Chapter 33 อยากได้มาเป็นคนของใจ

"คุณซอนย่า! คุณจะทำบ้าอะไรเนี่ย! " อาร์มันโด้พูดพร้อมกับจับไปที่ไหล่ของซอนย่าทั้งสองข้าง เพื่อดันเธอออกไปให้พ้นจากตัวเขา แต่มือของเธอกลับลูบลงมาที่ใบหน้าของชายหนุ่ม                                          

"คุณก็รู้ฉันต้องการอะไร คุณไม่อยากทำให้ธุรกิจของเราหล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเหรอคะ" คราวนี้ซอนย่าพูดพร้อมกับโน้มใบหน้าลงต่ำ แต่ชายหนุ่มรีบจัดการผลักซอนย่าล้มลงไปนอนราบกับเตียงแทน 

"คุณไม่ควรทำอะไรแบบนี้ ผมบอกกับคุณหลายครั้งแล้ว ธุรกิจกับหัวใจผมไม่เคยเอามันเข้ามาปะปนกัน และที่สำคัญผมมีภรรยาแล้ว และเธอก็แสนดีเกินกว่าที่ผมจะทรยศได้"                                                           

เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็เดินจากห้องไป คำว่าภรรยา สำหรับซอนย่ามันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ เมื่อหล่อนต้องการที่จะได้อาร์มันโด้มาเป็นเจ้าของ และนั่นยิ่งทำให้หล่อนต้องการอยากได้ชายหนุ่มมาครอบครอง เพราะในโลกใบนี้คงมีผู้ชายไม่กี่คน ที่จะปฏิเสธผู้หญิงสวยเซ็กซี่อย่างเธอที่เสนอตัวให้ชายตรงหน้าได้ แต่ผู้ชายอย่างอาร์มันโด้กลับปฏิเสธเจตจำนงของเธอ เหตุผลเพียงแค่มีภรรยาอยู่แล้ว ซึ่งจะมีผู้ชายสักกี่คนที่จะรักและซื่อสัตย์อย่างชายหนุ่มที่กำลังเดินจากไป เธอจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้ามาเป็นคนของใจให้ได้ นั่นคือสิ่งที่ซอนย่าตั้งปฏิญาณเอาไว้ เพื่อจะได้อาร์มันโด้มาครอง แต่ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง                                                            

อาร์มันโด้เดินออกมาเจอเจสันที่ล็อบบี้ของโรงแรม และต้องแปลกใจ กับสายตาที่ลูกน้องคนสนิทมองมาเหมือนกำลังจับผิดเขาอยู่                               

"นายมองฉันแบบนี้หมายความว่ายังไงเจสัน" ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความสงสัย แต่เจสันไม่ตอบอะไร เขาได้ยื่นโทรศัพท์ส่งให้กับเจ้านายหนุ่มแทน                                                                                                    

"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน ถ้านารีเห็นภาพพวกนี้บรรลัยแน่ นายจัดการหาต้นตอ ถ้าไม่อยากโดนฟ้องจนหมดตัวให้เขาลบภาพเหล่านั้นทิ้งซะ!" ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความฉุนเฉียว เพราะภายในใจของเขากำลังนึกถึงภรรยาที่นอนรออยู่ที่บ้าน หากเธอเห็นภาพเหล่านี้จะคิดยังไง และคงเสียใจไม่น้อย แม้ว่าทุกอย่างจะไม่เป็นความจริง                                                          

"ผมว่านายน้อยเตรียมตัวง้อคุณนารีได้เลยครับ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ท่องโลกโซเชียล แต่รวีคงจะรายงาน หรือพูดจาให้คุณนารีได้เจ็บช้ำน้ำใจ และป่านนี้คงใส่ไฟไปแล้ว อย่าลืมเตรียมน้ำไปดับด้วยนะครับนายน้อย" คำพูดของเจสัน ยิ่งทำให้ชายหนุ่มร้อนรนใจ ก่อนจะเดินตรงไปที่รถอย่างเร่งรีบ โดยเจสันนั้นแทบจะวิ่งตามเลยทีเดียว                                

รถยนต์คันหรูขับมาด้วยความเร็วสูง โดยมีเจสันนั่งมาข้างๆ แน่นอน เจ้านายหนุ่มของเขาเป็นคนใจร้อนและต้องการกลับบ้านให้ไว เมื่อเจสันขับไม่ได้ดั่งใจ เขาจึงจัดการเปลี่ยนไปนั่งขับเอง                                   

"เบาได้ก็เบานะครับนายน้อย ผมว่าถ้าขับเร็วขนาดนี้ เจอด่านตรวจมีหวังได้กลับบ้านเช้าแน่" คำพูดของเจสันทำให้ชายหนุ่มลดความเร็วลงทันที เขาได้แต่หวังว่านารีจะฟังคำอธิบายจากปากของเขา มากกว่าภาพเหล่านั้น ซึ่งมันเป็นหลักฐานที่แก้ตัวแทบจะฟังไม่ขึ้น                               

"ภาพนั้นต้องเป็นฝีมือของซอนย่าแน่ ฉันปฏิเสธเธอไปเป็นร้อยรอบ ทำไมผู้หญิงเข้าใจยากจัง คนที่ไม่ใช่ต่อให้สวยเซ็กซี่แค่ไหนฉันก็ไม่เอาหรอกนะ ที่สำคัญนารีทำให้ฉันเปลี่ยนความคิด ที่จะอยากได้ผู้หญิงสวยแต่เปลือกนอกเข้ามาเป็นคู่ชีวิต" ชายหนุ่มยังคงพูดไปเรื่อยเปื่อย เพื่อให้คลายความกังวลใจลงบ้าง เมื่อเขาได้ระบายออกมา                                    

"เรื่องคลิปและภาพพวกนั้นเดี๋ยวผมจัดการให้เองครับ นายน้อยไปคิดหาวิธีเคลียร์ประเด็นนี้กับคุณนารีดีกว่า ผมว่าน่าจะเป็นปัญหาระดับชาติเลยนะครับ" เจสันพูดพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อเขานั้นกำลังคิดว่าวิธีที่เจ้านายจะจัดการกับภรรยานั้น คงไม่ยากเกินความสามารถ ถ้าจะปราบพยศนารี                                 

"ฉันมีวิธีจัดการแล้วกัน นายไม่ต้องมาคิดเป็นห่วงเรื่องนี้แทนฉันหรอกเจสัน แค่ต้องอธิบายให้เธอเข้าใจก่อน จากนั้นก็เป็นขั้นตอนง้อตามระเบียบในฉบับของฉัน" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉายแววตาเจ้าเล่ห์ออกมา เมื่อนึกถึงใบหน้าของภรรยา                                                                                           

"ครับนายน้อย ผมหวังว่าคุณนารีคงมีเหตุผลพอ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็ คืนนี้นายน้อยอาจจะได้นอนนอกห้อง แล้วอย่ามารบกวนให้ผมช่วยงัดประตูนะ ผมคงไม่ว่าง เพราะง่วงมากเลยตอนนี้"

พูดจบเจสันก็แกล้งทำเป็นหาวออกมา ในขณะที่เจ้านายหนุ่มขับรถเข้ามาในบ้าน ซึ่งวันนี้เจสันนั่งมาข้างๆ อย่างสบายใจ เมื่อมีอาร์มันโด้ขับรถให้นั่งนานๆ ครั้งแบบนี้ก็ดีทีเดียว                                                      

เมื่อลงมาจากรถชายหนุ่มมองขึ้นไปบนห้องนอน ปรากฏว่ามืดสนิท ส่วนห้องของรวีนั้นกลับเปิดไฟสว่างจ้า จนเจสันถึงกับส่ายหัว ภรรยากับพี่สาวของเจ้านายเขาช่างแตกต่างกันจริงๆ อย่าบอกนะรวีรอคอยการกลับมาของน้องเขย เวลาล่วงเลยผ่านพ้นเที่ยงคืนไปแล้ว เธอจะพูดยังไงให้ตัวเองดูดี เพื่อมาเป็นข้ออ้างที่ดึกดื่นป่านนี้ยังไม่ยอมหลับยอมนอน ในเมื่อเธอนั้นมาอยู่ที่นี่ในฐานะคนอาศัย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเจ้าของบ้าน หรือจะมีก็แค่พี่สาวของภรรยา ที่มองยังไงเธอก็เป็นได้แค่ผู้อาศัยอยู่ดี

เสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน รวีไม่รอช้ารีบดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที และหล่อนก็ไม่ลืมที่จะคว้าโทรศัพท์มือถือออกไปด้วย จุดมุ่งหมายของรวีคือชายหนุ่มที่เป็นน้องเขย ซึ่งเธอกำลังหน้ามืดตามัวหึงหวงชายหนุ่ม ที่ไปคลอเคลียกับผู้หญิงอื่นในคลิปนั่น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว รวีไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ

ชายหนุ่มทั้งสองที่มีร่างสูงใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้านายกับลูกน้อง และพวกเขายังมีอายุใกล้เคียงกันเดินเข้ามาในบ้าน ท่าทางของนับรบนั้นเร่งรีบเสียจนเจสันแอบอมยิ้มออกมา แน่นอนว่าไวน์ที่นักรบดื่มไปนั้นมันแทบจะไม่มีผลอะไร ต่อร่างกายของเขาเลยแม้แต่น้อย                                                  

"คุณอาร์มันโด้!" เสียงรวีแผดเสียงดังลั่นบ้าน ในขณะที่เธอนั้นก้าวเท้าลงบันไดมา ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจอย่างแรง กับท่าทางของเธอพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ ที่หล่อนนั้นเปิดโชว์หน้าจอยื่นมาให้อาร์มันโด้ดู ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง                                                                                                            

"มีอะไรหรือเปล่าครับคุณรวี นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมต้องการพักผ่อน" ชายหนุ่มแค่เหลือบไปมองที่จอมือถือเท่านั้น ก่อนจะรีบพูดขึ้นด้วยท่าทางใบหน้าที่ดูเรียบเฉย และไม่ได้สนใจในประเด็น ที่รวีกำลังต้องการคำตอบจากเขา เมื่อคนที่ชายหนุ่มต้องการอธิบายคือนารี ไม่ใช่รวีที่มีตำแหน่งเป็นเพียงแค่พี่สาวของภรรยาของเขาเท่านั้น                                                                          

"ฉันแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงในคลิป และในภาพนั้นเป็นใคร ทำไมถึงได้ดูเหมือนกับว่าคุณกำลังนอกใจนารี ที่ฉันต้องการคำตอบ เพราะไม่อยากให้น้องสาว เสียโง่ ซึ่งนารีนั้นคงไม่กล้าไปสู้รบตบมือกับใคร โดยเฉพาะเหล่าบรรดาผู้หญิงของคุณ" คำพูดที่สวยหรูกับประโยคที่พยายามเรียบเรียงให้น่าฟัง แต่จิตใจของเธอนั้นสุดแสนจะยอดแย่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างนารีกับสามี ซึ่งรวีไม่มีหน้าที่ต้องมาคอยจับผิดหรือต่อว่าชายหนุ่มแบบนี้                                                                                                 

"ขอโทษนะครับนายน้อย เห็นขับรถมาอย่างกับพายุ แล้วคิดจะหยุดคุยกับคนอื่นเพื่ออะไร ในเมื่อนายหญิงยังไม่เห็นโวยวาย เธอก็แค่พี่สาวของภรรยา" เจสันพูดพร้อมกับลอยหน้าลอยตา ก่อนจะมองไปที่รวี ซึ่งเวลานี้หล่อนจิกตามาที่เจสันราวกับว่าเขานั้นเป็นศัตรูกับเธอมาช้านาน      

"ฉันไม่ใช่คนอื่น แกนั่นแหละเจสันที่เป็นคนอื่น ฉันเป็นถึงพี่สาวของนารี ไม่ได้มีตำแหน่งเป็นเพียงแค่ขี้ข้าเหมือนใครบางคน อย่าแม้แต่จะคิดมาพูดแทรกเวลาที่เจ้านายเขาคุยกัน สะกดเป็นไหมคำว่ามารยาท" รวีหันมาพูดกับเจสันด้วยความรู้สึกเกลียดชัง จนไม่ทันได้สังเกตว่าอาร์มันโด้นั้นได้เดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นบนเรียบร้อยแล้ว