Home / โรแมนติก / พลีกาย / ตอนที่ 2 คนเดียวที่แสนดี

Share

ตอนที่ 2 คนเดียวที่แสนดี

last update Last Updated: 2025-06-27 16:30:33

มันตาแบกคำว่า ‘บุญคุณ’ เอาไว้เต็มสองบ่า และคำว่าบุญคุณท่วมหัวที่คุณย่าอ้างนี่เอง ที่ปิดปากเด็กสาวเอาไว้

ส่วนหนึ่งที่เขาพูดอะไรไม่ได้มากก็เพราะมันตา

ถ้าเขาออกหน้าเกินไป คนที่จะเดือดร้อนก็คือมันตาอีกเหมือนกัน

“ไม่ต้องห่วงหรอกว่าย่าจะทำอย่างที่ตุลย์คิด เพราะยังไงเด็กก็ต้องกินนมแม่”

ใช่ เด็กต้องกินนมแม่

แต่หลังจากหย่านมแล้วล่ะ

“ความจริงไม่ถึงกับต้องทำสัญญาก็ได้นะครับ เพราะตาหวานพร้อมจะทำตามคำสั่งของคุณย่าอยู่แล้ว”

“ย่าไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากตุลย์นะ”

หม่อมหลวงบุษปวันทำเสียงตำหนิหลานชายคนเดียว เพ่งมองหน้าหลานชายด้วยสายตาสำรวจ ก่อนจะเอ่ยต่อ

“วันนี้เด็กนั่นอาจจะทำตามความต้องการของเรา แต่ใครจะรับประกันได้ว่าวันหนึ่งเมื่อมีเด็ก เขาอาจจะใช้เด็กเป็นข้อต่อรองกับเราเพื่อขยับสถานะ และฐานะของตัวเองก็ได้”

เขาอยากจะแย้งว่าความต้องการของคุณย่าคนเดียว ไม่ใช่ ‘เรา’ แต่ก็ทราบดีว่าป่วยการจะพูดในเวลานี้

ตุลย์หยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจรดปลายปากกาลงบนกระดาษโดยไม่ปริปากพูดอะไรอีก

ตั้งแต่วันไปทำ IUI ที่โรงพยาบาล เขาก็ยังไม่ได้เจอมันตา ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน

แม้จะอยู่คนละหลัง เพราะมันตาอยู่บ้านคนงาน ที่ทำงานในบ้าน ซึ่งแยกออกไปเป็นสัดส่วนชัดเจน แต่ก็อยู่ในรั้วเดียวกัน

แต่วันนี้เขาจำได้ว่าเป็นวันที่หมอนัดไปตรวจติดตามผล

“วันนี้ตาหวานต้องไปโรงพยาบาลหรือเปล่าครับ”

ช้อนในมือของหม่อมหลวงบุษปวันที่กำลังจะยื่นออกไปตักอาหารชะงัก ก่อนจะตอบคำถามของหลานชาย หลังปรายตาไปมองเล็กน้อย

“ใช่”

โอกาสที่เธอจะได้เหลนมีเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในตอนนี้ เพราะรอบเดือนของมันตาไม่มาตามเวลา แต่เธอไม่ได้พูดเรื่องนี้กับหลานชาย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น

ตุลย์ไม่อยากมีลูก แต่เป็นเธอเองที่อยากได้ทายาทสืบสกุลให้กับวสุจิตตา

“เดี๋ยวจะให้กลไปส่ง เพราะสิบโมงย่ามีนัดสำคัญกับคุณหญิงวดี”

“หมอนัดกี่โมงครับ”

“สิบโมง”

ตุลย์พยักหน้า แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

รับประทานอาหารเช้าเสร็จ ชายหนุ่มก็ขับรถออกจากบ้านไปมหาวิทยาลัยตามปกติ

แต่ที่ไม่ปกติก็คือ ตุลย์ขับรถกลับมาบ้านอีกครั้งในเวลาที่ผู้เป็นย่าออกไปจากบ้านแล้ว

“อ้าว! คุณตุลย์ ลืมของ หรืออะไรครับ ทำไมกลับมาอีก”

เสียงของคนขับรถทำให้เจ้าของร่างเพรียวระหงที่กำลังเดินตัดสนามหญ้ามาตามทางเดินที่เชื่อมบ้านหลังใหญ่ของเจ้านายกับบ้านคนรับใช้ หยุดการก้าวขาโดยไม่รู้ตัว

“เปล่า ไม่ได้ลืมอะไร...ผมจะมารับตาหวานไปโรงพยาบาล”

“มารับตาหวานเหรอครับ”

 กลทำหน้าแปลกใจ

“ใช่...พี่กลไม่ต้องไป เดี๋ยวผมพาตาหวานไปเอง”

“อ๋อ...ครับ”

กลพยักหน้ารับ แต่ก็ยังทำหน้างงไม่หาย

“ไม่ต้องบอกคุณย่านะ...บอกป้านกกับคนอื่นๆ ด้วย”

“ได้ครับ”

แม้ยังงงกับการกระทำของผู้เป็นนาย แต่ก็รับปากแต่โดยดี

“งั้นเดี๋ยวผมไปตามตาหวานให้นะครับ”

“ไม่ต้องหรอก...มาโน่นแล้ว”

เขาเห็นเธอตั้งแต่ขับรถเข้ามาในบ้านแล้ว เห็นด้วยว่าเธอหยุดก้าวขา ตอนเห็นเขาลงมาจากรถ

ไม่ต้องสงสัยว่ามันตาได้ยินที่เขาพูดกับกลหรือเปล่า

เขายืนรออยู่ที่เดิม ข้างรถของตัวเอง สักพักมันตาก็เดินมาถึง

“ไปกันเลยนะ”

“คุณตุลย์ไม่มีสอนเหรอคะ”

“ไม่ต้องห่วงงานพี่หรอก...ขึ้นรถเถอะ”

พอเขาตอบสั้น ตัดบท มันตาก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ

หญิงสาวดึงประตูเปิด เข้าไปนั่งในรถตามเจ้าของพาหนะคันใหญ่อย่างเสงี่ยมเจียมตัว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้นั่งรถคันนี้ แต่ก็ไม่ได้นั่งบ่อยจนถือว่าเป็นปกติธรรมดา

ตอนเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยนั่นแหละ

บางครั้งอยู่ทำงานกลุ่มกับเพื่อนจนค่ำมืด เขาก็จะให้เธออาศัยรถกลับมาด้วย เพราะถ้าเป็นงานกลุ่มของวิชาที่เขาสอน เขาจะทราบดีว่าช่วงไหนเธอมีรายงานที่จะต้องทำส่ง และต้องอยู่ค้นคว้าข้อมูลที่ห้องสมุด

ทั้งหมดนี้คือความเมตตาของเขา

ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านาย เป็นอาจารย์ และเป็นผู้มีพระคุณของเธอ

ในวันที่แม่ทิ้งเธอไว้กับคนแปลกหน้าในบ้านหลังใหญ่หลังจากเข้ามาทำงานที่บ้านวสุจิตตาได้เพียงสามเดือน ตอนนั้นเธอเพิ่งสามขวบ

ถ้าป้านกไม่ขอร้องคุณท่าน ให้เธออาศัยอยู่ในบ้านต่อ วันนี้เธออาจจะเร่ร่อนอยู่ข้างถนน หรืออาจไม่มีชีวิตรอดอยู่จนถึงวันนี้

วันนั้น ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ร้องขอการศึกษาให้กับเธอ เธอก็คงไม่ได้เรียน หรืออาจจะเรียนจบแค่ภาคบังคับ เพราะย่าของเขาไม่ต้องการให้เธอออกจากบ้านไปโรงเรียนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

‘ถ้าจะเรียนต่อ ก็ต้องไม่ให้งานในบ้านเสีย แล้วก็หาเงินเรียนเอง’

‘งั้นผมจ้างตาหวานเองครับ เขาทำงานบ้านก็ควรจะได้เงินเดือนเหมือนคนอื่นๆ เขาจะได้มีเงินไว้เรียนด้วย’

เธอยังจดจำคำพูดของเขาถึงวันนี้

ตอนนั้นเธอเรียนจบมัธยมต้น แล้วย่าของเขาจะไม่ให้เธอเรียนต่อ

ตอนเธอเรียนอยู่ชั้นประถม ป้านกก็บอกกับเธอว่า เงินที่เธอได้ไปโรงเรียนทุกวัน รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ เกี่ยวกับที่โรงเรียน ก็เป็นเงินที่เขาแอบเอาให้ป้านกไว้ และกำชับว่าไม่ให้ป้านกบอกย่าของเขา

ย่าของเขาจึงเข้าใจว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ เกี่ยวกับการเรียนของเธอจนถึงมัธยมต้น อยู่ในความรับผิดชอบของป้านก

พอเธอจะขึ้นมัธยมปลาย แล้วย่าของเขาจะไม่ให้เธอเรียนต่อ เขาถึงออกหน้าเต็มตัว เพราะตอนนั้นเขาทำงานแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลีกาย   ตอนที่ 5 อนาคตที่ไม่ยากเกินคาดเดา

    เธอเตรียมใจไปถึงวันที่จะต้องสูญเสีย และพัดพรากจากลูกกับผู้ชายที่เธอแอบรักด้วยรู้ดีว่าไม่มีวันได้สมหวังเพราะภาพมันชัด และแนวโน้มก็ไปทางนั้นเธอไม่รู้หรอกว่าถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ เธอจะทำใจได้ไหม หรือจะอยู่ต่อไปอย่างไรแต่ที่แน่ๆ สัญญาที่เพิ่งเซ็นไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ระบุชัดเจนว่าเธอจะต้องหย่าขาดกับเขาหลังคลอดลูก และเซ็นมอบอำนาจการปกครองลูกให้กับคนเป็นพ่อมันก็ควรจะเป็นแบบนั้นแหละการจดทะเบียนสมรสมีขึ้นเพื่อให้การอุ้มท้องของเธอในครั้งนี้ไม่ขัดต่อกฎหมายชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะมาเกิดในอีกแปดเก้าเดือนข้างหน้าก็เป็นความประสงค์ของย่าเขาถ้ายกเงื่อนไขในสัญญาออก แล้วถามถึงความสามารถในการเลี้ยงดูลูก นอกจากคำว่า ‘แม่’ แล้ว เธอไม่มีอะไรสู้เขาได้เลย“ไปหาอะไรกินกันก่อน เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้าน”มันตาไม่ได้พูดอะไรอีก และยังคงเป็นผู้โดยสารที่ดี นั่งเงียบตลอดทาง จนกระทั่งเขาเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับร้านอาหารญี่ปุ่น“หิวหรือยัง พี่แวะทำธุระที่ธนาคารสักครู่ได้ไหม”“ได้ค่ะ”มันตาตอบรับ ว่าง่ายเป็นปกติเหมือนที่ผ่านมาแต่ที่ไม่ปกติคือ คนทำหน้าที่ขับรถเธอยังไม่ทันได้ขยับเตรียมลงจาก

  • พลีกาย   ตอนที่ 4 ในที่สุด

    “ถามค่ะ”“เมื่อไหร่”เขาถามต่อ พยายามชวนคนพูดน้อยคุย เพื่อไม่ให้ภายในรถเงียบจนเกินไป“เมื่อวานค่ะ”“แล้วตาหวานบอกคุณย่าว่ายังไง”“...ไม่มาค่ะ”คำตอบสั้นๆ เหมือนจะทำให้ลมหายใจเขาสะดุดไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกในเวลาต่อมา“ปกติรอบเดือนมาวันที่เท่าไหร่”มันตามองหน้าคนถาม ก่อนจะอ้อมแอ้มบอกกับเขาเสียงเบาคุยกันเรื่องส่วนตัวขนาดนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกประดักประเดิดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะถึงจะคุ้นเคยเห็นหน้า รู้จักกันมานานถึงยี่สิบปี ตั้งแต่วันที่เธอเข้ามาอาศัยอยู่ใต้ชายคาบ้านวสุจิตตานั่นแหละ แต่เธอก็ไม่เคยพูดคุยเล่นหัวกับเขา หรือคุยกันในเรื่องที่เป็นส่วนตัวขนาดนี้“คิดว่าท้องไหม” เขายิงตรงเลยคราวนี้“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”“แต่พี่ว่าท้อง”“...!”มันตาเผลอทำตาเบิกโตมองหน้าเขาตุลย์อมยิ้มบางๆ ที่มุมปากถ้ามีคนมาพูดใส่หน้าเขาว่า ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยมีมารยา เขาก็คงเถียงว่าไม่จริงเสมอไป เพราะอย่างน้อยก็มีมันตานี่แหละคนหนึ่งที่ไร้เล่ห์เหลี่ยม ไร้จริตมารยา“ถ้าท้อง พี่จะดีใจมาก...ไม่ใช่ว่าอยากได้ลูกนะ แต่ไม่อยากให้ตาหวานเจ็บตัว”มันตากะพริบตาถี่ๆ รู้สึกร้อนผ่าวทั่วขอบตา“พี่เองก็หดหู่กับต

  • พลีกาย   ตอนที่ 3 เจียมตัว

    ในความเมตตาของผู้ชายคนนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องเงินที่เขาหยิบยื่น แต่เขายังปฏิบัติกับเธอเหมือนเธอเป็นน้อง และแทนตัวเองว่า ‘พี่’ ทุกคำเวลาพูดกับเธอ ไม่ว่าเธอจะเรียกเขาว่า ‘คุณตุลย์’ ตอนอยู่ที่บ้าน หรือเรียก ‘อาจารย์’ ตอนอยู่มหาวิทยาลัยเขาไม่เคยมองว่าเธอเป็นคนรับใช้ในบ้าน หรือเด็กกำพร้าที่แม่พามาปล่อยทิ้งไว้ในบ้านหลังใหญ่ให้เป็นภาระกับเจ้าของบ้านตั้งแต่ประถมจนเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอไม่รู้ว่าเขาหมดเงินไปกับเธอเท่าไหร่ เพราะนอกเหนือจากเงินเดือนคนรับใช้ทำงานในบ้าน เขายังหยิบยื่นเงินให้เธอเรื่อยๆ และไม่ยอมให้เธอปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่าเธอจะต้องใช้เงินในการเรียน และทำงานส่งอาจารย์เยอะค่าเทอมเขาก็เป็นคนจัดการให้เธอ ถึงจะเป็นธุรกิจของที่บ้านเขา และเขาเป็นผู้บริหาร แต่แน่นอนว่าค่าเทอมมหาวิทยาลัยเอกชนขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของประเทศไม่ถูกเลยตอนจบมัธยมปลาย เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้ด้วย แต่ย่าของเขาไม่ให้เธอไปเรียน ด้วยเหตุผลว่ามหาวิทยาลัยอยู่ไกลบ้าน ถ้าเธอไปเรียน นั่นหมายความว่าเธอจะต้องออกจากบ้านไปอยู่หอพักเขาเปลี่ยนใจคุณย่าของเขาไม่สำเร็จในเรื่องนี้ เธอก็เลยได้เรียนที่มหาวิทยาลัยที่บ้านเขาเป็นเจ้

  • พลีกาย   ตอนที่ 2 คนเดียวที่แสนดี

    มันตาแบกคำว่า ‘บุญคุณ’ เอาไว้เต็มสองบ่า และคำว่าบุญคุณท่วมหัวที่คุณย่าอ้างนี่เอง ที่ปิดปากเด็กสาวเอาไว้ส่วนหนึ่งที่เขาพูดอะไรไม่ได้มากก็เพราะมันตาถ้าเขาออกหน้าเกินไป คนที่จะเดือดร้อนก็คือมันตาอีกเหมือนกัน“ไม่ต้องห่วงหรอกว่าย่าจะทำอย่างที่ตุลย์คิด เพราะยังไงเด็กก็ต้องกินนมแม่”ใช่ เด็กต้องกินนมแม่แต่หลังจากหย่านมแล้วล่ะ“ความจริงไม่ถึงกับต้องทำสัญญาก็ได้นะครับ เพราะตาหวานพร้อมจะทำตามคำสั่งของคุณย่าอยู่แล้ว”“ย่าไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากตุลย์นะ”หม่อมหลวงบุษปวันทำเสียงตำหนิหลานชายคนเดียว เพ่งมองหน้าหลานชายด้วยสายตาสำรวจ ก่อนจะเอ่ยต่อ“วันนี้เด็กนั่นอาจจะทำตามความต้องการของเรา แต่ใครจะรับประกันได้ว่าวันหนึ่งเมื่อมีเด็ก เขาอาจจะใช้เด็กเป็นข้อต่อรองกับเราเพื่อขยับสถานะ และฐานะของตัวเองก็ได้”เขาอยากจะแย้งว่าความต้องการของคุณย่าคนเดียว ไม่ใช่ ‘เรา’ แต่ก็ทราบดีว่าป่วยการจะพูดในเวลานี้ตุลย์หยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจรดปลายปากกาลงบนกระดาษโดยไม่ปริปากพูดอะไรอีกตั้งแต่วันไปทำ IUI ที่โรงพยาบาล เขาก็ยังไม่ได้เจอมันตา ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกันแม้จะอยู่คนละหลัง เพราะมันตาอยู่บ้านคนงาน ท

  • พลีกาย   ตอนที่ 1 บุญคุณ

    หลังจากเข้าพบหมอ รับคำปรึกษา ผ่านกระบวนการต่างๆ มาตามการจัดแจงของคุณย่าในที่สุดก็มีวันนี้การทำ IUI เพื่อให้ได้มาซึ่งทายาทไม่ใช่ตามความต้องการของเขา แต่เป็นความประสงค์ของคุณย่านี่ดูจะเป็นเรื่องเดียวที่เขาได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง หลังจากศึกษาวิธีการ และเห็นว่ามันตาน่าจะเจ็บตัวน้อยที่สุดแค่นี้เองที่เขาพอจะช่วยเธอได้แต่ในขณะที่เขากังวลสารพัด คนจะต้องอุ้มท้องกลับไม่มีความเห็นใดๆ มันตาเงียบเสียจนบางทีเขานึกอยากรู้ว่าเด็กสาวรู้ร้อนรู้หนาวกับใดๆ ในโลกนี้หรือเปล่า “ไม่มีอะไรแล้ว กลับไปก่อนเลย บ่ายมีสอนนี่ ไม่ต้องรอหรอก”หม่อมหลวงบุษปวันบอกกับหลานชายหลังได้รับแจ้งว่ามันตาจะต้องนอนพักราวครึ่งชั่วโมงหลังหมอฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูก“แล้วจะกลับกันยังไงครับ”ตุลย์อดเป็นห่วงไม่ได้“เดี๋ยวกลมารับ ย่าโทรไปบอกแล้ว”ตุลย์พยักหน้าเบาๆ ปรายตาไปมองคนนอนอยู่บนเตียงเล็กน้อยมันตากำลังนอนอยู่บนนั้น ไม่รู้ว่านอนหลับหรือแค่หลับตา เพราะตั้งแต่หมอฉีดน้ำเชื้อเขาเข้าโพรงมดลูก ก็ยังไม่มีใครได้ยินเสียงพูดของเด็กสาวเลยชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆบรรยากาศรอบตัวเขาในตอนนี้ไม่สู้ดีนักหรอก ให้ความรู้สึกหดหู่มากกว่าจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status