็อีกนิด จนได้กลิ่นน้ำอบอ่อนๆ จากเสื้อผ้าคุณเปรมที่พาดไว้มุมฟูก"วันนี้ข้าตรวจบัญชีจนตาแทบบอด" เปรมบ่นเสียงเบา ขณะเอนตัวลงข้างอิน แขนข้างหนึ่งยันศีรษะ ส่วนอีกข้างปล่อยวางสบายๆ"ผมก็ขายของจนปากแห้ง คิดว่าจะไม่ได้ขายอะไรเลยด้วยซ้ำ… แต่แม่บุหลันมาช่วยไว้ทันครับ""นางมักใจดีเช่นนั้น…""แล้วคุณเปรมล่ะครับ วันนี้นอกจากจ้องตัวเลข ยังคิดถึงผมบ้างไหม?" อินแกล้งถามเสียงเบา ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับใต้แสงตะเกียงเปรมเลิกคิ้วมอง ก่อนเอื้อมมือมาดีดหน้าผากอีกคนเบาๆ "ข้าคิดถึงเจ้าทุกคราวที่หยุดหายใจ… แบบนี้พอหรือยัง?"อินหัวเราะคิก แต่ใบหน้ากลับแดงก่ำ "จะหวานไปไหนครับท่าน!"เปรมหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะขยับมือไปแตะแก้มอินแผ่วเบา นิ้วหัวแม่มือลูบวนเบาๆ ราวกับสำรวจทุกอณู"คราวหน้า อย่าเอาเงินทั้งหมดมาให้ข้าอีก เข้าใจหรือไม่""แต่ผมอยากให้คุณ…""เจ้าจะไถ่ตัวเองไม่ใช่หรือ ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าถูกจองจำตลอดชีวิตดอกหนา""แล้วถ้า… ผมยินดีจะเป็นทาสคุณตลอดช

  • บัญชารักคุณหลวง   กลับมาเฉิดฉาย

    แสงแดดอ่อนยามเช้าโรยตัวลงบนระเบียงเรือน เสียงไก่ขันเบา ๆ เคล้าเสียงนกกระจิบที่บินวนอยู่ตามชายคา เรือนเปรมในยามเช้าช่างสงบงามราวภาพวาด แต่บรรยากาศบนเรือนกลับไม่เงียบเหงาเหมือนวันก่อน ๆ เพราะชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งจิบชาร้อน พลางสนทนากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย"เจ้าจะกลับไปอยู่เรือนท้ายอย่างเดิมจริง ๆ หรือ อิน?" คุณเปรมวางถ้วยชาลงบนถาดไม้ไผ่ เคลื่อนตัวนั่งหลังตรง สีหน้าไม่เห็นด้วยนิด ๆ "ข้าไม่เข้าใจ…เหตุใดเจ้าจึงต้องทำเยี่ยงนั้น ทั้งที่บัดนี้เจ้าอยู่ตรงนี้ก็สุขสบายดี"อินนั่งก้มหน้า มือเกาะแก้วชาราวกับมันเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายของชีวิต“ก็เพราะว่าข้ามันเป็นทาสน่ะสิครับ” เสียงเขาเบาจนแทบเป็นกระซิบ “มันก็ไม่ยุติธรรมนักที่ผมได้อยู่เรือนหน้า กินดีอยู่ดี ขณะที่คนอื่นลำบากกันอยู่นั่น”คุณเปรมถอนใจยาว พยายามเก็บอารมณ์ไม่ให้ดูหงุดหงิด เขาไม่อยากบังคับอิน แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้คนตรงหน้าเลือกทางที่ทำร้ายตัวเองโดยไม่จำเป็น" เจ้ารู้ใช่มั้ยว่าข้ารักเจ้าน่ะอิน " เปรมกุมขมับปลายตามองคนตรงหน้า" รู้ครับ..ผมเองก็รักคุณเปรม " เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอ นี่มันไม่ใช่ความรู้สึกผิดที่ใช้ชีวิตเกินฐานะ แต่ถ้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status