Share

บทที่ 62

Penulis: Karawek House
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-07 22:36:50

บรรยากาศในลานประชันฝีมือยังคงคึกคักหลังจากการแสดงของยอดหญิงงามทั้งห้าสิ้นสุดลง เมื่อถึงเวลาลงคะแนน ป้ายไม้กลับถูกมอบให้แก่สตรีที่ไม่ได้อยู่ในสายตาผู้ใดมาก่อนอย่างคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง เฉินเซียงหรง กองป้ายสูงเกือบสามเท่าตัวคนทำให้นางกลายเป็นผู้ชนะไปอย่างขาดลอย ได้ครอบครองตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีในปีนี้

เซียงหรงยิ้มน้อยๆ อย่างสงบเสงี่ยมเช่นเดิม นางเองก็รู้สึกดีใจไม่น้อย แต่ไม่ได้เสียกิริยาเพียงเพราะเสียงปรบมือกึกก้องแต่อย่างใด

ทว่าเพียงครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงเย้ยหยันจากใครบางคนในกลุ่มฝูงชนที่มาชมการแข่งขัน

“โฉมงามยอดเมธีในปีนี้ เป็นเพียงสตรีที่แปดเปื้อนราคีคาว! น่าอับอายยิ่งนัก!” 

เสียงคำกล่าวหยามเหยียดนั้นไม่ดังมาก แต่ชัดเจนพอที่จะทำให้ทั้งลานแข่งขันเงียบลง

สีหน้าของเฉินกั๋วกงทั้งเจ็บแค้นทั้งโศกสลด เช่นเดียวกับอนุหาน หานชิงเยว่ ที่ลุกขึ้นมาในทันใด

“ผู้ใดกล่าวหาบุตรีข้า! คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง!” นางตะเบงเสียง ยิ่งเอ่ยก็ยิ่งดัง “องครักษ์จวนสกุลเฉินอยู่ที่ใด รีบตามหาตัวคนพูดเดี๋ยวนี้! ข้าจะทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่ได้พูดพล่อยๆ ออกมาอีก!”

ท่าทางเฉียบขาดและผดุงความยุติธรรมเรียกสายตาชื่นชมจากบรรดาสตรีบรรดาศักดิ์ได้มากมาย ภายในใจอนุหานกระหยิ่มยิ้มย่องไม่หยุด

ชื่นชมข้าสิ ฮึ! พวกโง่เง่า พวกเจ้าไม่มีทางหาคนพูดเจอหรอก ก็เขาเป็นคนของข้าเองนี่!

คนอื่นๆ เริ่มจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเสียงดัง บ้างก็พยักหน้าเห็นด้วย บ้างกลับหันไปซุบซิบเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับคุณหนูสาม เฉินเซียงหรง ทว่ามีผู้คนที่เฉลียวฉลาดไม่น้อยเริ่มคิดตามนัยแห่งคำพูดของอนุหาน

เพียงห้ามไม่ให้พูด...ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่ความจริง

ช่างเป็นสตรีที่จิตใจน่ากลัวยิ่งนัก

ระหว่างนั้น บรรดาราชบัณฑิตผู้ทรงภูมิ ซึ่งเป็นคณะกรรมการในงานครั้งนี้เริ่มกระซิบหารือกันอย่างเคร่งเครียด ก่อนที่หัวหน้าราชบัณฑิตที่มากด้วยความน่าเกรงขามจะลุกขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  “ราชบัณฑิตทุกท่านได้ลงความเห็นกันแล้ว ว่าความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์นั้น อยู่ที่ใจใช่ร่างกาย! โฉมงามยอดเมธีนั้นคือตำแหน่งที่มอบให้สตรีงดงามทรงภูมิอันดับหนึ่งของเทียนจินเรา มิได้วัดกันที่เรื่องอื่นเรื่องไหน หากเป็นสตรีที่เฉลียวฉลาด ไม่ว่าร่างกายจะเป็นอย่างไร ก็ย่อมนับได้ว่าเป็นปราชญ์เมธี!” 

คำกล่าวนั้นแม้จะทรงพลัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียงซุบซิบลดลงเลยแม้แต่น้อย ทว่าเฉินเซียงหรงที่ยืนสงบนิ่งอยู่กลางลานแข่งขันกลับนิ่งงัน

ข้าไม่หาเรื่อง เรื่องก็มาหาข้าจริงๆ เลย!

หากนางไม่แสดงตน ข่าวคาวนี้ย่อมเป็นเกราะบังไม่ให้ตระกูลใดต้องการได้ตัวนาง นับแต่นี้นางจะได้เป็นอิสระดังใจหมาย...

แต่อิสระจะมีประโยชน์ใดหากต้องแลกมาด้วยความสุข เกียรติยศ และศักดิ์ศรีของคนอื่นนอกเหนือจากนาง

คนที่กล้าทำลายชื่อเสียงของบิดานาง ว่าร้ายการอบรมสั่งสอนของมารดานาง เหยียบย่ำใบหน้าของจวนตระกูลเฉินเช่นนี้ นางยังจะปล่อยให้ลอยนวล ไม่ตอบโต้ เพียงเพราะเห็นแก่อิสระของตนเองได้หรือ

นางทำไม่ได้

เฉินเซียงหรงเงยหน้าขึ้น ก่อนส่งเสียงอย่างองอาจ

“หม่อมฉันทูลขอต่อไท่โฮ่ว หวงโฮ่ว และขอกล่าวต่อเหล่าราชบัณฑิตทุกท่าน ณ ที่นี้” นางเอ่ยเสียงดังชัดเจน ดวงตาหงส์คู่งามแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่มีใครลบล้างได้ “แม้ตำแหน่งโฉมงามยอดเมธี จะไม่เกี่ยวพันถึงเรื่องความบริสุทธิ์หรือแปดเปื้อนราคีคาว แต่เด็กสาวเช่นหม่อมฉัน และจวนเฉินกั๋วกง ไม่อาจแบกรับคำปรามาสที่ไร้หลักฐานเช่นนี้ได้” 

ผู้คนในลานเริ่มซุบซิบกันเสียงดังขึ้น แต่เซียงหรงยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคง 

“เพื่อพิสูจน์ความจริง หม่อมฉันทูลขอให้หวงโฮ่วโปรดประทานคำสั่งให้มีการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของหม่อมฉัน โดยหมอหญิงและนางกำนัลผู้เชี่ยวชาญ ณ ที่นี่ และเวลานี้ ขอทรงมีเมตตาด้วยเพคะ”

ความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวของเซียงหรง ทำให้หวงโฮ่วทรงมองนางด้วยความชื่นชมอย่างปิดไม่มิด พระนางเหลียวสบพระเนตรแม่สามี เมื่อเห็นสวีไท่โฮ่วพยักหน้าน้อยๆ ก็กล่าวด้วยเสียงดังฟังชัด “ได้! ถ่ายทอดคำสั่ง จัดเตรียมพื้นที่ศาลากลางน้ำให้กลายเป็นห้องตรวจ นำหมอหลวงหญิงและหมอหญิงผู้เชี่ยวชาญ นางกำนัลอาวุโสมาทำการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของคุณหนูสาม หากนางยังคงไร้ราคีจริง ข้าจะคืนความบริสุทธิ์ให้นางเอง”

ใช้เวลาไม่นาน ศาลากลางน้ำก็ถูกผ้าหนาสีเข้มพันรอบ กลายเป็นห้องตรวจสอบ ผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา เพราะได้เห็นการเตรียมการตั้งแต่ต้นจนจบ เรียกว่าไม่อาจเล่นตุกติกได้อย่างแน่แท้

เซียงหรงเดินเข้าสู่ห้องที่ถูกจัดเตรียมไว้โดยสง่างาม หัวใจนางแม้จะสั่นไหวด้วยความอับอาย แต่ก็ยังมั่นคงในความจริง นางรู้ดีว่าตัวเองบริสุทธิ์ ทว่าความกล้าที่จะยืนหยัดเพื่อความจริงย่อมสำคัญยิ่งกว่า 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 63

    เวลาผ่านไปได้ไม่นาน หลังจากตรวจดูจนแน่ใจ หมอหญิงที่มีความเชี่ยวชาญสูงสุดก้าวออกมาพร้อมกับสีหน้าจริงจัง“ทูลหวงโฮ่ว เรียนราชบัณฑิตและสักขีพยานทุกท่าน ข้าในนามหมอหลวงหญิงผู้ตรวจสอบ ขอประกาศว่าผลการตรวจสอบพรหมจรรย์ คุณหนูสามแห่งจวนเฉินกั๋วกงยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง หาได้แปดเปื้อนราคีคาวดังที่ถูกกล่าวหาไม่!”ทันทีที่คำกล่าวนั้นถูกประกาศ เสียงซุบซิบในลานพลันเงียบสงบลง เหล่าผู้คนที่เคยวิพากษ์วิจารณ์กลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บางคนเริ่มกล่าวขอโทษอย่างกระอักกระอ่วนไท่โฮ่วตรัสด้วยสุรเสียงเรียบเรื่อย ทว่าทรงอำนาจ “เรื่องนี้ควรเป็นบทเรียนแก่ทุกคน อย่าให้ข่าวลือที่ไร้หลักฐานกลายเป็นอาวุธทำลายเกียรติของสตรีอีกต่อไป”สวีหวงโฮ่วค้อมศีรษะคารวะแม่สามีอย่างนบนอบ “เสด็จแม่กล่าวได้ถูกต้องแล้วเพคะ” พระนางผินหน้ากลับมาถอดปิ่นหงส์ทองคำอันหนึ่งออกส่งให้นางกำนัลคนสนิท ประกาศด้วยเสียงอันดัง “คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงเปรียบดังทองแท้ไม่กลัวไฟ งดงามกล้าหาญ นับเป็นแบบอย่างที่ดีของสตรีเยาว์วัย มอบปิ่นหงส์ทองคำประดับมุกหยกเป็นรา

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 62

    บรรยากาศในลานประชันฝีมือยังคงคึกคักหลังจากการแสดงของยอดหญิงงามทั้งห้าสิ้นสุดลง เมื่อถึงเวลาลงคะแนน ป้ายไม้กลับถูกมอบให้แก่สตรีที่ไม่ได้อยู่ในสายตาผู้ใดมาก่อนอย่างคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง เฉินเซียงหรง กองป้ายสูงเกือบสามเท่าตัวคนทำให้นางกลายเป็นผู้ชนะไปอย่างขาดลอย ได้ครอบครองตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีในปีนี้เซียงหรงยิ้มน้อยๆ อย่างสงบเสงี่ยมเช่นเดิม นางเองก็รู้สึกดีใจไม่น้อย แต่ไม่ได้เสียกิริยาเพียงเพราะเสียงปรบมือกึกก้องแต่อย่างใดทว่าเพียงครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงเย้ยหยันจากใครบางคนในกลุ่มฝูงชนที่มาชมการแข่งขัน“โฉมงามยอดเมธีในปีนี้ เป็นเพียงสตรีที่แปดเปื้อนราคีคาว! น่าอับอายยิ่งนัก!”เสียงคำกล่าวหยามเหยียดนั้นไม่ดังมาก แต่ชัดเจนพอที่จะทำให้ทั้งลานแข่งขันเงียบลงสีหน้าของเฉินกั๋วกงทั้งเจ็บแค้นทั้งโศกสลด เช่นเดียวกับอนุหาน หานชิงเยว่ ที่ลุกขึ้นมาในทันใด“ผู้ใดกล่าวหาบุตรีข้า! คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง!” นางตะเบงเสียง ยิ่งเอ่ยก็ยิ่งดัง “องครักษ์จวนสกุลเฉินอยู่ที่ใด รีบตามหาตัวคนพูดเดี๋ยวนี้! ข้าจะทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่ได้

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 61

    เฉินเซียงหรงยืนอยู่กลางลานแข่งขันด้วยชุดผ้าไหมสีฟ้าปักลายดอกเหมยละเอียดอ่อน ดวงหน้าของนางสงบนิ่ง ทว่าดวงตาคู่งามเปล่งประกายแห่งสมาธิและความมั่นใจเบื้องหน้านางยามนี้มีม้วนกระดาษเซวียนจื่อที่ถูกจับขึงตั้งฉากกับพื้น แขวนไว้ด้วยเส้นเชือกเกลียวทองอันบางเบา ซ้ายมือมีโต๊ะที่ตั้งฉินเอาไว้สายลมพัดดอกเหมยพร่างพรู เซียงหรงยกพู่กันขึ้นด้วยมือขวา พลันปลายนิ้วของมือซ้ายก็เริ่มดีดสายพิณ เพลงที่บรรเลงเป็นทำนองที่รื่นหู ทว่ามีความลึกล้ำคล้ายสะท้อนธรรมชาติ ดั่งสายลมที่พัดผ่านเหล่าดอกเหมยบนภูเขาหิมะปลายพู่กันตวัดไปตามเสียงพิณราวกับเป็นส่วนหนึ่งของท่วงทำนอง นางก้าวขยับไปมาอย่างพลิ้วไหว อาภรณ์ปลิวตามลมเบา ๆ มือหนึ่งดีดฉินคลอคล้ายบอกเล่าเรื่องราวของสายลมและสายฝน อีกมือลากปลายพู่กันสร้างเส้นสายของภาพบนกระดาษ ขณะดีดพิณ นางหมุนตัว ตวัดพู่กันเป็นเส้นโค้งที่งดงามราวกวางน้อยกำลังโลดแล่นในหุบเขาภาพบนกระดาษเซวียนจื่อเริ่มชัดเจนขึ้น เป็นภาพของดอกเหมยยืนต้นท่ามกลางหิมะโปรยปรายภาพนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังเปี่ยมด้วยความหมายลึกซึ้ง เหมือนบอกเล่าถึงจิตใจของ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 60

    เสียงกระซิบเหล่านั้นลอยไปถึงหูนางกำนัลของหวงโฮ่วที่อยู่ไม่ไกลจากฝูงชนนางกำนัลเห็นสายตาที่หวงโฮ่วมองไปยังคุณหนูสาม เฉินเซียงหรง ซึ่งยามนี้ยืนรับคำชื่นชมจากทุกทิศทาง ก็รีบปราดเข้าไปกระซิบกระซาบรายงานทันทีฉับพลัน ตาหงส์ที่สงบไว้สง่าของสวีหวงโฮ่วฉายแววชื่นชมประสมยินดีสตรีเก่งกาจและมีนิสัยสงบเสงี่ยม จิตใจมั่นคง ไม่อวดอ้างตน ไม่หวั่นไหวต่อลมปากผู้คน และที่สำคัญ...แม้จะสูญเสียมารดาตั้งแต่ยังเยาว์ บิดาไม่ได้ทะนุถนอมปกป้อง แต่ยังคงมีความอดทน สามารถเติบโตขึ้นมาได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากในจวนเฉินกั๋วกง ซ้ำยังมีความสามารถเลิศล้ำเช่นนี้ ย่อมเป็นยอดหญิงที่หาได้ยาก โบราณว่า ‘ใกล้ชาดเปื้อนแดง ใกล้หมึกเปื้อนดำ’ หากองค์ชายได้อภิเษกกับสตรีเช่นนี้ นอกจากจะทำให้มีเรือนหลังที่มั่นคงแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมจิตใจให้มีความมุ่งมั่นและมั่นคงมากขึ้น ช่วยให้องค์ชายสามารถรับภาระในอนาคตและความท้าทายในราชวงศ์ได้อย่างมั่นใจความคิดเหล่านี้เริ่มซึมซาบเข้าสู่จิตใจของพระนางถูกแล้ว...บุตรสาวของเฉินกั๋วกงที่เกิด

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 59

    ในการแข่งขันรอบที่ห้า อุปกรณ์เขียนอักษรของผู้เข้าแข่งขันล้วนถูกยกออกไปทั้งหมด คงเหลือเพียงโต๊ะและม้านั่งสูงเพื่อให้โฉมสะคราญทั้งหลายได้บรรเลงเจิงเท่านั้นในรอบนี้นักพนันหลายคนต่างลงพนันเอาไว้ว่าคุณหนูใหญ่จวนเฉินกั๋วกง เฉินชิวเยว่ ที่เป็นโฉมงามผู้เป็นยอดฝีมือในการบรรเลงเจิงจะต้องคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันมาได้อย่างแน่นอน แม้แต่ตัวเฉินชิวเยว่เองก็เชื่อเช่นนั้นโดยสนิทใจกระทั่งถึงคราวที่เฉินเซียงหรงต้องแสดงฝีมือ เพียงเสียงดนตรีจากเจิงของนางดังขึ้นท่อนเดียวเท่านั้น บรรยากาศในสวนชิงหลิงอันกว้างใหญ่ราวกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ กระทั่งผู้ที่ไม่ได้รู้ถึงสำเนียงดนตรีลึกซึ้งสักเท่าใด ยังถูกท่วงทำนองอันมีเอกลักษณ์ดึงดูดให้ต้องนิ่งฟัง“นี่มัน...” อาจารย์สอนเจิงผมขาวโพลน ใบหน้ามีริ้วรอยแห่งกาลเวลาผู้หนึ่งเบิกตาโพลง ริมฝีปากอ้าค้างด้วยความตื่นตะลึง “ลำนำเฉียนฉิน!”“ท่านอย่าได้พร่ำเพ้อถึงเพียงนี้เลย” คนอื่นๆ ที่ได้ยินหัวเราะเบาๆ “ลำนำเฉียนฉินหรือ ผู้ใดจะกล้าบรรเลงเพลงนี้ ทั้งความยากของการดีด ทั้งการตีความที่ต้องลุ่มลึก ทั้งยังต้องถ่

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 58

    “ท่านเป็นใครกัน” ฟูเหรินที่เริ่มเรื่องถามอย่างหวั่นๆนั่นสิ! ท่านเป็นใคร! เซียงหรงเองก็อยากรู้เช่นกันราวกับตอบคำถามของนาง ผู้อ้างตัวเป็นคู่หมั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด รอยยิ้มบนริมฝีปากเหี้ยมเกรียมขับให้ใบหน้าคมเข้มดูโหดเหี้ยมยิ่งกว่าใบหน้าโจรภูเขาที่ถูกปราบเมื่อเดือนก่อนด้วยซ้ำ“จวิ้นหวังจ๋างจื่อเพียงหนึ่งเดียวของเทียนจิน หลี่จือหลิน!”พี่ชายจวิ้นหวังจ๋างจื่อ! เซียงหรงเกือบจะตกใจจนทำพู่กันหลุดมือไปแล้ว ใช่เขาจริงๆ หรือ! ไม่...ไม่ถูก ต่อให้ไม่ใช่เขา แต่เล่นประกาศเสียขนาดนี้ หากท่านลุงกับท่านป้าสะใภ้คิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา แล้วนางจะเอาเหตุผลใดไปบ่ายเบี่ยงกันเล่า! เซียงหรงอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา ได้แต่เขียนอักษรต่อไปด้วยใจหดหู่บรรดาผู้คนที่พูดนินทาต่างอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกหลี่จือหลินไม่ได้รอให้ใครกล่าวอะไรอีก เขาโบกมือสั่งให้องครักษ์ที่แต่งกายเรียบง่ายดุจเดียวกันอยู่จัดการเรื่องการพนันขันต่อแทนตน แล้วเดินไปยังที่นั่งข้างมารดา ท่าทางสนิทส

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status